Archive

Posts Tagged ‘อีริคสัน’

อีริคสันและฟิลลิปส์ร่วมผลักดันนวัตกรรม “ซีโร่ ไซต์ – Zero Site”เติมความอัจฉริยะให้ระบบเสาโคมไฟถนนกับเครือข่ายโมบายบรอดแบรนด์

March 4th, 2014 No comments

Zero site_02
อัตราการเติบโตของประชากรในเมืองที่มีอยู่ราว 7,500 คนต่อชั่วโมง และการรับส่งข้อมูลอุปกรณ์เคลื่อนที่ (mobile data traffic) ที่มีการคาดการณ์ว่าจะเพิ่มสูงขึ้นเป็น 10 เท่าในปี พ.ศ. 2562 นั้นภาครัฐและหน่วยงานต่างๆต้องวางแผนการใช้พลังงานด้านไฟแสงสว่าง(lighting)อย่างยั่งยืน พร้อมๆไปกับการเพิ่มศักยภาพและพื้นที่ครอบคลุมของเครื่อข่ายโมบายบรอดแบรนด์ (mobile broadband capacity and coverage)ในตัวเมืองให้เพียงพอต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้น

อีริคสันและฟิลลิปส์ได้ร่วมกันพัฒนาออกแบบเสาโคมไฟถนนที่สามารถส่งสัญญาณการเชื่อมต่อเครื่อข่ายโมบายบรอดแบรนด์ เพื่อแก้ปัญหา 2 เรื่องสำหรับเมืองในอนาคต คือ ระบบการใช้พลังงานแสงสว่างแบบ LED ที่มีประสิทธิภาพสูงและประหยัดพลังงานพร้อมทั้งช่วยให้ผู้บริการเครือข่ายใช้เป็นสถานนีในการส่งสัญญาณโมบายบรอดแบรนด์เพื่อช่วยเพิ่มศักยภาพและพื้นที่ครอบคลุมของเครื่อข่ายอีกด้วย
โดยทางอีริคสันได้ตั้งชื่อนวัตกรรมนี้ว่า “ซีโร่ ไซต์ – Zero Site”สะท้อนความหมายในกรณีที่ผู้บริการเครือข่ายไม่จำเป็นต้องสร้างสถานนีส่งสัญญาณ (base station)เพิ่มเลย โดยภายในเสาโคมไฟถนน “ซีโร่ ไซต์ – Zero Site” นี้จะมีอุปกรณ์ในการรับส่งสัญญาณโมบายบรอดแบรนด์ที่สามารถเชื่อมต่อเข้ากับระบบของผู้บริการเครือข่ายต่างๆเพื่อเพิ่มศักยภาพและพื้นที่ครอบคลุมของเครื่อข่ายโดยในขณะเดียวกันก็สามารถช่วยลดความยุ่งยากในการติดตั้งและจำนวนสถานนีส่งสัญญาณในตัวเมืองไปพร้อมๆกันอีกด้วย

ไม่เพียงแค่ความสวยงามและความปลอดภัยในยามค่ำคืนจากแสงสว่างที่คนเมืองจะได้รับจากนวัตกรรม“ซีโร่ ไซต์ – Zero Site” เท่านั้น แต่คนเมืองจะได้รับประสพการณ์การใช้บริการอินเทอร์เนตโมบายบรอดแบรนด์ ที่ดียิ่งขึ้นอีกด้วย

ผู้นำด้านนวัตกรรมแห่งแสงสว่างและอีริคสันร่วมกันเปิดตัวนวัตกรรมเสาโคมไฟถนนแบบ LED รูปแบบใหม่ที่สามารถส่งสัญญาณการเชื่อมต่อเครื่อข่ายโมบายบรอดแบรนด์ (connected LED street lighting model) โดยการร่วมมือกันในครั้งนี้เพื่อเป็นการแก้ปัญหา 2 เรื่อง คือ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและพื้นที่ครอบคลุมของเครือข่าย (network performance) ในพื้นที่ๆมีการใช้งานค่อนข้างสูง รวมทั้งการใช้พลังงานไฟฟ้าสาธารณะที่มีประสิทธิภาพอีกด้วย

ฟิลลิปส์และอีริคสันได้ผสมผสานประโยชน์จากระบบไฟแบบ LED เข้ากับบริการเชื่อมต่อเครือข่ายมือถือสำหรับการใช้งานในเมืองต่างๆ โดยภาครัฐหรือหน่วยราชการท้องถิ่นสามารถสร้างรายได้โดยเปิดให้บริการแบบ”lighting-as-a-service” โดยอาจจะให้ผู้บริการเครือข่ายต่างๆเข้ามาเช่าพื้นภายในเสาโคมไฟถนนเพื่อเป็นโครงสร้างพื้นฐานร่วมสำหรับเครือข่ายโมบายบรอดแบรนด์อีกด้วย

ฟิลลิปส์จะมีการนำเสนอถึงเสาโคมไฟถนนแบบ LED ซึ่งมาพร้อมกับอุปกรณ์ด้านเทเลคอมจากอีริคสัน ทั้งนี้ผู้ให้บริการด้านโทรศัพท์มือถือที่ทำงานร่วมกับอีริคสันต่างสามารถเช่าพื้นที่ในโคมไฟถนนนี้ได้ โดยในส่วนของผู้ให้บริการด้านเครือข่ายสามารถที่จะปรับปรุงในเรื่องของการบริการด้านโมบายบรอดแบรนด์ รวมทั้งโมเดลนี้จะเร่งช่วงเวลาการคืนทุนให้กับการลงทุนในด้านของโครงสร้างพื้นฐานในเมืองและเป็นสร้างรายได้ให้แก่ภาครัฐหรือหน่วยราชการท้องถิ่นอีกด้วย

โคมไฟถนน LED ของฟิลลิปส์ช่วยประหยัดพลังงานได้ถึง 50 – 70 เปอร์เซ็นต์ และสามารถเพิ่มการประหยัดพลังงานสูงขึ้นถึง 80 เปอร์เซ็นต์เมื่อใช้ควบคู่ไปกับอุปกรณ์การควบคุมที่ดีเยี่ยม โดยอ้างอิงข้อมูลจากงานวิจัยศึกษาใน 12 เมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลก ของ The Climate Group และงานวิจัยดังกล่าวยังพบอีกว่าผู้คนในเมืองจะชอบหลอดไฟLEDสีขาว เพราะมันจะให้ความรู้สึกได้ถึงความปลอดภัยและช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพในการมองเห็นที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับหลอดไฟสีส้ม

นาย ประธานและซีอีโอของบริษัทอีริคสัน กล่าวว่า “โซลูชั่นนี้เป็นการสะท้อนความสำเร็จในพาร์เนอร์ชิพ (partnership) ของทั้งสองผู้นำในอุตสกรรม ในการนำเอาความเชี่ยวชาญและเทคโนโลยีICT มาตอบสนองกับเมกาเทรนด์ของการใช้ชีวิตแบบในเมือง โดยจำนวนผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมืองมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ประมาณ 7,500 คนต่อชั่วโมง แต่พื้นที่บนโลกของเรานั้นไม่ได้ขยายออกไปเลย และในขณะเดียวกัน ผลการวิจัยของอีริคสันคอนซูเมอร์แล็บยังชี้ให้เห็นด้วยว่า การเชื่อมต่ออินเทอร์เนตเป็น 1 ใน 5 ปัจจัยหลักที่มีผลต่อความพึงพอใจในการดำเนินชีวิตในเมือง ดังนั้น โซลูชั่น “ซีโร่ ไซต์ – Zero Site” นี้จึงนับว่าเป็นนวัตกรรมอย่างหนึ่งที่ทำให้ผู้คนสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้นในสังคมเครือข่าย (The Networked Society) ที่ทุกสิ่งทุกอย่างรอบๆตัวเราต่างเชื่อมต่อสื่อสารเข้าหากัน

นาย ฟรานย์ วานน์ ฮอสเทินน์ ประธานและซีอีโอของบริษัทฟิลลิปส์ กล่าวว่า “โมเดลโคมไฟถนนแบบ LED เป็นอีกตัวอย่างนวัตกรรมของเราในการนำ Internet of Things มาใช้ในชีวิตประจำวัน และแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของหลอดไฟที่ให้ประโยชน์มากกว่าแสงสว่างอีกด้วย โดยเราสามารถให้บริการแบบ”lighting-as-a-service” ที่ช่วยให้ ภาครัฐหรือหน่วยราชการท้องถิ่นตอบสนองความต้องการของผู้คนในเมืองทั้งด้านความปลอดภัยของชุมชนจากแสงสว่างในยามค่ำคืนและเพิ่มประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อ เครือข่ายมือถือต่างๆ ภายใต้ข้อจำกัดในงบประมาณต่างๆอีดด้วย

การที่จะรองรับกับความต้องการศักยภาพและพื้นที่ครอบคลุมของเครื่อข่าย ผู้ให้บริการเครือข่ายต่างจำต้องปรับปรุงพร้อมทั้งเพิ่มจำนวนของสถานนีหรือ cell site ให้มากขึ้นในพื้นที่ที่มีการใช้งานอันหนาแน่นโดยนวัตกรรม“ซีโร่ ไซต์ – Zero Site” ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีระดับโลกของอีริคสัน จะช่วยให้ผู้ให้บริการได้รับประโยชน์และความสะดวกรวดเร็วในขยายและเพิ่มจำนวนสถานนีโมบายบรอดแบรนด์ได้รวดเร็วยิ่งขึ้นและนี่ถือเป็นวิวัฒนาการอันสำคัญสำหรับการวางเครือข่าย(heterogeneous network)

นาย บัญญัติ เกิดนิยม ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารและองค์กรสัมพันธ์ บริษัท ประเทศไทย กล่าวเสริมว่า นวัตกรรม“ซีโร่ ไซต์ – Zero Site” นี้จะช่วยแก้ไขการหาสถานที่หรือสิทธิแห่งทาง (Right of Way) สำหรับผู้ให้บริการเครื่อข่ายในการติดตั้งสถานนีต่างๆในที่ชุมชน และในขณะเดียวกันก็เป็นการสร้างสร้างรายได้ให้กับภาครัฐหรือหน่วยราชการท้องถิ่นจากค่าเช่าพื้นที่ไปพร้อมๆกับการให้บริการสาธรณะกับผู้คนในเมืองได้อย่างยั่งยืนอีกด้วย

View :1365

อีริคสัน เปิดตัว ‘Future TV Anywhere’ เพื่อประสบการณ์ใหม่ในการรับชมโทรทัศน์

February 26th, 2014 No comments

· อีริคสันกำหนดนิยามแห่งการรับชมโทรทัศน์ยุคใหม่ ด้วยนวัตกรรมแห่งเทคโนโลยีล่าสุด

· ด้วยการควบรวมบริการ Pay TV คุณภาพเยี่ยม พร้อมคอนเทนท์ที่หลากหลาย เข้ากับบริการจาก OTT ที่จะทำให้ลูกค้าได้รับบริการที่ตรงใจ (personalization) สามารถโต้ตอบได้ (interactivity) และรับชมได้บนหน้าจอหลากหลายขนาด

· Future TV Anywhere จากอีริคสัน เป็นส่วนหนึ่งในวิสัยทัศน์ ที่จะสร้างนวัตกรรมเพื่อประสบการณ์ในการรับชมโทรทัศน์ยุคใหม่ ที่ราบรื่น และรวดเร็วแบบเว็บ

นวัตกรรมแห่งเทคโนโลยียุคใหม่ ได้ทำให้การรับชมรายการทีวีและมีเดียประเภทต่างๆ เปลี่ยนไปอย่างมาก และถึงแม้โลกของเราจะเต็มไปด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า แต่ประสบการณ์ในการรับชมรายการทีวีในปัจจุบัน ยังขาดความเป็นเอกภาพและไม่เป็นที่พึงพอใจในบางกรณี ผู้บริโภคมักใช้บริการวีดีโอจากหลายแห่ง เพื่อค้นหาคอนเทนท์ที่ถูกใจ และเปลี่ยนอุปกรณ์เพื่อการรับชมไปมา ด้วยความสามารถในการรับชมคอนเทนท์ที่แตกต่างกัน ผู้ให้บริการด้านสื่อโทรทัศน์จำนวนมาก จึงจำเป็นต้องก้าวให้เท่าทันเทคโนโลยี รวมทั้งปรับปรุงประสิทธิภาพของตนอย่างรวดเร็ว ในยุคแห่งสังคมเครือข่าย (Networked Society) ภายในปี ค.ศ. 2020 จำนวนอุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่อจะเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 50 พันล้านเครื่อง และ 15 พันล้านเครื่องในจำนวนนี้ จะสามารถให้บริการสื่อวีดีโอแก่ผู้ใช้ได้ อีริคสันได้เล็งเห็นถึงความท้าทายในธุรกิจนี้ จึงต้องการมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์นวัตกรรม และอีโคซิสเต็มของทีวีแห่งยุคอนาคต – อนาคตที่เราสามารถรับชมโทรทัศน์ได้ ทุกสถานที่ บนทุกอุปกรณ์ ด้วยประสบการณ์ในการรับชม ที่พัฒนาตามความต้องการของผู้บริโภคได้

เพื่อรองรับโอกาสทางธุรกิจดังกล่าว อีริคสันได้เปิดตัว Future TV Anywhere เพื่อนำเทคโนโลยีสมัยใหม่บนเว็บ เข้ามาสู่กลุ่มผู้ให้บริการโทรทัศน์ เพื่อสร้างบริการที่เปี่ยมคุณภาพ พร้อมคอนเทนท์ที่หลากหลายจาก Pay TV ร่วมกับความสามารถในการโต้ตอบและการแสดงผลบนหน้าจอหลายประเภท จากกลุ่มผู้ริเริ่มในบริการวีดีโอแบบ Over the Top (OTT)

อีริคสันเป็นผู้สร้างแพล็ตฟอร์มที่สมบูรณ์แบบ สำหรับผู้ให้บริการ Pay TV บนพื้นฐานของเทคโนโลยีเว็บและคลาวด์ (Cloud) ทั้งหมด โดยซอฟต์แวร์ใหม่ในรูปแบบของเซอร์วิสแพล็ตฟอร์มนี้ จะทำให้ผู้ให้บริการทีวีสามารถตอบสนองต่อตลาดได้อย่างทันท่วงที พร้อมสร้างสรรค์บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่ยังสามารถบริหารจัดการโหลดมหาศาล ที่มาพร้อมกับรายการถ่ายทอดสดได้ นอกจากนั้นแล้ว ระบบยังให้ข้อมูลเชิงวิเคราะห์ อันจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ให้บริการ เพื่อประกอบการตัดสินใจในการลงทุนครั้งใหม่ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้

คามิลล่า วอลเทียร์ ประธานบริษัทอีริคสัน ประเทศไทย

คามิลล่า วอลเทียร์ ประธานบริษัทอีริคสัน ประเทศไทย


นาง คามิลล่า วอลเทียร์ ประธานบริษัทอีริคสัน ประเทศไทย กล่าวว่า “การรับชมบริการ Pay TV บนอินเตอร์เน็ตเว็บไซด์ เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ด้านธุรกิจทีวีและมีเดียของอีริคสัน ซึ่งจะเอื้อให้ผู้บริการ Pay TV ต่างสามารถสร้างนวัตกรรมใหม่ๆในการนำเสนอคอนเทนท์ที่หลากหลายสู่ลูกค้าได้สะดวกรวดเร็ว มากยิ่งขึ้น ไม่จำกัดว่าจะต้องมี Set Top Box หรือ อุปกรณ์เพิ่มเติม อันจะนำมาซึ่งชัยชนะในตลาดที่มีการแข่งขันสูงมาก และอีริคสันยังสามารถช่วยเหลือลูกค้าในกลุ่มผู้ให้บริการโทรทัศน์และสื่อได้ดียิ่งขึ้นไปอีก ด้วยการเสนอประสบการณ์ในการรับชม ผ่าน TV Anywhere คุณภาพเยี่ยม พร้อมกับเพิ่มขีดความสามารถในการหารายได้จากบริการที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนมาก”

อีริคสันได้ลงทุนเพิ่มเติมอย่างต่อเนื้องเพื่อขยายความเป็นผู้นำในธุรกิจโทรทัศน์และสื่อ ผ่านการซื้อสินทรัพย์จาก Mediaroom และการเข้าซื้อ Azuki Systems ซึ่งมีการประกาศอย่างเป็นทางการไปเมื่อไม่นานมานี้ การลงทุนดังกล่าว ล้วนเป็นส่วนหนึ่งในวิสัยทัศน์ของอีริคสัน สู่ Future TV Anywhere อย่างเป็นรูปธรรม โดยรวมแล้ว อีริคสันประสบความสำเร็จในตลาดธุรกิจโทรทัศน์เป็นอย่างดี โดยมีแพล็ตฟอร์ม IPTV ที่ถูกนำไปใช้มากที่สุดในโลก ร่วมกับประสบการณ์กว่าหลายทศวรรษในเทคโนโลยีวีดีโอ นอกจากนั้นแล้ว อีริคสันยังมีพอร์ตโฟลิโอด้านโทรทัศน์และสื่อที่ไม่มีผู้เทียบเคียงได้ ไม่ว่าจะเป็น เทคโนโลยีการบีบอัดสัญญาณที่ก้าวหน้า และแพล็ตฟอร์มสำหรับนำส่งคอนเทนท์ที่สมบูรณ์แบบ เป็นต้น

อีริคสันจะทำการจัดแสดงโซลูชั่นตามวิสัยทัศน์ Future TV Anywhere ในงาน เพื่อสาธิตให้เห็นถึงความสามารถ และยูเซอร์อินเตอร์เฟสของระบบ

ณ เมืองบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน อีริคสันได้นำสุดยอดระดับโลก ทั้งในด้านเทคโนโลยี ความสามารถในการให้บริการ และนวัตกรรมล่าสุด ไปจัดแสดงในงาน Mobile World Congress 2014 เราเชื่อว่า ทุกสิ่งที่จะได้ประโยชน์จากการเชื่อมต่อ จะได้รับการเชื่อมต่อนั้น เราจะเป็นผู้นำทาง ด้วยโซลูชั่นที่จะผลักดันให้เกิดการพัฒนา เพื่อประโยชน์สำหรับ โมบิลิตี้ บรอดแบนด์ และคลาวด์ อันเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างอีโคซิสเต็มที่ดี และกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระหว่างอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และเราจะเป็นผู้นำทางของคุณในสังคมเครือข่าย

View :1427

อีริคสัน ผลักดันการเปลี่ยนแปลงข้ามอุตสาหกรรมนานาชนิด ในงาน Mobile World Congress 2014

February 26th, 2014 No comments

Ericsson_MWC_Barcelona

· ที่งาน ณ เมืองบาร์เซโลน่า ประธานบริษัทและซีอีโอของอีริคสัน นาย ได้กล่าวถึงโอกาสในการเติบโตสำหรับผู้ให้บริการเครือข่าย และคาดการณ์ถึงโลกอนาคต ที่การสื่อสารข้อมูลจะมีความสำคัญมากยิ่งขึ้นไปอีก การพัฒนาสมรรถนะของเครือข่ายให้ดีเลิศ จึงมีความจำเป็นอย่างสูง

· นาย เวสท์เบิร์ก สรุปถึงความสามารถใหม่ๆของอีริคสัน เพื่อช่วยสนับสนุนลูกค้าในช่วงแห่งการเปลี่ยนแปลงไปสู่โลกใหม่ ครอบคลุมทั้งในส่วนของฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และบริการ

· โชลูชั่น เรดิโอ ด็อต ซิสเต็ม (Ericsson Radio Dot System) ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ให้บริการเครือข่ายชั้นนำ ทั้งจากยุโรป เอเชีย อเมริกาเหนือ และอัฟริกา

· ความเปลี่ยนแปลงข้ามอุตสาหกรรมนานาชนิด จะผลักดันให้เกิดการร่วมมือกันและนวัตกรรมรูปแบบใหม่

วันเปิดงาน Mobile World Congress 2014 ที่เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน อีริคสันประกาศยืนยันถึงความเป็นผู้นำทั้งทางในด้านเทคโนโลยีและบริการ บนโลกที่มีการสื่อสารข้อมูลเป็นศูนย์กลาง และนับวันยิ่งขยายตัวเพิ่มสูงขึ้น

ประธานบริษัทและซีอีโอ – คุณฮานส์ เวสท์เบิร์ก ได้สรุปภาพรวมของปี 2013 โดยกล่าวถึงปริมาณโทรศัพท์มือถือที่ถูกส่งออกไปสู่ท้องตลาดทั้งหมดว่า มากกว่า 55 เปอร์เซ็นต์ เป็นสมาร์ทโฟน และจำนวนผู้ใช้ ที่มีมากถึง 200 ล้านคน คุณเวสท์เบิร์ก ยังกล่าวต่อไปอีกว่า “ยุคแรกแห่งสังคมเครือข่ายได้มาถึงแล้ว เราใช้ ทั้งในการทำงาน ใช้ชีวิต และให้ความบันเทิงแก่ตนเอง อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นทุกวัน อันเป็นแรงผลักดันให้เกิดการพัฒนาสมรรถนะของเครือข่ายให้ดียิ่งขึ้นไปอีก และความเป็นผู้นำของเรา – ตั้งแต่ยุคเริ่มต้นของเทคโนโลยีจนถึงปัจจุบัน, จากระบบฟิกซ์ไลน์ มาถึงระบบไร้สาย สู่ Advanced และอนาคตสู่ 5G – ล้วนมีส่วนช่วยส่งเสริม ให้เราสามารถส่งต่อความสำเร็จนั้น ไปสู่ลูกค้าของเราอีกด้วย”

จากการวัดค่าที่ได้มาเมื่อไม่นานนี้ พบว่า ปริมาณทราฟฟิคที่เกิดจากมือถือสมาร์ทโฟน LTE ทั้งหมดนั้น ประมาณครึ่งหนึ่งถูกส่งผ่านเครือข่ายของอีริคสัน และบริษัทยังได้รับการจัดอันดับเป็นที่หนึ่ง ในด้านส่วนแบ่งตลาด LTE ในเมืองชั้นนำ 100 แห่งแรกของโลก

นอกจากนี้แล้ว ฐานะความเป็นที่หนึ่งของบริษัทในธุรกิจด้านบริการ ยังจะขยายตัวเพิ่มยิ่งขึ้น ด้วยการเปิดตัวของบริการ Telecom Cloud Transformation ซึ่งประกอบไปด้วย บริการด้านการให้คำปรึกษาและการควบรวมระบบสำหรับผู้ให้บริการ ในปัจจุบันยอดขาย 43 เปอร์เซ็นต์ ของอีริคสัน มาจากธุรกิจด้านบริการ แน่นอนว่า ธุรกิจนี้ย่อมมีบทบาทที่สำคัญในการเปลี่ยนแปลงภายในบริษัทเอง

ฮานส์ เวสท์เบิร์ก ประธานบริษัทและซีอีโอ อีริคสัน

ฮานส์ เวสท์เบิร์ก ประธานบริษัทและซีอีโอ อีริคสัน


ในขณะที่โลก กำลังให้น้ำหนักความสำคัญกับการสื่อสารข้อมูลมากยิ่งขึ้น เครือข่ายก็กำลังก้าวเข้าสู่การควบรวม ระหว่างไอทีและโทรคมนาคม หลักฐานสำคัญที่แสดงให้เห็นว่า อีริคสันให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีด้านไอพี เครือข่าย และบริการชั้นนำ ได้แก่ การประกาศด้านความร่วมมือทางกลยุทธ์ กับผู้ให้บริการเครือข่ายสื่อสารข้อมูลผ่านใยแก้ว – ซีน่า (Ciena) ระบบโมบายล์และฟิกซ์ไลน์ ต่างต้องการทรานสปอร์ตเน็ตเวิร์คคุณภาพสูง ซึ่งการควบรวมทางเทคโนโลยีระหว่างไอพีและสายไฟเบอร์ใยแก้ว จะมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ข้อตกลงดังกล่าวจะสร้างโอกาสในการเติบโตให้แก่อีริคสัน ด้วยการเสริมความแข็งแกร่งของพอร์ตฟอลิโอ จากการควบรวมระหว่างเทคโนโลยีด้านไฟเบอร์ใยแก้วของซีน่า เข้ากับเทคโนโลยีด้านไอพีและเอสดีเอ็นของอีริคสัน

ในช่วงปี 2013 อีริคสันได้เปิดตัวสินค้าที่มีความโดดเด่น สำหรับการสร้างพื้นที่ครอบคลุมภายในอาคาร (indoor coverage) คือ อีริคสัน เรดิโอ ด็อต ซิสเต็ม (Ericsson Radio Dot System) ซึ่งได้รับการรับรองเป็นอย่างดี จากกลุ่มลูกค้า ผูให้บริการเครือข่ายชั้นนำต่างๆเช่น เอทีแอนด์ที (AT&T) และ เวอร์ไรซอน (Verizon) นาย เวสท์เบิร์ก ยังได้กล่าวถึงชื่อของลูกค้าเพิ่มเติม ที่มีความมุ่งมั่นในการทดสอบ เรดิโอ ด็อต ซิสเต็ม ในตลาดของพวกเขา ได้แก่ เอ็มทีเอ็น (MTN), สิงเทล (SingTel), ซอฟท์แบงก์ (Softbank), สวิสคอม (Swisscom), เทลสตรา (Telstra) และโวดาโฟน (Vodafone)

นาย เวสท์เบิร์ก ได้พูดถึงกลยุทธ์ที่สำคัญและการเปิดตัวสินค้าและบริการในปีนี้ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนลูกค้าในสามด้าน คือ วิวัฒนาการของเครือข่าย, OSS/BSS และการเปลี่ยนแปลงด้านกระบวนการ และการสร้างนวัตกรรมรวมถึงการเติบโตของรายได้

บนเวที แขกคนสำคัญได้ผลัดกันพูดถึงข้อตกลงทางธุรกิจในแต่ละประเภท โดยซีทีโอของเวอร์ไรซอน – นาย โทนี เมโลน ได้กล่าวถึงวิวัฒนาการของเครือข่าย โดยอธิบายถึงกระบวนการที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่ผ่านมา เกี่ยวกับ LTE Broadcast และอภิปรายถึงความสำคัญในการเพิ่มพื้นที่ครอบคลุมภายในอาคาร ด้วยโซลูชั่นอย่าง อีริคสัน เรดิโอ ด็อต ซิสเต็ม

ในด้านนวัตกรรมและการเติบโตของรายได้ นาย เวสท์เบิร์ก ได้แถลงบนเวทีร่วมกับซีอีโอของบริษัทฟิลลิปส์ เพื่อประกาศถึงโครงการ Zero Site ซึ่งเป็นนวัตกรรมของเสาไฟ LED ที่จะทำให้เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลชุมชนเมือง สามารถเปิดเป็นพื้นที่ให้เช่า สำหรับผู้ให้บริการเครือข่ายในการติดตั้งอุปกรณ์โมบายล์บรอดแบนด์

การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของอุตสาหกรรมโดยรวม และสำหรับอีริคสัน คือ การพัฒนาอย่างต่อเนื่องและการเติบโตของตลาดที่เกี่ยวข้องกับระบบ OSS/BSS ซึ่งจะช่วยให้ผู้ให้บริการเครือข่ายสามารถสร้างและเปิดตัวแอพพลิเคชั่นใหม่ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น (จากเดือน เป็นวัน เป็นชั่วโมง) และให้ข้อมูลเชิงวิเคราะห์แบบเรียลไทม์ อันเป็นประโยชน์ต่อโอเปอร์เรเตอร์ ในการสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ดีสำหรับลูกค้า จากการเสริมความแข็งแกร่งในด้านนี้ ความเป็นผู้นำของอีริคสันก็ได้รับการยืนยันอีกครั้ง จากการประกาศถึงข้อตกลงกับโอเปอร์เรเตอร์ในฝั่งอเมริกาเหนือ – เซนจูรี่ลิงค์ (CenturyLink) ด้วยบริการ Service Agility จากอีริคสัน เซนจูรี่ลิงค์จะสามารถเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานของลูกค้าได้ ด้วยการบูรณาการด้านโพรดักส์, การเปลี่ยนแปลงระบบ และการปรับปรุงเครือข่ายให้มีโครงสร้างที่เรียบง่ายยิ่งขึ้น

นาย เวสท์เบิร์ก กล่าวถึงแนวโน้มใหม่ห้าประการสำหรับปี 2014: (1) ดิจิตอลไลฟ์สไตล์จะเป็นตัวผลักดันดีมานด์, (2) ไอซีทีเปลี่ยนอุตสาหกรรม, (3) ข้อมูลขนาดใหญ่จะก่อให้เกิดโมเดลทางธุรกิจรูปแบบใหม่, (4) ประสบการณ์ในการใช้งานของลูกค้าคอสิ่งสำคัญ, และ (5) สมรรถนะของเครือข่ายที่ดีกว่าจะนำมาซึ่งชัยชนะ

นาย เวสท์เบิร์ก ยังคาดการณ์ด้วยว่าโมบายล์วีดีโอทราฟฟิคจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 75 เปอร์เซ็นต์ และโอกาสที่โลกจะมีโมบายล์ดาต้าทรูพุตอย่างน้อย 1 Mbps ซึ่งจะทำให้มี app coverage ที่อาจจะเพียงพอในปี 2014ในบางพื้นที่ แต่คงจะไม่เพียงพอสำหรับการใช้งานในอนาคตเพราะเราต้องการพัฒนา app coverage อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองต่อวิถีชิวิต และวิถีในการดำเนินธุรกิจที่เปลี่ยนไป”

นาย โยฮัน วีเบิร์คฮ หัวหน้า Business Unit Networks ของอีริคสัน จะอภิปรายในหัวข้อเรื่อง กลยุทธ์ด้านคลื่นความถี่, โครงสร้างที่ปรับเปลี่ยนขนาดได้ (scalable architecture), ความตระหนักถึงบริการ, เซลล์ขนาดเล็กที่มีการทำงานแบบเชื่อมโยงกัน และซอฟต์แวร์ล่าสุด ในงาน GSMA วันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ ณ เมืองบาร์เซโลน่า นาย วีเบิร์คฮ จะอธิบายถึงเหตุผล ว่าทำไมเรา (ทั้งจากมุมของผู้ใช้และผู้ให้บริการเครือข่าย) จึงควรเปลี่ยนคำถามแบบเดิมที่ว่า “มี coverage หรือไม่” ไปเป็น “มี coverage ที่เหมาะสม สำหรับแอ็พที่เราชอบใช้ หรือไม่” มากกว่า เขากล่าวว่า: “มากกว่าหนึ่งพันล้านอุปกรณ์พกพา ถูกเพิ่มเข้ามาในเครือข่ายโทรคมนาคมและเครือข่ายสื่อสารข้อมูล ในช่วงปี 2012 ในขณะเดียวกัน จำนวนแอ็พที่ถูกดาวน์โหลดจากสองค่ายยักษ์ใหญ่ พุ่งขึ้นมากกว่า 100 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นความท้าทายของโอเปอร์เรเตอร์จึงมิใช่หยุดแค่เพียง ความสามารถในการรองรับการใช้งานที่เพิ่มสูงขึ้น แต่ต้องเข้าใจความต้องการที่แตกต่างอีกด้วย”

ซีทีโอของอีริคสัน – คนาย อัลฟ์ อีวัลด์ซัน จะปรากฏตัวบนเวทีอภิปรายในช่วงคืนวันจันทร์ เกี่ยวกับบทบาทของอีริคสัน ในฐานะผู้ก่อตั้ง อินเตอร์เน็ต ด็อต ออค (internet dot org) เพื่อนำอินเตอร์เน็ตสู่ 3.5 ล้านคนบนโลกใบนี้ ที่ยังไม่มีอินเตอร์เน็ตใช้งาน ในขณะที่ซีเอ็มโอของบริษัท – คุณอรุณ บิคเชสวารัน จะพูดถึงอนาคตของบริการด้านวอยซ์ด้วย ในวันพุธ

ในงาน Mobile World Congress 2014 ที่เมืองบาร์เซโลนา ประเทสสเปนนี้ อีริคสันจะทำการแสดงเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก ความสามารถในการให้บริการมืออาชีพ และนวัตกรรมใหม่ๆ เราเชื่อว่าทุกสิ่งที่จะได้รับประโยชน์จากการเชื่อมต่อ จะได้รับการเชื่อมโยงนั้น และเราจะเป็นผู้นำทาง ด้วยโซลูชั่นที่พร้อมผลักดันให้เกิดการพัฒนา ด้านโมบิลิตี้ บรอดแบนด์ และคลาวด์ เพื่อสร้างรากฐานที่มั่นคงสำหรับอีโคซิสเต็มส์ และพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงข้ามอุตสาหกรรมนานาชนิด เราคือผู้นำทางของคุณสู่สังคมเครือข่าย

View :1372

อีริคสันเสริมทัพ เพิ่มศักยภาพความแข็งแกร่งในธุรกิจซิสเต็มส์อินติเกรชั่นสำหรับระบบ OSS ในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และโอเชียเนีย

July 22nd, 2013 No comments

· อีริคสันได้บรรลุข้อตกลงในการเข้าซื้อกิจการทั้งหมดของ บริษัท จำกัด (TeleOSS Consulting Ltd.) เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในธุรกิจซิสเต็มส์อินติเกรชั่น (System Integration Business) สำหรับระบบ OSS ในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และโอเชียเนีย

· ผู้เชี่ยวชาญด้านซิสเต็มส์อินติเกรชั่นกว่า 50 คน จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของอีริคสัน

· การเข้าซื้อบริษัทในครั้งนี้คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในปลายไตรมาสที่สามของปี พ.ศ. 2556

ในวันนี้ อีริคสันได้บรรลุข้อตกลงในการเข้าซื้อกิจการทั้งหมดของ บริษัท เทเลโอเอสเอส คอนซัลติง จำกัด (TeleOSS Consulting Ltd.) ซึ่งมีฐานที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร และมีความเชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษา รวมทั้งการทำซิสเต็มส์อินติเกรชั่น (Systems Integration) สำหรับระบบ Operating Support Systems (OSS) โดยเฉพาะ

ณ ขณะนี้ กระบวนการดำเนินการเข้าซื้อกิจการทั้งหมดคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในปลายไตรมาสที่สามของปี พ.ศ. 2556 โดยภายใต้ข้อตกลงนี้ พนักงานผู้เชี่ยวชาญด้านการทำซิสเต็มส์อินติเกรชั่น สำหรับระบบ OSS ประมาณ 50 คน มาเข้าร่วมกับอีริคสัน

บริษัท เทเลโอเอสเอส คอนซัลติง จำกัด เป็นผู้สร้างโซลูชั่นสำหรับระบบ OSS เพื่อผู้ให้บริการโทรคมนาคม โดยเฉพาะในด้าน Traffic and Inventory Management และการผลิตซอฟท์แวร์ที่เกี่ยวข้อง การเข้าซื้อครั้งนี้ จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของอีริคสัน ทั้งในด้านของการให้คำปรึกษา ความเชี่ยวชาญด้านซิสเต็มส์อินติเกรชั่น การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า รวมถึงความสามารถในการปฏิวัติเพื่อพัฒนาระบบ OSS สำหรับประเทศในแถบภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และโอเชียเนีย

“การเข้าซื้อกิจการทั้งหมด บริษัท เทเลโอเอสเอส คอนซัลติง จำกัด จะช่วยเติมเต็มความสามารถของเรา ในการทำซิสเต็มส์อินติเกรชั่นกับระบบ OSS สำหรับประเทศในแถบภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และโอเชียเนีย โดยเฉพาะการสร้างโซลูชั่นด้าน Traffic and Inventory Management ที่มีหลากหลายและเหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าต่างๆของเรา” กล่าวโดย นายเปาโล โคเลลลา หัวหน้าฝ่ายการให้คำปรึกษาและซิสเต็มส์อินติเกรชั่นของอีริคสัน “การลงทุนเชิงกลยุทธ์ในครั้งนี้ จะช่วยพัฒนาศักยภาพของอีริคสันให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น พร้อมทั้งก้าวสู่ความเป็นเลิศในด้านการปฏิวัติเพื่อพัฒนาระบบ IT ซึ่งเป็นสิ่งที่เรามุ่งมั่นและพยายามมาโดยตลอด”

คุณ ทศพร วงศ์วีรธร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทเลโอเอสเอส คอนซัลติง จำกัด กล่าวว่า “ผมมีความมั่นใจอย่างยิ่งว่า การเข้าซื้อบริษัทในครั้งนี้ จะช่วยเติมเต็มความสามารถระดับโลกของอีริคสัน ที่มีอยู่แล้วให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น โดยเฉพาะด้านซิสเต็มส์อินติเกรชั่นกับระบบ OSS โดยจะทำให้อีริคสันสามารถพัฒนาบริการคุณภาพสูง เพื่อเหล่าผู้ให้บริการเครือข่ายและลูกค้าของพวกเขา ผ่านโซลูชั่นด้าน OSS ที่หลากหลายและครบวงจร นอกจากนั้นแล้ว พนักงานของเราจะได้รับประโยชน์จากอีริคสัน ในฐานะที่เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกซึ่งมีความรู้ครบวงจร เพื่อเป็นการช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งในด้านต่างๆให้แก่กันและกัน”

ด้วยความพร้อมของอีริคสันทั้งในด้านบุคลากรที่มีความสามารถ รวมถึงซอฟต์แวร์ที่ครอบคลุมครบวงจรจะสามารถช่วยผู้ให้บริการเครือข่ายต่างๆสามารถพัฒนากระบวนการบริหารจัดการระบบไอทีเพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นสำหรับลูกค้า รวมไปถึงการสร้างสรรค์บริการในรูปแบบใหม่ๆ และที่สำคัญ มีบุคลากรมากกว่า 15,000 คน ซึ่งมีประสบการณ์ด้านการให้คำปรึกษาและซิสเต็มส์อินติเกรชั่น มากกว่า 1,500 โครงการที่ใช้อุปกรณ์เครือข่ายจากหลากหลายเวนเดอร์และต่างเทคโนโลยีในแต่ละปี

View :1401

อีริคสันเตรียมเข้าซื้อบริษัท เรด บี มีเดีย (Red Bee Media) เพื่อเพิ่มศักยภาพความแข็งแกร่งในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีและบริการเพื่อธุรกิจโทรทัศน์

July 22nd, 2013 No comments

Ericsson_hq 2013
อีริคสันเตรียมเข้าซื้อบริษัท () ผู้นำแห่งธุรกิจบริการด้านสื่อการเข้าซื้อบริษัทในครั้งนี้ จะช่วยขยายพอร์ทฟอลิโอของอีริคสัน ในธุรกิจบริการกระจายเสียงและแพร่ภาพให้กว้างขวางยิ่งขึ้น รวมทั้งจะช่วยพัฒนาขีดความสามารถของอีริคสันในงานด้านสื่อโทรทัศน์อีกด้วย พนักงานจำนวน 1,500 คน ผู้มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจสื่อ จะเข้ามาร่วมงานกับอีริคสัน เพิ่มศูนย์ปฏิบัติการใหม่ในยุโรปและออสเตรเลีย

ในวันนี้ อีริคสันในฐานะผู้นำเทคโนโลยีและบริการด้านการสื่อสารโทรคมนาคมระดับโลก ได้ประกาศเจตนารมณ์ในการเข้าซื้อหุ้นของบริษัท เรด บี มีเดีย (Red Bee Media) ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกในธุรกิจบริการด้านสื่อ และมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในสหราชอาณาจักร จากองค์กรที่อยู่ในความควบคุมของ Macquarie Advanced Investment Partners, L.P
การเข้าซื้อในครั้งนี้ กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาอนุมัติจากองค์กรที่เกี่ยวข้อง และเมื่อเสร็จสิ้นจะช่วยสนับสนุนนโยบายของอีริคสัน ในการขยายธุรกิจบริการกระจายเสียงและแพร่ภาพให้กว้างขวางยิ่งขึ้น เพื่อใช้ความได้เปรียบทั้งในเชิงเทคโนโลยีและการให้บริการคุณภาพสูง เพื่อประโยชน์ทั้งสำหรับผู้ให้บริการกระจายเสียงและแพร่ภาพ และเจ้าของคอนเทนต์ รวมถึงการให้ความสำคัญกับการบริโภคสื่อวีดีโอขณะเคลื่อนที่ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมมาก การเข้าซื้อนี้จะนำมาซึ่งบุคลากรผู้มีความสามารถจำนวน 1,500 คน ธุรกิจบริการด้านสื่อ และศูนย์ปฏิบัติการในสหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมนี เสปน และออสเตรเลีย ซึ่งจะเป็นการเสริมทัพในธุรกิจบริการกระจายเสียงและแพร่ภาพของอีริคสัน ซึ่งเริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2007 และเติบโตชัดเจน จากการเข้าซื้อฝ่ายบริการกระจายเสียงและแพร่ภาพ ของบริษัทเทคนิคัลเลอร์ เมื่อปี 2012 ที่ผ่านมา

บุคลากรจำนวน 1,240 คนของเรดบีมีเดียอยู่ในสหราชอาณาจักร ซึ่งจะทำให้ธุรกิจของอีริคสันในประเทศนี้เติบโตขึ้นจนมีพนักงานประมาณ 4,000 คน ซึ่งมากกว่าหนึ่งในสามอยู่ในธุรกิจสื่อ ซึ่งจะทำให้สหราชอาณาจักรกลายเป็นศูนย์กลางด้านธุรกิจสื่อของอีริคสัน

หลังจากที่ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2005 เรดบีมีเดียได้มุ่งมั่นพัฒนาอย่างแข็งแกร่ง จนมีลูกค้าจำนวนมากทั่วโลก และมีธุรกิจสื่อหลากหลายประเภท ครอบคลุมตั้งแต่การบริหารจัดการสื่อ ไปจนถึงการส่งสัญญาณต่อ การผลิตสื่อดิจิตอลวีดีโอ บริการข้อมูลเมตตาดาต้า การเข้าถึงบริการผ่านหลากหลายภาษา และบริการรูปแบบใหม่อื่นๆ บนบรอดแบนด์แพล็ตฟอร์มที่หลากหลาย เรดบีมีเดียยังเป็นที่ยอมรับในบริการด้านการส่งสัญญาณต่อคุณภาพสูง เป็นผู้ให้บริการด้านข้อมูลเมตตาดาต้าที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป และเป็นผู้ส่งข้อมูลซับไตเติ้ลสู่ผู้ให้บริการกระจายเสียงและแพร่ภาพที่สำคัญหลายราย จำนวนมากกว่า 100,000 ชั่วโมงต่อปี
วงการโทรทัศน์และสื่อในปัจจุบัน กำลังอยู่ในระหว่างการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ อันเป็นผลมาจากแรงผลักดันของผู้บริโภค ที่ต้องการได้รับความบันเทิงเต็มรสชาติ ตอบสนองได้ฉับไว ในทุกที่ทุกเวลา การบรรจบกันของเทคโนโลยีด้านการสื่อสาร บรอดแบนด์ และด้านสื่อ ร่วมกับการใช้ IP และเครือข่ายโทรศัพท์มือถือยุคนี้ ได้สร้างและให้ประสบการณ์อันน่าประทับใจสำหรับผู้บริโภค จึงนำมาซึ่งโอกาสสำหรับธุรกิจรูปแบบใหม่ได้อย่างกว้างขวาง

บริการรูปแบบใหม่เหล่านี้กำลังขยายตัว และได้สร้างประสบการณ์ในการบริโภคสื่อความบันเทิง ที่แตกต่างไปจากเดิม ซึ่งกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในภาคธุรกิจ ในเชิงเศรษฐกิจและความคิดสร้างสรรค์ ทั้งในส่วนของผู้ให้บริการกระจายเสียงและแพร่ภาพ บริการโทรคมนาคม และบริการด้านสื่อต่างๆ ทั่วโลก จากรายงานเรื่อง “Ericsson Mobility Report June 2013” พบว่า วีดีโอเป็นทราฟฟิคที่มีปริมาณมากที่สุดบนเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ และคาดว่าจะเติบโตต่อไปในอัตราประมาณปีละ 60 เปอร์เซ็นต์ จนถึงปลายปี 2018

“อีริคสันกำลังก้าวไปสู่การเปลี่ยนแปลงอีกขั้นหนึ่ง เพื่อขยายตลาดในธุรกิจโทรทัศน์และบริการกระจายเสียงและแพร่ภาพ ซึ่งเราได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2007” คุณแม็คนัส แมนเดอร์ส์สัน (Magnus Mandersson) รองประธานบริหารและหัวหน้าฝ่ายธุรกิจ Global Services ของอีริคสัน กล่าว “เราสามารถสร้างคุณค่าเพื่อผู้ให้บริการกระจายเสียงและแพร่ภาพได้ ด้วยการสร้างดิจิตอลคอนเทนต์ให้สามารถเข้าถึงง่าย และสร้างประโยชน์ทางธุรกิจจากรายการโทรทัศน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากการศึกษาพบว่า การบริโภคสื่อวีดีโอบนเครือข่ายโทรศัพท์มือถือกำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และอีริคสันสามารถสนองตอบต่อความต้องการของผู้ให้บริการกระจายเสียงและแพร่ภาพ และบริการเครือข่ายโทรคมนาคมได้ ด้วยความเชี่ยวชาญทั้งในด้านเทคโนโลยีและการให้บริการได้เป็นอย่างดี”

ความสามารถหลักของอีริคสันในส่วนของฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ซิสเต็มส์อินติเกรชัน และธุรกิจการบริหารจัดการเครือข่าย ล้วนเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในระดับโลก ในภาคธุรกิจสื่อสารและบรอดแบนด์ ซึ่งได้สร้างความสำเร็จแก่ผู้ประกอบการจำนวนมาก นอกจากนั้นแล้วอีริคสันยังได้ใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ที่ช่วยจัดการกับคอนเทนท์ ไม่ว่าจะเป็นการสรรหา แลกเปลี่ยน กระจาย ส่งมอบ และตระเตรียมข้อมูล เพื่อให้เหมาะกับความบันเทิงบนหน้าจอขนาดต่างๆ ผ่านประสบการณ์อันยาวนานถึง 20 ปี ในการศึกษาวิจัยและพัฒนาด้านสื่อ ด้วยคุณภาพระดับรางวัลเอมมี่

บริการเพื่อการกระจายเสียงและแพร่ภาพ ยังได้รับประโยชน์จากความเป็นผู้นำในธุรกิจบริหารจัดการเครือข่ายของอีริคสัน เพื่อสร้างความเป็นเลิศในบริการ สำหรับผู้ให้บริการกระจายเสียงและแพร่ภาพชั้นนำทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก รวมไปถึงการพัฒนาประสิทธิภาพในการดำเนินงานของธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการทำรายการสด หรือการบันทึกรายการเฉพาะบนเครือข่ายที่มีลูกค้ากว่าหนึ่งพันล้านคนทั่วโลก อีริคสันเป็นผู้นำในธุรกิจบริหารจัดการเครือข่ายเพื่อผู้ให้บริการโทรคมนาคม เราได้ลงทุนเพื่อสรรหากระบวนการ วิธีการ และเครื่องมือที่เหมาะสม เพื่อช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินงานด้านต่างๆ มาแล้วกว่า 15 ปี ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อีริคสันได้ขยายความสำเร็จในธุรกิจนี้ ไปสู่อุตสาหกรรมอื่นด้วย เช่น บริการสาธารณูปโภค การขนส่ง และบริการโทรทัศน์

การเข้าซื้อในครั้งนี้ อยู่ในระหว่างการพิจารณาเพื่อขออนุมัติจากองค์กรผู้กำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง และรายละเอียดของสัญญาบางประการ เมื่อการเจรจาเสร็จสิ้น เรดบีมีเดียจะเป็นส่วนหนึ่งของฝ่ายธุรกิจ Global Services ของอีริคสัน

View :1232

อีริคสันรายงานการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคในการเลือกซื้อและช้อบปิ้ง

November 27th, 2012 No comments


• “in-line shopping” (อินไลน์ช้อบปิ้ง) ได้กลายเป็น คำนิยามใหม่ที่สะท้อนพฤติกรรมการช้อบปิ้งของผุ้บริโภค ที่จะเลือกดูสินค้าของจริงในร้านค้า (in-store shopping) ควบคู่ไปกับการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์โดยตรง (online shopping)
• 39 เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้สมาร์ทโฟนในสหรัฐอเมริกา ใช้โทรศัพท์ของพวกเขาในการจ่ายเงินซื้อของเล็กๆน้อยๆ ใช้สแกนบาร์โค้ดสินค้า หรือใช้ดาวน์โหลดคูปองต่างๆ
• ผู้ขายสินค้าจะได้รับประโยชน์ หากเข้าใจผู้บริโภค ที่ต้องการซื้อสินค้าให้ได้ในทันทีที่อยากได้ และสามารถเลือกซื้อสินค้าได้ทั้งในร้านค้าจริงและบนช่องทางออนไลน์ควบคู่กันอย่างมีประสิทธิภาพ
• ผลการสำรวจที่กล่าวมาข้างต้นรวมทั้งข้อสังเกตอื่นๆ อยู่ในรายงานพฤติกรรมผู้บริโภค เรื่อง “In-Line Shopping” (อินไลน์ช้อบปิ้ง) ที่ร่วมกันเขียนโดย Copenhagen Institute for Futures Studies และ Ericsson ConsumerLab

โลกแห่งสังคมเครือข่าย (Networked Society) ในยุคปัจจุบัน ทำให้เราสามารถเลือกที่สลับปรับเปลี่ยนระหว่างโลกออฟไลน์ (โลกปัจจุบัน) กับโลกออนไลน์ได้อย่างเป็นธรรมชาติ และอีกไม่นานเราคงอาจจะไม่สามารถแยกโลกออนไลน์ ออกจากโลกออฟไลน์ได้อย่างเด็ดขาด เพราะคนในยุคปัจจุบันสามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ทได้ตลอดเวลา โดยเกือบสี่สิบเปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้สมาร์ทโฟนทั่วโลกล้วนเข้าสู่โลกออนไลน์ก่อนที่จะลุกขึ้นจากเตียงด้วยซ้ำ และการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของ mobile applications นั้นเองก็มีส่วนสำคัญที่ส่งผลให้ผู้บริโภคเริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมในการเลือกซื้อและช้อบปิ้งอีกด้วย

ลักษณะเช่นนี้ได้มีการกล่าวถึงไว้ ในรายงานเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้บริโภค เรื่อง “In-Line Shopping” ที่ร่วมกันเขียนโดย Copenhagen Institute for Futures Studies และ Ericsson ConsumerLab โดยรายงานนี้ได้ใช้ข้อมูลจากผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกา ในช่วงปี 2012 และแสดงให้เห็นว่า ผู้บริโภคนิยมใช้สมาร์ทโฟนระหว่างการเลือกซื้อของ เพื่อช่วยในการตัดสินใจ โดยสี่ในสิบของผู้ใช้สมาร์ทโฟนในสหรัฐอเมริกา ใช้โทรศัพท์ของพวกเขาในการจ่ายเงินเล็กๆน้อยๆ, ใช้สแกนบาร์โค้ดสินค้า, หรือใช้ดาวน์โหลดคูปองต่างๆ เป็นต้น

รายงานนี้ยังชี้ให้เห็นถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป โดยให้คำนิยามว่า “in-line shopping” ซึ่งหมายถึง การที่ผู้บริโภคนิยมใช้ทั้งการเลือกซื้อของบนอินเตอร์เน็ท (online shopping) และการเข้าไปดูของที่ร้านจริงๆ (in-store shopping) ควบคู่กันไป หรือในอีกแง่หนึ่ง หมายถึง การที่ผู้บริโภคมักต้องการเห็น, สัมผัส, ลองสินค้า, เปรียบเทียบราคา, เข้าถึงข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้านั้น และรวมไปถึงการจ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้าโดยไม่ต้องต่อแถวรอ
คุณ ไมเคิล บีเยอร์ หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ Ericsson ConsumerLab กล่าวว่า “ผู้บริโภคล้วนต้องเลือกซื้อของหลากชนิด เป็นประจำอยู่แล้วในชีวิตประจำวัน ดังนั้น Application ที่จะช่วยให้การช็อปปิ้งกลายเป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบายย่อมจะเป็นที่ต้องการ และในลักษณะเช่นเดียวกัน ที่ผู้คนต้องการเข้าถึงอินเตอร์เน็ทได้แบบทุกที่ทุกเวลา พวกเขาก็ควรจะสามารถซื้อของได้ในทันทีที่ต้องการหรือมีความจำเป็นด้วย ดังนั้นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการขายสินค้าต่างๆ ควรทำความเข้าใจถึงความต้องการของผู้บริโภคดังที่ได้กล่าวมา และปรับตัวให้ทัน เพื่อความสำเร็จในอนาคตต่อไป”

โดยรวมแล้ว ผู้ที่เป็นเจ้าของสมาร์ทโฟน มักมีความสนใจในการเลือกซื้อของแบบออนไลน์ มากกว่าผู้ที่ไม่มี และพบว่าจากแปดในสิบสองประเภทสินค้าที่ได้มีการสำรวจ ผู้บริโภคนิยมใช้ทั้งการเข้าไปดูสินค้าจริงในร้าน (in-store shopping) ควบคู่ไปกับการใช้ช่องทางออนไลน์ (online shopping) มากกว่าที่จะตัดสินใจซื้อผ่านช่องทางออนไลน์เพียงอย่างเดียว

รายงานฉบับสมบูรณ์ ของ (In-Line Shopping consumer insight report):
www.ericsson.com/res/docs/2012/consumerlab/in-line-shopping.pdf

เกี่ยวกับ Ericsson ConsumerLab
Ericsson ConsumerLab เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ การนำเสนอหลักของเราคือการเข้าใจอย่างถ่องแท้ เรามีประสบการณ์ด้านการวิจัยผู้บริโภคมากกว่า 15 ปี ซึ่งเกี่ยวข้องกับการศึกษาคุณค่าและพฤติกรรมของผู้คน รวมถึงวิธีที่พวกเขาดำเนินการและคิดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการด้าน ICT เราให้ข้อมูลการเข้าใจอย่างถ่องแท้ของผู้บริโภคเพื่อกำหนดกลยุทธ์ การตลาดและการบริหารจัดการผลิตภัณฑ์ภายในกลุ่มบริษัทอีริคสัน ความรู้ของเราช่วยให้บรรดาผู้ประกอบการพัฒนาบริการที่สร้างรายได้ที่น่าดึงดูดใจได้
บริษัทอีริคสันเป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีและบริการชั้นนำของโลกสำหรับบรรดาผู้ประกอบการด้านโทรคมนาคม บริษัทอีริคสันเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีมือถือในระบบ 2G, 3G และ 4G และจัดหาการสนับสนุนสำหรับเครือข่ายต่างๆโดยมีผู้สมัครสมาชิกกว่า 2 พันล้านรายและอยู่ในแนวหน้าด้านการบริการการจัดการ (managed services) ผลงานของบริษัทประกอบด้วยโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายของระบบโครงสร้างพื้นฐานและระบบเคลื่อนที่ การบริการโทรคมนาคม ซอฟต์แวร์ โซลูชันด้านบรอดแบนด์และมัลติมีเดียสำหรับบรรดาผู้ให้บริการเครือข่าย วิสาหกิจและอุตสาหกรรมมีเดีย บริษัทโซนีอิริคสันและเอสที-อีริคสันซึ่งเป็นบริษัทร่วมลงทุนเป็นบริษัทที่จัดหาอุปกรณ์มือถือส่วนบุคคลที่มีคุณลักษณะที่ครบถ้วนสำหรับผู้บริโภค

บริษัทอีริคสันกำลังทำให้วิสัยทัศน์ในการเป็น “ผู้ผลักดันหลักในโลกที่มีการสื่อสารทั้งหมด” ของบริษัทก้าวไกลโดยผ่านนวัตกรรม เทคโนโลยีและโซลูชันทางธุรกิจที่ยั่งยืน บริษัทอีริคสันมีการปฏิบัติการใน 180 ประเทศ มีพนักงานมากกว่า 80,000 คนมีรายรับ 206.5 พันล้านโครน (27.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในปี 2552 ก่อตั้งในปี 2419 โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน บริษัทอีริคสันเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ OMX ในสตอกโฮล์มและ NASDAQ นิวยอร์ก

View :1559

เทเลโฟนิก้า|วิโว่ และ อีริคสัน ร่วมกันสร้างโอกาสทางการศึกษาให้แก่ชุมชนในเมืองรีโอเดจาเนโร ผ่านระบบสื่อสารไร้สาย

July 10th, 2012 No comments


· เด็กและวัยรุ่นกว่า 3,000 คน ในชุมชนย่านวิล่าครูไซโร่ แห่งเมืองริโอเดจาเนโร จะได้รับโอกาสทางการศึกษาที่ดีขึ้น

· โรงเรียนรัฐบาลสองแห่ง และ องค์กรพัฒนาเอกชนท้องถิ่น ที่มีชื่อว่า Social Attitude จะสามารถเข้าถึงระบบสื่อสารไร้สายได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

· โครงการนี้ถูกริเริ่มขึ้นโดย Connect To Learn ซึ่งเป็นองค์กรระดับโลกที่มีจุดมุ่งหมายในการสร้างโอกาสทางการศึกษาให้กับเด็กและเยาวชนยุคใหม่ ด้วยการนำเทคโนโลยีการสารสนเทศเข้ามาช่วยอย่างมีประสิทธิภาพ

(Telefônica|Vivo) ได้ร่วมมือกับ (Ericsson) เพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษาที่ดีขึ้น ให้กับเด็กและวัยรุ่นกว่า 3,000 คน ในชุมชนย่านวิล่าครูไซโร่ (Vila Cruzeiro) แห่งเมืองริโอเดจาเนโร (Rio de Janeiro) ผ่านเครือข่ายอินเตอร๋เน็ทบรอดแบนด์ไร้สาย และบริการพิเศษอื่นๆผ่านระบบ Cloud

ภายใต้โครงการนี้ วิโว่ จะช่วยจัดหาบริการอินเตอร์เน็ทความเร็วสูง ส่วน อีริคสัน จะช่วยจัดหาโซลูชั่นและเครื่องมือด้านไอซีทีต่างๆ ให้แก่ โรงเรียนรัฐบาลสองแห่ง คือ CIEP José Carlos Brandão Monteiro และ Joracy Camargo รวมทั้งอีกหนึ่งองค์กรพัฒนาเอกชนท้องถิ่นที่มีชื่อว่า Social Attitude อีกด้วย

โดยทั้งโรงเรียนและองค์กรพัฒนาเอกชนท้องถิ่น จะได้รับเครื่องคอมพิวเตอร์เน็ทบุ๊ค ที่สามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ทไร้สายได้ เพื่อช่วยให้ทั้งคุณครูและนักเรียน สามารถเข้าถึงข้อมูลทางการศึกษาที่มีอยู่อย่างกว้างขวางบนโลกอินเตอร์เน็ท โดยโครงการนี้ประสบสำเร็จได้ด้วยความคิดริเริ่มขององค์กร Connect To Learn ซึ่งมีเป้าหมายในการสนับสนุนให้โรงเรียนมัธยมหลายแห่งทั่วโลก มีโอกาสเข้าถึงสือและข้อมูลทางการศึกษาที่มีคุณภาพ โดยการใช้เทคโนโลยีไอซีทีเข้ามาช่วย รวมทั้งการให้ทุนการศึกษาระยะยาวแก่เด็กนักเรียนในโรงเรียนเหล่านี้

ลูเซียน ดิแอซ (Luciene Dias) ผู้อำนวยการภูมิภาคของ เทเลโฟนิก้า|วิโว่ ได้อธิบายว่าโครงการนี้จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการใช้งานอินเทอร์เน็ตภายในโรงเรียนให้ดียิ่งขึ้น รวมทั้ง “มูลนิธิเทเลโฟนิก้า จะช่วยสนับสนุนให้นักเรียนและบุคลากรของโรงเรียน มีการพัฒนาความรู้ความสามารถในการใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ภายในโรงเรียนอีกด้วย”

นอกจากการสนับสนุนด้านบริการอินเตอร์เน็ทแล้ว เทเลโฟนิก้า ยังได้ให้การสนับสนุนแก่สำนักงานการศึกษาแห่งเมืองริโอเดจาเนโรและยูเนสโก ผ่านมูลนิธิเทเลโฟนิก้า ในการจัดฝึกอบรมนักศึกษาฝึกงานเพื่อทำหน้าที่เป็นผู้สอนการใช้เทคโนโลยีในห้องเรียนแบบดิจิตอล ในโรงเรียน 150 แห่ง ผ่านโครงการโรงเรียนแห่งอนาคต (Escolas do Amanhã หรือ Schools of Tomorrow ในภาษาอังกฤษ)

อีเลน วีดแมน-กรุนวอลด์ (Elaine Weidman-Grunewald) รองประธานฝ่ายพัฒนาสำนึกเพื่อสังคมและความยั่งยืน ของอิริคสัน กล่าวว่า “เด็กทุกคนควรมีโอกาสทางการศึกษาทั้งสิ้น แต่ก็ยังมีเด็กอีกจำนวนมากที่ถูกทิ้งให้ล้าหลังกว่าคนอื่น หน้าที่ขององค์กร Connect To Learn คือ การนำพลังแห่งเทคโนโลยีไอซีทียุคศตวรรษที่ 21 มาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการศึกษา เพื่อให้ทุกคนมีโอกาสเท่าเทียมกัน”

โครงการนี้ได้นำเทคโนโลยีไอซีทีผ่านระบบ Cloud ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดย อีริคสัน และเหล่าผู้ให้การสนับสนุนองค์กร Connect To Learn สำหรับใช้ในโรงเรียน และใช้ประสบการณ์จริงขององค์กรพัฒนาเอกชนต่างๆ โดยระบบที่เลือกใช้นี้ได้ถูกออกแบบให้เหมาะกับผู้ใช้ที่มีความรู้ทางเทคโนโลยีน้อยมากๆหรือไม่มีเลย และการที่ระบบนี้สามารถเพิ่มโอกาสทางการศึกษาผ่านอินเตอร์เน็ทอย่างมีประสิทธิภาพด้วยต้นทุนที่ลดลง ก็เพราะผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องกังวลในเรื่องทางเทคนิคที่ซับซ้อน ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันไวรัส การทำซอฟท์แวร์อัพเดต การลงโปรแกรม หรือการบำรุงรักษาระบบในแง่อื่นๆ เพราะงานเหล่านี้ถูกจัดการโดยระบบ Cloud ทั้งสิ้น

เกี่ยวกับ Connect To Learn

Connect To Learn ถูกตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 2010 โดยการร่วมมือกันของสามองค์กร คือ สถาบันโลกแห่งมหาวิทยาลัยโคลัมเบียซึ่งทำหน้าที่จัดหาแนวทางเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน อิริคสัน และ Millennium Promise อันเป็นองค์กรพัฒนาเอกชนแห่งเมืองนิวยอร์ค ซึ่งทำงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายแห่งการพัฒนาสหัสวรรษขององค์การสหประชาชาติ โปรแกรมนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้เด็กทั่วโลกโดยเฉพาะเด็กผู้หญิงได้เข้าถึงแหล่งข้อมูลทางการศึกษาคุณภาพสูงได้ โดยเหล่าผู้ร่วมสนับสนุนต่างเข้าใจถึงบทบาทที่เปลี่ยนไปของอินเตอร์เน็ทความเร็วสูง และเทคโนโลยีทางไอซีทีอื่นๆ ที่สามารถทำให้เด็กจำนวนมากมีโอกาสเข้าถึงแหล่งข้อมูลและบริการทางการศึกษาที่เป็นประโยชน์ยิ่ง ผ่านระบบ Cloud และการเชื่อมต่อถึงกันระหว่างโรงเรียนต่างๆ นอกจากนั้นแล้ว Connect To Learn ยังให้ทุนการศึกษาแก่เด็กด้อยโอกาสโดยเฉพาะเด็กผู้หญิง เพื่อให้มีโอกาสศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษาอีกด้วย โดยโครงการนี้ได้เปิดโอกาสให้เด็กๆ ทั้งในทวีปอัฟริกา ลาตินอเมริกา คาริบเบียน และกลุ่มประเทศอาหรับ ได้เข้าถึงแหล่งข้อมูลการเรียนการสอนอันมีคุณภาพ ผ่านระบบไอซีที และช่วยให้ทั้งนักเรียนและครูในชนบทห่างไกลและในเมือง ได้เข้าสู่โลกอินเตอร์เน็ทได้อย่างอิสระ เพื่อเชื่อมต่อเด็กๆทั่วโลกเข้าด้วยกัน และสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กๆเหล่านี้ด้วยการให้โอกาสทางการเรียนรู้ใหม่ๆแก่เขาเหล่านั้น

http://www.connecttolearn.org

View :1655

CEO อีริคสัน สรุป สมาร์ทโฟนและการเติบโตอย่างรวดเร็วของตลาดสื่อสารข้อมูลกำลังเปลี่ยนโลกของเราอย่างรวดเร็ว

June 26th, 2012 No comments

• มีผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือรายใหม่ทั่วโลกกว่า 170 ล้านคน ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ (ค.ศ. 2012) – การเข้าถึงข้อมูลได้ “ทุกที่ทุกเวลา” ทำให้วิถีการดำรงชีวิตและการทำงานของเราเปลี่ยนไปอย่างมาก
• การใช้งานที่มีความซับซ้อนทำให้ระบบมือถือต้องปรับตัวให้เท่าทัน
• คุณภาพของสัญญาณ การใช้งานของผู้บริโภค กระบวนการการเรียกเก็บเงิน (billing) หลักการในการคิดค่าบริการ (charging models) และรูปแบบของบริการต่างๆ (service offerings) ล้วนต้องมีการปรับตัว

ในการบรรยายสรุป สำหรับนักข่าว ณ เมืองซานฟรานซิสโก นาย (Hans Vestberg) ประธานและซีอีโอของอีริคสัน ได้หารือถึงผลกระทบต่ออุตสาหกรรมไอซีทีโดยรวม อันเนื่องมาจากการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของจำนวนผู้ใช้และปริมาณการใช้งานอินเตอร์เน็ตบนมือถือ จะเห็นได้ว่าทั้งคุณภาพของสัญญาณ การใช้งานของผู้บริโภค กระบวนการการเรียกเก็บเงิน (billing) หลักการในการคิดค่าบริการ (charging models) และรูปแบบของบริการต่างๆ (service offerings) ล้วนต้องมีการปรับตัว เพื่อให้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ทั้งสิ้น

“ในปี ค.ศ. 2008 มีจำนวนผู้ใช้โทรศัพท์มือถือราวสี่พันล้านคน และภายในปี ค.ศ. 2017 คาดว่าจะมีผู้ใช้ถึงเกือบเก้าพันล้านคน และการที่ผู้ใช้สามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ทผ่านอุปกรณ์พกพาได้ “ทุกที่ทุกเวลา” จึงไม่สามารถแยกการใช้งานของนักธุรกิจออกจากผู้คนทั่วไปได้เลย”

“ธุรกิจของเรา คือ การทำให้เครือข่ายทั้งหลาย ถูกสร้างและออกแบบให้พร้อมรับมือกับการใช้งานที่เติบโตขึ้น รวมทั้งความซับซ้อนของระบบที่ประกอบด้วย อุปกรณ์พกพาหลากชนิดและการใช้งานหลายรูปแบบ ที่ผ่านเครือข่ายมือถือในวันนี้” นายเวสท์เบิร์ก กล่าว
บริษัทได้ออกรายงาน (ฉบับปรับปรุงใหม่เป็นครั้งที่สอง) เรื่อง “การใช้งานและตลาดแห่งยุคเฟื่องฟูของสังคมเครือข่าย” หรือ “Traffic and Market Report – On the Pulse of the Networked Society” โดยรายงานนี้เปิดเผยว่า ภายในปี ค.ศ. 2017 ราว 85% ของประชากรโลกจะสามารถเข้าถึงระบบ 3G และในช่วงไตรมาสแรกของปี ค.ศ. 2012 มีผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือรายใหม่ทั่วโลกกว่า 170 ล้านคน

นายเวสท์เบิร์ก ยังกล่าวอีกว่า เทคโนโลยีไอซีทีในยุคปัจจุบัน ได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อช่วยจัดการกับปัญหาสำคัญหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น การจัดการสังคมเมือง สิ่งแวดล้อม และการใช้ทรัพยากรธรรมชาติต่างๆ และเมื่อมีพื้นที่ให้บริการครอบคลุมทั่วโลก เทคโนโลยีไอซีทีจะกลายเป็นปัจจัยพื้นฐานสำคัญที่ช่วยสร้างความก้าวหน้าในอนาคต

“แม้สิ่งเหล่านี้จะทำให้เกิดความต้องการใหม่ๆอันเกี่ยวข้องกับธุรกิจในปัจจุบันของเรา และได้สร้างโอกาสทางธุรกิจจำนวนมากแต่เวลาเดียวกัน ผู้เล่นที่สำคัญในสังคมเครือข่ายเช่นนี้ คือ ผู้ที่สามารถปรับความคิดและบูรณาการตนเองได้ เพื่อให้เข้ากับลักษณะแวดล้อมโดยรวม (ecosystem) ที่เปลี่ยนไป” นายเวสท์เบิร์ก กล่าว

ซีอีโอยังได้กล่าวย้ำถึงเนื้อความในรายงานไตรมาสแรกของปี ค.ศ. 2012 นี้ว่า “ธุรกิจในขณะนี้ ส่วนใหญ่เป็นโครงการที่เกี่ยวข้องกับการขยายพื้นที่ครอบคลุมสัญญาณและการปรับปรุงเครือข่ายให้ทันสมัยยิ่งขึ้น มากกว่าการเพิ่มความจุของเครือข่าย และคาดว่าส่วนผสมทางธุรกิจเช่นนี้จะยังคงอยู่ในระยะสั้น” และจากรายงานเดียวกัน พบว่า เมื่อต้นปีนี้ยอดขายได้รับผลกระทบจากการลดลงอย่างมากของตลาด CDMA รวมไปถึงการระมัดระวังค่าใช้จ่ายของเหล่าผู้ให้บริการ ในพื้นที่ที่มีปัญหาทางเศรษฐกิจหรือความไม่สงบทางการเมือง

นายดักกลาส กิลสแตรป (Douglas Gilstrap) ประธานฝ่ายวางแผนยุทธศาสตร์ (Chief Strategist) ได้ร่วมกับนายเวสท์เบิร์ก ในการบรรยายนี้ กล่าวว่า การผสมผสานทั้งในด้านความเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีและการให้บริการต่างๆ ทำให้อิริคสันมีความโดดเด่นในการหาโซลูชั่นและโอกาสทางธุรกิจให้แก่ลูกค้าที่ต้องการผลตอบแทนที่ดีอีกด้วย

นายกิลสแตรป กล่าวถึง การที่บริษัทมุ่งเน้นในด้านธุรกิจ OSS/BSS เพิ่มมากขึ้น เพื่อตอบสนองต่อลูกค้าที่ต้องการปรับตัวเข้ากับตลาดที่พัฒนาและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้ “กล่าวง่ายๆว่าระบบ OSS/BSS ครอบคลุมตั้งแต่การเพิ่มผู้ใช้รายใหม่ในระบบ การบริหารจัดการเครือข่ายโดยรวม จนกระทั่งถึงกระบวนการเรียกเก็บค่าบริการอย่างมีประสิทธิภาพ”

“ผู้ให้บริการเครือข่ายจะถูกทิ้งให้ล้าหลัง หากปราศจากระบบ OSS/BSS ที่ยอดเยี่ยม” นายกิลสแตรป กล่าว

ผลการวิเคราะห์ส่วนแบ่งทางการตลาดทั่วโลกในปี ค.ศ. 2010-2011 ในธุรกิจระบบบริหารจัดการเครือข่ายโทรคมนาคม หรือ Telecom Operations Management Systems (BSS, OSS and SDP) โดยบริษัทการ์ทเนอร์ (Gartner) พบว่า บริษัทอิริคสันมีส่วนแบ่งตลาดเป็นที่สองในธุรกิจดังกล่าวเมื่อเปรียบเทียบจากรายได้ และเมื่อไม่นานนี้อิริคสันได้เข้าซื้อบริษัทเทเลคอร์เดีย หากรวมตัวเลขผลการดำเนินงานของบริษัทเทเลคอร์เดียด้วยแล้ว บริษัทอิริคสันก็จะกลายเป็นผู้นำหมายเลขหนึ่งในตลาดโลก แห่งปี ค.ศ. 2011 เลยทีเดียว

นอกจากนี้ อิริคสันยังได้ให้ข้อมูลใหม่ๆเกี่ยวกับแนวทางกลยุทธด้านการวิจัยและพัฒนา โดย นายอัลฟ์ อีวอลด์สัน (Ulf Ewaldsson) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยีคนใหม่ รวมทั้งรายละเอียดด้านผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ IP โดย นายอีริค อีคุดเดน (Erik Ekudden) รองประธานฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ทางเทคโนโลยีและอุตสาหกรรม และรายงานเรื่องการใช้งานและการตลาดดังที่กล่าวข้างต้นนั้น ใช้ข้อมูลจากการสำรวจโดยอีริคสัน ตั้งแต่ช่วงบุกเบิกของตลาดโมบายล์บรอดแบนด์ จากเครือข่ายจริงทั่วโลก

View :1529

อีริคสันคาดการณ์เครือข่ายโมบายบรอดแบนด์จะครอบคลุม 85 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั่วโลกภายใน ปี 2560

June 12th, 2012 No comments

- รายงานสภาพตลาดโทรคมนาคมและข้อมูลดาต้าทราฟฟิกประจำปี 2555 ของอีริคสันคาดว่า เครือข่าย 3G จะครอบคลุม 85 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั่วโลกภายในปี 2560
- เครือข่ายระบบ 4G จะขยายครอบคลุมกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั่วโลกภายในปี 2560
- ผู้ใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟนจะเพิ่มเป็น 3 พันล้านในปี 2560
- ในไตรมาสที่ 1 ปี 2555 มีผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ 6.2 พันล้าน โดยมีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นสุทธิ 170 ล้าน
- ข้อมูลการใช้งานดาต้าทราฟฟิกทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 15 เท่าภายในปี 2560 ณ ปัจจุบันผู้คนทั่วโลกต่างมองว่าโทรศัพท์มือถือเป็นวิธีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่สะดวกและง่ายที่สุดซึ่งก็สอดคล้องกับ รายงานสภาพ

ตลาดโทรคมนาคมและข้อมูลดาต้าทราฟฟิกประจำปี 2555 ของอีริคสันที่คาดการณ์ว่า ภายในปี 2560 เราจะมีเครือข่าย 3G ที่ครอบคลุม 85 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั่วโลก และยอดผู้ใช้โทรศัพท์มือถือจะถึง 9 พันล้าน ซึ่งณ ปัจจุบัน มีผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือเพียง 6 พันล้านรายทั่วโลกเท่านั้น โดยจำนวนที่เพิ่มขึ้นอีก 3 พันล้านนั้นจะรวมไปถึงการใช้งานในลักษณะ M2M (Machine to Machine Communications) อีกด้วย

จำนวนผู้ใช้งานโมบายบรอดแบนด์ทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นจาก1 พันล้านในปี 2554 เป็น 5 พันล้านภายในปี 2560 เช่นกัน

นาย ดักลาส กิวสแตบ (Mr Douglas Gilstrap) รองประธานอาวุโสและหัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ ของอีริคสันกล่าวว่า “วันนี้ผู้คนต่างมีความคิดเหมือนกันที่ว่า การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตนั้นคือฟังก์ชันพื้นฐานที่อุปกรณ์ต่างๆจำต้องมี และด้วยความคิดนี้เองที่ทำให้เกิดความต้องการใช้บรอดแบนด์มือถือเพิ่มมากขึ้นและส่งผลให้มีการใช้งานดาต้าทราฟฟิกทีสูงขึ้นอีกด้วย โดยผู้ให้บริการเครือข่ายหรือโอเปอเรเตอร์ต่างเริ่มมองเห็นโอกาสทางธุรกิจและได้เริ่มปรับปรุงและอัพเกรดระบบเครือข่ายของตนเพื่อรองรับการใช้งานที่สูงขึ้นและพัฒนารูปแบบบริการและใช้งาน (User interface) ให้สะดวกและง่ายขึ้น ณ ปัจจุบัน ประมาณ 75 เปอร์เซ็นต์ของเครือข่าย HSPA ทั่วโลกนั้นได้ถูกอัพเกรดให้มีความเร็วสูงสุดที่ 7.2 Mbps และอีกกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ยังสามารถรองรับความเร็วที่ 21 Mbps อีกด้วย ”

ในรายงานของอีริคสันยังคาดการณ์ว่า เครือข่าย /4G จะครอบคลุมมากกว่าครึ่งหนึ่งของประชากรทั่วโลกและจะมีการใช้งานโทรศัพท์สมาร์ทโฟนเพิ่มเป็น 3 พันล้านในปี 2560 และเมื่อเปรียบเทียบกับยอดผู้ใช้งานในปัจจุบัน 700 ล้านแล้วก็จะเห็นได้ว่าเป็นอัตราการเพิ่มที่สูงมาก

ณ ปัจจุบัน อัตราการใช้งานโมบายดาต้าทราฟฟิกยังคงเพิ่มขึ้นในสัดส่วนอย่างต่อเนื่องโดยการใช้งานในไตรมาสที่ 1 ของปี 2555 นั้นเพิ่มขึ้นถึงสองเท่าเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2554 โดยส่งผลมาจากการใช้งาน VDO และโทรศัพท์สมาร์ทโฟนที่มากขึ้น และอีริคสันยังคาดการณ์ว่าการใช้โมบายดาต้าทราฟฟิกทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 15 เท่าภายในปี 2560 เช่นกัน

รายงานได้มีการแสดงข้อมูลเชิงเปรียบเทียบประเทศในภูมิภาคต่างๆด้วย ตัวอย่างเช่น เรื่องการเพิ่มผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือสุทธิ (Net Addition) ประเทศจีนมีผู้ใช้งานรายใหม่ 39 ล้านรายใน สามเดือนแรกของปี 2555 ซึ่งมากที่สุดในภูมิภาค และอันดับที่สองค์อประเทศอินเดียที่มี 25 ล้านราย โดยภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมียอดผู้ใช้รายใหม่สูงที่สุดในโลกประมาณ 93 ล้าน และแอฟริกาที่เป็นอันดับสองจำนวน 30 ล้าน

นายบัญญัติ เกิดนิยม ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารและองค์กรสัมพันธ์ บริษัท ประเทศไทย กล่าวเสริมว่า “แนวโน้มอุตสาหกรรมโทรคมนาคมทั่วโลกจะยังคงมุ่งที่จะพัฒนาบริการต่างๆให้รองรับการใช้งานในลักษณะโมบายมากขึ้น ช่วยเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตง่ยขึ้น รองรับบริการวิดีโอคลาว์เบส (Cloud-Based Services) และการเชื่อมต่อ M2M (Machine to Machine Communications) เพื่ออำนวยความสะดวกให้พวกเราสามารถที่จะเข้าถึงและใช้บริการต่างๆนั้นได้ในทุกที่และทุกเวลา”

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมและดาวน์โหลดรายงานฉบับเต็มโปรดเยี่ยมชมที่ www.ericsson.com/traffic-market-report

View :2012

อีริคสันประกาศความร่วมมือกับแปดผู้ให้บริการเพื่อสร้างเครือข่าย LTE ในระดับท้องถิ่นและชุมชนต่างๆทั่วสหรัฐอเมริกา

May 23rd, 2012 No comments

เครือข่าย จะช่วยให้ ผุ้คนและธุรกิจต่างๆในแถบชนบทและชุมชนต่างๆในสหรัฐฯที่ไม่เคยมีบรอดแบนด์สามารถใช้บริการโมบายบรอดแบนด์ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น

อีริคสันได้ร่วมงานอย่างใกล้ชิดกับผู้ให้บริการโทรคมนาคมต่างๆในภูมิภาคเพื่อนำประโยชน์ของ LTE มาสู่บรรดาผู้บริโภคอย่างทั่วถึง
การทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงบริการและการสื่อสารได้อย่างทั่วถึงในทุกๆที่นั้นเป็นส่วนหนึ่งของวิสัยทัศน์ด้านเครือข่ายทางสังคม (Networked Society) ของบริษัทอีริคสัน

ฮันส์ เวสต์เบิร์ก ประธานบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหารสูงสุดของบริษัทอีริคสัน


บริษัทอีริคสันกำลังทำงานร่วมกับ แปดผู้ให้บริการโทรคมนาคมชั้นนำในระดับภูมิภาคเพื่อปรับปรุงการใช้ให้บริการโมบายบรอดแบนด์ที่ดีขึ้นสำหรับชาวอเมริกันทุกคน โดยยังจะช่วยทำให้ผู้ให้บริการทั้งแปดรายนั้นสามารถประหยัดค่าได้มากขึ้นด้วยการนำเครือข่ายโมบายบรอดแบนด์ของ LTE มาใช้

แปดผู้ให้บริการที่เลือกให้บริษัทอีริคสันสร้างโครงข่าย LTE คือ

- Appalachian Wireless (เคนตั๊กกี้) – โครงข่าย LTE เพื่อครอบคลุมเทือกเขาแอปปาเลเชียนทางตะวันออกของรัฐเคนตั๊กกี้

- Agri-Valley Communications (มิชิแกน) – โครงข่าย LTE จะครอบคลุมพื้นที่มากกว่าร้อยละ 70 ของรัฐมิชิแกนทั่วทั้งคาบสมุทรส่วนล่างและส่วนบนของรัฐ

- Bluegrass Celluar (เคนทักกี้) – จะปรับใช้โครงข่าย LTE ของบริษัทอีริคสันเพื่อให้บริการ 4G แก่บรรดาลูกค้าทั่วทั้งตอนกลางของรัฐ

- Enhanced Telecommunications Corp. (อินเดียน่า) – จะนำเสนอบริการ LTE ในรูปแบบ บรอดแบนด์แบบโครงสร้างพื้นฐาน ผ่าน Ericsson Mobile Broadband Router เพื่อเป็น home gateway

- Globecomm (นิวยอร์ก) – จะให้บริการ LTE ของบริษัทอีริคสันที่เพิ่มเติมจากการบริการ 2G และ 3G

- IT&E (กวม) – การนำเสนอโครงข่าย LTE ทั้งบริการแบบโครงสร้างพื้นฐานและแบบเคลื่อนที่จะครอบคลุมเกาะกวม ซึ่งเป็นดินแดนของสหรัฐอเมริกา ที่ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก

- South Georgia Regional Information technology Authority (จอร์เจีย) – บริษัทด้าน IT ในภูมิภาคในทางตะวันออกเฉียงใต้ของจอร์เจียที่สร้าง LTE เพื่อให้เข้าถึงเหล่าผู้บริโภคและธุรกิจต่างๆพร้อมกับบรอดแบนด์ไร้สาย

- VTel Wireless (เวอร์มอนท์) – จะเชื่อมต่อชุมชนในชนบทและที่ยังไม่เข้าถึงหรือไม่มีบรอดแบนด์ทั่วทั้งรัฐ ตลอดจนจุดการเก็บมิเตอร์อัจฉริยะ (smart meter collection points) เกือบ 1,000 จุด

สตีเวน เค. เบอร์รี่ ประธาน & CEO ของ RCA – The Competitive Carriers Association กล่าวว่า “บริษัทอีริคสันได้เป็นหุ้นส่วนที่ดีเยี่ยมสำหรับผู้ให้บริการโทรคมนาคมในระดับชนบทและระดับภูมิภาค และผมรู้สึกดีใจมากที่บริษัทอีริคสันได้ช่วยบริษัทผู้ให้บริการโทรคมนาคมทั้งแปดแห่งในการปรับใช้โครงข่าย LTE อีกครั้ง สมาชิกของเราต้องการโซลูชันเพื่อค้นหาเส้นทางไปสู่บริการ 4G/LTE และเนื่องจากงานด้านนวัตกรรมจากบริษัทต่างๆ เช่น บริษัทอีริคสัน ทำให้บรรดาผู้ให้บริการโทรคมนาคมที่สามารถแข่งขันกันได้จะสามารถบรรลุเป้าหมายที่สำคัญนี้ได้”

LTE ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการสื่อสารเคลื่อนที่แห่งยุคหน้า จะทำให้สามารถถ่ายโอนข้อมูลที่มีขนาดใหญ่มากได้อย่างรวดเร็วโดยใช้วิธีการที่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่าเงิน ใช้ประโยชน์จากการใช้ช่องสัญญาณความถี่อย่างเหมาะสมที่สุด การมีความเร็วที่สูงขึ้นและเวลาแฝงที่ลดลงจะทำให้บรรดาผู้บริโภคสามารถสนุกสนานกับโปรแกรมประยุกต์ที่มีอย่างมากมาย อาทิ การประชุมทางวิดีโอ และการเข้าถึงเว็บไซต์และโปรแกรมประยุกต์บนโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้อย่างง่ายดาย ในขณะเดินทาง LTE จะตอบสนองความต้องการของโปรแกรมประยุกต์ทางอินเตอร์เน็ตแบบเคลื่อนที่ใหม่ๆและที่ปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นสำหรับอนาคต

“เรากำลังเคลื่อนย้ายจากสังคมแห่งข่าวสารมาสู่สังคมแห่งเครือข่าย ที่ซึ่งความกังวลหลักไม่ใช่เป็นแต่เพียงการมีการเข้าถึงข้อมูลเท่านั้น แต่ยังรวมถึงประโยชน์ที่คุณจะได้รับจากข้อมูลนั้นด้วย” เครก สไตน์ รองประธานบริหาร ภูมิภาคสหรัฐ บรอดแบนด์และมีเดียสำหรับบริษัทอีริคสันกล่าว “การทำงานกับการครอบคลุมเครือข่ายชนบทในสหรัฐเป็นเวลาหลายปี ทำให้อีริคสันมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งของตลาด เมื่อผสมผสานกับเทคโนโลยี LTE ที่เราได้เริ่มต้นไว้ตั้งแต่แรกของเรา ทำให้เราเป็นทางเลือกที่ปกติในการช่วยนำบรอดแบนด์มาสู่ผู้คนในพื้นที่เหล่านี้”

ความพร้อมใช้งานและความเร็วของบรอดแบนด์จะผลักดันให้เศรษฐกิจเติบโต ซึ่งเป็นเรื่องที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อพื้นที่ในชนบท ในปี 2553 บริษัทอีริคสันและอาร์เธอร์ ดี. ลิตเติล ได้ข้อสรุปว่าการมีบรอดแบนด์ที่เพิ่มขึ้นทุกๆร้อยละ 10 จะทำให้ GDP สูงขึ้นร้อยละ 1 และจากการศึกษาติดตามผลต่อมาในปี 2554 เกี่ยวกับผลกระทบของการปรับความเร็วของบรอดแบนด์ต่อ GDP แสดงให้เห็นว่าความเร็วของบรอดแบนด์ที่เพิ่มขึ้นสองเท่าในระบบเศรษฐกิจของกลุ่ม OECD จะทำให้การเติบโตของ GDP เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3

ความครอบคลุม LTE ของประชากรทั่วโลกคือ 325 ล้านคน ซึ่งในจำนวนนี้ 215 ล้านคนได้รับความครอบคลุมจากเครือข่ายของบริษัทอีริคสัน

View :1290