Archive

Author Archive

เดลล์ จัดงาน “IDentify Your Style by DELL”

October 17th, 2012 No comments


โชว์สุดยอดนวัตกรรมและเทคโนโลยีครบวงจรแบบหลากสไตล์ เพื่อสะท้อนความเป็นคุณ พร้อมตอกย้ำพัฒนาการด้านบริการผ่าน on-site Service เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่น

เดลล์ ร่วมกับ อินเทล เนรมิตรงาน “IDentify Your Style by DELL” เผยโฉมนวัตกรรมสินค้าและเทคโนโลยีหลากสไตล์เสนอเป็นทางเลือกเพื่อเติมเต็มความต้องการ และสะท้อนความเป็นตัวตนของกลุ่มลูกค้าทุกไลฟ์สไตล์ ประกาศความพร้อมนำเสนอสินค้าอินเทรนด์สู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง พร้อมตอกย้ำความเชื่อมั่นผ่านบริการคุณภาพ DELL On-site Service โดยภายในงานได้รับเกียรติจาก 3 แขกรับเชิญคนพิเศษ มาร่วมนำเสนอความเป็นตัวตนผ่าน 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ของ เดลล์ ประกอบด้วย XPS โดยท็อป ณัฐเศรษฐ์ พูนทรัพย์มณี Vostro โดย กรณ์ ณรงค์เดช และ Inspiron โดย พลอย หอวัง

นายอโณทัย เวทยากร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดลล์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดไอทีในเมืองไทย ณ ปัจจุบัน มีการเติบโตสูงขึ้น โดยในส่วนของตลาดรวมโน้ตบุ๊คส์ยังคงมีการเติบโตในอัตราที่ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ซึ่งในส่วนของเดลล์เองก็ได้มีการแนะนำผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ๆ สู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งสร้างสรรค์แคมเปญพิเศษเพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ในแต่ละกลุ่มสู่กลุ่มเป้าหมาย โดยแต่ละรุ่นก็จะมีความหลากหลายเพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์อย่างลงตัว และที่สำคัญที่สุดคือการแนะนำนวัตกรรมใหม่ที่มีความบางเบาในแบบ “เดลล์ อัลตร้าบุ๊คส์” ซึ่งจากการเปิดตัวล่าสุดที่ผ่านมา สามารถสร้างยอดขายได้อย่างน่าจับตา และเชื่อว่าเทรนด์ดังกล่าวจะยังคงได้รับความนิยมต่อเนื่องและเพิ่มมากยิ่งขึ้น ซึ่ง เดลล์ คงจะนำเสนอสินค้ารุ่นใหม่ในกลุ่มนี้ เพื่อสร้างความคึกคักยิ่งขึ้นแก่ตลาด

“ตลอดระยะเวลา 9 เดือนที่ผ่านมา เดลล์ สามารถสร้างอัตราการเติบโตทางธุรกิจได้เป็นไป ตามเป้า” นายอโณทัยกล่าว “เราพยายามศึกษากระแสนิยมของโลกและกระแสนิยมภายในประเทศ เพื่อคัดสรรผลิตภัณฑ์เข้ามานำเสนอได้อย่างตรงจุด ไม่ว่าจะเป็นกระแส Light & Thin ในสไตล์ อัลตร้าบุ๊คส์ หรือแม้กระทั่งพัฒนาศักยภาพของผลิตภัณฑ์ให้สามารถรองรับเทคโนโลยีสมัยใหม่ อาทิ BYOD และ Cloud เป็นต้น โดยในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 55 นี้ เราวางแผนเปิดตัวสินค้าใหม่หลายรุ่นในกลุ่มของ XPS, Vostro และ Inspiron โดยผู้สนใจสามารถเข้าชมรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ www.dell.co.th”

ด้านกลยุทธ์ในการสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจของเดลล์นั้น นายอโณทัย กล่าวเสริมในประเด็นดังกล่าวว่า “เดลล์ ได้ตั้งเป้าที่จะพัฒนากลยุทธ์เพื่อสร้างความแข็งแกร่งผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก ประกอบด้วย DELL Team โดยเพิ่มศักยภาพของทีมขายเพื่อมอบบริการที่มีคุณภาพสู่ลูกค้า ด้วยการจัดคอร์สฝึกอบรมแก่ทีมขายโดยผู้เชี่ยวชาญที่มากประสบการณ์เพื่อให้แน่ใจได้ว่า ทีมขายของเดลล์จะสามารถมอบคำแนะนำที่ดีที่สุดแก่ลูกค้าทุกราย Business Partner โดยให้การสนับสนุนด้านกิจกรรมส่งเสริมการขายแก่ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ เพื่อให้ตลาดมีความคึกคักอยู่เสมอ นอกจากนี้ ยังมีการดีไซน์สื่อ ณ จุดขายให้มีความแปลกใหม่ เพื่อช่วยสร้างและกระตุ้นความสนใจแก่กลุ่มเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง Consumer โดยเน้นที่จะสร้างความชัดเจนให้กลุ่มเป้าหมายทราบถึงรายละเอียดและสไตล์ของสินค้าแต่ละกลุ่ม เพื่อให้สามารถเลือกผลิตภัณฑ์ได้ตรงตามความต้องการ”

“ด้านงานบริการ DELL on-site Service ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญที่สร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าของเรา ณ ปัจจุบัน โดย เดลล์ยังคงมุ่งเน้นที่จะพัฒนาศักยภาพด้านบริการเพื่อสร้างเป็นจุดขายหลักในสายตาผู้บริโภค ทั้งยังมีกลยุทธ์ด้าน CRM ผ่าน Yours DELL card ที่มอบสิทธิประโยชน์มากมายเอกสิทธิ์เฉพาะลูกค้า เดลล์ เพื่อสร้างความพึงพอใจอีกด้วย” นายอโณทัย กล่าวสรุป

View :1487
Categories: Technology Tags: , ,

กระทรวงวัฒนธรรม เปิดเว็บไซต์ “ร่วมด้วยช่วยใต้”

October 17th, 2012 No comments

นาย สมชาย เสียงหลาย ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า ความคืบหน้าการจัดทำโครงการจัดทำเว็บไซต์ “ร่วมด้วย ช่วยใต้” www.culturalmall.in.th เพื่อ เป็นพื้นที่สำหรับขายและเผยแพร่ข้อมูลของสินค้าผลิตภัณฑ์เชิงวัฒนธรรม ของท้องถิ่นจาก 3 จังหวัดชายแดนใต้ ได้แก่ จ.ยะลา ปัตตานีและนราธิวาสนั้น

ขณะนี้เว็บไซต์”ร่วมด้วย ช่วยใต้” www.culturalmall.in.th ได้ ดำเนินการเสร็จสมบูรณ์แล้ว สามารถเปิดตัวอย่างเป็นทางการได้ โดยรูปแบบของเว็บไซต์ดังกล่าว แบ่งออกเป็น 7 หมวด ได้แก่ 1.ผลิตภัณฑ์งานศิลปะและวัฒนธรรม 2.เครื่องใช้และอุปกรณ์แต่งบ้าน 3.อาหาร เครื่องดื่มและของขบเคี้ยว 4.ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและยา 5.เครื่องนุ่งห่ม 6.เครื่องประดับ และ7.ผลิตภันฑ์อื่นๆที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละจังหวัด

ผม เชื่อว่า คนไทยทุกคนรัก สงสาร และเป็นห่วงคนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่กำลังได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงมาก แต่ไม่รู้จะช่วยยังไง ? เพราะเราไม่ใช่ตำรวจ ทหาร เราเป็นแค่ประชาชนธรรมดา ไม่มีช่องทางใดๆเลยที่จะทำอะไรได้ เพราะขาดผู้ริเริ่มที่จะลุกขึ้นมานำคนไทยทั้งประเทศทำอะไรสักอย่าง ?

กระทรวง วัฒนธรรม โดยความสนับสนุนของศูนย์นวัตกรรมและการจัดการความรู้ วิทยาลัยศิลปะ สื่อ และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จึงขออาสาเป็นผู้ริเริ่มสร้างกระแส กระตุ้นคนไทยทั้งประเทศให้สามารถมีส่วนร่วมช่วยเหลือในการช่วยเหลือคนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

ด้วยการสั่งซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์ “ร่วมด้วย ช่วยใต้” www.culturalmall.in.th ซึ่ง นอกจากจะเป็นการช่วยเหลือให้เจ้าของผลิตภัณฑ์ได้รับรายได้โดยตรงแล้ว กำไรทั้งหมดหลังหักค่าใช้จ่าย ยังจะนำไปบริจาคให้องค์กรการกุศลเพื่อช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ เสียชีวิต และได้รับผลกระทบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทุกบาท ทุกสตางค์

นาย สมชาย กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ได้คัดเลือกสินค้าทางวัฒนธรรมจากผู้ประกอบการในพื้นที่ เพื่อนำมาจำหน่ายผ่านเว็บไซต์ดังกล่าวแล้วประมาณ 500 รายการ โดยมีเป้าหมายว่าจะคัดเลือกสินค้นที่มีคุณภาพและเอกลักษณ์จาก3 จังหวัดชายแดนใต้มาจำหน่ายเพื่อสร้างรายได้ให้คนในพื้นที่ทั้งหมด 3,000 รายการภายในปี 2556

“ทุกคนสามารถเข้าชมสินค้าวัฒนธรรมได้ในเว็บไซต์”ร่วมด้วย ช่วยใต้” www.culturalmall.in.th แล้วเลือกสั่งซื้อสินค้าตามที่ต้องการ จากนั้นรอรับสินค้าที่บ้าน ทั้งนี้สินค้าในแต่ละแบบ จะนำเสนอในแบบแอนนิเมชั่นและรูปแบบ 3D ด้วย เพื่อให้ดูสินค้าครบทุกมุมเหมือนได้สัมผัสจริง ที่สำคัญใกล้ช่วงเทศกาลปีใหม่ วธ. เตรียมส่งหนังสือขอความร่วมมือไปยังห้างสรรพสินค้าและหน่วยงานราชการให้ช่วย อุดหนุนสินค้าทาวัฒนธรรม เป็นของขวัญปีใหม่และส่งเสริมพี่น้องชายแดนใต้ให้มีรายได้ รวมทั้งขอความร่วมมือให้หน่วยงานราชการ ที่จัดสัมมนาแล้วต้องการเลือกซื้อของที่ระลึกก็ให้ช่วยอุดหนุนอีกทางด้วย”

View :1649

“ดีแทค ดีเซอร์” ปรากฏการณ์การฟังเพลงสตรีมมิ่งสุดยิ่งใหญ่ครั้งแรกของไทย เปิดตัวแล้วอย่างเป็นทางการ

October 17th, 2012 No comments

ดีแทคเปิดตัว “ ดีเซอร์” (dtac DEEZER) บริการดิจิตอลมิวสิคสตรีมมิ่งรูปแบบใหม่ที่พร้อมปฎิวัติรูปแบบการฟังเพลงของผู้บริโภคไทย ด้วยความสะดวกสบายที่สามารถฟังเพลงได้ทุกที่ ทุกเวลา กับเพลงลิขสิทธิ์จำนวนมหาศาลมากกว่า 18 ล้านเพลง จากทั่วทุกมุมโลกผ่านสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต พร้อมเพลงฮิตจากกองทัพค่ายเพลงดังของไทยที่ร่วมตบเท้าเป็นพันธมิตรอย่างคับคั่ง

นายปกรณ์ พรรณเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาด บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) กล่าวว่า “การเปิดตัว “” นับเป็นการสร้างปรากฏการณ์มิวสิคสตรีมมิ่งระดับโลกครั้งแรกในเมืองไทยและเอเชีย และเป็นหนึ่งในความมุ่งมั่นของดีแทคในการนำเสนอดิจิตอลคอนเทนต์ที่คัดสรรมาอย่างดีที่สุดให้กับลูกค้า ซึ่งให้ทั้งความสะดวกสบาย รวดเร็ว สามารถเลือกเพลงที่ต้องการฟังได้ทันทีโดยไม่ต้องเสียเวลาดาวน์โหลด จากคลังเพลงที่ได้รับลิขสิทธิ์อย่างถูกต้องจำนวนมหาศาลมากกว่า 18 ล้านเพลง มีครบทุกแนวทุกสไตล์ ทั้งไทยและต่างประเทศ ในส่วนของเพลงไทยก็ได้พันธมิตรที่เป็นค่ายเพลงดัง ๆ ของไทยมากมาย ทั้ง อาร์เอส, วอร์เนอร์มิวสิค, สหภาพดนตรี, เคพีเอ็น, โซนี่มิวสิค, สมอลล์รูม, สไปซี่ดิสก์, ท็อปไลน์มิวสิค และค่ายอื่น ๆ ที่กำลังจะเข้ามาร่วมอีกมากมาย”

ข้อดีของ “ดีแทค ดีเซอร์” นี้คือ ผู้ใช้สามารถฟังเพลงได้ทุกที่ ทุกเวลา ผ่านอุปกรณ์สื่อสารที่หลากหลาย ทั้งสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต โดยไม่ต้องดาวน์โหลดมาเก็บไว้ จึงไม่สิ้นเปลืองหน่วยความจำในเครื่อง นอกจากนั้น ยังสามารถแชร์เพลงโปรด หรือ รายการเพลงส่วนตัว (Play List) บนเฟซบุ๊ค หรือทวิตเตอร์ได้ง่าย ๆ นับว่าเป็นเป็นการสร้างประสบการณ์แบบ “โซเชียลมิวสิคสตรีมมิ่ง” เชื่อมโยงกับเครือข่ายสังคมอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด ซึ่งเป็นเทรนด์การฟังเพลงรูปแบบใหม่ล่าสุดที่จะมาสร้างสีสันให้กับผู้บริโภคชาวไทย

บริการ “ดีแทค ดีเซอร์” นอกจากจะเป็นการมอบความเพลินเพลินในการฟังเพลงรูปแบบใหม่ที่ไม่มีขีดจำกัดให้กับผู้บริโภคแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมการฟังเพลง อย่างถูกกฏหมาย และเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการเชื่อมโยงระหว่างศิลปินผู้สร้างสรรค์ดนตรี ค่ายเพลง และผู้ฟังเพลง ไม่ว่าจะเป็นการขายหรือโปรโมทผลงานต่าง ๆ ประโยชน์จึงไม่ได้เกิดกับผู้บริโภคเท่านั้น แต่ยังเป็นประโยชน์ต่อศิลปินและค่ายเพลงด้วย ต่อจากนี้ รูปแบบธุรกิจที่เคยเป็นการขายเสียงเพลงรอสาย เพลงริงโทน ซึ่งคิดส่วนแบ่งรายได้ให้ศิลปินตามจำนวนการ ดาวน์โหลด (Download Model) ก็มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนเป็น Listening Model ซึ่งศิลปินเองจะได้รับส่วนแบ่งรายได้ตามจำนวนครั้งในการฟังเพลง ศิลปินจะได้รับโอกาสที่มากขึ้น มีกำลังใจในการสร้างสรรค์ผลงานต่อเนื่องต่อไป” นายปกรณ์กล่าว

“ดีแทค ดีเซอร์” มาพร้อมแพ็กเกจที่หลากหลายสำหรับทั้งลูกค้าดีแทคแบบรายเดือนและแบบเติมเงิน ประกอบด้วย

· แพ็กเกจเสริม internet DEEZER สำหรับลูกค้าดีแทคแบบรายเดือนและแบบเติมเงิน ค่าบริการเพียง 449 บาทต่อเดือน ใช้งานอินเทอร์เน็ตและฟังเพลงได้ไม่จำกัด ใช้ความเร็ว 3G ได้ 1.2 GB สมัครโทร *104*553#

· แพ็กเกจ Smart DEEZER สำหรับลูกค้าดีแทคแบบรายเดือน ค่าบริการ 799 บาทต่อเดือน (ลูกค้าใหม่ รับโปรโมชั่นค่ารายเดือนเพียง 599 บาท นาน 6 เดือน) โทรฟรีทุกเครือข่าย 350 นาที ใช้งานอินเทอร์เน็ตและฟังเพลงไม่จำกัด ใช้ความเร็ว 3G ได้ 1.5 GB

ผู้สนใจสามารถทดลองใช้บริการ “ดีแทค ดีเซอร์” ได้แล้วที่ศูนย์ดีแทคทั่วประเทศ หรือ ข้อมูลเพิ่มเติม www.dtac.co.th/deezer

View :1829

“ไป่ตู้” สยายปีกธุรกิจในเมืองไทย เปิดตัว Baidu PC Faster 2.0

October 17th, 2012 No comments


ฟรีซอฟท์แวร์ที่ช่วยปกป้องและเพิ่มประสิทธิภาพคอมพิวเตอร์ของคนไทย

” ผู้นำเสิร์ชเอนจิ้นยักษ์ใหญ่จากประเทศจีนประกาศเปิดตัว PC Faster 2.0 ในประเทศไทย ซอฟท์แวร์ครบวงจรที่จะปกป้องและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้แก่คอมพิวเตอร์

Baidu PC Faster ได้ถูกออกแบบให้ตอบสนองความต้องการผู้ใช้อินเตอร์เน็ตชาวไทยโดยเฉพาะ ซอฟท์แวร์นี้จะเข้าจัดการปัญหาใหญ่นานับประการที่ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตชาวไทยกว่า 25 ล้านคนกำลังเผชิญอยู่ โดยจะป้องกัน คอมพิวเตอร์จากการโจมตีของแฮกเกอร์ โทรจัน ไวรัสต่างๆ รวมถึงมัลแวร์ นอกจากนี้ยังช่วยกู้คืนพื้นที่ของ ฮาร์ดไดรฟ์ เร่งเวลาบูทเครื่องให้เร็วขึ้น และปกป้องข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้อีกด้วย ทั้งหมดนี้สามารถดาวน์โหลดใช้ฟรีตลอดได้ที่ http://security.baidu.co.th

มร.ไคเซอร์ กัว ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารระหว่างประเทศของบริษัท ไป่ตู้ จำกัด (มหาชน) กล่าว“ไป่ตู้อยากจะเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาสังคมออนไลน์ในประเทศไทยและเราเชื่อว่าการนำเสนอซอฟท์แวร์ฟรีที่ใช้งานง่าย
แต่ทรงพลัง สามารถปกป้องผู้ใช้อินเตอร์เน็ตรวมถึงเพิ่มพูนประสบการณ์ท่องโลกออนไลน์นั้น เป็นสิ่งสำคัญที่
เราสามารถสนับสนุน”

ไป่ตู้เปิดตัวซอฟแวร์ Baidu PC Faster เวอร์ชั่นเบต้าในประเทศไทยเมื่อเดือนมิถุนายน 2555 และถึงปัจจุบันมี
การดาวน์โหลดไปใช้แล้วกว่า 1 ล้านครั้งในระยะเวลาไม่ถึง 4 เดือน

สำหรับ Version 2.0 นี้ Baidu PC Faster ได้เพิ่มฟังก์ชั่น Anti Virus, USB Guard (สแกน USB เพื่อปกป้อง คอมพิวเตอร์ จากมัลแวร์และต้านการติดไวรัส) และ Boot Time Manager (ตรวจสอบเวลาที่ใช้ในการเปิด
เครื่องอัตโนมัติวิเคราะห์สาเหตุของปัญหาเครื่องช้า) และอินเตอร์เฟซภาษาไทยที่ง่ายต่อการใช้งาน

ในเดือนกรกฎาคมปีนี้ ไป่ตู้และสำนักงานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการวิจัยแห่งสิงคโปร์ (เอ*สตาร์)
ได้เปิดตัวศูนย์การวิจัยร่วมในประเทศสิงคโปร์โดยมุ่งเน้นศึกษาวิจัยภาษาไทยและเวียดนามและการประมวล
ผลภาษา“ไป่ตู้เชื่อว่าความเข้าใจถึงความต้องการของผู้ใช้ในแต่ละตลาดและการศึกษาลักษณะเฉพาะทาง
ภาษาอย่างเช่นภาษาไทยนั้นมี ความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จของเรา” —มร.ไคเซอร์กล่าว

View :1461

ทีดีอาร์ไอชี้ ผลการประมูลล้มเหลวตามคาด ทำรัฐและประชาชนเสียหาย 1.6 หมื่นล้านบาท เรียกร้อง กสทช. แสดงความรับผิดชอบต่อประชาชน

October 17th, 2012 No comments

สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์
สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย

ผลการประมูลคลื่น 3G เป็นไปตามที่คาดหมายของผม คือ ได้ราคาเพิ่มขึ้นจากราคาตั้งต้นเพียงเล็กน้อยคือประมาณร้อยละ 2.8 เท่านั้น คือ เพิ่มจากราคาตั้งต้นโดยรวม 9 ใบ ที่ 40,500 ล้านบาท เป็นเพียง 41,650 ล้านบาทเท่านั้น โดยมีคลื่น 6 ชุดที่มีราคาประมูลเท่ากับราคาตั้งต้น

การประมูลครั้งนี้แม้จะทำให้ประชาชนมีบริการ 3G ใช้กันอย่างเต็มรูปแบบในปีหน้า แต่ก็ทำให้เกิดความเสียหายต่อรัฐและประชาชนในฐานผู้เสียภาษี เมื่อเทียบจากราคาประเมินถึง 16,335 ล้านบาท โดยผู้ประกอบการทั้งสามรายได้ประโยชน์จากส่วนต่างนี้ไปเป็นเสมือน “ลาภลอย” ทั้งนี้ยังไม่รวมประโยชน์ที่ได้จากการลดค่าสัมปทานที่ต้องจ่ายให้รัฐอีกปีละกว่า 4 หมื่นล้านบาท ที่สำคัญการที่แต่ละรายได้คลื่น 3G มูลค่าถูกแสนถูกต่ำกว่าปีละ 1 พันล้านบาทต่อปี จะไม่มีผลต่ออัตราค่าบริการ 3G ที่ประชาชนต้องจ่ายแต่อย่างใด นอกจากจะเพิ่มกำไรให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทผู้ประกอบการ ดังจะเห็นได้จากราคาหุ้นของผู้ประกอบการที่เพิ่มขึ้น

ผลการประมูลครั้งนี้ยังชี้ให้เห็นว่า ข้อมูลที่กสทช. พยายามโฆษณาให้ประชาชนเชื่อมาโดยตลอดว่าจะมีการแข่งขันมาก เนื่องจากคลื่นความถี่แต่ละชุดมีความแตกต่างกันมาก เสมือนเป็นที่ดินทำเลดีติดทะเลกับที่ดินแออัดติดถนนใหญ่ไม่เป็นความจริง และตอกย้ำความเชื่อของสาธารณชนในวงกว้างที่ว่า การประมูลครั้งนี้มีลักษณะเอื้อต่อการสมคบกันของผู้ประกอบการ

นอกจากนี้ ผลการประมูลยังชี้ให้เห็นข้อผิดพลาดอย่างร้ายแรงของการออกแบบการประมูล 2 ประการคือ หนึ่ง การจำกัดคลื่นความถี่ที่ผู้ประกอบการแต่ละรายจะสามารถถือครองได้ให้เท่ากัน ทำให้ไม่เกิดการแข่งขันอย่างที่ควรจะเป็น สอง การกำหนดราคาประมูลขั้นต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง ทำให้เกิดความเสียหายมาก เมื่อไม่มีการแข่งขันกันเท่าที่ควร ทั้งนี้ หาก กสทช. ได้รับฟังข้อทักท้วงของฝ่ายต่างๆ ก็จะไม่เกิดข้อผิดพลาดดังกล่าวขึ้น

ผมจึงขอเรียกร้องให้ กสทช. รับผิดชอบต่อความเสียหายต่อรัฐและประชาชนที่เกิดขึ้น โดยให้แถลงต่อประชาชนว่า จะมีการรับผิดชอบอย่างไร และขอเรียกร้องให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ

นอกจากนี้ ในการประมูลคลื่นความถี่ 4G และคลื่นความถี่อื่นๆ ที่จะมีขึ้นต่อไป ก็ขอให้ระวังอย่าได้ใช้แนวทางเดียวกันมาดำเนินการอีก

View :1420
Categories: 3G, Article Tags:

เอไอเอส ส่งแอพฯ สุดล้ำ “AIS Roaming App” เอาใจสาวก iPad

October 12th, 2012 No comments


สมัครแพ็กดาต้าโรมมิ่ง และเช็คยอดดาต้าคงเหลือได้เองทุกที่ทั่วโลก

เอไอเอส โดยบริการข้ามแดนอัตโนมัติ เอาใจสาวก iPad ด้วยแอพพลิเคชั่นสุดคูล “” ครั้งแรกในเมืองไทย ที่ให้ลูกค้าจีเอสเอ็ม แอดวานซ์ และวัน-ทู-คอล! สามารถสมัครแพ็กเกจดาต้าโรมมิ่งราคาประหยัดบน iPad ได้เอง อย่างสะดวกสบาย ทุกที่ ทั่วโลก รวมทั้งยังสามารถตรวจสอบแพ็กเกจที่สมัครและปริมาณใช้งานดาต้าคงเหลือได้เองแบบ Real Time ช่วยให้ลูกค้าหมดกังวลเรื่องปัญหาค่าใช้จ่ายส่วนเกินจากแพ็กเกจ ง่ายๆ แค่ดาวน์โหลด “” มาไว้บนหน้าจอ iPad ได้ฟรี! ผ่านทาง App Store ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เอไอเอส คอลล์ เซ็นเตอร์ 1175

View :1335

แอพพลิเคชั่นนูออนซ์ “ดรากอน ดิคเทชั่น” และ “ดรากอน เสิร์ช” เปิดให้บริการในไทยแล้ว

October 10th, 2012 No comments


สะดวกและง่ายดายยิ่งขึ้น ส่งข้อความ อีเมล์ อัพเดททวิตเตอร์และเฟซบุ๊ค ค้นหาคอนเทนท์ และข้อมูลอื่นๆ บนเว็บ โดยใช้เพียงเสียงพูดเท่านั้น

นูออนซ์ คอมมิวนิเคชั่นส์ อิงค์ ประกาศเปิดให้บริการแอพพลิเคชั่น (Dragon Dictation) และแอพพลิเคชั่นดรากอน เสิร์ช (Dragon Search) ที่รองรับภาษาไทยบนเครื่องไอโฟน (รวมทั้งไอโฟน 5) ไอพอด ทัช และไอแพด โดยสามารถดาวน์โหลดได้ฟรีจากแอพสโตร์ในประเทศไทย เพิ่มความสะดวกและรวดเร็วให้แก่ผู้บริโภคชาวไทยในการเชื่อมต่อ ติดต่อสื่อสารและค้นหาข้อมูลบนโลกอินเทอร์เน็ตได้ทุกที่ทุกเวลา โดยใช้เพียงเสียงพูด ซึ่งเร็วกว่าการใช้วิธีพิมพ์ข้อความถึง 5 เท่า

มร. เจสัน สเตอร์ลิง รองประธานอาวุโส นูออนซ์ คอมมิวนิเคชั่นส์ เอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นอย่างมากที่ได้ขยายการให้บริการแอพพลิเคชั่นดรากอน ดิคเทชั่นและดรากอน เสิร์ชสู่ตลาดไทย ตลาดแอพพลิเคชั่นไทยเป็นหนึ่งในตลาดที่มีการเคลื่อนไหวมากที่สุดในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งปัจจุบันมีแอพพลิเคชั่นที่แปลงเสียงพูดเป็นข้อความเพียงไม่กี่ชนิดที่นำออกให้บริการในตลาดไทย ขณะที่ในอีกหลายประเทศทั่วโลกที่อุปกรณ์การสื่อสารเคลื่อนที่ที่สนับสนุนการใช้เสียงพูดสั่งการกำลังเป็นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายมากขึ้น ดังนั้น การเปิดตัวแอพพลิเคชั่นดรากอน ดิคเทชั่นและดรากอน เสิร์ชในไทยครั้งนี้จะเป็นพลังขับเคลื่อนให้ผู้บริโภคชาวไทยรวมทั้งผู้บริโภคอีกหลายสิบล้านคนจากทั่วโลกสามารถติดต่อสื่อสารบนอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ระบบ iOS หลากหลายประเภทได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายยิ่งขึ้น โดยใช้แอพพลิเคชั่นดรากอน”

แอพพลิเคชั่นดรากอน ดิคเทชั่นเปิดให้บริการครั้งแรกในแอปสโตร์ของแอปเปิลในสหรัฐอเมริกาเมื่อเดือนธันวาคม 2552 และขึ้นแท่นแอพพลิเคชั่นที่มียอดดาวน์โหลดสูงสุดในกลุ่มแอพพิเคชั่นที่เปิดให้ใช้ฟรี ทั้งยังติดอันดับ 1 ในกลุ่ม Business Productivity หลังจากนั้น นูออนซ์ได้เปิดตัวแอพพลิเคชั่นดรากอน ดิคเทชั่นและแอพพลิเคชั่นดรากอน เสิร์ชทั่วทั้ง 39 ประเทศ และติดอันดับ 1 และ 2 ในเกือบทุกประเทศที่เปิดให้บริการ

ดรากอน ดิคเทชั่น คือ แอพพลิเคชั่นที่รองรับระบบปฏิบัติการ iOS-6 โดยมีลักษณะเป็นแถบเครื่องมือสั่งงานที่ปรากฏบนหน้าจอ (pop up toolbar) พร้อมด้วยไอคอนชื่อแอพพลิเคชั่น เพื่อให้เข้าใช้แอพพลิเคชั่นอีเมล์ ระบบส่งข้อความ แถบสถานะเฟซบุ๊คกรือทวิตเตอร์ หรือคลิปบอร์ดได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ดรากอน ดิคเทชั่น ยังมาพร้อมกับฟังก์ชั่น Auto Save ที่ช่วยเก็บรักษาข้อความที่ได้พูดบันทึกค้างไว้โดยอัตโนมัติอันเนื่องมาจากผู้ใช้งานต้องรับสายเรียกเข้าในระหว่างการพูดบันทึกข้อความนั้นๆ

สำหรับดรากอน เสิร์ชช่วยผู้ใช้งานสามารถตั้งคำถามค้นหาข้อมูลได้อย่างง่ายดาย และรับข้อมูลที่ต้องการค้นหาได้ทันที โดยสนับสนุนนวัตกรรมดรากอน เสิร์ช คารูเซิล (Dragon Search Carousel) ที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของนูออนซ์ สามารถแสดงผลการค้นหาข้อมูลได้เร็วขึ้นและชาญฉลาดมากขึ้นภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่วินาทีจากหลากหลายช่องทางพร้อมๆ กัน อาทิ กูเกิล (Google) ยาฮู! (Yahoo!) วิกิพีเดีย (Wikipedia) และทวิตเตอร์ (Twitter) โดยไม่ต้องปิดแอพพลิเคชั่นที่ใช้อยู่เดิม

ปัจจุบัน ทั้งแอพพลิเคชั่นดรากอน ดิคเทชั่นและดรากอน เสิร์ชเปิดให้ดาวน์โหลดได้แล้วในประเทศไทยโดยไม่มีค่าใช้จ่ายที่แอปเปิล แอพสโตร์

นอกจากนี้ ดรากอน ดิคเทชั่นและดรากอน เสิร์ชยังเปิดให้บริการที่แอพสโตร์ในอีกหลากหลายประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา แคนาดา เม็กซิโก สาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สหราชอาณาจักร เยอรมนี ญี่ปุ่น จีน สาธารณรัฐเช็ก ไต้หวัน ฮ่องกง เกาหลี ออสเตรเลีย บราซิล ออสเตรีย เบลเยียม เดนมาร์ก อียิปต์ ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส กรีซ ฮังการี อินโดนีเซีย อิตาลี มาเลเซีย ตุรกี ยูเครน และเวียดนาม ทั้งยังรองรับหลากหลายภาษา ได้แก่ ภาษาไทย อังกฤษแบบอเมริกัน อังกฤษแบบอังกฤษ อังกฤษแบบออสเตรเลีย ญี่ปุ่น บาฮาซา อินโดนีเซีย บาฮาซา มาเลเซีย จีนแมนดาริน แมนดารินไต้หวัน กวางตุ้ง เช็ก เกาหลี ฮังกาเรียน เดนิช ดัทช์ ฟินนิช ฝรั่งเศสยูโรเปี้ยน ฝรั่งเศสแคนาเดียน เยอรมัน อิตาเลียน นอร์วีเจียน โปลิช โปรตุกีสยูโรเปี้ยน โปรตุกีสบราซิลเลียน โรมาเนียน รัสเซีย สแปนิชยูโรเปี้ยน สแปนิชอเมริกัน สวีดิช เตอร์กิช อารบิกมาตรฐาน ยูเครน และเวียดนาม และด้วยขีดความสามารถที่รองรับหลากหลายภาษาดังกล่าว ทำให้ผู้ใช้งานทุกคนสามารถปรับเปลี่ยนไปใช้ภาษาต่างๆ เหล่านี้ได้อย่างสะดวกและง่ายดายตามต้องการ

เทคโนโลยีการจดจำเสียง (voice recognition technology) ที่นูออนซ์ได้คิดค้นและพัฒนาขึ้น เป็นหัวใจสำคัญของซอฟท์แวร์ Dragon NaturallySpeaking ที่ทำงานบนเครื่องเดสก์ท้อป ทั้งยังมีสมรรถนะในการติดต่อสื่อสารด้วยเสียงกับอุปกรณ์ชั้นนำต่างๆ ได้แก่ โทรศัพท์ แท็บเล็ต รถยนต์ ทีวี และแอพพลิเคชั่น ส่งผลให้ผู้ใช้งานจำนวนหลายล้านคนสามารถติดต่อสื่อสารกันได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายมากกว่าที่เคยมีมา

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้าไปดูได้ที่ www.NuanceMobileLife.com ผู้สนใจสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดของนูออนซ์ได้ที่ Twitter @NuanceMobile และสมัครเป็นแฟนพันธุ์แท้ได้บนหน้าเฟซบุ๊คแอพพลิเคชั่นดรากอน โมบาย http://www.facebook.com/NuanceMobileLife

View :1770

ดีแทคเปิดตัว Wikipedia Zero ให้ลูกค้าใช้ฟรีครั้งแรกในไทย ร่วมสนับสนุนเยาวชนให้ศึกษาค้นคว้าผ่านทางอินเทอร์เน็ต

October 10th, 2012 No comments


เปิดบริการ วิกิพีเดียซีโร่ () บริการสืบค้นข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ตบนมือถือโดยไม่คิดค่าบริการ เพื่อเป็นการเผยแพร่วัฒนธรรมการค้นคว้าหาความรู้อย่างสร้างสรรค์และเพื่อใช้ประโยชน์ในการศึกษาของกลุ่มเยาวชน ลูกค้าแฮปปี้และดีแทคที่ต้องการใช้งานสามารถเข้าสู่บริการได้แล้ววันนี้ โดยกด *704*91# เพื่อรับลิงค์ หรือเข้าใช้งานผ่านทาง http://zero.wikipedia.org บนมือถือทุกรุ่นที่รองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตโดยไม่ต้องสมัครใช้บริการแต่อย่างใด

วิกิพีเดียซีโร่ (Wikipedia Zero) เป็นบริการสืบค้นข้อมูลวิกีพีเดียบนมือถือที่ใช้งานง่าย ซึ่งรวบรวมข้อมูลและความรู้จากทั่วโลกไว้ในที่เดียวกัน โดยวิกีพีเดียซีโร่นี้จัดทำขึ้นเป็นพิเศษเพื่อให้สามารถใช้งานได้สะดวกและแพร่หลายบนมือถือธรรมดาทั่วไป ปัจจุบันดีแทคได้เริ่มแนะนำบริการนี้เพื่อเป็นช่องทางให้นักเรียน นักศึกษาและครูอาจารย์ ได้นำไปใช้ประโยชน์ในการเรียนการสอนแล้ว โดยเปิดตัวเป็นครั้งแรกในงานมหกรรมทางการศึกษาเพื่อพัฒนาวิชาชีพครู (Educa 2012) และจะเข้าร่วมกิจกรรมกับกลุ่มเยาวชนในโอกาสต่อไป

View :1329

แนวโน้มการให้บริการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนระบบคลาวด์กำลังเป็นที่นิยมเพิ่มขึ้นเทรนด์ไมโคร แจ้งเตือนผู้ใช้เพิ่มความปลอดภัยสำหรับข้อมูลส่วนบุคคล

October 9th, 2012 No comments

กรุงเทพฯ ประเทศไทย – 9 ตุลาคม 2555 – รายงานจากบริษัทเทรนด์ไมโคร และศูนย์วิจัยเทรนด์แล็บส์ เปิดเผยว่า ด้วยฟังก์ชันที่หลากหลายซึ่งช่วยจัดการงานต่างๆ ที่ปกติจะต้องใช้ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์แบบดาวน์โหลดได้มาช่วยดำเนินการ ทำให้การสมัครใช้บริการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลในระบบคลาวด์ส่วนบุคคลเกิดการขยายตัวอย่างเห็นได้ชัดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และจากผลการสำรวจเกี่ยวกับระบบคลาวด์ครั้งล่าสุดของบริษัท ไอดีซี พบว่า 19% ของร้านค้าปลีกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกได้เริ่มนำบริการการประมวลผลแบบคลาวด์บางอย่างมาปรับใช้แล้ว และมีอีกกว่า 30% กำลังประเมินการปรับใช้ระบบคลาวด์ในอีก 2 – 5 ปีจากนี้
การเพิ่มจำนวนของการใช้พื้นที่จัดเก็บข้อมูลในระบบคลาวด์ส่วนบุคคลนั้น เป็นผลมาจากความสะดวกและความคุ้มค่า ตัวอย่างเช่น บริการจดบันทึกด้วยคลิกเดียวและบริการบุ๊กมาร์ก เช่น Evernote กำลังได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในประเทศญี่ปุ่น จีน ไต้หวัน และเกาหลีใต้ โดยผู้ใช้จะใช้ฮาร์ดแวร์ในจำนวนที่น้อยลงเพื่ออัพโหลดข้อมูล ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาและมีความสามารถด้านการประมวลผลที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากระบบคลาวด์จะเข้ามาช่วยจัดการปริมาณงานดั้งเดิมได้ในสัดส่วนถึงครึ่งหนึ่ง โดยขณะนี้แอพพลิเคชั่นฟรีหรือราคาถูกที่อำนวยความสะดวกสำหรับการดาวน์โหลดสื่อข้อมูล การแบ่งปันข้อมูลทางสังคมออนไลน์ การธนาคาร และบริการโทรศัพท์มีพร้อมให้บริการอย่างแพร่หลาย
นางสาวไมลา ปิลาโอ ผู้อำนวยการฝ่ายการสื่อสารด้านการตลาด ศูนย์วิจัยเทรนด์แล็บส์ กล่าวว่า “จากการวิจัยล่าสุดพบว่ากิจกรรมเกี่ยวกับระบบคลาวด์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อีเมลผ่านเว็บ การธนาคารออนไลน์ การช้อปปิ้งออนไลน์ การอัพโหลดรูปภาพ และเครือข่ายสังคมออนไลน์ ผู้คนสมัยนี้นิยมจัดเก็บรูปถ่ายไว้บนเฟซบุ๊ก อินสตราแกรม หรือปิคาซ่า โดยไฟล์จะถูกอัพโหลดไปยังดร็อปบ็อกซ์ หรือกูเกิล ไดร์ฟ ในขณะที่ผู้ใช้กำลังเดินหน้าเข้าสู่ระบบคลาวด์อย่างต่อเนื่อง พวกเขาอาจยังไม่ทราบว่ามีภัยคุกคามรูปแบบใดบ้างที่พวกเขาจะต้องเผชิญ ปัจจุบันผู้บริโภคในภูมิภาคเอเชียโดยทั่วไปมักเต็มใจที่จะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของตนเพื่อแลกกับบริการฟรีและโฆษณาที่ตรงตามเป้าหมายมากขึ้น ซึ่งนั่นอาจเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดข้อมูลรั่วไหลได้”
สำหรับความเสี่ยงที่เป็นไปได้หลายอย่างที่ผู้ใช้อาจเผชิญในขณะที่ใช้บริการแบบคลาวด์ มีดังนี้
• แคมเปญภัยคุกคาม แคมเปญภัยคุกคามในจำนวนที่มากขึ้นจะกำหนดเป้าหมายไปที่ผู้ให้บริการระบบคลาวด์ในรูปแบบที่แตกต่างกัน โดยอาชญากรไซเบอร์สามารถเจาะระบบบัญชีที่ใช้รหัสผ่านที่คาดเดาง่ายหรือนำรหัสผ่านเดิมๆ กลับมาใช้ หรือข้อมูลที่ไม่มีการเข้ารหัสลับไว้
• ข้อบกพร่องในระบบหรือช่องโหว่ของแอพพลิเคชั่นอาจทำให้ข้อมูลตกอยู่ในภาวะเสี่ยงได้ เนื่องจากจะเปิดช่องให้อาชญากรไซเบอร์สามารถเข้ามาเจาะระบบ โดยช่องโหว่เหล่านี้สามารถเริ่มต้นได้จากอินเตอร์เฟสของแอพพลิเคชั่นเอง และแอพพลิเคชั่นฟรีที่ได้รับความนิยมส่วนใหญ่อาจทำให้ฐานข้อมูลผู้ใช้ในประเภทต่างๆ ตกอยู่ในความเสี่ยงได้เช่นกัน
• ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ผู้ใช้บริการอาจถูกเรียกเก็บค่าใช้จ่ายการใช้ข้อมูลหรือแอพพลิเคชั่นผ่านระบบมือถือ โดยแอพพลิเคชั่นที่เป็นอันตรายสามารถทำให้บริการระดับพรีเมียมเรียกเก็บค่าบริการในใบแจ้งหนี้ถัดไปได้
• การเข้าถึงที่ยากลำบาก การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่มีสัญญาณไม่แรงพอ การหยุดให้บริการของระบบ และภาวะไฟฟ้าดับอาจทำให้การเข้าถึงข้อมูลหรือซอฟต์แวร์ในระบบคลาวด์ล่าช้าได้
• ข้อมูลรั่วไหลของผู้ให้บริการ การใช้บริการแบบคลาวด์จะให้สิทธิ์ในการควบคุมแก่ผู้ให้บริการ โดยจะเห็นได้จากกรณีตัวอย่างของการโจมตีผู้ใช้ดร็อปบ็อกซ์ที่โดนสแปมโจมตี โดยมีสาเหตุมาจากไซต์ของบุคคลที่สามที่เชื่อมโยงอยู่กับบริการดังกล่าวนั่นเอง นอกจากนี้แฮคเกอร์ยังได้ปล่อยข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้อุปกรณ์ Apple จำนวน 1 ล้านราย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อมูลที่ถูกกล่าวอ้างว่ามาจากอุปกรณ์ Apple iOS ที่มีจำนวนมากกว่า 12 ล้านเครื่อง
• ปัจจัยด้านมนุษย์ บุคคลที่เป็นอันตรายหรือผู้โจมตีจะหลอกลวงพนักงานในองค์กรที่รู้ไม่เท่าทันโดยเลือกใช้เทคนิควิศวกรรมสังคม

บริษัทเทรนด์ไมโคร และศูนย์วิจัยเทรนด์แล็บส์ ขอแนะนำเคล็ดลับสำหรับผู้ใช้บริการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนระบบคลาวด์ส่วนบุคคลเพื่อปกป้องตัวเอง ดังนี้:
• อัพเดตแอพพลิเคชั่นของคุณอยู่เสมอ ผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่นจะจัดการข้อบกพร่องของบริการและแก้ไขช่องโหว่ต่างๆ ในรูปของโปรแกรมอัพเดต
• ระวังลิงก์ที่ไม่รู้จัก อย่าคลิกลิงก์หรือเปิดสิ่งที่แนบมาจากอีเมลที่ดูน่าสงสัย เคล็ดลับเดียวกับที่ใช้ในบริการข้อความโต้ตอบแบบทันที (IM) และข้อความส่วนตัวบนไซต์เครือข่ายสังคมออนไลน์
• ใช้บริการแบบคลาวด์ เช่น เทรนด์ไมโคร เซฟซิงค์ ที่มีการเข้ารหัสข้อมูลที่คุณสามารถอัพโหลดได้โดยอัตโนมัติเช่นเดียวกับการสำรองข้อมูลและซิงค์ข้อมูลของคุณในพีซี, เครื่อง Mac, iOS, Android และด้วยการเชื่อมต่อตลอด 24 ชั่วโมงในทุกวันผ่านทางเครื่องเดสก์ท็อป ระบบมือถือ และไซต์ต่างๆ โดยใช้ศูนย์ข้อมูลของบริษัทเทรนด์ไมโคร ส่งผลให้การแบ่งปันข้อมูลทั้งหมดจะได้รับการรักษาความปลอดภัยด้วยอาศัยตัวเลือกต่างๆ เช่น รหัสผ่าน วันที่หมดอายุ และการปิดใช้งานลิงก์ต่างๆ
• ป้องกันอุปกรณ์มือถือของคุณ ใช้โปรแกรมรักษาความปลอดภัยสำหรับระบบมือถือ เช่น เทรนด์ไมโคร โมบาย ซิเคียวริตี้ เพื่อป้องกันแอพพลิเคชั่นที่เป็นอันตราย
• ยกระดับการรักษาความปลอดภัยสำหรับรหัสผ่านของคุณ เปลี่ยนรหัสผ่านที่คาดเดาง่ายให้เป็นวลีที่ยากต่อการจดจำสำหรับบุคคลอื่นๆ โดยอาจะเลือกใช้ตัวจัดการรหัสผ่าน เช่น เทรนด์ไมโคร ไดเร็คพาสจะช่วยให้คุณสามารถใช้รหัสผ่านหลักเพียงรหัสผ่านเดียวสำหรับบัญชีทั้งหมดของคุณได้
• สำรองข้อมูลมือถือคุณ โดยเลือกใช้เทรนด์ไมโคร โมบาย แบ็คอัพ และรีสโตร์ ซึ่งจะพร้อมทำงานในทันทีที่อุปกรณ์ของคุณเกิดปัญหาหรือถูกขโมย

View :1363

Thailand Mobile Expo 2012 Showcase จบลงอย่างสวยงาม ตลาดคึกคักทั้งสมาร์ทโฟนและสินค้า IT

October 8th, 2012 No comments

บริษัท เอ็ม วิชั่น จำกัด ผนึกกำลังพันธมิตรโทรศัพท์มือถือกว่า 40 แบรนด์ชั้นนำ จัดงาน “” ครั้งที่ 13 มหกรรมโทรศัพท์มือถือที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ส่งท้ายปลายปี เมื่อวันที่ 4-7 ตุลาคม ที่ผ่านมา

นาย โอภาส เฉิดพันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็ม วิชั่น จำกัด เปิดเผยถึงภาพรวมของการจัดงาน “Thailand Mobile Expo 2012 Showcase” ด้วยยอดผู้เข้างานชมกว่า 6 แสนคน ซึ่งใกล้เคียงกับครั้งที่ผ่านๆมา แต่มียอดเงินสะพัดภายในงานเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 2000 ล้านบาท หรือคิดเป็นจำนวน 25% ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากปัจจุบันกระแส Social Network ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก คนส่วนใหญ่หันมานิยมติดต่อสื่อสารผ่านทาง Social Network มากขึ้น จึงจำเป็นต้องใช้สมาร์ทโฟนเพื่อให้รองรับเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าอยู่ตลอดเวลา เหตุนี้จึงเป็นแรงกระตุ้นให้คนหันมานิยมซื้อสมาร์ทโฟนสัดส่วนภายในงานเพิ่มมากขึ้นเป็น 70% โดยระดับเพดานราคาสมาร์ทโฟนในระดับ Hi-End ในตลาดทั่วไปมีการปรับราคาขึ้นเล็กน้อย ในขณะ และสินค้าในกลุ่มอุปกรณ์เสริมได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีการเปิด Zone C เพื่อเป็น Zone สำหรับ Clearance โดยเฉพาะ ในขณะที่ยอดจำหน่ายของฟีเจอร์โฟนลดลง

นอกจากนี้ภายในงานยังมีสินค้าในกลุ่ม IT เข้ามาชิมลางร่วมออกบูธจัดงานเป็นครั้งแรก ซึ่งมีผลตอบรับเหนือความคาดหมาย ผู้เข้าชมงานให้ความสนใจกลุ่มสินค้า IT อย่างล้นหลาม ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จตามเป้าหมายของการจัดงาน ที่ต้องการสร้างความหลากหลายตอบรับตลาดใหม่ อีกทั้งยังสามารถ สร้างความคึกคักให้กับวงการมือได้อีกครั้งหนึ่ง

นาย โอภาส กล่าวต่อว่า กลุ่มสินค้าประเภทสมาร์ทโฟนได้รับความนิยมสูงสุดคิดเป็น 70% ของยอดขาย ตามด้วยแท็บเล็ตคิดเป็นสัดส่วน 20% และกลุ่มฟีเจอร์โฟนรวมไปถึงอุปกรณ์เสริมคิดเป็น 10% จากยอดขายทั้งหมด โดยแอนดรอยด์ก็ยังคงเป็นระบบปฏิบัติการที่มาแรงเหมือนเช่นเคย ด้วยยอดจำหน่ายสูงถึง 90% ของสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตทั้งหมดที่จำหน่ายภายในงาน

แล้วพบกันใหม่ที่งาน “Thailand Mobile Expo 2013” ครั้งที่ 14 มหกรรมโทรศัพท์มือถือที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 7 – 10 กุมภาพันธ์ 2556 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตั้งแต่เวลา 10.00 – 20.00 น. เป็นต้นไป

View :1588