Archive

Archive for May, 2012

เอไอเอส เปิดให้บริการ “AIS Wifi @ อัมพวา” แล้ววันนี้ ตอบไลฟ์สไตล์นักท่องเที่ยวยุคสังคมออนไลน์

May 11th, 2012 No comments


เอไอเอสร่วมกับเทศบาลตำบลอัมพวา ขยายพื้นที่ให้บริการ “” เอาใจคนรักการท่องเที่ยวตลาดน้ำ และหลงเสน่ห์ชุมชนย้อนยุค ให้ท่องเน็ต ไร้สายความเร็วสูงได้อย่างสะดวกสบาย ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ทำให้ไม่พลาดทุกการติดต่อสื่อสาร จะเช็คอิน อัพเดตสเตตัส หรือแชร์ภาพบนโซเชียลเน็ตเวิร์กก็คล่องตัว ซึ่งบริการนี้จะครอบคลุมทั้งตลาดน้ำอัมพวาและพื้นที่ใกล้เคียง ได้แก่ โครงการอัมพวา ชัยพัฒนานุรักษ์, พิพิธภัณฑ์พระพุทธเลิศหล้านภาลัย, เลิศหล้าพฤกษาพรรณ, ศาลาริมน้ำ, สำนักเทศบาล, อาคารอเนกประสงค์เทศบาลอัมพวา และโรงเรียนอัมพวา

โดยลูกค้าเอไอเอสที่มีแพ็คเกจ AIS Wifi อยู่แล้ว สามารถเข้าใช้บริการ AIS Wifi @ อัมพวาได้ทันที โดยไม่ต้องสมัครหรือเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม พิเศษ! สำหรับลูกค้าเอไอเอสที่สนใจ ทดลองใช้ AIS Wifi ที่อัมพวาได้ฟรี 1 ชม. /วัน เพียงกด *199*701# แล้วโทรออก ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 30 มิ.ย.2555 สอบถามเพิ่มเติมโทร AIS Call Center 1175

View :1329

เอชพีเผยโฉมเทคโนโลยีเครื่องพิมพ์ Color Inkjet Web Press ล้ำสมัย พร้อมจัดแสดงชุดผลิตภัณฑ์ HP Indigo ใหม่ในงาน drupa 2012

May 10th, 2012 No comments

การจัดแสดงผลิตภัณฑ์ระดับโลกโดดเด่นด้วยแอพพลิเคชั่นดิจิตอลที่ใช้งานได้จริง เพื่อช่วยให้ผู้ให้บริการด้านงานพิมพ์เสริมสร้างการเติบโตของธุรกิจ

เอชพี ผู้นำอันดับหนึ่งในอุตสาหกรรมการพิมพ์ ยกระดับสมรรถนะด้านความเร็วของการพิมพ์แบบอิงค์เจ็ท ประกาศเปิดตัวเครื่องพิมพ์สีเต็มรูปแบบ HP Inkjet Web Press ความกว้างหนึ่งเมตร ที่สามารถพิมพ์ความยาวได้ถึง 244 เมตร (800 ฟุต) ต่อนาที และโดดเด่นด้วยหมึกพิมพ์ หัวพิมพ์ และกระดาษเคลือบเงาที่รองรับความเร็วในการพิมพ์ที่มากขึ้นโดยไม่กระทบกับคุณภาพของชิ้นงานพิมพ์

สมรรถนะการพิมพ์สีความเร็วสูงดังกล่าวจะมีพร้อมให้ใช้งานได้ในระบบการพิมพ์บางระบบ หรือเป็นออฟชั่นการอัพเกรดในปีหน้า

นอกจากนี้ เอชพีได้ประกาศว่าชุดผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งรวมถึงเครื่องพิมพ์ HP Indigo 10 Digital Press ซึ่งเป็นเครื่องพิมพ์เอชพีที่ป้อนกระดาษขนาด B2 เครื่องแรกในตลาด และเป็นหนึ่งในหกเครื่องพิมพ์ HP Indigo ที่เปิดตัวในเดือนมีนาคมนั้น ได้รับการตอบรับจากตลาดเป็นอย่างดี และเอชพีได้ลงนามในข้อตกลงกับเหล่า ผู้ให้บริการด้านการพิมพ์ (PSPs) มากกว่า 70 รายในส่วนของเครื่องพิมพ์ HP Indigo 5600 และ 7600 Digital Presses

พร้อมกันนี้ เอชพีเปิดเผยว่าได้รับการสั่งซื้อโซลูชั่นการพิมพ์ความเร็วสูงแบบ ขาวดำ และแบบสีครบวงจรครั้งแรก รวมทั้งเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท เว็บที่มีความเร็วมากขึ้นชุดใหม่แล้ว โดยขณะนี้เอชพีได้ติดตั้งเครื่องพิมพ์ HP Inkjet Web Presses ไปแล้วกว่า 70 เครื่องทั่วโลก ซึ่งสามารถผลิตงานพิมพ์รวมกันได้มากกว่า11,000 ล้านแผ่น

“เรากำลังขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงจากระบบการพิมพ์แบบอะนาล็อกไปสู่ระบบดิจิตอลที่ไม่สามารถหยุดยั้งได้ โดยที่ชุดผลิตภัณฑ์โซลูชั่นแบบดิจิตอลอันครบครันของเราเข้ามาพลิกโฉมใหม่ให้กับผลิตภัณฑ์และบริการที่เหล่าผู้ให้บริการ ด้านการพิมพ์สามารถนำเสนอแก่ลูกค้าได้” มร.คริสโตเฟอร์ มอร์แกน รองประธานอาวุโส กลุ่มธุรกิจกราฟฟิก โซลูชั่นส์ เอชพี กล่าว

ในงาน drupa 2012 ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าครั้งสำคัญที่สุดในแวดวงกราฟฟิกอาร์ต เอชพีสาธิตชุดผลิตภัณฑ์ระบบดิจิตอลใหม่ล่าสุดที่ใช้แอพพลิเคชั่นที่มีอยู่ปัจจุบัน รวมไปถึงป้ายฉลาก และบรรจุภัณฑ์ การพิมพ์โฆษณา การโฆษณาทางไปรษณีย์ ป้ายและดิสเพลย์ โดยเอชพียังได้เปิดตัว
· พันธมิตรในการพัฒนาโซลูชั่นสำหรับกล่องแบบพับได้ร่วมกับ Stora Enso เพื่อผสานรวม in-line coating unit เข้ากับเครื่องพิมพ์ HP Indigo 30000 Digital Press ใหม่
· การขยายโปรแกมสิทธิการใช้ให้ครอบคลุมชุดผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี และแอพพลิเคชั่นต่างๆ มากขึ้น
· การรับรองมาตรฐาน Forest Stewardship Council (FSC) สำหรับชุดผลิตภัณฑ์ภาพและกระดาษ technical paper
· อุปกรณ์เสริมใหม่สำหรับเครื่องพิมพ์ HP Designjet L26500 และ L28500 ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้อนวัสดุที่เป็นสิ่งทอ
· โซลูชั่น HP Hiflex Web-To-Print ผ่านระบบคลาวด์เวอร์ชั่นใหม่ สำหรับ การนำไปประยุกต์ใช้งานด้านป้ายโฆษณาและดิสเพลย์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ ชุดผลิตภัณฑ์ HP SmartStream Workflow Solutions

โซนจัดแสดงของเอชพีในงาน drupa อยู่ในบริเวณฮอลล์ 4 ของอาคารจัดแสดงสินค้าเมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ ซึ่งนับเป็นการจัดแสดงการพิมพ์ระบบดิจิตอลขนาดใหญ่ที่สุดของงาน บนเนื้อที่ 4,952 ตารางเมตร (53,300 ตารางฟุต) สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นผู้นำของเอชพีในด้านโซลูชั่นการพิมพ์สีอเนกประสงค์ คุณภาพสูง และเปี่ยมประสิทธิภาพ บูธของเอชพีมีความโดดเด่นด้วยระบบการพิมพ์ ดิจิตอลใหม่จำนวน 10 ระบบที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เพื่อช่วยให้เหล่าผู้ให้บริการด้านการพิมพ์เพิ่มการเติบโตให้กับธุรกิจ ด้วยการทำงานที่วางใจได้ มีประสิทธิภาพสูง พร้อมด้วยขอบเขตสี (color gamut) ที่ครบครันสำหรับ การพิมพ์ภาพที่มีความคมชัดแม่นยำ

คว้าโอกาสในด้านการนำไปประยุกต์ใช้ใหม่ๆ ด้วยการพิมพ์อิงค์เจ็ทสี ทีมีความเร็วยิ่งขึ้น
เทคโนโลยี Inkjet Web Press ที่เปิดตัวครั้งแรกในงาน drupa 2008 ได้ช่วยให้ลูกค้าได้รับความก้าวล้ำสำคัญในด้านการพิมพ์โฆษณา การผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ ตลอดจนการนำไปประยุกต์ใช้อื่นๆ โดยเครื่องพิมพ์ HP T410, T360 และ T230 Color Inkjet Web Presses นี้มีความโดดเด่นด้วยเทคโนโลยีหัวพิมพ์อิงค์เจ็ทอันทันสมัย และหมึกพิกเม้นท์นาโนเทคโนโลยีที่รองรับความเร็วในการพิมพ์ มากยิ่งขึ้น โดยไม่ทำให้คุณภาพของชิ้นงานลดลงไป

“จากประสิทธิภาพและคุณภาพของระบบการพิมพ์เอชพีที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้เราได้เห็นว่าเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทสามารถนำไปต่อยอดประยุกต์ได้มากกว่าการพิมพ์ สื่อโฆษณาทางไปรณีย์และการพิมพ์โฆษณา เพื่อเจาะตลาดสำหรับการพิมพ์ เชิงพาณิชย์ทั่วไปที่ต้องการการพิมพ์ปริมาณมากได้” มร. มอร์แกนกล่าว

เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าใช้งานระบบ HP Exstream Customer Communications Management ได้ดียิ่งขึ้น เอชพีจึงเปิดตัวชุดซอฟต์แวร์ใหม่ในราคาพิเศษสำหรับลูกค้า HP Inkjet Web Press การผสานรวมของซอฟต์แวร์ HP Exstream กับ โซลูชั่น HP Inkjet สำหรับการผลิตงานพิมพ์ความเร็วสูงช่วยมอบสมรรถนะการพิมพ์ชั้นนำในแวดวงอุตสาหกรรมเพื่อการนำไปประยุกต์ใช้งานด้านการพิมพ์ สื่อโฆษณาทางไปรษณีย์ และการพิมพ์เอกสารที่เปลี่ยนเนื้อหาในงานพิมพ์ทุกแผ่น (transactional print)

เอชพียังได้ร่วมมือกับผู้ผลิตอุปกรณ์ซัพพลายชั้นนำในการขยายชุดผลิตภัณฑ์กระดาษเคลือบเงาที่สามารถใช้ได้กับเครื่องพิมพ์ HP Inkjet Web Press ซึ่งรวมไปถึงกระดาษเคลือบเงาแรกที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี ColorPRO Technology จากบริษัท Appleton Coated รวมทั้งกระดาษพิมพ์ใหม่ๆ จากการพัฒนาร่วมกับ Arjowiggins Graphic, Metsä Board และ Sappi

เครื่องพิมพ์ HP Inkjet Web Press ใหม่ยังมีวางจำหน่าย โดยเป็นส่วนหนึ่งของระบบการพิมพ์ IntelliJet 20, 30 และ 42 Printing Systems ของ Pitney Bowes สำหรับการพิมพ์เอกสารที่เปลี่ยนเนื้อหาในงานพิมพ์ทุกแผ่น และการพิมพ์จดหมาย โดย Pitney Bowes จะแสดง ระบบการพิมพ์ IntelliJet 20 ที่มีความโดดเด่นโดยใช้เครื่องพิมพ์ HP T230 Color Inkjet Web Press ขนาด 558 มม. (20 นิ้ว) ใหม่ พร้อมด้วยความเร็วการพิมพ์สูงสุดถึง 400 ฟุตต่อนาทีด้วยความหนาแน่นของ สีเต็มรูปแบบเพื่อให้ได้ชิ้นงานที่มีคุณภาพสูงสุด โดยจะจัดแสดงติดกันกับ โซนของเอชพี

การเปิดตัวอันแข็งแกร่งของเครื่องพิมพ์ดิจิตอล HP Indigo Digital ใหม่
การติดตั้งตัวเครื่องพิมพ์ HP Indigo 10000 จะดำเนินการในช่วงปลายปีนี้ โดยมีกำหนดการวางจำหน่ายในช่วงปี 2556 ซึ่งผู้ใช้งานระดับเบต้ารวมไปถึงบริษัท Consolidated Graphics (สหรัฐฯ), Elanders (เยอรมันนี), Old City Press (อิสราเอล), Precision Printing (สหราชอาณาจักร) และ Wing Hung Group (ฮ่องกง)

“การมีเครื่องพิมพ์สำหรับกระดาษขนาด B2 ช่วยเปิดโอกาสมากมายให้พวกเราในด้านงานพิมพ์ใหม่ๆ ที่ไม่สามารถผลิตได้จากเครื่องพิมพ์ระบบดิจิตอล และได้งานที่มีประสิทธิภาพ” มร. จอห์น เลา ประธานบริษัท Wing Hung Group

เอชพียังได้ประกาศความร่วมมือในการพัฒนาโซลูชั่นใหม่สำหรับกล่องแบบพับได้ร่วมกับบริษัทผู้ผลิตกระดาษบรรจุภัณฑ์ และโซลูชั่นด้านบรรจุภัณฑ์ Stora Enso เพื่อผสานรวม in-line coating unit เข้ากับ เครื่องพิมพ์ HP Indigo 30000 Digital Press ความร่วมมือดังกล่าวจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดขั้นตอนการทำงาน และช่วยให้ได้แผ่นกระดาษงานพิมพ์ แบบเคลือบเงาที่พร้อมสำหรับงานไดคัท และการพับเช่นเดียวกับงานที่ได้จากกล่องที่พิมพ์ด้วยระบบออฟเซ็ตในปัจจุบัน

บริษัท EMKA Group ในอิสราเอล ซึ่งเป็นผู้ใช้งานระดับเบต้าของเครื่องพิมพ์ HP Indigo 5600 แบบป้อนแผ่น สามารถต่อยอดการประยุกต์ใช้ใหม่ๆ ที่ไม่ได้เป็นออปชั่นในการพิมพ์ระบบดิจิตอลมาก่อน เช่น คุณสัมบัติ “one shot” ของเครื่องพิมพ์ที่ช่วยให้บริษัทสามารถใช้งานวัสดุการพิมพ์สังเคราะห์ที่พิมพ์ยาก ที่จำเป็นสำหรับการพิมพ์การ์ดของขวัญและการ์ดสมนาคุณได้ ประสิทธิภาพที่สูงของเครื่องพิมพ์ จึงทำให้เครื่องพิมพ์นี้เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับงานพิมพ์ประเภท Transpromo ในปริมาณปานกลาง

“ปัจจุบันนี้ เรามีงานพิมพ์จำนวนหนึ่งที่เราต้องอาศัยการพิมพ์แบบออฟเซ็ทในการผลิตงานในปริมาณน้อย” Ofir Adir ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี ของบริษัท EMKA Group กล่าว “การใช้เครื่องพิมพ์ Indigo 5600 ใหม่นี้ ช่วยให้เราสามารถพิมพ์งานต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว จึงช่วยให้ลูกค้าของเรามั่นใจในประสิทธิภาพของเราในฐานะที่เป็นผู้ให้บริการ”

เหล่าผู้ให้บริการด้านงานพิมพ์ยังได้รับประโยชน์จากประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น การทำงานแบบอัตโนมัติยิ่งขึ้น รวมทั้งความสามารถในการทำงานได้หลากหลายยิ่งขึ้นของเครื่องพิมพ์เชิงพาณิชย์แบบกระดาษป้อน HP Indigo 7600 Digital Press ซึ่งมีวางจำหน่ายแล้วในขณะนี้ เครื่องพิมพ์รุ่นนี้มาพร้อมกับคุณสมบัติ เพื่อมอบมูลค่าสูงในการใช้งาน ที่จะช่วยให้ผู้ให้บริการด้านการพิมพ์สร้างสรรค์การตกแต่งบัตรเชิญ บัตรอวยพร โบร์ชัวร์ผลิตภัณฑ์สวยงาม และวัสดุการพิมพ์อื่นๆ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับชิ้นงาน

“เรามีลูกค้าจำนวนหนึ่งที่ต้องการเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์” นิก ไวท์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ ของ Mimeo CLE ในสหราชอาณาจักรกล่าว “เรามุ่งมั่นทำในทุกสิ่งที่เราสามารถทำได้ เพื่อเพิ่มคุณสมบัติใหม่ๆ รวมทั้งประโยชน์แก่ผลิตภัณฑ์ เช่น เอฟเฟ็คในด้านผิวสัมผัส โดยใช้ HP Indigo 7600 เพื่อตอบสนองตลาด”

รองรับการผลิตงานแบบเอนด์-ทู-เอนด์
ในงาน drupa 2012 เอชพีได้ทำการสาธิตโซลูชั่นเวิร์กโฟลว์อันล้ำสมัยเป็นครั้งแรกเพื่อรองรับการใช้งานของลูกค้าเครื่องพิมพ์ HP Indigo ในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานแบบเอนด์-ทู-เอนด์ พร้อมลดค่าใช้จ่ายโดยรวม

โซลูชั่น HP SmartStream Production Center เป็นระบบเวิร์กโฟลว์ที่ตอบโจทย์ความท้าทายในการผลิตและมอบงานในปริมาณสูงสำหรับงานที่มีจำนวนพิมพ์ ไม่สูง ลดเวลารวมในการทำงาน พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพของผลงาน

โซลูชั่น HP Indigo Finishing Connectivity ขยายเวิร์กโฟลว์ Job Definition Format (JDF) ไปสู่การทำเล่ม ลดเวลาในการทำงาน ลดความผิดพลาด พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพ ความสามารถในการทำกำไร และความต่อเนื่องของงาน ความสามารถในการเชื่อมต่อนี้สามารถเห็นได้ชัดจากพันธมิตรของ HP SmartStream Solution Partners ซึ่งรวมไปถึง Horizon, Polar-Mohr และ Duplo และพร้อมสามารถใช้ได้เป็นมาตรฐานใน HP SmartStream Production Pro Print Server เวอร์ชั่น 5.0

ต่อยอดพลังของข้อมูลที่เปลี่ยนแปลงสู่การพิมพ์ระบบออฟเซ็ท
โซลูชั่น HP Print Module Solutions ที่นำมาสาธิตเป็นครั้งแรกในงาน drupa 2012 ช่วยให้ผู้ให้บริการด้านการพิมพ์ สามารถพิมพ์งานกราฟฟิกแบบขาวดำ และแบบสีที่มีข้อความ บาร์โค้ดแตกต่างกันได้บนเอกสารที่พิมพ์มาแล้วได้ ระบบการพิมพ์สีและแบบขาวดำสามารถพิมพ์ได้ความยาวสูงสุด 244 เมตร (800 ฟุต) ต่อนาที พร้อมมีค่าใช้จ่ายในการใช้งานที่ไม่เคยมีมาก่อน คุณสมบัติในการเชื่อมจุดเกย (stitching) ที่เชื่อมต่อมอดูลขนาด 108 มม. (4.25 นิ้ว) หลายๆ จุดช่วยต่อยอดพื้นที่การพิมพ์สำหรับผู้ให้บริการงานพิมพ์เพื่อให้ได้ความยืดหยุ่นและความสามารถในการปรับขยายการใช้งานมากยิ่งขึ้น ด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์ HP Scalable Print Technology ที่สามารถใช้งานได้แบบอัตโนมัติ และวางใจได้ของเอชพี โซลูชั่นใหม่นี้จึงช่วยให้สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง และได้ประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มขึ้น

ล่าสุดเอชพียังได้ประกาศเปิดตัว Adphos และ Graphic System Services ในฐานะที่เป็นพันธมิตรใหม่ของ HP SmartStream Solution ผู้ให้บริการระบบขนส่งกระดาษและบริการต่างๆ สำหรับ HP Print Module Solutions ในสหรัฐฯ เอเชีย ยุโรป และตะวันออกกลาง

โอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจในด้านการพิมพ์ขนาดใหญ่
โซลูชั่นและผลิตภัณฑ์สื่อการพิมพ์สำหรับลูกค้าที่ใช้งานเครื่องพิมพ์ขนาดใหญ่ HP Designjet and Scitex เข้ามาต่อยอดการพิมพ์ป้ายโฆษณาแบบเดิมๆ ไปสู่การผลิตงานพิมพ์มูลค่าสูง เช่น การพิมพ์วัสดุตกแต่ง เสื้อผ้า ป้ายจราจรและบรรจุภัณฑ์

เอชพียังได้แสดงผลิตภัณฑ์หมึกพิมพ์สีขาว และถาดป้อนอัตโนมัติสำหรับเครื่องพิมพ์ HP Scitex FB7500 และ FB7600 Industrial Presses รวมทั้ง HP SmartStream Production Analyzer ที่ทำงานผ่านระบบคลาวด์เวอร์ชั่นใหม่สำหรับการติดตามการทำงานของเครืองพิมพ์ HP Scitex แบบอัตโนมัติ

นับตั้งแต่เปิดตัวหมึกพิมพ์ลาเท็กซ์สำหรับเครื่องพิมพ์ขนาดใหญ่ในงาน drupa 2008 เอชพีก็ได้ติดตั้งเครื่องพิมพ์ลาเท็กซ์ไปแล้วกว่า 11,000 เครื่องทั่วโลก และผลิตวัสดุพิมพ์รวมมากกว่า 54 ล้านตารางเมตร เทคโนโลยีลาเท็กซ์ช่วยให้ ผู้ให้บริการด้านการพิมพ์สามารถเข้าสู่ตลาดใหม่ๆ เช่น การพิมพ์ wall coverings สิ่งทอ และป้ายจราจร และวันนี้เอชพีได้เพิ่ม platen cover สำหรับเครื่องพิมพ์ HP latex ใหม่ล่าสุด นั่นคือ HP Designjet L26500 และ L28500 ที่ปรับปรุงประสิทธิภาพในการป้อนสื่อสิ่งทอสำหรับการผลิตป้ายชนิดอ่อน และ ป้ายผ้าชั่วคราวที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ เอชพียังได้ร่วมกับบริษัทผู้ผลิตสื่อชั้นนำในการร่วมพัฒนาสื่อใหม่ๆ โดยใช้เทคโนโลยี ColorPRO Technology ที่จะมีพร้อมให้ใช้ได้ในปีหน้า ผลิตภัณฑ์สื่อที่มีเทคโนโลยีดังกล่าว นับตั้งแต่กระดาษเคลือบเงา ไปจนถึงสื่อสิ่งทอและแผ่นฟิล์ม ได้รับการออกแบบมาพร้อมกับหมึกพิมพ์เอชพี และเครื่องพิมพ์เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพการพิมพ์สูงสุด

ภาพที่ได้รับรองมาตรฐาน FSC และกระดาษเทคนิคแสดงให้เห็นถึงการสนับสนุนในด้านการจัดการป่าไม้อย่างมีประสิทธิภาพทั่วโลก และช่วยให้ผู้ให้บริการงานพิมพ์มีข้อได้เปรียบในการแข่งขันในกลุ่มลูกค้าที่ตระหนักถึงเรื่องสิ่งแวดล้อม

ระบบงาน MIS เวิร์คโฟลว์และโซลูชั่นเคลือบผิว
ผู้ให้บริการด้านการพิมพ์สามารถเห็นได้ถึงความชำนาญการระดับแนวหน้าของ เอชพีในการสร้างสรรค์สภาพแวดล้อมด้านคอมพิวเตอร์ที่ทรงพลังและ เปี่ยมประสิทธิภาพให้กับผู้ให้บริการด้านงานพิมพ์ด้วยเซิร์ฟเวอร์ และโซลูชั่นจากสายผลิตภัณฑ์ HP Exstream, HP Hiflex และ HP SmartStream

HP Hiflex เป็นโซลูชั่นที่เพิ่มเติมเข้ามาล่าสุดของเอชพี หลังจากที่บริษัทได้เข้าซื้อกิจการของ Hiflex ในปี 2554 โซลูชั่น HP Hiflex Web-to-Print สามารถสร้างสรรค์ระบบร้านค้า (storefronts) แบบออนไลน์ที่ใช้งานได้ง่าย และสามารถช่วยให้ ผู้ให้บริการด้านการพิมพ์สามารถดึงดูดธุรกิจและลูกค้าใหม่ๆ ได้ จากการจัดการคอนเท้นท์แบบโอเพ่น ซอร์สของ Drupal โซลูชั่นแบบ web-to-print ที่สามารถปรับตามความต้องการของผู้ใช้งานได้จึงผสานรวมเข้ากับสภาพแวดล้อมการผลิตที่เดิมที่มีอยู่ เอชพียังได้ประกาศเปิดตัวโซลูชั่น HP Hiflex Web-to-Print เวอร์ชั่นใหม่สำหรับป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ และการนำไปประยุกต์ใช้ งานพิมพ์ป้ายต่างๆ

โซลูชั่น HP Hiflex MIS Solution ช่วยให้ผู้ให้บริการด้านการพิมพ์สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต โดยทำให้ขั้นตอนต่างๆ เกี่ยวกับการทำใบเสนอราคา ใบสั่งซื้อ ใบแจ้งหนี้ เลขงาน หมายเหตุการจัดส่ง ป้ายติดสินค้าในการจัดส่ง ฯลฯ สามารถทำได้อัตโนมัติยิ่งขึ้น HP Hiflex MIS ที่สามารถทำงานได้เองแบบ standalone มีวางจำหน่ายแลวสำหรับผู้ให้บริการด้านการพิมพ์ เพื่อนำไปใช้ใน การผสานรวมเข้ากับการผลิตและการจัดการ เพื่อให้ได้โซลูชั่นที่ใช้งานง่าย ในระบบคลาวด์เพื่อประสิทธิภาพและการทำกำไรที่เพิ่มขึ้น

บริการด้านการเงินเต็มรูปแบบนอกสถานที่
นำเสนอ HP Financial Services ซึ่งเป็นฝ่ายธุรกิจที่ให้บริการเช่าซื้อและบริหารจัดการสินทรัพย์ตลอดอายุการใช้งานของเอชพี ที่พรัอมมอบบริการ นอกสถานที่ โดยมอบบริการโซลูชั่นการเงินเต็มรูปแบบในด้านอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และบริการต่างๆ ของเอชพี รวมทั้งอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ของบริษัทอื่นๆ โซลูชั่นให้กู้ยืมของHP Financial Services จะช่วยให้เหล่าผู้ให้บริการด้านการพิมพ์สามารถมีทางเลือกในการชำระเงินที่เหมาะสมกับตนเอง รวมทั้งกำหนดชำระเงินที่มีความยืดหยุ่นตามกลยุทธ์การเติบโตทางธุรกิจของลูกค้า

View :2187
Categories: Press/Release Tags:

บราเดอร์ เผยโฉม “Plug in and Label” ครั้งแรกในเครื่องพิมพ์ฉลาก (P-Touch)

May 10th, 2012 No comments

บราเดอร์ฯ ผู้นำด้านเทคโนโลยีการพิมพ์ของโลก นำเสนอเทคโนโลยีล่าสุดเพื่อตอบสนองความสะดวกสบาย ในการพิมพ์อย่างสมบูรณ์แบบเพื่อการใช้งานของออฟฟิศในยุคปัจจุบัน ด้วยการแนะนำเครื่องพิมพ์ฉลาก (P-Touch) รุ่นล่าสุด QL-700 ใช้งานง่ายไม่ยุ่งยาก ทั้งนี้ QL-700 ถือเป็นเครื่องพิมพ์ฉลากเครื่องแรกที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีล่าสุด “Plug in and Label” ที่ช่วยลดขั้นตอนการดาวน์โหลดโปรแกรมที่ซับซ้อน ง่ายในการติดตั้งและใช้งาน โดยการเชื่อมต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์

“Plug in and Label” ครั้งแรกในเครื่องพิมพ์ฉลาก (P-Touch) รุ่น QL-700 ผู้ช่วยอัจฉริยะของพนักงานออฟฟิศยุคไฮเทค


โดยการใช้งานของ (P-Touch) รุ่น QL-700 มีขั้นตอนง่ายๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอน ผู้ใช้ก็จะได้งานพิมพ์ฉลากคุณภาพภายในเวลาอันรวดเร็ว โดยเริ่มจากการเชื่อมต่อเครื่องพิมพ์ฉลากโดยใช้สาย USB เข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ จากนั้นผู้ใช้งานสามารถออกแบบรูปแบบ ข้อความต่างๆตามต้องการและสั่งพิมพ์ เพียงเท่านี้ ก็จะได้ฉลากที่พิมพ์ที่มีคุณภาพความละเอียดสูง ในผลงานระดับมืออาชีพ เพื่อยกระดับภาพลักษณ์องค์กร

นายธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายขายและการตลาด บริษัท คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เพราะบราเดอร์ทราบและเข้าใจถึงความต้องการของพนักงานในยุคปัจจุบันที่ต้องการ ความคล่องตัวและความรวดเร็วในการทำงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เราจึงอาศัยประสบการณ์กว่า 20 ปีในธุรกิจ การพิมพ์คุณภาพระดับโลกมาพัฒนาเทคโนโลยี “Plug in and Label” ขึ้นและเปิดตัวครั้งแรกในเครื่องพิมพ์ฉลาก (P-Touch) รุ่น QL-700 เพื่อความสะดวกยิ่งขึ้นแก่ผู้ใช้งาน

“เทคโนโลยี “Plug in and Label” เทคโนโลยีเอกสิทธิ์เฉพาะบราเดอร์ ช่วยทำให้เครื่องพิมพ์ฉลาก (P-Touch) รุ่น QL-700 สามารถเคลื่อนย้ายไปเชื่อมต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องภายในสำนักงานได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมการใช้งานให้ยุ่งยาก ง่ายๆ แค่เชื่อมต่อและออกแบบฉลากตามความต้องการและสั่งพิมพ์ ผู้ใช้ก็จะได้ฉลากที่ต้องการในเวลาที่รวดเร็ว ทั้งยังมีความละเอียดสูงถึง 300 x 600dpi. ได้ตัวอักษรและงานที่คมชัด ความเร็วในการพิมพ์สูงสุดถึง 93 ฉลากต่อนาที ซึ่งนับเป็นเครื่องพิมพ์ฉลากที่มีอัตราความเร็วในการพิมพ์สูงสุด ณ ปัจจุบัน เหมาะแก่การเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะของพนักงาน, เลขานุการ, ฝ่ายธุรการ, ธุรกิจกการจัดส่งสินค้า และด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดย บราเดอร์ ได้พัฒนาเทคโนโยลีล่าสุดนี้เพื่อตอบความต้องการของผู้ใช้งานอย่างแท้จริง โดยยึดหลัก “ความต้องการของลูกค้า” คือ ศูนย์การแห่งพลังขับเคลื่อนแนวทางการพัฒนาสินค้าอย่างไร้ขีดจำกัด และวันนี้เราได้สร้างความภาคภูมิใจล่าสุด นั่นก็คือผู้ช่วยอัจฉริยะด้านการพิมพ์ฉลากกับบราเดอร์ เครื่องพิมพ์ฉลาก (P-Touch) รุ่น QL-700 ง่ายๆ เพียง 3 ขั้นตอนก็ได้ผลงานการพิมพ์ฉลากระดับคุณภาพ ทั้งยังได้เครื่องพิมพ์ฉลาก ขนาดกระทัดรัด เคลื่อนย้ายสะดวก และที่สำคัญยังมีรูปแบบที่สวยงามและทันสมัยอีกด้วย” นายธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ กล่าว

ทั้งนี้ เครื่องพิมพ์ฉลาก(P-Touch) รุ่น QL-700 จะมาพร้อมกับม้วนฉลากที่ให้มากับตัวเครื่องครั้งแรก (Starter Roll), สายเชื่อมต่อ USB, แผ่น CD-ROM Software P-Touch Editor V5.0 พร้อมคำแนะนำในการใช้งาน

ข้อมูลเครื่องพิมพ์ฉลาก (P-Touch) รุ่น QL-700:

• มีศักยภาพการพิมพ์ด้วยความละเอียดสูงถึง 300 x 600dpi. ได้ตัวอักษรที่ชัดเจนแลtคมชัด
• สามารถพิมพ์ได้สูงสุดถึง 93 ฉลากต่อนาที ซึ่งนับเป็นเครื่องพิมพ์ฉลากที่มีอัตราความเร็ว ในการพิมพ์สูงสุด ณ ปัจจุบัน
• สามารถสั่งพิมพ์ฉลากได้ขนาดสูงสุดกว้าง 62 มิลลิเมตร และยาว 1 เมตร
• สามารถติดตั้งได้อัตโนมัติ ด้วยเทคโนโลยี Plug in and Label
• โดดเด่นด้วยระบบตรวจสอบขนาดม้วนฉลากอัตโนมัติ เพื่อให้ใช้ขนาดฉลากให้เหมาะต่อ ขนาดข้อความที่จะพิมพ์
• เครื่องพิมพ์ฉลาก (P-Touch) รุ่น QL-700 จะมาพร้อมกับ ม้วนฉลากที่ให้มากับตัวเครื่องครั้งแรก (Starter Roll), สายเชื่อมต่อ USB, แผ่น CD-ROM Software P-Touch Editor V5.0 พร้อมคำแนะนำในการใช้งาน

View :1696

Digital Agenda Thailand กับสัมมนาครั้งที่ 3 ภายใต้หัวข้อ “มองมุมใหม่… ทีวีดาวเทียมและโมบายล์ทีวี”

May 10th, 2012 No comments

‘อะไร คือ ความเท่าเทียมกันทางสังคมในยุคดิจิตอล อะไร คือ ผลประโยชน์ของประชาชน อะไร คือ โอกาสของประเทศไทย’ พบคำตอบได้ที่งานสัมมนา “มองมุมใหม่… ทีวีดาวเทียมและโมบายล์ทีวี” ในวันจันทร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 เวลา 08.30–15.30 น. ณ ห้องบอลรูม ชั้น 4 โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ

รศ.สุธรรม อยู่ในธรรม คณบดี คณะนิติศาสตร์ และ ประธานสถาบันวิชาการนโยบายสาธารณกับธุรกิจ และการกำกับดูแล (APaR) มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า Digital Agenda Thailand เป็นโครงการหรือ Mission ที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย สถาบันนโยบายสังคมและเศรษฐกิจ (ISEP) และ เอ๊ซ (ACE) ในฐานะผู้จัดงาน ได้ริเริ่มจัดขึ้นโดยมีเป้าประสงค์ในการเป็นตัวกลางที่รวบรวม ค้นหา และส่งผ่านความรู้ ประสบการณ์ และผลกระทบในทุกแง่มุมที่เกี่ยวกับด้าน Digital จากทั่วโลกมาสู่คนไทย โดยถ่ายทอดผ่านกิจกรรมหลักคือการจัดสัมมนาให้ความรู้เชิงวิชาการและข้อเท็จจริง เกี่ยวกับเทคโนโยลีดิจิทัลที่กำลังจะเข้ามามีบทบาทต่อประเทศไทยในระยะเวลาอันใกล้นี้ ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการเปลี่ยนแปลงระบบการสื่อสารและโทรคมนาคมของประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นการพลิกโฉมประเทศไทยให้เกิดการพัฒนาทั้งทางด้านสังคม เศรษฐกิจ การเมือง และการศึกษา เช่นเดียวกับที่หลายๆ ประเทศทั่วโลกได้นำเรื่องของเทคโนโลยีระบบดิจิทัลมาเป็นยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศมาแล้ว อาทิ ญี่ปุ่น อเมริกา ยุโรปและอีกหลายๆ ประเทศในภูมิภาคเอเชีย

นอกจากนี้ ผลสืบเนื่องมาจาก พรบ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้อย่างเต็มรูปแบบและมีการแต่งตั้งสำนักงานคณะกรรมการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ซึ่งอำนาจหน้าที่มิได้มีเพียงการจัดสรรคลื่นความถี่ การออกใบอนุญาตประกอบกิจการหรือการประมูลคลื่นความถี่ 3G เท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญต่อโครงสร้างกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ทั้งระบบอีกด้วย โดยเฉพาะหน่วยงานรัฐบาลที่เป็นผู้ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ที่จะต้องคืนคลื่นความถี่และสัญญาสัมปทานแล้วมาร่วมประมูลกันใหม่ ซึ่งผู้ประกอบการตลอดจนประชาชนทั่วไปควรรับทราบและศึกษาให้ถี่ถ้วน

ที่ผ่านมา ผู้ริเริ่มโครงการ Digital Agenda Thailand ได้จัดการสัมมนาผ่านมาแล้ว 2 ครั้ง ได้แก่ “ทิศทางและโอกาสของธุรกิจวิทยุและโทรทัศน์ยุคใหม่” เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2555 และครั้งที่สอง เรื่อง “มาตรฐานโทรทัศน์ระบบดิจิทัลสำหรับประเทศไทย” เมื่อวันที่ 15 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยได้รับการตอบรับจากสื่อมวลชนหลายแขนง ภาครัฐบาล นักธุรกิจ หน่วยงานจากต่างประเทศ รวมถึงประชาชานทั่วไปเป็นอย่างดี

อนึ่งทางคณะจัดงานได้เล็งเห็นถึง Satellite TV และ Mobile TV จะเข้ามามีบทบาทที่สำคัญมากและถึงขั้นจะเป็นเครื่องมือหลักในวงการการสื่อสาร เพราะภายในห้าปีต่อจากนี้ เทคโนโลยีระบบดิจิทัลจะต้องเข้ามามีบทบาทต่อประเทศไทย ทำให้การส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลข่าวสาร และสามารถรับสัญญาณวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ระบบดิจิทัลได้อย่างทั่วถึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก นอกจากนี้การเปิดให้มีการแข่งขันอย่างเสรีของเทคโนโลยียังเป็นการส่งเสริมให้ประเทศไทยมีโอกาสเรียนรู้ ต่อยอดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมถึงยังเป็นส่วนผลักดันให้เกิดการส่งเสริม สนับสนุน และการวิจัยและพัฒนาถึงความเป็นเลิศของเทคโนโลยี กลไกตลาดที่จะเปลี่ยนไป ตลอดจนปัจจัยแวดล้อมของประเทศเพื่อนบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย จึงได้ร่วมกันจัดสัมมนาครั้งที่ 3 ภายใต้หัวข้อ “มองมุมใหม่… ทีวีดาวเทียมและโมบายล์ทีวี” ขึ้น โดยมี International Telecommunication Union (ITU) ร่วมเป็นวิทยากรหลักด้วยอีกครั้ง

ในงานสัมมนาครั้งนี้ ท่านจะได้รับทราบถึงความรู้เชิงวิชาการและข้อเท็จจริงอันจะเกิดขึ้น รวมถึงผลกระทบของเทคโนโลยีระบบดิจิทัลที่จะเข้ามามีบทบาทต่อประเทศไทย และเหตุผลที่ทำไม Satellite TV และ Mobile TV อาจจะมีเบทบาทเป็นตัวกลางในการสื่อสารและการเข้าถึงของข้อมูลมากที่สุดก็ว่าได้ ทั้งนี้ทาง ITU ก็จะมาเล่าถึงกรณีศึกษาต่างๆ ที่เกระทบกับความเท่าเทียมกันทางสังคมในยุค TV Digital ในหลายๆ ประเทศ ซึ่ง กสทช. ก็จะมาให้ความกระจ่างในเรื่องของบทบาทขององค์กรกำกับดูแลในมิติทางสังคม การจัดสรรคลื่นความถี่ใบอนุญาตและการส่งเสริม และยังรวมไปถึงวิทยากรชั้นนำที่เป็นนักธุรกิจ นักวิชาการ และผู้ที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการ Satellite TV และ Mobile TV ยังมาร่วมถกถึงการมองมุมใหม่ หนทางในอนาคน กลยุทธ์ รูปแบบธุรกิจ และรูปแบบของการสื่อสารแนวใหม่ บนเวทีเดียวกัน ในวันจันทร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 เวลา 08.30–16.00 น. ณ ห้องบอลรูม ชั้น 4 โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เอ๊ช(ACE) โทร. 02-254-8282-3 โทรสาร 02-254-8284 หรือ อีเมล์ info.acethailand@gmail.com

View :1727
Categories: Press/Release Tags:

“โซเชียล ซินเนอจี มีเดีย” เขย่าวงการออนไลน์ เปิดเว็ปไซต์ “HereiLike.com” ที่ที่ใช่ เทรนด์ที่ชอบ โปรโมชั่นโดนๆ

May 10th, 2012 No comments

บริษัท โซเชียล ซินเนอจี มีเดีย จำกัด เขย่าวงการออนไลน์เมืองไทย เปิดตัว HereiLike.com (เฮียร์ไอไลค์ดอทคอม) ด้วยคอนเซ็ปต์ “ที่ที่ใช่ เทรนด์ที่ชอบ โปรโมชั่นโดนๆ” ศูนย์รวมแหล่งช้อปปิ้งที่รวบรวมข้อมูลแฟชั่น ร้านอาหาร การศึกษา ความงาม รวมถึง Gadget เทคโนโลยีต่างๆ และข่าวสารบันเทิงที่นำเทรนด์ก่อนใครในรูปแบบ เทรนดี้ไลฟ์สไตล์ หวังเจาะตลาดธุรกิจออนไลน์ให้อยู่หมัด
พร้อมอัพเดทเทรนด์สุดฮิตใน HereiLike Magazine ตอบสนองความต้องการของภาคธุรกิจที่เจาะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้นประเดิม “สยาม” แหล่งช้อปปิ้งสุดชิค ตลอดกาลของวัยรุ่นเป็นแห่งแรก

คุณรุจิรพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ รองประธานกรรมการบริษัท โซเชียล ซินเนอจี มีเดีย จำกัด ดำเนินธุรกิจด้านสื่อประชาสัมพันธ์ออนไลน์ www.hereilike.com หรือ เฮียร์ไอไลค์ดอทคอม เปิดเผยว่า บริษัท โซเชียล ซินเนอจี มีเดีย จำกัด เป็นบริษัทฯภายใต้การบริหารงานของทายาทบริษัท ไทย ซัมมิท กรุ๊ป และเป็นบริษัทคนรุ่นใหม่ไฟแรงที่จะมาเจาะตลาดและเอาใจวัยรุ่นสุดชิคด้วยการเปิด HereiLike.com “ที่ที่ใช่ เทรนด์ที่ชอบ โปรโมชั่นโดนๆ” แหล่งรวมข้อมูลข่าวสารที่ทันสมัย เน้นไลฟ์สไตล์ของวัยรุ่น ไม่ว่าจะเป็นแฟชั่น ร้านอาหาร การศึกษา ความงาม รวมถึง Gadget เทคโนโลยีต่างๆ และข่าวสารความบันเทิงที่นำเทรนด์ก่อนใคร พร้อมด้วยกิจกรรมเกมสนุกๆ และโปรโมชั่นพิเศษสำหรับสมาชิก ที่จะตอบสนองการสื่อสารแบบ Multi Communication โดยเน้นการสร้างสังคม Online ผ่าน Social Network ซึ่งช่วยเพิ่มการแบ่งปันข้อมูลข่าวสาร กิจกรรม และโปรโมชั่นต่างๆ ระหว่างสมาชิก

โดยกลุ่มเป้าหมายของเว็ปไซต์ “HereiLike” จะเน้นไปที่กลุ่มวัยรุ่นที่มีไลฟ์สไตล์สะท้อนถึงตัวตนที่มีความทันสมัย รักอิสระ มั่นใจในตัวเอง และชอบสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมออย่างไม่หยุดนิ่ง และหวังว่าผู้เข้าชมเว็บไซต์จะได้รับความรู้สึกและสัมผัสได้ถึงความสนุกสนาน พร้อมอัพเดททุกเรื่องราวผ่านโลกออนไลน์ เสมือนเดินช้อปปิ้งอยู่ ณ สถานที่จริง

“HereiLike” ยังเป็นช่องทางและตัวกลางในการสื่อสาร ที่เปรียบเสมือนเป็นตัวแทนในการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ การโปรโมท รวมถึงการมอบบริการต่างๆ ให้แก่เจ้าของธุรกิจ ให้สามารถเชื่อมถึงกลุ่มเป้าหมายในแหล่งสุดโปรดนั้นๆ แบบโดนใจวัยรุ่นได้อย่างง่ายดายผ่านเนื้อหาที่เข้าถึงเทรนดี้ไลฟ์สไตล์ของวัยรุ่น และกิจกรรมต่างๆ ที่ทางบริษัทฯจัดทำขึ้น โดยมีทีมงานมืออาชีพคอยให้คำปรึกษา แนะนำและบริการอย่างใกล้ชิด ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในจุดแข็งของธุรกิจ

คุณรุจิรพรรณ กล่าวเสริมว่า นอกจากเราจะมีเว็ปไซต์ HereiLike ที่เป็นสื่อออนไลน์แล้ว บริษัทฯยังได้เพิ่มช่องทางการสื่อสารโดยจัดทำนิตยสาร (Free Magazine) ราย 2 เดือน ภายใต้ชื่อ HereiLike Magazine วางกระจายตามแหล่งสุดฮิป สามารถส่งมอบข้อมูล ข่าวสาร โปรโมชั่นของเจ้าของธุรกิจต่างๆ ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้เพิ่มมากยิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นหน้าที่และพันธกิจหลักของบริษัทฯ”

“การเปิดตัวเฮียร์ไอไลค์ดอทคอม (www.hereilike.com) ในครั้งนี้ทางบริษัทฯได้ตั้งใจทำการตลาดทั้ง Above the line และ Below the line ด้วยหวังสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายให้ได้ครอบคลุมมากที่สุด ซึ่งมองว่าการแข่งขันทางการตลาดค่อนข้างมีความเข้มข้น แต่เราก็หวังว่า HereiLike จะเป็นอีกช่องทางหนึ่งสำหรับการค้นหาที่ที่ใช่ เทรนด์ที่ชอบ และโปรโมชั่นโดนๆ ที่เข้ากับยุคสมัยนี้มากที่สุด” คุณรุจิรพรรณ กล่าวสรุปในตอนท้าย

View :1704

ทรูมูฟ เอช ส่ง The New iPad ล็อตใหม่ เข้าทรูช็อปทั่วประเทศ

May 10th, 2012 No comments

ปพนธ์ รัตนชัยกานนท์ หัวหน้ากลุ่มคณะผู้บริหารด้านการพาณิชย์ การขาย และรีเทล บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น

ปพนธ์ รัตนชัยกานนท์ หัวหน้ากลุ่มคณะผู้บริหารด้านการพาณิชย์ การขาย และรีเทล บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “ ประกาศความสำเร็จจากงานจำหน่าย รายแรกในไทย ให้ลูกค้าเป็นเจ้าของ ก่อนใคร และจำหน่ายหมดล็อตแรกตั้งแต่วันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมานั้น เป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำในการจัดจำหน่าย Gadget สุดล้ำจาก Apple ที่ลูกค้าให้ความไว้วางใจเลือกใช้ บนเครือข่ายทรูมูฟ เอช 3G+ ที่ใช้ได้จริงแล้ววันนี้ ทั่วประเทศ รวมถึงความโดดเด่นในเรื่องบริการหลังการขาย ด้วยทีมพิเศษ IT Friends ที่จะให้คำปรึกษา คำแนะนำ เพื่อช่วยเหลือลูกค้าเกี่ยวกับการใช้งานแท็บเล็ตและสมาร์ทโฟนต่างๆ และในวันนี้ ล็อตใหม่พร้อมส่งมอบให้ลูกค้าที่สั่งจองไว้ รวมถึงลูกค้าที่สนใจสามารถติดต่อซื้อได้ที่ทรูช็อปทั่วประเทศ ไม่ต้องรอคอยอีกต่อไป”

ลูกค้าที่สั่งจอง The New iPad แล้ว สามารถรับเครื่องได้ตามสาขาที่เลือกไว้ ผู้สนใจหาซื้อได้ที่ทรูช็อปทั่วประเทศ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.truemove-h.com

View :1735

ก.ไอซีที แถลงผลสำเร็จโปรแกรมไอซีทีเฮ้าส์คีปเปอร์ ดาวน์โหลดใช้งานแล้วมากกว่า 300,000 ราย

May 10th, 2012 No comments

นางจีราวรรณ บุญเพิ่ม ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยในการแถลงข่าว ผลการดำเนินการจัดสัมมนาและประชาสัมพันธ์โปรแกรมไอซีทีเฮ้าส์คีปเปอร์ ภายใต้โครงการจัดการดูแลและเฝ้าระวังภัยแฝงจากการใช้อินเทอร์เน็ตที่ไม่เหมาะสม ว่า ในปี พ.ศ. 2554 ที่ผ่านมา ทวีปเอเชียมีการขยายตัวของการใช้อินเทอร์เน็ตมากที่สุดในโลก หรือคิดเป็น 44% ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลก สำหรับประเทศไทยนั้น มีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตมากกว่า 18 ล้านคน จัดอยู่ในลำดับที่ 9 ของทวีปเอเชีย ซึ่ง 52% เป็นเด็กและเยาวชน จากการใช้คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตเป็นช่องทางส่งผ่านข้อมูลข่าวสารต่างๆ ที่มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็วนี้ อาจทำให้เยาวชนได้รับข้อมูลข่าวสารที่เป็นโทษจากเว็บไซต์อันตรายได้ เช่น เว็บลามกอนาจาร เว็บการพนันออนไลน์ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้อาจส่งผลให้เยาวชนมีการแสดงออกถึงพฤติกรรมที่ก้าวร้าวรุนแรง การเลียนแบบพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม การถูกล่อลวงหรือการชักชวนในทางเสื่อมเสีย รวมถึงการเสพสิ่งเสพติดได้ โดยผลสำรวจทางสถิติพบว่าเยาวชนไทยติดการเล่นเกมคอมพิวเตอร์เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 14.4 ในปี 2553 และมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ

“ปัญหาที่เกิดจากการใช้อินเทอร์เน็ตและคอมพิวเตอร์อย่างไม่เหมาะสมนี้ นอกจากจะมีผลต่อเยาวชนแล้ว ยังมีผลต่อครอบครัว สังคม และสภาพเศรษฐกิจของประเทศด้วย โดยเฉพาะเรื่องเว็บไซต์ลามกอนาจารนั้นเป็นปัญหาที่ประชาชนมีความห่วงใยเป็นอย่างมาก ซึ่งจากผลการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่า มีครัวเรือนถึง 46% ต้องการให้ภาครัฐควบคุมดูแลเว็บไซต์ลามกอนาจาร ดังนั้นกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร จึงได้ร่วมมือกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ดำเนินโครงการจัดการดูแลและเฝ้าระวังภัยแฝงจากการใช้อินเทอร์เน็ตที่ไม่เหมาะสม พร้อมกับพัฒนาและเผยแพร่โปรแกรมไอซีทีเฮ้าส์คีปเปอร์ เพื่อช่วยให้ประชาชนมีเครื่องมือในการป้องกันและดูแลเยาวชนให้ปลอดภัยจากเว็บอันตราย และยังสามารถควบคุมเวลาการใช้งานอินเทอร์เน็ตและคอมพิวเตอร์ได้อีกด้วย” นางจีราวรรณ กล่าว

สำหรับคุณสมบัติหลักของโปรแกรมฯ นี้ คือ สามารถปิดกั้นการเข้าถึงเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมสำหรับเยาวชน ซึ่งผู้ปกครองสามารถเพิ่มรายชื่อเว็บไซต์ที่ต้องการปิดกั้นเองได้ รวมทั้งสามารถจำกัดเวลา กำหนดประเภท และลักษณะการปิดกั้นเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมได้ เช่น การกำหนดเวลาในการเข้าเว็บไซต์ การกำหนดเวลาการใช้งานคอมพิวเตอร์ และการกำหนดเวลาการใช้งานอินเทอร์เน็ต พร้อมกันนี้ยังสามารถปิดกั้นและกำหนดประเภทหรือโปรแกรมที่อนุญาตหรือไม่อนุญาตให้ใช้งาน กำหนดเวลาการใช้งานโปรแกรมต่างๆ เช่น กำหนดเวลาเล่นเกม เป็นต้น รวมทั้งมีการจัดทำอัพเดทฐานข้อมูลเว็บที่ไม่เหมาะสมจากกระทรวงไอซีทีตลอดเวลา และมีโปรแกรมรายงานการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่ทำให้ผู้ปกครองสามารถตรวจดูพฤติกรรมของเยาวชนได้อีกด้วย

“ในการดำเนินโครงการฯ ได้มีการจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์และเผยแพร่โปรแกรมไอซีทีเฮ้าส์คีปเปอร์สู่ประชาชน ด้วยการจัดสัมมนา “การป้องกันภัยแฝงจากการใช้อินเทอร์เน็ต เว็บไซต์ และเกมคอมพิวเตอร์ที่ไม่เหมาะสมสำหรับเยาวชน” ไปยังสถานศึกษา ร้านอินเทอร์เน็ต นักเรียน นักศึกษาและผู้ปกครองที่สนใจ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้ถึงภัยจากเว็บและเกมที่ไม่เหมาะสม พร้อมทั้งส่งเสริมสถาบันครอบครัวและสถานศึกษาทุกแห่งทั่วประเทศ ให้มีการประยุกต์นำเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตไปใช้อย่างสร้างสรรค์และปลอดภัย

โดยกระทรวงฯ ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงาน องค์กรต่างๆ อาทิ กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐาน กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงวัฒนธรรม หน่วยงานท้องถิ่น เทศบาลนครหาดใหญ่ และเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ เพื่อดำเนินการจัดสัมมนาอย่างต่อเนื่องทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เช่น จัดสัมมนาแก่โรงเรียนในเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 2 (กรุงเทพมหานคร) เขต 12 (นครศรีธรรมราช-พัทลุง) เขต 16 (สงขลา-สตูล) เขต 18 (ชลบุรี-ระยอง) เขต 24 (กาฬสินธุ์) เขต 35 (ลำปาง-ลำพูน) เขต 39 (พิษณุโลก-อุตรดิตถ์) และเขต 42 (นครสวรรค์-อุทัยธานี) ซึ่งมีประชาชนสนใจเข้าร่วมการสัมมนาทั่วประเทศกว่า 10, คน มากกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้ถึง 157% และผู้เข้าร่วมการสัมมนากว่า 90% มีระดับความพึงพอใจ

“มากและมากที่สุด” ในเรื่องได้รับเนื้อหาความรู้ที่เป็นประโยชน์ รวมทั้งการนำข้อมูลและโปรแกรมไอซีทีเฮ้าส์คีปเปอร์ ไปประยุกต์ใช้ในครอบครัวพร้อมกันนี้ กระทรวงฯ ยังมีการแจกจ่ายโปรแกรมไอซีทีเฮ้าส์คีปเปอร์ให้แก่สถานศึกษาและประชาชนทั่วไป เพื่อเป็นเครื่องมือป้องกันการเข้าถึงเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมของเยาวชน ซึ่งจนถึงปัจจุบันมีการดาวน์โหลดโปรแกรมไอซีทีเฮ้าส์คีปเปอร์ไปใช้งานแล้วมากกว่า 300,000 ราย โดยประชาชนผู้ใช้งานโปรแกรมกว่าร้อยละ 90 ต่างมีความพึงพอใจในระดับ “มากที่สุด”

โดยเฉพาะในการนำโปรแกรมไปประยุกต์ใช้งาน กระทรวงฯ จึงขอเชิญชวนผู้ปกครองติดตั้งโปรแกรมไอซีทีเฮ้าส์คีปเปอร์ เพื่อดูแลบุตรหลานเยาวชนให้ตระหนักและรู้เท่าทันภัยแฝงที่มาจากอินเทอร์เน็ต พร้อมทั้งร่วมปกป้องเยาวชนไทยจากเว็บร้าย เพื่อให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพต่อไป” นางจีราวรรณ กล่าว

View :1824

ก.ไอซีที ลงนามจัดซื้อแท็บเล็ต 1,000,000 เครื่อง จาก เสิ่นเจิ้น สโคปฯ

May 10th, 2012 No comments


นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยในการแถลงข่าว ภายหลังพิธีลงนามสัญญาจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) ภายใต้โครงการจัดการเรียนการสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์พกพาระหว่างกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กับ บริษัท เสิ่นเจิ้น สโคป ไซแอนทิฟิก ดีเวลอปเมนต์ จำกัด (Shenzhen Scope Scientific Development Co.,Ltd) ว่า รัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ว่าด้วยความร่วมมือเกี่ยวกับการพัฒนาที่ยั่งยืนในประเทศไทยเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2554 ที่ผ่านมา โดยทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะดำเนินความร่วมมือในด้านต่างๆ รวมถึงการพัฒนาการศึกษาและพัฒนาทรัพยากรบุคคลในประเทศไทยโดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทผ่านการส่งเสริมการเข้าถึงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และอุปกรณ์การศึกษาที่ทันสมัย เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต)

ขณะเดียวกันรัฐบาลได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาเมื่อวันอังคารที่ 23 สิงหาคม 2554 โดยมีนโยบายหนึ่งที่จะเริ่มดำเนินการอย่างเร่งด่วนในปีแรก คือ การจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตให้แก่โรงเรียน โดยเริ่มทดลองดำเนินการในโรงเรียนนำร่องสำหรับระดับ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา พ.ศ. 2555 ควบคู่กับการเร่งพัฒนาเนื้อหาที่เหมาะสม ตามหลักสูตรบรรจุลงในคอมพิวเตอร์แท็บเล็ต รวมทั้งจัดทำระบบอินเทอร์เน็ตไร้สายตามมาตรฐานการให้บริการในสถานศึกษาที่กำหนดโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

ดังนั้น คณะรัฐมนตรีจึงมติเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2555 มอบหมายให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เป็นผู้ดำเนินการจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) จัดวางระบบเครือข่าย Wi – Fi จัดทำระบบบริหารจัดการที่เกี่ยวข้องกับโครงการฯ และการวางระบบความปลอดภัยในการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) โดยมอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการเป็นผู้ดำเนินการพัฒนาหลักสูตร สื่อการเรียนการสอน การพัฒนาบุคลากร และสร้างความเข้าใจ เพื่อการใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต)

และภายหลังการดำเนินการจัดหา กระทรวงไอซีที ได้นำเสนอแนวทางการจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2555 อนุมัติการจัดซื้อจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) จากสาธารณรัฐประชาชนจีน บนพื้นฐานของบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนดังกล่าวข้างต้น โดยรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนได้แนะนำบริษัทผู้ส่งออกเครื่องคอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) ที่มีคุณภาพของประเทศจีน เพื่อให้ผู้ซื้อเลือกหนึ่งบริษัทจากกลุ่มบริษัทเหล่านี้ในการจัดหาและการส่งมอบเครื่องคอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต)มายัง ประเทศไทย

“กระทรวงไอซีที ได้ตกลงที่จะจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) จากบริษัท เสิ่นเจิ้น สโคป ไซแอนทิฟิก ดีเวลอปเมนต์ จำกัด ซึ่งเป็น 1 ใน 4 บริษัทที่รัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนแนะนำ ซึ่งการลงนามครั้งนี้มีเงื่อนไขที่จะสั่งซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) จำนวนทั้งสิ้น 400, ( สี่แสน) เครื่อง มูลค่าทั้งหมดจำนวน USD 32,800, (สามสิบสองล้านแปดแสนดอลลาร์สหรัฐ) มีกำหนดให้ส่งมอบภายใน 60 วัน และจะมีการซื้อเพิ่มเติม (Repeat order) โดยทำคำสั่งซื้อเพิ่มเติมสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) อีกจำนวนไม่เกิน 1,,000 (หนึ่งล้าน) เครื่องต่อไป” นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ กล่าว

สำหรับคุณลักษณะของเครื่องคอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) ที่ บริษัท เสนอมานั้น คือ มีหน่วยประมวลผลกลางมีความเร็วสัญญาณนาฬิกา (Clock speed) 1.2 GHz มีหน่วยความจำหลัก (RAM) จำนวน 1 GB ใช้แบตเตอรี่ชนิด Lithium Polymer ขนาดความจุ 3600 mAh มีการรับประกันเป็นระยะเวลา 2 ปี

View :1796

โลจิเทคส่งอุปกรณ์เสริมสำหรับ New iPad ลุยตลาด

May 9th, 2012 No comments

Solar Keyboard Folio และ Ultrathin Keyboard Cover ให้คุณได้สัมผัสสุดยอดประสบการณ์ในการใช้งาน iPad

โลจิเทค บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์ต่อพ่วงคอมพิวเตอร์ชั้นนำ วันนี้ประกาศเปิดตัวอุปกรณ์เสริมสองตัวใหม่ Logitech® Solar Keyboard Folio และ Logitech® Ultrathin Keyboard Cover คีย์บอร์ดคู่แท้สำหรับใช้กับ New iPad และ iPad 2 มอบความล้ำหน้าเหนือชั้นกว่าอุปกรณ์เสริมแบบเดิมๆ ด้วยการออกแบบที่ชาญฉลาดและให้การปกป้องเครื่อง iPad ที่ดีกว่า พร้อมปุ่มฟังก์ชันที่สามารถใช้งานได้ชั้นยอดแบบเต็มพิกัด


“iPad เจเนอเรชั่นใหม่และแอพพลิเคชันต่างๆ ของ iPad ได้รับการออกแบบเพื่อให้คุณสามารถควบคุมและสร้างสรรค์ได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขตัดต่อภาพถ่ายและภาพเคลื่อนไหว สร้างสรรค์เพลงหรือแม้กระทั่งเขียนนิยาย” อเล็กซิส ริชาร์ด ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ของโลจิเทคกล่าว พร้อมเสริมว่า “และเพื่อเติมเต็มความสมบูรณ์นี้ เคสพร้อมคีย์บอร์ดในตัวแบบใหม่ของโลจิเทคจึงได้รับการออกแบบอย่างชาญฉลาด และมาพร้อมกับรูปทรงที่เพรียวบาง แถมยังมีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ของคีย์บอร์ดที่ยาวนานขึ้น จึงมอบความสะดวกเพื่อให้คุณได้เพลิดเพลิน ปกป้องหน้าจอ และทำสิ่งอื่นๆ ได้อีกสารพันกับเครื่อง iPad ของคุณ”

เคสพร้อมคีย์บอร์ดในตัวแบบใหม่ทั้งสองรุ่นสำหรับเครื่อง iPad นี้เป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงชื่อเสียงที่ยาวนานของโลจิเทคในเรื่องของความมีคุณภาพระดับสูง ความน่าเชื่อถือ และการออกแบบรูปทรงที่เพรียวบาง จึงช่วยให้บริษัทคงความเป็นผู้ผลิตคีย์บอร์ดชั้นนำระดับโลกต่อไปได้

Logitech Solar Keyboard Folio หนึ่งในเคสพร้อมคีย์บอร์ดในตัวที่บางเฉียบที่สุดที่มีวางจำหน่ายอยู่ในตลาดในปัจจุบัน ให้การปกป้องเครื่อง iPad ทั้งด้านหน้าและด้านหลังอย่างมีสไตล์ และยังเพิ่มความสมบูรณ์แบบด้วยการเป็นคีย์บอร์ดบลูทูธในตัวซึ่งทำงานโดยอาศัยพลังแสง ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีแสงน้อย หรือแสงจากโคมไฟ ในร่มหรือกลางแจ้ง คีย์บอร์ดจะใช้แผงโซลาร์ในตัวเพื่อชาร์จไฟ แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานยาวนานสูงสุดถึงสองปี1 แม้ในสภาพแวดล้อมที่มืดสนิท พร้อมดีไซน์ที่บางมากเป็นพิเศษ

ไม่ว่าคุณจะต้องการพิมพ์อีเมลหรือดูวิดีโอ เคสพร้อมคีย์บอร์ดในตัวรุ่นนี้สามารถวางตั้งได้สองตำแหน่ง โดยจะทำหน้าที่ยึด iPad ไว้แทนตัวคุณในมุมที่เหมาะสมที่สุด วาง iPad ไว้ที่ตำแหน่งแรก จากนั้นคุณก็สามารถที่จะเพลิดเพลินกับการใช้งานคีย์บอร์ดได้อย่างสมบูรณ์แบบเมื่อคุณเริ่มลงมือพิมพ์ วาง iPad ไว้ที่ตำแหน่งที่สอง จากนั้นแถวที่หนึ่งของคีย์บอร์ดก็จะทำหน้าที่เป็นเสมือนเครื่องเล่นสื่อและตัวควบคุมระดับเสียงของคุณ


Logitech Ultrathin Keyboard Cover คู่แท้ที่สมบูรณ์แบบที่สุดสำหรับ iPad ของคุณจะคอยปกป้องหน้าจอ iPad ด้วยฝาอลูมิเนียมที่บางเฉียบและมีน้ำหนักเบา และยังทำหน้าที่เป็นคีย์บอร์ดในตัวที่จะเชื่อมต่อกับ iPad ของคุณ
ผ่านบลูทูธ คีย์บอร์ดรุ่นนี้คุณสมบัติคล้ายกับ Smart Cover โดยจะสามารถต่อเข้ากับ iPad ของคุณได้อย่างรวดเร็วและมั่นคงด้วยคลิปแม่เหล็ก ไม่ว่าคุณจะกำลังพิมพ์อีเมลหรือดูภาพเคลื่อนไหวอยู่ ฐานในตัวของคีย์บอร์ดตัวนี้ก็จะยึด iPad ของคุณไว้ในมุมที่ดีที่สุด ขณะที่อายุการใช้งานแบตเตอรี่ของคีย์บอร์ดตัวนี้ก็ยาวนานถึง 6 เดือน1 คุณจึงหมดห่วงและวางใจได้และยังมีเวลาในการพิมพ์เพิ่มมากขึ้น ฝาคีย์บอร์ดที่บางเฉียบมากเป็นพิเศษยังมีคุณสมบัติเปิด/ปิดทันที โดยจะปลุกเครื่อง iPad ของคุณโดยอัตโนมัติเมื่อคุณเปิดฝา และทำให้ iPad อยู่ในโหมดสแตนด์บายเมื่อคุณพับฝา

โลจิเทคยังยืนยันว่า Logitech Keyboard Case สำหรับ iPad 2 และ Logitech Tablet Keyboard สำหรับ iPad จากกลุ่มอุปกรณ์เสริมแท็บเล็ตปัจจุบันสามารถทำงานร่วมกับทั้ง iPad 2 และ New iPad ที่กำลังจะออกใหม่

Logitech Solar Keyboard Folio คาดว่าจะพร้อมจัดจำหน่ายในประเทศไทยประมาณเดือนมิถุนายน ศกนี้ ราคาแนะนำ 3,900 บาท ส่วน Logitech Ultrathin Keyboard Cover คาดว่าจะจัดจำหน่ายในประเทศไทยประมาณเดือนพฤษภาคม ศกนี้ ราคาแนะนำที่ 2,950 บาท ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม เชิญแวะชมที่ www.logitech.com

* 1 หากใช้งานคีย์บอร์ดไม่เกิน 2 ชั่วโมงต่อวัน

View :1342

คิงส์ตันเปิดตัวอัพเดทใหม่ล่าสุดสำหรับ Wi-Drive ให้ผู้ใช้เข้าถึงเว็บบราวเซอร์ได้จากอุปกรณ์Wi-Fi ทุกชนิด

May 9th, 2012 No comments

บริษัท คิงส์ตัน เทคโนโลยี ประเทศไทย ผู้ผลิตและพัฒนาหน่วยความจำรายใหญ่ของโลก เปิดตัวอัพเดทสำหรับ เพื่อการถ่ายโอนข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ Wi-Fi ทุกชนิดในแบบไร้สายผ่านเว็บบราวเซอร์โดยผู้ใช้ ในปัจจุบันสามารถดาวน์โหลดอัพเดทนี้มาใช้ได้ทันที ซึ่งฟีเจอร์ดังกล่าวจะรวมอยู่ใน ที่จะวางจำหน่ายนับจากนี้เป็นต้นไปอีกด้วยอัพเดทล่าสุดนี้เปิดโอกาสให้ผู้ใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่ชนิดต่างๆสามารถเข้าถึงและแบ่งปันคอนเทนต์บน ได้อย่างสะดวกและง่ายดายยิ่งขึ้น ทั้งนี้ จากคิงส์ตันยังมาพร้อมกับระบบเชื่อมต่อ Wi-Fiในตัว แบตเตอรี่ใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 4 ชั่วโมง และความจุสูงสุดถึง 64GB ภายใต้ขนาดกะทัดรัดพกพาสะดวก ให้ผู้ใช้สามารถแบ่งปันไฟล์กับอุปกรณ์ Wi-Fi ได้ทุกชนิดไม่ว่าจะเป็น Apple iPad, iPhone, iPod touch, Android และ Kindle Fire เป็นต้น

Wi Drive

นอกเหนือจากฟังก์ชั่นการเข้าถึงข้อมูลผ่านเว็บบราวเซอร์คิงส์ตันยังนำเสนอ App ล่าสุดพร้อมฟีเจอร์พิเศษอย่างWi-Drive App1สำหรับอุปกรณ์ Androidเพื่อการเข้าถึงและแบ่งปันข้อมูลได้อย่างหลากหลายและคล่องตัวยิ่งขึ้นอีกด้วย

ยิ่งไปกว่านั้นยังมีการปรับปรุงและแก้ไข App สำหรับอุปกรณ์ Apple และ Kindle Fire ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะมีการแจ้งเตือนอัพเดทแก่ผู้ใช้ Wi-Drive App สำหรับอุปกรณ์ดังกล่าวโดยอัตโนมัติอีกด้วย

ทั้งนี้ Wi-Drive App สำหรับ Android มีให้ดาวน์โหลดฟรีแล้วที่Google Play(https://play.google.com/store)และสำหรับอุปกรณ์ Kindle Fire และ Apple สามารถดาวน์โหลดได้ที่ Amazon Appstore for Android และ App Store ตามลำดับ

View :1382
Categories: Gadgets, Press/Release Tags: