Archive

Archive for May, 2012

ไอซีทีร่วมสรอ.เปิดคลาวด์ภาครัฐเวอร์ชันสมบูรณ์ ดึง 30 หน่วยงานรัฐประเดิม ระดมฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ เน็ตเวิร์ค ฯลฯ รองรับ มั่นใจระบบง่ายถึงยากเอาอยู่

May 3rd, 2012 No comments

พร้อมเจรจาสำนักงบประมาณหวังให้หน่วยงานรัฐขอใช้งบไอที ต้องพิจารณาสาธารณูปโภคส่วนกลางก่อน

น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยว่า ทางกระทรวงไอซีทีร่วมกับสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ หรือสรอ. ได้ร่วมเปิดตัวระบบ Government Cloud Service ในเวอร์ชันสมบูรณ์แบบครั้งแรก ถือเป็นการดำเนินการแบบเต็มตัว ทั้งทางด้านเทคโนโลยี แผนงานการบริการเต็มรูปแบบ การเพิ่มโครงสร้างสาธารณูปโภค งบประมาณ และการเข้าไปร่วมแก้ไขกฎระเบียบทางด้านการจัดซื้อจัดจ้าง กฎหมาย ให้รองรับมากที่สุด เพื่อนำไปสู่การสร้างความเข้าใจและเพิ่มปริมาณการให้บริการมากยิ่งขึ้นในปีต่อๆ ไป จนทำให้ระบบนี้กลายเป็นระบบหลักทางด้านไอทีของประเทศในอนาคตอันใกล้
โครงการนี้ได้เลือกแอพพลิเคชันจาก 30 หน่วยงานในการเข้าร่วม Government Cloud Service เป็นจำนวนที่สมเหตุสมผล ทั้งในเงื่อนของเวลา ความเชี่ยวชาญจากฝ่ายไอทีของสรอ.และฝ่ายไอทีของหน่วยงานนั้นๆ การติดตั้งเพิ่มเติมของโครงสร้างพื้นฐานและระบบต่างๆ ของระบบคลาวด์ การเลือกดาต้าเซ็นเตอร์รายอื่นๆ เข้ามาเป็นพันธมิตร ทั้งหมดจะนำไปสู่ความพร้อมก่อนที่จะเร่งเครื่องให้บริการมากกว่านี้ได้ในปีต่อๆ ไป

ภาพรวมที่จะได้เห็นในปีนี้ก็คือ จะมีแอพพลิเคชันใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยถูกพัฒนามาก่อนของหน่วยงานรัฐ จะถูกผลักดันขึ้นสู่ระบบคลาวด์ตั้งแต่แรกเริ่ม เพราะการเขียนแอพพลิเคชันนั้นรองรับอยู่แล้ว ขณะเดียวกันแอพพลิเคชันเดิมที่เคยทำงานอยู่แล้ว จะมีการทยอยนำเข้าสู่ระบบคลาวด์แบบค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งในกรณีต้องใช้เวลา และไม่กระทบกับการปฎิบัติงานเดิม ซึ่งคาดว่าระบบคลาวด์จะยังเป็นแค่ส่วนน้อยอยู่ แต่คาดว่าภายใน 5 ปีแอพพลิเคชันที่ทำงานผ่านระบบคลาวด์ของภาครัฐจะมีมากกว่า 50% และนั่นจะทำให้ลดการลงทุนทางด้านไอทีของภาครัฐไปได้จำนวนมาก

สำหรับเวอร์ชันทดลองเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ในครั้งนั้นได้สร้างปรากฎการณ์ใหม่ขึ้นในระบบไอทีราชการไทย มีการติดต่อเพื่อที่จะนำระบบแอพพลิเคชันต่างๆ ของแต่ละหน่วยงานมาเข้าโครงการ แต่เนื่องจากในเวอร์ชันทดลองนั้นทางสรอ.มีความสามารถเปิดรับในเบื้องต้นเพียงแค่ 10 ระบบเท่านั้น ประกอบด้วย สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือกกต., กรมปศุสัตว์, โครงการชัยพัฒนา, สำนักงานพัฒนาธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือสพธอ., กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย, กรมธนารักษ์, สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หรือสสวท., สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISDA, สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และกรมการพัฒนาชุมชน

และเมื่อทำการสำรวจการใช้งานจริง ผลสำรวจของสรอ. จาก 9 ใน 10 ของหน่วยงานที่เข้ามาใช้ระบบพบว่า คะแนนรวมความพึงพอใจเท่ากับ 69% แบ่งเป็น 1. ด้านคุณภาพบริการ คะแนนเฉลี่ย 78% ประเด็นที่ได้คะแนนสูงที่สุด คือ ความสะดวกรวดเร็วในการใช้งานบริการ 89% 2. การใช้งานบริการ Government Cloud คะแนนเฉลี่ย 73% ประเด็นที่ได้คะแนนสูงที่สุด คือ ความสะดวกในการใช้งานผ่านหน้าเว็บไซต์สำหรับจัดการ 78% และ ความสามารถดูแลและตรวจสอบการใช้งานของผู้ใช้บริการเว็บไซต์สำหรับจัดการ 78%
จากการสำรวจทั้งหมด ส่วนใหญ่ไม่เคยใช้บริการคลาวด์กับผู้ให้บริการรายอื่นมาก่อน มีเพียงรายเดียวที่เคยใช้บริการของ AMAZON EC2 โดยรายนี้ให้คะแนนสรอ. เท่ากับ 3 คะแนน และ AMAZON เท่ากับ 5 คะแนน ซึ่งทำให้เห็นว่าภาครัฐเองยังไม่มีความคุ้นเคยกับการใช้คลาวด์มาก่อน ดังนั้นจึงมีถึง 5 หน่วยงานที่ยังไม่แน่ใจว่าจะใช้บริการ Government Cloud Service ต่อไปหรือไม่ ส่วนหน่วยงานที่จะนำระบบขึ้นใช้บริการต่อไปจำนวน 4 หน่วยงานได้แก่ กรมธนารักษ์, สำนักส่งเสริมและพัฒนาการใช้ ICT, กรมป้องกันและบรรเทาฯ, สวทช. โดยหน่วยงานที่สนใจยังต้องการได้รับการสนับสนุนหลายด้านเกี่ยวกับการบริการคลาวด์ เช่น ความรู้ด้านรายละเอียดเกี่ยวกับการบริการทั้งหมดของคลาวด์ และการสนับสนุนด้านความช่วยเหลือในการถ่ายโอนข้อมูลและโอนย้ายระบบขึ้นใช้บริการคลาวด์
สรุปภาพรวมที่จะเห็นได้ในปีนี้ก็คือ ระบบ GIN เข้าสู่เวอร์ชัน 2.0, ระบบ Government Cloud Service ที่เริ่มใช้งานจริง, เกิดระบบ Smart Province รุ่นแรกๆ มีระบบ Application Market Place รองรับทั้งภาครัฐ ภาคการศึกษา และอื่นๆ เพื่อเป็นที่รองรับการพัฒนาแอพพลิเคชันและ Content ของประเทศ โดยมีระบบโทรคมนาคมที่ทันสมัยที่จะเริ่มมีการประมูลในปลายปีนี้มารองรับ จะทำให้ภาพไอทีของประเทศมีความเด่นชัดมากขึ้น และจะนำไปสู่การก้าวกระโดดในไม่ช้า

ดร.ศักดิ์ เสกขุนทด ผู้อำนวยการสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือสรอ. เปิดเผยว่า จากการที่สรอ.ได้ดำเนินการระบบ Government Cloud Service ในชั้นทดลอง และได้ข้อมูลความต้องการ และได้ประเมินระบบทั้งหมดออกมา เมื่อเข้าสู่ระบบจริงตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทางสรอ.ได้พัฒนาระบบคลาวด์ขึ้นมาให้เทียบกับมาตรฐานสากลมากขึ้น โดยได้เสริมตั้งแต่ระบบฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ เน็ตเวิร์ค ระบบรักษาความปลอดภัย และอื่นๆ เข้ามาอย่างมาก

ในส่วนของฮาร์ดแวร์นั้นมีการเพิ่มเติมเข้ามาอย่างมาก ตั้งแต่ระบบสภาพแวดล้อมใหม่ จากเดิมจะเน้นใช้ระบบภายในของสรอ.เอง ขณะนี้ได้กระจายเข้าใช้ใน IDC หรือศูนย์อินเทอร์เน็ตแหล่งต่างๆ ในประเทศมากขึ้น ดังนั้นฮาร์ดแวร์ที่ใส่ไปยังศูนย์เหล่านี้สรอ.ได้เพิ่มประสิทธิภาพ และมีความทันสมัย โดยในขั้นต้นมีการเพิ่มทั้งความเร็ว และความจุของระบบมากกว่า 2 เท่า

นอกจากนั้นแล้วทางสรอ.ยังได้วางสถาปัตยกรรมให้การเพิ่มความจุของฮาร์ดดิสก์ หรือความสามารถในการทำงานของระบบเพิ่มขึ้นตามความต้องการของผู้ใช้ได้ตลอดเวลา ซึ่งในชั้นนี้สรอ.ยังให้บริการเพียงแค่ IaaS หรือ Infrastructure as a Service หรือการทำให้หน่วยงายรัฐสามารถใช้โครงสร้างพื้นฐานทางอินเทอร์เน็ตได้ทุกที่ทุกเวลากับแอพพลิเคชันของตนเอง แต่ยังไม่ถึงขั้น SaaS หรือ Software as a Service ซึ่งเป็นมาตรฐานของระบบ Cloud Service ทั่วไป เนื่องจากทางสรอ.ยังไม่ได้ทำความตกลงกับหน่วยงานต่างๆ ที่เข้าร่วม โดยทั้งหมดต้องกำหนดมาตรฐานร่วมกัน ซึ่งคาดว่าเมื่อหน่วยงานรัฐมีความคุ้นเคยกับระบบ IaaS แล้วภายในปีนี้ ในปีหน้าสรอ.จะสามารถเริ่มต้นเข้าสู่ระบบ SaaS ได้

สำหรับแผนดำเนินการของ Government Cloud Service ในรุ่นนี้ทางสรอ.จะรับระบบของหน่วยงานเข้ามาดูแลประมาณ 30 ระบบ โดยเฉลี่ยจะมีเซิร์ฟเวอร์รองรับในแต่ละระบบประมาณ 3 เครื่อง ตามแผนที่วางไว้จะมีการขึ้นเซิร์ฟเวอร์ในแต่ละเดือนประมาณ 20 เครื่อง หรืออย่างน้อย 5 หน่วยงาน ซึ่งจะทำให้เครื่องเซิร์ฟเวอร์ที่ขึ้นกับระบบในปีนี้จะมีสูงถึง 80-100 เครื่องเลยทีเดียว

ปัจจุบันมีหน่วยงานที่แจ้งจะเข้าร่วมแล้วเกินกว่า 30 หน่วยงาน มากกว่าที่ทางสรอ.กำหนดเอาไว้ ดังนั้นหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกช่วงนี้จะเน้นรายที่นำเสนอเข้ามาก่อน และจะมีการพิจารณาถึงความพร้อมในการนำระบบขึ้นสู่อินเทอร์เน็ตของหน่วยงานนั้นๆ ซึ่งในขณะนี้การพิจารณาและการนำระบบขึ้นทั้งหมดเป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้ ส่วนรายที่พลาดจากปีงบประมาณนี้ ทางสรอ.ก็พร้อมจะให้คำปรึกษาในการเตรียมความพร้อมที่จะพัฒนาระบบให้สามารถขึ้นสู่คลาวด์ได้ในปีงบประมาณต่อๆ ไป

ส่วนระบบคลาวด์ในเวอร์ชันใหม่ของสรอ.ในครั้งนี้ มีตั้งแต่การมอบหมายให้ระบบคลาวด์ทำงานเป็น Backup Site หรือเป็นระบบสำรองของหน่วยงานทั้งหมด, การเป็น Web Hosting หรือการเป็นเซิร์ฟเวอร์หลักของเว็บไซต์หน่วยงานนั้นๆ, การสร้างระบบเฉพาะกิจเร่งด่วน ซึ่งเป็นระบบใหม่ที่ยังไม่เคยติดตั้งในหน่วยงานนั้นมาก่อน, การตั้งให้ระบบคลาวด์เป็นฐานข้อมูลหลักและสำรองของหน่วยงาน และสุดท้ายคือเป็นแอพพลิเคชันบนเว็บให้กับหน่วยงานต่างๆ ซึ่งระบบทั้งหมดมีทั้งความยาก ที่ซับซ้อนอย่างมาก เช่น การเป็น Backup Site ไปจนถึงระบบที่ง่ายๆ อย่างการเป็น Web Hosting ซึ่งการได้ดูแลทั้งหม

View :1193
Categories: Press/Release Tags:

เอชพี เปิดตัวโซลูชั่น Application Transformation ใหม่

May 2nd, 2012 No comments

มอบประสบการณ์การใช้งานที่เหนือกว่าให้กับองค์กรธุรกิจ ผนวกแอพพลิเคชั่นแบบเดิมเข้ากับแอพพลิเคชั่นระดับองค์กรสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่

เอชพี ประกาศเปิดตัวโซลูชั่น Application Transformation ใหม่ ช่วยองค์กรธุรกิจต่างๆ สร้างสุดยอดประสบการณ์การใช้งานให้กับลูกค้าของตน โดยผนวกรวมแอพพลิเคชั่นระดับองค์กรสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ให้เข้ากับการทำงานในสภาพแวดล้อมการประมวลผลแบบเดิม

การขยายตัวของการใช้สมาร์ทโฟนและแอพพลิเคชั่นสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้เปลี่ยนแปลงวิธีการที่องค์กรธุรกิจต่างๆ นำมาใช้สร้างคุณค่าและขับเคลื่อนธุรกิจของตนให้มีความแตกต่างและโดดเด่นเพื่อเพิ่มแต้มต่อในการแข่งขัน ทั้งนี้ การอยู่รอดทางเศรษฐกิจของธุรกิจต่างๆ สามารถวัดได้จากขีดความสามารถขององค์กรนั้นๆ ในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าและผู้บริโภค ที่ส่งผ่านมาทางแอพพลิเคชั่นต่างๆ ขององค์กร รวมถึงแอพพลิเคชั่นโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์ และลิงค์อิน (LinkedIn)

พอร์ทโฟลิโอของโซลูชั่น HP Application Transformation มีการพัฒนาต่อยอดขึ้นมาใหม่ โดยมุ่งเน้นในการช่วยองค์กรธุรกิจออกแบบ สร้าง และบริหารแอพพลิเคชั่นที่รองรับการติดต่อสื่อสารระหว่างผู้คนและองค์กรต่างๆ โดยสามารถใช้สภาพแวดล้อมการทำงานแบบเดิมได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นให้กับลูกค้า

มร. ไมค์ อึ้ง ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจซอฟต์แวร์ เอชพี ประจำภูมิภาคเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า “แอพพลิเคชั่นสำหรับองค์กรรุ่นใหม่และล้ำสมัยต้องการระบบการออกแบบและทดสอบที่แตกต่างจากแอพพลิเคชั่นแบบเดิม ทั้งนี้ เอชพีพร้อมสร้างความมั่นใจว่า แอพพลิเคชั่นสำหรับองค์กรที่นำเสนอโดยเอชพีมีคุณภาพสูง มีความพร้อมในการใช้งาน และมีความสามารถในการปรับขยายได้สูงสุด โดยจะพลิกโฉมประสบการณ์การใช้งานของลูกค้าสู่มาตรฐานใหม่ที่ดีกว่า”

ผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ใหม่ รองรับการบริหารจัดการไอทีและการทำงานร่วมกันแบบโซเชี่ยล

โซลูชั่น HP Application Lifecycle Intelligence (ALI) รุ่นใหม่ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกันของทีมต่างๆ พร้อมทั้งลดรอบเวลาการทำงาน โดยสามารถเข้าดูและติดตามการทำงานแบบเรียลไทม์ภายในกระบวนการทำงานของแอพพลิเคชั่นทั้งหมด

เอชพี ผนึกกำลังกับบริษัท เพอร์เฟคโต โมบายล์ (Perfecto Mobile) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการทดสอบโซลูชั่นและการทำงานอัตโนมัติบนเทคโนโลยีคลาวด์ ในการปรับขยายโซลูชั่น HP Unified Functional Testing ซึ่งเป็นโซลูชั่นภายใต้ระบบ IT Performance Suite เพื่อรองรับการใช้แอพพลิเคชั่นแบบมัลติฟังก์ชั่น โดยเปิดให้นักพัฒนาระบบเลียนแบบและทดสอบประสบการณ์การใช้แอพพลิเคชั่นสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่บนทั่วทุกอุปกรณ์และเครือข่ายการสื่อสาร

นอกจากนี้ เอชพี ยังมีผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ใหม่ที่สนับสนุนการพัฒนาแอพพลิเคชั่นสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่และขับเคลื่อนการทำงานร่วมกันแบบโซเชี่ยลให้มีความสะดวกและคล่องตัวยิ่งขึ้น ดังนี้

· โซลูชั่น HP Anywhere เพิ่มกำลังการผลิตและช่วยให้องค์กรตัดสินใจได้รวดเร็วยิ่งขึ้น สามารถบริหารจัดการระบบไอทีได้ทุกที่แม้ในระหว่างเดินทาง แอพพลิเคชั่นสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ใหม่ทำงานได้หลากหลายประเภท ทั้งการจัดการคำขอข้อมูลการดำเนินงาน การติดตามสภาวะที่ผิดปกติ การติดตามสถานะของบริการ และการรวบรวมดัชนีวัดประสิทธิผล (Executive Scorecard)

· โซลูชั่น HP Enterprise Collaboration เพิ่มประสิทธิภาพในการแลกเปลี่ยนความรู้และเร่งการพัฒนาแอพพลิเคชั่นให้เร็วขึ้นในสภาพแวดล้อมการทำงานร่วมกันแบบโซเชี่ยล (social collaboration) ที่สนับสนุนการสนทนาหารือเพื่อติดตามกิจกรรมและงานย้อนหลังต่างๆ ได้แบบเรียลไทม์

บริการใหม่ๆ รองรับการออกแบบ ใช้งาน และจัดการแอพพลิเคชั่นสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่

เอชพีนำเสนอการเพิ่มประสิทธิภาพของพอร์ทโฟลิโอโซลูชั่นซอฟต์แวร์ HP Application Transformation ด้วยโซลูชั่นบริการใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการแอพพลิเคชั่นสำหรับองค์กรที่เปี่ยมคุณภาพ สำหรับพอร์ทโฟลิโอโซลูชั่น HP Mobile Application Services ประกอบด้วยโซลูชั่นที่โดดเด่น ดังนี้

· โซลูชั่นบริการ HP Testing for Mobility Services เร่งเวลาในการจัดส่งแอพพลิเคชั่นสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ให้ออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้น โดยลดรอบการทดสอบและสนับสนุนการทดสอบบนอุปกรณ์ต่างๆ ให้ทำงานอย่างอัตโนมัติ โดยใช้โซลูชั่นชั้นนำจาก HP Software และ Perfecto Mobile

· โซลูชั่นบริการ HP Enterprise Mobility Services for SAP® Applications เพิ่มประสิทธิภาพของพนักงาน สนับสนุนผู้ใช้งานแบบเคลื่อนที่ให้ได้รับข้อมูลจากแอพพลิเคชั่น SAP ที่มีความสำคัญระดับ mission-critical ทั้งนี้ เอชพีมีการจัดทำโซลูชั่นระดับองค์กรสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่อย่างครบวงจร โดยมีการขยายสมรรถนะการทำงานให้รองรับแพลทฟอร์มเทคโนโลยี SAP NetWeaver® และ Sybase® Unwired เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าใช้ข้อมูลสำคัญๆ ระดับองค์กรได้อย่างสะดวกง่ายดาย

นอกจากนี้ เอชพียังจัดเวิร์คช้อปเรื่อง HP Applications Transformation Experience ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของการกำหนดกลยุทธ์การพัฒนาแอพพลิเคชั่น เพื่อเพิ่มสมรรถนะในการนำแอพพลิเคชั่นระดับองค์กรสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่และเทคโนโลยีการประมวลผลแบบคลาวด์มาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น

เอชพี มีกำหนดจัดงาน HP Discover ระหว่างวันที่ 4 – 7 มิถุนายน 2555 ณ เมืองลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา

View :1292
Categories: Press/Release Tags:

เอชพีผนึกกำลังกับสมาคม Dscoop เพื่อขยายการเติบโตทางธุรกิจให้กับผู้ให้บริการด้านการพิมพ์

May 2nd, 2012 No comments

วิทยากรผู้เชี่ยวชาญในแวดวงอุตสาหกรรมทั่วโลกกว่า 30 ท่าน และตัวแทนกว่า 850 คนรวมตัวกันในงาน Dscoop at drupa 2012 ในเยอรมนี

มร.กิโด แวน ปาร์ค รองประธาน ฝ่ายธุรกิจกราฟิกโซลูชั่นส์ กลุ่มธุรกิจการพิมพ์และเพอร์ซันแนลซิสเต็ม เอชพี ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น


โอกาสทองของผู้ให้บริการด้านการพิมพ์ (Print Service Providers: PSPs) จากภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิกและญี่ปุ่นที่จะได้เรียนรู้วิธีการคว้าโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ เพื่อเป็นประโยชน์สูงสุดในช่วงการเปลี่ยนผ่านจากระบบการพิมพ์แบบอะนาล็อกไปสู่ระบบการพิมพ์แบบดิจิตอลไปกับเอชพีที่งาน Dscoop at drupa 2012 ที่จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 29 เมษายน – 4 พฤษภาคม 2555 ในเมืองบอนน์ ประเทศเยอรมนี

จากความร่วมมือระหว่างสมาคม Dscoop และเอชพี ครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่ตัวแทนของสมาคม Dscoop จากทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และญี่ปุ่นจะมาเข้าร่วมงานประชุมระดับโลกของ Dscoop ที่จัดขึ้นพร้อมกับมหกรรมแสดงสินค้าและนวัตกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในแวดวงอุตสาหกรรมการพิมพ์

สมาคม Digital Solutions Cooperative (Dscoop) เป็นสมาคมดำเนินกิจการเองโดยอิสระ และก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2548 สำหรับลูกค้าในธุรกิจกราฟฟิกของเอชพีในอเมริกาเหนือ ปัจจุบันได้ขยายตัวครอบคลุมสมาชิกในภูมิภาคต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก/ญี่ปุ่น ยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา

มร.กิโด แวน ปาร์ค รองประธาน ฝ่ายธุรกิจกราฟิกโซลูชั่นส์ กลุ่มธุรกิจการพิมพ์และเพอร์ซันแนลซิสเต็ม เอชพี ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น กล่าวว่า “เรามีความมุ่งมั่นอย่างแท้จริงที่จะช่วยให้เหล่าผู้ให้บริการด้านการพิมพ์สามารถ ตักตวงโอกาสใหม่ๆ ในการเติบโตทางธุรกิจ พร้อมมอบมูลค่าที่ดียิ่งขึ้นแก่ลูกค้า นอกจากนี้ ช่วงเวลาของการจัดงาน Dscoop at drupa 2012 นับว่าเป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุด ตัวแทนผู้เข้าร่วมสามารถใช้ประโยชน์สูงสุดจากชุดผลิตภัณฑ์โซลูชั่นการพิมพ์กราฟฟิกอาร์ตที่ครบครันมากที่สุดในแวดวงอุตสาหกรรม พร้อมทั้งมีโอกาสในการสร้างเครือข่าย และร่วมแบ่งปันประสบการณ์ทางธุรกิจพร้อมกับเพื่อนร่วมอาชีพจากทั่วโลก”

เมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เอชพีได้เปิดตัว10 โซลูชั่นใหม่ด้านการพิมพ์ในระบบดิจิตอล ที่ตอบโจทย์และตรงใจ ของตลาดการพิมพ์ออฟเซ็ตได้อย่างตรงจุด เพื่อเร่งการเปลี่ยนผ่านของอุตสหกรรมการพิมพ์จากระบบอะนาล็อกไปสู่การพิมพ์ระบบดิจิตอล

ไฮไลท์ของงงาน Dscoop at drupa 2012
งานนี้จัดขึ้นเป็นเวลา 6 วันในภายใต้แนวคิด “Time to Grow Your Business” โดยผู้เข้าร่วมงานจะสามารถเลือกฟังและชมหาประสบการณ์ส่วนตัวของตัวเองได้ในงาน Dscoop at drupa 2012 นับตั้งแต่การเลือกสถานที่ที่จะไปเยี่ยมชมธุรกิจการพิมพ์ดิจิตอลของลูกค้าที่ประสบความสำเร็จ การเข้าร่วมการประชุมหลัก และการเลือกสัมมนาย่อยกว่า 20 สัมมนาภายในงานที่สัมพันธ์กับความสนใจทางด้านธุรกิจของตนเอง

เพื่อช่วยให้เหล่าผู้ให้บริการงานพิมพ์ได้รับประโยชน์ สามารถแข่งขันได้ และ ได้เปรียบในการเปลี่ยนโฉมธุรกิจของตนเอง ที่ไฮไลท์ของงานครอบคลุมไปถึง

การอภิปรายกลุ่มในหัวข้อ
· “ถึงเวลาของการเติบโตในธุรกิจของคุณ” – ว่าด้วยเรื่องนวัตกรรมและ การตัดสินใจ” (“Time to Grow Your Business” – About Innovation and Decision Making”
· “เคล็ดลับการขายงานพิมพ์ดิจิตอลให้กับบริษัทผู้พิมพ์โฆษณา” (How to sell digital printing services to publishers”)
· “เส้นทางแห่งความสำเร็จที่แตกต่างกัน กลยุทธ์เพื่อการเติบโตทางธุรกิจ” (”Different Paths for Success, Strategies for Business Growth”)

รอบการนำเสนอผลงาน รวมไปถึง
· “การจัดการช่วงการเปลี่ยนแปลงจากระบบอ็อฟเซทไปสู่การระบบดิจิตอลในการพิมพ์เชิงพาณิชย์ทั่วไป” (“Managing the transition from Litho to Digital in General Commercial Printing”) (วุฒิสมาชิกปีเตอร์ ซอมเมอร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีแลนเดอร์ เยอรมนี และ แกรี่ พีลลิ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรีซิสชั่น พริ้นติ้ง)
· “การรักษาความปลอดภัยของแบรนด์ในป้ายฉลากและบรรจุภัณฑ์สินค้า” “Brand Security in Labels and Packaging” (คริสเตียน เมนกอน ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ของเอชพี อินดิโก และ มาร์ค จาคอบเซ่น สถาปนิกระบบเครือข่าย เอชพี ไอร์แลนด์)
· “Wide Horizons – วิวัฒนาการของแอพพลิเคชั่นสำหรับการพิมพ์หน้ากว้าง” “Wide Horizons – Evolving Applications For Wide-Format Printing” (บาร์นีย์ คอกซ์ ที่ปรึกษาอาวุโส อินโฟเทรนด์ส์ ยูเปียน ออน ดีมานด์ พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง เซอร์วิสเซส)

นอกจากนี้ ตัวแทนที่ร่วมงานยังมีโอกาสได้เลือกเยี่ยมชมบริษัทของลูกค้า 13 แห่งทั่วยุโรป โดยจะได้ทราบเกียวกับการดำเนินธุรกิจในเชิงลึกของลูกค้า ตามความสนใจทางธุรกิจของตนเอง บริษัทดังกล่าวนี้ ยังรวมไปถึง
· Jeppesen บริษัทโบอิ้งที่ให้ข้อมูลด้านการเดินทาง โซลูชั่นด้าน การบริหารจัดการ การฝึกอบรมด้านผลิตภัณฑ์และการบริการกับสายการบิน
· Elanders บริษัทด้านการพิมพ์ระดับโลกที่ผลิตหนังสือและนิตยสาร ผลิตภัณฑ์ด้านภาพถ่าย บรรรจุภัณฑ์ ข้อมูลและสื่อด้านการตลาด รวมทั้งคู่มือและข้อมูลผลิตภัณฑ์
· Vila Etiketten เป็นหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตป้ายฉลากที่เติบโตเร็วที่สุดของเนเธอร์แลนด์ โดยมีลูกค้ากว่า 2,000 ราย ซึ่งรวมถึงแบรนด์ขนาดใหญ่ ที่มีชื่อเสียง ผู้ค้าปลีก และผู้พิมพ์โฆษณาในประเทศ

“งาน Dscoop at drupa 2012 เป็นงานที่รวมเอาเจ้าของธุรกิจด้านกราฟฟิกอาร์ต และเหล่ามืออาชีพทางด้านเทคนิคจากทั่วโลกมาไว้ด้วยกัน และถือเป็นเครือข่ายและเป็นฐานทางด้านการศึกษาที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในแวดวงอุตสาหกรรม เรามีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้เป็นเจ้าภาพจัดงานนี้ขึ้นก่อนที่งาน drupa 2012 จะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ การเข้าร่วมงาน Dscoop at drupa 2012 คณะผู้เข้าร่วมยังจะได้รับประโยชน์เพิมเติ่มเพื่อนำไปต่อยอดความรู้ สร้างพันธมิตร และความสัมพันธ์กันก่อนที่งานมหกรรมการพิมพ์และการพิมพ์โฆษณาที่ใหญ่ที่สุดในโลกจะเริ่มขึ้น” เดวิด มินเน็ตต์ ประธานคณะกรรมการอำนวยการ ของสมาคม Dscoop เอเชียกล่าว

นอกจากนี้ยังจะมีการประกาศผลผู้ชนะรางวัล Asia Pacific and Japan (APJ) HP Indigo Digital Print Awards 2012 ปีที่ 5 รางวัลดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อเชิดชูความสำเร็จและนวัตกรรมอันโดดเด่นในอุตสาหกรรมการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ โดยครอบคลุม 15 ประเภทรางวัล รวมไปถึง การพิมพ์สมุดภาพ (Photo Books) การพิมพ์เชิงพาณิชย์ทั่วไป การพิมพ์สื่อโฆษณาทางไปรษณีย์ (ไดเร็คเมลล์) และ ทรานสโปรโมชั่น ไปจนถึงการพิมพ์บรรจุภัณฑ์ชนิดยืดหยุ่น (Flexible Packaging)

ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับโปรแกรมงาน และการลงทะเบียนของงาน Dscoop at drupa 2012 สามารถเข้าชมได้ที่ http://www.hpindigo-events.com/Dscoop-at-drupa/

เอชพีจะออกบูธในงาน drupa 2012 ตั้งแต่วันที่ 3-16 พฤษภาคมนี้ ในเมืองดูสเซลดอร์ฟ ประเทศเยอรมนี โดยจะแสดงชุดผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งหมด โซลูชั่นเวิร์กโฟลว์ใหม่ของการพิมพ์ระบบดิจิตอล การพัฒนาธุรกิจทรัพยากร และทางเลือกด้านการเงินที่จะช่วยให้เหล่าผู้ให้บริการงานพิมพ์สามารถบรรลุเป้าหมายในการเติบโตทางธุรกิจอย่างมีกำไร

View :1624
Categories: Press/Release Tags:

ทรูมูฟ เอช มอบสิทธิพิเศษให้ลูกค้า The New iPad ที่ทรูช็อปทั่วประเทศ

May 2nd, 2012 No comments

ลูกค้าทรูการ์ดรับส่วนลดค่าเครื่อง 2,000 บาท (ทุกรุ่น) ผ่อน 0% นาน 10 เดือน

ทรูมูฟ เอช นำโดย นายอติรุฒม์ โตทวีแสนสุข กรรมการผู้จัดการ ธุรกิจโมบายล์ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น พร้อมคณะผู้บริหาร ประกาศศักดาผู้นำบริการ 3G และผู้จำหน่าย Gadget สุดล้ำของ Apple ตัวจริงเสียงจริง จัดงานจำหน่าย The New iPad ในไทยอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง มอบอิสระตามสไตล์ FreeYou ที่เหนือกว่าทั้งคุณภาพเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงไร้สาย HSPA+ ด้วยความเร็วสูงสุด 42 Mbps* ที่ใช้ได้จริงวันนี้ ครอบคลุมครบ 77 จังหวัด 843 อำเภอ 5,158 ตำบล และบริการ WiFi ความเร็วสูงสุด 100 Mbps* ครอบคลุม 100,000 จุดในไทยกลางปีนี้ และมากกว่า 200,000 จุดในต่างประเทศ เต็มอิ่มกับหลากหลายเอ็กซ์คลูซีฟไลฟ์สไตล์คอนเทนต์ระดับโลกคุณภาพระดับ HD จาก H TV และ H MUSIC ที่ให้ทุกประสบการณ์ความบันเทิงตามติดไปทุกที่ โดยทรูมูฟ เอช เปิดจำหน่ายล็อตแรกในเวลา 0.00 น. เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2555 ณ ทรู สเตเดี้ยม สยามพารากอน

นอกจากนี้ ทรูมูฟ เอช ยังมอบสิทธิพิเศษให้เป็นเจ้าของ The New iPad ได้ที่ร้านทรูช็อป ทั่วประเทศ ดังนี้

· สำหรับผู้ถือบัตรทรูการ์ด รับส่วนลดค่าเครื่อง 2,000 บาท พร้อมผ่อน 0% นาน 10 เดือน ผ่านบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ หรือผ่อนสบายๆ นานสูงสุด 24 เดือน ผ่านบัตรเครดิตซิตี้แบงค์เรดดี้เครดิต เมื่อซื้อเครื่องพร้อมจดทะเบียนรายเดือนเบอร์ใหม่และสมัครแพ็กเกจ iPad หรือ Net(i) แพ็กเกจใดก็ได้ และใช้บริการนาน 3 เดือนต่อเนื่องกัน และพิเศษ! รับส่วนลดค่าบริการรายเดือน 50% นาน 4 เดือน เมื่อสมัครแพ็กเกจ Net(i) 899

· สำหรับลูกค้าที่ซื้อเครื่องพร้อมสมัครแพ็กเกจ iPad หรือ Net(i) รับสิทธิ์ผ่อน 0% นาน 10 เดือน ผ่านบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ หรือผ่อนสบายๆ นาน 24 เดือน ผ่านบัตรซิตี้แบงค์เรดดี้เครดิต และพิเศษ! รับส่วนลดค่าบริการรายเดือน 50% นาน 4 เดือน เมื่อสมัครแพ็กเกจ Net(i) 899

· สำหรับลูกค้าที่ซื้อเครื่องเปล่า รับสิทธิ์ผ่อน 0% นาน 10 เดือน ผ่านบัตรเครดิตซิตี้แบงค์ หรือผ่อน 0% นาน 6 เดือน ผ่านบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ

ผู้สนใจสามารถซื้อ The New iPad พร้อมรับสิทธิพิเศษจากทรูมูฟ เอช ได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 พฤษภาคม 2555 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.truemove-h.com ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ iPad สามารถค้นหาได้ที่ www.apple.com/ipad

* ความเร็วในการใช้บริการ 3G+ ด้วยเทคโนโลยี HSPA+ และ WiFi ขึ้นอยู่กับปริมาณผู้ใช้งาน ณ จุดที่ใช้งานและอุปกรณ์ที่รองรับ

View :1817
Categories: Press/Release Tags:

ฟูจิตสึไลฟ์บุ๊ก ไลน์ใหม่เปิดตัว 2 รุ่นแรก พร้อมขุมพลังอินเทล เจนฯ 3

May 2nd, 2012 No comments

ฟูจิตสึเปิดตัวไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ลุยตลาดปี 2555 ที่ออกแบบยึดหลักปรัชญาญี่ปุ่น “ทาคูมิ” ที่ผสมผสานทั้งความงามและความลงตัวด้านฟังก์ชั่นการใช้งาน พร้อมขุมพลังใหม่จากอินเทล เจนเนอเรชั่น 3 ล่าสุดเปิดตัวไลฟ์บุ๊ก 2 รุ่นแรกเจาะตลาดไทย คือ Fujitsu LIFEBOOK LH532 ที่มาพร้อมกับสีสันสไตล์สุดล้ำ ด้วยหน้าจอ 14 นิ้ว และ Fujitsu LIFEBOOK AH532 ทางเลือกใหม่ทดแทนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะหน้าจอ กับขนาดจอ 15.6 นิ้ว

นายเชาวนะ สุนทรพฤกษ์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท ฟูจิตสึ พีซี เอเชีย แปซิฟิก จำกัด เปิดเผยว่าในปี 2555 นี้ ทางฟูจิตสึเตรียมส่งไลน์ผลิตภัณฑ์ฟูจิตสึไลฟ์บุ๊กรุ่นใหม่ลงตลาดประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยไลฟ์บุ๊กรุ่นใหม่ได้รับการออกแบบตามปรัชญาญี่ปุ่น “ทาคูมิ” ซึ่งสะท้อนถึงเอกลักษณ์อันโดดเด่น มีสไตล์เป็นของตนเอง รวมถึงประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยม จึงตอบสนองได้ทั้งด้านการใช้งานและความบันเทิงที่เหมาะสำหรับทุกไลฟ์สไตล์

“ฟูจิตสึมีความภูมิใจในการเป็นบริษัทแบรนด์ญี่ปุ่นที่เป็นที่รู้จักและยอมรับไปทั่วโลกในเรื่องการสร้างสรรค์เครื่องพีซี ที่เต็มไปด้วยคุณภาพ รวมถึงเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยมากกว่า 30 ปี” นายเชาวนะ กล่าว

ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์ไลฟ์บุ๊กใหม่ของฟูจิตสึที่ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิดตามปรัชญา “ทาคูมิ” จะประกอบด้วยสิ่งสำคัญ 4 ประการ คือ 1. The Infinity Mark สัญลักษณ์ของความเป็นเลิศและนวัตกรรม 2. F-Line ขอบของแป้นพิมพ์คีย์บอร์ด ที่แสดงให้เห็นถึงฝืมือและความใส่ใจในทุกรายละเอียด 3. Zen-like Rounded Profile เส้นโค้งที่สะท้อนถึงความเป็น “เซน” ซึ่งเน้นความเรียบง่ายและความเป็นเลิศด้านคุณภาพ และ 4. User-Centric Shared Details สื่อถึงการออกแบบที่คำนึงถึงผู้ใช้งานเป็นหลัก ลงลึกในทุกรายละเอียดเพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับความสะดวกสบายที่สุด และสะท้อนถึงความคลาสสิกอย่างหรูหรา

นายเชาวนะ กล่าวว่าฟูจิตสึได้มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ไลฟ์บุ๊ก 2 รุ่นล่าสุดสู่ตลาดเมืองไทย ได้แก่ Fujitsu LIFEBOOK LH532 ที่มาพร้อมกับสีสันสไตล์สุดล้ำ และ Fujitsu LIFEBOOK AH532 ทางเลือกใหม่ทดแทนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ โดยทั้ง 2 รุ่นใหม่ได้รับการออกแบบตามแบบฉบับของปรัชญา “ทาคูมิ”

สำหรับ Fujitsu LIFEBOOK LH532 เน้นการออกแบบ “น้อยแต่มาก” กับขุมพลังอินเทลคอร์โปรเซสเซอร์ เจเนอเรชั่น 3 การ์ดจอ NVIDIA® ที่มาพร้อมกับ 2GB VRAM และ DTS Boost™ เต็มประสิทธิภาพเหนือระดับทั้งด้านภาพและเสียง ตัวเครื่องออกแบบมาอย่างสวยงามตามแบบฉบับของปรัชญา “ทาคูมิ” ด้วยน้ำหนักเพียง 2.1 กิโลกรัมและ คีย์บอร์ด F-line ที่สามารถกันน้ำได้ ทัชแพดทรงมนเน้นความสะดวกสบายในการใช้งาน มีสีสันให้เลือกระหว่างสีดำประกายและสีแดงการ์เน็ตเสมือนตัวเครื่องถูกหุ้มด้วยกำมะหยี่ชั้นดี

Fujitsu LIFEBOOK LH532 ยังมาพร้อมกับกล้องความละเอียดสูงที่สามารถตรวจจับใบหน้าของผู้ใช้งาน และสั่งงานให้เครื่องหรือโปรแกรมที่เปิดใช้งานอยู่หยุดพักเมื่อผู้ใช้งานไม่ได้อยู่หน้าเครื่อง รวมถึงคุณสมบัติ USB Anytime Charge ที่ผู้ใช้งานสามารถชาร์จอุปกรณ์ภายนอกต่างๆได้ทุกที่ทุกเวลา แม้ว่าเครื่องจะปิดอยู่ก็ตาม

ยิ่งไปกว่านั้นทางฟูจิตสึได้วางจำหน่าย Fujitsu LIFEBOOK LH532 AP คือรุ่น Limited Edition ที่ยังคงคุณสมบัติอันโดดเด่นเช่นเดียวกันกับไลฟ์บุ๊ก LH532 ด้วยการเพิ่ม 4 สีสันสดใสเหมาะกับรสนิยม ได้แก่ สีดำประกาย สีแดงทับทิม สีม่วงลาเวนเดอร์ และสีดำเนื้อแมตต์ โดย Fujitsu LIFEBOOK LH532 AP มีวางจำหน่ายเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเท่านั้น

ส่วน Fujitsu LIFEBOOK AH532 เป็นโน้ตบุ๊กทางเลือกใหม่ทดแทนเครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะที่ดีที่สุด โดยมาพร้อมกับอินเทลคอร์โปรเซสเซอร์ เจเนอเรชั่น 3 ที่อัดแน่นด้วยโมดูลหน่วยความจำความเร็วสูง 1600MHZ เพื่อใช้ในการประมวลผล ไร้การสะดุดแม้จะเปิดใช้หลายโปรแกรมพร้อมๆ กัน นอกจากนี้ยังขับเคลื่อนด้วยการ์ดจอ NVIDIA® GeForce GT620M ที่มาพร้อมกับ 2GB VRAM ด้วยขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว แสดงผลแบบ SuperFine High Definition TFT back-light LED wide screen เต็มอิ่มกับเสียงทรงพลังด้วย DTS Boost™ ที่ให้คุณภาพด้านภาพและเสียงเสมือนอยู่ในโรงภาพยนตร์

Fujitsu LIFEBOOK AH532 ยังมี Modular bay device ที่สนับสนุน Dual Layer DVD Super Multi Writer และ Dual Layer Blu-Ray ทำให้ผู้ใช้งานสามารถชมภาพยนตร์จากแผ่น Blu-Ray บนเครื่อง Fujitsu LIFEBOOK AH532 ได้ อีกทั้งยังสนับสนุน CD-R และ CDR-W เพื่อความสะดวกสบายในการจัดเก็บข้อมูล

นอกจากนี้ Fujitsu LIFEBOOK AH532 นำเอาปรัชญา “ทาคูมิ” เป็นหลักในการออกแบบ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ง่ายและสะดวกสบายแก่ผู้เป็นเจ้าของเครื่อง โดย Fujitsu LIFEBOOK AH532 มาพร้อมกับคุณสมบัติของคีย์บอร์ดกันน้ำ แบบ full-sized พร้อมกับแป้น numeric pad เพิ่มความสะดวกสำหรับการเล่นเกมส์และการพิมพ์งานให้รวดเร็ว Fujitsu LIFEBOOK AH532 มีความหนาเพียง 36.5 มิลลิเมตร และหนักเพียง 2.4 กิโลกรัมเท่านั้น

นอกจากนี้ Fujitsu LIFEBOOK AH532 ยังเป็นอุปกรณ์แบบ all-in-one ที่มาพร้อมกับกล้องความละเอียดสูง ดิจิตอลไมโครโฟน และลำโพงแบบ stereo รวมทั้ง Bluetooth® v4.0 พอร์ต USB 3.0 ถึง 3 พอร์ต และ 1 พอร์ตแบบ 2.0 พอร์ต HDMI และ การเชื่อมต่อไร้สาย 802.11n จึงถือว่า Fujitsu LIFEBOOK AH532 เป็นอุปกรณ์เชื่อมต่อที่สะดวกสบายทั้งภายในบ้านและที่สำนักงาน Fujitsu LIFEBOOK AH532 จึงเป็นทางเลือกใหม่ขององค์กรที่กำลังมองหาโน้ตบุ๊กที่มีคุณสมบัติเหมือนเครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ

ฟูจิตสึยึดมั่นที่จะส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัยสูงให้แก่ผู้บริโภคด้วยการปฏิบัติตามกฎของ European Union’s Restriction of Hazardous Substances directive (RoHS) ที่ฟูจิตสึนำมาใช้กับผลิตภัณฑ์ทุกชนิด นอกจากนี้ฟูจิตสึยังได้ตั้งข้อปฏิบัติที่เกินกว่ามาตรฐานที่ RoHs กำหนดไว้ เพื่อประโยชน์ของลูกค้าของฟูจิตสึอย่างแท้จริง และเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น ฟูจิตสึได้ปฏิบัติตามแนวคิดเรื่องเทคโนโลยีสีเขียวอย่างเคร่งครัด โดยการผลิตเครื่องที่ประหยัดพลังงาน ฟูจิตสึยังได้เข้าร่วมขบวนการต่อสู้เพื่อรักษ์โลกโดยการเป็นสมาชิกของ Climate Servers อีกด้วย

View :1823

www.hereilike.com “ที่ที่ใช่ เทรนด์ที่ชอบ โปรโมชั่นโดนๆ”

May 2nd, 2012 No comments


บริษัท โซเชียล ซินเนอจี มีเดีย จำกัด ดำเนินธุรกิจด้านสื่อประชาสัมพันธ์ออนไลน์ เฮียร์ ไอ ไลค์ ดอท คอม (www.hereilike.com) พร้อมแล้วที่จะประกาศเปิดตัว เฮียร์ ไอ ไลค์ ดอท คอม แหล่งรวบรวมข้อมูลข่าวสารที่ดีที่สุดเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ของวัยรุ่นไม่ว่าจะเป็น แฟชั่น ร้านอาหาร การศึกษา ความงาม รวมถึง Gadget เทคโนโลยีต่างๆ และข่าวสารความบันเทิงที่นำเทรนด์ก่อนใคร พร้อมด้วยกิจกรรม เกมสนุกๆ และโปรโมชั่นพิเศษสำหรับสมาชิกด้วยคอนเซ็ปต์ “ที่ที่ใช่ เทรนด์ที่ชอบ โปรโมชั่นโดนๆ” เน้นการสร้างสังคม Online ผ่าน Social Network อีกทั้งเป็นตัวกลางในการสื่อสาร ที่เปรียบเสมือนเป็นตัวแทนในการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ โปรโมท รวมถึงการมอบบริการต่างๆ ให้แก่เจ้าของธุรกิจให้สามารถเชื่อมถึงกลุ่มเป้าหมายในแหล่งสุดโปรดนั้นๆได้อย่างง่ายดาย

View :1467
Categories: Press/Release Tags:

โนเกียยกทัพ Nokia Lumia สมาร์ทโฟนบนระบบปฏิบัติการ Windows Phone บุกตลาดไทย

May 2nd, 2012 No comments

โนเกียยกทัพ Nokia Lumia สมาร์ทโฟนบนระบบปฏิบัติการ Windows Phone ลุยตลาดในประเทศไทยพร้อมกัน 4 รุ่น ได้แก่ Nokia Lumia 900 ที่กวาดรางวัลมาแล้วทั่วโลก Nokia Lumia 800 สมาร์ทโฟนเพื่อสังคมออนไลน์ดีไซน์โดดเด่น Nokia Lumia 710 สมาร์ทโฟนโดนใจ เปลี่ยนฝาหลังได้ และ Nokia Lumia 610 สมาร์ทโฟนราคาย่อมเยา ตอบสนองกลุ่มผู้บริโภคที่มีความต้องการแตกต่างกัน

“การเปิดตัว Nokia Lumia ทั้ง 4 รุ่นในวันนี้ ถือเป็นการเริ่มประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศไทย ผู้บริโภคจะได้รับประสบการณ์การสื่อสารเคลื่อนที่บนสมาร์ทโฟนที่ดียิ่งขึ้น ระบบนิเวศน์การสื่อสารที่ยากจะหาคู่แข่ง
และบริการหลากหลายที่เหนือชั้น” มร.แกรนท์ แมคบีธ กรรมการผู้จัดการ โนเกีย ประเทศไทย และตลาดเอเชียเกิดใหม่ กล่าว “การเปิดตัวครั้งนี้ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการนำเสนอโนเกียสมาร์ทโฟนบนระบบปฏิบัติการ Windows Phone ซึ่งจะเป็นระบบปฏิบัติการหลักของโนเกียสมาร์ทโฟนในประเทศไทย”

Nokia Lumia 900

Nokia Lumia 900 เป็นสมาร์ทโฟนที่กวาดรางวัลมาแล้วมากมาย มาในระบบ Dual Carrier HSPA 42.2 Mbps และแบตเตอรี่ 1830 mAH ใช้งานได้ยาวนานทั้งวัน มอบประสบการณ์ด้านคอนเทนท์ที่เหนือกว่าบนหน้าจอ ClearBlack Amoled ขนาด 4.3 นิ้ว แสดงภาพได้สดใสคมชัดทั้งการใช้งานภายในอาคารและกลางแจ้ง กล้องหลักมาพร้อมเลนส์
Carl Zeiss รูรับแสงขนาดใหญ่ (F2.2) ระยะโฟกัสมุมกว้าง (22mm) เพื่อการเก็บภาพที่สมบูรณ์ไม่หลุดเฟรม และมีคุณภาพสูงแม้ในที่แสงน้อย Nokia Lumia 900 ยังมีกล้องหน้าที่มีรูรับแสงขนาดใหญ่และเลนส์มุมกว้างช่วยให้ภาพคมชัดสดใสขณะใช้งาน video call

Nokia Lumia 800

Nokia Lumia 800 มาในดีไซน์โดดเด่น สีสันสุดโดน (ชมพู ฟ้า ดำ) ทรงประสิทธิภาพในการใช้งานสังคมออนไลน์และอินเตอร์เน็ต เข้าถึงสังคมออนไลน์ได้ง่ายเพียงสัมผัสเดียว จัดกลุ่มรายชื่อผู้ติดต่อ (contact) กลุ่มข้อความสื่อสาร (threads) และเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตบน Internet Explorer 9 ได้ง่ายดาย หน้าจอ AMOLED ClearBlack 3.7 นิ้วของ Nokia Lumia 800 เชื่อมต่อกับตัวเครื่องที่เพรียวบางได้อย่างสวยงามลงตัว processor 1.4 GHz เสริมด้วยเทคโนโลยีที่เพิ่มประสิทธิภาพ
การทำงานของฮาร์ดแวร์และระบบประมวลผลกราฟฟิคให้ทำงานได้เร็วขึ้น Nokia Lumia 800 มอบประสบการณ์
การถ่ายภาพที่ยอดเยี่ยมด้วยเลนส์ Carl Zeiss แชร์ภาพได้ทันที เล่นวิดีโอคุณภาพ HD หน่วยความจำภายใน 16 GB
และฟรี SkyDrive หน่วยความจำออนไลน์เพื่อเก็บรูปภาพและเพลงโปรด

Nokia Lumia 710

Nokia Lumia 710 สร้างขึ้นโดยให้ความสำคัญกับการใช้งาน และให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งรูปแบบได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มแอพ เปลี่ยนสีบน Live Tiles เปลี่ยนฝาหลังได้ถึง 5 สีให้คุณได้ปลดปล่อยความเป็นศิลปินในตัวคุณ Nokia Lumia 710 ได้รับการออกแบบให้เพื่อการใช้งานสังคมออนไลน์และแชร์รูปภาพได้ทันที ท่องเว็บว่องไวด้วย IE9 และหลายหมื่นแอพบน Windows Phone Market Place นอกจากนี้ Nokia Lumia 710 ยังมอบการทำงานที่ทรงประสิทธิภาพบน processor 1.4 GHz พร้อมเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของฮาร์ดแวร์ และระบบประมวลผลกราฟฟิค ให้ทำงานได้เร็วยิ่งขึ้นเช่นเดียวกับ Nokia Lumia 800

Nokia Lumia 610

Nokia Lumia 610 มาในดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ด้วยสีสันเมทัลลิค Nokia Lumia 610 สร้างขึ้นเพื่อมอบทั้งคุณภาพ
และความสวยงาม โดยมีเป้าหมายที่กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องการเข้าถึงสมาร์ทโฟนบนระบบปฏิบัติการ Windows Phone ในราคาที่ย่อมเยา Nokia Lumia 610 มอบการเข้าถึงสังคมออนไลน์ การท่องเว็บ เพลง เกมส์ ระบบนำทาง
และแอพหลายหมื่นบน Windows Phone MarketPlace ท่องเว็บได้ง่ายขึ้นด้วย Internet Explorer และมันส์ไปกับเกมส์
Xbox Live

Nokia Lumia ทั้ง 4 รุ่นมาพร้อม Nokia Maps และ Nokia Drive สามารถเลือกแอพหลายหมื่นบน Windows Phone MarketPlace เพื่อปรับแต่งประสบการณ์การใช้งานของตนเอง นอกจากนี้ ยังมี PeopleHub บริการจากโนเกียและแอพดีๆ โดยมี interface ที่รวดเร็วและใช้งานง่าย ทั้งหมดนี้จะช่วยมอบประสบการณ์การใช้งานสมาร์ทโฟนใหม่ๆ และเปี่ยมประสิทธิภาพให้กับผู้บริโภค

พร้อมกันนี้ โนเกียยังได้เปิดตัว Lumia Center ให้ผู้บริโภคได้เปิดประสบการณ์สมาร์ทโฟนกับ Nokia Lumia ทั้ง 4 รุ่น
พร้อมกิจกรรมเซอร์ไพรส์ทุกวัน เช่น มินิคอนเสิร์ต เกมส์ ความบันเทิง และของที่ระลึกมากมาย นอกจากนี้ โนเกียยังกล้าท้าให้คุณนำสมาร์ทโฟนของคุณมาประลองความเร็วในการอัพเดตสังคมออนไลน์กับกิจกรรมที่ชื่อว่า Blown Away by Nokia Lumia เปิดประสบการณ์ใหม่กับ Nokia Lumia ทั้ง 4 รุ่นได้ที่ Lumia Center ที่เซ็นทรัล เวิลด์ ระหว่างวันที่ 3-15 พฤษภาคม, เซ็นทรัลลาดพร้าว ระหว่างวันที่ 17-23 พฤษภาคม และ สยามเซ็นเตอร์ ระหว่างวันที่ 25 พฤษภาคม – 4 มิถุนายน 2555 พร้อมพบกับ Nokia Amazing Free Ride ขบวนรถมินิสุดเก๋ให้คุณได้โบกนั่งฟรีรอบสยามสแควร์ ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 5 พฤษภาคมนี้

Nokia Lumia 900 วางจำหน่าย 3 สี ได้แก่ ดำ ขาว และฟ้า ราคา 18,000 บาท
Nokia Lumia 800 วางจำหน่าย 4 สี ได้แก่ ดำ ขาว ฟ้า และชมพู ราคา 15,400 บาท
Nokia Lumia 710 วางจำหน่าย 2 สี ได้แก่ ดำ ขาว พร้อมฝาหลังที่เปลี่ยนได้ถึง 5 สี ราคา 9,000 บาท
Nokia Lumi 610 วางจำหน่าย 4 สี ได้แก่ ดำ ขาว ฟ้า และชมพู ราคา 7,400 บาท
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Nokia Lumia กรุณาติดต่อ โนเกียช็อป หรือ โนเกียแคร์ไลน์ โทร 02 255 2111 หรือ www.nokia.co.th/lumia

View :2115

ดีแทค เปิดตัวแคมเปญ สมาร์ทโฟน 3จี จาก ดีแทค ใครๆ ก็มีได้

May 2nd, 2012 No comments

รุกหนักตลาดโทรศัพท์มือถือโดยนำเสนอสมาร์ทโฟน และแพ็กเกจบริการอินเทอร์เน็ตให้แก่ทุกคนในราคาสุดคุ้มกับแคมเปญ สมาร์ทโฟน 3จี จาก ใครๆ ก็มีได้ (dtac 3G Smartphone, Everyone Can Buy) ที่ยกขบวนสมาร์ทโฟนจากแบรนด์ชั้นนำในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ มาพร้อมแพ็กเกจค่าโทร และค่าบริการอินเทอร์เน็ตที่เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า นอกจากนี้ ยังมุ่งนำเสนอประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าที่มาใช้บริการที่สำนักงานบริการลูกค้า โดยมี iBuddy และพนักงานที่พร้อมให้ความช่วยเหลือด้านผลิตภัณฑ์ และบริการ เพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์การใช้งานสมาร์ทโฟนที่ดีสุด

นายเพ็ตเตอร์ เฟอร์เบิร์ก รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มงานพาณิชย์ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า “ปัจจุบัน ผู้บริโภคมีความต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ต และ โซเชียล เน็ตเวิร์ค ที่เพิ่มขึ้นสูง จนกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ดีแทค พร้อมก้าวเป็นผู้นำในการนำเสนอบริการอินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือให้แก่ผู้บริโภคทุกคนในประเทศ โดยเปิดตัวแคมเปญ สมาร์ทโฟน 3จี จาก ดีแทค ใครๆ ก็มีได้ ซึ่งนำเสนอสมาร์ทโฟนหลากหลายรุ่นเพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูล และใช้งานแอพพลิเคชั่นต่างๆ ในราคาที่ทุกคนเป็นเจ้าของได้ โดยมีสมาร์ทโฟนให้ลูกค้าเลือกมากกว่า 30 รุ่น เช่น ซัมซุง กาแล็คซี่ วาย ในราคาเพียง 228 บาทต่อเดือน นาน 10 เดือน พร้อมแพ็กเกจค่าโทร และค่าบริการอินเทอร์เน็ต การดำเนินกลยุทธ์ครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งในความพยายามอย่างต่อเนื่องของดีแทคที่จะนำเทคโนโลยีแห่งอนาคตมาสู่ผู้บริโภคในวันนี้ พร้อมทั้งให้บริการอินเทอร์เน็ตที่มีคุณภาพครอบคลุมพื้นที่ทุกอำเภอทั่วประเทศไทย”

นอกจากนี้ ปัจจัยความสำเร็จอย่างหนึ่งซึ่งถือเป็นจุดแข็งสำคัญของ ดีแทค ก็คือการมุ่งสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าผ่านช่องทางบริการต่างๆ จากการเปิดตัวแคมเปญสมาร์ทโฟนครั้งนี้ ดีแทค มุ่งมั่นที่จะพัฒนา การให้บริการทั้งด้านผลิตภัณฑ์ และบริการต่างๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ลูกค้าในด้านการใช้งานสมาร์ทโฟนที่สามารถตอบสนองความต้องการได้ดีที่สุด

นายชัยยศ จิรบวรกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มลูกค้า บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า “การใช้งานสมาร์ทโฟนนั้นเป็นสิ่งที่ซับซ้อนกว่าการใช้งานโทรศัพท์มือถือทั่วไป ดีแทค วางแผนการให้บริการที่จะช่วยเหลือลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าใช้งานสมาร์ทโฟนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เรามั่นใจอย่างยิ่งว่าลูกค้าจะได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศโดยรวม และ การให้บริการต่างๆ ภายในสำนักงานบริการลูกค้า โดยมี iBuddy และพนักงานที่ผ่านการอบรมทุกคนพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือลูกค้าในการตั้งค่าสมาร์ทโฟนเพื่อการใช้งาน การทดลองใช้ฟังก์ชั่น และแอพพลิเคชั่นต่างๆ รวมทั้ง การเลือกแพ็กเกจบริการซึ่งตอบสนองความต้องการที่หลากหลายได้ ทั้งนี้ ลูกค้าจะสัมผัสได้ถึงประสบการณ์ใหม่นี้ นับตั้งแต่ก้าวเข้าสู่สำนักงานบริการลูกค้า ไปจนถึงความประทับใจตลอดการใช้งานสมาร์ทโฟนอีกด้วย

นอกจากนี้ ด้วยความต้องการของสมาร์ทโฟนที่เพิ่มขึ้นสูง ดีแทค ได้ประกาศความร่วมมือกับบริษัทชั้นนำระดับโลกด้านบริการจัดจำหน่ายอุปกรณ์ไร้สาย และโซลูชั่นสำหรับอุตสาหกรรมอุปกรณ์สื่อสารไร้สาย เพื่อเป็นผู้ให้บริการด้านซัพพลายเชนแบบครบวงจร ครอบคลุมทั้งกลยุทธ์ด้านแหล่งวัตถุดิบ การบริหารจัดการผลิตภัณฑ์ การวางแผนซัพพลายเชน การสนับสนุนช่องทางการจัดจำหน่าย การจัดเก็บสินค้า และงานโลจิสติกส์ ซึ่งความร่วมมือครั้งนี้ จะส่งผลให้ดีแทคสามารถเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดด้านการบริหารจัดการสินค้าเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดีที่สุดอีกด้วย

สำหรับแคมเปญ สมาร์ทโฟน 3จี จาก ดีแทค ใครๆ ก็มีได้ ลูกค้าสามารถเลือกสรรสมาร์ทโฟน พร้อมแพ็กเกจ ค่าโทร และค่าบริการอินเทอร์เน็ตในราคาสุดคุ้ม
* สมาร์ทโฟน 30 รุ่น ที่รองรับความถี่ 850 MHz
* ผ่อนต่ำสุดเริ่มต้นเพียง 228 บาท / เดือน
* รับโบนัสค่าโทร 300 บาท นานสูงสุด 24 เดือน
* เล่นเฟสบุคฟรี นานสูงสุด 24 เดือน

View :1606

เดนท์สุ มีเดียเปิดตัว ไอบัตเตอร์ฟลาย (iButterfly)

May 1st, 2012 No comments

(ประเทศไทย) จำกัด ปฏิวัติวงการสื่อสารการตลาดเมืองไทยครั้งใหญ่ ล่าสุดประกาศเปิดตัว “ ()” แอพพลิเคชั่นที่ได้รับความนิยมสูงสุดใน ประเทศญี่ปุ่นและฮ่องกง ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาให้ชาวไทยได้สัมผัส บริษัทยักษ์ใหญ่ทุกวงการ ตอบรับอย่างคับคั่ง คาดจะกลายเป็นกระแสเทรนด์ฮิตล่าสุดแห่งปี

มร.มิตสึยูกิ นากามูระ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดนท์สุ มีเดีย (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ถือลิขสิทธิ์แอพพลิเคชั่น “ไอบัตเตอร์ฟลาย (iButterfly)” ในประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่ เดนท์สุ อิงค์ ได้ทำการเปิดตัว แอพพลิเคชั่น “ไอบัตเตอร์ฟลาย (iButterfly)” ในประเทศญี่ปุ่นเมื่อปี 2553 ปรากฎว่าได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเริ่มต้นจากการใช้เป็นแอพพลิเคชั่นเพื่อนำเสนอข้อมูลต่างๆ และต่อมาได้ถูกพัฒนาเพื่อนำมาใช้เป็นเครื่องมือสื่อสารการตลาดอย่างเต็มรูปแบบทั้งเรื่องแบรนด์และการทำ โปรโมชั่นส่งเสริมการขาย จนกระทั่งในปี 2554 เดนท์สุ มีเดีย ฮ่องกง จึงได้นำเอากระแสฮิต “ไอบัตเตอร์ฟลาย” ดังกล่าวเข้ามาเปิดตัวและใช้เป็นช่องทางสร้างกลยุทธ์สื่อสารการตลาดรูปแบบใหม่ ท่ามกลางกระแสตอบรับไม่น้อยไปกว่าประเทศญี่ปุ่น

“ในปี 2555 เดนท์สุ มีเดีย (ประเทศไทย) จำกัด ได้เล็งเห็นถึงพัฒนาการของผู้บริโภค ที่มีไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะในเรื่องของเทคโนโลยีการสื่อสาร และจากการเติบโต ตลอดจนความนิยมของสมาร์ทโฟน ทั้งในระบบ IOS และระบบ Android ได้เข้ามามีบทบาท ในชีวิตประจำวันของคนไทยทั้งเรื่องความบันเทิง การเล่นเกมส์ โซเชียล เน็ตเวิร์ค และแอพพลิเคชั่นอื่นๆมากมาย ทำให้เราเห็นศักยภาพของตลาดที่มีความพร้อม และตอบรับกับการแนะนำ ไอบัตเตอร์ฟลาย สู่มือผู้บริโภคชาวไทย และมีแนวโน้มจะขยายตัว อย่างต่อเนื่องในอนาคต เราเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่า แอพพลิเคชั่น ไอบัตเตอร์ฟลาย จะเข้ามาทดแทนการทำการตลาด โปรโมชั่น รูปแบบเดิมๆได้ ปัจจุบันหลังจากการเปิดตัวอย่างไม่เป็นทางการ ในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เราได้รับการตอบรับดีมากจากแบรนด์สินค้าชั้นนำ อาทิ สก๊อต โซนี่ ฮอนด้า ทรู คอฟฟี่ เดอะ ไพรม์ SKII วีจีไอและที่สำคัญคือกลุ่มเซ็นทรัลพัฒนา ซึ่งเรามองพัฒนาการของธุรกิจ E-promotion ในประเทศไทยว่าจะได้เห็น การพัฒนาที่ต่อเนื่อง ในรูปแบบที่สนุกและใช้งานง่ายยิ่งขึ้น รวมถึงสิทธิประโยชน์ ส่วนลด ของแถม และของรางวัลอีกมากมาย เพื่อสร้างความสนใจให้แก่กลุ่มเป้าหมาย” มร.มิตสึยูกิ นากามูระ กล่าว

ด้าน ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงสีสันล่าสุดแห่งกลยุทธ์การตลาดยุคดิจิตอลในครั้งนี้ว่า ด้วยความที่ซีพีเอ็นเป็นผู้นำในตลาดรีเทล เรามุ่งสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ มามอบให้กับผู้บริโภคอยู่เสมอ โดยนำเครื่องมือด้านการตลาดมาใช้แบบ 360 องศาครอบคลุมทุกมิติ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายที่มีไลฟ์สไตล์สมัยใหม่ให้ครอบคลุมได้ทุกกลุ่ม ซึ่งเราถือเป็นศูนย์การค้ารายแรกๆ ที่รุกการทำตลาดด้าน Digital Marketing อย่างจริงจัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่จะได้สร้างปรากฎการณ์ใหม่ที่แปลกใหม่และยิ่งใหญ่กว่าเดิม เราได้จับมือกับ เดนท์สุ นำแอพพลิเคชั่น iButterfly ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมการตลาดล่าสุด มาใช้ในการทำตลาดที่ศูนย์การค้าของซีพีเอ็น โดยจะเริ่มใช้อย่างเป็นทางการในช่วง Annual Sale ที่จะถึงนี้ โดยลูกค้าจะได้รับสิทธิพิเศษ รางวัล และส่วนลดพิเศษสุดจากร้านค้ามากมาย จากภายในศูนย์ฯ

ที่สำคัญ แอพพลิเคชั่นใหม่นี้ ยังจะเป็นการขยายฐานลูกค้า และเป็นการต่อยอดกลยุทธ์การตลาดของซีพีเอ็นในรูปแบบ FUN FAST FREE ซึ่งมีทั้งความสนุกสนาน รวดเร็ว และไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เพื่อให้ลูกค้าได้รับประโยชน์สูงสุด ซึ่งถือเป็นการตอบสนองไลฟ์สไตล์ยุคใหม่อย่างแท้จริง

ทั้งนี้ แอพพลิเคชั่น “ไอบัตเตอร์ฟลาย (iButterfly)” ถือเป็นแอพพลิเคชั่นสมาร์ทโฟนล่าสุดที่สามารถ มอบทั้งความบันเทิงผ่านการสะสมลวดลายของผีเสื้อที่โดดเด่นสวยงามและยังได้รับสิทธิ ประโยชน์ ส่วนลด ในการใช้บริการหรือซื้อสินค้าต่างๆ อีกด้วย โดยได้นำเอาแนวความคิดของ Digital Coupon เข้ามาใช้เพื่อสร้างสีสัน และที่สำคัญยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ธรรมชาติโดยลดการ ใช้กระดาษ ผู้บริโภคไม่จำเป็นต้องพกพาหรือตัดคูปองกระดาษจากใบปลิว หรือหนังสือพิมพ์ เนื่องจากแอพพลิเคชั่น ไอบัตเตอร์ฟลาย สามารถรวบรวมสิทธิพิเศษต่างๆไว้ได้ในสมาร์ทโฟนเพียงเครื่องเดียว นอกจากนี้ยังเอื้ออำนวยให้แบรนด์ หรือสินค้าที่มาใช้บริการสามารถโฆษณาผ่านการสร้างลิงค์ต่อเนื่องไปรับชมวิดีโอคลิปหรือต่อเข้า facebook, twitter หรือ website ได้ทันที ซึ่งจะเป็น กลยุทธ์ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงในเรื่องของ mobile application ที่นอกจากจะสร้างความบันเทิงแล้ว ยังใช้ประโยชน์ได้จริงในชีวิตประจำวันอีกด้วย

View :1520

แคนนอนต่อยอดความสำเร็จ ส่งเครื่องสแกนเอกสารความเร็วสูง 4 รุ่นใหม่ล่าสุด

May 1st, 2012 No comments


ชูประสิทธิภาพเหนือระดับ สามารถตอบสนองต่อทุกความต้องการในเครื่องเดียว
เจาะกลุ่มธุรกิจองค์กรขนาดกลางและขนาดย่อม

เมื่อเร็ว ๆ นี้ – แคนนอนหนึ่งในผู้นำทางด้านเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์สำหรับธุรกิจและกลุ่มองค์กร เปิดตัว “เครื่องสแกนเอกสารความเร็วสูง ดีไซน์ล้ำ รูปทรงทันสมัย Canon imageFORMULA 4 รุ่นใหม่ล่าสุด” ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติโดนเด่นทั้ง 4 รุ่น ได้แก่ รุ่น P-215 เครื่องสแกนเอกสารความเร็วสูงขนาดเล็กเท่าฝ่ามือ พกพาไปได้ทุกที่ที่คุณต้องการ รุ่น DR-C125 เครื่องสแกนเอกสารความเร็วสูงขนาดเล็ก ที่ถูกออกแบบมาให้สามารถปรับทางเดินเอกสารได้ทั้งแบบทางตรงและทางโค้ง เพื่อช่วยประหยัดพื้นที่ในการทำงาน รุ่น DR-M140 เครื่องสแกนเอกสารความเร็วสูงอเนกประสงค์ เพื่อการใช้งานที่ยืดหยุ่นและคล่องตัว และ รุ่น DR-M160 เครื่องสแกนเอกสารความเร็วสูงทรงประสิทธิภาพ ให้ความแม่นยำเหนือระดับ ตอบสนองต่อทุกความต้องการภายในเครื่องเดียว โดยมี มิสเตอร์ วาตารุ นิชิโอกะ ประธานบริษัท และประธานกรรมการบริหาร บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด ให้เกียรติเป็นประธานในงาน

“การแข่งขันในตลาดของเทคโนโลยีผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในกลุ่มธุรกิจองค์กรปีนี้มีการแข่งขันที่สูงขึ้น โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ในกลุ่มของเครื่องสแกนเอกสารความเร็วสูง ซึ่งในปีนี้แคนนอนเตรียมบุกตลาดโดยเน้นกลุ่มธุรกิจองค์กรขนาดกลางและขนาดย่อมเป็นหลัก โดยในช่วงครึ่งปีแรกนี้เราได้ส่งเครื่องสแกนเอกสารความเร็วสูง Canon imageFORMULA 4 รุ่นใหม่ล่าสุด ที่เน้นความสะดวกรวดเร็ว ครบทุกฟังก์ชั่นการทำงาน ให้ประสิทธิภาพสูงสุด โดยผมเชื่อมั่นว่าเครื่องสแกนเอกสารความเร็วสูงจากแคนนอนจะสามารถก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำในตลาดปีนี้ได้อย่างแน่นอน” ร้อยเอกสุนทร ปัณฑรมงคล ผู้อำนวยการอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป ส่วนงานบิสซิเนส อิมเมจจิ้งโซลูชั่น บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าว
ร้อยเอกสุนทร ปัณฑรมงคล ยังกล่าวเสริมอีกว่า “การแข่งขันในกลุ่มของเครื่องสแกนเอกสารความเร็วสูง เรื่องราคายังเป็นเรื่องหลักๆ ที่ต้องพิจารณาให้ดี เพราะสินค้าในไลน์เดียวกันของคู่แข่งทางการตลาดมีการดึงราคาลงมาเพื่อดึงดูดใจลูกค้า ย้อนกลับมาดูที่เราในปีนี้ เครื่องสแกนเอกสารความเร็วสูง เราเน้นด้านคุณภาพมากกว่าที่จะเน้นในเรื่องราคาของสินค้า”

โดยสินค้าที่นำมาเปิดตัวในช่วงครึ่งปีแรกมี 4 รุ่นด้วยกันคือ Canon imageFORMULA รุ่น DR-C125 เครื่องสแกนเอกสารความเร็วสูงขนาดเล็ก สามารถสแกนเอกสารความเร็วสูงต่อเนื่องที่ 25 แผ่น/นาที ทั้งเอกสารสีและขาวดำ สแกนทั้งสองด้านพร้อมกันในครั้งเดียว ให้ความละเอียดสูงถึง 600 dpi ตัวเครื่องแบบแนวตั้ง-บางเฉียบ สามารถปรับทางเดินเอกสารได้ 2 แบบทั้งแบบทางตรงและทางโค้ง เพื่อช่วยประหยัดพื้นที่ในการทำงาน รองรับการทำงานบน Windows และ Mac สามารถสแกนนามบัตร บัตรพลาสติก รวมไปถึงบัตรพลาสติกแบบมีอักษรนูนได้อีกด้วย พร้อมด้วยฟังก์ชั่น Full Auto Mode ที่สามารถสแกนเอกสารหลากหลายประเภทพร้อมกันได้อย่างง่ายดาย โดยจะกำหนดค่าต่างๆ ที่เหมาะสมกับเอกสารต้นฉบับแต่ละประเภทให้โดยอัตโนมัติ เหมาะสำหรับองค์กรขนาดเล็กหรือ Home Office ที่มีพื้นที่จำกัด ถือได้ว่าเป็นอุปกรณ์สำนักงานที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าในกลุ่มนี้ได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้เรายังส่งเครื่องสแกนเอกสารความเร็วสูงอีก 3 รุ่น ที่มีความโดดเด่นไม่แพ้กัน ได้แก่ Canon imageFORMULA รุ่น P-215 เครื่องสแกนเอกสารความเร็วสูงรุ่นพกพา สามารถสแกนเอกสารความเร็วสูงต่อเนื่องที่ 15 แผ่น/นาที ขนาดเล็กกระทัดรัดเท่าฝ่ามือเพียง 11.2×3.7 นิ้ว และน้ำหนักเบาเพียง 1 กิโลกรัม สามารถสแกนบัตรชนิดพาสติกด้วยช่องเสียบบัตรด้านหน้าตัวเครื่อง เชื่อมต่อการทำงานแบบ Plug-and-Play ผ่านสาย USB โดยไม่ต้องมีการติดตั้งซอฟต์แวร์ใดๆ อีกรุ่นคือ Canon imageFORMULA รุ่น DR-M140 เครื่องสแกนเอกสารอเนกประสงค์ สามารถสแกนเอกสารความเร็วสูงต่อเนื่องที่ 40 แผ่น/นาที สามารถกำหนดรูปแบบการสแกนที่ใช้งานเป็นประจำได้มากถึง 9 รูปแบบผ่านทางแผงควบคุมการสั่งงานบนตัวเครื่อง เพื่อการใช้งานที่ง่าย สะดวกและคล่องตัวมากยิ่งขึ้น และสุดท้าย Canon imageFORMULA รุ่น DR-M160 เครื่องสแกนเอกสารความเร็วสูงทรงประสิทธิภาพ สามารถสแกนเอกสารความเร็วสูงต่อเนื่องที่ 60 แผ่น/นาที ให้คุณภาพงานเยี่ยม แม่นยำเหนือระดับ สามารถขยายที่รับกระดาษและถาดรองรับกระดาษได้ เพื่อให้เหมาะสมกับขนาดหรือความยาวของตันฉบับ โดยทุกรุ่นทุกรุ่นเน้นความสะดวกรวดเร็วต่อการใช้งาน ครบทุกฟังก์ชั่นการทำงาน และสามารถตอบสนองต่อทุกความต้องการในเครื่องเดียว

ด้วยคุณสมบัติที่ครบครันของเครื่องสแกนเอกสารความเร็วสูงนี้ คงไม่แปลกใจที่จะทำให้แคนนอนก้าวขึ้นสู่ความเป็นผู้นำในตลาด และเปิดพร้อมให้ทดลองประสิทธิภาพของตัวเครื่องแล้ววันนี้ ณ ตัวแทนจำหน่ายของแคนนอนทั่วประเทศ

View :2010
Categories: Press/Release Tags: