Archive

Author Archive

โมโตโรล่า โซลูชั่นส์ เตรียมส่งโซลูชั่นล้ำสมัยครบวงจรตอบโจทย์ความต้องการของภาครัฐและองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่

September 14th, 2011 No comments

อิงค์ (หรือมีชื่อย่อในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กว่า MSI) ประกาศวิสัยทัศน์มุ่งนำผลิตภัณฑ์ครบวงจร เจาะทุกตลาดในไทย ตอบสนองความต้องการของภาครัฐ องค์กรที่ดูแลทางด้านการรักษาความปลอดภัยสาธารณะ และองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ ร่วมสร้าง
ความยั่งยืนให้แก่เศรษฐกิจไทยในระยะยาว

โมโตโรล่า โซลูชั่นส์ คือ ผู้นำทางด้านบริการและผลิตภัณฑ์การสื่อสารที่มีความสำคัญระดับ mission-critical สำหรับลูกค้าองค์กรและภาครัฐ บริษัทมีผลิตภัณฑ์และบริการหลากหลายประเภทตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบถ้วน ได้แก่ โซลูชั่นเพื่อยกระดับความปลอดภัยสาธารณะโซลูชั่นการสื่อสารเคลื่อนที่ที่มีความสำคัญต่อภาคธุรกิจ เครื่องอ่านบาร์โค้ดและข้อมูลที่ทันสมัย (advanced data capture) ระบบสื่อสารเพื่อการควบคุมและสั่งการแบบครบวงจร ระบบ WLAN และบริการอันล้ำสมัย บริษัทมีฐานลูกค้าทั่วโลก และมีการดำเนินงานใน 65 ประเทศในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก โมโตโรล่า โซลูชั่นส์มีการดำเนินงานใน 16 ประเทศ และได้เดินหน้าพัฒนาโซลูชั่นการสื่อสารเคลื่อนที่รุ่นใหม่สำหรับภาครัฐ องค์กรที่ดูแลด้านการรักษาความปลอดภัยสาธารณะ ตลอดจนลูกค้าองค์กรธุรกิจต่างๆ ครอบคลุมทุกภาคอุตสาหกรรม อาทิ การค้าปลีก ระบบขนส่ง & โลจิสติกส์ น้ำมัน & ก๊าซ ธุรกิจดูแลสุขภาพ การผลิต ระบบซัพพลายเชน และโรงแรมที่พัก

· โซลูชั่นเพื่อความปลอดภัยสาธารณะ

โมโตโรล่าเป็นผู้นำทางด้านโซลูชั่นเพื่อความปลอดภัยสาธารณะมานานถึง 80 ปี โดยมีประสบการณ์ในการพัฒนาโซลูชั่นใหม่ๆ สำหรับองค์กรที่ดูแลทางด้านการรักษาความปลอดภัยสาธารณะ หน่วยงานภาครัฐ และผู้ใช้ระบบโครงสร้างพื้นฐาน และได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ให้บริการผลิตภัณฑ์การสื่อสารที่มีความสำคัญแบบ mission critical ที่มีคุณภาพตรงตามมาตรฐานที่วางไว้ ซึ่งได้แก่ TETRA และ APCO P25 ที่ได้รับความไว้วางใจทั่วโลก

ด้วยความรู้ความชำนาญและประสบการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้โมโตโรล่า โซลูชั่นส์ขึ้นแท่นผู้นำในการพัฒนาโซลูชั่นความปลอดภัยสาธารณะรุ่นใหม่ โดยใช้เทคโนโลยีโมบายล์บรอดแบนด์ ผนวกกับระบบการทำงานร่วมกัน และแอพพลิเคชั่นมัลติมีเดีย อาทิ ระบบวิดีโออัจฉริยะ (video excellence) ระบบควบคุมและสั่งการแบบผสมผสาน อุปกรณ์ล้ำสมัย ซึ่งโซลูชั่นทั้งหมดนี้ทำงานผ่านระบบการสื่อสารระดับ mission-critical เพื่อให้องค์กรที่ดูแลด้านการรักษาความปลอดภัยสาธารณะมีข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและนำมาใช้ประกอบการตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

· อุตสาหกรรมขนส่ง

โมโตโรล่า โซลูชั่นส์ คือ หนึ่งในผู้นำทางด้านโซลูชั่นการสื่อสารระดับ mission-critical สำหรับการขนส่ง ที่ตอบโจทย์ความต้องการขององค์กรธุรกิจทางด้านการขนส่ง อาทิ เครือข่ายรถไฟทางไกล เครือข่ายระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในเมืองต่างๆ สนามบิน และท่าเรือได้อย่างครบถ้วน โดยสนับสนุนและรองรับทั้งทางด้านการเชื่อมโยงเครือข่าย การดำเนินการและซ่อมบำรุง ความปลอดภัยในการเดินทาง และระบบรักษาความปลอดภัยต่างๆ เสริมสร้างประสบการณ์การเดินทางที่ดีขึ้น โดยที่ผ่านมา โมโตโรล่า โซลูชั่นส์เป็นผู้วางระบบการสื่อสารแบบ mission-critical ทั้งทางด้านระบบการสื่อสารด้วยเสียงและข้อมูลที่ปลอดภัยให้แก่ผู้ให้บริการระบบรถไฟกว่า 30 ราย ลูกค้ารายใหญ่ของโมโตโรล่า โซลูชั่นส์ในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิกมีหลายราย อาทิ เซี่ยงไฮ้เมโทร ปักกิ่งเมโทร ฮ่องกงเมโทร ไต้หวัน ไฮสปีด เรล เดลฮีเมโทร เดลฮีเมโทร เอ็กซ์เพรสไลน์ มุมไบเมโทร เอ็กซ์เพรส เรล ลิงค์ มาเลเซีย โซลเมโทร มนิลา แอลอาร์ที และเอสเอ็มอาร์ที เมโทรในประเทศสิงคโปร์ นอกจากนี้ โมโตโรล่า โซลูชั่นส์ยังพัฒนาโซลูชั่นการสื่อสารระดับ mission-critical ขนาดใหญ่ให้แก่สนามบินและท่าเรือชั้นนำอีกหลายแห่งทั่วภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก

· อุตสาหกรรมค้าปลีก

การใช้จ่ายของผู้บริโภคที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้โซลูชั่นที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น มีความคล่องตัว ในการดำเนินงานมากขึ้น และมีสมรรถนะในการสร้างผลกำไรดีขึ้นเป็นที่ต้องการมากขึ้นตามไปด้วย โมโตโรล่า โซลูชั่นส์มีความพร้อมในการช่วยเหลือผู้ค้าปลีกไทยในการเสริมสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้แก่ผู้บริโภค เพิ่มประสิทธิผลและพลังในการดำเนินงาน บริหารซัพพลายเชนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และพัฒนาศักยภาพของพนักงาน เพื่อผลประกอบการที่เพิ่มขึ้นขององค์กร

· อุตสาหกรรมดูแลรักษาสุขภาพ

โมโตโรล่า โซลูชั่นส์จัดทำโซลูชั่นพิเศษที่มุ่งเน้นรักษาความปลอดภัยให้แก่ผู้ป่วย เพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ รักษาความปลอดภัยในการสื่อสาร และสนับสนุนการเชื่อมโยงกันได้อย่างราบรื่น ไร้รอยสะดุด โซลูชั่นอันโดดเด่นดังกล่าว ได้แก่ เครื่องอ่านบาร์โค้ดและข้อมูลที่ทันสมัย (data capture) เพื่อให้บุคลากรด้านสาธารณสุขสามารถบริหารการดำเนินงานที่จุดตรวจ และช่วยเหลือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในสถานพยาบาลดูแลผู้ป่วยได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น นวัตกรรมโซลูชั่นดังกล่าวจะช่วยสถานพยาบาลดูแลและจัดการระบบ กระบวนการ และสถานที่ดำเนินการที่มี
ความซับซ้อน อาทิ หน่วยการแพทย์เฉพาะทาง อุปกรณ์การแพทย์ อาคารที่มีการใช้งานร่วมกัน ระบบเครือข่ายแบบไร้สายที่ปลอดภัยและราบรื่น เพื่อสร้างประสบการณ์การให้บริการที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพให้แก่ผู้ป่วย

· อุตสาหกรรมโลจิสติคส์และซัพพลายเชน

โมโตโรล่า โซลูชั่นส์ มีโซลูชั่นการสื่อสารเคลื่อนที่ที่ปลอดภัยและมีเสถียรภาพซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลให้แก่อุตสาหกรรมซัพพลายเชน การผลิต และโลจิสติคส์ทั้งหมด ปัจจุบัน โซลูชั่นของบริษัทได้รับเลือกให้นำไปใช้ในระบบซัพพลายเชนของบริษัทชั้นนำต่างๆ อาทิ เนสท์เล่ มาเลเซีย โตโยต้า ฟิลิปปินส์ คอนซอร์เที่ยม และผู้ให้บริการระบบโลจิสติคส์ชั้นนำ อาทิ ดีเอชแอล เฟดเดอรัล เอ็กซ์เพรส ทีเอ็นที และมาเลเชี่ยน โพสต์ เป็นต้น

· อุตสาหกรรมโรงแรมที่พักและการท่องเที่ยว

โซลูชั่นเทคโนโลยีอันล้ำสมัย อาทิ โซลูชั่น Asset Management and Tracking for Hospitality โซลูชั่น Hotel Guest Service โซลูชั่นการรักษาความปลอดภัยในการสื่อสารด้วยเสียงมีคุณภาพตรงตามและเหนือกว่ามาตรฐานที่ใช้อยู่ในอุตสาหกรรมภาคบริการ โมโตโรล่า โซลูชั่นส์ได้พัฒนาโซลูชั่นเฉพาะด้านหลากหลายประเภทสำหรับธุรกิจโรงแรมที่พักโดยเฉพาะ

· โซลูชั่นการเชื่อมโยงแบบไร้สาย

โมโตโรล่า โซลูชั่นส์ได้พัฒนาระบบเครือข่ายบรอดแบนด์แบบไร้สายที่มีต้นทุนต่ำแต่ให้ความปลอดภัยสูง โดยใช้สถาปัตยกรรมล้ำสมัย อาทิ โซลูชั่นการรักษาความปลอดภัยของเครือข่ายแบบไร้สาย WiNG 5 และ AirDefense เพื่อให้องค์กรธุรกิจต่างๆ นำเทคโนโลยีการสื่อสารเคลื่อนที่อันทรงพลังมาใช้สนับสนุนการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและมีแต้มต่อในการแข่งขัน

นางสุปราณี เกื้อกูลเงิน ผู้จัดการประจำประเทศไทย และผู้จัดการฝ่ายขาย สายงานบริการภาครัฐและความปลอดภัยสาธารณะ ระบบเครือข่ายไร้สาย บริษัท โมโตโรล่า โซลูชั่นส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “โมโตโรล่า โซลูชั่นส์ มีความตั้งใจจริงที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนและเพิ่มศักยภาพให้แก่ภาครัฐและธุรกิจในประเทศไทย เราจึงได้มุ่งมั่นพัฒนาโซลูชั่นการสื่อสารที่มีความสำคัญระดับ mission critical เพื่อช่วยสนับสนุนอุตสาหกรรมการสื่อสารของไทย สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งเน้นพัฒนาประเทศไทยให้เป็นประเทศแห่งองค์ความรู้ชั้นนำของโลก ทั้งนี้ จากประสบการณ์การดำเนินงานอันยาวนานในประเทศไทยได้ขับเคลื่อนให้เราสามารถนำความรู้และวิทยาการชั้นนำระดับโลก ทักษะและความเชี่ยวชาญของบุคลากรในไทย และข้อมูลเกี่ยวกับภาพรวมของอุตสาหกรรมการสื่อสารของไทยมาใช้พัฒนาโซลูชั่นใหม่ๆ ที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในไทยได้อย่างครบถ้วน การจัดตั้งโมโตโรล่า โซลูชั่นส์ทำให้เรามีกลยุทธ์ในการดำเนินงานที่มีความยืดหยุ่นและสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดีและตรงจุดมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีทั้งต่อลูกค้า พนักงาน และพันธมิตรโดยรวมทั้งหมด”

View :1440

กลุ่มทรู เปิดตัว Ultra Wi-Fi by TrueMove H ความเร็วสูงสุด 100 Mbps

September 13th, 2011 No comments

กลุ่มทรู เปิดตัว โชว์ศักยภาพเน็ตเร็วสูงไร้สายที่ให้ความเร็วสูงสุดถึง 100 Mbps ครั้งแรกในไทยที่สยามพารากอน พันธมิตรศูนย์การค้าชั้นนำระดับโลก ด้วยนวัตกรรม ครอบคลุมทั่วพื้นที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน กว่า 500,000 ตารางเมตร มอบชีวิตอิสระ FREEYOU ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ลูกค้าเทรนด์เซตเตอร์ของสยามพารากอน ทั้งนักธุรกิจ นักช็อป นักท่องเที่ยว ให้เพลินใจกับโลกออนไลน์ได้ทุกที่ ทุกเวลา ย้ำผู้นำโมบายล์ ไฮสปีด อินเทอร์เน็ต และโครงข่าย Wi-Fi ที่ใหญ่ที่สุด ด้วยจำนวนฮอตสปอตคุณภาพที่มากถึง 100,000 จุดทั้งในประเทศและต่างประเทศทั่วโลก

นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า กลุ่มทรูไม่หยุดนิ่งในการสรรหาและเพิ่มมูลค่าให้ลูกค้าผู้ใช้บริการที่ต้องการอิสระ ทั้งในการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวันได้รวดเร็ว สะดวกสบาย ทุกที่ ทุกเวลา ไร้ขีดจำกัด ล่าสุด ผสานยุทธศาสตร์คอนเวอร์เจนซ์ เปิดตัวนวัตกรรมเทคโนโลยีไร้สาย Ultra Wi-Fi by TrueMove H ความเร็วสูงสุดถึง100Mbpsครั้งแรกของไทยที่สยามพารากอนแหล่งรวมเทรนด์เซตเตอร์ตอบโจทย์แนวคิดFREEYOU อิสระ…ให้เร็วยิ่งกว่า ได้ทุกที่ ตรงใจไลฟ์สไตล์คนเมืองยุคใหม่ เพิ่มสปีดชีวิตอิสระไร้สาย ด้วยศักยภาพเน็ตเร็วสูงสุดถึง 100 Mbps ครอบคลุมพื้นที่กว่า 500,000 ตารางเมตร ทั่วศูนย์การค้าสยามพารากอน นายศุภชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า “การเปิด Ultra Wi-Fi by TrueMove H ครั้งนี้ ย้ำความแตกต่างที่เหนือกว่าของกลุ่มทรูผู้นำบริการอินเทอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูง ซึ่งเป็นรายแรกที่ให้ความเร็วได้สูงสุดถึง 100 Mbps และมีโครงข่าย Wi-Fi คุณภาพที่ใหญ่ที่สุด ตลอดจนพื้นที่ให้บริการที่ครอบคลุมสูงสุด โดยมีจำนวนฮอตสปอตคุณภาพที่มากถึง 100,000 จุดทั้งในและต่างประเทศทั่วโลก ซึ่งจะตอบโจทย์ชีวิตไร้สายของคนยุคดิจิทัลให้อิสระ…ได้เร็วยิ่งกว่า ทุกที่ทุกเวลา”

นางชฎาทิพ จูตระกูล ผู้บริหารสูงสุด บริษัท สยามพารากอน ดีเวลลอบเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า สยามพารากอน ศูนย์การค้าที่ยิ่งใหญ่เพียบพร้อมสมบูรณ์แบบของกรุงเทพมหานคร ที่ครบครันด้วยอินเตอร์เนชั่นแนลแบรนด์ชั้นนำระดับโลกและร้านค้าชั้นแนวหน้าของเมืองไทยกว่า 300 ร้านค้า และเป็น World Class Destination ของทั้งนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติทั่วโลก และด้วยกลุ่มเป้าหมายของสยามพารากอนและกลุ่มทรู เป็นกลุ่มคนที่มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตตามวิถีคนเมืองที่เกาะติดตามโลกแห่งเทคโนโลยีการสื่อสาร จึงมีแนวความคิดร่วมกันกับกลุ่มทรู ในการนำเสนอ Ultra Wi-Fi by TrueMove H ให้บริการนวัตกรรมอินเตอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูง 100 Mbps ครอบคลุมทุกพื้นที่กว่า 500,000 ตารางเมตรภายในศูนย์การค้าขนาดใหญ่เป็นแห่งแรก ในไทย

สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำถึงการยกระดับการบริการด้านการสื่อสารของศูนย์การค้าสยามพารากอนที่แตกต่างเหนือใคร โดยผสานเทคโนโลยีออนไลน์เข้าสู่ศูนย์การค้าอย่างสมบูรณ์แบบ เพื่อเติมเต็มไลฟสไตล์ของกลุ่มลูกค้าของสยามพารากอน ที่เข้ามาซื้อสินค้าและใช้บริการหมุนเวียนภายในศูนย์การค้าในแต่ละวันจำนวนกว่า 1 แสนคน ให้สามารถใช้ชีวิตแบบออนไลน์อิสระไร้สายได้ทุกที่ทุกเวลาและไม่พลาดทุกการสื่อสาร อีกทั้งยังสามารถเข้าถึงแหล่งรวมข้อมูลสาระบันเทิงได้ทุกพื้นที่ในศูนย์การค้าสยามพารากอนเพียงแห่งแรกในประเทศไทย

ทั้งนี้ ผู้สนใจ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.truewifi.net พิเศษสุด แพคเก็จเสริม Ultra Wi-Fi by TrueMove H “ใช้ได้ไม่จำกัด” เพียง 300 บาทต่อเดือน (ต่ออายุอัตโนมัติ) สำหรับลูกค้าทรูมูฟ และทรูมูฟ เอช เท่านั้น สมัครผ่าน *9000

View :2051

ไอบีเอ็มครองแชมป์อันดับ 1 บริการไอทีในอาเซียน

September 13th, 2011 No comments

ไอบีเอ็มครองแชมป์อันดับ 1 ส่วนแบ่งการตลาดอาเซียนทางด้านบริการไอที ในเอเชียแปซิฟิก ในครึ่งปีหลัง 2553 จากผลการวิเคราะห์ของบริษัท ไอที อินเตอร์เนชั่นแนล ดาต้า คอร์ปอเรชั่น หรือ ไอดีซี ระบุว่า ได้จัดอันดับให้ มีรายได้จากบริการไอทีในอาเซียนในช่วงปี 2553 ทิ้งห่างคู่แข่งที่ตามมาเป็นอันดับสอง 31 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ ไอบีเอ็มยังครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุดในด้านบริการเอาต์ซอร์สและการจัดการแอพพลิเคชั่นอีกด้วย

กลุ่มธุรกิจโกลบอล เซอร์วิสเซส (Global Services) เป็นธุรกิจสำคัญในกลยุทธ์ของไอบีเอ็มสำหรับการจัดหาโครงสร้างพื้นฐานไอที รวมถึงข้อมูลเชิงลึกและโซลูชันทางด้านธุรกิจให้แก่ลูกค้า โซลูชันเหล่านี้ประกอบด้วยซอฟต์แวร์และระบบชั้นนำสำหรับลูกค้าในทุกภาคอุตสาหกรรมของไอบีเอ็ม รวมถึงการใช้ผลิตภัณฑ์ของพันธมิตรรายอื่นๆ เพื่อตอบสนองในสิ่งที่ลูกค้าต้องการได้อย่างครบวงจร กลุ่มธุรกิจโกลบอล เซอร์วิสเซส แบ่งเป็นสองส่วน ได้แก่ โกลบอล เทคโนโลยี เซอร์วิสเซส (Global Technology Services หรือ GTS) และ โกลบอล บิสซิเนส เซอร์วิสเซส (Global Business Services หรือ GBS)

GTS เป็นการจัดหาบริการโครงสร้างพื้นฐานไอทีและบริการทางด้านระบบงานธุรกิจ โดยมอบคุณค่าทางธุรกิจ จากความเชี่ยวชาญและการดำเนินงานระดับโลกของไอบีเอ็ม รวมถึงการกำหนดมาตรฐานและระบบงานอัตโนมัติ ส่วน GBS ทำหน้าที่จัดหาบริการระดับผู้เชี่ยวชาญและบริการด้านการจัดการแอพพลิเคชั่น โดยมอบคุณประโยชน์ทางธุรกิจและนวัตกรรมให้แก่ลูกค้าในรูปแบบของโซลูชั่นที่ใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญทางด้านอุตสาหกรรมและระบบงานธุรกิจ พร้อมทั้งผนวกรวมกลุ่มผลิตภัณฑ์ชั้นนำของไอบีเอ็มและพันธมิตร เพื่อยกระดับบริการที่เหนือชั้นสำหรับลูกค้า

นายยศ กิมสวัสดิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจบริการ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “ในปัจจุบัน ลูกค้ามุ่งหวังว่าผู้ให้บริการจะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเพื่อกระตุ้นการเติบโตและเสริมสร้างขีดความสามารถสำหรับการแข่งขันในตลาดโลก ความสำเร็จของไอบีเอ็มเป็นผลมาจากความสามารถของเราในการผสานรวมความเชี่ยวชาญทางด้านอุตสาหกรรมเข้ากับความรู้ทางด้านเทคโนโลยี รวมไปถึงซอฟต์แวร์ชั้นนำระดับโลกและความสามารถด้านการวิจัยที่ก้าวล้ำ นี่คือสิ่งที่ลูกค้าต้องการจากผู้ให้บริการในปัจจุบัน และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เราประสบความสำเร็จในตลาด”

เมื่อปีที่แล้ว ไอบีเอ็มทำสัญญาสำคัญๆกับหลายบริษัทชั้นนำทั่วภูมิภาคนี้ รวมถึงสัญญาที่ทำกับ เคลียร์ริ่งเฮ้าส์สำหรับศูนย์ให้บริการคงสิทธิเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่ในประเทศไทย รวมถึง Singapore Health Services Pte Ltd, Prudential Indonesia, Philippine Nature Spring, และ Multimedia Development Corporation (MDeC) ในมาเลเซีย

View :1414

รมว.น.อ.อนุดิษฐ์ฯ แถลงข่าวรับมือภัยพิบัติ [12 ก.ย.]

September 13th, 2011 No comments

ประกาศผล TICTA 2011 ตัวแทนร่วมแข่งภูมิภาค APICTA Awards 2011

September 12th, 2011 No comments

ซิป้าและเอทีซีไอประกาสผลผู้ชนะเลิศ Thailand ICT Awards 2011 จำนวน 13 ผลงาน เป็นตัวแทนร่วมแข่งขัน พร้อมผลักดันซอฟต์แวร์ไทยสู่ตลาดภูมิภาค รับเปิดเสรีตลาด ASEAN

ประกาศผลแล้วสำหรับผู้ชนะเลิศโครงการ Thailand ICT Awards 2011 ในพิธีมอบรางวัล ณ ห้องบอลล์รูม ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ มีผลงานที่ได้รับรางว้ลชนะเลิศรวม 13ผลงาน และรองชนะเลิศ 27 ผลงาน โดยผู้ชนะเลิศจะได้รับการสนับสนุนร่วมแข่งขันระดับเอเชียแปซิฟิก หรือ APICTA Awards 2011 ระหว่างวันที่ 8 – 11 พฤศจิกายน ที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี

โครงการประกวดผลงานซอฟต์แวร์ดีเด่นแห่งชาติ หรือ Thailand ICT Awards (TICTA Awards) เป็นโครงการภายใต้ความร่วมมือระหว่างกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) และสมาคมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศไทย โดยมีวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์และผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ไทยด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรม การยกระดับมาตรฐานคุณภาพ และด้านการตลาด และเริ่มเปิดรับสมัครผลงานตั้งแต่เดือนพฤษภาคม มีซอฟต์แวร์ที่ส่งเข้าร่วมแข่งขันรวม 139 ผลงาน ทั้งนี้ โครงการฯ ได้ดำเนินการตัดสินผลงานในรอบเอกสารและนำเสนอผลงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ผลงานที่ได้รับรางวัลชนะเลิศและรองชนะเลิศมีรายนามดังต่อไปนี้

View :1604

NSTDA Investors’ Day ประจำปี 2554 “ลงทุนในธุรกิจเทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์ เพื่อความมั่งคั่งและยั่งยืน”

September 12th, 2011 No comments

ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นประธานในการเปิดงานแถลงข่าวการจัดงาน ประจำปี 2554 โดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และหน่วยงานพันธมิตร อาทิ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) จับมือพันธมิตรทางการเงินอย่าง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และสมาคมไทยผู้ประกอบธุรกิจเงินร่วมลงทุน พร้อมด้วยหน่วยงานต่างๆ ที่ร่วมสนับสนุน อาทิ บมจ.โพสต์ พับลิชชิ่ง ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เครือเจริญโภคภัณฑ์ ร่วมจัดงานภายใต้แนวคิด “ลงทุนในธุรกิจเทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์ เพื่อความมั่งคั่งและยั่งยืน” ณ ห้องโถง ชั้น 1 อาคารพระจอมเกล้า กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เมื่อวันพุธที่ 7 กันยายน 2554
          
เทคโนโลยีกับการส่งเสริมงานวิจัยสู่ภาคเอกชนในเชิงพาณิชย์” ความโดยสรุปว่า รัฐบาลสนับสนุนการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และการถ่ายทอดผลงานวิจัยออกสู่ภาคธุรกิจ เพื่อให้เศรษฐกิจของไทยเป็นเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ซึ่งจะต้องส่งเสริมให้นักวิจัยมีแนวความคิดทางด้านธุรกิจ และสร้างงานวิจัยให้ตรงกับความต้องการของตลาดในสภาวะปัจจุบันมากขึ้น
ด้าน ดร.ทวีศักดิ์ กออนันตกูล ผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวถึงรายละเอียดในงานว่า ด้วย สวทช. เป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่สร้างคุณค่าให้แก่เศรษฐกิจและสังคมของประเทศโดยอาศัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นฐาน และสร้างองค์ความรู้ใหม่ๆ ที่ได้จากการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ และถ่ายทอดให้มีผู้นำไปใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ตามพันธกิจหลักขององค์กร โดยสนับสนุนให้ภาคเอกชนได้ใช้ประโยชน์จากผลงานวิจัยและเทคโนโลยีของ สวทช. และนำไป ต่อยอดธุรกิจให้เกิดมูลค่าเพิ่มและสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้แก่ธุรกิจ รวมทั้งการส่งเสริมให้เกิดธุรกิจเทคโนโลยีใหม่ที่มีขีดความสามารถในการแข่งขันสูง อันจะนำไปสู่การเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของภาคการผลิตและบริการ รวมถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้เข้มแข็งอย่างยั่งยืน ตลอดจนการมุ่งผลักดันให้ประเทศไทยแข็งแกร่งและเจริญรุ่งเรืองบนเวทีเศรษฐกิจระดับโลก สวทช. ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการสร้าง พัฒนา และส่งเสริมให้เกิดธุรกิจเทคโนโลยีในประเทศอย่างแพร่หลาย จึงได้วางแผนที่จะจัดงาน NSTDA Investors’ Day ขึ้น
 
 โดยให้เป็นกิจกรรมประจำปี เพื่อเสนอผลงานวิจัยและเทคโนโลยีที่ได้รับการคัดเลือกแล้วว่ามีศักยภาพสูงในการลงทุนผลิตเป็นสินค้าหรือบริการ “ผลงานเด่น” เพื่อให้กลุ่มนักลงทุนเป้าหมายได้มีโอกาสเข้าถึง หรือเลือกซื้อ ผลงานวิจัยและเทคโนโลยีดังกล่าว โดยเมื่อปี 2553 ที่ผ่านมา งาน NSTDA Investors’ Day ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีแรก ถือได้ว่าความประสบความสำเร็จและได้รับความสนใจจากกลุ่มนักลงทุนและ ผู้ประกอบธุรกิจอย่างดีเยี่ยม โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมงานจำนวน 400 คน จากกว่า 190 บริษัท ซึ่งมีนักลงทุนที่สนใจผลงานเด่นและขอเจรจาธุรกิจจำนวน 33 ราย และมีผู้สนใจขอเจรจาผลงาน ที่น่าสนใจอื่นๆ อีกจำนวน 18 ราย

สำหรับงาน NSTDA Investors’ Day ประจำปี 2554 นี้ เป็นการจัดงานต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 22 กันยายน 2554 เวลา 08.00 – 16.30 น. ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งมี Theme ของงานคือ เทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อมและการอนุรักษ์พลังงานหรือ Green Technology  โดยการจัดงานดังกล่าว ทาง สวทช. มีความประสงค์จะเรียนเชิญ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ให้เกียรติมาเป็นประธานของงานฯ และแสดงปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “นโยบายการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและนวัตกรรม”  ซึ่งงานในปีนี้จะเชิญหน่วยงานภายใต้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาร่วมแสดงผลงานด้วย เพื่อให้งาน NSTDA Investors’ Day เป็นเสมือน platform ของหน่วยงานในกระทรวงวิทย์ฯ ที่ใช้สำหรับนำเสนอผลงานวิจัยและเป็นเวทีให้แก่นักวิจัยในการนำเสนอผลงานต่อนักลงทุน โดยภายในงานจะมีกิจกรรมการนำเสนอผลงานวิจัยและเทคโนโลยีต่อนักลงทุน นักอุตสาหกรรม (Investment Pitching Session) รวมทั้งเปิดให้มีการเจรจาธุรกิจสำหรับนักลงทุนที่สนใจ (One on One Matching) เพื่อให้เกิดการลงทุนจริงในเชิงพาณิชย์อีกด้วย นอกจากนี้ งานดังกล่าวยังประกอบด้วยส่วนของการจัดสัมมนาวิชาการ ส่วนแสดงนิทรรศการเทคโนโลยีต่างๆ จากทั้ง 4 ศูนย์แห่งชาติของ สวทช.และหน่วยงานพันธมิตรต่างๆ

View :1412

การประชุม BlackBerry DevCon Asia เปิดให้ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมงานได้แล้ววันนี้

September 12th, 2011 No comments

12 กันยายน 2554 – การประชุม ณ กรุงเทพ เปิดให้ผู้สนใจเข้าร่วมงาน สามารถลงทะเบียนได้แล้ววันนี้ สำหรับการประชุม จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7 – 8 ธันวาคม 2554 ณ เซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพ
ประเทศไทย รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการประชุมดังกล่าว สามารถเข้าไปดูที่ http://www.blackberrydevcon.com/asia
 
รายละเอียดส่วนลดสำหรับผู้ที่สนใจและลงทะเบียนเข้าร่วมงานล่วงหน้า รวมทั้ง ผู้ที่ผ่านเกณฑ์การรับสิทธิ์ชำระเงินตามอัตรานักเรียน-นักศึกษา-คณะอาจารย์ มีดังนี้
 
อัตราสำหรับผู้ลงทะเบียนล่วงหน้า
(Early Bird Rate)
200 เหรียญสหรัฐฯ
หมดเขตวันศุกร์ที่ 4 พฤศจิกายน 2554 เวลา 23.59 น. ตามเวลาอินโดจีน
อัตราทั่วไป
(Regular Rate)
250 เหรียญสหรัฐฯ
หมดเขตวันพฤหัสบดีที่ 8 ธันวาคม 2554
อัตราสำหรับนักศึกษา-คณะอาจารย์*
(Academic Rate*)
150 เหรียญสหรัฐฯ
หมดเขตวันพฤหัสบดีที่ 8 ธันวาคม 2554
 
*หมายเหตุ: ผู้ที่ผ่านเกณฑ์การรับสิทธิ์ชำระเงินตามอัตรานักศึกษา-คณะอาจารย์ จะไม่สามารถใช้สิทธ์ส่วนลดหรือข้อเสนอสำหรับผู้ที่ลงทะเบียนล่วงหน้า หรือส่วนลดสำหรับผู้เคยเข้าร่วมงานได้ (Alumni discount) นักศึกษาและคณะอาจารย์ จะต้องลงทะเบียนสมัครไปยังdevconasia@blackberryconferences.net พร้อมแนบเอกสารรับรองการศึกษาหรือการทำงานปัจจุบัน
 
ผู้ที่เข้าร่วมการประชุม BlackBerry DevCon Asia เมื่อเดือนมกราคม 2554, การประชุม BlackBerry DevCon ปี 2553 และ/หรือ BlackBerry DevCon Americas ปี 2554 จะมีสิทธิ์รับส่วนลด 50 เหรียญสหรัฐฯ ในฐานะเป็นผู้เคยเข้าร่วมงาน โดยส่วนลดสำหรับผู้เคยเข้าร่วมงาน จะถูกหักไปจากอัตราการลงทะเบียนครั้งล่าสุดโดยอัตโนมัติ ทั้งนี้ วิธีการยืนยันการเป็นผู้เคยเข้าร่วมการประชุม ผู้สนใจลงทะเบียนจะต้องใช้ชื่ออีเมล์เดิม ที่เคยใช้ลงทะเบียนร่วมการประชุมที่ผ่านมาตามที่ระบุไว้เบื้องต้น
 
ผู้เข้าร่วมแต่ละโปรแกรม จะได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ดังต่อไปนี้
·       เข้ากิจกรรมสัมมนาทั่วไปของ BlackBerry DevCon Asia
·       เข้ากิจกรรมสัมมนากลุ่มย่อย
·       เข้าถึงกลุ่มผู้เชี่ยวชาญในช่วงคาบที่เปิดว่าง
·       บัตรผ่านเข้างานเลี้ยงต้อนรับ
·       บัตรผ่านเข้างานปาร์ตี้ BlackBerry DevCon
·       บัตรผ่านเข้างาน Mobility Pavilion ในช่วงคาบที่เปิดว่าง
·       รับประทานอาหารกลางวัน และของว่างในระหว่างวันที่เข้าร่วมการประชุม
·       สิทธิ์พิเศษในการเชื่อมต่อระบบอินเตอร์เน็ต Wi-Fi® ของการประชุม
·       เข้า BlackBerry DevCon On-Demand ซึ่งเป็นหน้าเว็บออนไลน์เพื่อดูข้อมูลของการประชุมและข้อมูลของสปอนเซอร์ได้ ไปจนถึงการเริ่มต้นการประชุม BlackBerry DevCon Asia ครั้งต่อไป
·       ของที่ระลึกจากการลงทะเบียน รับได้ ณ บริเวณเช็คอินหน้างาน
 
ภายในงานจะประกอบด้วยกิจกรรมสัมมนากลุ่มย่อย บรรยายโดยผู้เชี่ยวชาญจากรีเสิร์ช อิน โมชั่น หรือ ริม และสมาชิกจากชุมชนนักพัฒนามากมาย ซึ่งครอบคลุมหัวข้อเกี่ยวกับแพลตฟอร์มพัฒนาแบล็กเบอร์รี่ บริการแพลตฟอร์มแบล็กเบอร์รี่ และกรณีศึกษาที่น่าสนใจ ตามหัวข้อหลักๆ ดังต่อไปนี้
 
·       ชุดพัฒนาซอฟต์แวร์ Java สำหรับระบบปฏิบัติการแบล็กเบอร์รี่ 7
·       เครื่องมือพัฒนาบนเว็บ และ แพลตฟอร์มพัฒนา BlackBerry WebWorks
·       เครื่องมือพัฒนาบนระบบปฏิบัติการ BlackBerry PlayBook Tablet OS ประกอบด้วย เครื่องมือพัฒนา Native SDK, Adobe AIR และ Adobe Flash รวมทั้ง Android Player
·       บริการแพลตฟอร์มแบล็กเบอร์รี่ และ แพลตฟอร์ม BBM โซเชี่ยล
·       เคล็ดลับความรู้และเครื่องมือสำหรับแก้จุดบกพร่องและปรับแอพพลิเคชั่นของคุณให้เหมาะสมที่สุด
·       ระบบการใช้งาน และเครื่องมือจากประสบการณ์ของผู้ใช้ และกรณีศึกษา
·       พัฒนาแอพพลิเคชั่นสำหรับองค์กรธุรกิจที่มีคุณภาพ
·       กลยุทธ์การตลาดและการเผยแพร่แอพพลิเคชั่นของคุณ
 
รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับขั้นตอนการลงทะเบียน เข้าไปชมได้ที่ http://www.blackberrydevcon.com/asia/registration/pricing

View :1455

ก.ไอซีที แถลงความก้าวหน้าการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยฯ ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

September 12th, 2011 No comments

นาวาอากาศเอก อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ได้แถลงความก้าวหน้าในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยฯ ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี ว่า ได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการรองรับเหตุฉุกเฉินของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เพื่อทำหน้าที่ปฏิบัติและประสานงาน โดยมีรองปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเป็นประธาน และมีผู้แทนจาก กรมอุตุนิยมวิทยา สำนักงานสถิติแห่งชาติ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน)  บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ร่วมเป็นคณะทำงาน และมีผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ เป็นเลขานุการ

นอกจากนี้ยังได้จัดผู้แทนจากกรมอุตุนิยมวิทยาและศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ เข้าปฏิบัติงานที่ศูนย์สนับสนุนอำนวยการและบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศอส.) ณ กระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่วันที่ 22 สิงหาคม 2554 ที่ผ่านมา เพื่อประสานติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์ กำหนดข้อสั่งการพร้อมแจ้งเตือนภัยให้หน่วยงานต่างๆ  และประชาชนทราบ ตลอดจนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ในสังกัดเข้ารายงานตัวต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อปฏิบัติงานในส่วนการประมวลข้อมูลสถานการณ์และการช่วยเหลือประชาชน เพื่อรายงานรัฐบาลผ่าน ศอส.

“ในการดำเนินงานของกระทรวงฯ ได้ดำเนินการในลักษณะบูรณาการแบบ One Stop Service ตามมาตรการ 2P 2R คือ 1.ด้านการเฝ้าระวัง โดยได้ประสานการปฏิบัติและแลกเปลี่ยนข้อมูลการเตือนภัยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตลอดเวลา เพื่อเป็นข้อมูลในการแจ้งเตือน รวมทั้งได้เฝ้าระวังสภาวะอากาศและประเมินข้อมูลที่อาจจะเกิดผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยให้ความสำคัญกับการเตือนภัยล่วงหน้า และได้แจ้งข่าวในรูปของประกาศหรือการแจ้งเตือนผ่านหน่วยงานในพื้นที่ ทั้งสื่อมวลชน วิทยุ-โทรทัศน์ รวมถึงข้อความสั้น (SMS) วิทยุสื่อสาร Social Network , website เป็นต้น พร้อมกันนี้ยังได้มอบหมายให้ บมจ.ทีโอที และบมจ.กสทฯ ตรวจสอบและเตรียมความพร้อมโครงข่ายและเครือข่ายสื่อสารโทรคมนาคมหลักให้สามารถรองรับสถานการณ์ได้     ทุกพื้นที่ รวมทั้งวางระบบสื่อสารสำรองในภาวะฉุกเฉิน คือ ระบบสื่อสารผ่านดาวเทียมเคลื่อนที่ ในพื้นที่เฝ้าระวังเป็นการล่วงหน้า ตลอดจนได้ติดต่อซักซ้อมการแจ้งเตือนภัยระหว่างศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กับศูนย์เตือนภัยภาคประชาชน คือ ประชาชนผู้มีจิตอาสาและกลุ่มวิทยุสมัครเล่นเอาไว้ด้วย     

2. ด้านการแจ้งเตือนภัย เมื่อมีความชัดเจนว่าจะเกิดภัยพิบัติ กรมอุตุนิยมวิทยาและศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ จะติดตามสถานการณ์และแจ้งเตือนอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งกระชับความชัดเจนเกี่ยวกับลักษณะภัยและพื้นที่  พร้อมประเมินสถานการณ์เพื่อการแจ้งเตือนทุก 3 – 6 ชั่วโมง รวมถึงแจ้งผลการวิเคราะห์ผลกระทบในมิติของความรุนแรงและพื้นที่ ตลอดจนการคาดการณ์เพื่อประโยชน์    ในการบรรเทาและช่วยเหลือ รวมทั้งวางระบบการสื่อสารสำรองผ่านเครือข่ายประชาชนผู้มีจิตอาสาและวิทยุสมัครเล่น ตามนโยบายการเตรียมพร้อมแห่งชาติเพื่อใช้ในพื้นที่วิกฤติที่ไม่สามารถติดต่อสื่อสารด้วยเครือข่ายอื่นได้ รวมถึงเฝ้าระวังและติดตามเหตุการณ์ตลอด   24 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังได้ประสานการบรรเทาภัยและการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในกรณีที่การติดต่อระหว่างประชาชนกับหน่วยบรรเทา   สาธารณภัยมีปัญหาหรือไม่สามารถติดต่อกันได้ โดยการเปิดศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน ตลอด 24 ชั่วโมงที่หมายเลข 192

3. ด้านการฟื้นฟู สำนักงานปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร บมจ.ทีโอที บมจ.กสทฯ ได้สนับสนุนบุคลากรและเจ้าหน้าที่ให้ความช่วยเหลือในการปรับปรุงและซ่อมแซมอุปกรณ์เครื่องมือสื่อสาร คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่นๆ ให้แก่หน่วยงานราชการและประชาชน ส่วนบจ.ไปรษณีย์ไทย ได้สนับสนุนการขนส่งสิ่งของในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ตลอดช่วงเวลาการบรรเทาและการฟื้นฟู นอกจากนั้นกระทรวงฯ ยังทำหน้าที่เป็นศูนย์ประสานการบรรเทาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยในกรณีที่การติดต่อมีปัญหา หรือไม่สามารถติดต่อระหว่างประชาชนกับหน่วยบรรเทาสาธารณภัยได้

4. ด้านการแก้ปัญหา กระทรวงฯ และศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ได้กำกับการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ต่างๆ เป็น 3 ลักษณะ คือ พื้นที่ประสบภัย ได้แก่ จ.อุตรดิตถ์  ได้กำกับดูแลการติดต่อสื่อสารโดยให้ บมจ.ทีโอที เข้าพื้นที่และวางระบบสื่อสารโทรศัพท์ทางสายเพื่อการติดต่อระหว่างเจ้าหน้าที่และประชาชนในจุดที่สามารถดำเนินการได้ ซึ่งพื้นที่ที่ยังเข้าไม่ได้ คือ บ้านต้นขนุน ตชด ๓๑๒ น้ำไผ่ น้ำปาด ห้วยคอม พร้อมทั้งวางระบบอินเทอร์เน็ตไร้สายและ e-Conference ที่ อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ นอกจากนี้ยังได้สนับสนุนเครื่องกำเนิดไฟฟ้าให้บางพื้นที่ที่สามารถดำเนินการได้ ส่วนศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ให้รับหน้าที่ติดต่อกับประชาชนและประสานงานกับหน่วยช่วยเหลือผ่านหมายเลข 192 รวมทั้งติดตามสถานการณ์เพื่อสนับสนุนหน่วยงานบรรเทาทุกข์และช่วยเหลือประชาชน

พื้นที่เสี่ยงภัย คือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ได้ติดตามสถานการณ์น้ำฝนและน้ำในแม่น้ำ ลำห้วย เพื่อแจ้งพื้นที่ให้แจ้งเตือนภัยทางเครือข่าย “หอกระจายข่าว” และทางสัญญาณเตือนภัย โดยประสานงานตรงกับผู้รับผิดชอบในการบริหารสถานการณ์ ซึ่งขณะนี้น้ำ  ได้เอ่อล้นฝั่ง บางพื้นที่ได้ไหลเข้าท่วมแล้ว  และฝนยังคงตกอย่างต่อเนื่อง ส่วนบางพื้นที่ได้ปักธงแดง แสดงสถานการณ์อันตรายแล้ว

และ พื้นที่เฝ้าระวัง คือ ภาคใต้ฝั่งทะเลอันดามัน และภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ได้ติดตามสภาวะอากาศและปริมาณฝนซึ่งกำลังตกหนักในพื้นที่ จ.ระนอง จ.พังงา จ.สตูล และภาคใต้ตอนล่าง เพื่อประสานหน่วยงานในพื้นที่ให้เฝ้าระวัง รวมทั้งให้ผู้มีจิตอาสารีบรายงานสถานการณ์ตามช่วงเวลาที่มีการเปลี่ยนแปลง และประสานงานบมจ.ทีโอที เตรียมเข้าพื้นที่เสี่ยงเพื่อเตรียมความพร้อมของเครือข่ายการติดต่อสื่อสารสำรอง” น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว

View :1574

อีเอสอาร์ไอฯ จัดงาน TUC 2011 เปิดตัว Arc GIS online ให้ประชาชนใช้ฟรี

September 10th, 2011 No comments

บริษัท จำกัด จัดงาน ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Through the Cloud” พร้อมเปิดตัว ให้ประชาชนใช้ฟรี เน้นเทคโนโลยี GIS ที่ใช้งานง่าย สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ในทุกแขนง

นายไกรรพ เหลืองอุทัย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำในการให้บริการระบบภูมิสารสนเทศแบบครบวงจร หนึ่งในกลุ่มบริษัทซีดีจี เปิดเผยว่า ในวันนี้ บริษัทฯได้จัดงานสัมมนาทางวิชาการ ระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ ครั้งที่ 16 TUC 2011 : Through the Cloud 16th Thai GIS User Conference ขึ้น โดยมีผู้เข้าร่วมงานจากทุกภาคส่วน ประมาณ 1,400 คน ทั้งจากองค์กรภาครัฐ ,รัฐวิสาหกิจ และเอกชน รวมทั้งนิสิต-นักศึกษา จากสถาบันการศึกษาต่างๆ พร้อมกันนี้ได้นำเสนอเทคโนโลยีสารสนเทศภูมิศาสตร์ที่พร้อมรองรับการดำเนินงานด้านธุรกิจ ที่เติบโตอย่างรวดเร็วในปัจจุบันเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงต่อสถานการณ์ที่เป็นอยู่กับการก้าวสู่ยุคดิจิตอลเต็มรูปแบบ โดยเน้นการทำงานที่เชื่อมต่อถึงกันได้อย่างไร้ขีดจำกัดกับ ภายใต้รูปแบบ GIS Cloud Computing ที่เข้ามาเป็นตัวแปรสำคัญในการลดต้นทุนทางธุรกิจ สร้างผลตอบแทนให้กับธุรกิจได้อย่างเต็มที่
การจัดสัมมนาในครั้งนี้ จัดขึ้น ภายใต้แนวคิด “Through the Cloud” เนื่องจากปัจจุบันนี้ Cloud เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในโลกสังคมดิจิตอลในปัจจุบัน โดยมีหัวข้อสัมมนาที่สำคัญ อาทิ

• GIS Through the Cloud การเลือก Cloud ให้เหมาะกับองค์กร (Keep up your work with cloud)
• GIS with Social Network เรื่องง่ายๆ ของ Mobile กับ GIS (Everyone can do “GIS Mobile”)
• GIS Through the Cloud เริ่มต้นประสบการณ์ GIS บน Cloud กับ ArcGIS.com (Beginning your cloud with ArcGIS.com)
• GIS with Social Network สังคมออนไลน์ กับการประยุกต์ใช้ GIS (GIS & Social media integration)
• การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ เช็คอินข้อมูล GIS ผ่านสมาร์ทโฟน (ArcGIS Check-in via Smart Phone)

นอกจากนี้ยังมีบูธแสดงสินค้าและสาธิตเทคโนโลยี GIS / GPS / Photogrammetry / Remote Sensing / Survey Equipment รวมไปถึงตัวสินค้าต่างๆจากแบรนด์ชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็น GARMIN, LEICA, TRACKnFLEET, HPและ อื่นๆ
ชูจุดเด่น เปิด Arc GIS online GIS ฟรี บนอินเทอร์เน็ต

ภายในงาน TUC 2011 นี้ มีไฮไลต์สำคัญที่โดดเด่นที่สุด คือ การเปิดตัว Arc GIS online ที่สามารถให้ประชาชนเข้ามาใช้ระบบ GIS online ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ

“เป็นความตั้งใจของบริษัท ที่จะผลักดันการทำงาน GIS บน Cloud ซึ่งเป้าหมายหลักก็คือ การให้ประชาชนชาวไทยสามารถใช้ประโยชน์จาก GIS ได้เป็นอย่างดี ในการวางแผนงานต่างๆ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ หรือแม้กระทั่งใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน บริษัทฯตั้งใจทำจุดนี้ เพื่อต้องการให้ผู้ใช้ทั่วไปรู้จักกับ map และ GISมากขึ้น” นายไกรรพ กล่าว
บริษัท อีเอสอาร์ไอฯ เป็นผู้ออกแบบเว็บไซต์ www.arcgis.com โดย จะมีแผนที่ฐาน ให้ประชาชนเข้ามาใช้ บริการที่เป็นประโยชน์ต่องานในทุกสาขาอาชีพ หรือการใช้งานทั่วไป เป็นแผนที่ฐานที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งเรียกว่าเป็นการให้ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์จาก GIS ได้ อย่างเต็มที่

เว็บไซต์ www.arcgis.com มีลักษณะเหมือนกับเป็น portal site ที่เชื่อม Arc GIS กับ desktop เข้าด้วยกัน โดยลักษณะการทำงาน ผู้ใช้ทั่วไป สามารถที่จะแชร์ข้อมูลการทำงานร่วมกันได้

กลุ่มเป้าหมายหลักคือ website ของลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ จะต้องมี Arc GIS online ไปปรากฏอยู่ด้วย
เพื่อให้บริการแก่ผู้ใช้ทั่วไปด้วยเช่นกัน ทั้งนี้บริษัทฯพยายามที่จะผลักดันให้คนทั่วไปมาใช้บริการ เพราะเชื่ออย่างยิ่งว่า Arc GIS online มี value added มากกว่า ผู้ให้บริการแผนที่ฟรีรายอื่นๆ

“บริษัทฯต้องการให้คนไทยมาใช้มากขึ้น เพราะมีประโยชน์ในหลายๆด้าน ผู้ใช้สามารถเข้าwebsite www.arcgis.com และสมัครเป็นสมาชิกได้ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวนี้ บริษัทอีเอสอาร์ไอ ฯ จะได้ Brand Awareness ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างให้ลูกค้าตระหนักในแบรนด์ และเพื่อตอกย้ำในตลาดด้วยว่า บริษัทฯมีการให้บริการในส่วนนี้อยู่ด้วย และในอนาคตก็จะขยายสู่ลูกค้าในระดับ Enterprise หรือองค์กรขนาดใหญ่มากขึ้น “ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อีเอสอาร์ไอฯ กล่าวในตอนท้าย

View :1742

บีโอไอปรับโฉมเว็บไซต์ www.boi.go.th เน้นตอบสนองข้อมูลข่าวสารอย่างสะดวก รวดเร็ว และทันสมัย

September 9th, 2011 No comments

ปรับปรุงเว็บไซต์ www.boi.go.th เน้นปรับรูปแบบการใช้งานให้สะดวก และง่ายต่อการค้นหาข้อมูล และผู้ใช้สามารถรับข่าวสารข้อมูลโดยอัตโนมัติ

นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่าในวันที่ 12 กันยายน 2554 นี้เป็นต้นไป เว็บไซด์ของบีโอไอ ( www.boi.go.th ) ได้ปรับปรุงใหม่ ทั้งหน้าเว็บเพจและการใช้งานเกือบทั้งหมดรวมทั้งเพิ่มฟังก์ชั่นต่าง ๆ เพื่อให้นักธุรกิจนักลงทุน สามารถเข้าถึงข้อมูลด้านการลงทุนได้อย่างสะดวก และง่ายดายมากขึ้น อาทิ การแปลข้อมูลเป็นภาษาต่างประเทศให้ครอบคลุมและรวดเร็วมากขึ้น การค้นหาข้อมูลของที่ตั้งสำหรับโครงการลงทุน หรือนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ตลอดจนการค้นหาข้อมูลด้านการลงทุนจากเว็บไซต์ของบีโอไอ และการส่งต่อข้อมูลสำคัญให้แก่ผู้อื่น เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับโอกาสและลู่ทางการลงทุนในอุตสาหกรรมต่างๆ เป็นต้น
นอกจากนี้ บีโอไอยังได้เพิ่มเนื้อหาของความเคลื่อนไหว และข่าวสารของกิจกรรมสำคัญๆ ของบีโอไอ รวมทั้งเปิดรับลงทะเบียนเข้าร่วมงานสัมมนา หรือกิจกรรมของบีโอไอผ่านทางเว็บไซด์ ตลอดจนการดาวน์โหลดเอกสารของการสัมมนา
การปรับปรุงเว็บไซต์ในครั้งนี้ จะช่วยให้บีโอไอสามารถตอบสนองความต้องการของนักลงทุนที่ใช้บริการผ่านเว็บไซต์ ให้มีความสะดวกในการเข้าถึงข้อมูลด้านการลงทุน นักลงทุนและผู้เข้าชมเว็บไซต์ สามารถลงทะเบียนขอรับข้อมูลข่าวสาร และความเคลื่อนไหวด้านการลงทุนจากบีโอไอ ซึ่งจะถูกส่งให้นักลงทุนทางอีเมล์เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยให้นักธุรกิจนักลงทุนได้รับข้อมูลข่าวสารทันท่วงที

View :2244