Archive

Author Archive

เอไอเอส มอบบริการ SMEs News Alert ส่งตรงทุกข่าวสารเพื่อ SMEs ไทย ก้าวไกลสู่เวทีอาเซียน

March 9th, 2012 No comments

เอไอเอส ผู้นำด้านการให้บริการเครือข่ายการสื่อสารคุณภาพสูง ร่วมสนับสนุนผู้ประกอบการ เตรียมพร้อมรับมือกระแสเวทีเศรษฐกิจประชาคมอาเซียน นำเสนอโปรโมชั่นบริการข้อมูลข่าวสารในรูปแบบ Short Message เพื่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอี หรือ ฟรี! 15 วัน

SMEs News Alert เป็นอีกหนึ่งบริการด้านข้อมูลข่าวสารสำหรับผู้ประกอบการ SMEs ที่ผ่านกระบวนการคัดกรองข้อมูลอย่างละเอียด อ้างอิงจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ สด ใหม่ ทันสมัย เพื่อให้ได้ข้อมูลข่าวสารที่เข้าใจง่าย กระชับ ชัดเจน พร้อมทั้งยังนำเสนอในแง่มุมที่หลากหลาย ครอบคลุมทุกมิติของการทำธุรกิจ ส่งตรงถึงมือถือผู้ใช้บริการเครือข่าย AIS เพื่อให้ผู้ประกอบการ SMEs หรือผู้ที่สนใจ สามารถอัพเดทข้อมูล ข่าวสาร และสถานการณ์ทางธุรกิจได้ทุกที่ทุกเวลา ทั้งราคาน้ำมัน ทองคำ พืชผลทางการเกษตร ค่าเงินบาท และค่าเงินต่างประเทศ ตัวเลขเศรษฐกิจ ค่าจีดีพี อัตราดอกเบี้ย ตัวเลขการส่งออก กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ หรือข้อมูลข่าวสารที่น่าสนใจอื่นๆ อีกมากมาย สำหรับเสริมความพร้อมเพื่อรับมือการแข่งขันทางธุรกิจสนามใหม่ระดับอาเซียนในอีก 4 ปีข้างหน้า

โอกาสดีๆ แบบนี้ ผู้ประกอบการ SMEs ไม่ควรพลาด ด้วยเงื่อนไขการขอรับบริการง่ายๆ เพียงใช้โทรศัพท์มือถือเฉพาะเครือข่ายเอไอเอส กด *473699900 แล้วโทรออก เพื่อรับบริการ SMEs News Alert ฟรี! 15 วัน ทันที สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ 081-805-1199

View :1237

ก.ไอซีที เผยแพร่แผนแม่บท ASEAN ICT Masterplan 2015 รองรับประชาคมอาเซียน

March 9th, 2012 No comments

นางสาวอารีวรรณ ฮาวรังษี รักษาการที่ปรึกษาด้านต่างประเทศ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงานสัมมนา “การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ แผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารอาเซียน หรือ ” ว่า การก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558 ถือเป็นความท้าทายและโอกาสของประเทศ โดยประเด็นที่เห็นได้ชัดเจน คือ โอกาสจากการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ การลดอุปสรรคทางการค้า และโอกาสในการลงทุน ด้วยจำนวนประชากรที่รวมกันกว่า 600 ล้านคน ครอบคลุมพื้นที่ 4.5 ล้านตารางกิโลเมตร มีผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (GDP) 1.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ มูลค่าการค้ารวม 1.8 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่งผลให้อาเซียนเป็นตลาดที่ใหญ่และดึงดูดการลงทุนจากประเทศนอกอาเซียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยะหลังมีประเทศพัฒนาหลายประเทศ ได้แก่ จีน อินเดีย สหรัฐฯ และรัสเซีย ให้ความสนใจภูมิภาคอาเซียน และเข้าร่วมเป็นคู่เจรจากับอาเซียน

นอกจากนี้ การเป็นประชาคมยังช่วยเพิ่มอำนาจต่อรองในเวทีระหว่างประเทศทุกด้าน รวมถึงความสามารถในการรับมือกับปัญหาใหม่ๆ ในระดับโลกที่ส่งผลกระทบมาถึงภูมิภาค เช่น สิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และภัยพิบัติทางธรรมชาติ ส่วนเรื่องความท้าทายนั้น ยังมีหลายปัจจัยที่อาเซียนต้องคำนึงถึง เช่น ความแตกต่างด้านเชื้อชาติ ศาสนา และระดับการพัฒนาของประเทศสมาชิก วิกฤตเศรษฐกิจและการเงินโลก ผลกระทบทางลบจากการเชื่อมโยงภูมิภาค เช่น ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ การลักลอบการค้ามนุษย์ การค้าอาวุธ ยาเสพติด การลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย รวมถึงสร้างความรู้สึกร่วมของประชาชนให้ตระหนักถึงหน้าที่ในการเป็นประชากรของอาเซียน

ดังนั้น ประเทศไทยจึงต้องพร้อมรับกับการก้าวไปสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในอีก 3 ปีข้างหน้า ทั้งในเชิงรุกที่จะทำให้ไทยได้รับประโยชน์จากการเป็นประชาคมอาเซียน และในเชิงรับที่ต้องปกป้องและแก้ไขผลกระทบในแง่ลบต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น โดยขณะนี้ กระทรวงไอซีที อยู่ระหว่างการจัดทำแผนการดำเนินงานเพื่อมุ่งสู่การเป็นประชาคมอาเซียน ซึ่งจะครอบคลุมภารกิจต่างๆ ของกระทรวงฯ ทั้งด้านการพัฒนาไอซีที การเตือนภัยพิบัติ และความร่วมมือด้านสถิติ รวมทั้งได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการประสานงานความร่วมมืออาเซียนด้านโทรคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศในการกำกับดูแลและขับเคลื่อนการดำเนินโครงการและกิจกรรมต่างๆ เพื่อสนับสนุนการเป็นประชาคมอาเซียนด้วย

ด้านนายอาจิน จิรชีพพัฒนา ผู้อำนวยการสำนักกิจการระหว่างประเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อมีการเห็นชอบให้จัดตั้งประชาคมอาเซียนขึ้นภายในปี 2558 ที่ประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านโทรคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ TELMIN ครั้งที่ 8 เมื่อเดือนสิงหาคม 2551 จึงได้เห็นชอบโครงการจัดทำแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารอาเซียน หรือ ASEAN ICT MASTERPLAN 2015 และอนุมัติการสนับสนุนเงินจากกองทุน ASEAN ICT Fund เพื่อดำเนินโครงการดังกล่าว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดทิศทางกิจกรรมความร่วมมือด้านไอซีทีและสนับสนุนการรวมกลุ่ม ของอาเซียน และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันด้านไอซีที ซึ่งต่อมาได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจขึ้นเพื่อร่วมพิจารณาจัดทำแผนแม่บทฯ รวมทั้งให้ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะ โดยมีผู้แทนของประเทศสมาชิกอาเซียนทั้ง 10 ประเทศเข้าร่วมในคณะกรรมการดังกล่าว

หลังจากนั้นในการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านโทรคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศ ครั้งที่ 10 เมื่อเดือนมกราคม 2554 ที่ประชุมได้มีการรับรองแผนแม่บท ASEAN ICT Masterplan 2015 และมีการประกาศแผนแม่บทฉบับดังกล่าวอย่างเป็นทางการ โดยเป็นแผนแบบเบ็ดเสร็จที่มีการระบุยุทธศาสตร์ แผนการดำเนินงาน เป้าหมาย รวมทั้งระยะเวลาการดำเนินการภายใน 5 ปีที่ชัดเจน และภายหลังจากการรับรองแผนแม่บทฯ แล้ว ที่ประชุมอาเซียนยังได้เห็นชอบให้สมาชิกแต่ละประเทศจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมและประชาสัมพันธ์แผนแม่บทฯ ให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งภาคอุตสาหกรรม ภาครัฐ ภาคการศึกษา ได้รับทราบและมีส่วนร่วมในการผลักดันแผนดังกล่าวไปสู่การปฏิบัติ

กระทรวงฯ จึงได้จัดให้มีการสัมมนาเผยแพร่และประชาสัมพันธ์แผนแม่บท ASEAN ICT Masterplan 2015 อย่างเป็นทางการขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการเป็นประชาคมอาเซียน รวมทั้งกรอบความร่วมมืออาเซียนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ตลอดจนบทบาทของประเทศไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้แก่ผู้เข้าร่วมสัมมนา ซึ่งประกอบด้วย ผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานภาครัฐ สถาบันการศึกษา และผู้สนใจประมาณ 250 คน นอกจากนั้น กระทรวงฯ ยังได้เชิญผู้ทรงคุณวุฒิจากหลายหน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ มหาวิทยาลัยศรีปทุม สมาคมโทรคมนาคมในพระบรมราชูปถัมภ์ และสมาคมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศไทย มาร่วมให้ความรู้ และข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์กับผู้เข้าร่วมสัมมนาอีกด้วย

View :1623

ไอบีเอ็มประกาศบุกตลาด Big Data เปิดตัวซอฟต์แวร์ InfoSphere ทุ่ม 100 ล้านดอลลาร์เพื่อการวิจัยการวิเคราะห์ข้อมูลปริมาณมหาศาล

March 8th, 2012 No comments

ไอบีเอ็มรุกตอบโจทย์ตลาดองค์กรมากมายที่ต้องการข้อมูลเชิงลึก จากหลากหลายแหล่งข้อมูลจำนวนมหาศาลแบบเรียลไทม์ เปิดตัวซอฟต์แวร์ตระกูล InfoSphere สำหรับงานประมวลผล 2 ตัวคือ InfoSphere BigInsights (อินโฟร์สเฟียร์
บิ๊กอินไซด์) และ InfoSphere Streams (อินโฟร์สเฟียร์ สตรีม) ซอฟต์แวร์ใหม่ล่าสุด ที่พร้อมช่วยลูกค้าเพิ่มประสิทธิภาพเอาชนะคู่แข่งจากข้อมูลเชิงลึก เพื่อตอบโจทย์การขยายตัวของข้อมูลในโลกอินเตอร์เน็ต ครั้งแรกที่องค์กรทั้งหลายสามารถเชื่อมโยงและวิเคราะห์ข้อมูลนับสิบพันล้านไบต์ในฟอร์แมตเดิมๆ จนได้เป็นข้อมูลสำคัญเพียงเสี้ยววินาที ไอบีเอ็มยังประกาศที่จะลงทุนอีก 100 ล้านดอลลาร์ เพื่อความต่อเนื่องสำหรับงานวิจัยด้านเทคโนโลยีและบริการที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถบริหารจัดการและใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องทั้งด้านปริมาณและความรวดเร็ว โดยจะมุ่งเน้นการวิจัยเริ่มต้นช่วยผลักดันอนาคตการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ ตลอดจนพัฒนาเพื่อความก้าวหน้าของซอฟต์แวร์ ระบบและความสามารถการให้บริการ

ข้อมูลล่าสุดของงานวิจัย 2011 IBM Global CIO Study พบว่า 83% ของซีไอโอ 3,000 ท่านที่ทำแบบสำรวจ กล่าวว่า การประยุกต์ใช้เครื่องมือวิเคราะห์และระบบธุรกิจอัจฉริยะเพื่อการดำเนินงานด้านไอที ถือเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งในแผนกลยุทธ์เพื่อการเติบโตในสามถึงห้าปีข้างหน้า จากข้อมูลรายงานบทวิเคราะห์ล่าสุดของอุตสาหกรรมไอที คาดว่าข้อมูลในองค์กรขนาดใหญ่ใน 5 ปีข้างหน้าจะเติบโตมากกว่า 650% และ 8% ของข้อมูลที่เติบโตขึ้นเป็นข้อมูลแบบไร้โครงสร้าง (unstructured data) และมีจำนวนมหาศาล ซึ่งเรียกรวมๆ ว่า “” ตัวอย่างข้อมูลเหล่านี้ได้แก่ ข้อความทวีต, ข้อมูลการคลิก, รูปภาพ, วิดีโอ, พิกัด GPS, ข้อมูลจากเซ็นเซอร์, ข้อมูลการเคลื่อนไหวของหุ้น ฯลฯ

นางเจษฎา ไกรสิงขร กรรมการ รองกรรมการผู้จัดใหญ่ ธุรกิจซอฟต์แวร์ บริษัท ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า “ทั้งปริมาณและความเร็วในการเติบโตของข้อมูลนั้นเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัวกับเทคโนโลยีที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งเติบโตขึ้นจากช่องทางใหม่ๆ ของข้อมูลอย่าง เครือข่ายสังคมออนไลน์และการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตของอุปกรณ์มือถือ แท๊บเล็ต ด้วยความสามารถที่หลากหลายของไอบีเอ็มทั้งด้านธุรกิจและด้านเทคโนโลยี ทำให้ไอบีเอ็มสามารถตอบสนองความต้องการในการช่วยลูกค้าได้อย่างเหมาะสมลงตัวที่สุด ไม่เพียงแต่ดึงข้อมูลเชิงลึกที่มีค่าออกมาเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ลูกค้าสามารถตอบสนองต่อการเติบโตของข้อมูลได้อย่างฉับไวอีกด้วย”

เพื่อตอบโจทย์ในการจัดการ Big Data ไอบีเอ็มได้เปิดตัวชุดซอฟต์แวร์ InfoSphere BigInsights และ Infosphere Streams ตัวใหม่พร้อมใช้งาน ซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกที่อยู่ทั่วไปในกระบวนการทางธุรกิจได้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยซอฟต์แวร์นี้ได้รับการพัฒนาต่อยอดจากสิทธิบัตรมากกว่า 50 รายการ ที่คิดค้นขึ้นเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลแบบมีโครงสร้างที่พบอยู่ทั่วไปในระบบฐานข้อมูลและรวมถึงข้อมูลแบบไร้โครงสร้าง อย่างเช่น ข้อความ วิดีโอ เสียง ภาพ สื่อสังคมเครือข่าย ข้อมูลสตรีมมิ่ง เป็นต้น จึงช่วยให้สามารถตัดสินใจที่จะดำเนินการใดๆ ได้อย่างรวดเร็ว

ซอฟต์แวร์ Big Insights คือผลลัพธ์จากความทุ่มเทตลอด 4 ปีของนักวิทยาศาสตร์ใน IBM Research กว่า 200 ชีวิต และพลังจากเทคโนโลยีโอเพ่นส์ซอร์สอย่าง Apache Hadoop ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์แพลตฟอร์มสำหรับการประมวลผลขนาดใหญ่ และรองรับการเชื่อมต่อสตอเรจสำหรับจัดเก็บข้อมูลระดับเทระไบต์จนถึงเพตาไบต์ และยังรวมเอาเทคโนโลยีของ Watson อันประกอบด้วย การวิเคราะห์ข้อความแบบไร้โครงสร้าง การจัดทำดัชนีที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถวิเคราะห์ได้อย่างรวดเร็ว และรูปแบบข้อมูลหรือชนิดข้อมูล

นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ใหม่อย่างเครื่องมือสำหรับบริหารจัดการด้านความปลอดภัยและการกำกับดูแลข้อมูล เครื่องมือในการพัฒนา และการเชื่อมต่อระดับองค์กร จึงง่ายสำหรับลูกค้าที่ต้องการสร้างแอพพลิเคชันใหม่สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลระดับ Big Data และที่สำคัญไอบีเอ็มยังเปิดให้ดาวน์โหลด BigInsights Basic Edition ได้ฟรี เพื่อช่วยให้เชื่อมโยงและจัดการกับ BigData ได้ง่ายขึ้น

สำหรับซอฟต์แวร์ InfoSphere Streams ที่ได้รับการพัฒนาจาก IBM Research เป็นซอฟต์แวร์เพื่อการวิเคราะห์ข้อมูลที่อยู่ภายในองค์กร และเพื่อการตรวจสอบข้อมูลสำหรับทุกรูปแบบการเปลี่ยนแปลง ซึ่งอาจสร้างรูปแบบใหม่หรือแนวโน้มใหม่ได้ตลอดเวลา ด้วยความสามารถนี้จึงช่วยให้องค์กรสามารถเฝ้าระวังและใช้ข้อมูลเชิงลึกได้ เพื่อการตัดสินใจได้อย่างเหมาะสม ไม่พลาดโอกาสที่เกิดขึ้น

ด้วยความก้าวหน้าของซอฟต์แวร์ Streams จึงทำให้ Big Data เช่น ข้อมูล Tweets ข้อมูลบล็อก เฟรมวิดีโอ EKGs, GPS และเซนเซอร์หรือข้อมูลตลาดหุ้น ได้เร็วขึ้นกว่าเดิมถึง 350% จึงเรียกได้ว่า BigInsights ได้เติมเต็ม Strames ด้วยการประยุกต์การวิเคราะห์ข้อมูลประวัติศาสตร์ขององค์กรได้เช่นเดียวกับข้อมูลแบบสตรีมมิ่ง และนี้คือวงจรการวิเคราะห์ข้อมูลที่เพิ่มศักยภาพการรองรับข้อมูลที่มากกว่า และให้ผลลัพธ์การวิเคราะห์แบบเรียลไทม์ ผลลัพธ์ที่ได้จึงพร้อมรองรับการสร้างแบบจำลองเพื่อการปรับปรุงงาน ไอบีเอ็มจึงได้สร้างโซลูชันบนพื้นฐานเทคโนโลยีโอเพ่นส์ซอร์สและเพิ่มความสามารถในการบริหารจัดการและฟังก์ชันด้านความปลอดภัยและเสถียรภาพในระดับการใช้งานเชิงธุรกิจ Hadoop มีความสามารถในการประมวลผลข้อมูลข้ามแพลตฟอร์มทางคอมพิวเตอร์ ซึ่งเมื่อประสานกับความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลของไอบีเอ็ม จึงพร้อมตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการจัดการกับการเติบโตของข้อมูล Big Data ทั้งนี้ชุดโซลูชันของไอบีเอ็มบนพื้นฐาน Hadoop ประกอบด้วย IBM Cognos Consumer Insight ที่ซึ่งสามารถเชื่อมโยงกับข้อมูลเนื้อหาในสังคมเครือข่ายด้วยเครื่องมือวิเคราะห์ทางธุรกิจพื้นฐาน และ IBM Coremetrics Explore ซึ่งสามารถหารูปแบบพฤติกรรมการซื้อของลูกค้า และเจาะลึกลงไปดูถึงข้อมูลระดับโมบายได้ นอกจากนี้ Hadoop ยังเป็นซอฟต์แวร์เฟรมเวิร์กให้กับระบบการประมวลผล IBM Watson ที่ใช้สำหรับการกระจายโหลดการทำงานในการประมวลผลข้อมูลสารสนเทศ จึงตอบโจทย์ระบบที่สามารถเข้าใจภาษาธรรมชาติและให้คำตอบเฉพาะได้อย่างรวดเร็ว

ซอฟต์แวร์และบริการ Big Data ของไอบีเอ็ม ถือเป็นการตอกย้ำการริเริ่ม การวิเคราะห์ของไอบีเอ็ม เพื่อนำเสนอเทคโนโลยีที่คล้ายกับ Watson ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถตอบโจทย์เฉพาะทางของธุรกิจตนเองได้ ซึ่งใกล้เคียงกับ IBM Jeopardy Challenge เกมตอบคำถามแข่งกับมนุษย์ซึ่งเทคโนโลยี IBM Watson ได้สาธิตให้เห็นถึงความสามารถในการเข้าใจภาษามนุษย์ ความสามารถในการวิเคราะห์ขั้นสูงที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้แก้ปัญหาลูกค้าได้จริง ตั้งแต่ระบบการรักษาสุขภาพ ไปจนถึงการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคสำหรับลูกค้ากลุ่มธุรกิจค้าปลีก

รับฟังข้อมูลจากลูกค้าของไอบีเอ็มที่ใช้การวิเคราะห์เพื่อเปลี่ยนแปลงธุรกิจของตนเองได้ที่ http://www.youtube.com/user/ibmbusinessanalytics สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ IBM Big Data โปรดเยี่ยมชมที่เว็บไซต์: www.ibm.com/bigdata.

View :1448

ไอ-โมบาย กางแผนสู้ศึกโมบายปี 55 ลั่น ขอเป็นมือถือเฮ้าส์แบรนด์เบอร์ 1 ชูคอนเทนต์และแอพฯแหวก นำร่องด้วยแอพฯดูดวงแบรนด์แรก

March 8th, 2012 No comments

ไอ-โมบาย เปิดกลยุทธ์รุกพื้นที่ตลาดโมบาย ตั้งเป้าผู้นำโทรศัพท์มือถือเฮาส์แบรนด์อันดับหนึ่ง ชูคอนเทนต์และแอพพลิเคชั่นที่แปลกใหม่ ไลฟ์สไตล์โฟนเพื่อตอบสนองการใช้งานจริงด้วยแอพพลิเคชั่นดูดวง นำร่องแบรนด์แรกของไทย
ฑิตพล จันทร์อุไร ผู้จัดการฝ่ายอำนวยการผลิตภัณฑ์ บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน)
ฑิตพล จันทร์อุไร ผู้จัดการฝ่ายอำนวยการผลิตภัณฑ์ บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า รูปแบบการพัฒนาสินค้าและบริการของ ไอ-โมบายนั้นได้ตอบสนองการใช้งานของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างต่อเนื่อง เช่น มือถือรุ่น Hitz เป็นผลิตภัณฑ์กลุ่มเบสิกโฟน ใช้งานง่ายและมีราคาย่อมเยา มือถือรุ่นZaa เป็นผลิตภัณฑ์กลุ่มฟีเจอร์โฟนที่มีฟังก์ชั่นหลากหลายการใช้งานคุ้มค่า มือถือรุ่น idea เป็นผลิตภัณฑ์กลุ่มสมาร์ทฟีเจอร์โฟน สามารถออนไลน์โซเชียลเน็ตเวิร์ค รวมถึงใช้งานแอพพลิเคชั่นต่างๆ มือถือรุ่น i-Style เป็นผลิตภัณฑ์กลุ่มสมาร์ทโฟน3G แอนดรอยด์ ใช้งานง่าย ราคาประหยัด และ i-note ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มแท็บเลตพีซี ที่มีประสิทธิภาพ คุ้มค่าต่อการใช้งาน โดยในปี 2555 ตั้งเป้าจำหน่าย i-mobile จำนวน 3.5 ล้านเครื่อง หรือคิดเป็นส่วนแบ่งการตลาด 31%โดยตั้งเป้าเพิ่มรุ่นโทรศัพท์มือถือที่รองรับ 3จี ให้มากขึ้น และนำเสนอคอนเทนต์และแอพพลิเคชั่นที่แปลกใหม่ สอดคล้องกับเทคโนโลยีและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค

“โดยแต่ละกลุ่มจะมีกลยุทธ์แตกต่างกัน คือกลุ่มเบสิกโฟน จะเป็นกลุ่มที่มีการแข่งขันสูงด้านราคา โดยเฉพาะกับ มือถืออินเตอร์แบรนด์ โดยไอ-โมบายจะเพิ่มความต่างด้วยการนำฟังก์ชั่นเข้ามาเสริมเพื่อสร้างความคุ้มค่าให้กับผู้บริโภค เช่น สามารถใช้ได้ 2 ซิม มีบลูทูธ MP3 นำคอนเทนต์ และแอพพลิเคชั่นเสริมมาไว้ในเครื่องเพื่อเพิ่มความแตกต่าง ดีไซน์รูปลักษณ์ให้สะดุดตาขึ้น เช่นฝาพับ สกรีนลวดลาย และเปลี่ยนสีได้ เป็นต้น

สำหรับผลิตภัณฑ์กลุ่มฟีเจอร์โฟน และสมาร์ทฟีเจอร์โฟนนั้น ที่มีฟังก์ชั่นครบครัน สามารถออนไลน์โซเชียลเน็ตเวิร์ค รวมถึงใช้งานแอพพลิเคชั่นต่างๆ โดยเราจะเน้นความหลากหลายให้เลือกไม่ซ้ำ มีฟังก์ชั่นที่แตกต่าง เช่นบริการ immแชตบนมือถือ มีบริการเสริมที่รวบรวมข่าวสาร และสาระบันเทิงต่าง ๆ เรียกว่าเมนู “คอนเทนต์ คาเฟต์” โดยสามารถออนไลน์ผ่านว็อบไซต์บนมือถือไอ-โมบาย รวมถึงยังมีเมนูไอ-คีย์ (i-key) ที่รวมรวบ 9 บริการ ที่น่าสนใจอย่าง BizInfo,Directory,i-Sport, LiveInfo, Movie, Music,Sexy,Horo,MyMail โดยจะมีอยู่ในมือถือไอ-โมบายทุกรุ่นที่รองรับจาวา ซึ่งลูกค้าใช้แล้วเกิดความคุ้มค่า ซึ่งถือเป็นความโดดเด่นสำคัญของ ไอ-โมบาย

ส่วนกลุ่มสมาร์ทโฟน จะเจาะลูกค้ากลุ่ม First Jobber นำเสนอมือถือแอนดรอยด์ 2 ซิม 3 จี ในราคาคุ้มค่า ตั้งแต่ 4,500 – 6,000 บาท มีแอพพลิเคชั่นพิเศษที่เรียกว่า “แอพคาเฟต์” เพื่อรองรับตลาดมือถือสมาร์ทโฟน 3 จี ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ที่ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นแบบไทยๆ ออกมาให้ใช้กันอย่างเช่นเรื่องของสมาร์ทนิวส์ ให้ผู้ใช้สามารถอ่านหนังสือพิมพ์ไทยได้ หรืออ่านข่าวต่างประเทศได้เช่นเดียวกัน วีคลี่ไกด์ ให้ผู้ใช้ค้นหาสถานที่กิน ดื่ม เที่ยวทั่วไทย และสปอร์ต อัพเดทข่าวสารแวดวงกีฬา นอกจากนี้แอพคาเฟต์ยังเป็นแอพพลิเคชันที่ได้ทำการควบรวมแอนดรอยด์มาร์เก็ตเข้ามาให้สามารถเลือกดาวน์โหลด ผ่านทางแอพคาเฟต์ได้โดยตรง พร้อมกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ในกลุ่มแอนดรอยด์แท็บเลตพีซี ที่มีประสิทธิภาพในราคาย่อมเยา ประมาณ 8,000 บาท แตกต่างด้วยรูปแบบของไอ-โมบาย วิดเจ็ต โดยเป็นแอพพลิเคชั่นที่พัฒนาโดยไอ-โมบาย” ผู้บริหารไอ-โมบายกล่าว

นอกจากนี้ไอ-โมบายยังได้พัฒนาแอพพลิเคชั่นที่ตอบสนองการใช้งานสำหรับผู้บริโภคมากขึ้นโดยปลายปีที่ผ่านมา ได้ส่งแอพพลิเคชั่นโฮโร เพื่อให้ลูกค้าได้ใช้บริการเสริมในรูปแบบศาสตร์พยากรณ์ต่าง ๆ บนโทรศัพท์มือถือเบลิกโฟนโดยลูกค้าสามารถใช้บริการหมอดูดัง คำทำนายแห่งโชคลาภ และเลขมงคลหรือบริการ 7 เทพ 7 ศาสตร์ บริการที่รวมหมอดูดังจากศาสตร์พยากรณ์ทุกแนว เช่น พลังจิตสมาธิ โหราศาสตร์ไทย ไพ่ป๊อก พลังหิน อักษรรูน ยิปซีกลับหัว ฮวงจุ้ย หรือบริการเลขนำโชค เป็นบริการคำทำนายเกี่ยวกับเลขนำโชคต่างๆ หรือบริการทำนายฝันเป็นต้น

ไอ-โมบายได้วางจำหน่ายมือถือที่มีแอพพลิเคชั่นเสริมคำพยากรณ์ ส่งท้ายปลายปีที่ผ่านมา โดยกลุ่มเป้าหมายวางให้เป็นกลุ่มครอบครัว ทุกเพศทุกวัย ทั้งวัยรุ่น วัยทำงาน หรือแม้แต่ผู้สูงอายุ โดยกลุ่มเป้าหมายหลักจะเป็นกลุ่มแมสมาร์เก็ตที่เป็นตลาดหลักของไอ-โมบาย ได้แก่รุ่น i-mobile Hitz 101B โฮโรโฟน สามารถรองรับการใช้งาน 2 ซิม ทุกเครือข่าย หน้าจอ LCD กว้าง 2.4 นิ้ว ปุ่มกดขนาดใหญ่ กล้องดิจิตอล เครื่องเล่นเพลง MP3 เล่นและบันทึกวิดีโอ วิทยุ FMบลูทูธ ในราคา 1,390 บาท และ i-mobile Hitz 101B โฮโร ลิมิเต็ด อิดิชั่น ซึ่งบรรจุในกล่องของขวัญ พร้อมกิ๊ฟเซตของมงคล เช่น ส่วย แผ่นยันต์กันภัย น้ำเต้าโชคลาภ ที่เป็นสัญลักษณ์ของความมั่งมี และคู่มือการเงิน การงานปี 2555 จำหน่ายในราคาเพียง 1,990 บาท

โดยตั้งเป้าภายในปี 2555 จะมีลูกค้าใช้บริการแอพพลิเคชั่นโฮโร อย่างต่อเนื่องมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ต่อจำนวนเครื่องที่จำหน่าย คาดว่ากว่า 10 รุ่นที่รองรับกับแอพพลิเคชั่นโฮโร สำหรับในปีนี้ไอ-โมบายตั้งเป้าจำหน่ายมือถือ โดยแบ่งเป็นกลุ่มมือถือเบสิกโฟน คิดเป็น 50 เปอร์เซนต์ หรือประมาณ 25 รุ่น กลุ่มฟีเจอร์โฟน และสมาร์ทฟีเจอร์โฟน ที่รองรับการใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์ค คิดเป็น 40 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 20 รุ่น และกลุ่มสมาร์ทโฟน 3จี แอนดรอยด์ คิดเป็น 10 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 10 รุ่น

“ด้านตลาดคอนเทนต์ และแอพพลิเคชั่น จะสร้างความแตกต่าง โดยนำเสนอบริการ และการขายในรูปแบบใหม่ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค เช่น Internet TV ดูทีวีได้ทั่วโลกผ่านอินเตอร์เน็ต และInternet Radioสามารถฟังวิทยุได้ทั่วโลกผ่านอินเตอร์เน็ต โดยสามารถใช้งานผ่านแอพพลิเคชั่นในเครื่องได้ทันที มีการบันเดิลเกมและสร้างกิจกรรมร่วมกับลูกค้า เพื่อความสะดวกในการใช้งานของลูกค้า ไอ-โมบายใส่บริการเสริมเข้าไป โดยสร้างจุดแข็งและความแตกต่างที่ผู้บริการรายอื่นให้ไม่ได้ ด้วยลูกเล่นที่หลากหลาย มีคอนเทนต์และแอพพลิเคชั่นรองรับ ถึงแม้การใช้งานยังไม่มาก แต่ตรงนี้ทำไว้เพื่อสร้างฐานการตลาด และการใช้งานในอนาคตเมื่อตลาดรองรับ” ฑิตพล กล่าวปิดท้าย

View :1976

แคนนอน พบอุปกรณ์เสริม “ของปลอม” ระบาด เตือนลูกค้าสังเกต และเช็คใบประกันศูนย์ฯ ก่อนซื้อ

March 8th, 2012 No comments

บริษัท มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด ประกาศเตือนผู้บริโภคระวังผลิตภัณฑ์แคนนอนลอกเลียนแบบ หลังตรวจพบผลิตภัณฑ์ลอกเลียนแบบตราสินค้าแคนนอนวางจำหน่ายปะปนอยู่กับสินค้าจริงในท้องตลาดแพร่หลาย ซึ่งเป็นการลอกเลียนแบบทั้งกล่องบรรจุภัณฑ์และตัวผลิตภัณฑ์ โดยผลิตภัณฑ์ที่ตรวจพบในขณะนี้ ได้แก่ แบตเตอรี่กริป แบตเตอรี่ เลนส์ฟิลเตอร์ และ เลนส์ฮู้ด นอกจากนี้ยังพบว่ามีการจำหน่ายแบตเตอรี่กริปปลอมสำหรับกล้องแคนนอนรุ่น EOS 1100D ซึ่งเป็นรุ่นยอดนิยม โดยบริษัทฯ ขอยืนยันให้ทราบว่าปัจจุบัน ไม่มีการผลิตแบตเตอรี่กริปสำหรับกล้อง EOS 1100D แต่อย่างใด และขอเตือนภัยไปยังผู้ใช้ทุกคนว่า การใช้อุปกรณ์เสริมปลอมหรือลอกเลียนแบบมีอันตรายอย่างมากดังนี้

แบตเตอรี่กริป หรือแบตเตอรี่ปลอม
· ทำให้การทำงานของกล้องผิดพลาด กล้องอาจช็อตหรือไหม้ได้
· แบตเตอร์รี่หมดเร็วผิดปกติ และเสื่อมคุณภาพเร็ว
· แสดงผลประจุไฟที่เหลือไม่ตรงกับความจริง
· ส่งผลให้วงจรอิเล็กทรอนิกส์ภายในกล้องได้รับความเสียหายรุนแรง (ช๊อต หรือไหม้)

เลนส์ฟิลเตอร์ปลอม
· คุณภาพของภาพถ่ายลดลง ทำให้ภาพไม่คมชัดเหมือนปกติ

เลนส์ฮู้ดปลอม
· เกลียวอาจไม่พอดีกับเลนส์ ทำให้หลุดร่วง ซึ่งอาจขูดขีดกับหน้าเลนส์ได้
· ทำให้เกลียวใส่อุปกรณ์เสริมอื่นๆ เสีย เนื่องจากของปลอมอาจมีขนาดไม่พอดี

ทั้งนี้ผู้ซื้อสามารถตรวจสอบว่าผลิตภัณฑ์กล้อง และอุปกรณ์เสริมนั้นเป็นของแท้จากแคนนอน หรือไม่ โดยสังเกตได้จากจุดสังเกตเบื้องต้นดังนี้
· กล่องสินค้าแคนนอน : ตัวอักษร โลโก้ และภาพประกอบต่างๆ จะต้องคมชัดและมีสติ๊กเกอร์รับรองจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ติดอยู่ข้างกล่องข้อความในสติ๊กเกอร์ระบุรายละเอียดของสินค้า และชื่อบริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด เป็นผู้นำเข้า อย่างชัดเจน
· ที่รางใส่ถ่านและแบตเตอรี่ : จะมีสัญลักษณ์ของแคนนอน โลโก้แคนนอน และสัญลักษณ์ต่างๆ คมชัดและสามารถถอดใส่ได้พอดี ไม่ติดขัด
· สำหรับแบตเตอรี่ ควรเปรียบเทียบน้ำหนักของแบตเตอรี่กับก้อนที่มีอยู่ ซึ่งของปลอมจะมีน้ำหนักเบากว่า

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.canon.co.th หรือ โทร 0-2344-9988 (ศูนย์บริการลูกค้าแคนนอน) และโปรดถามหาใบรับประกันสินค้า ซึ่งออกโดย บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัดทุกครั้งที่ซื้อสินค้า (สำหรับสินค้าประเภท กล้อง เลนส์ แบตเตอรี่กริป แฟลชภายนอก อุปกรณ์ส่งไฟล์ภาพแบบไร้สาย กล้องส่องทางไกล)

View :1304
Categories: Press/Release Tags:

 “Red Bull Extra” สร้างประวัติศาสตร์การแข่งขัน E-Sport จัด Point Blank Tournament 2012 by Red Bull Extra ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 1,500,000 บาท

March 6th, 2012 No comments

บริษัท จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม เรดบูล เอ็กซ์ตร้า ประกาศสนับสนุนการแข่งขันสุดยอดเกมของปี 2012 Point Blank Tournament 2012 by Red Bull Extra รวมการแข่งขัน 12 ทัวร์นาเมนท์ โดยแบ่งเป็น 2 ระดับ คือ Premiere Division สำหรับทีม ระดับแนวหน้า ก้าวสู่การเป็นมืออาชีพ และ Star Division สำหรับทีมนักกีฬาดาวรุ่งและนักกีฬาหน้าใหม่ ชิงเงินรางวัลรวมทุกการแข่งขันกว่า 1,500,000 บาท
 
นายสานิต หวังวิชา ผู้จัดการฝ่ายการตลาด  บริษัท เครื่องดื่มกระทิงแดง จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม เรดบูล เอ็กซ์ตร้า กล่าวว่า   ความร่วมมือในการสนับสนุนการแข่งขันเกม Point Blank ของปี 2011  ที่ผ่านมา ถือว่าประสบความสำเร็จเป็น อย่างสูง  มีผู้สนใจเข้าชมการแข่งขันมากมาย รวมทั้งนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันกว่า 30,000 คน   ซึ่งเป็นความสำเร็จและความก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดดของวงการ E-Sport ในประเทศไทย และได้เล็งเห็นว่า เกม Point Blank มีจำนวนผู้เล่นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เปิดให้บริการจนถึงปัจจุบัน ครองความเป็นผู้นำตลาดเกม FPS และสุดยอดการแข่งขันเกมในรูปแบบกีฬา E-Sport ล่าสุด ตัดสินใจเข้าสนับสนุนและร่วมจัดการแข่งขันเกม Point Blank เป็นปีที่สองติดต่อกัน ในรายการ Point Blank Tournament 2012 by Red Bull Extra  โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับมาตรฐานนักกีฬา    E-Sport หน้าใหม่ ก้าวขึ้นสู่ระดับโลกในอนาคต
 
Point Blank Tournament 2012 by Red Bull Extra มีการแข่งขันทั้งสิ้น 12 ทัวร์นาเมนท์ตลอดปี แบ่งระดับการแข่งขันเป็น 2 ระดับคือ
·         Premiere Division – การแข่งขันสำหรับทีมระดับแถวหน้าของวงการ FPS ที่เตรียมก้าวสู่ความเป็นมืออาชีพ   ชิงความเป็นสุดยอดทีม Point Blank E-Sport ระดับประเทศ
·         Star Division – การแข่งขันสำหรับทีมดาวรุ่งอนาคตไกล สร้างโอกาสให้ทีมหน้าใหม่ทุกทีม มีประสบการณ์และเป็นรากฐานในการพัฒนาทีม เพื่อขยายวงการแข่งขันกีฬา E-Sport และเตรียมก้าวไปสู่ระดับมืออาชีพมากยิ่งขึ้น
 
การแข่งขัน Point Blank Tournament 2012 by Red Bull Extra ชิงเงินรางวัลรวมทุกรายการกว่า 1,500,000 บาท เริ่มรับสมัครและแข่งขันในช่วงเดือนมีนาคมนี้เป็นต้นไป แฟนกีฬา E-Sport เตรียมตัวพบการแข่งขันของทัวร์นาเมนท์ที่ยิ่งใหญ่และตื่นเต้นที่สุด ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.pb.in.th และ www.pb.in.th/esport

View :1613

เอไอเอส update ความคืบหน้าผลการทดสอบ 4G

March 6th, 2012 No comments

นายปรัธนา  ลีลพนัง ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานบริการเสริม บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวถึงความคืบหน้าในการทดสอบเทคโนโลยี 4G ว่า “จากการที่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ได้อนุมัติให้ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) , บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) , บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ดิจิตอลโฟน จำกัด ทำการติดตั้งอุปกรณ์ดำเนินการทดสอบ เทคโนโลยี LTE-Long Term Evolution หรือ ที่รู้จักกันในชื่อของ 4G ใน 2 เทคโนโลยี และ 2 พื้นที่ ประกอบด้วย

1.       โครงการทดสอบและทดลองระบบบรอดแบนด์ไร้สายความเร็วสูง Broadband Wireless Access-BWA  ในย่านความถี่ 2300 MHz (20 MHz)ด้วยเทคโนโลยี Long Term Evolution ซึ่งใช้คลื่นความถี่ในลักษณะ Time Division Duplex หรือ TDD ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ทั้งในเขตพื้นที่ชั้นใน บริเวณถนนพระรามหนึ่ง ตั้งแต่ มาบุญครองถึงเซ็นทรัลเวิลด์ รวมถึงชั้นนอกจากศูนย์ราชการ กระทรวงไอซีที และ สำนักงานทีโอที แจ้งวัฒนะ โดยมีจำนวนสถานีฐาน 20 แห่ง เปิดให้ทดสอบถึงช่วงประมาณกลางเดือนพฤษภาคม 2555 และ

2.       โครงการทดสอบและทดลองระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคที่ 4 ในย่านความถี่ 1800 MHz (10 MHz D/L + 10 MHz U/L) ด้วยเทคโนโลยี Long Term Evolution ซึ่งใช้คลื่นความถี่ในลักษณะ Frequency Division Duplex หรือ FDD ในพื้นที่ จ.มหาสารคาม ในเขตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม และมหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม โดยเบื้องต้นมีจำนวนสถานีฐาน 8 แห่ง เปิดให้ทดสอบถึงช่วงประมาณต้นเดือนมีนาคม 2555

โดยเป็นการทดสอบรูปแบบของการทดสอบเชิงเทคนิคชั่วคราว หรือ Technical Trial  ซึ่งมิได้แสวงหากำไรเชิงพาณิชย์ หรือ Non Commercial นั้น  ผลจากการทดสอบในช่วงที่ผ่านมาถือว่าเป็นที่น่าพอใจและได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการเตรียมการเปิดประมูลของ  กสทช. เป็นอย่างยิ่ง อาทิ

- ความเร็วและความเสถียร

                                TDD        Download           50-80 Mbps        Upload                 5-15 Mbps

                                FDD        Download           50-60 Mbps        Upload               20-30 Mbps

- รัศมีในการส่งสัญญาณ (Coverage Area) อยู่ที่รัศมี 1 กิโลเมตร

- ลักษณะการใช้งานในขณะเคลื่อนที่ Handover ภายใต้ Coverage ที่มีความต่อเนื่อง (เฉพาะการทดสอบที่ จ.มหาสารคาม) พบว่าสามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง

- ความสัมพันธ์ของย่านความถี่และช่วงกว้างความถี่ที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานเทคโนโลยี LTE นั้นพบว่า  โดยทั้งสองย่านสามารถทำงานได้ดี แต่จำเป็นต้องใช้ความกว้างของแถบความถี่มากกว่า 20 MHz หากต้องการความเร็วเกิน 100 Mbps

- ความเร็วของการเข้าถึง Content ด้าน Multi Media แบบ HD  สูงกว่า 3G ถึง 5-10 เท่า (20 ms latency)

- รูปแบบของ Applicationที่เหมาะสมและตรงใจผู้บริโภค ในประเภท video interactive, 4G to wifi และ multimedia content

โดยเอไอเอสได้เริ่มเปิดจุดทดสอบเทคโนโลยี LTE ในกรุงเทพฯ เพื่อให้ประชาชนได้สัมผัสประสบการณ์นี้ด้วยตนเอง   และได้ผสมผสานเอาเทคโนโลยี Real Time Video Interactive เข้ามาประยุกต์ใช้เพื่อให้เห็นภาพของประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมในอนาคต  หากโครงสร้างพื้นฐานมีความแข็งแรง

สำหรับจุดทดสอบเทคโนโลยี 4G เบื้องต้นมี 2 จุด คือ

1.    บริเวณชั้น 2 สยามเซ็นเตอร์ ช่วงทางเชื่อมกับศูนย์การค้าสยามพารากอน โดยเปิดจุดทดสอบภายใต้แนวคิด “Beauty Consult on 4G” ให้ประชาชนได้โต้ตอบกับกูรูช่างออกแบบทรงผมจากร้าน TO B 1 ซึ่งตั้งอยู่ ณ สยามแสควร์ ซอย 2 ที่จะมาให้คำแนะนำเกี่ยวกับทรงผมที่เหมาะสมผ่าน Video Interactive บนเครือข่าย 4G
2.    บริเวณชั้น 1 วัน-ทู-คอล! ช็อป @Digital Gateway ที่เปิดให้ประชาชนทดสอบและสัมผัสกับความเร็วของเทคโนโลยี 4G เมื่อท่องโลกอินเตอร์เน็ต

นายปรัธนา กล่าวในตอนท้ายว่า “เชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าข้อมูลที่ได้จากการทดลอง ทดสอบในทั้ง 2 พื้นที่  จะทำให้การเตรียมพิจารณาเปิดรับเทคโนโลยีใหม่ๆของประเทศไทยเป็นไปอย่างละเอียด รอบคอบ เสริมมุมมองได้อย่างครบถ้วนมากยิ่งขึ้นจากการผนึกกำลังกันของเอกชนและภาครัฐ”

View :2475
Categories: 3G, Press/Release, Telecom Tags:

ก.ไอซีที จัดประกวดผลงานอาสาสมัครลูกเสือไซเบอร์ เพื่อพ่อหลวง

March 6th, 2012 No comments

นางเมธินี เทพมณี ผู้ตรวจราชการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยในงานแถลงข่าวการประกวดผลงานอาสาสมัครลูกเสือไซเบอร์ โครงการสร้างลูกเสือบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต (Cyber Scout) ว่า กระทรวงฯ ได้ตระหนักถึงความสำคัญ ในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเป็นเครื่องมือในการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร โดยมุ่งเน้นให้ประชาชนทุกภาคส่วนสามารถนำ ICT มาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น กระทรวงฯ จึงได้จัดทำโครงการลูกเสือไซเบอร์บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต หรือ Cyber Scout ขึ้น เพื่อร่วมกันพัฒนาเยาวชนให้มีความรู้ด้าน ICT และใช้เป็นแบบอย่างแก่เครือข่ายทางสังคมในการส่งเสริมการใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างเหมาะสม ตลอดจนร่วมกันสอดส่องดูแลภัยอันตราย และเฝ้าระวังข้อมูลข่าวสารที่เป็นภัยต่อสถาบัน รวมถึงความมั่นคงของประเทศ นอกจากนั้น อาสาสมัครลูกเสือไซเบอร์ยังสามารถช่วยแนะนำเพื่อน ๆ ผู้ปกครอง หรือบุคคลใกล้ชิดให้ใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างสร้างสรรค์และถูกวิธี อันจะนำมาซึ่งสังคมออนไลน์ที่สะอาด สร้างสรรค์ และมีวิจารณญาณ

ส่วนการจัดกิจกรรมการประกวดผลงานอาสาสมัครลูกเสือไซเบอร์ ภายใต้โครงการ Cyber Scout ในครั้งนี้ เป็นการส่งเสริมให้ เยาวชน ตระหนักถึงคุณประโยชน์ของโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ หรือพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตลอดจนน้อมนำแนวความคิด พระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสังคมด้วย

ด้าน นายสมบูรณ์ เมฆไพบูลย์วัฒนา ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมและพัฒนาการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการดำเนินโครงการ Cyber Scout ที่ผ่านมานั้น ได้มีการจัดกิจกรรมอบรมให้กับกลุ่มเป้าหมาย คือ อบรมวิทยากรแกนนำ จำนวน 1,309 คน จัดอบรมขยายผลอาสาสมัครจำนวน 83,224 คน จัดค่ายลูกเสือไซเบอร์ จำนวน 1,119 คน และมีกิจกรรมสำคัญอีกหนึ่งกิจกรรม คือ การจัดประกวดผลงานของอาสาสมัครลูกเสือ ไซเบอร์ ภายใต้ชื่อ โครงการ “ลูกเสือไซเบอร์ เพื่อพ่อหลวง” ในหัวข้อ “เจริญรอยตามคำพ่อสอน” โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อรณรงค์และเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจให้เยาวชนได้ตระหนักถึงคุณประโยชน์ของโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ หรือพระบรมราโชวาท ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต และสร้างจิตสำนึกในการใช้สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างสร้างสรรค์

“สำหรับการประกวดผลงานฯ ในครั้งนี้ กระทรวงฯ ได้เปิดโอกาสให้นักเรียนนักศึกษาที่เป็นอาสาสมัครลูกเสือไซเบอร์ส่งผลงาน สื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องราวพระราชกรณียกิจ พระราชดำรัส หรือโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งออกแบบและสร้างสรรค์ด้วยตนเองมานำเสนอ เพื่อชิงรางวัลทุนการศึกษา พร้อมโล่และใบประกาศเกียรติคุณจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร จำนวน 5 รางวัล โดยนักเรียนนักศึกษาที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจะได้รับตำแหน่ง Cyber Scout Youth Ambassador 2011 พร้อมโล่รางวัล เกียรติบัตร และทุนการศึกษา รวมถึงได้ร่วมแสดงสารคดีหนังสั้นกับโครงการ Cyber scout และร่วมกิจกรรมที่ทางโครงการ Cyber scout จัดขึ้นตามโอกาสที่เหมาะสมต่าง ๆ อีกด้วย

อาสาสมัครลูกเสือไซเบอร์ที่สนใจสามารถกรอกใบสมัครและส่งผลงานผ่านระบบออนไลน์ได้ที่ www.cyberscout.in.th ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 เมษายน 2555 ” นายสมบูรณ์ กล่าว

View :1330

ซอฟต์แวร์ล่าสุดสำหรับ Nokia N9 พร้อมให้ดาวน์โหลดแล้ว

March 6th, 2012 No comments

PR 1.2 ซอฟต์แวร์ล่าสุดสำหรับ พร้อมให้อัพเกรดเพื่อให้ผู้ใช้งานได้สัมผัสประสบการณ์สมาร์ทโฟนที่ดียิ่งขึ้น โดยสามารถดาวน์โหลดได้ฟรีผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์พีซีโดยใช้โปรแกรม Nokia Suite หรือดาวน์โหลดตรงสู่สมาร์ทโฟนผ่านเครือข่ายการสื่อสารไร้สาย (Over-the-air)

PR 1.2 ซอฟต์แวร์ล่าสุดสำหรับ Nokia N9


มร. แกรนท์ แมคบีธ กรรมการผู้จัดการ โนเกีย ประเทศไทยและตลาดเอเชียเกิดใหม่กล่าววว่า“หลังจากความสำเร็จของ Nokia N9 ทัชสมาร์ทโฟนสมบูรณ์แบบที่มาพร้อมเทคโนโลยี Swipeซึ่งเปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้ว โนเกียได้ออก PR 1.2 ซอฟต์แวร์ล่าสุดสำหรับ Nokia N9เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้นด้วยฟังก์ชั่นและคุณสมบัติใหม่ๆนับร้อยรายการ ที่สำคัญคือรองรับการใช้งานภาษาไทยเต็มรูปแบบ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้งาน Nokia N9 ก้าวไปสู่อีกขั้นของประสบการณ์สมาร์ทโฟนที่เหนือกว่า”

ซอฟต์แวร์ PR 1.2 สำหรับ Nokia N9 มอบประสบการณ์การใช้งานใหม่ๆ ดังนี้

รองรับการใช้งานภาษาไทยเต็มรูปแบบ

Video call บน Gtalk
PR 1.2 ช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำ video call บน Gtalk ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นบน Nokia Storeคุณสามารถใช้กล้องหลักเพื่อพูดคุยแบบเห็นหน้าพร้อมไปกับโชว์สิ่งรอบตัวได้ทุกขณะ ไม่ว่ายามคุณไปดูคอนเสิร์ต ท่องเที่ยว หรืออยู่กับครอบครัว

สามารถจดจำใบหน้า และ tag ใบหน้า
ผู้ใช้สามารถตั้งชื่อใบหน้าบุคคลในภาพ หลังจากนั้นเครื่องจะเริ่มจดจำใบหน้า ผู้ใช้ยังสามารถค้นหาภาพตามชื่อที่ตั้งไว้ และ tag ภาพบน facebook ได้

การถ่ายภาพต่อเนื่อง
เพื่อให้คุณสามารถจับภาพเคลื่อนไหว เช่น เด็ก หรือสัตว์เลี้ยงของคุณ PR 1.2 จึงมีฟังก์ชั่นการถ่ายรูปแบบต่อเนื่อง โดยสามารถถ่ายได้ 3 ช็อตต่อวินาที ทำให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพได้หลายช็อตเพียงแค่กดปุ่มถ่ายรูปเพียงครั้งเดียว

ฟีเจอร์ใหม่ๆ และการใช้งานใหม่ๆ นับร้อย

สำหรับข้อมูลการอัพเกรดซอฟต์แวร์ Nokia N9 สามารถติดต่อได้ที่ โนเกีย แคร์ ไลน์ โทร 02 255 2111 หรือ www.nokia.co.th

หมายเหตุบรรณาธิการ
ฟีเจอร์หลักสำหรับนักพัฒนา ประกอบด้วย

ภาษาใหม่ ได้แก่ เปอร์เซีย ฮีบรู คาซัค ไทย และเวียดนาม

แจ้งเตือนการอัพเดตซอฟต์แวร์ใหม่

ฟอนต์ใหม่

Webkit 2.2

รองรับ Copy-paste ที่ดีขึ้น

Folders สำหรับแอพ

กล้องด้านหน้าที่ดีขึ้น

ใช้ Qt SDK เดิม

View :2174

WD บรรลุข้อตกลงร่วมกับโตชิบา คอร์เปอเรชั่น ขายสินทรัพย์ในกิจการฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ขนาด 3.5 นิ้ว

March 5th, 2012 No comments

เวสเทิร์น ดิจิตอล ( รายงานวันนี้ว่า บริษัทได้บรรลุข้อตกลงร่วมกับโตชิบา คอร์เปอเรชั่น ในการขายสินทรัพย์บางส่วน เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดของหน่วยงานด้านการวางกฎระเบียบที่ได้ให้การอนุมัติโดยมีเงื่อนไข หรือกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการต่อเพื่อทบทวนถึงแผนของ ที่จะเข้าซื้อกิจการของฮิตาชิ โกลบอล สตอเรจ เทคโนโลยีส์ (HGST)

โดยกลุ่มสินทรัพย์ที่ครอบคลุมภายใต้ข้อตกลงฉบับนี้ จะทำให้โตชิบาสามารถผลิตและจัดจำหน่ายฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ขนาด 3.5 นิ้วให้กับตลาดเครื่องเดสก์ท็อปและคอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์ได้ และยังจะเป็นการเพิ่มความสามารถของโตชิบาในการผลิตและจำหน่ายฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ขนาด 3.5 นิ้วสำหรับการใช้งานแบบเนียร์ไลน์ (สำคัญเป็นอย่างมากสำหรับธุรกิจ) โดยธุรกรรมการขายทรัพย์สินในครั้งนี้อยู่ภายใต้การพิจารณาของหน่วยงานด้านการวางกฎระเบียบในขอบเขตอำนาจศาลบางแห่ง

นอกจากนี้ WD ยังได้รายงานว่า บริษัทได้ตกลงที่จะซื้อกิจการของบริษัทโตชิบา สตอเรจ ดีไวซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (TSDT) ซึ่งตอนนี้อยู่ภายใต้การทำธุรกรรมการขายสินทรัพย์ให้เสร็จสมบูรณ์ ทั้งนี้ TSDT เป็นผู้ผลิตฮาร์ดไดรฟ์ แต่ไม่ได้กลับเข้าดำเนินกิจการต่อ ภายหลังเกิดเหตุอุทกภัยในประเทศไทยครั้งล่าสุดในปีที่แล้ว โดยทรัพย์สินหลักๆ ของ TSDT ประกอบด้วยที่ดินในประเทศไทย โรงงาน และพนักงาน หากการดำเนินธุรกรรมเสร็จสมบูรณ์ WD ก็วางแผนที่จะผนวกรวมโรงงานและพนักงานเข้ากับกิจการของ WD ในประเทศไทย แต่ทั้งนี้ ยังไม่ได้มีการเปิดเผยเกี่ยวกับเงื่อนไขทางการเงินของข้อตกลงทั้งสองฉบับนี้แต่อย่างใด

การปิดธุรกรรมการซื้อขายร่วมกับโตชิบาจะอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า WD จะต้องปิดแผนการซื้อกิจการของ HGST ซึ่งยังคงอยู่ภายใต้เงื่อนไขการปิดการซื้อขายอยู่หลายข้อ ซึ่งรวมถึงการรอรับการอนุมัติที่เหลืออยู่บางประการเกี่ยวกับการต่อต้านการผูกขาด และหากได้รับการอนุมัติทั้งหมดเหล่านี้แล้ว WD ตั้งเป้าว่าธุรกรรมที่ทำร่วมกับโตชิบาจะเสร็จสิ้นในเดือนมีนาคม 2012 นี้

View :1391