Archive

Archive for the ‘Press/Release’ Category

ลูกค้าเอไอเอส รับส่วนลด 100 บาทชมพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งมาดามทุสโซ

March 18th, 2011 No comments

เอไอเอส นำโดย นางวิลาสินี พุทธิการันต์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานบริหารลูกค้าและการบริการ ร่วมกับ มร . พอล วิลเลียมส์ ผู้จัดการทั่วไป กรุงเทพฯ จัดแคมเปญหนุนเที่ยวไทยมอบสิทธิพิเศษให้ลูกค้าเอไอเอส รับส่วนลด 100 บาท (จากราคาปกติ ผู้ใหญ่ 350 บาทและเด็ก 250 บาท) เมื่อซื้อบัตรเข้าชมหุ่นขี้ผึ้งจำลองบุคคลสำคัญของโลกในแขนงต่างๆ อาทิ บารัค โอบาม่า ประธานาธิบดีสหรัฐ, อัลเบิร์ต ไอสไตน์ นักวิทยาศาสตร์ และไทเกอร์ วูด นักกอล์ฟชื่อดังมือหนึ่งของโลก เป็นต้น ง่ายๆ เพียงลูกค้าแสดงโทรศัพท์มือถือที่จุดจำหน่ายบัตรเข้าชม (1 หมายเลขรับส่วนลดบัตรได้ 3 ใบ) ที่ กรุงเทพฯ สยามดิสคัฟเวอรี่ ชั้น 6 ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 พ.ค. 2554 ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www..co.th

View :1455

Top 10 Product Search Keyword ของประเทศไทย(สัปดาห์ล่าสุด) จาก Priceza.com

March 18th, 2011 No comments

Product Search Engine ของประเทศไทย คำนวณสถิติคำค้นหาสินค้าช่วง 1 สัปดาห์ล่าสุดที่ผ่านมา (วันที่ 11 มี.ค. 54 ถึง 17 มี.ค. 54) ประโยชน์สำหรับร้านค้าและนักการตลาดออนไลน์ช่วยในการทำการตลาดได้ตรง เป้ามากขึ้น

ของประเทศไทย
Rank Keyword
1 Blackberry curve 8520
2 Canon 550d
3 Netbook
4 Netbook acer
5 Ipad 2
6 Blackberry
7 Iphone 3
8 Ipod touch 4 g
9 Nokia c5
10 Ipod
Source: Priceza.com ช่วงวันที่ 11 มี.ค. 54 ถึง 17 มี.ค. 54

สินค้าที่คนสนใจมากที่สุดอันดับ 1 คือ Blackberry curve 8520 ซึ่งวิเคราะห์ได้ว่า RIM ประเทศไทย เพิ่งมีการปรับลดราคาลงมา 2,000 บาท เลยทำให้คนสนใจมากขึ้นติดลมบนเลยทีเดียว และ จากข้อมูลยังเห็นแนวโน้มที่สำคัญ จากการที่ iPad2 เริ่มมีวางขายในไทย(ทั้ง ออนไลน์ และ ตามห้าง MBK) ก็เริ่มมีคนสนใจช๊อปสินค้ามากขึ้นจนขึ้นมาติด TOP10 Keyword ในช่วงสัปดาห์ทีผ่านมา นอกจากนี้สินค้าที่คนสนใจช๊อปมาก ก็จะเป็นสินค้าโทรศัพท์มือถือ, Smart Phone, กล้องดิจิตอล, Netbook และ iPod

Priceza.com เครื่องมือค้นหาสินค้า เช็คและเปรียบเทียบราคาในคลิกเดียว! ปัจจุบันมีคนเข้ามาค้นหาสินค้า มีผู้เข้ามาช๊อปสินค้าและเปรียบเทียบราคาใน Priceza.com เดือนละ 7แสน UIP และค้นหาสินค้า มากกว่า 2ล้าน ครั้ง/เดือน ร้านค้าชั้นนำใน Priceza.com เช่น TARAD Premium Mall, Sanook Shopping, TV Direct, TrendyDay, World Camera, tohome.com เป็นต้น

สามารถดูข้อมูลข่าวเต็มๆได้ที่ http://blog.priceza.com/blog/top10-product-search-keyword-2011-03-17

View :1412

MFEC มั่นใจหลังควบรวมกิจการ 3 บริษัทไอที หนุนรายได้ปีแรกโต 20% กำไรโตเกือบ 3 เท่า

March 18th, 2011 No comments

มั่นใจ หลังควบรวมกิจการ 3 บริษัทไอที ‘ ซอฟต์ สแควร์ กรุ๊ป – บิสซิเนส แอพพลิเคชั่น – โมทีฟ เทคโนโลยี ‘ หนุนรายได้ปีแรกขยายตัว 20% หรือแตะ 3.5 พันลบ . ขณะที่กำไรมีโอกาสโตเกือบ 3 เท่าตัว เหตุการควบรวมกิจการทำให้องค์กรมีขนาดใหญ่ขึ้น เพิ่มอำนาจการต่อรองและศักยภาพในการขยายธุรกิจ ในขณะเดียวกันสามารถลดต้นทุนบางส่วนให้ต่ำลงเพิ่มความคล่องตัวในการแข่งขันได้เป็นอย่างดี พร้อมส่งสัญญาณโค้งแรกปี 54 ธุรกิจยังเติบโตได้ดีเมื่อเทียบกับปีก่อน มี Backlog รอรับรู้เป็นรายได้แล้วกว่า 2 พันลบ .

นายศิริวัฒน์ วงศ์จารุกร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด ( มหาชน ) (MFEC) เปิดเผยว่า หลังจากที่คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้บริษัทฯ ควบรวมกิจการกับ 3 บริษัทผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งประกอบด้วย บริษัท ซอฟต์สแควร์กรุ๊ป โดยผ่านการซื้อและรับโอนกิจการทั้งหมดของบริษัท นอร์ธเทอร์นสตาร์ซอฟต์แวร์ จำกัด บริษัท บิซิเนส แอพพริเคชั่น จำกัด และบริษัท โมทีฟ เทคโนโลยี จำกัด ( มหาชน ) โดยผ่านการซื้อและรับโอนกิจการทั้งหมดของบริษัท เมกัส จำกัด เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับองค์กร ตลอดจนรองรับโอกาสทางธุรกิจที่จะเข้ามาในอนาคตนั้น เชื่อว่าภายหลังการควบรวมกิจการดังกล่าวจะช่วยผลักดันให้รายได้ในปีแรกขยายตัวได้ 20% หรืออยู่ที่ 3,500 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิมีโอกาสเติบโตได้ถึง 3 เท่าตัว จากปี 2553 ที่บริษัทฯ ทำได้ 60-70 ล้านบาท เนื่องจากการควบรวมกิจการครั้งนี้ เป็นการนำจุดแข็งของแต่ละบริษัทเข้ามาสนับสนุนซึ่งกันและกัน ซึ่งนอกจากจะทำให้บริษัทฯ มีขนาดใหญ่ขึ้นแล้ว ยังสามารถเพิ่มศักยภาพในการขยายธุรกิจ และทำให้ต้นทุนบางส่วนลดลง เพิ่มความคล่องตัวในการแข่งขันได้อีกทางหนึ่งด้วย

“ การควบรวมกิจการกับ 3 บริษัทพันธมิตรในครั้งนี้ เป็นการนำบริษัทฯ ที่โดดเด่นและเป็นผู้นำทางด้าน Software และ IT Services ชั้นนำของประเทศในแต่ละตลาดมารวมไว้ด้วยกัน ดังนั้น สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนหลังจากนี้ นอกเหนือจากการเติบโตแบบก้าวกระโดดแล้ว ยังจะทำให้ MFEC GROUP เป็นองค์กรที่เข้มแข็งเป็นผู้นำที่โดดเด่นในอุตสาหกรรม Software และ IT Services ของประเทศอย่างชัดเจน ในขณะเดียวกันยังเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไอทีไทยให้แข่งขันได้ กับผู้ประกอบการอื่นๆ ในตลาดโลกได้เป็นอย่างดี และจะส่งเสริมแผนการก้าวสู่ตลาดในระดับภูมิภาคและตลาดโลกได้รวดเร็วยิ่งขึ้น นำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน เป็นที่ยอมรับนับถือจากสาธารณะ และนักลงทุน โดยโครงการควบรวมกิจการดังกล่าวจะนำเสนอให้ผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติในเดือนเมษายนนี้”

เขากล่าวอีกว่า หลังการควบรวมกิจการในครั้งนี้ MFEC GROUP ได้วางเป้าหมายจะปรับปรุงและพัฒนาโครงสร้างและการบริหารองค์กรให้กลายเป็น “สถาบัน” ที่สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน เป็นผู้นำในการกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาทรัพยากรบุคคลของประเทศไทย การสร้างงานที่มีมูลค่าเพิ่มสูงในระดับท้องถิ่น และการกระจายรายได้ในประเทศเพื่อเป็นส่วนร่วมในการที่จะส่งเสริมให้ประเทศไทยก้าวสู่ยุคเศรษฐกิจ บริการเชิงสร้างสรรค์ หรือ Creative Service Economy ได้ และประการสำคัญจะช่วยส่งเสริมให้ตลาดซอฟต์แวร์เมืองไทยแข็งแกร่งขึ้น โดยการดำเนินธุรกิจของทั้ง 3 บริษัทยังคงเป็นไปตามปกติ ไม่มีการปลดพนักงานแต่จะช่วยกันทำงานให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจไอทีและให้แข่งขันกับผู้ประกอบการในภูมิภาคอาเซียนได้อย่างคล่องตัว

นายศิริวัฒน์ กล่าวต่อถึงแนวโน้มธุรกิจในไตรมาส 1/2554 ว่า ถือว่ามีทิศทางเติบโตอย่างต่อเนื่องจากปลายปีที่ผ่านมา โดยบริษัทฯ มีงานในมือที่รอรับรู้เป็นรายได้ (Backlog) อยู่ที่ 2,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณ 1,800 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้รายได้ในปีถัดไป ขณะเดียวกันในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้บริษัทฯ เตรียมเข้าประมูลงานใหม่ทั้งสิ้น 1,200 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นงานรัฐวิสาหกิจ 800-900 ล้านบาท และงานเอกชนอีก 300 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะได้รับงานดังกล่าวในสัดส่วน 700-800 ล้านบาท จากมูลค่างานรวมทั้งหมด โดยปัจจุบันสัดส่วนลูกค้าหลักของบริษัทฯ จะมาจากกลุ่ม Telecom 35% banking 20% ภาครัฐ 25% และที่เหลือมาจากกลุ่มอื่นๆ

ทั้งนี้ บริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด ( มหาชน ) รายงานผลประกอบการประจำปี 2553 ( 1 มกราคม – 31 ธันวาคม 2553) มีรายได้ 2,595 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 67.87 ล้านบาท หรือหุ้นละ 0.26 บาท และในการประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 1/2554 ซึ่งประชุมเมื่อวันจันทร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2554 ระหว่างเวลา 13.00 น . ถึง 16.15 น . ที่ประชุมได้มีมติอนุมัติการจัดสรรเงินสดปันผลโดยจ่ายจากผลกำไรสะสมของบริษัทจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2553 ให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัท โดยจ่ายเงินสดปันผลในอัตรา 0.45 บาทต่อหุ้น กำหนดจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 20 พฤษภาคม 2554 และกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 9 พฤษภาคม 2554 พร้อมกำหนดวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อเสนอมติดังกล่าวให้ผู้ถือหุ้นพิจารณาในวันที่ 25 เมษายน 2554

View :1458
Categories: Press/Release Tags:

ทีโอที ส่งแรงใจไปญี่ปุ่น โทรฟรี วันนี้ ถึง 3 1 มีนาคม 2554

March 18th, 2011 No comments

ทีโอที ส่งแรงใจไปญี่ปุ่น โทรฟรี 3 ช่องทางผ่านโทรศัพท์บ้าน , โทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G กดรหัส 008 และโทรศัพท์ฟรีผ่านเน็ต Net call วันนี้ ถึง 3 1 มีนาคม 2554

บริษัท ที โอที จำกัด(มหาชน) ร่วมส่งกำลังใจช่วยเหลือพร้อมอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ต้องการโทรติดต่อ ผู้ประสบภัยในประเทศญี่ปุ่น เปิดฟรี 3 ช่องทางติดต่อสื่อสารฟรีทุกสายด้วยบริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศ 008 ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง ไปประเทศญี่ปุ่นผ่านโทรศัพท์พื้นฐาน โทรศัพท์เคลื่อนที่ TOT 3 G และบริการ TOT Net call โทรศัพท์ผ่านอินเทอร์เน็ต วันนี้ ถึง 3 1 มีนาคม 2554

นายนพณัฎฐ์ หุตะเจริญ รักษาการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) กล่าว ว่า “จากเหตุการณ์ภัยพิบัติแผ่นดินไหว สึนามิ ที่ประเทศญี่ปุ่น สร้างความเสียหายครั้งใหญ่แก่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งขณะนี้มีคนจำนวนมากที่มีความต้องการติดต่อสื่อสารกับญาติพี่น้องและคน ที่ห่วงใยที่อาศัยอยู่ประเทศญี่ปุ่น โดย ทีโอที ได้ร่วมช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกในการโทรไปประเทศญี่ปุ่น ฟรี ด้วย 3 ช่องทางการติดต่อสื่อสาร ที่ ทีโอที อำนวยความสะดวกให้ ไม่ว่าโทรศัพท์ทางไกลระหว่างประเทศ 008ด้วยโทรศัพท์พื้นฐานของ ทีโอที โทรศัพท์ทางไกลระหว่างประเทศ 008ด้วยโทรศัพท์เคลื่อนที่ TOT 3G และช่องทางที่สาม บริการ TOT Net call ซึ่งเป็นบริการโทรผ่านเน็ต โดย ทีโอที จะให้บริการโทรไปประเทศญี่ปุ่นได้ฟรี ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 มีนาคม 2554 ตลอด 24 ชั่วโมง”

สำหรับวิธีการใช้ เพื่อติดต่อปลายทางประเทศญี่ปุ่น ผู้ใช้บริการสามารถใช้บริการได้จากโทรศัพท์ประจำที่ หรือโทรศัพท์มือถือ TOT 3G หรือ บริการ TOT Net call ดังนี้

โทรศัพท์ทางไกลระหว่างประเทศ 008 ด้วยโทรศัพท์พื้นฐาน กด 00 8 > 81 > รหัสเมือง/รหัสโทรศัพท์เคลื่อนที่ > หมายเลขปลายทาง ทั้งนี้ผู้ที่ต้องการใช้บริการ TOT Net call ติดต่อไปยังปลายทางที่ประเทศญี่ปุ่นสามารถดูรายละเอียดการใช้งานได้ที่ www.totnetcall.co m หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ TOT Contact Center โทร 1100

View :1357
Categories: Press/Release Tags:

ก.ไอซีที เชิญร่วมประกวดภาพถ่าย “รอยยิ้มแห่งสยาม” ในงานวันข้าราชการพลเรือน

March 18th, 2011 No comments

นายธานีรัตน์ ศิริปะชะนะ รองปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยความคืบหน้าเกี่ยวกับกิจกรรม เนื่อง ในวันข้าราชการพลเรือน ประจำปี 2554 ว่า ในการจัดงานเนื่องในวันข้าราชการพลเรือน ประจำปี 2554 นี้ ทางกระทรวงไอซีที และเจ้าภาพร่วม คือ กระทรวงพลังงาน กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงมหาดไทย ได้กำหนดให้มีการจัดกิจกรรมการประกวดรอยยิ้มแห่งสยาม ขึ้น เพื่อเชิญชวนบุคคลทั่วไป นักถ่ายภาพ ให้มาร่วมสร้างสรรค์ภาพถ่ายที่สะท้อนถึงรอยยิ้มและความสุขของประชาชนไทยทุก หมู่เหล่า ภายใต้หัวข้อ “ ใต้ร่มพระบารมี 84 พรรษา ราชการเพื่อรอยยิ้มและความสุขของคนไทย ”

“วัตถุ ประสงค์ของการจัดกิจกรรมพิเศษในครั้งนี้ ก็เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมวันข้าราชการพลเรือน ประจำปี 2554 รวมทั้งเปิดโอกาสให้บุคคลที่รักการถ่ายภาพได้สร้างสรรค์และแสดงออกถึงความ สามารถ รวมทั้งนำเสนอภาพแห่งความสุขและรอยยิ้มในมุมมองต่างๆ ที่หลากหลายภายใต้หัวข้อที่กำหนด ซึ่งผู้ที่ชนะการประกวดจะได้ทั้งเงินรางวัลและประกาศนียบัตร โดยรางวัลที่ 1 ได้รับเงินรางวัล 15,000 บาท รางวัลที่ 2 ได้รับเงินรางวัล 10 , 000 บาท รางวัลที่ 3 ได้รับเงินรางวัล 5 , 000 บาท และรางวัลชมเชยอีก 10 รางวัล รวมมูลค่าของรางวัลทั้งสิ้น 50,000 บาท” นายธานีรัตน์ กล่าว

สำหรับข้อกำหนดในการส่งภาพเข้าประกวด คือ 1.ผู้ส่งภาพเข้าประกวดและเจ้าของภาพต้องเป็นบุคคลคนเดียวกัน 2.ภาพถ่ายที่ส่งเข้าประกวดต้องมีความละเอียดสูง 6 ล้านพิกเซลขึ้นไป หรือไม่ต่ำกว่า 300 DPI 3.ภาพถ่ายที่ส่งเข้าประกวด สามารถปรับแต่งสีและแสงของภาพในด้านเทคนิคเพื่อให้ภาพมีคุณภาพดีขึ้น แต่ต้องคงเป็นธรรมชาติไม่ให้ผิดเพี้ยนจากความเป็นจริง 4.ภาพถ่ายที่ส่งเข้าประกวด ต้องส่งมาพร้อมใบสมัคร และระบุข้อมูลชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล์ ของเจ้าของผลงาน รวมทั้งต้องตั้งชื่อผลงาน พร้อมคำบรรยายเกี่ยวกับภาพ และระบุวัน เดือน ปี ที่ถ่าย รวมถึงสถานที่ที่ถ่ายภาพมาด้วย

5.เจ้าของผลงานต้องส่งไฟล์ภาพที่ส่งเข้าประกวดในรูปของ RAW ไฟล์ หรือ Tiff ไฟล์ หรือ JPG หรือ บันทึกลงบนแผ่น CD/DVD-ROM หรือ ส่งภาพถ่ายพิมพ์ลงบนกระดาษอัดภาพขนาดไม่ต่ำกว่า 4 x 6 นิ้ว (โปสการ์ด) โดยการส่งผลงานเข้าประกวด ทุกรูปแบบต้องแนบมาพร้อมใบสมัคร 6 . ภาพ ถ่ายที่ส่งเข้าประกวดต้องไม่เคยได้รับรางวัลจากการประกวดใดๆ มาก่อน 7.ภาพถ่ายผลงานที่ส่งเข้าประกวด แผ่นซีดี และภาพ ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของคณะผู้จัดงานและจะไม่จัดส่งคืน 8.คณะจัดงานฯ จะมีการนำภาพไปใช้ประโยชน์ โดยเผยแพร่ภาพถ่ายและชิ้นงานทั้งหมดที่ส่งเข้าประกวด เพื่อการประชาสัมพันธ์สร้างความสนใจให้ประชาชนทั่วไปและผู้ส่งภาพเข้าประกวด มาร่วมชมงาน

ส่วน เกณฑ์การตัดสินในเบื้องต้นนั้น จะพิจารณาว่าภาพถ่ายที่ส่งเข้าประกวดต้องเป็นภาพถ่ายที่สื่อถึงความสุขและ รอยยิ้ม สอดคล้องกับหัวข้อการประกวด คือ “ ใต้ร่มพระบารมี ๘๔ พรรษา ราชการเพื่อรอยยิ้มและความสุขของคนไทย ” ที่กำหนดไว้หรือไม่ ประชาชนทั่วไปที่สนใจส่งผลงานภาพถ่ายเข้าร่วมการประกวดในครั้งนี้ สามารถส่งผลงานมาได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 25 มีนาคม 2554 โดยสามารถส่งผลงานได้ที่ ตู้ ปณ 84 แขวงสามเสนใน กรุงเทพฯ 10400 หรือ ที่อีเมลล์ infocs 2011 @ yahoo.com หรือ สอบถามเพิ่มเติม ที่หมายเลข 0 -2279 -0047 และจะมีการประกาศผลการตัดสินในวันที่ 28 มีนาคม 2554

View :1496
Categories: Press/Release Tags:

สวัสดีช้อปจัดแคมเปญโทรฟรี พิเศษสำหรับผู้ที่ต้องการโทรออกไปประเทศญี่ปุ่น

March 18th, 2011 No comments

สวัสดีช้อป จัดแคมเปญเอาใจช่วยผู้ที่มีญาติ หรือผู้ประสบภัยที่ประเทศญี่ปุ่น โดยเปิดบริการโทรฟรี ! โดยผ่านบริการ DeeDial ไปยังประเทศญี่ปุ่น เฉพาะสายที่โทรเข้าเบอร์บ้าน (Land Line) เท่านั้น ตั้งแต่วันนี้ จนถึง 15 เมษายน 2554

ทั้งนี้ ผู้ที่ยังไม่มีบัญชี DeeDial สามารถลงทะเบียนได้ทางเว็บไซต์ www.deedial.com โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

วิธีการใช้งาน โดยสามารถโทรผ่านโอเปอเรเตอร์ ทางหมายเลข 0 2353 3701 หรือโทรผ่านโทรศัพท์มือถือ โดยผ่าน DeeDial Application ซึ่งเหมาะสำหรับทั้ง Nokia, Blackberry, iPhone และ Android ซึ่งทำให้สามารถเลือกโทรตรงไปยังประเทศญี่ปุ่นได้ทันที

ผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดการดาวน์โหลดโปรแกรม DeeDial หรือ วิธีการใช้งานโทรศัพท์ ได้ทาง www.deedial.com หรือ โทร. 0 2696 9500

วิธีการติดตั้ง DeeDial Application

สำหรับมือถือไอโฟน

1. ตรวจสอบการเชื่อมต่ออินเตอร์เนตบนเครื่อง iPhone ให้พร้อมใช้งาน และเปิดโปรแกรม “App Store” จากหน้าจอ iPhone

2. กดไปที่แถบเมนู “Search” ในโปรแกรม App Store พิมพ์คำว่า deedial ในช่องค้นหาแล้วกดปุ่ม “Search” โปรแกรม “DeeDial” จะปรากฏออกมา

3. กดปุ่ม “FREE” สองครั้งเพื่อยืนยันการดาวน์โหลดโปรแกรม

4. พิมพ์ชื่อผู้ใช้งาน iTunes และรหัสผ่าน เพื่อทำการดาวน์โหลด จากนั้นเครื่อง iPhone ของท่านจะเริ่มดาวน์โหลดโปรแกรม“DeeDial” รอประมาณ 1 นาที (ทั้งนี้ความเร็วของการดาวน์โหลดขึ้นอยู่กับความเร็วของการเชื่อมต่ออินเตอร์เนต)

สำหรับโทรศัพท์มือถือ BlackBerry

1. เปิดโปรแกรม BlackBerry App World กดไปที่แถบเมนู “Search” พิมพ์คำว่า deedial ในช่องค้นหาแล้วกดปุ่ม Enter โปรแกรม “DeeDial” จะปรากฏออกมา

2. กดเลือกที่โปรแกรม “DeeDial” จากนั้นให้กดเลือกคำว่า Install

3. พิมพ์ชื่อผู้ใช้งาน BlackBerry App World และรหัสผ่าน เพื่อทำการดาวน์โหลด จากนั้นเครื่องจะเริ่มดาวน์โหลดโปรแกรม“DeeDial” รอประมาณ 1 นาที (ทั้งนี้ความเร็วของการดาวน์โหลดขึ้นอยู่กับความเร็วของการเชื่อมต่ออินเตอร์เนต)

สำหรับโทรศัพท์มือถือระบบ Android

1. ไปที่หน้าจอ “Menu” เปิดโปรแกรม “All Apps”

2. กดเลือกไอคอน “Market” (คลิ๊กที่ icon market)

3. ไปที่ “Search” มุมบนขวามือของหน้า “Market”

4. พิมพ์ “Sawasdeeshop” (หน้าจอแสดงบริการทั้งหมดของ Sawasdeeshop)

5. กดเลือก “DeeDial Service” จากนั้นกด “Install”

6. กดเลือก “OK” เพื่อยืนยันการติดตั้งโปรแกรม

สำหรับการใช้งานและการติดตั้งบนโทรศัพท์มือถือโนเกียและอื่นๆ สามารถเข้าไปดูวิธีการใช้งานได้ที่ www.sawasdeeshop.com

สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร 02-696-9598 begin_of_the_skype_highlighting 02-696-9598

View :1484
Categories: Press/Release Tags:

การลงนามความร่วมมือระหว่าง SIPA กับต่างประเทศ (International MOU) วันที่ 17 มีนาคม

March 18th, 2011 No comments

สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) จัดกิจกรรมพัฒนาตลาดต่างประเทศและเสริมสร้างผู้ประกอบการดิจิทัลคอนเทนท์และซอฟต์แวร์ไทยครัง สำคัญ 3 กิจกรรม ได้แก่ การลงนามความร่วมมือระหว่างไทยกับต่างประเทศ (International MOU) และ การบรรยายพิเศษด้านดิจิทัลคอนเทนท์ ()โดยความร่วมมือกับสำนักบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยศิลปากร นอกจากนี้ซิป้า () ยังร่วมกับ Multimedia Development Corporation (MDeC) ซึ่งเป็นหน่วยงานภาครัฐจากมาเลเซีย ในการจัดกิจกรรมการจับคู่ทางธุรกิจ (Business Matching)งาน Creative Collaboration 2011 ในครั้ง นี้ถือเป็นงานความร่วมมือทางธุรกิจครั้ง สำคัญที่แสดงศักยภาพของอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนท์และซอฟต์แวร์ไทยในระดับนานาชาติ

สำหรับ การลงนามความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการของไทยกับผู้ประกอบการจากต่างประเทศ ในกลุ่มธุรกิจดิจิทัลคอนเทนท์และซอฟต์แวร์ ซึ่ง รวมถึง New Media, Game, Animation, Film และ IP Licensing ใน ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงศักยภาพของอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนท์และ ซอฟต์แวร์ไทยให้เป็นทีรู้จักในวงกว้างผ่านเวทีความร่วมมือระหว่างประเทศ โดยหลังจากทีซิป้า (SIPA) ได้ประกาศรับสมัครผู้ประกอบการผ่านการจัดประชุมระดมความคิดและการประชาสัมพันธ์ผ่านสมาคมวิชาชีพทีเกี่ยวข้องรวมถึงผ่านทางเว็บไซต์ww.thaidigitalcontent.com นั้นทำให้มีผู้ประกอบการทั้ง ไทยและต่างประเทศสนใจสมัครเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก และหลังจากการปิดรับสมัครเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2554 สรุปมีผู้เข้าร่วมโครงการจากไทย 18 ราย และจากต่างประเทศ 22 รายจาก 12 ประเทศ ประกอบด้วยประเทศเยอรมนี สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ไต้หวัน อินเดีย มาเลเซีย สิงคโปร์เวียดนาม สปป.ลาว และประเทศกัมพูชา ทำให้เกิดข้อตกลงความร่วมมือรวม 22 ฉบับ ซึ่งประมาณการว่าจะก่อให้เกิดมูลค่าทางการค้าของฝั่งไทยถึงกว่าห้าร้อยล้านบาท โดยความร่วมมือที่จะเกิดขึ้นในครั้ง นี้ประกอบด้วย

ความร่วมมือด้านการศึกษาและถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านซอฟต์แวร์และดิจิทัลคอนเทนส์ 5 ฉบับ

ความร่วมมือด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์เกม 6 ฉบับ

ความร่วมมือด้านการพัฒนาแอนิเมชั่นทีวีซีรีส์ 8 ฉบับ

ความร่วมมือด้านธุรกิจลิขสิทธิ์ดิจิทัลคอนเทนส์ 3 ฉบับ

นอกจากนี้ซิป้า ยังได้จัดให้มีบรรยายพิเศษโดยวิทยากรจากประเทศสิงคโปร์ภายใต้แนวคิด “Digital Ocean” ซึ่ง จะเน้นการให้ความรู้ทางการทำธุรกิจเชิงสร้างสรรค์และการปกป้องสิทธิทางปัญญา รวมถึงเทคนิคข้อพึงระวังในการบริหารสิทธิ์เชิงพาณิชย์และกรณีศึกษาทีน่าสนใจ จากผู้บรรยาย ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผู้เข้าร่วมฟังบรรยายโดยเฉพาะผู้เข้าฟังจากกลุ่มธุรกิจ เป็นอย่างมาก ทั้งนี้มีผู้ให้ความสนใจเข้าร่วมฟังบรรยายทั้ง จากในประเทศและต่างประเทศกว่า 100 คนใน

วันที่สองของการจัดงาน เป็นกิจกรรมการจับคู่เจรจาทางธุรกิจซึ่ง นอกจากจะมีผู้ประกอบการจากมาเลเซียที่ทาง MDeC คัดเลือกมาร่วมงานแล้ว ยังมีผู้ประกอบการทั้ง จากทีร่วมลงนาม MOU และผู้ประกอบการที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนท์และซอฟต์แวร์ในไทยเข้าร่วมด้วย

View :2107

ไอบีเอ็มเปิดตัว "Social Business" กลุ่มผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์เพื่อเสริมศักยภาพทางธุรกิจ สู่สังคมออนไลน์

March 17th, 2011 No comments

ไอบีเอ็มตอกย้ำผู้นำตลาด ส่งซอฟต์แวร์จัดการคลังข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูล อย่างชาญฉลาด พร้อมเครื่องมือสู่สังคมออนไลน์
ช่วยองค์กรกลั่นกรองข้อมูลเพื่อการตัดสินใจทางธุรกิจ

ไอบีเอ็มเปิดตัว “Social Business” กลุ่มผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์เพื่อเสริมศักยภาพทางธุรกิจ สู่สังคมออนไลน์ และช่วยบริหารจัดการคลังข้อมูลในองค์กร นำเสนอซอฟต์แวร์ บริการ และทักษะใหม่ๆ ที่จะช่วยให้องค์กรธุรกิจและหน่วยงานภาครัฐสามารถนำข้อมูลที่มีอยู่ มาวิเคราะห์และใช้สนับสนุนการตัดสินใจได้อย่างถูกต้องแม่นยำ พร้อมปฏิรูปการดำเนินงานและรองรับกระบวนการต่างๆ จากอุปกรณ์พกพาหลากหลายSmart Phone หลากหลายประเภท

นางเจษฎา ไกรสิงขร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจซอฟต์แวร์ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า
“ไอบีเอ็มได้เปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์สำหรับ Social Business โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยเหลือองค์กรต่างๆ ในการผสานรวมข้อมูลเชิงลึกทางด้านธุรกิจจากระบบวิเคราะห์ข้อมูลและ นำสู่สังคมออนไลน์ที่มีความปลอดภัยขั้นสูงของไอบีเอ็ม
ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่การทำให้ข้อมูลที่มีอยู่ในองค์กรเป็นข้อมูลที่เชื่อถือได้ การกำกับใช้ข้อมูลหรือ Data Governance
และนำเข้าสูการจัดเก็บในคลังข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ เพื่อสามารถนำไปใช้ในการวิเคระห์ข้อมูลเชิงธุรกิจได้ พร้อมกันนี้ไอบีเอ็มมีเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด คือ Netezza ซึ่งเป็น all in one ฮาร์ดแวร์ที่มีซอฟต์แวร์พร้อมใช้งานแล้ว (Appliance) สามารถใช้ในจัดทำคลังข้อมูลโดยเฉพาะ และนำมาวิเคระห์กลั่นกลองข้อมูลเชิงธุรกิจที่ให้ผลเชิงลึกได้รวดเร็ว ตั้งแต่ 10-100 เท่า เมื่อเทียบกับระบบเดิม อีกทั้งยังสามารถติดตั้งและใช้งานได้ง่าย รวดเร็วจากเดือนเป็นวัน โดยสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและลดต้นทุนได้อีกด้วย

นอกจากนี้ ปัจจุบันจำนวนคนที่ใช้เครือข่ายทางสังคมได้ทวีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ซึ่งภาคธุรกิจได้เห็นถึงพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้ใช้งาน ทำให้ซอฟต์แวร์ทางสังคมเป็นเครื่องมือสำคัญทางด้านธุรกิจเพิ่มมากขึ้น โดยจะช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถปรับปรุงทุกแง่มุมของการดำเนินธุรกิจ ตั้งแต่กิจกรรมด้านการตลาด บริการลูกค้า งานขาย ไปจนถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์และทรัพยากรบุคคล วันนี้ไอบีเอ็มได้เปิดตัวกรอบโครงสร้างใหม่เพื่อรองรับการพัฒนาแอพพลิเคชั่นรุ่นอนาคตที่สนับสนุนการใช้งานทางด้านสังคม พร้อมทั้งแนะนำซอฟต์แวร์ใหม่ที่จะช่วยให้วิสัยทัศน์ดังกล่าวกลายเป็นจริง ตัวอย่างเช่น ไอบีเอ็มกำลังปรับเปลี่ยนกล่องอินบ๊อกซ์ด้วย “Activity Steam” ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ตั้งที่จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถแสดงและโต้ตอบกับเนื้อหาจาก Twitter, LinkedIn, Facebook, SAP, Microsoft และแพลตฟอร์มอื่นๆ ควบคู่ไปกับเนื้อหาของบริษัท
ไอบีเอ็มพยายามที่จะผนวกรวม Activity Stream เข้ากับแพลตฟอร์มด้านการประสานงานร่วมกันทางสังคมรุ่นอนาคตของไอบีเอ็มที่มีระบบความปลอดภัยสูงเหมาะกับการทำธุรกิจ โดยจะสามารถเข้าใช้งานได้จากอุปกรณ์พกพาสมาร์ทโฟน เช่น BlackBerry, Playbook, iPad, iPhone เพื่อช่วยให้บุคคลากรภายในองค์กรสามารถติดต่อและทำงานร่วมกันได้รวดเร็วและง่ายขึ้น เพราะผู้ใช้ไม่ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยสามารถใช้อีเมล์ Instant Mesaging, การประชุมผ่านเว็บและฟังก์ชั่นที่เกี่ยวข้องกับซอฟต์แวร์ทางสังคมอื่นๆเช่น Blog, Wiki, Activity

View :1527
Categories: Press/Release Tags: ,

ทรูมูฟจับมือซัมซุง ชวนบล็อกเกอร์ร่วมพิสูจน์ความแรงเครือข่ายทรูมูฟ 3G บนคลื่นความถี่ 850 MHz กับ Samsung Galaxy Tab

March 17th, 2011 No comments

จากภาพ กิตติณัฐ ทีคะวรรณ รองผู้อำนวยการ หัวหน้าสายงานการตลาดเชิงพาณิชย์และบริหารงานขาย บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น (ที่ 3 จากขวา) วิชัย พรพระตั้ง ผู้อำนวยการธุรกิจโทรคมนาคม บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด (ที่ 2 จากซ้าย) พร้อมด้วยบล็อกเกอร์ไอทีชั้นนำของไทย

ทรูมูฟ ผู้นำ Mobile Hi–Speed Internet นำโดย กิตติณัฐ ทีคะวรรณ รองผู้อำนวยการ หัวหน้าสายงานการตลาดเชิงพาณิชย์และบริหารงานขาย บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น ร่วมกับ ซัมซุง จัดกิจกรรม “ Real Speed Testing” เชิญ3 บล็อกเกอร์ชั้นนำของไทย อาทิ คุณกิม พลวัฑ กีรติมโนชญ์ จากเว็บไซต์ droidsans.com คุณโมเล็ก ฉกาจ ชลายุทธ จากเว็บไซต์ duocore.tv และคุณอรนุช เลิศสุวรรณกิจ ทวิตเตอร์ไอทีสาวที่มีผู้ติดตามมากมาย ร่วมพิสูจน์สุดยอดความเร็วเต็มประสิทธิภาพของเครือข่ายทรูมูฟ 3G บนคลื่นความถี่ 850 MHz ที่ทำให้ กลายเป็นแท็บเล็ต 3G แอนดรอยด์ที่เร็วที่สุดในไทย ณ ชั้น 4 ดิจิตอล พาร์ค สยามสแควร์ เมื่อเร็วๆนี้

View :1598

เด็กไทยสร้างประวัติศาสตร์ คว้าแชมป์โลก เวที PB International Championship

March 17th, 2011 No comments

นายปิยดรุณ กัลยาณมิตร หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านปฏิบัติการ บริษัท เอ็นซี ทรู จำกัด แถลงข่าวเปิดตัวเด็กไทยคว้าแชมป์โลกเวที เป็นการแข่งขันเกมส์ออนส์ไลต์ ครั้งแรกของประวัติศาสตร์ไทยที่ เด็กอายุ 15 ปีคว้าแชมป์ระดับโลกมาครองได้สำเร็จ ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งของวงการเกม E-Sport ของไทย พร้อมมอบเงินรางวัล จำนวน 100 ,000 บาท ณ อินฟินิซิตี้ ชั้น 5 สยามพารากอน พร้อมประกาศหนักแน่นผลักดันวงการ E-Sport ไทยให้ก้าวไกลสู่รับดับมืออาชีพแน่นอน เมื่อเร็วๆนี้

View :2059