Archive

Archive for the ‘Press/Release’ Category

เอชพี อัดงบกว่า 20 ล้านเหรียญสหรัฐ เติมพลัง เพิ่มความแข็งแกร่งให้ธุรกิจ SMBs สร้างสรรค์นวัตกรรมล้ำสมัย

July 21st, 2011 No comments

เอชพี เอาใจลูกค้ากลุ่มธุรกิจขนาดกลางและเล็ก เปิดตัวโซลูชั่นใหม่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย พร้อมขยายโปรแกรมส่งเสริมผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ช่วยลูกค้า SMBs (small and midsize businesses) สร้างการเติบโต ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน และปกป้องทรัพย์สินขององค์กร

เอชพีคาดการณ์ว่าตลาดธุรกิจ SMBs มีมูลค่าสูงถึง 234,000 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับมูลค่าตลาดรวมทั้งหมด(1) ซึ่งธุรกิจ SMBs จะต้องเผชิญกับสิ่งท้าทายต่างๆ ได้แก่ การควบคุมค่าใช้จ่าย การจัดการประสิทธิผลในการทำงานของพนักงาน และการขอสินเชื่อต่างๆ ดังนั้น เอชพีจึงสร้างสรรค์โซลูชั่นและโปรแกรมต่างๆ ที่จะช่วยสนับสนุนลูกค้ากลุ่มนี้ให้สามารถจัดสรรทรัพยากรต่างๆ ของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อนำมาใช้ขับเคลื่อนธุรกิจให้มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและสร้างสรรค์นวัตกรรมล้ำสมัยได้อย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ เอชพียังขยายการลงทุนทางด้านการพัฒนาความรู้ให้แก่ธุรกิจ SMBsโดยสร้างศูนย์ฝึกอบรมใหม่รวม 40 แห่งภายใต้โปรแกรมเสริมสร้างความรู้สำหรับผู้ประกอบการ หรือ HP Learning Initiative for Entrepreneurs ) เพื่อส่งเสริมธุรกิจขนาดย่อม (microenterprises) และธุรกิจ SMBs ให้มีช่องทางในการสร้างรายได้ใหม่ๆ เพิ่มขึ้น โดยเอชพีมีศูนย์ฝึกอบรมดังกล่าวในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก รวมทั้งสิ้น 63 แห่งในประเทศต่างๆ ได้แก่ ออสเตรเลีย จีน อินเดีย และเกาหลี ทั้งนี้ นับตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา เอชพีได้ขยายการลงทุนในโครงการส่งเสริมผู้ประกอบการรวมเป็นจำนวนเงินกว่า 20 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งทำให้เกิดการจ้างงานประมาณ 20,000 ตำแหน่ง และมีการสร้างธุรกิจใหม่ๆ อีกประมาณ 6,500 ราย

พัฒนาประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานด้วยการทำคอลลาบอเรชั่น

เอชพี นำเสนอเทคโนโลยีหลากหลายประเภทที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ธุรกิจ SMBs ลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน มีประสิทธิภาพการทำงานดีขึ้น และมีการทำงานร่วมกันของระบบต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการทำงานของพนักงาน โซลูชั่นใหม่ของเอชพีมีคุณสมบัติเด่นดังนี้

· เพิ่มประสิทธิผลในการดำเนินงานด้วยเซิร์ฟเวอร์ HP ProLiant ML110 G7 ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ระดับเริ่มต้นที่ใช้งานและบริหารจัดการง่าย ทั้งยังสนับสนุนแอพพลิเคชั่นออฟฟิศระดับพื้นฐาน ได้แก่ การส่งข้อมูลผ่านเว็บ (Web messaging) การจัดทำฐานข้อมูลขนาดเล็ก การจัดทำไฟล์และพิมพ์ข้อมูล และแอพพลิเคชั่นเฉพาะด้านต่างๆ

· ปรับขยายประสิทธิภาพการทำงานด้วยเซิร์ฟเวอร์ HP ProLiant DL120 G7 ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์แบบแร็กระดับเริ่มต้นแต่ประสิทธิภาพสูง สนับสนุนแอพพลิเคชั่นหลากหลายประเภท อาทิ แอพพลิเคชั่นระบบโครงสร้างพื้นฐานไอที การส่งข้อมูลผ่านเว็บ (Web messaging) การจัดทำไฟล์และพิมพ์ข้อมูล แอพพลิเคชั่นขนาดเล็กสำหรับการใช้งานกับอินเทอร์เน็ต รวมถึงการเชื่อมต่อเข้าสู่เว็บไซต์ต่างๆ

· เพิ่มความสะดวกในการบริหารจัดการด้วยอุปกรณ์สวิตช์ HP V1810-48G ซึ่งสามารถบริหารจัดการผ่านเว็บ โดยรองรับถึง 48 พอร์ต จึงสามารถผนวกรวมกับระบบเครือข่ายต่างๆ ที่ใช้อยู่เดิมได้อย่างง่ายดาย เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ตามต้องการ รองรับการเติบโตและการขยายตัวของธุรกิจต่างๆ ได้อย่างดีเยี่ยม

· ประหยัดไฟ เนื่องจากใช้อุปกรณ์สวิตช์ HP V1410 unmanaged Fast Ethernet switch series แบบมาตรฐานและติดตั้งได้ง่าย มีคุณภาพตรงตามมาตรฐาน IEEE รองรับความต้องการอุปกรณ์เครือข่ายระดับเริ่มต้นของธุรกิจ SMBs

· เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้วยอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล HP P2000 G3 Modular Smart Array (MSA) ซึ่งเป็นหนึ่งในโซลูชั่นจัดเก็บข้อมูลระดับเริ่มต้นรายแรกในวงการไอที สนับสนุนการทำงานร่วมกับ VMware API for Array Integration และ VMware VCenter ส่งเสริมลูกค้าระดับ SMBs ให้มีประสิทธิภาพการทำงานเทียบเท่าระดับองค์กร ทั้งยังมีความสามารถในการบริหารจัดการร่วมกับ VMware ได้อีกด้วย นอกจากนี้ โซลูชั่น HP Insight Control Storage Module Manager for VMware vCenter ยังสนับสนุนการบริหารจัดการและการติดตามผล
การทำงานของเครื่องเซิร์ฟเวอร์ อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล และระบบเครือข่ายในอุปกรณ์เสมือนหรือเวอร์ช่วลแบบ vCenter console ได้เป็นอย่างดี

เพิ่มการปกป้อง ลดความเสียหายทางธุรกิจ

การขยายตัวอย่างรวดเร็วของปริมาณข้อมูลและอีเมล์ทำให้ธุรกิจ SMBs ต้องเผชิญความเสี่ยงและมีความซับซ้อนในการทำงานเพิ่มขึ้น และยังอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายในการกู้ระบบที่ได้รับความเสียหาย ทั้งนี้ โซลูชั่นใหม่ของเอชพีช่วยแก้ปัญหาความท้าทายต่างๆ และก่อให้เกิดประโยชน์ต่อธุรกิจSMBs ดังนี้

· ประหยัดค่าบริหารจัดการสูงถึงร้อยละ 30 และลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น โดยผนวกรวมเทคโนโลยีล้ำสมัยต่างๆ ด้วยโซลูชั่น HP Branch Office Consolidation ทำให้เกิดเป็นโซลูชั่นสำเร็จรูปที่สามารถนำมาใช้จัดทำแผนธุรกิจได้อย่างกระชับและชัดเจน ทั้งยังมีซอฟต์แวร์การบริหารจัดการเพื่อช่วยธุรกิจ SMBs ยกระดับระบบโครงสร้างพื้นฐานให้ทำงานง่ายขึ้นและเป็นไปโดยอัตโนมัติ ตลอดจนมีการประสานงานร่วมกันอย่างกลมกลืน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ลดความเสี่ยงในการทำงาน และสนับสนุนการทำงานของสำนักงานสาขาต่างๆ (2)

· ประหยัดเวลาในการสำรองข้อมูลถึงร้อยละ 90 และลดเวลาที่ใช้ในการกู้คืนระบบอีกร้อยละ 87 (3) โดยใช้โซลูชั่น HP Business Risk Mitigation ซึ่งเป็นโซลูชั่นโครงสร้างพื้นฐานครบวงจร โดยสามารถตั้งค่าระบบสำหรับเครื่องเซิร์ฟเวอร์ อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล และอุปกรณ์เครือข่าย ทั้งยังสนับสนุนซอฟต์แวร์การจัดการที่ใช้ในเครื่องพีซี พรินเตอร์ และเทคโนโลยีอื่นๆ เพื่อปกป้องและรักษาความปลอดภัยให้แก่ข้อมูลที่มีความพร้อมในการใช้งานสูง ตลอดจนกู้คืนระบบล่มที่เกิดขึ้นนอกสถานที่ได้เป็นอย่างดี

· ลดความเสี่ยงจากการสูญเสียข้อมูลสำคัญด้วยโซลูชั่น ซึ่งจะทำหน้าที่แบ็กอัพไฟล์ข้อมูลบนเครื่องพีซีของพนักงานอย่างมีเสถียรภาพ สามารถจัดเก็บข้อมูลได้อีกครั้งอย่างรวดเร็วในกรณีเกิดไฟดับ ไฟล์ขัดข้อง หรือเครื่องพีซีหายหรือถูกขโมย

สร้างช่องทางใหม่ๆ เพื่อเพิ่มรายได้และสร้างการเติบโตในอนาคต

การมีข้อมูลและความรู้เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในการตัดสินใจจะช่วยสร้างแต้มต่อในการแข่งขันทางธุรกิจได้เป็นอย่างดี แต่สำหรับธุรกิจขนาดกลางส่วนใหญ่นั้น การดำเนินการดังกล่าวมีความซับซ้อนและมีค่าใช้จ่ายสูง ดังนั้น เอชพีจึงได้เพิ่มโซลูชั่นอัจฉริยะทางธุรกิจ (business intelligence solutions) ไว้ในพอร์ทโฟลิโอ HP AppSystem เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดกลางที่ต้องการจัดการข้อมูลมากมายเกี่ยวกับลูกค้าสามารถทำได้อย่างง่ายๆ โดยประกอบด้วยโซลูชั่นดังนี้

· โซลูชั่น HP Business Decision Appliance สามารถวิเคราะห์แหล่งข้อมูลทั้งที่มีอยู่เดิมและข้อมูลใหม่ได้อย่างรวดเร็ว ปัจจุบันเปิดให้บริการแก่ธุรกิจขนาดกลาง โดยเป็นการผนวกรวมแพลทฟอร์มเอชพีและไมโครซอฟท์เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อจัดส่งข้อมูลให้แก่สมาชิกในองค์กรทุกคน

· โซลูชั่น HP Business Data Warehouse Appliance เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดกลาง ประกอบด้วยซอฟต์แวร์ที่มีการตั้งค่าระบบและติดตั้งล่วงหน้าในแพลทฟอร์มแบบเดี่ยว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ ทำให้องค์กรขนาดกลางมีช่องทางใหม่ๆ ในการเพิ่มรายได้และความภักดีของลูกค้า

View :1641

ทีเอ็มบี ชูศักยภาพแห่งเทคโนโลยี USSD เปิดตัวนวัตกรรมล่าสุด “ทีเอ็มบี บี๊บ แอนด์ บิล”

July 21st, 2011 No comments

TMB หรือธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ปฏิวัติวงการธนาคาร ชูสุดยอดเทคโนโลยี “USSD” พัฒนาระบบการชำระสินค้าและบริการอัตโนมัติรูปแบบใหม่ผ่านโทรศัพท์มือถือครั้งแรกในเมืองไทย “ทีเอ็มบี บี๊บ แอนด์ บิล” (TMB ) “รู้ยอดก่อน อนุมัติจ่ายด้วยตัวคุณ”ผู้ช่วยตัวใหม่ที่จะทำให้ลูกค้าไม่พลาดเมื่อถึงเวลาจ่ายบิล โดดเด่นด้วยระบบบริการแจ้งทุกยอดใช้จ่าย และแสดงยอดคงเหลือในบัญชีให้ลูกค้าทราบทันที ก่อนกดจ่ายเงินด้วยตัวเอง ให้อิสระในการควบคุมความเคลื่อนไหวทางบัญชีของตัวเองอย่างแท้จริงด้วย Cross Operator Design ชำระสินค้าและบริการได้โดยไม่จำกัดเครือข่ายโทรศัพท์ สะดวก รวดเร็ว สามารถทำรายการได้ทันที ทุกที่ ทุกเวลา

นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TMB กล่าวว่า “เพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการที่ตรงจุดของลูกค้า ทีเอ็มบีได้เดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ปฏิวัติวงการธนาคารด้วยความแตกต่างอย่างสร้างสรรค์ ล่าสุดเปิดตัวนวัตกรรมทางการเงินรูปแบบใหม่ “ทีเอ็มบี บี๊บ แอนด์ บิล” (TMB Beep & Bill Payment) สุดยอดนวัตกรรมการบริการชำระสินค้าและบริการอัตโนมัติผ่านระบบโทรศัพท์มือถือ ด้วยโปรแกรมที่พัฒนา ขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่ออำนวยความสะดวกรวดเร็วในการใช้ชีวิตในปัจจุบัน โดยบริการดังกล่าวเสมือนหนึ่งผู้ช่วยส่วนตัวที่จะช่วยให้ลูกค้าไม่พลาดเมื่อถึงเวลาจ่ายบิล สามารถทำรายการ ได้ทันที โดยไม่มีข้อจำกัดด้านสถานที่และเวลา”

“จากการสำรวจพฤติกรรมการทำธุรกรรมทางการเงินของลูกค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งการชำระค่าสินค้าและบริการในปัจจุบัน ลูกค้าจะชำระผ่าน 2 ช่องทางหลัก คือ ชำระผ่านเคาน์เตอร์ เซอร์วิสหรือจุดบริการลูกค้า ซึ่งลูกค้าจะต้องถือเงินสดไปชำระด้วยตนเอง ทำให้เสียเวลาในการเดินทาง การรอคิวและยังเสียค่าธรรมเนียมการให้บริการ ในขณะที่ลูกค้าบางกลุ่มเลือกชำระเงินโดยการหักผ่านบัญชีธนาคาร หรือหักผ่านบัตรเครดิต โดยอัตโนมัติเมื่อถึงกำหนดชำระเงิน ซึ่งลูกค้าหลายรายไม่มั่นใจกับยอดค่าใช้จ่ายที่โดนหักหรือเกิดความไม่แน่ใจในยอดเงินคงเหลือภายในบัญชี และมีหลายกรณีที่ลูกค้ามีเงินในบัญชีไม่เพียงพอ ทำให้บางครั้งเกิดปัญหาตามมา อาทิ ถูกระงับการจ่ายไฟฟ้า ระงับบริการโทรศัพท์ ซึ่งการเปิดบริการ ทีเอ็มบี บี๊บ แอนด์ บิล นี้ จะทำให้ลูกค้ามีชีวิตทางการเงินดีขึ้น โดยทีเอ็มบี ได้นำเทคโนโลยี USSD เข้ามาใช้ในการวางระบบการชำระเงินให้กับลูกค้า ซึ่งธนาคารฯ จะส่ง SMS แจ้งเตือนการชำระเงิน พร้อมยอดค่าใช้จ่ายไปยังโทรศัพท์มือถือของลูกค้าทุกรุ่นทุกระบบ ก่อนวันครบกำหนดชำระ 1-3 วัน จากนั้น ลูกค้าเพียงแค่ส่งข้อความยืนยันกลับ ก็จะสามารถชำระเงินได้ทันที สะดวก รวดเร็ว โดยไม่ต้องรอคิวอีกต่อไป”

นายธีรศักดิ์ วงศ์ปิยะ เจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์ธุรกรรม สายงานผลิตภัณฑ์เงินฝากและการชำระเงิน TMB กล่าวเพิ่มเติมว่า “บริการ “ทีเอ็มบี บี๊บ แอนด์ บิล” ถือเป็นการนำเทคโนโลยีที่มีศักยภาพและความปลอดภัยในการส่งถ่ายข้อมูลอย่างระบบ USSD (Unstructured Supplementary Services Data)ที่สามารถ ใช้งานได้ในโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกเครื่องที่ใช้ระบบ GSM ซึ่งถือเป็นบริการเสริมทางข้อมูลแบบไม่มีโครงข่าย เป็นการให้บริการข้อมูลจากผู้ให้บริการสู่ผู้ใช้บริการผ่านระบบตอบรับอัตโนมัติที่ติดต่อระหว่างผู้ใช้งานทั้ง 2 ฝ่ายด้วยความเร็วสูง โดยข้อมูลที่ส่งผ่านระบบจะมีลักษณะคล้าย SMS แต่ข้อความที่ได้ส่งออกจากระบบ USSD จะไม่ถูกบันทึกลงอุปกรณ์ใดๆ โดยทั้งสิ้น ถือเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่โดดเด่นในแง่ของการรักษาความปลอดภัยในการทำธุรกรรมต่างๆ และการรักษาความเป็นส่วนตัวของลูกค้าได้เป็นอย่างดี ทีเอ็มบีจึงได้นำเทคโนโลยีดังกล่าวมาพัฒนาเป็น Software ภายใต้ชื่อระบบงาน Beep & Bill ขึ้นเป็นธนาคารแรกของประเทศไทย โดยระบบดังกล่าว ถือเป็นนวัตกรรมทางการเงินในรูปแบบใหม่ที่ลูกค้าสามารถรู้ข้อมูลภายในบัญชีก่อนการตัดสินใจกดชำระบิลค่าบริการต่างๆ ผ่านมือถือทุกรุ่นที่รองรับบริการ SMS โดยไม่ต้องดาวน์โหลด Application หรือเชื่อมต่อระบบอินเตอร์เนต หรือใช้งาน wifi ใดๆ ทั้งสิ้น”

“สำหรับระบบงาน Beep & Bill Payment เป็นโปรแกรมที่ทีเอ็มบีได้คิดค้นขึ้นและได้เริ่มพัฒนาระบบมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2553 ร่วมกับนักพัฒนา Software เพื่อให้ระบบงานดังกล่าวสามารถใช้งานได้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยการทำงานของระบบดังกล่าว จะเป็นการผสมผสานระหว่างระบบ SMS และ USSD โดยเมื่อมียอด ค่าใช้บริการจากผู้ให้บริการสาธารณูปโภคต่างๆ แจ้งยอดเข้ามายังบัญชีของลูกค้า ทางธนาคารฯ จะดำเนินการส่ง SMS แจ้งเตือนไปยังโทรศัพท์มือถือของลูกค้าที่ได้ลงทะเบียนสมัครใช้บริการ โดยจะแจ้งทั้งยอดการชำระเงิน พร้อมแสดงยอดเงินคงเหลือปัจจุบันในบัญชีให้ลูกค้าทราบ พร้อมกับรหัสสำหรับให้ลูกค้าตอบกลับเพื่อยืนยันความประสงค์ในการชำระยอดเงินดังกล่าว เมื่อลูกค้ากดรหัสดังกล่าวกลับมา จะเป็นคำสั่งตรงไปยังระบบ USSD โดยทางธนาคารฯ รับรองว่า ทุกข้อความที่ส่งผ่านระบบ USSD จะไม่มีค่าล้มเหลวเกิดขึ้น และถูกส่งตรงถึงธนาคารอย่างแน่นอน จากนั้นระบบจะส่งข้อความในลักษณะ Pop Up Data มายังมือถือของลูกค้าภายใน 10-15 วินาที จากนั้นระบบจะดำเนินการตัดยอดเงินดังกล่าวจากบัญชีลูกค้า เมื่อทำรายการสำเร็จจะมี SMS ยืนยันการชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือทันที”

นายธีรศักดิ์ กล่าวเสริมว่า การเลือกใช้ระบบ USSD ในการทำธุรกรรมทางการเงินให้กับลูกค้าทีเอ็มบี ถือเป็นระบบที่มีความเสถียรสูงและยังสามารถการันตีการรักษาความปลอดภัยทางด้านข้อมูลได้ 100% โดยรหัสที่ส่งจากระบบจะเป็นในลักษณะรหัสใช้ครั้งเดียว (One time password) ด้วยระบบเลข 3 หลัก ซึ่งได้วางระบบรองรับและหมุนเวียนรหัสไว้อย่างรัดกุม นอกจากนี้ ระบบ Beep & Bill Payment ถือเป็นการให้บริการในรูปแบบ Cross Operator Design ที่ให้อิสรภาพที่แท้จริงในการชำระสินค้าและบริการโดยไม่จำกัดเครือข่ายโทรศัพท์ โดยทีเอ็มบี ได้ดำเนินการวางระบบ USSD เชื่อมโยงกับผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่รายหลักของไทย ประกอบด้วย AIS, และ True move ด้วยการกำหนดหมายเลขในการใช้บริการผ่านการกด *400 ตามด้วย รหัสชำระเงินที่ธนาคารกำหนดให้ ก็สามารถใช้บริการได้โดยทันที นอกจากนี้ ยังอยู่ในระหว่างการวางระบบเชื่อมโยงกับ TOT และโครงข่าย 3G ในอนาคตอีกด้วย”

สำหรับลูกค้าหรือผู้ที่สนใจ สามารถสมัครรับบริการแจ้งเตือนอัตโนมัติ “ทีเอ็มบี บี๊บ แอนด์ บิล” เพื่อใช้ชำระค่าสินค้าและบริการของผู้ให้บริการรายใหญ่ ทั้ง 7 ราย ได้แก่ การไฟฟ้านครหลวง การประปานครหลวง การสื่อสารแห่งประเทศไทย AIS และ True ที่พร้อมให้บริการแก่ลูกค้าแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป รวมทั้ง dtac และ ทีโอที ที่พร้อมจะให้บริการลูกค้าในเดือนสิงหาคมและกันยายน ตามลำดับ รวมทั้งบัตรเครดิต สินเชื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อบุคคลของทีเอ็มบี

สำหรับวิธีการสมัคร ลูกค้าสามารถทำได้หลายช่องทาง ทั้ง ผ่านเครื่อง ATM เครื่องฝากเงินอัตโนมัติของทีเอ็มบี ตลอดจนทีเอ็มบีอินเตอร์เน็ตแบงกิ้ง และที่ทีเอ็มบี ทุกสาขา ทั่วประเทศ ยิ่งไปกว่านั้น ลูกค้าจะสามารถประหยัดได้มากยิ่งขึ้น ด้วยค่าบริการรับชำระเงินในราคาเดียว เพียง 5 บาท เท่ากันหมดทุกบิล โดยธนาคารจะยกเว้นค่าบริการทุกรายการจนถึงสิ้นเดือนธันวาคม ศกนี้เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าที่มาใช้บริการของเรา

ลูกค้าของธนาคาร และลูกค้าของผู้ให้บริการทุกบริษัท ที่สนใจใช้บริการ “ทีเอ็มบี บี๊บ แอนด์ บิล” สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ทีเอ็มบี ทุกสาขากว่า 450 สาขาทั่วประเทศ หรือ TMB Call Center 1558 หรื ดูรายละเอียด ได้ที่ tmbbank.com View :1726

“คอมมาร์ต เอ็กซ์เจน 2011” เปิดตลาดไอทีครึ่งปีหลัง ระเบิดพลังขาชอป กระตุ้นกำลังซื้อรับรัฐบาลใหม่

July 21st, 2011 No comments

เริ่มแล้ว !! มหกรรมไอทีสุดยิ่งใหญ่รับรัฐบาลใหม่ “” เปิดตลาดไอทีไทยครึ่งปีหลัง ตามกระแสไอทีประชานิยม มีครบทุกโปรฯ โชว์ทุกเทคโนโลยี งานนี้ชอปสนุก ลุ้นนั่ง ฮ. เฮรับรถ พร้อมจัดหนักโปรโมชันสุดพิเศษ สุดคุ้ม ลดสูงสุด 70%  จับตาตลาดแท็บเล็ต ยอดขยับโตขึ้น 2 เท่าจากงานก่อนหน้าได้หรือไม่ ฟากโน้ตบุ๊คดั้มราคาโดนๆ ไม่ถึง 1 หมื่น กระตุ้นตลาดไอทีขาขึ้น คาดเม็ดเงินสะพัดกว่า 3,000 ล้านบาท ดันยอดไอทีครึ่งปีหลังกระฉูดแน่นอน พบกันระหว่างวันที่ 21 – 24 กรกฎาคม 2554 เวลา 10.00 – 20.00 น. ณ

นายปฐม อินทโรดม กรรมการบริหารและผู้จัดการทั่วไป บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ผู้จัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้าไอทีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ภายใต้ชื่อ “คอมมาร์ต” กล่าวว่า เออาร์ไอพี ร่วมกับบริษัทคู่ค้าไอทีชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ จัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้าไอที “คอมมาร์ต เอ็กซ์เจน ไทยแลนด์ 2011” ภายใต้แนวคิด “eXpress your eXperience : เปิดพลังสร้างสรรค์ความเป็นคุณ” ในงานครั้งนี้จัดอย่างยิ่งใหญ่มีเทคโนโลยีใหม่ๆ (Gadget) น่าสนใจมากมาย ที่ยังไม่วางขายในประเทศไทยนำมาโชว์และร่วมประมูลในงานมากกว่าทุกครั้ง ตลอดจนโปรโมชันพิเศษที่นำมา ลด แลก แจก แถม ในสไตล์ของงาน คอมมาร์ต  และงานนี้คงต้องจับตาแท็บเล็ต ว่าจะขยับยอดขายเพิ่มขึ้นจากงาน “คอมมาร์ต ซีมาร์ต 2011” เป็น 2 เท่าได้หรือไม่

“ตามธรรมเนียมของงานคอมมาร์ต ทราบกันดีว่าสินค้าไอทีที่มาจำหน่ายในงานเป็นสินค้าที่มีคุณภาพเยี่ยม ราคาถูก ส่งผลให้งาน คอมมาร์ต ในแต่ละครั้งยอดขายไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท โดยมีส่วนผลักดันให้ตลาดไอทีเติบโตได้ตามเป้า คือ 14 % ภายในปีนี้    สำหรับครึ่งปีหลังนี้   คาดว่าจะเป็นช่วงขาขึ้นของตลาดไอทีในประเทศ  เพราะสอดรับกับช่วงที่ประเทศมีรัฐบาลใหม่พอดี  โดยความต้องการใช้ไอทียังมีเพิ่มมากขึ้นตลอดเวลา รวมทั้งเทคโนโลยีใหม่ๆ  ก็เข้ามาเสริมการเรียน การสอน ทั้งกลุ่มนักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ รวมทั้งพนักงานบริษัท และองค์กรต่างๆ  ด้วย  ซึ่งจะเห็นว่า   อุปกรณ์ไอทีเข้าไปมีบทบาทในทุกส่วนของการใช้ชีวิตประจำวันของทุกเพศ  ทุกวัย  และในปัจจุบันสถาบันการศึกษาบางแห่ง ก็หันมาให้แท็บเล็ตแทนหนังสือบ้างแล้ว ซึ่งก็เป็นทิศทางที่ดีในอนาคตของตลาดไอที” นายปฐม กล่าว

สำหรับสินค้าใหม่ๆ ที่น่าสนใจหลากหลายยี่ห้อที่นำมาจำหน่ายในราคาพิเศษ มีให้เลือกสรรมากมายโดยเฉพาะแท็บเล็ตที่กระแสตอนนี้มาแรงอย่างมาก  อาทิ  Ipad , Toshiba , Acer, Dell, Sony, HTC Flyer version 2.3, Samsung Tab Gloria ขนาด 10 นิ้ว จะมาจำหน่ายในราคาพิเศษ ส่วนระบบปฏิบัติการที่จะเปิดตัวในงานนี้ อาทิ Android 3.0 และ Mac OS X Lion  นอกจากนี้ ยังมีโปรโมชันในราคาพิเศษสุด ที่บริษัทคู่ค้าพันธมิตรเตรียมขนมา ลด แลก แจก แถม อีกมากมาย อาทิ โซนแอสเซสเซอร์รี่และฮาร์ดแวร์เฮาส์ ลดสูงสุด 70% ด้านโน้ตบุ๊กราคาโดนๆ ไม่ถึงหนึ่งหมื่นบาท อาทิ โน้ตบุ๊กซัมซุง RV – 413-S02TH ราคาเพียง 8,900 บาท (ไม่รวม Vat) , มินิโน้ตบุ๊ก 12.1 จาก ASUS เพียง 9,900 บาทเท่านั้น และชอปครบทุก 10,000 บาท มีสิทธิ์ลุ้นตั๋วเครื่องบินไปกลับ กรุงเทพ-ภูเก็ต หรือเชียงใหม่ 2 ที่นั่งฟรี (วันละ 3 รอบ) ส่วนโน้ตบุ๊ก ACER Aspire One เพียง 9,900 และเปิดตัวครั้งแรกในงานนี้ Iconia Tab W501 (3G) ราคาเพียง 20,900 บาท พร้อมของแถมมากมาย พิเศษสุดสำหรับผู้ที่ชอปสินค้ายอด สูงสุดในงาน จะได้นั่งเฮลิคอปเตอร์พร้อมคนสนิทชมวิวรอบกรุงเทพฯ อีกด้วย และผู้ที่ซื้อสินค้าไอทีครบทุก 3,000 บาท  มีสิทธิ์ได้รับคูปองชิงโชคลุ้นรับรถยนต์ นิสสัน มาร์ช มูลค่ากว่า 4 แสนบาท และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย

ทางด้าน เทคโนโลยีที่น่าสนใจ ที่เป็นไฮไลท์ของงานคอมมาร์ต ครั้งนี้ ได้แก่ Toshiba Qosmio F750 โน้ตบุ๊ค 3D มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ตัวแรกของโลก Lens for Iphone  ที่จะตอบสนองสาวกไอโฟนได้อย่างน่าประทับใจ โดยผู้ใช้สามารถเปลี่ยนจากกล้องดิจิตอลธรรมดาติดกับเครื่องไอโฟน ให้กลายเป็นกล้องแบบมืออาชีพได้,  Seagate  GoFlex  Satellite ฮาร์ดดิสก์พกพาไร้สาย รุ่นแรกของโลกที่เพิ่มความสามารถในการเชื่อมต่อไร้สาย Wi-Fi,  John’s Phone มือถือแอนตี้สมาร์ท โฟนตัวแรก,  ปากกาไฮเทค (Magic Pen) เขียน – บันทึกไฟล์ ส่งต่อง่ายด้วยปลายปากกา  นอกจากนี้ ยังมี Mini Camcorder กล้องสายลับตัวจิ๋ว : คุณภาพเกินตัว ซึ่งสินค้าเหล่านี้จะนำมาโชว์และร่วมประมูลในงานในราคาเริ่มต้นที่ 1 บาท

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรม Workshop ที่น่าสนใจไม่ควรพลาด อาทิ  ข้อมูลหาย กู้กลับได้ด้วย ศูนย์กู้ข้อมูล IDR อนาคตของ Social media จะเป็นอย่างไร ,  รู้ก่อนสาย! ภัยจากอีเมล์และโซเชียลเน็ตเวิร์ก By Computer. Today / Panda ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมฟังได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ส่วน Workshop ที่เสียค่าอบรม หัวข้อละ 600 บาท Format มือใหม่ หัดล้างเครื่อง ลงโปรแกรม ง่ายๆชิวๆ เน็ตเวิร์คง่ายๆ ทำได้เองจริงนะ   ติดตั้ง App บน iPhone / iPad ง่ายๆ ไม่เสียเงินสักบาท    สนใจสำรองที่นั่งกันได้ที่ www.commartthailand.com นอกจากนี้ ยังมีมุม Buyer Guide’s ปรึกษาก่อนซื้อ ตรวจสอบก่อนกลับ  กับทีมบรรณาธิการจาก  นิตยสาร Commart  และพลาดไม่ได้ กิจกรรม Auction การประมูลสินค้าไอทีคุณภาพเยี่ยม

สำหรับบริษัทไอทีชั้นนำ และพันธมิตรผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการในการจัดงาน  “คอมมาร์ต เอ็กซ์เจน ไทยแลนด์ 2011” ประกอบด้วย บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย),  บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด,  บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด,  บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด, บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน),  บริษัท ฮาร์ดแวร์ เฮ้าส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด, บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) และมหาวิทยาลัยศรีปทุม

โน้ตบุ๊คในงานคอมมาร์ต เอ็กซ์เจน ไทยแลนด์ 2011 ราคาพิเศษไม่ถึง 1 หมื่นบาท

แท็บเล็ตสินค้าสุดฮิตได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในงานคอมมาร์ต เอ็กซ์เจน ไทยแลนด์ 2011

แบล็กเบอร์รี่ Playbook โปรโมชั่นพิเศษในงานฟรี WIFI ให้เล่นไม่อั้นนาน 3 เดือน (100 ท่านแรก)

ICONIA TAB A500 จาก Acer แอนดรอย 3.0 สามารถอัพเดทเป็น แอนดรอยด์ 3.1 ได้ดาวน์โหลดฟรีมากกว่า 150,000 แอพ

Qosmio F750-1004X จากToshiba โน้ตบุ๊ค 3 มิติ โดยไม่ต้องใช้แว่นเครื่องแรกของโลก

View :1939

ดีแทคเผยผลประกอบการแข็งแกร่งไตรมาส 2 ปี 2554

July 20th, 2011 No comments

เติบโตระดับตัวเลข 2 หลัก ทั้งรายได้ EBITDA และ กำไรสุทธิ

บริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ มีรายได้ในไตรมาสที่สองของปี 2554 รวมทั้งสิ้น 19.7 พันล้านบาท ซึ่งเติบโตขึ้นร้อยละ 13 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว (YoY) เป็นผลจากการเติบโตของจำนวนผู้ใช้บริการ รายได้จากบริการเสริม และการจำหน่ายสมาร์ทโฟน นอกจากนี้ ยังมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเลื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ในไตรมาสนี้เป็นจำนวน 6.9 พันล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 15 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว  คิดเป็นอัตรากำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA Margin) ที่ร้อยละ 35 อันเป็นผลจากการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของรายได้ และมาตรการบริหารและควบคุมค่าใช้จ่ายที่มีอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ดีแทค ยังมีกำไรสุทธิ 3.0 พันล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 25 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และสามารถสร้างกระแสเงินสด 6.0 พันล้านบาท (นิยามโดยกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย หรือ EBITDA ลบด้วย รายจ่ายเพื่อการลงทุน หรือ CAPEX)

ในช่วงไตรมาสที่สองของปี 2554 ดีแทค มีจำนวนลูกค้าใหม่จำนวน 384,000 ราย ทำให้ปัจจุบันมีจำนวนลูกค้ารวม 22.7 ล้านราย

นายจอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน)   หรือ ดีแทค กล่าวว่า “ผลประกอบการของบริษัท ในช่วงครึ่งปีแรก แสดงถึงแนวโน้มที่ดีของรายได้ โดยเฉพาะการเติบโตของรายได้จากบริการเสริม ซึ่งเรายืนยันในแผนที่จะเปิดให้บริการ 3G ในย่านความถี่ 850 MHz ในไตรมาสที่ 3 นี้ เพื่อรองรับความต้องการใช้งานด้านข้อมูลที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก นอกจากนี้ เรายังคง  ให้ความสำคัญกับการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพที่ได้ทำมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยความแข็งแกร่งของ ผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรก เราจึงปรับเป้ากระแสเงินสดจากการดำเนินงานสำหรับทั้งปีเพิ่มขึ้นเป็นที่ระดับประมาณ 1.9 หมื่นล้านบาท”

View :1654

โรงพยาบาลศิครินทร์ มั่นใจ เลือกใช้ระบบบริหารจัดการโรงพยาบาลจาก ไอซอฟท์

July 20th, 2011 No comments

 

ผู้ให้บริการด้านสุขภาพและโรงพยาบาลชั้นนำของไทย จัดพิธีลงนามความร่วมมือในการติดตั้งระบบบริหารจัดการโรงพยาล iSOFT’s Hospital Information System ( ) กับ บริษัท ไอซอฟท์ โซลูชั่นส์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นระยะเวลา 5 ปี ในการติดตั้งระบบเวชระเบียนอิเล็กทรอนิกเต็มรูปแบบ (Electronic Medical Record: EMR) เพื่อพัฒนาคุณภาพการบริการและมาตรฐานความปลอดภัยให้กับคนไข้ของโรงพยาบาล

ภายใต้แผนขยายคุณภาพงานบริการและความปลอดภัยตามมาตรฐานโรงพยาบาลระดับสากลของ Joint Commission International หรือ JCI โรงพยาบาลศิครินทร์จำเป็นต้องได้รับการติดตั้งระบบบริหารจัดการโรงพยาลที่มีคุณภาพและวัดผลได้เพื่อพัฒนางานด้านการสื่อสารและเพิ่มประสิทธิภาพตลอดกระบวนการทั้งโรงพยาบาลเพื่อลดระยะเวลาการรอรับการรักษาและค่าใช้จ่ายในการดูแลผู้ป่วย

ด้วยความสามารถของระบบการบริการและการดำเนินงานในการดูแลผู้ป่วยในทั้งหมด 215 เตียง ตลอดจนความต้องการด้านการรักษาพยาบาลของผู้ป่วยนอกกว่า 2,800 คนต่อวัน โรงพยาบาลศิครินทร์จึงตัดสินใจเลือกใช้ระบบบริหารจัดการโรงพยาบาลจากทางไอซอฟท์เพื่อแทนที่ระบบบริหารงานข้อมูลที่มีอยู่เดิมซึ่งไม่สามารถตอบสนองต่อความต้องการและการรองรับระบบต่างๆ ในอนาคต บวกกับระบบบริหารจัดการโรงพยาบาลจากทางไอซอฟท์ยังสนับสนุนงานที่เร่งด่วนของผู้เชี่ยวชาญในการรักษา ตลอดจนการเข้าถึงข้อมูลเวชระเบียนอิเล็กทรอนิกอย่างเต็มรูปแบบ ส่งผลให้ทางโรงพยาบาลสามารถพัฒนางานด้านข้อมูลของผู้ป่วยเพื่อปรับปรุงคุณภาพและความปลอดภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นายสุรศักดิ์ สุตมาส ผู้อำนวยการบริหารโรงพยาบาลศิครินทร์เปิดเผยว่า “เราได้พิจารณาผู้ให้บริการจากหลายๆ ระบบ และพบว่าระบบบริหารจัดการโรงพยาบาลจากทาง ไอซอฟท์ HIS นั้นเหมาะสมที่สุดที่จะตอบสนองต่อความต้องการของเราในการที่จะก้าวไปข้างหน้าในฐานะโรงพยาบาลชั้นนำที่ได้รับรางวัลยอดเยี่ยม ซึ่งถือเป็นเป้าหมายสำคัญของเราในการที่จะพัฒนาคุณภาพการบริการอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อผู้ป่วยที่เข้ามารับการรักษาในโรงพยาบาลฯ และด้วยโซลูชั่นจากทางไอซอฟท์ ซึ่งเป็นบริษัทที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก และมีความเชี่ยวชาญในการบริหารงานจากประเทศต่างๆ จะทำให้เราสามารถขยายการดำเนินงานของเราไปได้อย่างต่อเนื่องและเข้มแข็ง”

โรงพยาบาลศิครินทร์ได้รับรางวัล “The Best Under a Billion” จากการจัดอันดับของนิตยสารฟอบส์ (Fobes Magazine) ให้เป็น 1 ใน 200 บริษัทที่ดีที่สุดในเอเชียที่มียอดขายไม่เกิน 1,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ

นายเจมส์ ไรซ์ กรรมการผู้จัดการ ไอซอฟท์เอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “การได้รับความไว้วางใจจากทางโรงพยาบาลศิครินทร์ในครั้งนี้ถือเป็นการร่วมมือกันครั้งสำคัญของทางไอซอฟท์และยังเป็นการสนับสนุนการดำเนินงานของเราในประเทศไทย ซึ่งหลังจากนี้เราจะเข้าไปร่วมทำงานกับทางทีมงานของโรงพยาบาลศิครินทร์อย่างใกล้ชิดในการปรับปรุงระบบบริหารงานผู้ป่วยต่างๆ ที่มีอยู่เดิมให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น”

ระบบบริหารจัดการโรงพยาบาล ไอซอฟท์ HISจะได้รับการติดตั้งในทุกๆ แผนกของโรงพยาบาลฯ เพื่อความสะดวกในการบริหารจัดการผู้ป่วย ประสิทธิภาพในด้านคลินิค และผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการดูแลผู้ป่วย ซึ่งการติดตั้งในทุกๆ กระบวนการทำงานทั้งหมดนั้นนั้นเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจะสามารถเข้าถึงข้อมูลของผู้ป่วยได้จากในทุกๆ จุดของโรงพยาบาล เพื่อความรวดเร็วในการจัดการ ตลอดจนการวินิฉัยโรคที่แม่นยำ และคุณภาพการบริการที่ดีขึ้น ซึ่งการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้อยู่ภายใต้แผนการพัฒนาความปลอดภัยของผู้ป่วยเพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายในการได้รับมาตรฐานโรงพยาบาลระดับสากลจาก Joint Commission International หรือ JCI

 

View :2282

i-CREATe 2011

July 20th, 2011 No comments

งานประชุมวิชาการนานาชาติ เรื่องวิศวกรรมฟื้นฟูสมรรถภาพและเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการ ครั้งที่ ๕ ()
ณ โรงแรมสวิส โอเต็ล นายเลิศปาร์ค ในระหว่างวันที่ 21-23 กรกฎาคม 2554 ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น.

http://dl.dropbox.com/u/13199632/iCREATe%202011%20Conference%20Guide%20Book.pdf

View :1834

ดีแทครับรางวัล สคบ อะวอร์ด เจ้าของบริการที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและเป็นธรรมกับผู้บริโภค

July 20th, 2011 No comments

 

 
20 กรกฎาคม 2554 – นายจอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์ (ขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือ ขึ้นรับรางวัลเกียรติยศเพื่อเชิดชูภาพยนตร์โฆษณาที่ดี สร้างสรรค์สังคม มีความเป็นธรรมแก่ผู้บริโภค ในโครงการ “ภาพยนตร์โฆษณาดีเด่นทางโทรทัศน์เพื่อผู้บริโภค” หรือ “” ครั้งที่ 10 ประเภทบริการ จากนางรัศมี วิศทเวทย์ (ซ้าย) ประธานอนุกรรมการพิจารณาจัดทำโครงการฯ ซึ่งดีแทคมีความภาคภูมิใจที่ผลงานภาพยนตร์โฆษณาชุด “Disconnect to Connect” ได้รับรางวัลอันทรงคุณค่าครั้งนี้ โดยแสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์ของดีแทคที่มุ่งมั่นพัฒนา สร้างสรรค์สิ่งที่ถูกต้อง และมีความรับผิดชอบต่อสังคมไทยมาโดยตลอด พิธีมอบรางวัลจัดขึ้น ณ เซ็นเตอร์พ้อยท์ เพลย์เฮ้าส์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อเร็ว ๆ นี้
“โครงการภาพยนตร์โฆษณาดีเด่นทางโทรทัศน์เพื่อผู้บริโภค” หรือ “สคบ อะวอร์ด” ครั้งที่ 10 จัดขึ้นโดยสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ร่วมกับสมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย เพื่อคัดเลือกและประกาศเกียรติคุณแก่บริษัทเจ้าของสินค้าหรือบริการ ที่จัดทำภาพยนตร์โฆษณาเผยแพร่ทางโทรทัศน์ที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและเป็นธรรมกับผู้บริโภค ซึ่งผลงานที่ได้รับรางวัลได้ผ่านการพิจารณาคัดเลือกถึง 3 รอบ จากผลงานภาพยนตร์โฆษณาที่ออกอากาศในปี 2553 ทั้งหมด โดยมีคณะกรรมการจากหลากหลายกลุ่ม ประกอบด้วย ประชาชน นิสิตนักศึกษา ผู้แทนจากองค์กรและสถาบันต่าง ๆ กลุ่มเครือข่ายการคุ้มครองผู้บริโภคในส่วนภูมิภาค และคณะอนุกรรมการพิจารณาจัดทำโครงการฯ เป็นผู้พิจารณาคัดเลือกอย่างเข้มงวดเพื่อให้ได้ผลงานที่ดีที่สุดที่ตรงกับวัตถุประสงค์ของการจัดงานเป็นผลงานที่ได้รับรางวัลดังกล่าว

View :1711

mobileLIFE เปิดหน้า Fan Page บนเฟซบุ๊ค

July 20th, 2011 No comments

เอไอเอส รุกสร้างคอมมูนิตี้ เข้าถึงโลกสังคมออนไลน์ เปิดหน้า Fan Page “” บนเฟซบุ๊ค จัดเต็มทุกเรื่องบันเทิงและไลฟ์สไตล์บนแก็ทเจ็ต เอาใจก๊วนออนไลน์ให้สนุกกับเกมสุดมันส์ และสิทธิประโยชน์ ลุ้นรับของรางวัลเพียบ พร้อมแนะนำเกมดังล่าสุดบนเฟซบุ๊ค “Qute Pet Family” หรือ เกมสัตว์เลี้ยงน่ารัก ซึ่งเอไอเอสได้ร่วมกับนักพัฒนาคนไทย บริษัทเกมเมคเกอร์ พัฒนาต่อยอดให้เป็นเกมบนเฟซบุ๊กที่เล่นผ่านมือถือได้ ซึ่งมีสถิติครองใจคอเกม ด้วยยอดผู้เล่นกว่า 400,000 คน หรือกว่า 60 ล้านเพจวิวต่อเดือน

รวมทั้งจัดกิจกรรมพิเศษ “สัตว์เลี้ยงน่ารักพาเที่ยว” เพียงเข้ามาเล่นเกม และชวนเพื่อนๆบนเฟซบุ๊กเข้ามาร่วมเล่นกันเพลินๆ สะสมแต้มสูงสุด ลุ้นรับรางวัลตั๋วเครื่องบินไป-กลับภายในประเทศ กับสายการบินบางกอกแอร์เวย์ จำนวน 2 ที่นั่ง เชิญแฟนๆ ขาออนไลน์เข้ามาร่วมสนุกกันได้แล้ววันนี้ ง่ายๆ เพียงเข้าไปที่ .com/ilovemobilelife

View :1582
Categories: Press/Release Tags: ,

Google แต่งตั้งผู้บริหารใหม่ประจำประเทศไทย

July 20th, 2011 No comments

Google เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกาศ การแต่งตั้ง ในตำแหน่ง ผู้จัดการประจำประเทศไทย หลังจากที่ใช้เวลาและกระบวนการคัดเลือกผู้ที่เหมาะสมในการเป็นผู้นำทีมสำหรับประเทศไทยอย่างเข้มข้นและยาวนาน

Google สร้างขึ้นจากกรอบความคิดที่การทำงานต่างๆ ล้วนมีความท้าทายสูง และความท้าทายนั้นควรมาพร้อมกับความสนุกสนานควบคู่กันไป ดังนั้นเมื่อ Google เฟ้นหาผู้บริหารคนใหม่ที่จะมาเป็นผู้นำสำหรับการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ผู้บริหารที่เหมาะกับตำแหน่งนี้จำเป็นต้องมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวทั้งในด้านการทำงานแบบมืออาชีพและสะท้อนความเป็น Google ที่แท้จริงในตัวตน หรือที่คนภายในองค์กรเรียกว่า Googley

ด้วยประสบการณ์กว่า 14 ปีในวงการโทรคมนาคม ซอฟต์แวร์ บริหารจัดการ และการเป็นที่ปรึกษา พร้อมกับปริญญาโทสองใบ ด้านคณิตศาสตร์และไอทีจากมหาวิทยาลัย Marne-La-Vallée ประเทศฝรั่งเศส และด้านวิทยาการจัดการจาก  London School of Economics ประเทศอังกฤษ คุณอริยะ สามารถพูดได้ถึง 4 ภาษา ซึ่งทุกคุณสมบัติเหล่านี้ สะท้อนถึงวัฒนธรรมของ Google ที่เห็นคุณค่าและให้ความสำคัญกับคนที่มีความมุ่งมั่นที่จะเข้าถึงเเละแก้ปัญหาด้วยวิธีการที่สร้างสรรค์อย่างจริงจัง

มร. จูเลียน เพอร์ซูด กรรมการผู้จัดการ Google เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อธิบายว่า Google รอคอยการแต่งตั้งตำแหน่งนี้ “คุณอริยะกำลังเข้ามาในเวลาที่น่าตื่นเต้นของเราในประเทศไทย เพราะเมื่อเร็วๆ นี้ก็มีการเปิดตัวโปรแกรมธุรกิจไทย Go Online และแคมเปญโฆษณาทางโทรทัศน์ของ Google Chrome ในแคมเปญ “เว็บคือสิ่งที่คุณสร้างสรรค์” จูเลียนกล่าว “ผมดีใจมากที่ได้ต้อนรับคนที่มีความสามารถเช่นคุณอริยะเข้ามาในทีมของเรา”

ก่อนหน้านี้คุณอริยะดำรงตำแหน่งเป็น หัวหน้าคณะผู้บริหาร ด้านการพาณิชย์คอนเวอร์เจนซ์ ที่ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด โดยปัจจุบันมีหน้าที่รับผิดชอบด้านการขายและพัฒนาธุรกิจของ Google ในประเทศไทย

คุณอริยะ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ผมชื่นชม Google อยู่เสมอ ไม่ว่าจะในเรื่องนวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์และวิธีการต่างๆ ที่มีบทบาทต่อการเปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกเรา และเชื่อว่า Google ประเทศไทยจะนำเสนอประสบการณ์ต่างๆ จากในและต่างประเทศ, เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ชาวไทย นักโฆษณาและพันธมิตรต่างๆ ในประเทศได้เข้าถึงและใช้บริการที่ดียิ่งขึ้นด้วยความเข้าใจที่ลึกซึ้งในตลาดท้องถิ่น”

Google กำลังมองหาผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเพื่อเข้าร่วมทีม Google ประเทศไทย โดยสามารถดูตำแหน่งงานที่กำลังเปิดรับสมัคร ได้ที่ http://www.google.com.sg/intl/en/jobs/singapore/

 

View :1846

แบล็กเบอร์รี่ เพลย์บุ๊ค แท็บเล็ต เริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 22 กรกฎาคมนี้

July 20th, 2011 No comments


นายนิก ยูง ผู้จัดการอาวุโส ประจำประเทศไทย บริษัท รีเสิร์ช อิน โมชั่น (ริม) กล่าวเปิดงานเอ็กซ์คลูซีฟปาร์ตี้ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ แบล็กเบอร์รี่® เพลย์บุ๊ค™ แท็บเล็ตอันทรงประสิทธิภาพ ที่มาพร้อมกับความบางเฉียบเป็นพิเศษ เครื่องแรกและเครื่องเดียวในโลก ซึ่งจะเริ่มวางจำหน่ายให้แก่ลูกค้าชาวไทยตั้งแต่วันที่ 22 กรกฏาคม เป็นต้นไป โดยงานดังกล่าวจัดขึ้น ณ โรงแรมสยาม เคมปินสกี้ เมื่อค่ำวานนี้
รีเสิร์ช อิน โมชั่น หรือ ริม () (NASDAQ: RIMM; TSX: ) ประกาศกำหนดการวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์แบล็กเบอร์รี่® เพลย์บุ๊ค™ แท็บเล็ต ในประเทศไทย เริ่มตั้งแต่วันที่ 22 กรกฏาคม 2554 ผ่านทางโอเปอเรเตอร์ อย่างเอไอเอส ทรูมูฟ รวมทั้งร้านค้าปลีกทั่วประเทศจำนวนมาก ประกอบด้วย ร้านเจมาร์ท และ ร้านทีจีโฟน โดยแบล็กเบอร์รี่เพลย์บุ๊ค จะมาพร้อมกับโมเดลวายไฟ 3 รูปแบบ ผสานเข้ากับหน่วยความจำภายในที่มีให้เลือกถึง 3 ขนาด เริ่มตั้งแต่ 16 กิกะไบต์ 32 กิกะไบต์ หรือ 64 กิกะไบต์ ในราคา 16,900 บาท 18,900 บาท และ 21,900 บาท (ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ตามลำดับ

มร. แดนนี่ โบลดุค รองประธาน ประจำประเทศไทย มาเลเซีย และเวียดนาม บริษัท รีเสิร์ช อิน โมชั่น (ริม) กล่าวว่า “แบล็กเบอร์รี่เพลย์บุ๊ค จะนำเสนอประสบการณ์อันน่าประทับใจ และเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพอันทรงพลัง ให้แก่ลูกค้าชาวไทย ซึ่งถูกรวบรวมไว้ภายในแท็บเล็ตรูปลักษณ์บางพิเศษขนาด 7 นิ้ว และด้วยองค์ประกอบด้านฮาร์ดแวร์ในระดับพรีเมี่ยม รวมทั้งระบบปฏิบัติการ QNX อันทรงประสิทธิภาพเหนือใคร ผู้ใช้แบล็กเบอร์รี่เพลย์บุ๊คจะสามารถเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การท่องเว็บ และการใช้งานมัลติมีเดียแบบไร้ช่องโหว่ โดยเราขอสนับสนุนให้ลูกค้าที่สนใจ สามารถไปทดลองสัมผัสกับแบล็กเบอร์รี่เพลย์บุ๊คด้วยตัวท่านเอง ได้ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายใกล้บ้านท่าน”

แบล็กเบอร์รี่เพลย์บุ๊ค มาพร้อมกับรูปลักษณ์ที่บางเฉียบ สะดวกต่อการพกพา และนำเสนอประสิทธิภาพการทำงานระดับชั้นนำของอุตสาหกรรม พร้อมความสามารถในการท่องเว็บแบบไร้ช่องโหว่ รองรับการทำงานของ Adobe® Flash® ระบบการทำงานแบบ Multi-tasking อย่างแท้จริง ระบบมัลติมีเดียแบบไฮเดฟฟินิชั่น คุณสมบัติด้านระบบรักษาความปลอดภัยที่ทันสมัย การรองรับระบบงานรูปแบบองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ที่เหนือระดับ และแพลตฟอร์มพัฒนารุ่นล่าสุดที่เหมาะสำหรับแผนกไอทีและนักพัฒนาอย่างยิ่ง

รายละเอียดจำเพาะของแบล็กเบอร์รี่เพลย์บุ๊ค:

• จอแอลซีดีขนาด 7 นิ้ว ความละเอียด 1024×600 จุด มาตรฐาน WSVGA มีจอภาพสัมผัสพร้อมระบบมัลติทัชและระบบคำนวณท่าทางของผู้ใช้

• รูปลักษณ์อันบางเฉียบ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับพกพาติดตัวไปได้อย่างสะดวก เครื่องแบล็กเบอร์รี่เพลย์บุ๊คมีน้ำหนักน้อยกว่าหนึ่งปอนด์และมีความหนาไม่ถึงครึ่งนิ้ว: น้ำหนัก 0.9 ปอนด์/ 425 กรัม และ ความสูง 5.1 นิ้ว x ความกว้าง 7.6 นิ้ว x ความหนา 0.4 นิ้ว (130 มม. x 194 มม. x 10 มม.)

• โปรเซสเซอร์ดูอัลคอร์ 1 GHz• ระบบปฏิบัติการ แบล็กเบอร์รี่แท็บเล็ตโอเอส (BlackBerry® Tablet OS) ที่รองรับการทำงานของการประมวลผลโปรแกรมแบบ Symmetric multiprocessing

• ฟังเพลงในรูปแบบ MP3, AAC, WMA

• รองรับการเล่นวิดีโอด้วยการแสดงผลที่มีความคมชัดสูง (ในรูปแบบ H.264, MPEG4 และ WMV)

• Output วิดีโอในรูปแบบ 1080p HDMI

• กล้องดูอัลเอชดี (ด้านหน้า 3 ล้านพิกเซล ด้านหลัง 5 ล้านพิกเซล) รองรับการบันทึกภาพวิดีโอ 1080p HD ได้ เพื่อการโทรศัพท์ผ่านวีดีโอ และการถ่ายวีดีโอ

• หน่วยความจำของระบบ 1 GB

• หน่วยความจำภายในสูงสุดถึง 64 กิกะไบต์ (ขนาด 16, 32 และ 64 กิกะไบต์)

• ระบบรับสัญญาณจีพีเอส, ระบบเซ็นเซอร์รูปแบบ Orientation (Accelerometer), ระบบเซ็นเซอร์รูปแบบ 6-Axis Motion (Gyroscope), เข็มทิศแบบดิจิตอล (Magnetometer)

• ระบบเสียงสเตอริโอที่ดีที่สุด

• เชื่อมต่อการใช้งานวายไฟ (802.11a/b/g/n)

• รองรับบลูทูธ® 2.1+EDR

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแบล็กเบอร์รี่เพลย์บุ๊ค แท็บเล็ต สามารถเข้าไปชมได้ที่http://th.blackberry.com/playbook

 

View :1517