Archive

Archive for May, 2012

ก.ไอซีที จับมือ ITU และ UNESCAP จัดประชุมเพื่อพัฒนาด้าน ICT และโทรคมนาคมในภูมิภาค

May 16th, 2012 No comments


นายวรพัฒน์ ทิวถนอม รองปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดการประชุม Asia – Pacific Regional Development Forum ว่า กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ได้ร่วมกับสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (International Telecommunication Union: ) และคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมสำหรับเอเชียและแปซิฟิกแห่งสหประชาชาติ (United Nations Economic and Social Commission for Asia and the Pacific: ) ได้จัดการประชุม ITU Asia – Pacific Regional Development Forum ขึ้นในระหว่างวันที่ 16 – 18 พฤษภาคม 2555 ณ ศูนย์การประชุมสหประชาชาติ กรุงเทพฯ

“การประชุมฯ ครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อใช้เป็นเวทีสำหรับผู้กำหนดนโยบาย ผู้กำกับดูแลกิจการโทรคมนาคม ผู้นำจากภาคธุรกิจ/ อุตสาหกรรม และผู้เชี่ยวชาญจากภาควิชาการ ในการนำเสนอข้อมูลและร่วมหารือเกี่ยวกับประเด็นต่างๆ ที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาด้าน ICT และโทรคมนาคมในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก โดยจะเปิดโอกาสให้มีการแบ่งปันความรู้และประสบการณ์การดำเนินงานของภาคส่วนต่างๆ ที่มีส่วนได้ส่วนเสียในกิจการโทรคมนาคมและ ICT ซึ่ง ITU ได้กำหนดหัวข้อหลักของการประชุมไว้ว่า “ICTs for Sustainable and Inclusive Development” หรือ “เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนและครอบคลุมประชากรทุกกลุ่ม” นายวรพัฒน์ กล่าว

สำหรับรายละเอียดของการประชุมฯ นั้น จะแบ่งออกเป็น 4 หัวข้อย่อย คือ 1. การปกครองที่โปร่งใสและมีประสิทธิภาพในยุคดิจิทัล (Transparent and Effective Governance in the Digital Age) เน้นประเด็นการให้ความสำคัญกับบทบาทของบรอดแบนด์ ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศต่างๆ รวมถึงการมีกรอบนโยบายด้านบรอดแบนด์ที่เหมาะสม ซึ่งที่ประชุมจะพิจารณาเกี่ยวกับปัจจัยเชิงนโยบายสำคัญๆ ที่จะเอื้อให้เกิดการสร้างโอกาสในการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม / ICT รวมทั้งการเติบโตที่ยั่งยืนและครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่มอย่างทั่วถึง

2. สังคมดิจิทัลที่ปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Safer and Greener Digital Society) จะมุ่งเน้นบทบาทและประโยชน์ของ ICT ในบริบทต่างๆ อาทิ การพัฒนาไปสู่เป้าหมายแห่งสหัสวรรษ (Millennium Development Goals: MDGs) การประชุมสุดยอดระดับโลกว่าด้วยสังคมสารสนเทศ (World Summit on the Information Society: WSIS) ประเด็นผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกและการรับมือ การใช้งาน ICT ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การลดความเสี่ยงในการเกิดภัยพิบัติ ความมั่นคงปลอดภัยของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เป็นต้น

3. การลดช่องว่าง/ ความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึง ICT โดยใช้เศรษฐกิจดิจิทัลเชิงสร้างสรรค์ – นวัตกรรม (Bridging Digital Divide through Innovative and Creative Digital Economy) การประชุมในช่วงนี้จะเน้นย้ำถึงการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจดิจิทัล ที่สร้างโอกาสในการพัฒนา การสร้างงาน และการขยายตลาดโลกสำหรับเทคโนโลยีและบริการ ตลอดจนลดต้นทุนในการประกอบธุรกิจ รวมทั้งการส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมในสภาพการณ์ดังกล่าว ซึ่งผู้กำหนดนโยบายควรจะมีเป้าหมายในการให้บริการอย่างทั่วถึงแก่ประชาชนทุกกลุ่ม

และ 4. การก้าวไปสู่สังคมที่ชาญฉลาด (Moving towards Smart Society) การประชุมช่วงนี้จะมุ่งเน้นการอภิปรายในเรื่องบทบาทของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร นโยบาย และกฎข้อบังคับต่างๆ ที่เป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างสังคมที่ชาญฉลาด หรือ “Smart Society” โดยจะมีการนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีและนวัตกรรม เช่น Intelligence transportation, Smart Grid, Intelligent Car, Intelligent Home and Workplace เป็นต้น

นอกจากการประชุมดังกล่าวแล้ว ยังมีการจัดกิจกรรมเพื่อเฉลิมฉลองวันโทรคมนาคมและสังคมสารสนเทศโลกซึ่งตรงกับวันที่ 17 พฤษภาคม ของทุกปี โดยหัวข้อหลักของการจัดงานวันโทรคมนาคมและสังคมสารสนเทศโลก ประจำปี ค.ศ. 2012 นี้ คือ “Women and Girls in ICT” ซึ่ง ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร จะเป็นผู้แทน นายกรัฐมนตรี นำเสนอถ้อยแถลงในพิธีเฉลิมฉลองดังกล่าว พร้อมกันนี้ กระทรวงฯ ยังมีกิจกรรมคู่ขนานด้วยการจัดแสดงนิทรรศการเพื่อเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการ รวมถึงผลงานของกระทรวงฯ และหน่วยงานด้าน ICT และโทรคมนาคมต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับ “” อีกด้วย

View :1466

AIT มั่นใจรายได้ปีนี้ยังโตตามเป้า 10% เผยธุรกิจ ICT จะคึกคักตั้งแต่ไตรมาส 2

May 16th, 2012 No comments

มั่นใจทิศทางธุรกิจปี 55 ยังสดใส แม้กำไรไตรมาสแรกปีนี้เทียบกับปีที่แล้วลดลงเล็กน้อย ชี้ธุรกิจของ ดูเป็นรายไตรมาสไม่ได้ ต้องดูงานที่รอส่งมอบทั้งปี มั่นใจจะได้รับผลดีจากการเร่งลงทุนระบบเครือข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของภาครัฐ รองรับการก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 เผยงานที่รอรับรู้รายได้สิ้นไตรมาสแรกมีประมาณ 2,600 ล้านบาท ไตรมาสแรกทำรายได้แล้ว 952.7 ล้านบาท กำไรสุทธิ 91.9 ล้านบาท ยังยืนยันเป้าหมายรายได้ปีนี้โต 10%

นายศิริพงษ์ อุ่นทรพันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี จำกัด (มหาชน)

นายศิริพงษ์ อุ่นทรพันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AIT เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจของ AIT ในปีนี้ยังคงมีทิศทางที่สดใส เนื่องจากภาพรวมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและโทรคมนาคมของไทยมีปัจจัยสนับสนุนหลายประการ โดยเฉพาะการที่ภาครัฐเร่งขับเคลื่อนนโยบาย ICT แห่งชาติ ซึ่งเป็นหนึ่งในการเตรียมความพร้อมเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน จึงจำเป็นต้องลงทุนอีกมาก เพื่อยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันของไทยในด้านเทคโนโลยีด้านไอทีไม่ให้ด้อยกว่าประเทศชั้นนำในกลุ่มอาเซียน

ทั้งนี้ โครงการที่อยู่ระหว่างการดำเนินการของภาครัฐได้แก่ โครงการเดินสายไฟเบอร์ออฟติกทั่วประเทศ การวางระบบเครือข่ายไวไฟในสถาบันการศึกษาจำนวน 30,000 แห่ง รองรับการใช้แท็บแล็ตเป็นสื่อการเรียนการสอนในโรงเรียน รวมถึงการเร่งออกใบอนุญาตโทรศัพท์มือถือระบบ 3G ของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่ก่อให้เกิดการลงทุนด้านเทคโนโลยี 3G เกิดขึ้นในปีนี้ เป็นต้น

“เรามองว่าไตรมาสที่ 2 ต่อเนื่องถึงไตรมาส 4 ปีนี้ หน่วยงานภาครัฐจะเริ่มทยอยเปิดประมูลงานมากขึ้น โดยเฉพาะทีโอที และ กสท โทรคมนาคม ซึ่งเป็นลูกค้ารายใหญ่ของบริษัทฯ ที่มีการใช้จ่ายงบประมาณด้านการวางระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและไอทีเป็นจำนวนมาก รวมถึงกลุ่มลูกค้าสถาบันการเงินของรัฐ ที่ลงทุนไอทีเพื่อรองรับการให้บริการแก่ลูกค้า จึงถือเป็นโอกาสที่ดีที่ AIT จะใช้ความเชี่ยวชาญด้านการวางระบบคอมพิวเตอร์และเครือข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศการสื่อสาร เข้าแข่งขันประมูลงานสร้างมูลค่างานในมือในปีนี้ให้มากขึ้น เพื่อสร้างรายได้ให้เติบโตตามเป้าที่วางไว้” นายศิริพงษ์ กล่าว

สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาสแรกของปีนี้ (มกราคม-มีนาคม 2555) บริษัทฯ มีรายได้จากงบเฉพาะกิจการรวมทั้งสิ้น 952.7 ล้านบาท ลดลง 164.6 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีรายได้จากงบเฉพาะกิจการอยู่ที่ 1,117.3 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิจากงบเฉพาะกิจการอยู่ที่ 91.9 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย ประมาณ 4.1 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 96.0 ล้านบาท ถ้าหากเทียบเป็นอัตราส่วนกำไรสุทธิคิดเป็น 9.6%

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานไตรมาสแรกปีนี้เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้วลดลงเพราะได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ทำให้การเข้าไปทำงานในบางพื้นที่มีอุปสรรค การส่งมอบงานจึงล่าช้ากว่ากำหนดการที่วางไว้อยู่บ้างในบางโครงการ นอกจากนี้ ยังทำให้เกิดการชะลอตัวด้านการลงทุนระบบเครือข่ายสารสนเทศและการสื่อสาร ทั้งภาครัฐและเอกชน อย่างไรก็ตาม ด้วยการเร่งลงทุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในช่วงที่เหลือของปีนี้ ทั้งภาครัฐและเอกชน บริษัทฯ ยังคงมีความเชื่อมั่นว่า จะสามารถทำรายได้ตามเป้าที่วางไว้ 5,300 ล้านบาทอย่างแน่นอน

นายศิริพงษ์กล่าวด้วยว่า บริษัทฯ มีงานที่อยู่ระหว่างรอการรับรู้รายได้ (Backlog) ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2555 อยู่จำนวน 2,619 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะรับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณ 1,800 ล้านบาท และยังมีงานที่รอประมูลในโครงการใหญ่ๆ ของภาครัฐบาลอีกมาก จึงเชื่อว่าครึ่งหลังของปี ผลการดำเนินงานของบริษัทฯจะเติบโตขึ้นได้

“การดูผลงานของ AIT จะดูเป็นรายไตรมาสแล้วตัดสินว่ากำไรของทั้งปีจะโตขึ้นหรือลดลงคงไม่ได้ เพราะการรับรู้รายได้จะขึ้นอยู่กับการส่งมอบงานแต่ละงวดของแต่ละโครงการ ซึ่งในไตรมาสแรกได้รับผลกระทบต่อเนื่องมาจากภาวะน้ำท่วม แต่หลังจากนี้หน่วยงานภาครัฐจะเปิดประมูลด้านการลงทุนพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมากขึ้น ซึ่งเรามั่นใจว่า ด้วยความเชี่ยวชาญของ AIT ที่มีความพร้อมด้านบุคลากรและความเชี่ยวชาญด้านการวางระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่ได้รับการยอมรับจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนนั้น จะทำให้บริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าให้เข้าไปรับงานได้มากขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานของ AIT ในไตรมาสต่อๆ ไป” นายศิริพงษ์ กล่าว

View :1586
Categories: Press/Release Tags:

“คอมมาร์ต เน็กซ์เจน ไทยแลนด์ 2012” หลากเทรนด์ หลายสไตล์สวนกระแสของแพง

May 15th, 2012 No comments

เออาร์ไอพี เปลี่ยนลุคงานไอทียิ่งใหญ่กลางปี เป็น “” จับตลาดนิวเจเนอร์เรชัน ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Modern Play” หลากเทรนด์ หลายสไตล์ ไปกับโลกไอที เลือกชอปได้ตามสไตล์คุณ พันธมิตรพร้อมขนโปรฯ จัดหนักรับเปิดเทอม ทั้งถูกกว่า ดีกว่า แรงกว่าและคุ้มกว่า พิเศษสำหรับสาวก New iPad ซื้อและรับเครื่องได้ไม่จำกัดจำนวน ตื่นตากับขบวนนวัตกรรมไอทีใหม่ๆ บนพื้นที่โชว์ Gadgets & Technology Zone ตามต่อกับ Net Gen TJ Search เฟ้นหาคนรุ่นใหม่หัวใจเทคโนโลยี งานนี้แจกหนัก!! ชอป 3,000 ลุ้นรับ All NEW ISUZU D-MAX V-CROSS เฉียดล้าน โดยงานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7-10 มิถุนายน 2555 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

นายปฐม อินทโรดม กรรมการบริหารและผู้จัดการทั่วไป บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ผู้จัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้าไอที ภายใต้ชื่อ “คอมมาร์ต” กล่าวว่า เออาร์ไอพี ร่วมกับบริษัทคู่ค้าไอทีชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ จัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้าไอที “คอมมาร์ต เน็กซ์เจน ไทยแลนด์ 2012” ภายใต้แนวคิด “Modern Play” หลากเทรนด์ หลายสไตล์ ไปกับโลกไอที เลือกชอปได้ตามสไตล์คุณ งานครั้งนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงรูปโฉมใหม่ ทั้งการจัดแบ่งโซนโชว์เทคโนโลยีชัดเจนยิ่งขึ้น รวมถึงการเพิ่มกลุ่มเป้าหมายกลุ่มใหม่ที่เน้นจับกระแสไลฟ์สไตล์ทันสมัย และมีกำลังซื้อมากขึ้น เนื่องจากสินค้าไอทีมีการเปลี่ยนแปลงมาอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 1-2 ปี ที่ผ่านมา อาทิ โน้ตบุ๊กที่อัพตัวสินค้าเป็นอัลตราบุ๊ก มือถือปรับเป็นสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตก็ตาม คอมมาร์ตจึงได้มีการปรับรูปแบบการจัดงาน ให้สอดคล้องกับแนวโน้มของสินค้าไอที

“งานคอมมาร์ต เน็กซ์เจน ไทยแลนด์ 2012 ครั้งนี้ จะมีส่วนผลักดันให้ตลาดไอทีเติบโตได้ รวมถึงตลาดไอทีภายในปีนี้ยังมีแนวโน้มการเติบโตอีกมาก โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลังจะดีกว่าปีที่ผ่านมา แม้จะมีปัญหาเรื่องเงินเฟ้อหรือข้าวของแพงก็ตาม ความต้องการใช้ไอทียังมีเพิ่มมากขึ้น และราคายังถูกลง ทั้งกลุ่มนักเรียน นักศึกษา พนักงานบริษัท และองค์กรต่างๆ เพราะสินค้าไอทีมีการปรับเปลี่ยนรุ่นอัพเดทตลอด ผู้บริโภคจึงต้องอินเทรนด์ไปกับสินค้าที่ทันสมัยขึ้น ความทันสมัย ง่าย สะดวกสบายและสามารถนำมาช่วยสนับสนุน ต่อยอดธุรกิจขององค์กรหรือหน่วยงาน งานคอมมาร์ต เน็กซ์เจน จะตอบโจทย์ตรงนี้” นายปฐม กล่าว

นายปฐม กล่าวเพิ่มเติมว่า คอมมาร์ต เน็กซ์เจน ไทยแลนด์ 2012 จะเป็นเวทีการประชันของนวัตกรรมล่าสุด ของโลกไอที ที่จะเข้ามาตอบรับความต้องการของตลาด ซึ่งดูจากการจัดงานเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ตลาดไอทีมีแนวโน้มเติบโตขึ้นมาก กำลังซื้อเริ่มกลับมาและมีแนวโน้มจะเพิ่มมากขึ้นตามกระแสของสินค้าไอทีที่มีการอัพเดทรุ่นใหม่ๆ มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อมารองรับกลุ่มเป้าหมายเน็กซ์เจนกลุ่มนี้ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มที่ใหญ่ และงานครั้งนี้มีโปรโมชันสุดพิเศษจากผู้จัดงาน และพันธมิตรคู่ค้า สำหรับผู้ที่กำลังมองหาแท็บเล็ตเอาใจคอไอทีในช่วงเปิดภาคการศึกษา รวมถึง New iPad ที่สามารถซื้อและรับเครื่องได้โดยไม่จำกัดจำนวนภายในงาน ถือได้ว่ามางานเดียวได้สินค้าทั้งถูกกว่า ดีกว่า แรงกว่า และคุ้มกว่าเลยทีเดียว

นอกจากนี้ ในงานจะมีการจัดพื้นที่โชว์นวัตกรรมไอที (Gadgets) และเทคโนโลยีรุ่นใหม่ล่าสุดจากพันธมิตรคู่ค้าและจากต่างประเทศที่มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ อาทิ Toshiba Flash Air Wireless SDHD เมมโมรี่การ์ดตัวแรกของโลกที่มีระบบ Wireless LAN, Sony Smart Watch นาฬิกาข้อมือสุดเท่ห์ที่รองรับสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์, Fujitsu Arrows Tab F-01D สุดยอด Tablet ที่ไม่หวั่นสายฝน, และไฮไลท์อื่นๆ รวมถึงโซนสำหรับการทดลองใช้กล้อง DSLR จากหลายแบรนด์ดังเพื่อให้แฟนคอมมาร์ตได้สัมผัสก่อนใคร

ส่วนกิจกรรมเสวนา Workshop ที่น่าสนใจ เข้ากับกระแส อาทิ แท็บเล็ต ป.1 อะไรที่มากกว่าการเรียนรู้ในห้องเรียน, เทคนิคการถ่ายภาพด้วยแท็บเล็ตและสมาร์ทโฟน นอกจากนี้ ยังมีมุม Buyer’s Guide ปรึกษาก่อนเลือกซื้อ โดยทีมบรรณาธิการจากนิตยสาร Commart พิเศษสุดกับ Commart Big Bonus สำหรับผู้ที่ซื้อสินค้าไอทีครบทุก 3,000 บาท รับคูปองชิงโชคลุ้น ALL NEW ISUZU D-MAX V-CROSS รุ่นใหม่ล่าสุด มูลค่าเฉียดล้านบาท และลงทะเบียนก่อนเข้างานลุ้นตั๋วเครื่องบิน กรุงเทพฯ – ฮ่องกง และรางวัลอื่นๆ อีกมากมายให้ร่วมลุ้นใน Commart Game Show และร่วมประมูล Gadget และสินค้าไอทีคุณภาพเยี่ยมหลากหลายกับ Commart Auction รวมทั้งตามต่อกับกิจกรรม Net Gen TJ Search เฟ้นหาคนรุ่นใหม่หัวใจเทคโนโลยี และกิจกรรมอื่นๆ อีกมายมาย โดยสามารถเข้าชมสดๆ ได้ทาง www.commartthailand.com

สำหรับบริษัทไอทีชั้นนำ และพันธมิตรที่เข้าร่วมสนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการในการจัดงาน “คอมมาร์ต เน็กซ์เจน 2012” ประกอบด้วย บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด, บริษัท เดลล์ คอมพิวเตอร์ ประเทศไทย จำกัด, บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด และมหาวิทยาลัยศรีปทุม

View :1557

เอไอเอสประกาศความสำเร็จโครงการ Start Up Weekend 2011 เดินหน้าขยาย Business Model หนุนนักพัฒนาไทยต่อเนื่อง

May 15th, 2012 No comments

เอไอเอสเดินหน้า เปิดตัวโครงการใหม่ “AIS The StartUP” เปิดโอกาสให้ผู้มีความคิดสร้างสรรค์ และนักพัฒนาแอพพลิเคชั่นคนไทย ก้าวสู่การเป็นผู้ประกอบการหน้าใหม่ ผลิตแอพพลิเคชั่นโดนๆ ป้อนสู่ตลาดไทยและสากล ภายใต้การสนับสนุนอย่างเต็มที่จากเอไอเอส ที่จะให้คำแนะนำ ร่วมพัฒนาและทดสอบแอพฯ แบบครบวงจรบน Technology platform ทันสมัย ตลอดจนโอกาสในการพบปะนักลงทุน หลังประสบความสำเร็จจากการประกวด Start Up Weekend เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งเหล่านักพัฒนาแอพฯ ชาวไทย อาทิ ทีม Shop Spot ได้ก้าวสู่การเป็นเจ้าของธุรกิจดิจิตอลในรูปแบบบริษัทด้วยการสนับสนุนทุนจากนักลงทุนไทยและต่างชาติ พร้อมเปิดตัว App Shop Spot เอาใจสาวกโลก online คอช็อปปิ้งแล้ววันนี้

นายปรัธนา ลีลพนัง ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ส่วนงานบริการเสริม บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส กล่าวว่า “ปัจจุบันการเติบโตของตลาด Application เป็นไปอย่างก้าวกระโดดพร้อมกับการเติบโตของ Smart Device Appได้กลายเป็นธุรกิจแห่งอนาคตของโลกมือถือ โดยปัจจุบันทั่วโลกมี App ที่ใช้กับสมาร์ทโฟนและสมาร์ทดีไวซ์ต่างๆกว่า 1,000,000 App และมี App ใหม่ๆเกิดมากกว่า 1,000 application ต่อวัน จึงทำให้มูลค่าของตลาดการพัฒนา App ทั่วโลกสูงกว่าธุรกิจในโลกสื่อสารประเภทอื่นๆเป็นอย่างมาก สำหรับในประเทศไทยผู้บริโภคให้ความสนใจในการใช้งาน application เป็นอย่างมาก เห็นได้จากสถิติการ download application ที่มากถึง 1.2 ล้าน download ต่อเดือน ซึ่งส่วนมากมาจากผู้ผลิต application ต่างประเทศ โดยปัจจุบันในประเทศไทยมีบริษัท Service provider และContent Provider เข้าสู่ธุรกิจ application และ content อย่างเต็มรูปแบบประมาณ 250 ราย”

“ดังนั้นเอไอเอสในฐานะ Operator นอกเหนือจากการมองหา Application ใหม่ๆให้แก่ลูกค้าแล้ว การเข้าสนับสนุนนักพัฒนา App ให้เข้มแข็งและมีพลังในการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆที่เหมาะกับผู้บริโภคคนไทย และลูกค้าในต่างประเทศจึงเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญเช่นเดียวกัน ดังเช่นการจัดโครงการ AIS Start Up Weekend 2011 ที่ผ่านมา ซึ่งประสบผลสำเร็จเกินคาดหมาย โดยมีทีมนักพัฒนาหน้าใหม่ศักยภาพสูงหลายทีมกำลังเข้าสู่เส้นทางการเป็นเจ้าของธุรกิจดิจิตอลอย่างเต็มตัว ภายในเวลาเพียง 6 เดือนเท่านั้น อาทิ ทีม ShopSpot 1 ในผู้ชนะจาก AIS Start Up Weekend 2011 ซึ่งขณะนี้นอกจากจะเปิดตัว Application : Shop Spot ที่เป็น peer-to-peer commerce platform ที่อำนวยความสะดวกให้ผู้คนสามารถทำการซื้อขายของกันได้อย่างง่ายๆ บนโลก Social Network ด้วยแนวคิด “ทำให้การซื้อ-ขายของเป็นเรื่องง่ายเหมือนการทวีต” แล้ว ปัจจุบันยังได้จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทขึ้นอย่างเป็นทางการ โดยมีนักลงทุนมาร่วมลงทุนเป็นที่เรียบร้อยแล้วเช่นกัน เช่นเดียวกับทีมอื่นๆที่ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนา Application พร้อมๆกับการเดินสาย Road Show กับนักลงทุนอยู่”

“นี่คือ Trend ที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลกในส่วนของอุตสาหกรรมการพัฒนา Application ที่หลายประเทศต่างพยายามผลักดันให้พลเมืองก้าวสู่การเป็นผู้ประกอบการดิจิตอลด้วยเทคโนโลยีปัจจุบันที่ทำให้สามารถเข้าถึงลูกค้าทุกชาติ ทุกภาษาได้อย่างไร้ข้อจำกัด โดยในส่วนของเอไอเอสเองนั้นช่วงที่ผ่านมาเราเองได้ต้อนรับพันธมิตรที่เป็น Content Provider หรือ Service Provider อย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาบริการและ Application ไปด้วยกัน อย่างไรก็ตามวันนี้เราได้ก้าวเข้าสู่โลกแห่งคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถและศักยภาพในการเป็นนักพัฒนา App อย่างเต็มรูปแบบพร้อมความกล้าในการเริ่มเป็นเจ้าของกิจการ ดังนั้นวันนี้เอไอเอสจึงเดินหน้าไปอีกขั้นในการต้อนรับการเป็นพันธมิตรโดยตรงกับตัวผู้พัฒนา Application หรือบริษัทรายย่อย ซึ่งปัจจุบันเริ่มเกิดขึ้นอย่างมากมาย กับ “โครงการ AIS The StartUP” ที่เป็นลักษณะของ Community นักพัฒนา ซึ่งเอไอเอสพร้อมจะสนับสนุน ส่งเสริม ทั้งเทคโนโลยี การเชื่อมต่อกับระบบหลังบ้าน กลยุทธ์-เทคนิคทางการตลาด ช่องทางการเข้าถึงลูกค้าเอไอเอสที่มีกว่า 34 ล้านรายในปัจจุบัน และลูกค้าในระดับภูมิภาคผ่านทาง Singtel Group ที่มีฐานลูกค้ากว่า 400 ล้านราย ตลอดจนการให้คำแนะนำในการจัดตั้งบริษัทฯและเข้าพบนักลงทุนต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีความสนใจลงทุนในธุรกิจ Digital อย่างไม่จำกัด” นายปรัธนากล่าว

โครงการ AIS The StartUP เปิดให้ท่านร่วมแชร์ไอเดียหรือส่งผลงานเข้ามาได้แล้ววันนี้ที่ email : thestartup@ais.co.th ดูรายละเอียดของโครงการได้ทาง http://www.ais.co.th/thestartup โดยหากไอเดียมีความน่าสนใจและสามารถนำมาพัฒนาต่อยอดได้ ทีมงาน AIS จะเชิญเข้าพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดและพัฒนาผลงานร่วมกัน ณ AIS Innovation Center อาคารเอไอเอส พหลโยธิน ซอย 9 ชั้น 3 ซึ่งต่อจากนี้จะเป็นศูนย์กลางในการพบปะกันของคอมมูนิตี้นักพัฒนา รวมถึงนัดหมายให้พบปะกับนักลงทุนเพื่อเชิญชวนให้เข้ามาลงทุนในบริการที่พัฒนาร่วมกันต่อไป

ข้อมูลโดยย่อเกี่ยวกับทีมชนะเลิศและทีมรองชนะเลิศ AIS Startup weekend BKK 2011

ทีมชนะเลิศ

ทีม Chatterbox กับคอนเซ็ปท์สร้าง cross-platform mobile app


ทีม Chatterbox กับคอนเซ็ปท์สร้าง cross-platform mobile app ที่ช่วยให้ผู้ชมรายการโทรทัศน์สามารถสื่อสารกับผู้ชมคนอื่น ๆ ได้ในขณะชมรายการเดียวกัน และยังช่วยให้เจ้าของรายการสามารถเข้ามีส่วนร่วมกับผู้ชมรายการตนเองในขณะเดียวกันได้อีกด้วย จึงนับว่าเป็นการเชื่อมผู้คนที่ชมรายการโทรทัศน์เข้าด้วยกันไปพร้อมกับเปลี่ยนประสบการณ์เกี่ยวกับการดูรายการโทรทัศน์ และเปลี่ยนโลกนวัตกรรมอีกด้วย

ทีมรองชนะเลิศ

ทีม ShopSpot กับแอพฯ Shop Spot เป็นแอพฯ มือถือแนว peer-to-peer commerce platform


ทีม ShopSpot กับแอพฯ Shop Spot เป็นแอพฯ มือถือแนว peer-to-peer commerce platform ที่เปิดให้ผู้คนสามารถทำการซื้อขายของกันได้อย่างง่าย ๆ โดยมีแนวคิดของแอพฯ ว่า “ทำให้การซื้อของขายของเป็นเรื่องง่ายเหมือนการทวีต” ซึ่ง ShopSpot ได้เปิดตัวแอพฯมือถือบนแพลตฟอร์ม IOS หรือใน Apple storeไปแล้วเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา และสามารถก้าวไปอยู่ในระดับท๊อป 5 ของแอพฯ ประเภทเดียวกันภายในระยะเวลาแค่ 12 ชั่วโมงเท่านั้น ถึงตอนนี้ แอพฯ ShopSpot มียอดดาวน์โหลดแล้วมากกว่า 1500 ครั้ง และกำลังสร้างกระแสใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นบนโลกมือถือ

ทีม Like Me แอพพลิเคชั่นบนมือถือที่ใช้รับสิทธิพิเศษที่ผู้ใช้ชอบที่สุดจากแบรนด์ที่ชื่นชอบ


ทีม Like Me แอพพลิเคชั่นบนมือถือที่ใช้รับสิทธิพิเศษที่ผู้ใช้ชอบที่สุดจากแบรนด์ที่ชื่นชอบ และสนุกไปพร้อมกับเพื่อนๆ ที่ชอบเหมือนกัน ปัจจุบัน Like me กำลังดำเนินการพัฒนาโดย Like me จะเริ่มออกสู่สายตาผู้ใช้ครั้งแรกในต้นเดือน กรกฎาคมนี้ โดยขณะนี้ Like Me ได้มี Investor ในเมืองไทยเข้าร่วมลงทุนแล้ว

ทีม Got it พัฒนาแอพเพื่อรักษาความภักดีในตราผลิตภัณฑ์ในกลุ่มลูกค้า


ทีม Got it พัฒนาแอพเพื่อรักษาความภักดีในตราผลิตภัณฑ์ในกลุ่มลูกค้า โดยสามารถใช้โทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟนแทนบัตรประเภท Royalty card ที่เป็นพลาสติกหรือบัตรกระดาษแข็งแบบดั่งเดิม และยังช่วยให้เจ้าของสินค้าและผู้ค้าเสนอโปรโมชั่นให้ลูกค้าสามารถรับผลประโยชน์จากแต้มสะสมได้มากขึ้น ช่วยอำนวยความสะดวกสร้างความสนุก สร้างสังคม และให้ประโยชน์กับทุกฝ่ายทั้งลูกค้าและเจ้าของสินค้า ผู้ขายสินค้า

ทีม Flowz แอพฯ ในรูปแบบ Privilege Platform ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถพบประสบการณ์ใหม่ของการให้ privilege


ทีม Flowz แอพฯ ในรูปแบบ Privilege Platform ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถพบประสบการณ์ใหม่ของการให้ privilege และกิจกรรมสนุกๆ และช่วยให้บริษัทสามารถสร้างช่องทางการประชาสัมพันธ์ผ่านโปรแกรมcustomer royalty ให้กับลูกค้า โดยเจาะกลุ่มลูกค้าอายุระหว่า 18-40 ปีที่ใช้ Social Network และมือถือประเภทสมาร์ทโฟน กำลังเปิดให้บริการในเดือนมิถุนายน ทั้ง iOS และ Android

View :2110
Categories: Press/Release Tags:

โซนี่ มิวสิค ต่อยอดกลยุทธ์ “One Sony”ให้ลูกค้า “เอ็กซ์พีเรียโซนี่สมาร์ทโฟน” ดาวน์โหลดและสตรีมมิ่งคอนเทนต์ได้ฟรียกค่ายแล้ววันนี้

May 14th, 2012 No comments

มิวสิค ต่อยอดกลยุทธ์ “One Sony” ให้ลูกค้า “เอ็กซ์พีเรียโซนี่สมาร์ทโฟน” (Xperia™ Sony Smartphone) ดาวน์โหลดและสตรีมมิ่งคอนเทนต์ อาทิ เพลง MP3 และ มิวสิควีดีโอ จากโซนี่มิวสิคได้ฟรี!!!!!! ผ่านทางเว็บแอพพลิเคชั่น “ไอ-ฮัม มิวสิค สโตร์” (I-humm music store) ตั้งแต่วันนี้-31 ธันวาคม 2555 ด้วยวิธีง่ายๆเพียงดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น “ไอ-ฮัม มิวสิค สโตร์” (I-humm music store) ผ่านทาง Google Play มาลงไว้ในมือถือ เพียงเท่านี้ลูกค้า “เอ็กซ์พีเรียโซนี่สมาร์ทโฟน” (Xperia™ Sony Smartphone)ก็สามารถสนุกสนานและเพลิดเพลินไปกับคอนเทนต์ทั้งไทยและต่างประเทศจากโซนี่มิวสิคได้ง่ายๆและไม่ยุ่งยาก โดยสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง https://www.facebook.com/sonymobileth

View :1747
Categories: Press/Release Tags:

เทรนด์ ไมโคร ประกาศจับมือเฟซบุ๊กร่วมนำเสนอระบบป้องกันผู้ใช้ในโลกดิจิทัล

May 14th, 2012 No comments

บริษัท เทรนด์ ไมโคร อินคอร์ปอเรท ผู้นำระดับโลกด้านการรักษาความปลอดภัยสำหรับระบบคลาวด์ ประกาศเป็นพันธมิตรร่วมกับเฟซบุ๊ก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับมัลแวร์และไซต์ที่เป็นอันตรายต่างๆ และปกป้องชีวิตของผู้ใช้ในโลกดิจิทัล โดยเฟซบุ๊กจะสนับสนุนการผสานรวมโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายป้องกันภัยอัจฉริยะ (Trend Micro™ Smart Protection Network™) ซึ่งใช้เทคโนโลยีคลาวด์ การเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของภัยคุกคาม และเครือข่ายระบบตรวจจับภัยคุกคามอัจฉริยะทั่วโลก เพื่อหยุดการทำงานของมัลแวร์และภัยคุกคามบนเว็บในเชิงรุกก่อนที่จะเข้าถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ นอกจากนี้ เฟซบุ๊กจะใช้เทคโนโลยีนี้เพื่อช่วยในการปิดกั้นลิงก์ที่เป็นอันตรายต่างๆ ด้วย

ขณะนี้ผู้ใช้เฟซบุ๊กจะได้รับประโยชน์จากการป้องกันในลักษณะเดียวกับที่มีการปรับใช้ในองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ระดับโลก เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊ก ไม่ว่าจะผ่านทางเครื่องแมค พีซี หรืออุปกรณ์มือถือ คลิกลิงก์ที่ถูกส่งหรือโพสต์อยู่บนวอลล์ของเพื่อน ลิงก์ดังกล่าวจะถูกวิเคราะห์ก่อนโดยอัตโนมัติ (เบื้องหลัง) จากเครือข่ายป้องกันภัยอัจฉริยะของบริษัท เทรนด์ ไมโคร (Trend Micro™ Smart Protection Network™) ซึ่งจะดำเนินการวิเคราะห์ในแบบเรียลไทม์เพื่อดูว่า URL และเนื้อหาของลิงก์ดังกล่าวปลอดภัยหรือไม่ ถ้าดูเหมือนว่าลิงก์ดังกล่าวจะไม่ปลอดภัย บริษัท เทรนด์ ไมโครจะแจ้งเตือนผู้ใช้ว่าลิงก์นั้นอาจนำไปสู่เว็บไซต์ที่เป็นอันตรายหรือไซต์ของมัลแวร์ได้ นอกจากโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายป้องกันภัยอัจฉริยะจะได้ผสานรวมเข้ากับฐานข้อมูลของเฟซบุ๊กซึ่งเป็นฐานข้อมูลเกี่ยวกับผู้ให้บริการ URL ที่เป็นอันตรายจากภายนอกแล้ว เทคโนโลยีดังกล่าวยังได้นำเสนอการป้องกันขั้นสูงจากระบบคลาวด์เพื่อช่วยปิดกั้นภัยคุกคามในแบบเรียลไทม์ พร้อมทั้งประมวลผล URL อีเมล และการสืบค้นไฟล์กว่า 70 ล้านรายการต่อวัน โดยในแต่ละวันบริษัท เทรนด์ ไมโคร สามารถบล็อกภัยคุกคามได้กว่า 1.4 พันล้านรายการและประมวลผล URL ใหม่ๆ ได้เป็นจำนวนกว่า 300 ล้านรายการ

บริษัท เทรนด์ ไมโคร และเฟซบุ๊กยังร่วมมือกันส่งเสริมและให้ความรู้ด้านความปลอดภัยแก่ผู้ใช้ โดยจะแจ้ง ให้ทราบถึงพัฒนาการล่าสุดของภัยคุกคามผ่านทางหลากหลายช่องทางที่กำลังดำเนินการอยู่ ไม่ว่าจะเป็นหน้าเว็บด้านความปลอดภัยของเฟซบุ๊ก คำแนะนำในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ประกาศในบล็อก แบบสอบถาม วิดีโอ และอื่นๆ

แครอล คาร์เพนเตอร์ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายผู้บริโภค บริษัท เทรนด์ ไมโคร กล่าวว่า “ปัจจุบัน เฟซบุ๊ก ถือเป็นระบบสื่อสารที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง และไม่ว่าคุณจะมีอายุ 9 ขวบหรือ 99 ปี ก็สามารถตกเป็นเป้าหมายของอาชญากรไซเบอร์ได้เหมือนๆ กัน นั่นคือสาเหตุที่ทำให้เรารู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้เป็นพันธมิตรร่วมกับเฟซบุ๊กในการนำเสนอระดับชั้นการป้องกันเพิ่มเติมให้กับผู้ใช้ ซึ่งจะช่วยให้พวกเขาไม่ต้องเป็นกังวลเมื่อติดต่อสื่อสารกับเพื่อนๆ และสามารถอัพโหลดรูปภาพในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ของตนได้อย่างสบายใจ”

โจ ซูลลิแวน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายความปลอดภัยของเฟซบุ๊ก กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้ผสานรวมกับเครือข่ายป้องกันภัยอัจฉริยะของบริษัท เทรนด์ ไมโคร เข้ากับฐานข้อมูล URL ที่เป็นอันตรายของเฟซบุ๊ก รวมถึงการมีโอกาสที่ได้นำเสนอซอฟต์แวร์ของเทรนด์ ไมโคร ให้กับผู้ใช้ของเราด้วย ความร่วมมือในครั้งนี้จะทำให้เราสามารถปกป้องผู้ใช้บริการของเราได้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ใดบนเว็บก็ตาม”

นอกจากนี้ บริษัท เทรนด์ ไมโคร ยังได้นำเสนอเทรนด์ ไมโคร ไททาเนียม ซิเคียวริตี้ เอสเซนเชียลส์ (Trend Micro™ Titanium™ Security Essentials) รุ่นทดลองใช้ฟรีเป็นระยะเวลา 6 เดือนสำหรับผู้ใช้เฟซบุ๊กผ่านทางพีซี และเทรนด์ ไมโคร สมาร์ท เซิร์ฟวิ่งสำหรับเครื่องแมค (Trend Micro™ Smart Surfing for Mac) รุ่นทดลองใช้ฟรีสำหรับผู้ใช้เฟซบุ๊กผ่านทางเครื่องแมค ซึ่งทั้งสองโซลูชั่นนี้จะจัดเตรียมระบบป้องกันที่จำเป็นสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการท่องเว็บโดยปราศจากสิ่งรบกวน ในเบื้องต้นบริการนี้จะพร้อมใช้งานสำหรับผู้ใช้ในประเทศสหรัฐอเมริกา แคนาดา อังกฤษ และออสเตรเลียก่อน เมื่อต้องการลงทะเบียนใช้งานให้เข้าร่วมในชุมชน Fearless Web ของบริษัท เทรนด์ ไมโครทางเฟซบุ๊ก ด้วยการคลิก “Like” Fearless Web เพื่อรับสิทธิ์ใช้งานฟรีเป็นเวลาหกเดือน ซึ่งข้อเสนอนี้ยังจะสามารถเข้าถึงได้ผ่านทางหน้าความปลอดภัยของเฟซบุ๊ก (https://www.facebook.com/security) ได้ด้วยเช่นกัน
เทรนด์ ไมโคร ไททาเนียม ซิเคียวริตี้ เอสเซนเชียลส์สำหรับพีซี • ใช้เทคโนโลยีคลาวด์เพื่อหยุดภัยคุกคามในลักษณะเชิงรุกก่อนที่จะมาถึงตัวคุณ • ใช้พื้นที่ฮาร์ดดิสก์และหน่วยความจำไม่ถึงครึ่งเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์รักษาความปลอดภัยอื่นๆ • อินเทอร์เฟสง่ายต่อการติดตั้งและใช้งาน และยังได้รับคะแนนระดับสูงสุดจากการทดสอบ AV Comparatives*
เทรนด์ ไมโคร สมาร์ท เซิร์ฟวิ่งสำหรับเครื่องแมค • ป้องกันกลลวงฟิชชิ่งและภัยคุกคามออนไลน์อื่นๆ รวมถึงป้องกันการดาวน์โหลดสิ่งที่เป็นอันตรายจากเว็บไซต์ • ช่วยให้คุณสามารถจัดการกิจกรรมทางออนไลน์ของบุตรหลานได้ด้วยคุณสมบัติการควบคุมโดยผู้ปกครอง • การอัพเดตอัตโนมัติไม่มีค่าใช้จ่าย • เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับเครื่องแมคที่ขายดีเป็นอันดับหนึ่งในประเทศสหรัฐอเมริกา**

* อ้างอิงข้อมูลผลการทดสอบ AV Comparatives Whole Product Dynamic “Real World” Protection ระหว่างเดือนพฤษภาคม – สิงหาคม 2554
** อ้างอิงข้อมูลยอดจำหน่ายปลีกรวมสิบสองเดือนในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งรายงานโดย NPD Group เมื่อเดือนมกราคม 2555

View :1351

ออโตเดสก์จับมือ Photobucket นำ Pixlr สู่ผู้ใช้กว่า 100ล้านราย

May 14th, 2012 No comments


โปรแกรมแต่งภาพยอดนิยม Pixlr เพิ่มลูกเล่นใหม่ๆ ให้กับผู้ใช้ Photobucket

ออโตเดสก์ จับมือ Photobucket เว็บไซต์แชร์รูปและวีดีโอยอดนิยมนำ Pixlr™ โปรแกรมแต่งภาพที่สามารถแก้ไขได้แบบพิกเซลต่อพิกเซลสู่ผู้ใช้กว่า 100ล้านรายทั่วโลก “ออโตเดสก์จะช่วยปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ด้วยการสร้างการออกแบบแบบดิจิตอลและสร้างเครื่องมือที่สามารถเข้าถึงได้ ที่สำคัญเป็นที่ถูกใจของคนส่วนมาก” กล่าวโดย ซามีร์ ฮันนา รองประธานฝ่ายสินค้าอุปโภคบริโภคของออโตเดสก์ “เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะเพิ่มประสบการณ์ให้กับผู้ใช้ Photobucket และยังคงเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานต่างๆ ผ่านเครื่องมือแต่งภาพที่หลากหลายของ Pixlr “

View :1322
Categories: Press/Release Tags:

ดีแทคประกาศแต่งตั้งรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการเงินและบัญชี

May 14th, 2012 No comments

บริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ประกาศแต่งตั้ง นายเพ็ตเตอร์ เฟอร์เบิร์ก ให้ดำรงตำแหน่งรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการเงินและบัญชี โดยเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคม 2555 เป็นต้นไป

นายเพ็ตเตอร์ เฟอร์เบิร์ก ได้ร่วมงานกับดีแทคมาเป็นระยะเวลากว่า 7 ปี โดยก่อนที่จะย้ายมารับตำแหน่งปัจจุบัน นายเพ็ตเตอร์ ดำรงตำแหน่งรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มงานพาณิชย์ ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2553 และก่อนหน้านั้น เคยดำรงตำแหน่งรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการเงินและบัญชีที่ดีแทคมาก่อน ตั้งแต่ปี 2547 – 2550 ในระหว่างนั้น นายเพ็ตเตอร์ เป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อปี 2550 ส่งผลให้ดีแทคเป็นบริษัทไทยบริษัทแรกที่จดทะเบียนใน 2 ตลาด ภายหลังจากที่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศสิงคโปร์ไปแล้วในปี 2538

นายจอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น กล่าวว่า “ภายหลังจากที่ได้พยายามอย่างต่อเนื่อง ในการสรรหาผู้ที่เหมาะสมในการดำรงตำแหน่งรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการเงินและบัญชี ทั้งจากภายในประเทศและต่างประเทศ เราได้ตัดสินใจที่จะขอให้คุณเพ็ตเตอร์กลับมารับตำแหน่งนี้อีกครั้ง คุณเพ็ตเตอร์เป็นผู้ที่มีพื้นฐานแข็งแกร่งในเรื่องของอุตสาหกรรม การเงิน และการปฏิบัติการ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการสนับสนุนธุรกิจในช่วงเวลาที่สำคัญของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประมูลใบอนุญาต 2.1 GHz ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้ ผมจึงรู้สึกยินดีมากที่คุณเพ็ตเตอร์ตัดสินใจรับตำแหน่งนี้”
“ในระหว่างนี้ คุณเพ็ตเตอร์จะดำรงตำแหน่งรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการเงินและบัญชี รวมทั้งรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มงานพาณิชย์” คุณจอนกล่าว

View :1119
Categories: Press/Release Tags:

ดีแทค จับมือ โซนี่ มอบแพ็กเกจ Super Deal L พิเศษ 499 บาท ผ่อน 0% นาน 10 เดือน สำหรับ Xperia S

May 14th, 2012 No comments

ร่วมมือ มอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าสมาร์ทโฟนดีแทคโดยเฉพาะ ต้อนรับรุ่น Xperia™ S และ รุ่น Xperia™ U สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดจากโซนี่เข้าสู่ช่องทางการจัดจำหน่ายของดีแทคทั่วประเทศด้วยโปรโมชั่นจูงใจ พิเศษรุ่น Xperia™ S รับสิทธิ์แพ็กเกจ Super Deal L ใช้อินเทอร์เน็ตได้ไม่จำกัด เพียง 499 บาท/เดือน จาก 899/เดือน, ผ่อน 0% นาน 10 เดือน และลุ้นชมคอนเสิร์ต วัชราวลี , สิงโต นำโชค และแป้งโกะ แบบพิเศษกว่าใคร

นายปภาพรต ภู่ประเสริฐ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายธุรกิจอุปกรณ์สื่อสาร บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) เปิดเผยว่า ดีแทค กับ โซนี่ จับมือทำตลาดสมาร์ทโฟนร่วมกันในครั้งนี้เพื่อให้ลูกค้าของเรามีสมาร์ทโฟนคุณภาพระบบในปฏิบัติการแอนดรอยด์เป็นทางเลือกใหม่ ซึ่งรุ่น Xperia™ S มีความโดดเด่นในด้านของฟังก์ชั่นด้านเสียงเพลงและกล้องที่มีความละเอียดสูงถึง 12 ล้านพิกเซล ในครั้งนี้ดีแทคได้ต้อนรับลูกค้าที่ชื่นชอบโซนี่ ด้วยโปรโมชั่นพิเศษเพื่อให้ลูกค้าได้ใช้งานด้านดาต้าและเอนเทอร์เทนเมนต์ต่าง ๆ บนเครือข่าย dtac 3G กับ รุ่นXperia™ S ได้อย่างสนุกเต็มรสชาติ เราจึงให้สิทธิ์ลูกค้าใช้งานแพ็กเกจ Super Deal L ยอดนิยมจากดีแทคได้ในอัตราเพียงเดือนละ 499 บาท ลูกค้าสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ไม่จำกัดและใช้งานโทรได้ถึง 550 นาที พร้อมกันนั้นพันธมิตรทั้งสองยังร่วมมือกันจัดแคมเปญบันเทิงพิเศษเพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของลูกค้ากลุ่มนี้ โดยให้ลูกค้ามีสิทธิ์ลุ้นไปชมคอนเสิร์ตวัชราวลี , สิงโต นำโชค และ แป้งโกะ ฟรีในช่วงเดือนมิถุนายนด้วย และในระยะเวลาอันใกล้นี้ดีแทคจะได้นำรุ่น Xperia™ U มาจำหน่ายอีกรุ่นหนึ่ง เพื่อให้ลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนได้ง่ายด้วยสเปคเครื่องที่มีคุณภาพในราคาน่าสนใจ

การทำตลาดสมาร์ทโฟนของดีแทคในปี 2555 เรายึดมั่นในคอนเซ็ปต์การตลาด “สมาร์ทโฟน 3G จากดีแทค ใคร ๆ ก็มีได้” และยังคงเดินหน้านำเครื่องรุ่นยอดนิยมต่าง ๆ มาจำหน่ายตามความต้องการของลูกค้าพร้อมกับจัดโปรโมชั่นให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ของแต่ละกลุ่มต่อไป

นายกฤษณ์ ประพัทธศักดิ์ รองผู้จัดการทั่วไป บริษัท โซนี่ โมบายล์ คอมมิวนิเคชั่น (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ในปีนี้ทางโซนี่มุ่งเน้นการทำการตลาดร่วมกับพันธมิตรที่มีความแข็งแรงทางด้านต่างๆอย่างต่อเนื่อง โดยความร่วมมือกันระหว่าง โซนี่ และ ดีแทค ในครั้งนี้ เป็นสัญญาณที่ดีในการที่จะขยายตลาดสมาร์ทโฟนเข้าสู่ช่องทางการจัดจำหน่ายของดีแทคที่มีอยู่ทั่วประเทศ และเป็นการทำโปรโมชั่นร่วมกันเพื่อให้ลูกค้าดีแทคที่ซื้อโซนี่สมาร์ทโฟนได้รับประโยชน์สูงสุด เนื่องจากดีแทคมีจุดแข็งอยู่ที่การเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายที่มีคุณภาพและครอบคลุมทั่วประเทศ ซึ่งทางโซนี่เชื่อมั่นว่าความร่วมมือในครั้งนี้นอกจากจะเป็นการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายและเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทแล้ว ยังสามารถสร้างแบรนด์โซนี่ ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

ดีแทคจัดจำหน่ายสมาร์ทโฟน จาก โซนี่ รุ่นใหม่ถึง 2 รุ่นด้วยกัน ประกอบด้วย Xperia™ S และ Xperia™ U ที่สำนักงานบริการลูกค้าดีแทค ดีแทคเซ็นเตอร์ ทุกสาขาทั่วประเทศ

ลูกค้าที่ซื้อ รุ่น Xperia™ S ราคา 17,990 บาทที่ดีแทค สามารถรับสิทธิ์ผ่อนดอกเบี้ย 0% นาน 10 เดือนกับบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ พร้อมทั้งได้รับสิทธิ์สมัครแพ็กเกจ Super Deal L เพียง 499 บาทต่อเดือน (จาก 899 บาทต่อเดือน) ในรอบบิลที่ 1-6 และ 649 บาทต่อเดือน ในรอบบิลที่ 7-18 และสามารถใช้งานเอนเทอร์เทนเมนต์กับ รุ่น Xperia™ S อย่างเต็มที่บนเครือข่าย dtac 3G (ใช้ความเร็ว 3G สูงสุดจำนวน 2 GB) พร้อมทั้งใช้งานโทรได้เดือนละ 550 นาที

สำหรับ รุ่น Xperia™ U ราคา 9,990 บาท วางจำหน่ายในเดือนมิถุนายนนี้ มอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าดีแทครับโบนัสค่าโทร (ดีแทคโบนัส) รอบบิลละ 300 บาท นาน 24 รอบบิล และใช้บริการเสริมฟรี เฟซบุ๊คนาน 24 เดือน สำหรับลูกค้าแฮปปี้รับฟรีเฟซบุ๊ค พร้อมรับโบนัสโทรฟรี นาน 12 เดือน เมื่อสมัครแพ็กเกจที่ร่วมรายการ

ลูกค้าสามารถดูรายละเอียดสมาร์ทโฟนใหม่พร้อมโปรโมชั่นเพิ่มเติม และศึกษาเงื่อนไขการใช้งานแพ็กเกจต่าง ๆ ได้ที่ www.dtac.co.th

View :1681

เอชพี ปฏิวัติบริการสนับสนุนลูกค้าองค์กรรองรับยุคคลาวด์ เปิดตัวบริการ Always On Support Services ใหม่

May 14th, 2012 No comments

ชูจุดเด่นป้องกันการเกิดปัญหาต่างๆ ลดเวลาการหยุดทำงานของระบบ พร้อมพัฒนาอัตราการแก้ไขปัญหาได้สำเร็จในครั้งแรก

เอชพี ประกาศเปิดตัวบริการสนับสนุนด้านไอทีรายแรกในอุตสาหกรรม มีระบบสถาปัตยกรรมรองรับสภาพแวดล้อมแบบคลาวด์ แบบผนวกจากผู้ให้บริการหลากหลายราย ช่วยให้องค์กรต่างๆ มีความพร้อมรับมือกับปัญหาก่อนเกิดขึ้นจริง ตลอดจนมีอัตราการแก้ไขปัญหาสำเร็จตั้งแต่ครั้งแรกเพิ่มขึ้นร้อยละ 95 และช่วยแก้ไขปัญหาการหยุดทำงานของระบบที่ไม่ได้คาดการณ์ไว้ได้เร็วขึ้นร้อยละ 66(1)

บริการ ใหม่จากเอชพี ผนวกรวมเทคโนโลยีอัจฉริยะที่พัฒนาบนระบบสถาปัตยกรรมแบบผนวกของเอชพี (HP Converged Infrastructure) และนวัตกรรมบริการต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อมอบประสบการณ์การสนับสนุนโฉมใหม่ในสภาพแวดล้อมไอทีที่มีความซับซ้อนในปัจจุบัน

บริการสนับสนุนแบบเดิมเป็นการสนับสนุนในรูปแบบของการแก้ไขหลังจากมีปัญหาที่เกิดขึ้น (break/fix) โดยใช้กับอุปกรณ์แยกเฉพาะแต่ละชนิดที่จัดเก็บไว้ในคลังเทคโนโลยีเดียว อุปกรณ์ดังกล่าวมีทั้งสภาพแวดล้อมแบบคลาวด์ แบบเวอร์ช่วล และหลายหลายผู้ให้บริการ โดยจะมีการทำงานที่เกี่ยวพันระหว่างกันทั่วระบบโครงสร้างพื้นฐานไอที ส่งผลให้การทำงานมีความซับซ้อนมากขึ้นอีกระดับ

การวินิจฉัยปัญหาในสภาพแวดล้อมแบบเดิมดังกล่าวทำได้ช้ามาก ก่อให้เกิดการหยุดทำงานของระบบอย่างที่ไม่ได้คาดการณ์ไว้ ซึ่งทำให้องค์กรต่างๆ มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยชั่วโมงละ 10 ล้านเหรียญสหรัฐ(2) ดังนั้น การกำหนดทิศทางการสนับสนุนแบบใหม่ๆ จึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับองค์กรในปัจจุบัน

รายงานล่าสุดของการ์ทเนอร์ระบุว่า คำจำกัดของ “บริการสนับสนุน” นั้นเปลี่ยนแปลงไป ลูกค้าต้องการและจำเป็นต้องได้รับบริการสนับสนุนเพื่อช่วยหลีกเลี่ยงการเกิดปัญหามากกว่าต้องการบริการแก้ไขหลังจากมีปัญหาเกิดขึ้น(3)

ในกรณีที่มีการคาดการณ์ไม่เพียงพอ ลูกค้าต้องการการสนับสนุนที่เข้มข้นมากขึ้นเมื่อเกิดปัญหา เช่น ความต้องการติดต่อกับหน่วยงานให้ความช่วยเหลือจากแหล่งเดียว และต้องมีความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมการทำงานของตน เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว

มร. ร็อบ แอดดี้ ผู้อำนวยการด้านการวิจัยของการ์ทเนอร์ กล่าวว่า “การนำนวัตกรรมเทคโนโลยีสุดล้ำ เช่น เทคโนโลยีเวอร์ช่วลไลเซชั่น และระบบโครงสร้างพื้นฐานแบบผนวกรวมกับสภาพแวดล้อมหลากหลายระบบจะทำให้เกิดความซับซ้อนมากขึ้น ทั้งยังทำให้สภาพแวดล้อมทางเทคโนโลยีในปัจจุบันมีความท้าทายมากกว่าที่เคยมีมา ส่งผลให้ลูกค้าต้องการและคาดหวังจากผู้ให้บริการสนับสนุนมากขึ้น ขณะที่ระบบการสนับสนุนแบบเดิมจะมีความสำคัญลดลง ดังนั้น จึงถึงเวลาที่ต้องมีการพัฒนาและยกระดับระบบการสนับสนุนใหม่ โดยใช้วิธีการป้องกันเชิงรุกและมีการคาดการณ์อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นมาตรการที่เป็นที่ต้องการอย่างมาก”

การสนับสนุนเชิงรุกจากผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้รอบด้าน

ระบบสนับสนุน Always On Support Services จากเอชพี เปิดให้ลูกค้าสามารถติดต่อสื่อสารโดยตรงกับผู้เชี่ยวชาญระดับมืออาชีพ ซึ่งรู้จักคุ้นเคยกับลูกค้า ทั้งยังเข้าใจถึงสภาพแวดล้อมการทำงานของลูกค้าอย่างลึกซึ้ง และมีข้อมูลเกี่ยวกับระบบการทำงานของลูกค้าโดยละเอียด ก่อนได้รับการติดต่อขอรับบริการจากลูกค้าเป็นครั้งแรก

เซิร์ฟเวอร์ HP ProLiant Gen8 ใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อเร็วๆ นี้ มาพร้อมกับรูปแบบการให้บริการ Always on Support Services ใหม่ดังกล่าว ทั้งยังมีข้อมูลการวิเคราะห์สมรรถนะเครื่องเซิร์ฟเวอร์ เสริมทัพด้วยเครื่องมือสนับสนุน HP Insight Remote Support สุดล้ำที่มีการทำงานอัตโนมัติ ทั้งยังมีสมรรถนะสนับสนุนและให้บริการใหม่ และมีข้อมูลการรับประกันสำหรับลูกค้า ส่งผลให้บริการสนับสนุนของเอชพี คือ สุดยอดประสบการณ์การสนับสนุนที่ประหยัดและคุ้มค่าสูงสุด เหนือกว่ามาตรฐานของอุตสาหกรรมไอที

คุณวราภรณ์ ปิ่นโฑละ ผู้อำนวยการ หน่วยธุรกิจ เทคโนโลยี เซอร์วิส กลุ่มธุรกิจ เอ็นเทอร์ไพรส์ บิสิเนส บริษัท เอชพี ประจำประเทศไทย กล่าวว่า “องค์กรต่างๆ จำเป็นต้องมีเทคโนโลยีพื้นฐานที่สามารถช่วยจัดการกับระบบไอที เพื่อให้องค์กรจัดสรรเวลาและทรัพยากรต่างๆ มาทุ่มเทกับการสร้างสรรค์นวัตกรรมแทนที่จะหมดไปกับการแก้ไขปัญหาต่างๆ” และเสริมว่า “ปัจจุบัน รูปแบบการสนับสนุนระบบไอทีเชิงรับแบบเดิมไม่ให้ประสิทธิผลอีกต่อไป อุตสาหกรรมไอทีจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนวิธีให้การสนับสนุนเพื่อให้บริการเชิงรุกและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าแต่ละราย และเอชพี คือผู้นำด้านดังกล่าว”

ผนวกรวมบริการสนับสนุนและระบบโครงสร้างพื้นฐานของเอชพี

บริการ Always On Support Services จากเอชพี มอบประสบการณ์การให้บริการลูกค้าเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งระบบการแก้ไขปัญหาเชิงรุก โดยมอนิเตอร์การทำงานที่จุดจัดเก็บข้อมูลการวินิจฉัยกว่า 1,600 จุดที่รวบรวมโดยระบบสถาปัตยกรรม HP ProActive Insight Architecture อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน สถาปัตยกรรม HP ProActive Insight Architecture ติดตั้งบนเครื่องเซิร์ฟเวอร์ HP ProLiant Gen8 และจะผนวกรวมกับพอร์ทโฟลิโอระบบโครงสร้างพื้นฐานแบบผนวกของเอชพี (HP Converged Infrastructure) ทั้งหมดในเร็วๆ นี้

บริการ Always On Support Services จากเอชพีประกอบด้วย

· บริการ HP Foundation Care เร่งรัดการแก้ไขปัญหาเพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยยกระดับบริการสนับสนุนให้มีการทำงานง่ายขึ้น ด้วยการสร้างจุดติดต่อเพียงจุดเดียวที่เอชพี เพื่อให้บริการทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ทำงานในสภาพแวดล้อมของลูกค้า นอกจากนี้ เอชพียังนำความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับผู้ให้บริการซอฟต์แวร์อิสระชั้นนำ (ISV : independent software vendors) มาใช้ขจัดปัญหาการโยนข้อผิดพลาดให้แก่ผู้อื่นที่พบในรูปแบบการให้บริการแบบเก่า

· บริการ HP Proactive Care ลดช่วงเวลาหการหยุดทำงานของระบบและสนับสนุนการทำงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยระบุปัญหาก่อนเกิดขึ้นจริง บริการ HP Proactive Care จะช่วยลูกค้าเข้าถึงผู้เชี่ยวชาญของเอชพีได้โดยตรงและทันที เพื่อรับบริการสนับสนุนและคำแนะนำที่ถูกต้องทันต่อความต้องการของลูกค้า จึงช่วยขจัดความล่าช้าจากการขอรับการสนับสนุนจากบุคลากรที่เกี่ยวข้องในระดับต่างๆ ที่พบในรูปแบบการสนับสนุนแบบเดิม

· บริการ HP Datacenter Care ให้การสนับสนุนที่ปรับตามความต้องการและสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมที่มีผู้ให้บริการหลากหลายรายของลูกค้าแต่ละองค์กร โดยมีหน่วยงานให้บริการครบวงจรเพียงจุดเดียวที่เอชพี ส่งผลให้สามารถรับสายเรียกเข้าได้มากขึ้น ให้บริการเชิงรุกที่ดีขึ้น ให้การสนับสนุนเชิงรับและมีการบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้าได้มากขึ้น โดยใช้เครื่องมือและชุดวิเคราะห์การคาดการณ์ของเอชพีเพื่อมอบความคุ้มค่าระดับพรีเมี่ยมในราคาสุดประหยัด

นอกจากนี้ เอชพี ยังเปิดบริการ Lifecycle Event Services ที่นำความรู้ความชำนาญของเอชพีมาผนวกกับพอร์ทโฟลิโอบริการชุด HP Care ข้างต้นตลอดอายุการทำงานของเทคโนโลยีในโครงการไอทีต่างๆ ซึ่งได้แก่ การวางกลยุทธ์ การออกแบบ การดำเนินการ และบริการให้การศึกษา ส่งผลให้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อบริการเพิ่มเติม เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตนได้มากที่สุด

บริการ Always On Support Services จากเอชพีเปิดให้บริการตั้งแต่วันนี้ผ่านระบบ HP Technology Services และตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตของเอชพี รวมทั้งพันธมิตรที่ได้รับอนุญาตภายใต้โครงการ HP ServiceONE

เอชพี มีกำหนดจัดงาน HP Discover ระหว่างวันที่ 4 – 7 มิถุนายน 2555 ณ เมืองลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา

View :1430