Archive

Author Archive

เอชพีประกาศแผนธุรกิจปี2555 เดินหน้านำ HP ePrint ยกระดับงานพิมพ์ผ่านคลาวด์ พรินท์ติ้ง

November 29th, 2011 No comments

ตอบโจทย์การใช้งานครอบคลุมลูกค้าทุกเซ็กเมนท์ เติมเต็มการพิมพ์ในรูปแบบใหม่ด้วยพอร์ทโฟลิโอครบครัน และนำเสนอโซลูชั่นงานพิมพ์สู่ภาคการศึกษาโดยเฉพาะ

เอชพีเผยผลการดำเนินงานปี 2554 ธุรกิจภาพและการพิมพ์เติบโต 12% ตามเป้าหมายที่วางไว้ และประกาศเดินหน้าขยายฐานงานพิมพ์ผ่านคลาวด์ต่อเนื่องในปี 2555 นำนวัตกรรม “HP ePrint” ครอบคลุมการพิมพ์ผ่านคลาวด์แบบครบวงจร พร้อมผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นใหม่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกเซ็กเม้นท์ รวมถึงเสนอความคุ้มค่าของ หมึกพิมพ์แท้เอชพีไปยังกลุ่มการศึกษาด้วย HP Deskjet Ink Advantage

นายวัตสัน ถิรภัทรพงศ์ ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจภาพและการพิมพ์ บริษัท ฮิวเลตต์-แพคการ์ด (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ผลการดำเนินงาน กลุ่มธุรกิจภาพและการพิมพ์ในปี 2554 ถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยในภาพรวมมีการเติบโตร้อยละ 12 จากปีที่ผ่านมา เนื่องจากการนำเสนอผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นส์ใหม่ไปยังผู้บริโภค รวมไปถึงการร่วมมือกับพันธมิตรใน การจัดแคมเปญการตลาดในรูปแบบต่างๆ ซึ่งถือว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าเอชพีและจากตลาดในภาพรวม สำหรับนโยบายในการดำเนินธุรกิจ ในปี 2555 นั้น ในฐานะผู้นำด้านตลาดงานพิมพ์ระดับโลก เอชพียังคงเดินหน้าต่อยอดนำนวัตกรรม “HP ePrint” ขยายฐานงานพิมพ์ผ่านคลาวด์อย่างครบวงจรไปยังกลุ่มลูกค้าในทุกเซ็กเมนต์ หลังจากที่ได้เปิดตัวการพิมพ์ในรูปแบบใหม่นี้ไปยังผู้บริโภคตั้งแต่ปีที่ผ่านมา และถือเป็นเจ้าแรกในธุรกิจที่นำเสนอนวัตกรรมด้านคลาวด์ พรินติ้ง ทั้งนี้ แนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่องของโมบายล์ ดีไวซ์ต่างๆ อาทิ สมาร์ทโฟน โน้ตบุ๊ค แท็บเล็ต จะส่งเสริมให้เกิดการขยายประสบการณ์การใช้งาน HP ePrint เพิ่มมากขึ้นด้วย ดังที่ไอดีซีระบุว่า ยอดการจัดจำหน่ายสมาร์ทโฟนในประเทศไทยในปี 2554 มีไม่น้อยกว่า3.5 ล้านเครื่อง

นอกจากนี้ ในปัจจุบันมีการใช้งานเทคโนโลยีการพิมพ์บนคลาวด์และเทคโนโลยีที่เชื่อมต่อกับเว็บอย่างแพร่หลาย โดยมีเครื่องพิมพ์เอชพีที่รองรับเทคโนโลยีดังกล่าวจำหน่ายทั่วโลกมากกว่า 10 ล้านเครื่อง และในขณะที่การพิมพ์ได้ก้าวไปสู่คำจำกัดความที่มากกว่าจำนวนหน้ากระดาษ เอชพีจึงได้วางแนวทางนวัตกรรมและกลยุทธ์หลักๆ เพื่อให้ส่งผลที่เกิดประโยชน์และมีความหมายยิ่งต่อลูกค้าทุกกลุ่มโดยแบ่งตามแต่ละเซ็กเมนต์ ดังนี้

กลุ่มธุรกิจคอนซูเมอร์ จากการเติบโตของโมบายล์ ดีไวซ์ต่างๆ เอชพีได้เดินหน้าเสริมประสบการณ์การใช้งานเครื่องพิมพ์ของลูกค้าที่บ้านด้วยเครื่องพิมพ์สำหรับใช้งานภายในบ้านที่สามารถเชื่อมต่อเว็บที่มาพร้อมกับโซลูชั่นแบบโมบายล์ และบริการคอนเท้นต์ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมการทำงานได้ดียิ่งขึ้น สามารถเชื่อมต่อได้ตลอดเวลาแม้ในขณะเดินทางพร้อมทั้งสามารถสั่งพิมพ์ทุกช่วงเวลาอันน่าจดจำได้ทุกที่ทุกเวลามีการขยายชุดโซลูชั่นแบบโมบายล์เพื่อการเชื่อมต่ออย่างไม่ขาดตอน ด้วยโซลูชั่นโมบายล์ พรินติ้งใหม่ๆ ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมการทำงานและมีสมรรถนะการทำงานที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น นอกจากนี้ เอชพีได้แนะนำเครื่องพิมพ์รุ่นล่าสุดHP ENVY e-All-in-One ที่พลิกโฉมการดีไซน์ด้วยรูปแบบล้ำสมัย มาพร้อมรูปลักษณ์เพรียวบางและการออกแบบอันโฉบเฉี่ยว โดดเด่นด้วยสีขาวและสีครีม และคว้ารางวัลอันทรงเกียรติด้านการออกแบบมากมาย เครื่องพิมพ์รุ่นนี้สามารถเชื่อมต่อเว็บ และช่วยให้ผู้ใช้ได้เพลิดเพลินไปกับการสั่งพิมพ์นอกสถานที่เพื่อคงประสิทธิภาพการทำงานและไม่พลาดทุกการเชื่อมต่อระหว่างเดินทางอีกด้วย

และเอชพียังคงให้ความสำคัญกับการนำเสนอโซลูชั่นการพิมพ์ไปยังภาคการศึกษาอย่างต่อเนื่อง ด้วย HP Deskjet Ink Advantage ที่ตอบโจทย์การใช้งานพิมพ์สำหรับภาคการศึกษาโดยเฉพาะ อาทิ กลุ่มครูและนักเรียนที่เน้นการรพิมพ์เอกสารจำนวนมาก ให้ใช้งานพิมพ์อย่างคุ้มค้าด้วยคุณค่าที่เหนือกว่าของหมึกพิมพ์แท้เอชพี

กลุ่มธุรกิจคอมเมอร์เชียลและเอ็นเตอร์ไพรซ์ เอชพีได้นำเสนอ HP ePrint Enterprise ซึ่งเป็นคลาวด์ พรินติ้งในองค์กรที่ทำให้ผู้ใช้ในองค์กรสามารถทำงานแบบ collaboration อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพ ครอบคลุม ทั้งการพิมพ์ภายในองค์กร การพิมพ์ระหว่างเดินทาง หรือการพิมพ์จากที่บ้าน โดยผู้ใช้ WebOS ไอโฟน แอนด์ดรอยด์ และแบล็คเบอรี่ สามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น HP ePrint Enterprise Solution เพื่อใช้พิมพ์งานภายในระบบเครือข่ายขององค์กรผ่านข้อตกลงบริการ HP Managed Print Services พร้อมกันนี้ผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น HP Managed Print Services เพื่อให้สามารถสั่งพิมพ์งานได้จาก HP ePrint Mobile Print Locations ที่ตั้งอยู่บริเวณต่างๆ นับพันแห่งทั่วโลก ซึ่งเอชพีถือเป็นเจ้าเดียวที่สามารถช่วยลูกค้าองค์กรจัดการระบบนิเวศน์ด้านการพิมพ์ได้อย่างครบครัน

และมุ่งเน้นขยายความร่วมมือกับคู่ค้าที่จะขยายช่องทางไปสู่กลุ่มลูกค้า mid-market โดยการใช้ Customer Relationship Management – CRM ในรูปแบบต่างๆ รวมถึงนำเสนอโซลูชั่นหรือผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับรูปแบบการทำงานของลูกค้าได้อย่างเหมาะสม เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายและความยุ่งยากของลูกค้าด้านงานพิมพ์ อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับแนวคิดในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ โซลูชั่นส์ รวมไปถึงการบริหารจัดการด้านการพิมพ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยในการประหยัดพลังงานและลดค่าใช้จ่ายโดยครอบคลุมทั้งฮาร์ดแวร์และซัพพลาย นอกจากนี้มีการเเนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่สู่ตลาดมากมาย อาทิ เครื่องพิมพ์ HP Color LaserJet Pro 100 MFP M175 ที่มีคุณสมบัติ ePrint Direct ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสั่งพิมพ์งานได้โดยตรงจากสมาร์ทโฟน โดยไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นให้ยุ่งยาก

กลุ่มธุรกิจกราฟฟิก โซลูชั่นส์ เอชพีได้นำ HP ePrint & Share เพื่อสนับสนุนการทำงานสำหรับวงการสถาปัตยกรรม วิศวกรรมและการก่อสร้าง (AEC) รวมทั้งองค์กรระดับเอ็นเตอร์ไพรซ์ เพื่อให้สามารถเข้าใช้งานผ่านระบบออนไลน์ได้ทุกที่ทุกเวลา รองรับการทำงานร่วมกันได้มากที่สุด และช่วยลดขั้นตอนด้านการพิมพ์ทั้งหมดในการเขียนแบบเทคนิค ไปกับแพล็ตฟอร์ม ทำให้ผู้ใช้สามารถกำหนดตำแหน่งและเข้าใช้งานแผนงานต่างๆ ที่มีปรับแก้จัดหน้าสิ่งพิมพ์ พรีวิวหน้าที่จะพิมพ์ และสร้างไฟล์ ที่สามารถนำมาพิมพ์ได้จากหน้าจอเพียงหน้าจอเดียว นอกจากนี้ ช่วยให้อัพโหลดไฟล์ต่างๆ ในการคลิกเพียงครั้งเดียวขณะที่กำลังพิมพ์งานอยู่ เพื่อให้สามารถแบ่งปันงานออกแบบกับเพื่อนร่วมทีมโครงการเดียวกันที่อยู่ไกลออกไปได้อย่างรวดเร็ว และง่ายดาย

พร้อมกันนี้มีการนำเสนอรูปแบบธุรกิจใหม่แก่คู่ค้าที่เรียกว่า Smart Click Model และผลิตภัณฑ์ใหม่สู่ตลาด อาทิ เครื่องพิมพ์ HP Designjet T790 เครื่องพิมพ์Designjet T1300 และเครื่องพิมพ์ Designjet T2300 โดยจะมุ่งเน้นไปที่ตลาด Reproduction เพื่อไปทดแทนเครื่องพิมพ์หน้ากว้างแบบ LED

“ด้วยวิสัยทัศน์ของเอชพีในฐานะผู้นำด้านการพิมพ์ เรามีการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อรองรับเทรนด์การใช้งานสำหรับอนาคตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการนำ “HP ePrint” การพิมพ์ในรูปแบบคลาวด์ พรินท์ติ้งมาสู่ทุกกลุ่มลูกค้าอย่างครอบคลุมในครั้งนี้ บวกกับความพร้อมของทีมงานในการนำเสนอนวัตกรรม โซลูชั่นส์ และผลิตภัณฑ์ไปสู่ตลาด ทำให้เชื่อมั่นได้ว่า HP ePrint จะสามารถตอบสนองการใช้งานพิมพ์ ในรูปแบบคลาวด์ พรินท์ติ้งได้อย่างสมบูรณ์ที่สุดในอุตสาหกรรม นอกจากการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ แล้ว เอชพียังคงให้ความสำคัญในการนำผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาสู่ลูกค้าด้วยเช่นกันเพื่อลดการใช้พลังงานและให้ลูกค้าได้ดำเนินงานพิมพ์อย่างมีประสิทธิภาพ” นายวัตสัน กล่าวปิดท้าย

View :1751
Categories: Press/Release Tags:

แพคเน็ทเพิ่มความเร็วอินเตอร์เน็ตด้วยโซลูชั่นใหม่ CDN

November 29th, 2011 No comments

เป็น CDN ที่ครอบคลุมพื้นที่ให้บริการมากที่สุดในภูมิภาคเอเชีย ที่ได้รับประโยชน์จากผู้ให้บริการโครงข่ายโทรคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐานด้านโฮสติ้งซึ่งอยู่ภายใต้กรรมสิทธิ์ของแพคเน็ทเองทั้งหมด

โตเกียว 29 พฤศจิกายน 2554 – วันนี้ แพคเน็ท ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรคมนาคมชั้นนำของเอเชียได้เปิดตัวบริการใหม่ เครือข่ายการส่งคอนเท็นต์ความเร็วสูง หรือ Content

Delivery Network (CDN) ภายใต้ชื่อ Pacnet CDN นิยามใหม่ของการบริการส่งมอบเนื้อหาบนเว็บและการปฏิวัติประสบการณ์การใช้งานอินเทอร์เน็ต

“ในทุกๆ วัน เว็บไซต์นับล้านบนโลกออนไลน์ที่เปี่ยมไปด้วยเนื้อหาต่างๆ กำลังแข่งขันกันเพื่อเรียกร้องความสนใจจากผู้บริโภคทั่วโลก เพื่อสนับสนุนธุรกิจที่ใช้งานจากเว็บให้สามารถดึงดูดและเชื่อมต่อกับผู้ชมของพวกเขาได้มากขึ้น เราจึงได้เปิดตัว Pacnet CDN โซลูชั่นแบบครบวงจรที่ได้ประโยชน์จากเครือข่ายใต้ทะเลอันโดดเด่นที่ครอบคลุมทั่วทั้งภูมิภาครวมถึงศูนย์ข้อมูลอันทันสมัยของเรา เพื่อเผยแพร่เนื้อหาดิจิตอลในอัตราความเร็วแสง และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของแอพพลิเคชั่นส์ที่โฮสต์อยู่ในคลาวด์” บิล บาร์นีย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแพคเน็ทกล่าว

Pacnet CDN เร่งเพิ่มประสบการณ์การใช้งานอินเทอร์เน็ต โดยการเสนอเนื้อหาดิจิตอลให้ใกล้ชิดกับผู้ใช้มากขึ้น ผ่านเครือข่ายที่กว้างขวางของ CDN Points of Presence (PoP) ที่ตั้งอยู่ทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ด้วยวิธีการส่งมอบเนื้อหาล่าสุดอย่างชาญฉลาดจาก CDN PoP ที่อยู่ใกล้ที่สุดให้กับผู้ใช้งาน ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้เพลิดเพลินกับเว็บไซต์ได้เร็วขึ้น สามารถบริโภคเนื้อหาวิดีโอสตรีมมิ่งได้อย่างไม่มีสะดุด และดาวน์โหลดไฟล์ได้อย่างรวดเร็ว

บริการ Pacnet CDN ที่เป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใครนี้ ได้รับการสนับสนุนจากเครือข่ายที่ครอบคลุมของแพคเน็ทที่เชื่อมต่อถึงกัน สิ่งอำนวยความสะดวกด้านโฮสติ้งความเร็วสูงที่ครอบคลุมทั่วเอเชียแปซิฟิก รวมไปถึงสถานีข้อมูลภาคพื้นดิน หรือ Data Landing Stations (DLSs) ผนวกกับเครือข่ายใต้ทะเลที่แข็งแกร่ง และโครงสร้างพื้นฐานจากเครือข่ายไอพีของแพคเน็ท Pacnet CDN ยังเลือกใช้เทคโนโลยีจาก EdgeCast ซึ่งเป็นผู้ให้บริการชั้นนำของเทคโนโลยี CDN

ด้วยเครือข่าย CDN ที่ควบคุมได้เองอย่างเต็มรูปแบบ แพคเน็ทจึงสามารถเร่งความเร็ว และมีความยืดหยุ่นในการปรับแบนด์วิธได้อย่างรวดเร็วเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า และสามารถส่งมอบโซลูชันการกระจายคอนเท็นต์ดิจิทัลที่ครบวงจรและสมบูรณ์แบบ นอกจากนี้ ลูกค้าของแพคเน็ทยังได้รับประโยชน์จากประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น และประหยัดค่าใช้จ่ายมากขึ้น ซึ่งเป็นผลจากการที่แพคเน็ทเป็นเจ้าของและดำเนินงานโครงสร้างพื้นฐานหลักของ CDN เอง

CDN PoPs ของแพคเน็ทแห่งแรก ตั้งอยู่ในประเทศญี่ปุ่น สิงคโปร์ ฮ่องกง และออสเตรเลีย พร้อมการขยายโหนดให้เพิ่มมากขึ้นในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งจะครอบคลุมไปยังอีกสิบประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ส่งผลให้เป็นเครือข่าย CDN ที่ครอบคลุมพื้นที่ให้บริการมากที่สุดในภูมิภาคเอเชีย ที่ได้รับประโยชน์จากการเป็นผู้ให้บริการโครงข่ายโทรคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐานด้านโฮสติ้งซึ่งอยู่ภายใต้กรรมสิทธิ์ของแพคเน็ทเองทั้งหมด

ประเทศญี่ปุ่นเป็นเกตเวย์ของการจราจรระหว่างเอเชียและอเมริกาเหนือ และเป็นศูนย์กลางของการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วของเนื้อหาดิจิตอลผ่านไปยังมหาสมุทรแปซิฟิก อีกทั้งยังเป็นตลาดหลักที่สำคัญในการทำกลยุทธ์ CDN ของแพคเน็ทในเอเชีย ซึ่ง CDN PoP ในญี่ปุ่นนี้เป็น PoP ที่ใกล้ที่สุดที่เชื่อมต่อไปยังสหรัฐอเมริกา ด้วยเหตุนี้จึงเป็น PoP หลักที่จะเร่งเพิ่มประสบการณ์การใช้งานอินเทอร์เน็ตของผู้ใช้ในทวีปอเมริกาเหนือที่จะเข้าถึงเนื้อหาจากแหล่งต่างๆ ในเอเชีย

โซลูชั่นส์ CDN ของแพคเน็ท เปิดให้บริการแล้วในทุกสาขาทั่วโลกที่แพคเน็ทดำเนินการอยู่ ซึ่งผู้ใช้บริการสามารถสัมผัสกับบริการนี้ได้แบบครบวงจร:

· บริการจัดส่งเนื้อหา เร่งความเร็วการส่งมอบเนื้อหา รวมถึงเว็บไซต์และการดาวน์โหลดไฟล์ ไปจนถึงการรับชมวิดีโอสตรีมมิ่งแบบ on-demand และการชมการถ่ายทอดสดที่มีความคมชัดสูง (high-definition)ได้อย่างรวดเร็ว เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีกว่า ไม่ว่าผู้ใช้งานจะเชื่อมต่อจากสถานที่ใด

· การเร่งความเร็วเนื้อหาแบบไดนามิค การเร่งความเร็วในการส่งมอบเนื้อหาแบบไดนามิกและแบบคงที่สำหรับความหลากหลายของแอพพลิเคชั่นส์ ด้วยความล้ำหน้าของเทคโนโลยีในการเร่งความเร็ว ซึ่งจะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการเร่งความเร็วได้ถึงห้าเท่า เพื่อให้มีความเสถียรมากขึ้นสำหรับผู้ใช้ปลายทาง

· การจัดเก็บเนื้อหาต้นฉบับ ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานศูนย์ข้อมูลอันทันสมัยของแพคเน็ท เพื่อให้การจัดเก็บเนื้อหามีความยืดหยุ่นในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย และยังประหยัดต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในรูปแบบการสมัครสมาชิกรายเดือน ซึ่งค่าบริการขึ้นอยู่กับปริมาณรวมของข้อมูลที่ถูกจัดเก็บ

· บริการเสริม ผู้ใช้บริการสามารถดูแลความต้องการการจัดส่งเนื้อหาเพิ่มเติม พร้อมกับความปลอดภัย การจัดการ และอุปกรณ์การรายงานผล ทั้งนี้เพื่อป้องกันเนื้อหาดิจิตอลและลิขสิทธิ์ของผู้ใช้บริการ รวมถึงการจัดการเครือข่ายของตนเอง และการเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้งานของผู้เข้าชมเว็บผ่านการวิเคราะห์และการรายงานแบบเรียลไทม์

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมของบริการ Pacnet CDN กรุณาเข้าไปดูได้ที่ http://www.pacnet.com/cdn

View :1442
Categories: Press/Release, Telecom Tags:

ก.ไอซีที เข้าร่วมการประชุมสมัชชาสามัญ ของ APT สมัยที่ 12

November 29th, 2011 Comments off

นางจีราวรรณ บุญเพิ่ม ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยภายหลังนำคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมสมัชชาสามัญ สมัยที่ 12 ขององค์การโทรคมนาคมแห่งเอเชียและแปซิฟิก หรือ APT ณ เกาะเจจู ประเทศเกาหลีใต้ ว่า “การประชุมสมัชชาสามัญฯ เป็นองค์กรสูงสุดของ APT ซึ่งประเทศเกาหลีใต้ได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสมัยที่ 12 นี้ขึ้น เพื่อพิจารณาร่างแผนยุทธศาสตร์ของ APT สำหรับปี ค.ศ. 2012 – 2014 โดยได้มีการพิจารณาเกี่ยวกับการกำหนดอัตราเงินค่าบำรุงฯ สำหรับประเทศสมาชิก สมาชิกสมทบ และสมาชิกในเครือ ซึ่งปัจจุบัน APT มีประเทศสมาชิกทั้งหมด 38 ประเทศ สมาชิกสมทบจำนวน 4 เขตปกครองพิเศษ และมีสมาชิกในเครืออีกจำนวน 128 หน่วยงาน

“ในการประชุมฯ ครั้งนี้ยังได้มีการเลือกตั้งตำแหน่งเลขาธิการและรองเลขาธิการ ซึ่งผลปรากฏว่า นาย Toshiyouki Yamada ผู้สมัครจากประเทศญี่ปุ่นได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการเป็นสมัยที่ 2 และนายไกรสร พรสุธี ผู้สมัครจากประเทศไทยก็ได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการเป็นสมัยที่ 2 เช่นเดียวกัน โดยจะมีวาระการดำรงตำแหน่งเป็นเวลา 3 ปี คือ ระหว่างปี ค.ศ. 2012 – 2014 โดยจะเริ่มปฏิบัติหน้าที่ในเดือนกุมภาพันธ์ 2555” นางจีราวรรณ กล่าว

นอกจากนี้ ผู้แทนจากประเทศสมาชิกที่เข้าร่วมประชุม อาทิ ออสเตรเลีย จีน บังกลาเทศ ฟิจิ อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ลาว มองโกเลีย เนปาล ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ ซามัว สิงคโปร์ และเวียดนาม ยังได้กล่าวแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในประเทศไทย และแสดงความห่วงใยต่อประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ซึ่งสำนักงานใหญ่ของ APT ที่ตั้งอยู่บนถนน แจ้งวัฒนะก็ได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน

“ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทยขอแสดงความขอบคุณในความห่วงใย และไมตรีจิตที่มิตรประเทศได้มอบให้แก่ประชาชนไทยในครั้งนี้ และขอให้ประเทศสมาชิกตระหนักถึงเรื่องภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดขึ้น เพื่อขยายความร่วมมือในการหาทางป้องกัน โดยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารหรือ ICT เป็นเครื่องมือสำคัญในการวิเคราะห์ข้อมูล การเตือนภัย และการฟื้นฟูระบบการสื่อสารต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้ข้อมูลที่สื่อสารผ่านไปยังประชาชนมีความถูกต้อง แม่นยำ และเชื่อถือได้ ทั้งนี้ เพื่อจะได้ลดความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้นจากภ

View :1125

เทเลนอร์ ประกาศเสริมบริการในแอนดรอยด์ มาร์เก็ต ทั่วโลก

November 29th, 2011 No comments

มุ่งขยายการใช้งานแอพพลิเคชั่นให้เพิ่มขึ้นและช่วยให้ลูกค้าดีแทคเข้าถึงแอพพลิเคชั่นไทยในแอนดรอยด์ ได้ง่ายยิ่งขึ้น

เทเลนอร์และกูเกิล ประกาศความร่วมมือเพื่อส่งเสริมการขยายตัวของ Android Ecosystem (ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์) เพื่อให้ผู้ใช้แอนดรอยด์บนเครือข่ายดีแทคมีช่องทางในการเข้าถึงแอพพลิเคชั่นท้องถิ่น ซึ่งได้รับการคัดสรรและอัพเดทอย่างต่อเนื่อง แล้วนำไปรวมกลุ่มไว้ในแอนดรอยด์มาร์เก็ต ภายใต้แนวคิดร้านค้าย่อยในร้านค้าหลัก (store-in-store) นอกจากนี้ยังมุ่งเพิ่มความต้องการใช้งานแอพพลิเคชั่นให้มากขึ้น โดยให้ลูกค้าสามารถชำระเงินผ่านผู้ให้บริการมือถือได้อย่างสะดวก รวมทั้งช่วยเผยแพร่แอพพลิเคชั่นท้องถิ่นให้เป็นที่รู้จัก ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้ให้ผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่นของไทย

ข้อตกลงดังกล่าวครอบคลุมการดำเนินงานของเทเลนอร์ใน 11 ประเทศ โดยประเทศกลุ่มแรกที่เทเลนอร์จะเริ่มให้บริการดังกล่าวในไตรมาสแรกของปี 2555 ได้แก่ ไทย มาเลเซีย ฮังการี สวีเดน และเดนมาร์ค โดยความร่วมมือดังกล่าวจะช่วยเติมเต็มความต้องการใช้งานคอนเท้นต์บนมือถือที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลทั้งในยุโรปซึ่งมีการใช้งานสูงอยู่แล้ว และในเอเชียซึ่งเศรษฐกิจมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ แม้ว่าอัตราการใช้งานสมาร์ทโฟนในเอเชียจะต่ำกว่ายุโรป แต่หากมองในแง่ของจำนวนผู้ใช้มือถือทั้งหมดแล้ว นับว่าสูงกว่ายุโรป

จอห์น เฟรดริค บัคคาส ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของกลุ่มบริษัทเทเลนอร์ กล่าวว่า “ความร่วมมือระหว่างกูเกิลและเทเลนอร์ มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการขยายตัวของธุรกิจต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ และเพื่อให้ลูกค้าของเทเลนอร์ได้รับประสบการณ์ในการเข้าถึงคอนเท้นต์บน มือถือได้อย่างสะดวก รวมทั้งมีช่องทางในการชำระเงินอย่างหลากหลายมากขึ้น”

ทีมบรรณาธิการของเทเลนอร์ในแต่ละประเทศ จะคัดเลือกแอพพลิเคชั่นที่มีความเกี่ยวข้องกับแต่ละท้องถิ่นมากที่สุดมา 50 แอพพลิเคชั่น เพื่อนำไปรวบรวมไว้ในแอนดรอยด์ มาร์เก็ต โดยลูกค้าสามารถเลือกซื้อและชำระเงินแอพพลิเคชั่นดังกล่าวได้อย่างสะดวก ทั้งแบบพรีเพดและโพสต์เพด นอกจากนี้ผู้พัฒนายังจะได้รับเงินจากการขายแอพพลิเคชั่นของตนได้ง่ายยิ่งขึ้นด้วย ทั้งนี้ จากผลการสำรวจในแวดวงมือถือ ซึ่งให้ผู้ใช้เลือกระหว่างการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตและผ่านผู้ให้บริการมือถือ พบว่า 70% ของกลุ่มตัวอย่างเลือกที่จะชำระเงินผ่านผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ

ลูกค้าของเทเลนอร์สามารถใช้งานบริการดังกล่าวได้โดยไม่จำเป็นต้องอัพเกรดใดๆ เพิ่มเติม เพียงเข้าไปในหน้าแรกของแอนดรอยด์ มาร์เก็ต แล้วเลือกสัญลักษณ์ (หรือดีแทค) ก็สามารถเข้าถึงบริการดังกล่าวได้ทันที

สำหรับลูกค้าเทเลนอร์ในประเทศอื่นๆ ได้แก่ อินเดีย บังกลาเทศ เซอร์เบีย มอนเตเนโกร ปากีสถาน และนอร์เวย์) จะสามารถใช้งานบริการดังกล่าวบนแอนดรอยด์ได้ภายในปี 2555

View :1570

ก.ไอซีที ต่อยอด Cyber Scout เปิดหลักสูตรผู้บังคับบัญชาลูกเสือระดับผู้นำและผู้บริหารลูกเสือไซเบอร์

November 29th, 2011 No comments

นาวาอากาศเอก อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยว่า ขณะนี้ ภัยคุกคามจากการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เช่น การให้ข้อมูลข่าวสารที่บิดเบือนรวม ไปถึงข้อมูลที่มีลักษณะหมิ่นเหม่ต่อการหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ใช้งานและสังคมออนไลน์จำเป็นต้องช่วยกันสอดส่องดูแลจากสิ่งไม่พึงประสงค์ โดยที่ผ่านมากระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารได้มีการจัดตั้ง “โครงการสร้างลูกเสือบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ()” ขึ้น เพื่อสร้างเครือข่ายอาสาสมัครออนไลน์ที่มีจิตสำนึกในการร่วมมือกันส่งเสริมและปกป้องให้สังคมไทยเกิดความตระหนักในการรับรู้และใช้งานข้อมูลข่าวสารบนโลกออนไลน์อย่างเหมาะสมและสร้างสรรค์

อย่างไรก็ตาม ในการดำเนินงานโครงการ Cyber Scout นั้น จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากผู้บริหารในสังกัดกระทรวงฯ รวมทั้งต้องอาศัยกระบวนการและหลักการลูกเสือช่วยขับเคลื่อนให้โครงการฯ มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ดังนั้น กระทรวงฯ จึงได้จัดทำโครงการฝึกอบรมหลักสูตรผู้บังคับบัญชาลูกเสือระดับผู้นำ ขั้นความรู้ชั้นสูง (A.T.C) และหลักสูตรผู้บริหารลูกเสือไซเบอร์ (Executive Cyber Scout) ให้กับผู้บริหารกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เพื่อนำความรู้ด้านการลูกเสือมาปรับใช้กับการทำงานการบริหารงานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

สำหรับวัตถุประสงค์ในการดำเนินโครงการฝึกอบรมฯ นี้ ก็เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความรู้ในวิชาลูกเสือ มีเกียรติและศักดิ์ศรี มีความรักสามัคคี มุ่งมั่นในการบำเพ็ญประโยชน์ ยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และมีความเคารพในสถาบันชาติ สถาบันศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ รวมทั้งเพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้รับตำแหน่งผู้ช่วยผู้ตรวจการลูกเสือประจำสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ มีสิทธิได้ประดับเครื่องหมายวูดแบดจ์ 2 ท่อน และเพื่อให้เป็นแกนนำในการบริหารจัดการเครือข่ายลูกเสือไซเบอร์ (Cyber Scout)

กระทรวงฯ หวังว่าการฝึกอบบรมในหลักสูตรผู้บังคับบัญชาลูกเสือระดับผู้นำ ขั้นความรู้ชั้นสูง (A.T.C) นี้ จะทำให้ผู้บริหารระดับกลางและระดับสูงของกระทรวงฯ ได้รับทราบถึงหลักการลูกเสือ บทบาทหน้าที่ของลูกเสือ และสามารถเป็นแกนนำหลักในการผลักดัน ตลอดจนขับเคลื่อนโครงการสร้างลูกเสือบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต (Cyber Scout) ให้พัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป

View :1428

กสทช. สั่งตรวจคุณภาพสัญญาณเสียง หวั่นกระทบจากการให้บริการ 3G

November 28th, 2011 No comments

ประธานกสทช. พูดชัด งานคุ้มครองผู้บริโภคเป็นภารกิจที่สำคัญ ล่าสุด สั่งประสานจุฬา ทดสอบคุณภาพสัญญาณ “โทรออก รับสาย” หลัง บ.โทรคมนาคม แห่ให้บริการ 3G บนคลื่นความถี่เดิมหวั่นส่งผลกระทบ ผู้ใช้บริการประเภทเสียง

เมื่อวานนี้ (24 พ.ย. 54) เวลา 13.30 น. พลอากาศเอก ธเรศ ปุณศรี ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ () ได้กล่าวในระหว่างการตรวจเยี่ยมกลุ่มภารกิจด้านการคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคมว่า จากจำนวนเรื่องร้องเรียนที่พบแสดงให้เห็นว่า ภารกิจด้านการคุ้มครองผู้บริโภคได้รับความสนใจจากทุกภาคส่วนของสังคม และเป็นงานที่ ให้ความสำคัญโดยสิ่งที่ยืนยันได้ชัดเจนคือ การสรรหา ในครั้งนี้มี สายคุ้มครองผู้บริโภคที่ได้รับการคัดเลือกถึง 2 คน คือนายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศาและนางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญในการผลักดันงานด้านนี้
ด้านนายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านการคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุม กสทช. ล่าสุดมีการหยิบยกกรณีคุณภาพของบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่มีเสียงบ่นจากผู้ใช้บริการโดยทั่วไปว่ามีปัญหาทั้งการต่อติดและสายหลุด อันอาจมีสาเหตุมาจากกรณีที่ผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายหลักเริ่มมีการเปิดให้บริการ 3G บนคลื่นความถี่เดิม ทั้งนี้ที่ประชุม กสทช. ได้มีนโยบายให้กลุ่มภารกิจด้านการคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคมประสานกับศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อทำการทดสอบคุณภาพการให้บริการโทรคมนาคมประเภทเสียงในบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่
“ผู้ใช้บริการ 2G เดิมซึ่งเป็นการใช้บริการประเภทเสียงอาจได้รับผลกระทบด้านคุณภาพการให้บริการ เช่น ไม่มีสัญญาณ สัญญาณมีบ้างไม่มีบ้าง สายหลุดขณะโทร หรือในโทรศัพท์ประเภทสมาร์ทโฟน เช่น iphone หรือ Black Berry ซึ่งตั้งค่าเพื่อหาเครือข่าย 3G ไว้ อาจพบปัญหาการหาเครือข่ายไม่พบ เพราะมีการแย่งพื้นที่ในการใช้ช่องสัญญาณจากการใช้ข้อมูลเสียง หรือEdge เนื่องจากการใช้บริการ 3G เป็นการรับส่งข้อมูลในปริมาณที่มากขึ้น แต่ช่องทางในการส่งสัญญาณมีอยู่เท่าเดิม ดังนั้น กสทช. จึงต้องการให้ตรวจสอบว่า การเปิดให้บริการ 3G กันอย่างกว้างขวางครั้งนี้มีผลกระทบกับผู้บริโภคที่ใช้บริการ 2G หรือไม่” นายประวิทย์ กล่าว
นายประวิทย์กล่าวต่อไปว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นคือ ผู้ให้บริการประเภทเสียงอาจได้รับผลกระทบจากคุณภาพบริการ ขณะที่ผู้ใช้บริการ 3G ก็ไม่ได้รับบริการที่เหมาะสมสำหรับราคาที่ต้องจ่ายไป

View :1585
Categories: Press/Release Tags:

Kaspersky Academy IT Security for the Next Generation International Student Conference

November 28th, 2011 No comments

แคสเปอร์สกี้ แลป ผู้นำระดับโลกด้านซอฟต์แวร์เพื่อการป้องกันข้อมูลจากการคุกคามทางไซเบอร์ เชิญชวนนิสิต นักศึกษา ทั้งในระดับปริญญาตรี-โท-เอก ผู้เชี่ยวชาญ นักวิทยาศาสตร์ และนักวิจัย เข้าร่วมโครงการ Kaspersky® Academy IT Security for the Next Generation International Student Conference เพื่อร่วมนำเสนอและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นเกี่ยวกับอาชญากรรมไซเบอร์ แบ่งปันความรู้และประสบการณ์ พร้อมต่อยอดไอเดียใหม่เพื่อยกระดับความปลอดภัยในแวดวงเทคโนโลยี

ผลงานที่ได้รับการคัดเลือกจะได้รับเงินรางวัลดังนี้ รางวัลที่ 1 มูลค่า 1,500 USD$, รางวัลที่ 2 มูลค่า 1,000 USD$ และรางวัลที่ 3 มูลค่า 750 USD$ ตามลำดับจากแคสเปอร์สกี้ แลป พร้อมทั้งได้รับเชิญเข้าร่วมการประชุมสัมมนาของมืออาชีพระดับเอเชียแปซิฟิก Asia Pacific & MEA Conference for Young Professional ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2555 พร้อมรับใบประกาศนียบัตรการเข้าร่วมประชุม โอกาสในการพบปะผู้เชี่ยวชาญในแวดวงการรักษาความปลอดภัยในอุตสาหกรรมไอที เรียนรู้และฝึกฝนในเชิงลึก พร้อมทั้งอาจได้รับโอกาสร่วมงานกับแคสเปอร์สกี้ แลป อีกด้วย

รับสมัครและส่งผลงานได้ตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม 2554 – 9 มกราคม 2555
ประกาศผลผู้ได้รับการคัดเลือกวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2555
ผู้ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมประชุมวันที่ 21-23 มีนาคม 2555 ณ มหาวิทยาลัยฮ่องกง

ผู้สมัครสามารถเลือกหัวข้อผลงานที่จะส่งเข้าคัดเลือกได้ดังต่อไปนี้ :
ด้านเทคโนโลยี
1.Trends in Anti-Spam Development – Techniques, Methods in the “Spam Arms Race” and new Innovations
2. Dangers of an increasingly Networked World
3. “In the Cloud” – Security
4. Future Technologies for Detecting and Combating Malware (e.g. artificial intelligence, fuzzy systems, p2p-networks)

ด้านสังคม เศรษฐกิจ และกฎหมาย
1. Emerging Threats (e.g. social network security, embedded systems security, mobile security, online banking security)
2. Challenges and Opportunities for IT-Security Companies within the next 10 Years
3. Impact of technologies on Data protection, Copy and Intellectual Property Rights and Jurisdiction
4. Education in IT Security – Trends and Questions

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.kaspersky.com/educational-events/it_security_conference_2012_asia และ http://www.facebook.com/kasperskyconference

View :1474

เลอโนโว มอบโปรโมชั่นชุดใหญ่จัดเต็มคุ้ม 3 ต่อ ทั่วประเทศ

November 28th, 2011 No comments

มอบโปรโมชั่นชุดใหญ่จัดเต็มคุ้ม 3 ต่อ กับโปรโมชั่นจ่ายสบายๆ แถมได้คืน พร้อมรับของสมนาคุณพิเศษสุดคุ้ม โดยมีรุ่นต่างๆให้เลือกทั้งคอมพิวเตอร์แบบออลอินวันและโน้ตบุ๊คพกพา ให้คุณเลือกสรรข้อเสนอถูกใจได้แล้วที่ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศไทย และการกลับมาอีกครั้งกับคาราวานสินค้า 4 ภาค ตั้งแต่วันนี้ ถึง 15 ธันวาคม นี้ เท่านั้น

นายจีรวุฒิ วงศ์พิมลพร ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เลอโนโว (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ล่าสุด “ในขณะนี้ เรามุ่งทำตลาดในต่างจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งเราได้รับกระแสตอบรับในผลิตภัณฑ์อย่างดีมากในช่วงแคมเปญการตลาดทั้งเฟสที่ 1 Are You Lenovo และเฟสที่ 2 For those who DO โดยทางเลอโนโวได้วางแผนจัดคาราวานสินค้าเลอโนโวให้ลูกค้าในต่างจังหวัด ทั้ง 4 ภาค เริ่มตั้งแต่ ภาคตะวันออก ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ พร้อมปิดท้ายด้วยกรุงเทพฯ ตั้งแต่วันนี้ถึงประมาณกลางเดือนธันวาคม 2554”

โปรคุ้ม 3 ต่อ

คุ้ม 1 โปรสบายๆ ชำระสินค้าแบ่งจ่ายสบายๆ 0% นาน 10 เดือน
คุ้ม 2 โปรได้คืน รับเงินคืนสูงสุด 3,000 บาท เมื่อผ่อนชำระผ่านบัตรเฟิร์สช้อย
คุ้ม 3 โปรสุดคุ้ม รับของสมนาคุณฟรีมากมาย อาทิ อัพเกรด RAM 4 GB, External Hard Disk, เมาส์ไร้สาย, หูฟัง, USB Flash Drive 8GB

เตรียมพบกับข้อเสนอพิเศษกับคาราวานผลิตภัณฑ์ของเลอโนโวทั่วประเทศ อาทิ พัทยา ระยอง เชียงใหม่ ขอนแก่น นครราชสีมา หาดใหญ่ สำหรับลูกค้าในจังหวัดอื่นๆ สามารถรับสิทธิ์โปรโมชั่นพิเศษได้ที่ ตัวแทนจำหน่ายเลอโนโวใกล้บ้านคุณ นอกจากนี้ ทุกเครื่องคอมพิวเตอร์ที่คุณซื้อ ทางเลอโนโวจะนำรายได้ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม จำนวน 100 บาท/เครื่อง ผ่านทางสภากาชาดไทย

คาราวานผลิตภัณฑ์ของเลอโนโวทั่วไทย
เชียงใหม่
• เซ็นทรัล แอร์พอร์ต เชียงใหม่ ชั้น 3 และโซน IT City ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน – 5 ธันวาคม 2554
• คอมพิวเตอร์พลาซ่า เชียงใหม่ ชั้น G ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน – 1 ธันวาคม 2554
• พันธุ์ทิพย์ พลาซ่า เชียงใหม่ ชั้น G และโซน IT City ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน – 5 ธันวาคม 2554

ขอนแก่น
• ตึกคอม ขอนแก่น ชั้น 3 และโซน IT City ตั้งแต่วันที่ 24 – 30 พฤศจิกายน 2554
• ตึกคอม ขอนแก่น ชั้น G และโซน IT City ตั้งแต่วันที่ 1 – 4 ธันวาคม 2554

นครราชสีมา
• ไอที พลาซ่า โคราช ชั้น 2 และโซน IT City ตั้งแต่วันที่ 1 – 11 ธันวาคม 2554
• เดอะมอลล์ โคราช ชั้น 1 อีเวนท์ฮอลล์ ตั้งแต่วันที่ 24 – 30 พฤศจิกายน 2554

หาดใหญ่
• บิ๊กซี ซูปเปอร์เซ็นเตอร์ หาดใหญ่ ชั้น 2 และโซน IT ตั้งแต่วันที่ 26 พฤศจิกายน – 5 ธันวาคม 2554

กรุงเทพฯ
• พันธุ์ทิพย์ บางกะปิ และประตูน้ำ กรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายน – 15 ธันวาคม 2554

ติดตามข่าวสารข้อมูลหรือผลิตภัณฑ์ล่าสุดของเลอโนโวได้ที่เว็บไซต์ www.lenovo.com/th หรือสมัครดูได้ที่ Lenovo RSS Feeds (http://news.lenovo.com) หรือติดตามผ่าน Facebook (www.facebook.com/lenovo.lover) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 1800-060-087 หรือ 02-689-6451

View :1300

เอไอเอส จับมือ ซัมซุง เปิดตัว “ซัมซุง กาแล็คซี่ โน้ต”

November 28th, 2011 No comments

จับมือ เขย่าวงการสมาร์ทดีไวส์เมืองไทยอีกครั้งกับ กาแล็คซี่โน้ต-Samsung Galaxy Note สุดยอดสมาร์ทโฟนไฮบริทรุ่นใหม่ล่าสุดที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต บนสุดยอดเครือข่าย AIS 3G เพื่อชีวิตในแบบคุณ พร้อมแพ็คเกจสุดคุ้ม และศูนย์รวม Applications แบบจัดเต็ม

นายฐิติพงศ์ เขียวไพศาล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส สายงานการตลาด บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า “ในฐานะ Operator หน้าที่หลักคือ เดินหน้าสรรหาบริการที่ดีที่สุดเพื่อตอบสนองทางเลือกในการใช้ชีวิตให้แก่ลูกค้า ภายใต้แนวคิด DNAs คือ Device, Network, Application และ Service ซึ่งทั้ง 4 ส่วนจะต้องผสมผสานอย่างลงตัวจึงจะนำมาซึ่งรูปแบบบริการที่สมบูรณ์เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าในทุกกลุ่ม สำหรับภาพรวมของการพัฒนาเครือข่ายซึ่งถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักนั้น ปัจจุบันเอไอเอสได้ขยาย 3G 900 ครอบคลุมกรุงเทพและปริมณฑล รวมถึงอีก 9 จังหวัดหลักเรียบร้อยแล้ว โดยสิ่งที่เอไอเอสมุ่งเน้นคือ ความง่าย สะดวกและคุ้มค่าที่จะให้ลูกค้าทั้ง Prepaid และ Postpaid เข้าใช้ 3G ได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องเปลี่ยนซิม ซึ่งสอดคล้องกับยอดการใช้งาน Data ที่มีการเติบโต 71% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 3 ของปีที่ผ่านมา ด้วยปริมาณผู้ใช้งานมากกว่า 7.5 ล้านคน”
“สำหรับเทรนด์การใช้งาน Smart Phone ตลอด 3 ไตรมาสที่ผ่านมามีการเติบโตเป็นอย่างมาก โดยเอไอเอสยังคงทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์อย่างต่อเนื่อง ดังเช่นการร่วมกับซัมซุง ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์ที่ทำงานกับเอไอเอสมาโดยตลอดและประสบความสำเร็จทุกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปิดมิติใหม่ของ Special Device รูปแบบใหม่ๆในประเทศไทย อย่างล่าสุดกับการเปิดตัว ซัมซุงกาแล็คซี่โน้ต ซึ่งถือเป็น category ใหม่ของ Device อันเกิดจากการผสมผสานระหว่าง Phone และ Tablet เข้าด้วยกัน อีกทั้งยังเติมเต็มการใช้งานด้วย S Pen ที่ตอบโจทย์ Natural User Interface ของลูกค้าได้อย่างลงตัว เมื่อผสมผสานเข้ากับสุดยอดเครือข่าย เอไอเอส 3G , การอำนวยความสะดวกในการติดตั้ง Application ที่เอไอเอสจัดให้ลูกค้าเป็นพิเศษ โดยมอบ Micro SD 4 GB พร้อม adapter รวมไปถึงสิทธิในการสมัครแพ็กเสริม ก็ยิ่งทำให้ ซัมซุงกาแล็คซี่โน้ต จากเอไอเอส สามารถเติมเต็มความต้องการของสาวกสมาร์ทดีไวส์ได้มากยิ่งกว่าใครแน่นอน”

นายวิชัย พรพระตั้ง ผู้อำนวยการธุรกิจโทรคมนาคม บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า “ซัมซุงในฐานะผู้นำตลาดสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตทั้งในระดับโลกและประเทศไทยยังคงมุ่งมั่นนำเสนออุปกรณ์สื่อสารที่จะสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการ เพื่อทำให้ชีวิตในรูปแบบ On-the-Go สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น “ซัมซุง กาแล็คซี่ โน้ต (Samsung Galaxy Note)” อีกหนึ่งในความภาคภูมิใจ ของซัมซุงที่เป็นวิวัฒนาการผสมผสานระหว่างสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต มาพร้อมปากกามหัศจรรย์ S Pen สามารถใช้จด ขีดเขียน ตัดต่อ ตกแต่ง หรือวาดภาพได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายเทียบเท่ากระดาษและปากกาจริงๆ เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของนักเดินทาง นักธุรกิจ ตลอดจนนักศึกษาที่ต้องเดินทางตลอดเวลา ซัมซุง กาแล็คซี่ โน้ต ถือเป็นเซ็กเมนท์ใหม่ที่ซัมซุงสร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ใช้ทั้งสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต และยังคงต้องใช้การจดบันทึกหรือสนุกกับการวาดภาพและตกแต่งภาพแล้วอัพโหลดขึ้นโซเชียลเน็ตเวิร์คต่างๆ เพื่อแบ่งปันความสนุกให้กับเพื่อนๆ ด้วยซัมซุง กาแล็คซี่ โน้ต การพกกระดาษกับปากกาก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป พร้อมกันนี้ฟีเจอร์อื่นๆ ก็ยังมีความโดดเด่นล้ำสมัย ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ HD Super AMOLED จอแรก บนสมาร์ทโฟนที่ใหญ่ที่สุดของโลก ด้วยขนาด 5.3 นิ้ว กล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมออโต้โฟกัสและแอลอีดีแฟลช และกล้องหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซลสำหรับใช้งานวีดิโอคอล”

“สำหรับความร่วมมือที่เกิดขึ้นระหว่างซัมซุงและเอไอเอสในครั้งนี้จะเป็นการพลิกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการอุปกรณ์สื่อสารในประเทศไทยอีกครั้งในการสร้างเซ็กเมนต์ใหม่ให้เกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน” นายวิชัยกล่าวเสริม

ซัมซุง กาแล็คซี่โน้ต จาก เอไอเอส เริ่มวางจำหน่ายแล้ววันนี้ในราคา 22,900 บาท (รวม VAT) พร้อมสิทธิผ่อน 0% นาน 10 เดือนที่เอไอเอสช็อป และเทเลวิซที่ร่วมรายการ ทั่วประเทศ ลูกค้าเอไอเอส รับสิทธิสมัคร แพ็กเสริม 399 บาท ฟรี 3G/EDGE+ 3GB/เดือน นาน 12 เดือน สมัครโทร *212341 ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 มกราคม 2555

View :1646

แคนนอนเปิดตัว Canon PIXMA Ink Efficient E500

November 28th, 2011 No comments

แคนนอนตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านดิจิตอลอิมเมจจิ้งเปิดตัวพรินเตอร์รุ่นใหม่ล่าสุด Canon PIXMA Ink Efficient E500ตอบโจทย์ผู้ใช้ Home Use และกลุ่มธุรกิจ ด้วยคุณภาพและการทำงานแบบ ออลอินวัน ครอบคลุมการใช้งานทุกรูปแบบอย่างมีประสิทธิภาพโดดเด่นมีสไตล์ด้วยสีสันและรูปทรงทันสมัยพร้อมด้วยเทคโนโลยีความประหยัดแบบสุดคุ้ม และฟังก์ชั่นพิเศษ FastFront และ Auto Photo Fix II ให้คุณใช้งานง่ายดั่งมืออาชีพ

คุณวรินทร์ ตันติพงศ์พานิช ผู้อำนวยการอาวุโส และ ผู้จัดการทั่วไปส่วนงานคอนซูเมอร์ อิมเมจจิ้ง แอนด์ อินฟอร์เมชั่น บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์)เปิดเผยว่า “ตั้งแต่ปี 2005ที่บริษัทแคนนอนฯ ได้ออกผลิตภัณฑ์ในกลุ่มออลอินวันพรินเตอร์ แคนนอนมียอดธุรกิจเติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกปี เห็นได้จากที่แคนนอนสามารถครองความเป็นเจ้าตลาดพรินเตอร์ทั้งแบบซิงเกิ้ลฟังก์ชั่น และออลอินวันได้ยาวนานถึง 11 ปีซ้อน และมีมาร์เก็ตแชร์ของเครื่องอิงค์เจ็ทพรินเตอร์แบบออลอินวันมากถึง 53.2%ในครึ่งปีแรกของ 2554และในปลายนี้แคนนอนเองไม่หยุดเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยี สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อมอบที่สุดแห่งประสบการณ์การใช้งานให้กับลูกค้าในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับพรินเตอร์ ซึ่งถือว่าเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่แคนนอนได้นำเทคโนโลยี Hybrid System อัจฉริยะด้วยการผสมสีแบบไล่ระดับ เหมาะสมต่อการพิมพ์ภาพถ่าย ทั้งยังให้คุณภาพงานสีสวยและคมชัด ผสานเข้ากับระบบหัวพิมพ์แบบ FINE (Full-Photolithography Inkjet Nozzle Engineering)โดยเน้นเจาะกลุ่มลูกค้ากลุ่มธุรกิจและผู้ที่เน้นปริมาณการพิมพ์ ด้วยความโดดเด่นด้านความประหยัดที่ไม่ลดทอนคุณภาพการพิมพ์ โดยหมึกแคนนอนแท้ตลับหนึ่งสามารถพิมพ์เอกสารได้มากถึง 800 แผ่น ด้วยต้นทุนในการพิมพ์เพียงแผ่นละ 49 สตางค์*เท่านั้น และยังเพิ่มฟังก์ชั่นพิเศษมากมายให้ลูกค้าใช้งานได้ง่ายและสะดวกขึ้น”

Canon PIXMA Ink Efficient E500 ตอบโจทย์สำหรับกลุ่มลูกค้าธุรกิจด้วยความคุ้มทุนครบทุกฟังก์ชั่นลงตัวทุกการใช้งานทั้งพริ้นท์ สแกน และถ่ายเอกสาร ในเครื่องเดียวโดดเด่นด้วยความสามารถในการพิมพ์ เพียงตลับหมึกเดียว สามารถผลิตเอกสารขาวดำ ได้มากถึง 800 แผ่น พร้อมคุณภาพงานสวยคมชัดความละเอียดสูงสุดถึง 4800 dpi อณูหมึกเล็ก 2 พิโคลิตร ด้วยระบบหัวพิมพ์แบบ FINE ช่วยให้ประหยัดค่าหมึกและไม่ต้องคอยเปลี่ยนตลับหมึกบ่อยพร้อมคุณภาพงานสุดประทับใจ

นอกเหนือจากความประหยัดสุดคุ้มแล้ว Canon PIXMA Ink Efficient E500ยังมาพร้อมกับความสะดวกสบายในการใช้งาน ด้วยระบบ FastFront ที่ทำให้การเปลี่ยนหมึกไม่ยุ่งยากอีกต่อไป เพราะสามารถเปลี่ยนตลับหมึกได้ทันใจจากถาดด้านหน้าพรินเตอร์ สะดวกยิ่งขึ้นด้วยระบบTwo Ways Paper Feeding หรือการป้อนกระดาษแบบ 2 ทิศทาง การันตีความเร็วในการพิมพ์ เพียง 1 นาที สามารถพิมพ์ภาพถ่ายได้ถึง 5 ภาพ ถ่ายเอกสารสีได้รวดเร็วในเวลาแค่ 30 วินาที และ 44 วินาที สำหรับพิมพ์ภาพขนาด 4×6 นิ้ว พร้อมด้วย Quiet Modeทำงานเงียบ ไร้เสียงดังรบกวนซึ่งสามารถตั้งให้ทำงานในโหมดนี้ได้ทุกฟังก์ชั่นทั้งการพิมพ์การถ่ายเอกสาร และสแกน

และเพื่อตอบโจทย์สำหรับกลุ่มผู้ใช้ Home Use ด้วยความคุ้มคุณภาพแคนนอนยังได้พัฒนาเทคโนโลยีมากมายเพิ่มความสนุกสนานให้กับผู้ใช้ ซึ่งอัดแน่นอยู่ใน Canon PIXMA Ink Efficient E500 รุ่นนี้ โดยเฉพาะซอฟต์แวร์แห่งจินตนาการ Fun Filter Effect เปลี่ยนรูปถ่ายธรรมดาให้เป็นภาพแปลกตาอาทิ Fish-Eye Effect ที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปคน สัตว์ หรือวัตถุในภาพให้โค้งนูนเสมือนถ่ายภาพจากเลนส์กล้องแบบฟิชอาย, Miniature Effect สามารถปรับสัดส่วนความชัด-เบลอของภาพเสมือนโมเดลเมืองจำลอง ฯลฯ ซึ่งไม่ว่าจะใช้ฟังก์ชั่นไหน ซอฟต์แวร์ใดก็ตาม งานทั้งหมดที่ได้จะออกมาสมบูรณ์แบบด้วยฟังก์ชั่น Auto Photo Fix II ช่วยปรับสมดุลระดับสีอัตโนมัติ ให้งานละเอียดสวยอย่างมืออาชีพรวมทั้งเทคโนโลยีอื่นๆ ประกอบด้วย ระบบ ChromaLife100 ทำงานร่วมกับเทคโนโลยี FINE, หมึกแท้แคนนอน และกระดาษพิมพ์ภาพแคนนอน ให้ภาพสวยคงทนต่อแสงแดดและความชื้น ยืดเวลาการเก็บรักษาภาพได้ยาวนานขึ้น ขณะที่เทคโนโลยี Dual Color Gamut Processing ให้ภาพสีสวยเหมือนต้นฉบับจากทั้งสแกนและพิมพ์ภาพส่วนผู้ใช้กล้องถ่ายภาพแคนนอน จะได้พบกับความสนุกสุดล้ำด้วยโปรแกรมใหม่ Full HD Movie Print ให้คุณพริ้นภาพจากไฟล์วีดีโอได้ทันใจทุกช็อต หรือจัดภาพทั้งหมดอย่างมีสไตล์เพียงการสั่งตัดต่อภาพแค่ครั้งเดียว

และแคนนอนยังได้เปิดตัวแคมเปญพรินเตอร์คู่คุ้ม Canon PIXMA Ink Efficient E500 โดยใช้งบโฆษณาประมาณ 50 ล้านบาท ในภาพยนต์โฆษณาใหม่ชื่อเรื่อง Love at First Sight เพื่อมาบอกเล่าเรื่องราวของการพบรักของหนุ่มสาวกับเครื่องพรินเตอร์ตัวใหม่ ซึ่งเมื่อใครเห็นก็ต้องตกหลุมรักภาพยนต์โฆษณาชุดนี้เริ่มออกอากาศพร้อมกันในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2554 และติดตามพบกับกิจกรรมภายใต้แคมเปญพรินเตอร์คู่คุ้ม
Canon PIXMA Ink Efficient E500 อีกมากมาย
Canon PIXMA Ink Efficient E500 มี 2 สี คือ สี Aurora Blue และสี Piano Black ให้ความรู้สึกหรูหราตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น สนนราคาที่ 2,790 บาท มาพร้อมชุดตลับหมึกมาตรฐาน 1 ชุด พร้อมรับประกันสินค้าเป็นระยะเวลาถึง1 ปี สามารถหาซื้อได้แล้ววันนี้ที่ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร. 02 – 344-9999 หรือ www.canon.co.th

View :2280