Archive

Archive for December, 2012

ทรูมูฟ เอช เปิดบริการแจ้งเตือนการใช้งานดาต้าในต่างประเทศ ช่วยลูกค้าควบคุมค่าใช้จ่ายดาต้าโรมมิ่ง

December 13th, 2012 No comments


กรุงเทพฯ 13 ธันวาคม 2555 – ทรูมูฟ เอช แนะนำบริการใหม่สำหรับลูกค้านักเดินทาง “บริการแจ้งเตือนการใช้บริการดาต้าในต่างประเทศ” (Smart Alert) ช่วยแจ้งเตือนยอดการใช้บริการดาต้าขณะอยู่ต่างประเทศ ควบคุมค่าใช้จ่าย โดยระบบจะส่ง SMS แจ้งเตือน และระงับการใช้บริการดาต้าชั่วคราว เมื่อมียอดการใช้งานถึงระดับที่กำหนดไว้ โดยลูกค้าสามารถเชื่อมต่อใหม่ได้เองจากมือถือและแท็ปแล็ต หรือติดต่อศูนย์บริการลูกค้า โทร. 1331 ฟรี เพื่อให้พนักงานเชื่อมต่อสัญญาณให้อีกครั้ง พร้อมมีข้อความแนะนำเครือข่ายในประเทศที่มีโปรโมชั่น Flat Rate เพื่อความคุ้มค่าในการใช้งาน

นางสาวดรุณี รักพงษ์ไพโรจน์ ผู้จัดการทั่วไป ธุรกิจโทรศัพท์ข้ามแดนระหว่างประเทศ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “ทรูมูฟ เอช มุ่งมั่นสร้างสรรค์บริการและความร่วมมือกับผู้ให้บริการชั้นนำทั่วโลก เพื่อให้ลูกค้าได้ใช้บริการโรมมิ่งที่คุ้มค่า และตอบโจทย์ความต้องการมากที่สุด สำหรับ “บริการแจ้งเตือนการใช้งานในต่างประเทศ” ที่เปิดตัวในวันนี้ ออกแบบเป็นพิเศษเพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายจากการใช้งานดาต้าขณะที่อยู่ต่างประเทศ โดยระบบจะตั้งระดับยอดการใช้งานไว้ เมื่อลูกค้าใช้งานถึงแต่ละระดับที่กำหนด จะมี SMS แจ้งเตือน พร้อมกับลิงค์ไปยังหน้า Web Browser ซึ่งจะระบุรายละเอียดยอดค่าบริการให้ลูกค้าทราบ โดยระบบจะระงับการใช้งานดาต้าชั่วคราวให้ หากลูกค้ามีความประสงค์ที่จะใช้งานดาต้าต่อ ก็สามารถปลดล็อคได้ด้วยตนเองทันที หรือหากใช้งานเกินระดับที่สามารถปลดล็อคด้วยตนเองได้ ลูกค้าสามารถติดต่อศูนย์บริการลูกค้าได้ฟรี ที่หมายเลข +66 89 100 1331 เพื่อยืนยันความต้องการใช้งาน และให้พนักงานเชื่อมต่อสัญญาณให้อีกครั้ง ทั้งนี้ นอกจากจะช่วยให้ลูกค้าควบคุมค่าใช้จ่ายได้แล้วนั้น ระบบยังช่วยป้องกันไม่ให้ลูกค้าใช้งานผิดเครือข่ายในกรณีที่มีโปรโมชั่น Data Roaming Flat Rate โดยจะแสดงข้อความแนะนำให้ลูกค้าเปลี่ยนมาเลือกใช้เครือข่ายที่มีโปรโมชั่น เพื่อการใช้งานที่คุ้มค่ายิ่งขึ้นอีกด้วย”

ลูกค้าที่สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการลูกค้า โทร. 1331 และร้านทรูช้อป ทั่วประเทศ หรือ www.truemove-h.com

View :1351
Categories: 3G Tags: ,

เอไอเอส โชว์ศักยภาพรับยุค 3G เปิดตัว AIS Flagship Store ศูนย์รวมสุดยอดมิติใหม่งานบริการจากทีมผู้เชี่ยวชาญ เพื่อชีวิตในแบบคุณ

December 13th, 2012 No comments

13 ธันวาคม 2555 : เอไอเอส เปิดตัว แห่งแรกในประเทศไทย พร้อมรับความต้องการลูกค้าในยุค รวมสุดยอดงานบริการที่นำเทคโนโลยีเข้ามาประยุกต์ใช้เต็มรูปแบบ จากทีมพนักงาน Expert ที่เชี่ยวชาญทั้งงานบริการและเทคโนโลยีไร้สาย มุ่งอำนวยความสะดวกพร้อมมอบประสบการณ์จากมิติใหม่ของงานบริการ เพื่อชีวิตในแบบคุณ
นายมาร์ค ชอง ชินก๊อก หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารด้านปฏิบัติการ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า “ตลอดปี 2012 นับถึงไตรมาส 3 อุตสาหกรรมโทรคมนาคมมีการเติบโตถึง 10% การเติบโตของอุตสาหกรรมมือถือมี Penetration ถึง 117% เช่นเดียวกับการเติบโตทางด้าน Data ที่ก้าวกระโดดถึง 83% รวมถึงการเติบโตของยอดขาย Smart Phone ซึ่งภาพรวมมีถึง 50% ตัวเลขเหล่านี้บ่งบอกถึง ความพร้อมและความต้องการของผู้บริโภคในการใช้งาน Wireless Communication ในทุกแง่มุมของการใช้ชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันนี้ที่ประเทศไทยได้เริ่มก้าวเข้าสู่อีกขั้นของเทคโนโลยีใหม่อย่าง 3G ซึ่งแน่นอนย่อมทำให้เกิดมิติที่หลากหลายของรูปแบบการใช้งานเทคโนโลยีสื่อสารไร้สายอย่างชัดเจน”
“เอไอเอสในฐานะผู้ให้บริการ นอกเหนือจากการมุ่งมั่นพัฒนาบริการคุณภาพอย่างลึกซึ้ง ลงรายละเอียดในทุกมิติ ภายใต้แนวคิด Quality DNAs เพื่อให้สามารถส่งมอบบริการไปยังลูกค้าด้วยแนวคิด “ชีวิตในแบบคุณ” ตามที่ได้เคยประกาศความตั้งใจว่า เราพร้อมที่จะตอบสนองความต้องการถึงระดับ Micro segment ให้ได้มากที่สุดแล้ว การพัฒนางานบริการเพื่ออำนวยความสะดวกสบาย ซึ่งท้ายที่สุดจะนำมาซึ่งการครองใจลูกค้า ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่เอไอเอสให้ความสำคัญอย่างยิ่งและทำอย่างจริงจัง โดยทุ่มเทงบมากกว่า 2,000 ล้านบาทต่อปีมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นสร้างสรรค์โปรแกรม CRM-CEM, Reward&Privileges และหัวใจสำคัญอย่าง การพัฒนา Touch Point ไม่ว่าจะเป็น Call Center , Telewiz และ Shop ที่ถือเป็นหัวใจหลักของการส่งมอบบริการในธุรกิจเทคโนโลยีไร้สาย ส่งผลให้ในปีนี้ Trend ของความพึงพอใจโดยรวม (Overall Customers Satisfaction) สูงถึง 80%”
ด้าน นางวิลาสินี พุทธิการันต์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานบริหารลูกค้าและงานบริการ กล่าวว่า “กว่า 20 ปีของการดำเนินงาน แนวคิดในการส่งมอบบริการให้แก่ลูกค้ามีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง เริ่มตั้งแต่ Transaction Base , Solutions Base จนถึงปัจจุบันที่เป็น Total Experience Base ที่เราได้เริ่มส่งมอบผ่าน AIS Shop ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ทั่วประเทศ 42 แห่ง และพาร์ทเนอร์อย่างร้าน เทเลวิซ ที่นอกเหนือจากการจัดจำหน่ายแล้ว ยังร่วมส่งมอบงานบริการภายใต้มาตรฐานเอไอเอสให้แก่ลูกค้าด้วย โดยปัจจุบัน มีร้านเทเลวิซ 450 แห่ง และร้านเทเลวิซพลัส 40 แห่ง”
“สำหรับ AIS Flagship Store แห่งนี้ เราได้ทุ่มงบประมาณเป็นเงินถึง 35 ล้านบาท โดยถือเป็นผลงานที่แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจทั้งหมดในการส่งมอบบริการไปสู่ลูกค้าอย่างเป็นรูปธรรม แนวคิดของเราคือ ที่นี่จะเป็นศูนย์รวมต้นแบบการอำนวยความสะดวกแบบ Total Experience ที่นำเอาเทคโนโลยีเข้ามาเป็นเครื่องมือสนับสนุนให้งานบริการเป็นไปอย่างเหนือระดับ และส่งมอบโดยบุคลากรคุณภาพที่ผ่านหลักสูตรการฝึกอบรมอย่างเข้มข้น ทั้งงานบริการ , Device และ Application Knowledge รวมไปถึงความรู้ด้าน IP Competency ซึ่งทั้งหมดจะทำให้สามารถสร้าง Extraordinary Life ให้คุณได้อย่างแท้จริง เพราะฉะนั้น Customer Journey ของลูกค้าทุกท่านที่ก้าวเข้ามาใน AIS Flagship Store ไม่ว่าจะด้วยวัตถุประสงค์ใดก็ตาม จะพร้อมถูกรับรองด้วยกระบวนการที่ออกแบบมาอย่างดีในแต่ละวัตถุประสงค์ของลูกค้าเสมอ ซึ่งรูปแบบและแนวคิดของ AIS Flagship Store นี้จะถูกถ่ายทอดไปยัง AIS Shop ทุกสาขาทั่วประเทศ รวมถึงร้านเทเลวิซ ตามความเหมาะสมของพื้นที่และพฤติกรรมลูกค้าในแต่ละแห่งด้วยเช่นกัน”
“สิ่งที่เรามุ่งมั่นพัฒนาเพื่ออำนวยความสะดวกและสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้าตามหลักของ Total Experience ผ่านช่องทางงานบริการ ประกอบด้วย
1. บุคลากรคุณภาพ ที่ผ่านหลักสูตรการฝึกอบรมอย่างเข้มข้น ทั้งหลักสูตรด้าน Customer Service , หลักสูตรด้าน IP Competency รวมถึงการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ผู้ผลิต Device และ ผู้พัฒนา Application จัดฝึกอบรมตามมาตรฐานสากลของแต่ละผู้ผลิต เพื่อให้สามารถแนะนำ ช่วยเหลือลูกค้าในการเลือก Smart Device และ Application ได้อย่างถูกต้อง สอดคล้องกับความต้องการอย่างแท้จริง
2. เทคโนโลยีที่นำมายกระดับงานบริการ เพื่อความสะดวก รวดเร็ว และประสบการณ์พิเศษจากงานบริการ อาทิ

- ระบบคิวอัจฉริยะ หรือ AIS Smart Booking Appointment ที่สามารถทำการนัดหมายได้ล่วงหน้า
- โต๊ะข้อมูลอัจฉริยะ หรือ AIS Smart Table ที่นำเทคโนโลยี Multi Touch Screen เข้ามาประยุกต์ใช้ ในรูปแบบของโต๊ะข้อมูล ที่มีหน้าจอสัมผัสขนาดกว่า 1 เมตร พร้อมด้วยแพล็ตฟอร์ม PixelSense ที่เมื่อวาง Smart Device แต่ละรุ่นลงไป จะแสดงคุณสมบัติเปรียบเทียบทันที โดยเฉพาะการแสดงภาพความละเอียดจากกล้องของ Smart Device แต่ละรุ่น, การสัมผัส AIS Application ที่จำลองมาให้เห็นภาพได้เสมือนจริงเพียงปลายนิ้ว รวมไปถึงรายละเอียดโปรโมชั่นทั้งหมด
- ระบบโอนถ่ายข้อมูล หรือ Express Data Transfer ที่สามารถโอนย้ายข้อมูลจากมือถือเครื่องเดิมมายัง Smart Device เครื่องใหม่ได้อย่างรวดเร็วจากเดิม 30 นาที เหลือเพียงภายใน 5 นาที ด้วยความครบถ้วนสมบูรณ์ ถูกต้อง
- ตู้บริการอัจฉริยะ หรือ Service Kiosk ตู้บริการออนไลน์รูปแบบใหม่ ที่ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมทุกเรื่องได้ด้วยตัวเอง อาทิ การเปลี่ยนโปรโมชั่น ตรวจสอบรายละเอียดการโทร เปลี่ยนที่อยู่ และอื่นๆ ตลอด 24 ชั่วโมง แม้ Shop จะไม่ได้เปิดทำการก็ตาม
- ตู้ชำระอัจฉริยะ หรือ Payment Kiosk จุดให้บริการธุรกรรมทางการเงิน ที่ลูกค้าสามารถชำระค่าบริการ GSM Advance, เติมเงิน One-2-Call! และชำระค่าสาธารณูปโภคอื่นๆได้สะดวกสบายเพียงปลายนิ้ว ทั้งรูปแบบเงินสดและบัตรเครดิต โดยพร้อมให้บริการ 24 ชั่วโมงเช่นกัน
3. เทคโนโลยีที่นำมาส่งมอบความพิเศษและเพิ่มสีสัน เมื่อมาใช้บริการ อาทิ
- AIS Video wall ที่นำเทคโนโลยี Augmented Reality หรือ AR มาสร้างความสนุก และสีสันแบบ Interactive โดยเอไอเอส เป็น Operator ไทยรายแรกที่นำเทคโนโลยีนี้มาแสดงที่ AIS Flagship Store ด้วย Theme หลากหลายเหมาะกับเทศกาลต่างๆ
- AIS Digital Magazine ให้คุณเพลิดเพลินกับนิตยสารจาก AIS Book Store ในระหว่างเข้ามาใช้บริการ
- AIS Free Wifi เพื่อให้ลูกค้าสามารถเชื่อมต่อได้ตลอดเวลา เมื่อมาใช้บริการใน AIS Shop ทุกครั้งรวมไปถึงการให้ข้อมูลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหว ข่าวสาร ของงานบริการต่างๆของเอไอเอส ที่จะอยู่ในรูปแบบของ Digital media ทั้งหมด
โดยการยกระดับงานบริการของ AIS Flagship Store , AIS Shop และ ร้านเทเลวิซทั่วประเทศ จะทำให้เราสามารถรองรับบริการลูกค้าได้เร็วกว่าเดิมถึง 30%” คุณวิลาสินี เน้น
ทั้งนี้ นายมาร์ค ได้กล่าวในตอนท้ายว่า “ผมเชื่อมั่นว่าจากนี้เป็นต้นไป เราจะได้เห็นภาพการแข่งขันด้าน Customer Service อย่างรุนแรง และจะเกิด New Chapter ของการทำงานด้านนี้ ซึ่งเอไอเอสถือได้ว่าเป็นผู้กำหนดมาตรฐานด้านนี้มาโดยตลอด ดังเช่นการเปิดตัว AIS Flagship Store ที่แสดงให้เห็นว่า เราเป็น Mobile Operator เพียงรายแรกและรายเดียวที่ให้ความสำคัญกับงานบริการคุณภาพ และมุ่งมั่นตั้งใจพัฒนาจนเกิด ต้นแบบ Masterpiece ที่พร้อมมอบบริการในยุคนี้ได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ความนิยมใช้งานดาต้าของคนไทยเพิ่มขึ้น จากการที่ประเทศไทยได้ก้าวไปอีกขั้นกับเทคโนโลยีอย่าง 3G ซึ่งเราพร้อมเป็นกำลังหลักในการสนับสนุนให้เทคโนโลยีสื่อสารไร้สายสามารถสร้างประโยชน์ทั้งแก่บุคคลและประเทศชาติอย่างเต็มกำลังแน่นอน”
AIS Flagship Store พร้อมให้ลูกค้าได้มาสัมผัสประสบการณ์แบบ Total Experience เต็มรูปแบบแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ณ ชั้น 4 ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ais.co.th

View :1420

ดีแทคเปิดตัว iPad mini และ iPad with Retina display พร้อมจำหน่ายแล้ววันนี้

December 12th, 2012 No comments

กรุงเทพฯ – 11 ธันวาคม 2555 – ดีแทคประกาศเปิดตัว และ iPad with Retina display ในรุ่น Wi-Fi + Cellular พร้อมจำหน่ายที่สำนักงานบริการลูกค้าดีแทคแล้ววันนี้ นอกจากนี้ยังได้จัดเตรียมแพ็กเกจคุ้มค่าต้อนรับลูกค้า กับ แพ็กเกจ ในราคาพิเศษเริ่มต้นเพียง 199 บาท พร้อมเล่น wifi ได้ถึง 6 เดือน

iPad ใหม่ล่าสุด 2 รุ่น ซึ่งพร้อมวางจำหน่ายที่ดีแทคแล้ววันนี้ ประกอบด้วย iPad mini และ iPad with Retina display ในรุ่น Wi-Fi + Cellular มาครบทั้งสีขาวและสีดำ ในรุ่น 16 GB, 32 GB และ 64 GB
โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

ดีแทคยังได้เตรียมแพ็กเกจพิเศษสำหรับลูกค้าใหม่ด้วยแพ็กเกจ Aircard-Tablet 399 ลดราคาพิเศษ เหลือเพียง 199 บาทต่อเดือน เล่นเน็ตไม่จำกัดพร้อมความเร็ว 3G จำนวน 1GB และสามารถใช้ dtac wifi ได้ฟรีถึง 6 เดือนอีกด้วย

นายปกรณ์ พรรณเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาด บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) กล่าวว่า “เนื่องจากมีลูกค้าให้ความสนใจ iPad mini เป็นจำนวนมาก ซึ่งจำนวนเครื่องในช่วงแรกนั้นมีจำนวนจำกัด ดีแทคจะทยอยจำหน่ายตามจำนวนสินค้าจริงที่มี โดยจะเริ่มจำหน่ายให้กับลูกค้าดีแทคที่ใช้นานเกินกว่า 10 ปีเป็นกลุ่มแรก และจะพร้อมจำหน่ายและให้บริการแก่ลูกค้าดีแทคทุกท่าน โดยเร็วที่สุดครับ”

คุณสมบัติตัวเครื่อง
iPad with Retina display คมชัดด้วยหน้าจอ Retina 9.7 นิ้ว ใช้ชิพ A6X ที่ Apple ออกแบบมาเป็นพิเศษ กล้องความละเอียดสูงแบบ FaceTime HD
iPad mini มาพร้อมดีไซน์ใหม่หมด บางเฉียบกว่า iPad ถึง 23% มีน้ำหนักเบากว่า iPad เจเนอเรชั่น 3 ถึง 53% รวมทั้งยังใช้หน้าจอความละเอียดสูงแบบมัลติทัชขนาด 7.9 นิ้ว กล้อง FaceTime HD และ iSight ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล นอกจากนี้แบตเตอรี่ยังใช้งานได้นานถึง 10 ชั่วโมง*
ทั้งสองผลิตภัณฑ์ใหม่ติดตั้ง iOS6 มีคุณสมบัติการใช้งานใหม่ๆ มากถึง 200 รายการและยังเป็นระบบปฎิบัติการที่รองรับการทำงานบนเครือข่ายดีแทค 3G

ผู้สนใจสามารถซื้อ iPad mini และ iPad with Retina display ได้ที่ สำนักงานบริการลูกค้าดีแทค หรือติดตามข้อมูลเกี่ยวกับโปรโมชั่นเพิ่มเติมได้ที่ www.dtac.co.th และสามารถดูข้อมูลผลิตภัณฑ์ได้ที่www.apple.com/ipad

*อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าเครื่อง การใช้งาน และปัจจัยอื่นๆ และผลการใช้จะแตกต่างกันไป

View :1437
Categories: Tablet Tags: ,

Autodesk นำไปสู่ยุคใหม่ของการออกแบบบนคลาวด์ มหาวิทยาลัยออโตเดสก์ 2012 เปิดเผยครั้งแรกของโลกกับ 3D CAD ที่ครอบคลุมบนคลาวด์

December 12th, 2012 No comments


กรุงเทพฯ, มหาวิทยาลัยออโตเดสก์ – 12 ธันวาคม 2555 – ออโตเดสก์, อิงค์ (NASDAQ: ADSK) ผู้นำระดับโลกด้านคลาวด์เบสด้านการออกแบบและเอ็นจิเนียร์ซอฟต์แวร์ เปิดเผยตัวอย่างของ Autodesk Fusion 360 ครั้งแรกของโลกที่นำเสนอโมเดล ครอบคลุมคลาวด์เบส 3 มิติที่มหาวิทยาลัยออโตเดสก์

Autodesk Fusion 360 ช่วยให้มืออาชีพด้านการออกแบบและวิศวกรรมสร้างสรรค์การออกแบบผลิตภัณฑ์ 3 มิติและทำงานร่วมกับผู้อื่นบนคลาวด์ได้งายขึ้น เทคโนโลยีคลาวด์อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ Autodesk Fusion 360 ทำให้เข้าถึงได้ทุกที่และทุกเวลาจากโทรศัพท์มือถือหรือเว็บเบราเซอร์ และใส่ข้อมูลสำคัญให้เป็นศูนย์กลางในการออกแบบ นอกจากนี้ยังสนับสนุนการออกแบบในลักษณะเปิด, ช่วยให้นักออกแบบทำงานได้ง่ายและแก้ไขข้อมูล CAD ได้จากทุกๆ แหล่งข้อมูลอย่างแท้จริง

“คลาวด์สามารถทำให้เข้าถึงข้อมูลที่เป็นศูนย์กลางของกระบวนการออกแบบผลิตภัณฑ์อย่างอิสระได้จากทุกที่ทุกเวลา” กล่าวโดย โรเบิร์ต บัซ ครอส รองประธานอาวุโสฝ่ายการออกแบบ, วงจรชีวิตและการจำลองที่ออโตเดสก์ “Autodesk Fusion 360 ทำให้การทำงานง่ายและเป็นโซลูชั่นการออกแบบคลาวด์เบสที่สมบูรณ์สำหรับนักออกแบบและวิศวกร”

Autodesk Fusion 360 ยกระดับแพลทฟอร์มคลาวด์เบส Autodesk 360 และเพิ่มรายการสำหรับผู้ผลิตอีกด้วย ซึ่งประกอบไปด้วย Autodesk PLM 360 ผลิตภัณฑ์คลาวด์เบสสำหรับการจัดการวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ และ Autodesk Simulation 360 เป็นชุดเครื่องมือที่ครอบคลุมการจำลองและการส่งข้อมูลแบบปลอดภัยบนคลาวด์

อุตสาหกรรมการออกแบบ 3 มิติและเครื่องกลบนคลาวด์
เครื่องมือการออกแบบที่ครอบคลุมผลิตภัณฑ์ทั้งหมดมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจระดับมืออาชีพขนาดเล็ก ความสามารถของ Autodesk Fusion 360 ครอบคลุมไปได้ทุกซอกทุกมุมของการออกแบบอุตสาหกรรมและเครื่องจักรกล คลาวด์นำเสนอการเข้าถึงข้อมูลจากทุกที่ทุกเวลา พร้อมกับความสามารถในการพัฒนาการทำงานและความร่วมมือกันทางสังคม Autodesk Fusion 360 ยังเชื่อมต่อกับความสามารถขั้นสูง เช่น ม็อคอัพขนาดใหญ่, การจำลอง, ระบบการจัดการวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์และการแสดงผล

สร้างประสบการณ์ครั้งใหม่ให้กับผู้ใช้
Autodesk Fusion 360 มอบประสบการณ์การใช้ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงผ่านอินเตอร์เฟซที่ใช้งานง่ายสอดคล้องกับบทบาทและระดับของความเชี่ยวชาญของผู้ใช้ Autodesk Fusion 360 ให้คำแนะนำแก่ผู้ใช้มือใหม่เพื่อเพิ่มความเร็วในระยะเวลาการเรียนรู้และความสามารถในการปิดคำแนะนำและเข้าถึงฟังก์ชั่นที่ลึกกว่าสำหรับนักออกแบบมืออาชีพ สามารถเริ่มการออกแบบได้ภายในไม่กี่นาทีและสามารถบูรณาการการทำงานกับเครื่องมือการทำงานร่วมกันในสังคมได้

เมื่อเร็วๆ นี้ Redpoint Studios ซึ่งเป็นบริษัทออกแบบและให้คำปรึกษาด้านวิศวกรรมผลิตภัณฑ์มีฐานอยู่ที่ประเทศอังกฤษ ได้ใช้ Autodesk Fusion 360 ช่วยลูกค้าของพวกเขาในการนำผลิตภัณฑ์ใหม่เข้าสู่ตลาดได้เร็วขึ้น “ระยะเวลาการเรียนรู้นับเป็นสิ่งที่รับรู้ได้ด้วยประสาทสัมผัสหรือประสบการณ์ วันที่ผมสร้างแบบจำลองของอาคารและการส่งผ่านนั้นต้องใช้เวลาเป็นเดือนหรือไม่ก็เป็นปีในการทำงานให้สำเร็จในโปรแกรมออกแบบ NURBS” กล่าวโดย แมทธิว แฮร์ริส นักออกแบบเกี่ยวกับอุตสาหกรรมที่ Redpoint Studios, LLC

การจัดหา
Autodesk Fusion 360 จะสามารถหาใช้ได้ในราคาที่สามารถจ่ายได้สำหรับธุรกิจทุกขนาด โมเดลการส่งนี้จะให้ความยืดหยุ่นสูงสุดและขจัดค่าใช้จ่ายล่วงหน้าของลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ เช่นเดียวกับค่าใช้จ่ายประจำปีของการปรับปรุงและอัพเกรดซอฟต์แวร์ Autodesk Fusion 360 เป็นไอเดียที่เหมาะสมสำหรับมืออาชีพและธุรกิจขนาดเล็กที่กำลังมองหาเครื่องมือออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ยืดหยุ่นเหมาะสำหรับความต้องการในโปรเจ็คของพวกเขา

Autodesk Fusion 360 คาดว่าจะสามารถใช้ได้ทั่วไปในปีหน้า สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมท่านสามารถเยี่ยมชมได้ที่ www.autodesk.com/fusion360

เกี่ยวกับออโตเดสก์
ออโตเดสก์ อิงก์ เป็นผู้นำระดับโลกด้านซอฟต์แวร์เพื่องานออกแบบในด้าน 3D design งานเอ็นจิเนียร์และเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ มีลูกค้าในอุตสาหกรรมที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นการผลิต, การออกแบบและก่อสร้าง และมีเดียและเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ รวมไปถึง 17 อะคาเดมี่ที่ได้รางวัลชนะเลิศสำหรับสาขา Best Visual Effects ที่ใช้ซอฟต์แวร์, แอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ, คลาวด์เซอร์วิสและชุมชนออโตเดสก์ในการออกแบบ วิช่วลไลซ์ จำลองและติดต่อสื่อสารกับแนวความคิดของพวกเขา ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2525 ที่ได้เริ่มเปิดตัวซอฟต์แวร์ AutoCAD บริษัทออโตเดสก์ได้พัฒนาซอฟต์แวร์ต่างๆ ให้ทันสมัยอย่างต่อเนื่องสำหรับตลาดทั่วโลก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมท่านสามารถเยี่ยมชมที่ www.autodesk.com

เกี่ยวกับมหาวิทยาลัยออโตเดสก์
มหาวิทยาลัยออโตเดสก์ (Autodesk University) เป็นกิจกรรมประจำปีของคนในออโตเดสก์และการประชุมกันของผู้ใช้ ซึ่งรวมไปถึงกิจกรรมของมหาวิทยาลัยออโตเดสก์ที่ลาสเวกัส เช่นเดียวกับกิจกรรมระหว่างประเทศอย่าง มหาวิทยาลัยออโตเดสก์ญี่ปุ่น, บราซิล, รัสเซีย, เยอรมนีและจีน เนื้อหาออนไลน์ที่เกี่ยวข้องสามารถใช้ได้ผ่าน Autodesk University Virtual กิจกรรมในปี 2555 นี้จะนำนักออกแบบ, วิศวกร, สถาปนิกและดิจิตอลอาร์ตทิสกว่า 70,000 คนมารวมตัวกันเพื่อเรียนรู้, เชื่อมต่อและสำรวจ ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเยี่ยมชมได้ที่ Autodesk University

View :1384
Categories: Press/Release Tags:

ทรูออนไลน์ รุกขยายฐานสู่กลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดกลาง – ย่อม เปิดตัว โซลูชั่นใหม่เพื่อร้านเกมออนไลน์ชั้นนำโดยเฉพาะ

December 12th, 2012 No comments


ชูจุดเด่นทั้งความเสถียร บริการหลังการขาย ระบบคอลล์เซ็นเตอร์ และระบบจัดเก็บข้อมูลสำรอง

โชว์ศักยภาพผู้ให้บริการโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงอันดับ 1 ของไทย รุกขยายฐานสู่กลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดกลาง-ย่อย เปิดตัวโซลูชั่นวงจรสื่อสารข้อมูลความเร็วสูงรูปแบบใหม่ เจาะความต้องการใช้งานเฉพาะกลุ่ม ประเดิมเอาใจกลุ่มร้านเกมออนไลน์ทั่วประเทศ เน้นจุดเด่นเรื่องความเสถียรด้านความเร็วในการใช้งาน อัพโหลดและดาวน์โหลดเร็วเท่ากัน พร้อมระบบลิ้งค์สำรองแบบอัตโนมัติ รวมทั้งการให้บริการหลังการขายและทีมคอลล์เซ็นเตอร์ตามมาตรฐานการให้บริการลูกค้าองค์กร มั่นใจตอบโจทย์ตรงใจผู้ประกอบธุรกิจร้านเกมออนไลน์ทั่วประเทศ ตั้งเป้าขยายฐานสู่กลุ่มร้านเกมได้กว่า 30,000 รายทั่วประเทศ

นายเจริญ ลิ่มกังวาฬมงคล ผู้อำนวยการบริหาร ธุรกิจทรูออนไลน์ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ด้วยศักยภาพและความโดดเด่นของทรูออนไลน์ ผู้นำบริการโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงอันดับ 1 ของประเทศ ที่พร้อมให้บริการบรอดแบนด์ผ่านหลากหลายเทคโนโลยี ทั้ง xDSL, DOCSIS 3.0 รวมทั้ง MPLS เพื่อลูกค้าองค์กร ทำให้สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการใช้งานของลูกค้า ล่าสุด พัฒนาโซลูชั่นใหม่เพื่อลูกค้าธุรกิจขนาดย่อย โดยเฉพาะเจ้าของร้านเกมออนไลน์ชั้นนำ โดยประยุกต์จากโซลูชั่นสำหรับลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ ที่ให้บริการวงจรสื่อสารข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ด้วยเทคโนโลยี MPLS ซึ่งมีความเสถียรสูง สามารถให้ความเร็วในการอัพโหลดและดาวน์โหลดเท่ากัน รวมถึง การมีระบบสำรองอัตโนมัติหากเกิดปัญหา ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยสำคัญในการแข่งขันให้บริการของธุรกิจเกมออนไลน์ รวมทั้งยกระดับมาตรฐานการให้บริการให้เทียบเท่าสากล ทำให้มั่นใจว่า โซลูชั่นนี้จะเป็นที่สนใจ และได้การตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ประกอบธุรกิจร้านเกมออนไลน์กว่า 30,000 ราย ทั่วประเทศภายในปี 2556

นายชูมนัส เกษเสถียร รองผู้อำนวยการ สายงานบริการดาต้า บริษัท ทรู ยูนิเวอร์แซล คอนเวอร์เจนซ์ จำกัด กล่าวว่า ตลาดร้านเกมออนไลน์ในประเทศไทย มีขนาดใหญ่และมีการเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการประกอบธุรกิจดังกล่าว เน้นประสิทธิภาพการใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ที่แตกต่างจากการใช้งานของลูกค้าบ้าน จึงเป็นที่มาของการพัฒนาโซลูชั่นของทรูออนไลน์ เพื่อผู้ประกอบการร้านเกมโดยเฉพาะ ทั้งแฟรนไชส์ร้านเกมจำนวนกว่า 5,000 ร้าน ร้านเกมระดับพรีเมี่ยมที่มีหลายสาขาจำนวนกว่า 1,000 ร้าน ร้านที่มีการจัดแข่งเกมแบบทัวร์นาเมนต์ รวมถึงร้านเกมขนาดกลางจำนวนกว่า 10,000 ร้าน ที่ต้องการยกระดับบริการให้สามารถแข่งขันขันกับร้านแบบแฟรนไชส์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งนอกเหนือจากจุดเด่นเรื่องความเสถียรในการใช้งาน และความเร็วในการอัพโหลดดาวน์โหลดที่เท่ากัน พร้อมระบบลิ้งค์สำรองแบบอัตโนมัติแล้ว ยังสามารถให้บริการหลังการขายภายใน 4 – 6 ชั่วโมง มีทีมคอลล์เซ็นเตอร์ดูแลโดยเฉพาะ รวมทั้งมี Fixed IP สำหรับทุกวงจรที่จะทำให้ แสดงตัวตนโดยเฉพาะของร้านได้ ทำให้ผู้เล่นได้รับ IP โบนัสจากเกม ซึ่งจะช่วยในเรื่องการตลาดและดึงคนมาเล่นเกมที่ร้านได้มากขึ้น และช่วยสร้างคอมมูนิตี้ของคอเกมด้วย ทั้งนี้ ทรูออนไลน์ ได้จัดโซลูชั่นแพ็คเกจให้ผู้ประกอบการร้านเกมเลือกใช้บริการตามต้องการ พร้อม เราท์เตอร์คุณภาพของซิสโก้ ดังนี้
Package ความเร็ว ราคา จำนวนที่นั่ง
ที่แนะนำ
วงจรสำหรับ Game โดยเฉพาะ วงจรสำหรับ Internet โดยเฉพาะ
Game Lite 512K / 512K 9M / 1M 7,500 ประมาณ 15 – 20
Game 1 1M / 1M 16M / 1M 9,900 ประมาณ 30 – 40
Game 2 2M / 2M 32M / 3M 13,500 ประมาณ 50 – 60
Game 3 3M / 3M 40M / 4M 16,200 ประมาณ 70 – 90
Game 4 4M / 4M 48M / 4M 18,900 ประมาณ 120

View :1371

เอไอเอส ยืนยันความพร้อมให้บริการ 3G อย่างมีคุณภาพสูงสุด เพื่อคนไทย

December 12th, 2012 No comments

12 ธันวาคม 2555 : นายวิเชียร เมฆตระการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า “บริษัทฯขอขอบพระคุณ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ที่เห็นความสำคัญของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคมของประเทศ โดยได้อนุมัติมอบใบอนุญาตให้บริการ แก่ผู้ประกอบการทั้ง 3 ราย ในช่วงที่ผ่านมา”

“สำหรับเอไอเอสแล้ว เราได้มีการเตรียมความพร้อมมาอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการส่งมอบบริการ 3G อย่างมีคุณภาพสูงสุดในทุกด้าน อาทิ
- การพัฒนางานด้าน Customer Service หรือ บริการลูกค้า อาทิ การเสริมศักยภาพงานบริการของ Shop, Call Center และร้านเทเลวิซ ได้เตรียมเงินลงทุนไว้มากกว่า 2,000 ล้านในปี 2013 เพื่อพัฒนาศักยภาพรองรับการใช้งาน Data ของลูกค้า ประเดิมด้วยการเปิดตัว Flagship Store ในวันที่ 12 ธันวาคม 2555
- การร่วมมือกับพาร์ทเนอร์นำ Smart Device พร้อมการพัฒนา Application เพื่อตอบพฤติกรรมใช้งาน 3G
- ขออนุมัติเลขหมายจาก กสทช. เพื่อพร้อมต่อการให้บริการได้อย่างรวดเร็ว ในช่วงของการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ
“โดยขณะนี้บริษัทฯ ได้เร่งติดตั้งเครือข่าย 3G คลื่น 2.1 GHz เพื่อเตรียมพร้อมในการเปิดตัวการให้บริการ 3G อย่างรวดเร็วที่สุดและคาดว่าจะสามารถให้บริการได้ภายในครึ่งปีแรกของปี 2556 ส่วนงบประมาณในการลงทุนนั้น ล่าสุดบริษัทฯ ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการบริษัทฯ สำหรับเงินลงทุนเบื้องต้นในการเปิดให้บริการในเฟสแรกเป็นเงินประมาณ 13,000 ล้านบาท”
นายวิเชียร ย้ำในตอนท้ายว่า “บริษัทฯ ขอยืนยันว่า จะมุ่งเน้นการส่งมอบบริการอย่างมีคุณภาพสูงสุด จากศักยภาพของพนักงานเอไอเอสมากกว่า 9,000 คน ที่มีความรู้ ความสามารถและประสบการณ์ในการให้บริการมากว่า 22 ปี ด้วยอัตราค่าบริการที่สมเหตุ สมผล และเป็นธรรมต่อลูกค้าอย่างแน่นอน”

View :1531
Categories: 3G Tags: ,

ดีแทคและยูนิเซฟร่วมลงนามใน MoU เพื่อรณรงค์เรื่องสิทธิเด็ก

December 12th, 2012 No comments

12 ธันวาคม 2555 – นายจอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์ (ขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น และนายพิชัย ราชภัณฑารี (ซ้าย) ผู้แทนองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย ร่วมกันลงนามในพิธีบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างดีแทค และยูนิเซฟ ประเทศไทย การลงนามนี้เป็นความตกลงร่วมกันโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีไร้สายในการรณรงค์เรื่องการพัฒนาคุณภาพเด็กตั้งแต่แรกเกิด ควบคู่ไปกับการส่งเสริมเรื่องการคุ้มครองสิทธิเด็กในประเทศไทย พิธีดังกล่าวมี นายอานันท์ ปันยารชุน (กลาง) ทูตยูนิเซฟประจำประเทศไทยร่วมเป็นสักขีพยาน ในการดำเนินการโครงการนี้ ดีแทคมุ่งเน้นการนำเทคโนโลยีการสื่อสารมาใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาสังคมและคุณภาพชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งแก่กลุ่มสตรีและเด็กด้อยโอกาสซึ่งอยู่ในพื้นที่ห่างไกล

View :1362
Categories: Press/Release Tags:

ครั้งแรกกับเปิดตัวเว็บไซต์ใหม่เพื่อเยาวชนและผู้สูงวัย www.ลำไย.com โดยมูลนิธิลองกานอยด์

December 12th, 2012 No comments


ครั้งแรกกับเปิดตัวเว็บไซต์ใหม่เพื่อเยาวชนและผู้สูงวัย www.ลำไย.com โดยมูลนิธิลองกานอยด์ เพื่อเป็นสื่อกลางในการเผยแพร่ข้อมูลและบทความสาระน่ารู้เกี่ยวกับผลไม้ลำไย รวมถึงกิจกรรมต่างๆ ของมูลนิธิที่จัดตั้งขึ้นเพื่อเยาวชนและผู้สูงวัยโดยเฉพาะ พร้อมเชิญชวนโหวตศิลปินดีเด่นผู้อุทิศตนเพื่อสังคมและผู้สูงวัยผ่านทาง เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/L.sharesmile ซึ่งจะประกาศผลในงานแชร์สมาย บาย ลองกานอยด์ ครั้งที่ 2 วันที่ 24 ธันวาคม 2555 ณ สโมสรทหารบกวิภาวดี

เภสัชกร อัครวิชญ์ วินิจเขตคำนวณ ประธานมูลนิธิลองกานอยด์ เปิดเผยว่า “www.ลำไย.com โดยมูลนิธิลองกานอยด์ก่อตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ที่จะส่งเสริมพัฒนา สนับสนุนและให้ความช่วยเหลือ รวมทั้งจัดฝึกอบรมให้ความรู้แก่ประชาชนทั่วไปรวมถึงผู้สูงวัยที่ประสบปัญหาเกี่ยวกับโรคข้อ เข่า กล้ามเนื้อ เอ็น แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ในการรักษาให้กลับมามีรอยยิ้ม และสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุข โดยนำรายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายครีมนวดสารสกัดเมล็ดลำไยลองกานอยด์มาสมทบทุนช่วยเหลือผู้สูงวัย รวมถึงบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือพระสงฆ์ที่ชราภาพ พระสงฆ์ผู้อาพาธ ผู้ป่วยสูงวัยที่ยากไร้และผู้ป่วยอนาถาตามโรงพยาบาลต่างๆ ด้วย”

www.ลำไย.com เป็นเว็บไซต์ที่รวบรวมข้อมูลและบทความสาระน่ารู้เกี่ยวกับผลไม้ลำไย ซึ่งในอดีตผลไม้ลำไยนั้นมีราคาตกต่ำภายหลังจากที่เกษตรกรแปรรูปอบแห้งแล้ว เมล็ดลำไยจำนวนมากจะถูกนำไปเผาทิ้งจนเกิดเป็นมลภาวะ เมล็ดลำไยถือเป็นขยะที่ใครๆต่างมองว่าไม่มีค่า ในขณะที่ตำราแพทย์แผนจีนโบราณกล่าวว่า ลำไยเป็น 1 ใน 5 ผลไม้อายุวัฒนะ จุดนี้เป็นจุดเริ่มต้นงานวิจัยโดย ศ.ดร.อุษณีย์ วินิจเขตคำนวณ ที่ค้นพบว่าในเมล็ดลำไยอุดมไปด้วย Gallic, Ellagic และสารฟลาโวนอยด์อีกหลายๆชนิด ซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูง สามารถใช้บำบัดอาการมะเร็ง รวมทั้งอาการอักเสบของไขข้อและกล้ามเนื้อ ด้วยทุนวิจัยจากสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตรหรือสวก.เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับลำไย จึงมีการพัฒนาสารสกัดเมล็ดลำไยขึ้นเป็นครีมนวดที่มีฤทธิ์ยับยั้งการสลายองค์ประกอบพื้นฐานของกระดูกอ่อนได้ดี อีกทั้งยังยับยั้งเอนไซม์แมทริกซ์เมทัลโลโปรทีเนสไม่ให้ย่อยสลายโครงสร้างกล้ามเนื้อคลอลาเจน และอิลาสตินมีส่วนช่วยยับยั้งการสึกหรอของกระดูกและกล้ามเนื้อก่อนเวลาอันควร

นอกจากนี้ www.ลำไย.com และมูลนิธิลองกานอยด์ยังเปิดโอกาสให้ผู้สนใจร่วมสนุกกับกิจกรรมคลิกโหวตเพื่อมอบรางวัล Popular Vote The Aged Award 2012 รางวัลศิลปินดีเด่นผู้อุทิศตนเพื่อสังคมและผู้สูงวัยผ่านทาง เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/L.sharesmile และ www.ลำไย.com ภายใต้คำนิยาม “วัยรุ่นไทย หัวใจใหม่ ดูแลผู้สูงวัย” ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีแก่เยาวชนรุ่นใหม่ให้ใส่ใจกับผู้สูงวัย โดยพิธีมอบรางวัลจะจัดขึ้นในงานแชร์สมาย บาย ลองกานอยด์ ครั้งที่ 2 หรือโครงการนวัตกรรมไทย ปันรอยยิ้ม (เพื่อผู้สูงวัย) ซึ่งจะจัดขึ้นในวันจันทร์ที่ 24 ธันวาคม 2555 ตั้งแต่เวลา 08.00 – 15.00 น. ณ ห้องมัฆวานรังสรรค์ (ชั้น 3) สโมสรทหารบกวิภาวดี กรุงเทพฯ โดยได้รับเกียรติจากท่านรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประธานเปิดงาน

ภายในงานมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย อาทิ การตรวจสุขภาพและนวดบำบัดโดยนักกายภาพ พยาบาล และหมอนวดเพื่อสุขภาพ ทำนายดวงชะตารับศักราชใหม่กับหมอดูชื่อดัง 12 ท่าน เสวนาสุขภาพกับคุณหมอ สอนเทคนิคการนวดบำบัดด้วยตนเองที่บ้านโดยผู้อำนวยการโรงเรียนสอนนวดแผนไทยเชียงใหม่ และมูลนิธิลองกานอยด์ร่วมกับสหพันธ์ชมรมผู้สูงอายุกรุงเทพมหานคร ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางแค และชมรมชี่กง กรมอนามัยจัดกิจกรรมทำบุญส่งท้ายปีทำดีเพื่อสังคมไปพร้อมๆ กันด้วย

“นอกจากนี้ www.ลำไย.com และมูลนิธิลองกานอยด์จะนำรายได้จากการจำหน่ายครีมนวดสารสกัดเมล็ดลำไยและเงินบริจาคเสื้อโครงการแชร์สมาย ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2555 จนถึง 28 กุมภาพันธ์ 2556 ทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อสมทบทุนมูลนิธิบ้านบางแคในพระอุปถัมภ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ และในวันงานกล่องเปล่าครีมนวดสารสกัดเมล็ดลำไยลองกานอยด์ทุกกล่องจะมีมูลค่า 5 บาท เพื่อสมทบทุนให้แก่มูลนิธิโรคไตแห่งประเทศไทย ผู้สนใจเข้าร่วมงานได้ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น สำรองที่นั่งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 053-222-778 หรือคลิกไปที่ www.ลำไย.com รับจำนวนจำกัดเพียง 1,000 ที่นั่งเท่านั้น” เภสัชกรอัครวิชญ์กล่าวสรุป

View :1375
Categories: Press/Release Tags:

ไอบีเอ็มเปิดตัวโครงการเสริมทักษะให้กับนักศึกษาและบุคลากรด้านไอทีเตรียมพร้อมสำหรับการทำงานในอนาคต

December 12th, 2012 No comments

ไอบีเอ็ม เปิดตัวโครงการและทรัพยากรใหม่ๆ เพื่อช่วยให้นักศึกษาและบุคลากรด้านไอทีพัฒนาทักษะใหม่ทางด้านเทคโนโลยี และเตรียม พร้อมสำหรับการทำงานในอนาคต โครงการริเริ่มเหล่านี้ครอบคลุมหลักสูตรการฝึกอบรมและทรัพยากรใหม่ๆ สำหรับบุคลากรด้านไอที การฝึกอบรม เทคโนโลยี และเนื้อหาหลักสูตรสำหรับคณาจารย์ ซึ่งจะเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้มีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาท้าทายทางธุรกิจในโลกแห่งความเป็นจริง

ไอบีเอ็มได้เผยแพร่รายงานแนวโน้มเทคโนโลยี (Technol-ogy Trend Report) ประจำปี 2555 ซึ่งระบุว่ามีองค์กรเพียงแค่ 1 ใน 10 แห่งเท่านั้นที่มีทักษะที่จำเป็นสำหรับการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ระบบวิเคราะห์ข้อมูลธุรกิจ โมบายล์ คลาวด์คอมพิวติ้ง และโซเชียลบิสซิเนส นอกจากนี้ เกือบครึ่งหนึ่งของอาจารย์และนักศึกษาที่ตอบแบบสอบถามรู้สึกว่ามีช่องว่างอย่างมากสำหรับความสามารถของสถาบันการศึกษาในการตอบสนองความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นสำหรับทักษะทางด้านเทคโนโลยี

ไอบีเอ็มประกาศโครงการเสริมสร้างทักษะครั้งใหญ่ โดยเป็นการขยายโครงการทางวิชาการ (Academic Initiative) ครั้งสำคัญที่สุด นับตั้งแต่ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2547 โดย

• จัดหาซอฟต์แวร์ เนื้อหาหลักสูตร และทรัพยากรการเรียนรู้แก่มหาวิทยาลัยโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ: ปัจจุบัน อาจารย์สามารถนำเอาเทคโนโลยีระดับองค์กรรุ่นล่าสุดไปใช้กับการเรียนการสอนในห้องเรียน รวมถึงงานวิจัยสำหรับเทคโนโลยี 4 ด้านใหม่ๆ ได้แก่ การรักษาความปลอดภัย, คอมเมิร์ซ, ระบบประมวลผลแบบพกพา และบิ๊กดาต้า นอกเหนือจากการใช้ซอฟต์แวร์ฟรีแล้ว ไอบีเอ็มยังจัดหาบทช่วยสอน คู่มือการใช้งาน กรณีศึกษา และหลักสูตรที่พร้อมใช้งานได้ทันที
• IBM Knowledge Exchange สำหรับคณาจารย์: ไซต์ออนไลน์ที่อาจารย์สามารถแบ่งปันข้อมูลและประสานงานร่วมกันเกี่ยวกับหลักสูตรและแนวทางปฏิบัติ
• การฝึกอบรมและเนื้อหาด้านเทคนิคฟรีสำหรับบุคลากรด้านไอที: ตอนนี้ IBM developerWorks นำเสนอหัวข้อใหม่ๆ เกี่ยวกับระบบประมวลผลแบบพกพา ระบบรักษาความปลอดภัย และระบบคอมเมิร์ซ โดยหัวข้อเหล่านี้ประกอบด้วยเนื้อหาการฝึกอบรม กรณีศึกษา เอกสารด้านเทคนิค คู่มือการติดตั้ง และชุมชนออนไลน์
• การฝึกอบรมแบบส่วนตัวและการออกใบรับรองสำหรับเทคโนโลยี Commerce ให้แก่พันธมิตรธุรกิจของไอบีเอ็ม
หลักสูตร เทคโนโลยี และการฝึกอบรมใหม่สำหรับสถาบันการศึกษา
เพื่อช่วยให้สถานศึกษาเตรียมความพร้อมให้แก่นักศึกษาสำหรับการทำงานในอนาคต ไอบีเอ็มจึงได้เริ่มโครงการ เข้าใช้ซอฟต์แวร์ได้ฟรีเพื่อจุดประสงค์ในการเรียนการสอนและงานวิจัย และเนื้อหาหลักสูตรใหม่สำหรับหัวข้อสำคัญทางด้านไอทีหลายสิบหัวข้อ เช่น ระบบรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ ระบบวิเคราะห์ข้อมูลธุรกิจ ระบบโมบายล์ โซเชียลบิสซิเนส และคอมเมิร์ซ
นับเป็นครั้งแรกที่โครงการ Academic Initiative ของไอบีเอ็มจะให้สิทธิ์เข้าถึงหลักสูตรและเนื้อหาการฝึกอบรมเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยทางด้านไอที เพื่อช่วยให้นักศึกษาได้รับทักษะด้านการรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ที่พร้อมสำหรับตลาด โดยเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้แก่:
• หลักสูตรสำเร็จรูปที่นำเสนอสถานการณ์จริงเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยสู่ห้องเรียน ช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจถึงปัญหาท้าทายขององค์กร และทำการวิเคราะห์เชิงลึกเกี่ยวกับแนวโน้มที่ระบุไว้ในรายงาน IBM X-Force
• การเข้าใช้ซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยได้ฟรีเพื่อใช้ในห้องเรียนสำหรับสอนให้นักศึกษารู้จักวิธีการทดสอบแอพพลิเคชั่นเพื่อค้นหาจุดบกพร่อง และตรวจสอบเครือข่ายและเซิร์ฟเวอร์ที่ทำเวอร์ช่วลไลซ์เพื่อค้นหาช่องโหว่ อาจารย์และนักศึกษาจะสามารถเข้าถึงเมนเฟรม zEnterprise รุ่นใหม่ล่าสุดผ่านการเชื่อมต่อระยะไกล โดยเมนเฟรมดังกล่าวเป็นระบบที่มีความปลอดภัยสูง ใช้เตรียมความพร้อมให้แก่นักศึกษาสำหรับรับมือกับปัญหาท้าทายด้านการประมวลผลในโลกแห่งความเป็นจริง โดยใช้ทักษะด้านไอทีระดับองค์กร
โครงการ Academic Initiative ของไอบีเอ็มให้สิทธิ์การใช้งานซอฟต์แวร์ รวมถึงเนื้อหาการฝึกอบรม ซึ่งอาจารย์จะสามารถดาวน์โหลดได้ใน 3 ด้านใหม่ๆ ดังนี้:
• บิ๊กดาต้าและระบบวิเคราะห์ข้อมูล: ซอฟต์แวร์บิ๊กดาต้า พร้อมสิทธิ์ในการเข้าถึงเทคโนโลยีบิ๊กดาต้าที่หลากหลายของไอบีเอ็ม รวมไปถึงหนังสืออิเล็กทรอกนิกส์ และโมดูลการเรียนรู้เกี่ยวกับ Hadoop ซึ่งออกแบบเป็นพิเศษสำหรับนักศึกษาในสาขาวิชาธุรกิจและวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์
• คอมเมิร์ซ: ซอฟต์แวร์ IBM Smarter Commerce สำหรับนักศึกษาที่ต้องการเรียนรู้วิธีการพัฒนาโค้ด เพื่อเปิดเผยแบบแผนในการซื้อสินค้าออนไลน์ ผ่านทางโมดูลการเรียนรู้ภาคปฏิบัติ
• โมบายล์คอมพิวติ้ง: โมดูลการเรียนรู้ภาคปฏิบัติเกี่ยวกับ HTLM 5 และ DOJO

สุดท้าย ไอบีเอ็มได้เปิดตัว Knowledge Exchange ซึ่งเป็นแหล่งทรัพยากรออนไลน์ที่ช่วยให้คณาจารย์จากทั่วทุกมุมโลกสามารถแลกเปลี่ยนและประสานงานร่วมกันเกี่ยวกับเนื้อหาหลักสูตรและแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสม หลักสูตรฝึกอบรมและทรัพยากรใหม่สำหรับบุคลากรด้านไอที
ขณะที่องค์กรต่างๆ หันไปใช้เทคโนโลยีเพื่อแก้ไขปัญหาท้าทายทางธุรกิจที่ยากลำบากเพิ่มมากขึ้น ความต้องการสำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านไอทียังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม รายงาน IBM Tech Trends ประจำปี 2555 ระบุว่าการขาดแคลนบุคลากรเป็นอุปสรรคสำคัญที่สุดสำหรับการปรับใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มความสะดวกให้แก่บุคลากรฝ่ายไอทีในการก้าวให้ทันกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ไอบีเอ็มจึงได้จัดเตรียม:
• หัวข้อใหม่บน developerWorks สำหรับโมบายล์คอมพิวติ้ง การรักษาความปลอดภัย และระบบคอมเมิร์ซ รองรับการเข้าถึงเนื้อหาการฝึกอบรม ทรัพยากรด้านเทคนิค และชุมชนออนไลน์ทางด้านเทคนิค โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ
• การฝึกอบรมและการออกใบรับรองใหม่ๆ สำหรับพันธมิตรธุรกิจของไอบีเอ็ม พร้อมด้วยเนื้อหาการเรียนการสอน คู่มือการติดตั้ง และแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสมบน developerWorks

ทรัพยากรใหม่ๆ สำหรับคณาจารย์และสถานศึกษามีอยู่ที่: https://www.ibm.com/developerworks/university/academicinitiative/
ทรัพยากรใหม่ๆ สำหรับนักพัฒนามีอยู่ที่: http://www.ibm.com/developerworks/
ดูข้อมูลเกี่ยวกับบริการด้านความปลอดภัยของไอบีเอ็ม: http://www-935.ibm.com/services/us/en/it-services/security-services.html
อ่านรายงาน Tech Trends ได้ที่: www.ibm.com/developerworks/techtrendsreport

View :1132

ทรูมูฟ เอช ส่งความสุข “ส่งสุขท้ายปีกับ Free WiFi by TrueMove H”

December 12th, 2012 No comments


มอบสิทธิพิเศษใช้ WiFi ฟรีทุกวัน ทั้งในและต่างประเทศ ตั้งแต่ 15 ธ.ค. 2555 – 31 ม.ค. 2556

กรุงเทพฯ 11 ธันวาคม 2555 – ต้อนรับเทศกาลปีใหม่ ทรูมูฟ เอช ตอกย้ำผู้นำบริการ + และ WiFi ที่เร็วและแรง ครอบคลุมพื้นที่มากที่สุดในไทย พร้อมฉลองความสำเร็จที่ได้รับรางวัลนวัตกรรมระดับโลก WiFi Industry Award 2012 ประเภท “Best Next Generation Hotspot (NGH) Initiative Award” จัดแคมเปญ “ส่งสุขท้ายปีกับ ” ต้อนรับปีใหม่ 2556 เพิ่มเวลาให้ลูกค้าใช้ WiFi ออนไลน์ได้นานยิ่งขึ้น ด้วยความเร็วสูงสุด 100 Mbps* ฟรีทุกวัน วันละ 30 นาที ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รับความสุขท้ายปีกับ WiFi by TrueMove H ได้แล้วตั้งแต่ 15 ธันวาคม 2555 – 31 มกราคม 2556

นายอติรุฒม์ โตทวีแสนสุข กรรมการผู้จัดการ ธุรกิจโมบายล์ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ ที่ลูกค้าส่วนใหญ่จะเดินทางท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ

สำหรับการใช้งานในประเทศ

· ลูกค้าทรูมูฟ เอช และ ทรูมูฟ ทั้งแบบรายเดือนและแบบเติมเงิน รับสิทธิ์ใช้ WiFi by TrueMove H ฟรีทุกวัน วันละ 30 นาที (จากเดิมใช้ฟรีเดือนละ 1 ชั่วโมง) เพียงกด *900*800# โทรออก เพื่อรับสิทธิ์ใช้ฟรีได้ง่ายๆ ไม่มีค่าใช้จ่าย

· ลูกค้าทรูมูฟ เอช และ ทรูมูฟ สามารถซื้อแพ็กเกจ WiFi แบบรายวัน ใช้ได้ไม่จำกัด ได้ในราคาพิเศษ 19 บาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) จากราคาปกติ 69 บาท เพียงกด *900*819# โทรออก

· ลูกค้าทรูการ์ด ใช้ WiFi ฟรี เพิ่มอีกเดือนละ 15 ชั่วโมง (จากเดิมแบล็คการ์ด ใช้ฟรี 20 ชั่วโมง และเรดการ์ด ใช้ฟรี 10 ชั่วโมง)

สำหรับการใช้งานต่างประเทศ

· ลูกค้าทรูมูฟ เอช และ ทรูมูฟ แบบรายเดือน ใช้ WiFi International Roaming ในต่างประเทศ ได้ฟรีอัตโนมัติ 10 เครือข่าย ใน 7 ปลายทาง ได้แก่ ฮ่องกง, เกาหลีใต้, ไต้หวัน, จีน, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์ และ ญี่ปุ่น (ตามรายชื่อผู้ให้บริการ WiFi ที่ร่วมรายการ)

ลูกค้าที่สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการลูกค้า โทร. 1331 และร้านทรูช้อป ทั่วประเทศ หรือ www.truemove-h.com

* ความเร็วในการใช้บริการ Wi-Fi ขึ้นอยู่กับพื้นที่ให้บริการ ปริมาณผู้ใช้งาน ณ จุดที่ใช้งาน และอุปกรณ์ที่รองรับ

View :1297
Categories: Internet Tags: