Archive

Author Archive

เลอโนโวจัดโปรโมชั่นโน๊ตบุ๊คและเดสก์ท็อปสเปคแรงๆในราคาสุดคุ้ม พร้อมมอบสิทธิพิเศษมากมายในงานคอมมาร์ท 2012

March 16th, 2012 No comments

พบกับโน๊ตบุ๊คและเดสก์ท็อปสเปคแรงๆของเลอโนโวในราคาโปรโมชั่นสุดคุ้ม พร้อมรับของที่ระลึกและร่วมลุ้นแพคเกจสุดพิเศษจากพันธมิตรคนสำคัญของเลอโนโวต่างๆมากมาย ในงานคอมมาร์ตระหว่างวันที่ 22 – 25 มีนาคม นี้ ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

คุณจีรวุฒิ วงศ์พิมลพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า
“ภายในงานคอมมาร์ทนี้ เลอโนโว ร่วมจัดโปรโมชั่นกับพันธมิตรชั้นนำ อย่าง ไมโครซอฟท์และดีแทค เพื่อมอบสิทธิพิเศษยิ่งขึ้นให้ลูกค้าเลอโนโว นอกจากนี้ เลอโนโวมีแผนจะร่วมมือพันธมิตรในแขนงต่างๆ เพื่อต่อยอดการดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง”

โปรโมชั่นสุดคุ้มในงานคอมมาร์ท 2012

ลูกค้าที่ซื้อคอมพิวเตอร์เลอโนโวทุกรุ่นทีร่วมรายการ รับฟรีทันที แพคเกจการใช้งานเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตแบบไร้สาย Wi-Fi จากดีแทค จำนวน 1 เดือน นอกจากนี้ ยังรับสิทธิ์ร่วมลุ้นแพคเกจรับซัมเมอร์ อาทิ บัตรกำนัลห้องพักสุดหรู และของที่ระลึกมากมาย ดังนี้

เลอโนโว จับมือ ไมโครซอฟท์ มอบโปรโมชั่นสุดพิเศษสำหรับลูกค้า เพียงซื้อคอมพิวเตอร์ ออล-อิน-วัล IdeaCenter อัลตร้าบุ้ค หรือ โน๊ตบุ้ค IdeaPad ที่มาพร้อม Microsoft Windows 7 ของแท้ รับสิทธิ์ลุ้นรางวัลใหญ่ แพคเกจท่องเที่ยวสุดหรู ที่ Muthi Maya resort เขาใหญ่ 3 วัน 2 คืน มูลค่า 40,000 บาท จำนวน 1รางวัล นอกจากนี้คุณสามารถร่วมลงทะเบียนกิจกรรม รับเงินคืน 777 บาทกับไมโครซอฟท์ ได้ที่ www.microsoft.com/thailand/family/777 หมดเขต 31 มีนาคมนี้ เท่านั้น สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร 02-263-6888

ธุรกิจ SMB สุดคุ้มกับ 10 ฟีเจอร์เด่นจากผลิตภัณฑ์ Think ของเลอโนโว พร้อมคุ้มยิ่งขึ้นกับโปรโมชั่นพิเศษสำหรับ ThinkPad Edge E120 ThinkPad Edge E320 ThinkPad Edge E420 และ ThinkPad X220i พร้อมรับสิทธิ์แบ่งชำระดอกเบี้ย 0% สูงสุด 10 เดือน และรับของที่ระลึกพิเศษจากเลอโนโว อาทิ ThinkPad external USB DVD-RW drive

นอกจากนี้ พบโปรโมชั่นสุดพิเศษกับโน๊ตบุ้คIdeaPad Z470 ซึ่งเหมาะกับผู้ที่รักแฟชั่นทันสมัย มีสไตล์และให้คุณสมบัติด้านมัลติมีเดียครบครัน พร้อมแรงทันใจกับหน่วยประมวลผล 2nd Generation Intel Core i7 Intel Turbo Boost Technology 2.0 และระบบเสียงสมบูรณ์แบบยิ่งกว่า Dolby Advanced Audio

สัมผัสมิติใหม่แห่งความสุขภายในบ้านกับ IdeaCentre B320 ด้วยเทคโนโลยี One Key TV เลือกได้ดั่งใจทั้งทีวีและคอมพิวเตอร์ บนดีไซน์จอภาพไร้กรอบได้อย่างสมบรูณ์แบบ ขนาด 21.5 นิ้ว พร้อมขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผลด้วย Intel® Core™ i5 และ Intel® Turbo Boost Technology 2.0 และสมรรถนะเร็วทันใจด้วยเทคโนโลยี Lenovo Enhanced Experience 2.0 for Windows® 7 และเทคโนโลยี RapidBoot เอกสิทธิ์เฉพาะตัวของเลอโนโวเพื่อเสริมการทำงานให้มีประสิทธิภาพเต็มเปี่ยม มากกว่าคอมพิวเตอร์ทั่วไปสูงสุดถึง 20 เปอร์เซ็นต์ โดยลูกค้าที่ซื้อคอมพิวเตอร์ IdeaCentre ตระกูล B Series ทุกรุ่นที่ราคาตั้งแต่ 25,000 บาทขึ้นไป รับฟรีทันที บัตรชมภาพยนตร์ดิจิติอล 4 มิติ ที่ พารากอน ซีนีเพล็กซ์ จำนวน 2 ที่นั่ง สิทธิพิเศษนี้เฉพาะผู้ซื้อ 20 ท่านแรก เท่านั้น

โปรโมชั่นพิเศษสำหรับผลิตภัณฑ์โน๊ตบุ้คตระกูล ThinkPad Edge
ThinkPad Edge E120 รองรับการทำงานของระบบ 3G และเต็มประสิทธิภาพการทำงานด้วยหน่วยประมวลผลของ 2nd Generation Intel® Core™ i3 สำหรับผู้ที่ซื้อผลิตภัณฑ์ ThinkPad Edge E120 ภายในงานคอมมาร์ท 2012 รับฟรี USB DVD-RW และหน่วยความจำเพิ่มถึง 2GB ในราคาพิเศษเพียง 21,900 บาท

ThinkPad Edge E320 มาพร้อมหน่วยประมวลผล 2nd Generation Intel® Core™ i3 ฮาร์ดดิสก์ขนาด 320 GB และหน่วยความจำขนาด 2 GB มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Heatwave red และ Midnight black ในราคาเพียง 22,900 บาท

สำหรับ ThinkPad Edge E320 ที่มาพร้อมหน่วยประมวลผล 2nd Generation Intel® Core™ i5 สามารถรองรับระบบ 3G และมอบฟรี ThinkPad USB DVD-RW รุ่นนี้มาในรูปโฉมสีดำแบบ Midnight black ในราคาเพียง 23,900 บาท

ThinkPad Edge E420 ประสิทธิภาพครบครันด้วยหน่วยประมวลผล 2nd Generation Intel® Core™ i3 ฮาร์ดดิสก์ขนาด 500 GB และหน่วยความจำขนาด 2 GB ราคาสุดคุ้มเพียง 22,400 บาท

ThinkPad X220i รองรับการทำงานของระบบ 3G และรับฟรี ThinkPad USB DVD-RW ในราคาพิเศษเพียง 32,000 บาท

สิทธิพิเศษสำหรับผู้ที่ซื้อผลิตภัณฑ์เลอโนโว ThinkPad Edge E220s จำนวน 50 เครื่องแรกภายในงานคอมมาร์ท 2012 สามารถซื้อได้ในราคาพิเศษเพียง 29,900 บาทเท่านั้น

โปรโมชั่นพิเศษสำหรับผลิตภัณฑ์โน๊ตบุ้คตระกูล IdeaPad
เลอโนโว IdeaPad Z470 มาพร้อมหน่วยประมวลผล 2nd Generation Intel® Core™ i5 ฮาร์ดดิสก์ขนาด 750 GB และหน่วยความจำมากถึง 4 GB มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีดำ สีชมพูและสีฟ้า พิเศษสุดในราคาเพียง 20,900 บาท สามารถอัพเกรดหน่วยความจำเพิ่ม 2GB และรับประกันตลอด 2ปี

สำหรับ IdeaPad Z470 ที่เต็มประสิทธิภาพด้วยหน่วยประมวลผล 2nd Generation Intel® Core™ i7 ตัวเครื่องสีดำและมาพร้อมหน่วยความจำมากถึง 8GB สามารถอัพเกรดหน่วยความจำเพิ่ม 2GB และรับประกันตลอด 2ปี

IdeaCentre ออล-อิน-วัล
IdeaCentre B320 มาพร้อมซอฟต์แวร์แบบ Multi-touch และเทคโนโลยี One Key TV มีวางจำหน่ายด้วยราคาสุดพิเศษ 31,990 บาท สิทธิพิเศษสำหรับผู้ที่เข้าร่วมงานคอมมาร์ท 2012 และซื้อผลิตภัณฑ์เลอโนโวรุ่น IdeaCentre B320 ออล-อิน-วัล ได้ในราคาเพียง 29,900 บาท จำนวนจำกัดเพียง 50 เครื่องแรกต่อวัน

View :2326

สวทช.ส่งเสริมการเลื้ยงโคนม โดยนำเทคโนโลยีจีโนมมาใช้ในการคัดเลือกสัตว์พันธุ์ เป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

March 16th, 2012 No comments

ดร.ทวีศักดิ์ กออนันตกูล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ( สวทช. )


ดร.ทวีศักดิ์ กออนันตกูล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ( สวทช. ) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า สวทช. ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) ในการสนับสนุนการวิจัย “ โครงการพัฒนาระบบการประเมินความสามารถทางพันธุกรรมจีโนมของโคนมในประเทศไทย” ซึ่งผลงานที่ได้จากโครงการฯ นำไปประยุกต์ใช้และเป็นประโยชน์โดยตรงต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมในการคัดเลือกพันธุ์โคนมและพัฒนาศักยภาพทางพันธุกรรมโคนมภายใต้ระบบการผลิตของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ส่งผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจการผลิตโคนม ทั้งในด้านผลผลิตน้ำนมและผลิตภัณฑ์นม ส่งเสริมอาชีพของเกษตรกรรายย่อย พัฒนาอุตสาหกรรมโคนมและ เพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถด้านการแข่งขันของประเทศ นอกจากนี้โครงการฯ ดังกล่าว ยังได้สนับสนุนการผลิตบุคลากรระดับบัณฑิตศึกษาให้มีความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาแบบจำลอง การประเมินความสามารถทางพันธุกรรมและการปรับปรุงพันธุ์โคนมและเตรียมความพร้อมโครงสร้างพื้นฐานในส่วนของแหล่งเก็บข้อมูลดีเอ็นเอที่ได้จากตัวอย่างเนื้อเยื่อของโคนมที่ถูกเลี้ยงดูและให้ผลผลิตภายในประเทศ ซึ่งจะมีประโยชน์สำหรับการพัฒนางานวิจัยใหม่ที่เกี่ยวข้องกับพันธุกรรมของโคนมที่แสดงออกภายใต้สภาพแวดล้อมในเขตร้อนชื้น

ผศ.ดร. ศกร คุณวุฒิฤทธิรณ นักวิจัย สังกัด ภาควิชาสัตวบาล คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์


ผศ.ดร. ศกร คุณวุฒิฤทธิรณ นักวิจัย สังกัด ภาควิชาสัตวบาล คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า การประเมินความสามารถทางพันธุกรรมโคนมขนาดใหญ่ในประเทศไทย ถูกพัฒนาขึ้นในเขตภาคกลางของประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2539 โดยความร่วมมือระหว่าง องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย และ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และได้เผยแพร่ข้อมูล “คุณค่าการผสมพันธุ์โคนม(EBV)” ให้เกษตรกรใช้คัดเลือกพันธุ์โคนมอย่างต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ตามการพัฒนาศักยภาพทางพันธุกรรมประชากรโคนมในประเทศไทยที่ผ่านมายังคงอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งปัญหาที่สำคัญ คือ การประเมินความสามารถทางพันธุกรรมดังกล่าวมีความแม่นยำต่ำ ด้วยเหตุนี้อัตราการพัฒนาศักยภาพทางพันธุกรรมสำหรับลักษณะที่สำคัญทางเศรษฐกิจในประชากรโคนมของประเทศไทย จึงจำเป็นต้องถูกเร่งทำให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งแนวทางหนึ่ง คือ การเพิ่มการพิจารณา ข้อมูลจีโนม ร่วมกับ ข้อมูลพันธุ์ประวัติ และความสามารถในการแสดงออกที่ปรากฏของสัตว์แต่ละตัว ตามที่ได้ปฏิบัติกันโดยทั่วไป ด้วยเทคนิคชีววิทยาโมเลกุลในปัจจุบัน จีโนมสนิป (Genomic SNP) ถูกตรวจสอบ ได้อย่างแม่นยำในโคนม โดยใช้ต้นทุนต่ำ และนำมาใช้ประโยชน์ในการพัฒนาระบบการประเมินความสามารถทางพันธุกรรมจีโนมได้ (Genetic-Genomic Evaluation System)

ดังนั้นโครงการวิจัยฯ จึงมีเป้าหมาย เพื่อพัฒนาระบบการประเมินพันธุกรรมจีโนม ได้แก่ แบบจำลองและวิธีการทำนายความสามารถทางพันธุกรรมจีโนม ความสัมพันธ์ระหว่างสนิปและลักษณะที่สำคัญทางเศรษฐกิจในโคนม และระบบฐานข้อมูลร่วมของพันธุ์ประวัติ-ลักษณะปรากฏ-จีโนไทป์ ทำให้เกิดข้อมูล “คุณค่าการผสมพันธุ์จีโนม (GEBV)” สำหรับลักษณะที่สำคัญทางเศรษฐกิจที่มีความแม่นยำสูงกว่า “คุณค่า การผสมพันธุ์(EBV)” ที่ทำโดยการใช้วิธีการประเมินค่าทางพันธุกรรมที่ใช้กันอยู่ทั่วไปประมาณร้อยละ 30 สำหรับใช้ในการการคัดเลือกพันธุ์สัตว์ เร่งอัตราความก้าวหน้าทางพันธุกรรมในประชากรโคนม ทำให้พันธุกรรมของโคนมในประชากรหลากหลายพันธุ์ของประเทศไทยเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีการศึกษาวิจัยการใช้ประโยชน์จากข้อมูลพันธุกรรมระดับจีโนมเพื่อพัฒนาศักยภาพการผลิตของโคนมในเขตร้อนชื้น

View :1868

เวทีเสวนา NBTC Public Forum ครั้งที่ ๓ : “ธุรกิจผ่าน SMS…แค่ไหนที่ไม่เอาเปรียบ?”

March 16th, 2012 No comments

จัดโดย สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ

ปัจจุบันผู้ประกอบธุรกิจได้พัฒนาบริการต่างๆ โดยใช้ช่องทางผ่าน SMS ที่หลากหลายรูปแบบ โดยบางบริการก็เป็นการอำนวยความสะดวกและเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้บริการ เช่น บริการรับข่าวสารต่างๆ บริการแจ้ง SMS หากมีการเบิกถอนเงินในบัญชีธนาคาร เป็นต้น อย่างไรก็ตาม การส่ง SMS ยังถูกใช้เป็นช่องทางทำการตลาดที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภคและก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญ เช่น การส่ง SMS โฆษณาประชาสัมพันธ์สินค้าหรือบริการต่างๆ ทั้งๆ ที่ไม่ได้รับความยินยอมจากผู้บริโภค เป็นต้น นอกจากนี้ บริการบางประเภทยังมีลักษณะที่น่าจะเป็นภัยต่อสังคม เช่น บริการ SMS ที่มีเนื้อหาเข้าข่ายการพนันหรือเสี่ยงโชค ซึ่งกลุ่มเป้าหมายหลักก็คือเยาวชน นอกจากนี้ รายการทางวิทยุและโทรทัศน์ก็มีการใช้ SMS ในการสื่อสารและทำธุรกิจกับผู้ชมผู้ฟังอย่างหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการร่วมแสดงความคิดเห็น หรือตอบคำถามผ่านรายการ โดยมีการสุ่มให้ของรางวัลต่อผู้ที่ส่งข้อความเข้ามา หรือรายการประกวดแข่งขันต่างๆ ที่ให้ผู้บริโภคร่วมโหวตผู้เข้าแข่งขันที่ตนเองชื่นชอบ โดยการส่งข้อความเข้าไปเพื่อเล่นเกมหรือร่วมสนุก ซึ่งบริการเหล่านี้ผู้บริโภคจะต้องเสียค่าบริการส่ง SMS ในอัตราที่สูงกว่าปกตินอกจากนี้ ผู้ประกอบธุรกิจบางรายยังพ่วงบริการดาวน์โหลดเนื้อหาบันเทิงต่างๆ รวมเข้าไปด้วย เช่น เพลง หรือคลิป ทำให้ยิ่งมีค่าบริการที่สูงขึ้นไปอีก โดยไม่ได้เปิดเผยเงื่อนไขการคิดค่าบริการให้ผู้บริโภคทราบอย่างชัดเจน
โดยที่พระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ มาตรา ๓๑ วรรคสอง ได้บัญญัติให้เป็นอำนาจหน้าที่ของ คณะกรรมการกิจการกิจการกระเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) ในการที่จะต้องควบคุมดูแลในกรณีที่ผู้ประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ หรือกิจการโทรคมนาคม ดำเนินการใดๆ ในประการที่น่าจะเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค โดยอาศัยการใช้เครือข่ายหรือการโฆษณาอันมีลักษณะเป็นการค้ากำไรเกินควร หรือก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญ ไม่ว่าด้วยวิธีการใดตามหลักเกณฑ์ที่ กสทช. กำหนด

ดังนั้น เพื่อระดมปัญหาและข้อเสนอแนะต่างๆ อันจะเป็นข้อมูลเบื้องต้นในการพัฒนาไปสู่การจัดทำหลักเกณฑ์การกำกับดูแลที่มีความครอบคลุม ทันต่อสถานการณ์ เป็นธรรมกับทั้งผู้บริโภคและผู้ให้บริการ สมดังภารกิจของ กสทช. ที่จะต้องกำกับดูแลบริการโทรคมนาคมโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นสำคัญ สำนักงาน กสทช.จึงจะจัดให้มี ครั้งที่ ๓ ในหัวข้อ “…แค่ไหนที่ไม่เอาเปรียบ?” ในวันพฤหัสบดีที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๕๕ เวลา ๑๓.๐๐-๑๖.๓๐ น. ณ หอประชุมชั้น ๒ สำนักงาน กสทช.
ผู้สนใจทั่วไปสามารถเข้าร่วมเวทีเสวนาฯ ดังกล่าว โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ เพียงติดต่อขอรับรหัสเข้าร่วมงานได้ที่ กลุ่มงานรับเรื่องร้องเรียนและคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม (สถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม หรือ สบท. เดิม) สำนักงาน กสทช. ทางหมายเลขโทรศัพท์ ๐๒-๖๓๔๖๑๒๒ (ในวันและเวลาราชการ) และทางอีเมล tci.tcimedia@gmail.com ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๕ เวลา ๑๗.๐๐ น. เท่านั้น

(ร่าง) กำหนดการ
เวที NBTC Public Forum : “ธุรกิจผ่าน SMS แค่ไหนที่ไม่เอาเปรียบ?”
จัดโดย สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ
วันพฤหัสบดีที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๕๕ เวลา ๑๓.๐๐-๑๖.๓๐ น.
ณ หอประชุมชั้น ๒ สำนักงาน กสทช.

๑๓.๐๐-๑๓.๓๐ น. ลงทะเบียน
๑๓.๓๐-๑๓.๔๐ น. กล่าวเปิดและกล่าวต้อนรับ
โดย กสทช. ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา
๑๓.๔๐-๑๕.๔๐ น. การอภิปรายเรื่อง “ธุรกิจผ่าน SMS แค่ไหนที่ไม่เอาเปรียบ?”
โดย ๑. ตัวแทนบริษัท GMM แกรมมี่ ผู้จัดการประกวด The Star*
๒. ตัวแทนผู้จัดการประกวด ทรู อะคาเดมี่ แฟนเทเชีย*
๓. ตัวแทนรายการเรื่องเล่าเช้านี้และเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์*
๔. ตัวแทนจาก mobilelife*
๕. ดร. เดือนเด่น นิคมบริรักษ์ อนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการโทรคมนาคม
๖. คุณธาม เชื้อสถาปนศิริ ผู้จัดการกลุ่มงานวิชาการ โครงการศึกษาและเฝ้า
ระวังสื่อเพื่อสุขภาวะของสังคม (Mediamonitor) และเครือข่าย
ครอบครัวเฝ้าระวังและสร้างสรรค์สื่อ
๗. คุณอิสริยะ ไพรีพ่ายฤทธิ์ ผู้ก่อตั้ง Blognone
๘. ตัวแทนนักกฎหมาย*

ผู้ดำเนินรายการ คุณอิฐบูรณ์ อ้นวงษา

๑๕.๔๐-๑๖.๒๐ น. แลกเปลี่ยนความคิดเห็นโดยผู้เข้าร่วม
๑๖.๒๐-๑๖.๓๐ น. กล่าวปิดและกล่าวขอบคุณ
โดย กสทช. ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา

(อาหารว่างเสริฟในที่ประชุม)
หมายเหตุ: * วิทยากรอยู่ระหว่างการติดต่อ

View :1722

ทรูมูฟ เอช รุกตลาดดาต้า เปิดตัว NET SIM 3G+

March 16th, 2012 No comments

เปิดตัว “” ซิมแบบเติมเงินสำหรับเล่นเน็ตสุดคุ้ม ที่ให้อิสระไม่มีวันหมด ได้วันเพิ่มทุกครั้งที่ใช้งาน มอบอิสระในการเชื่อมต่อออนไลน์แรงเต็มสปีดบนเครือข่าย 3G+ ที่ใช้ได้จริงวันนี้ทั่วประเทศ ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่เน้นใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านแอร์การ์ด และแท็บเล็ต โดยเมื่อเปิดใช้บริการ รับฟรี 3G+ จำนวน 100 MB และ WiFi 3 ชั่วโมง ใช้ได้นาน 60 วัน และคุ้มยิ่งขึ้น เมื่อสมัครแพ็กเกจเสริมเน็ตรายเดือน 350 รับ 3G+ เพิ่มอีก 200 MB/เดือน พร้อมเพิ่มความสะดวกกับ True iService บริการออนไลน์ให้ลูกค้าสามารถสมัครแพ็กเกจเสริม เติมเงิน รวมถึงตรวจสอบข้อมูลต่างๆ สนใจซื้อ ในราคา 99 บาท ได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 เมษายนนี้ ที่ร้านทรูช็อป ทรูพาร์ทเนอร์ ร้าน 7-eleven และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

ทรูมูฟ เอช NET SIM 3G+


นายสุภกิจ วรรธนะดิษฐ์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการพาณิชย์ บริษัท เรียล มูฟ จำกัด กล่าวว่า “ทรูมูฟ เอช ตอกย้ำผู้ให้บริการ 3G ตัวจริงอีกครั้ง เปิดตัว “NET SIM 3G+” ซิมแบบเติมเงินที่ให้อิสระไม่มีวันหมด ได้วันเพิ่มเป็น 60 วันทุกครั้งที่ใช้งาน ตอบโจทย์ความต้องการใช้งานดาต้า ให้ลูกค้าออนไลน์ผ่านแอร์การ์ด และแท็บเล็ต บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงไร้สายที่เร็วและแรงกว่า ด้วย 3G+ ความเร็วสูงสุดถึง 42 Mbps* ครอบคลุมพื้นที่มากที่สุด ทั่วกรุงเทพฯ ทุกจังหวัด กว่า 600 อำเภอทั่วไทย รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ สนามบินหลัก 10 แห่ง ทางหลวงสายหลัก 4 เส้นทาง และบริการ WiFi by TrueMove H ความเร็วสูงสุด 8 Mbps* ครอบคลุม 100,000 จุด ทั้งในและต่างประเทศ โดยเมื่อเปิดใช้บริการ NET SIM 3G+ ลูกค้าจะได้รับฟรี 3G+ จำนวน 100 MB และ WiFi 3 ชั่วโมง ใช้ได้นาน 60 วัน ซึ่งค่าบริการ 3G+ มีอัตรา 2 บาท/MB และ WiFi นาทีละ 1 บาท และคุ้มยิ่งขึ้น เมื่อสมัครแพ็กเกจเสริมเน็ตรายเดือน 350 รับ 3G+ เพิ่มอีก 200 MB/เดือน”

ยิ่งไปกว่านั้น ทรูมูฟ เอช ยังมีบริการ True iService บริการออนไลน์ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกให้ลูกค้าสามารถสมัครแพ็กเกจเสริม และเติมเงิน รวมทั้งตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ได้ง่ายๆ ที่เว็บไซต์ www.truemove-h.com/prepay-iservice หรือแอพพลิเคชั่น True iService

View :2180

BenQ ไทยรุกหนักหลังตลาดภาคพื้นเอเชียโตต่อเนื่อง ลั่น!!นั่งแท่นเบอร์ 1 ดิจิตอลไลฟ์สไตล์

March 16th, 2012 No comments

รุกหนัก หวังขึ้นที่ 1 ผู้นำนวัตกรรมของโลก ทางด้านดิจิตอลไลฟ์สไตล์ หลังตลาด Commercial โตต่อเนื่อง สอดคล้องภาพรวมภาคพื้นเอเชีย- แปซิฟิค เหตุ พัฒนาสินค้าตรงใจ ด้วยฟังก์ชั่นใช้งานง่าย สะดวกในราคาสมเหตุผล พร้อมขยายฐานดีลเล่อร์รุกต่อเนื่อง เชื่อสิ้นปีโตกว่า 50% ตั้งเป้าขึ้น เบอร์ 1 DLP Projector แชร์ตลาดขนาด 1.5 พันล้าน ตามรอยตลาดโลกหลังเทรนด์ดีไซน์ของ ตอบครบทุกโจทย์

มร.เอเดรียน ชาง ประธานบริหาร บริษัท เบ็นคิว (เอเซีย-แปซิฟิค) ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์นวัตกรรมดิจิตอลไลฟ์สไตล์ที่นำความเพลิดเพลินและคุณภาพมาสู่ชีวิต ด้วยปรัชญา “Enjoyment Matters” เปิดเผยว่า BenQ ถือเป็นผู้นำนวัตกรรมดิจิตอล ที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคจากทั่วโลก โดยที่ผ่านมา BenQ เป็นแบรนด์ TOP 3 ของโลก โดยเฉพาะในผลิตภัณฑ์ DLP Projector แบรนด์ BenQ เป็นผู้นำตลาดอันดับ 1 ในภูมิภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิค ที่โดดเด่นด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานที่ทันสมัย ใช้งานง่าย ประหยัดเนื่องจากพัฒนาขึ้นภายใต้โจทย์ของการประหยัดพลังงาน และค่าบำรุงรักษา

สำหรับในประเทศไทยนั้นตลาด Commercial ในกลุ่มลูกค้า Corporate ระดับนโยบาย ภาครัฐ หน่วยงานเอกชน เติบโตต่อเนื่องอย่างมีนัยสำคัญ ในขณะที่ตลาด Retail หรือกลุ่ม Home user มีอัตราการเติบโตในลักษณะเสถียร ซึ่งในปี 2010 มีสัดส่วนความเติบโตของตลาดทั้งสองส่วนอยู่ที่ Retail 65 และ Commercial 45 แต่ในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ มีอัตราการเติบโตของกลุ่ม Commercial เพิ่มขึ้น ในสัดส่วนอยู่ที่ Retail 60 และ Commercial 40 สะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมของตลาดกลุ่มลูกค้า Corporate ที่ให้ความสำคัญกับนวัตกรรมของอุปกรณ์ดิจิตอลมากขึ้น เลยทำให้ตลาดนี้โตมากขึ้น

มร.เอเดรียน ชาง กล่าวต่อไปว่า “ทิศทางการเติบโตดังกล่าวสอดคล้องกับตลาดของภาคพื้นเอเชียแปซิฟิค ที่ความนิยมต่อสินค้าในกลุ่มตลาด Commercial จอโปรเจ็คเตอร์ มีสูงขึ้นต่อเนื่อง เหตุผลหนึ่งคือนโยบายของภาครัฐที่ต้องการให้ระบบการประชุม มีความทันสมัยควบคุมง่ายยิ่งขึ้น ประกอบกับความเติบโตของการใช้งานในองค์กร Corporate ที่ต้องการประสิทธิภาพในการจัดกิจกรรมประชุมสัมมนามากขึ้น จะเห็นได้ชัดเจนที่กลุ่ม Education ที่มีสัดส่วน 80% ของตลาด commercial ทั้งหมด ด้วยขนาดของห้องเรียนใหญ่ขึ้น มีความทันสมัยมากขึ้น จำเป็นต้อง

ใช้อุปกรณ์ที่ใช้งานง่าย ประหยัด และเป็นระบบที่ควบคุมได้ ทำให้ BenQ มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อให้เข้าถึงตลาดกลุ่มนี้อย่างจริงจังยิ่งขึ้น”

“จุดแข็งสำคัญของ BenQ คือดีไซน์ที่ทันสมัย ฟังก์ชั่นที่ใช้งานง่าย ประหยัดในแง่ของการดูแลรักษา และโหมดการใช้งาน ตลอดจนการออกแบบสินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าในทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน พร้อมกับบริการหลังการขาย ด้วยพาร์ทเนอร์มืออาชีพ ประกอบกับเดินหน้าสร้างความสัมพันธ์อันดีกับตัวแทนจำหน่าย ที่มีเป้าหมายชัดเจนในกลุ่มตลาด Commercial ซึ่งคาดว่าในปี 2012 นี้ภาพรวมของตลาดจะโตขึ้นอีกราว 15-20 % โดย BenQ ตั้งเป้ารายได้เติบโตจากเดิมอีกกว่า 30-40 % เลยทีเดียว” มร.เอเดรียน ชาง กล่าว

โดย BenQ มองว่าไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการขยายตลาดดิจิตอลไลฟ์สไตล์ เนื่องจากภาพรวมในปีที่ผ่านมา มูลค่าตลาดดิจิตอลเทคโนโลยีในไทยเติบโตสูงเป็นอันดับ 3 ของภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิค จาก 30 ประเทศ ซึ่งนับรวมประเทศในตะวันออกกลางด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาด Commercial ทำให้ BenQ หันมาให้ความสำคัญกับตลาดนี้มากยิ่งขึ้น ซึ่งในปีนี้จะมีการเปิดตัวสินค้าใหม่ตลอดทั้งปี

ล่าสุดได้พัฒนา”GP II” Projector ขนาดพกพาที่ได้รับเอกสิทธิ์เฉพาะของ iPad iPhone สามารถเชื่อมต่อกับระบบเข้ากับ iPad iPhone SD Card UHB SDMD ได้ทันที โดยไม่ต้องมี PCใช้พลังงานไฟฟ้าเพียง 25 Vat ที่สามารถประหยัดไฟได้ถึง 20-30% ส่วนหลอด LCD สามารถใช้งานได้นานถึง 30,000 ชั่วโมง หรือ อายุการใช้งานประมาณ 8 ปี ด้วยราคา 21,900 บาท โดยได้เริ่มจำหน่ายใน Apple Studio แล้วและจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการราวเดือนเมษายนนี้

นอกจากนี้ BenQ ยังเดินหน้าพัฒนาในธุรกิจใหม่ อย่างการผลิตหลอดไฟ LED ประหยัดพลังงาน โดยจะเน้นที่กลุ่ม Commercial เป็นหลัก เช่น โครงการของภาครัฐ หรือโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ หรือ โรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งเชื่อว่าเทรนด์ Green Product จะเป็นแนวการพัฒนาสินค้าในทุกอุตสาหกรรม รวมถึงกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ที่ BenQ จะทยอยเปิดตัวธุรกิจต่อเนื่องทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแนวโน้มไลฟ์สไตล์ของตลาดในเมืองไทยเป็นสำคัญ

ทั้งนี้ในปีที่ผ่านมามูลค่าตลาดรวมของจอ Projector ไทยอยู่ที่ 1,400 ล้านบาท โดย BenQ มีแชร์ตลาดอยู่ที่ 14.5% คาดว่าปีนี้มูลค่าตลาดจะโตไปอีกประมาณ 20% โดย BenQ ตั้งเป้าความเติบโตจากยอดรายได้เดิมอีก 50% ซึ่งภาพรวมของตลาดในเมืองไทยเติบโตเป็นอันดับ 3 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค รองจาก จีน และอินเดีย โดยรายได้รวมของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคคิดเป็น

25% ของรายได้รวมทั้งหมดโดยอีก 75% มาจากยอดจำหน่ายใน สหรัฐอเมริกา อเมริกาใต้ และยุโรป ซึ่ง BenQ เป็น Top 3 ของผู้เล่นรายหลักของโลก แต่ในกลุ่ม ProJector แล้ว BenQ ครองยอดขายอันดับหนึ่งในตลาดโลก

View :1290

เลอโนโว เปิดตัวมินิโน๊ตบุ้ค IdeaPad S series

March 16th, 2012 No comments

เลอโนโวเปิดตัว IdeaPad S205 และ IdeaPad S206 มินิโน๊ตบุ้คสองรุ่น ที่มาพร้อมดีไซน์ทันสมัย น้ำหนักเบา บางเฉียบ พกพาสะดวก ในราคาประหยัด พร้อมยกระดับประสิทธิภาพการทำงานของคุณให้ดีเยี่ยมและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เพื่อเติมเต็มความต้องการด้านการใช้งานคอมพิวเตอร์ระหว่างเน็ตบุ๊คและโน้ตบุ๊คได้อย่างสมบรูณ์แบบ

คุณจีรวุฒิ วงศ์พิมลพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า
“ เลอโนโวสร้างสรรค์มินิแล็ปท็อป IdeaPad รุ่นล่าสุด เพื่อตอบสนองการใช้งานอินเตอร์เน็ตของเหล่าแฟชั่นนิสต้าให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น เพราะไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ไหน โน๊ตบุ้คคู่ใจจะสามารถเชื่อมต่อพวกเขาสู่ความทันสมัยได้อยู่เสมอ โดย IdeaPad ตระกูล S series มาพร้อมดีไซน์เฉพาะตัวขนาดเบา บาง ง่ายต่อการพกพา”

เลอโนโวส่งมินิโน๊ตบุ้คร่วมคอลเลคชั่นแห่งโลกแฟชั่น
เลอโนโว เสนอมินิโน๊ตบุ้ค IdeaPad S206 เติมเต็มการใช้งานระหว่างเน็ตบุ้คและโน๊ตบุ้คได้อย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมยกระดับชีวิตคุณให้ดียิ่งขึ้นและสะดวกสบายในแต่ละวัน ให้คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับการฟังเพลงและดูหนังผ่านทางลำโพงในตัวเครื่องที่คุณภาพเสียงชัดและดีเยี่ยม อีกทั้งคุณยังสามารถส่งไฟล์ไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์อีกเครื่องได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายเพียงใช้การเชื่อมต่อของ DirectShare โน๊ตบุ้คตระกูล S Series อัดแน่นไปด้วยความสามารถและง่ายต่อการพกพา ทั้งนี้โน๊ตบุ้ค S206 มีรูปลักษณ์การออกแบบที่น่ารักและเท่ห์มากยิ่งขึ้น สำหรับโน๊ตบุ้ค IdeaPad S205 เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบโน๊ตบุ้คที่เน้นการออกแบบที่สวยเก๋ ซึ่งเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ชื่นชอบเลอโนโว

IdeaPad S206 มีน้ำหนักเบาและบางเป็นพิเศษโดยไม่กระทบกับความเป็นเลิศด้านการประมวลผล จึงทำให้การใช้งานในคอมพิวเตอร์เคลื่อนที่สะดวกมากขึ้นอีกขั้น ในราคาย่อมเยาสำหรับเด็กนักเรียนหรือวัยรุ่นที่สนใจและชื่นชอบ นับเป็นมินิโน้ตบุ๊คที่บางที่สุด มาพร้อมระบบประมวลผล AMD C60 dual core processor บวกกับพื้นผิวสวยน่าสัมผัสและคีย์บอร์ด Accutype กับคีย์ทรงกลมใช้ถนัดมือออกแบบมาเพื่อเน้นความสะดวกในการพกพาระหว่างเดินทางด้วยแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้สูงสุด 4 ชั่วโมง ทั้งยังสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ในเวลาเพียงไม่กี่วินาทีและใช้งานแอพพลิคชั่นพื้นฐานได้โดยไม่ต้องเปิด Windows ใหม่ทุกครั้ง ด้วยฟังก์ชั่น “Instant on” ใน Lenovo Quick Start พร้อมคุณสมบัติที่น่าสนใจอื่นๆ อาทิ กล้องเว็บแคมแบบ HD ความละเอียด 0.3 ล้าน และ 802.11b/g/n Wi-Fi เพื่อการใช้งาน video chatting และ Web calling ที่ลื่นไหลไม่สะดุด


นอกจากนี้ IdeaPad S206 มาพร้อมจอ HD widescreen ขนาดใหญ่ 11.6” และบางเพียง 20.7 มม.น้ำหนักเพียง 1.3 กก. โดยมินิโน้ตบุ๊ครุ่นนี้ถือเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับนักเรียนหรือวัยรุ่นที่โปรดปรานการท่องโลกอินเตอร์เน็ต ด้วยราคาไม่สูงและดีไซน์สีสันจัดจ้านให้เลือกหลากหลาย ได้แก่ สีชมพู (Cotton-candy Pink) สีแดง (Crimson Red) สีฟ้า (Electric Blue) สีเทา (Graphite Grey) ลีขาวมุก (Pearl White) โทน Metallic สีสันสดใสพร้อมเคลือบเงาให้มีความมันวาว

IdeaPad S205 มาพร้อมสมรรถนะของ AMD Athlon TM X2 E350 กราฟฟิก AMD Radeon TMHD6310M และหน่วยความจำ 2GB DDR3 SDRAM รวมถึง ประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ 6-cell Li-ion และเทคโนโลยี Lenovo Energy Management ทำให้สามารถรองรับการใช้งานยาวนานมากกว่า 5 ชั่วโมง ตอบโจทย์การใช้งานอินเตอร์เน็ตได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ IdeaPad S205 py’รองรับการเชื่อมต่อ ระบบสัญญาณมัลติมีเดียความละเอียดสูง(HDMI) ช่องเสียบ USB 3 พอร์ท และ 6-in-1 Card Readers ซึ่งไม่ว่าไอเดียของคุณจะมีสีสันสนุกขนาดไหน รับรองได้เลยว่า IdeaPad S205 จะแต่งเติมให้มีชีวิตชีวาได้อย่างแน่นอน

โน๊ตบุ้ค IdeaPad S206 ราคาเริ่มต้นที่ 12,990 บาท ส่วนโน๊ตบุ้ค IdeaPad S205 ราคาเริ่มต้นที่ 10,590 บาท มีวางจำหน่ายแล้ว ณ เลอโนโว เอ็กซ์คลูซีฟ สโตร์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์เลอโนโว สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เลอโนโว คอลล์ เซ็นเตอร์ โทร.02-689-6451 หรือ 1800-060-087 ติดตามข่าวสารล่าสุดและผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของเลอโนโวได้ที่เว็บไซต์ Lenovo Thailand (http://www.lenovo.com/th/en/) หรือ สมัครได้ที่ Lenovo RSS Feeds (http://news.lenovo.com/) หรือติดตามผ่าน Facebook (http://www.facebook.com/lenovo.lover)

View :7357

“โมโน กรุ๊ป” ลงสนามแอพพลิเคชั่น…ชูแอพไทย “Monolive” ท้าชน “WhatsApp” พร้อมลุยตลาดต่างประเทศ

March 16th, 2012 No comments

“โมโน กรุ๊ป” สบช่องขยายธุรกิจ เปิดทางนำแอพพลิเคชั่นลงสนาม หลังส่ง “Horolive” บริการดูดวงผ่าน Application ออกมาชิมลางก่อนหน้านี้ ล่าสุดส่งพระเอกหน้าใหม่ “Monolive” มาเอาใจคนชอบแชท หวังเบียด “WhatsApp” แย้มเปิดตัวเพียง 1 เดือน มียอดดาวน์โหลดและลงทะเบียนใช้งานแล้วเกือบ 2 แสนคน และขึ้นแท่นอันดับ 1 แอพพลิเคชั่นที่มีผู้ดาวน์โหลดมากที่สุดในขณะนี้

นวมินทร์ ประสพเนตร ผู้ช่วยประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัท จำกัด


นายนวมินทร์ ประสพเนตร ผู้ช่วยประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัท โมโน เทคโนโลยี จำกัด เปิดเผยว่า “ปัจจุบัน Application บนมือถือ ถือว่าได้รับความนิยมเป็นอย่างมากและมีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว ควบคู่ไปกับสมาร์ทโฟนที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเห็นได้ในเขตกทม.และหัวเมืองใหญ่ๆ มีผู้ใช้สมาร์ทโฟนกว่า 50.4% โดยส่วนใหญ่ผู้ที่มีการถือครองสมาร์ทโฟนจะเป็นนักเรียน,นักศึกษาและคนวัยทำงาน โดยในปี 54 ที่ผ่านมา ตลาดสมาร์ทโฟนมีมูลค่าประมาณ 30,000 กว่าล้านบาท ขยายตัว 30-40% ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ตลาดแอพพลิเคชั่นเองมีอัตราเติบโตควบคู่กันไปด้วย

ด้วยตัวเลขที่มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว ในปีที่ผ่านมาบริษัทเราได้ผลิตแอพพลิเคชั่นต่างๆ ออกมารองรับระบบโทรศัพท์ที่เป็นสมาร์ทโฟน อาทิ “Horolive” แอพเพื่อการทำนายดวงชะตาหรือดูดวง ซึ่งมีหมอชื่อดัง อาทิ หมออ้าย หมอคฑา ซึ่งจะสร้างความสะดวกสบายในการดูดวงให้กับผู้ต้องการ ซึ่งเหมาะกับคนไทยเป็นอย่างมาก ด้วยค่าบริการเพียง 30 บาท / เดือน “Mthai” เป็นแอพที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการอัพเดทข่าวสารในทุกวงการ “Bat jumper” เป็นแอพเกมที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัยและสามารถฝึกสมองในขณะเล่นเกมส์ได้ด้วย และเกมส์น้องใหม่ “Tap the Bird” ซึ่งเป็นเกมเกี่ยวกับศัพท์ภาษาอังกฤษ ที่จะสามารถช่วยเสริมทักษะด้านภาษาได้อีกด้วย โดยทั้งหมดได้รับฟีดแบ็คอย่างดีเยี่ยม

ล่าสุดกับ “Monolive” ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นที่เราตั้งใจพัฒนาขึ้น เพื่อเป็นโปรแกรมการแชทของคนไทยในระบบปฏิบัติการสมาร์ทโฟน ซึ่งโปรแกรมนี้ผู้ใช้จะสามารถพูดคุย สื่อสาร ส่งข้อความฟรี ซึ่งปัจจุบันมียอดการดาวน์โหลดและลงทะเบียนใช้งานกว่า 200,000 คน หลังเปิดตัวเพียง 4 สัปดาห์ และยังมียอดดาวน์โหลดขึ้นเป็นอันดับ 1 ในขณะนี้ โดยความพิเศษของ “Monolive” คือจะเป็นแอพที่รวบเอาข้อดีของทุกแอพแชทมาอยู่ที่จุดเดียว ไม่ว่าจะเป็นของ WhatApp Line หรือ BBM อาทิ บัดดี้สเตตัส การส่งไฟล์วีดีโอและเสียงพูด จึงทำให้ขณะนี้มีสมาชิกแล้วกว่า 200,000 คน และคาดว่าจะมีถึง 2, 000,000 คนภายในปีนี้ ทั้งนี้เราได้เตรียมพร้อมระบบเพื่อรองรับให้ผู้ใช้งานได้ทั่วโลก โดยจะเน้นตลาดที่บริษัทมีสาขาอยู่แล้ว เช่น อินโดนีเซีย เกาหลี และในประเทศที่เรากำลังจะเปิดสาขาในอนาคต ได้แก่ เวียดนามและรัสเซีย

ในส่วนของการลงทุนอาจจะไม่ได้ลงในตัวเลขมากนัก แต่ก็เตรียมพร้อมที่จะลงทุนในระบบเพื่อรองรับกับผู้ใช้งานจำนวนมหาศาล และคงต้องเน้นเรื่องของการพัฒนาฟีเจอร์และฟังค์ชั่นให้ดียิ่งๆขึ้นไป และก็ต้องแข่งกับเจ้าของแอพพลิเคชั่นที่มีอยู่ทั่วโลกเช่นกัน ฉะนั้นสิ่งที่จะวัดความสำร็จได้ คือ การสร้างแอพให้โดดเด่นถูกใจผู้บริโภคให้มากที่สุด

ปัจจุบันโมโนกรุ๊ปถือเป็นผู้ให้บริการคอนเทนต์บนมือถือเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย อีกทั้งยังมีศักยภาพในการผลิตและพัฒนาคอนเทนต์ในทุกรูปแบบ จึงมองว่ายังมีโอกาสทางธุรกิจอยู่อีกมากในการที่จะขยายตลาดด้านนี้ให้กว้างมากขึ้น ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ” นายนวมินทร์ กล่าวทิ้งท้าย

View :1796

“คิงส์ตัน” แบรนด์หน่วยความจำที่ดีที่สุดและได้รับความไว้วางใจสูงสุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

March 16th, 2012 No comments


นับแต่การก่อตั้งในปี 2530 เป็นต้นมา บริษัท คิงส์ตัน เทคโนโลยี ผู้ผลิตและพัฒนาหน่วยความจำรายใหญ่ของโลกถือเป็นแบรนด์โมดูลหน่วยความจำอันดับหนึ่งในปัจจุบันด้วยส่วนแบ่งการตลาดกว่า 50% จากการสำรวจของบริษัทวิจัยตลาดชั้นนำทั่วโลก ท่ามกลางวิกฤติเศรษฐกิจในปี 2554 ที่ผ่านมา คิงส์ตันยังคงความเป็นแบรนด์โมดูลหน่วยความจำที่ผู้บริโภคให้ความไว้วางใจเป็นอันดับหนึ่ง พิสูจน์ได้จากยอดขาย DRAM ที่เติบโตขึ้นกว่า 20% ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ความไว้วางใจจากผู้บริโภคและยอดขายที่เติบโตขึ้นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกนี้เป็นสิ่งสะท้อนให้เห็นถึงตำแหน่งผู้นำตลาดของคิงส์ตันได้อย่างชัดเจน

“คิงส์ตันรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับการกล่าวขวัญถึงจากสื่อชั้นนำมากมายในภูมิภาค และขอขอบคุณทุกคะแนนโหวตที่มีให้กับเรา ซึ่งรางวัลเหล่านี้นับเป็นแรงบันดาลใจสำคัญยิ่งสำหรับคิงส์ตัน” แอน ไบ (Ann Bai) ผู้อำนวยการฝ่ายขายหน่วยความจำ DRAM ประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกของคิงส์ตัน กล่าวถึงความสำเร็จในครั้งนี้ “ในยุคแห่งคลาวด์คอมพิวเตอร์เช่นในปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ RAM สำหรับเซิฟเวอร์จากคิงส์ตันนับเป็นทางเลือกอันดับแรกที่ดีที่สุดสำหรับทั้งองค์กรขนาดใหญ่ ศูนย์ข้อมูลและศูนย์บริการคลาวด์คอมพิวเตอร์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และนอกเหนือจากผลิตภัณฑ์อันเป็นที่รู้จักแพร่หลายอย่าง ValueRAM แล้ว คิงส์ตันยังนำเสนอผลิตภัณฑ์โมดูลหน่วยความจำประสิทธิภาพสูงคุณภาพระดับพรีเมียมอย่าง HyperX ที่สร้างสรรค์ขึ้นสำหรับคอเกม นักโอเวอร์คล็อก ผู้รักการปรับแต่งฮาร์ดแวร์และผู้บริโภคที่ชื่นชมไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมียมอีกด้วย ทั้งนี้คิงส์ตันขอสัญญาว่าเราจะยังคงมุ่งมั่นนำเสนอนวัตกรรมโมดูลหน่วยความจำคุณภาพสูงรวมถึงบริการหลังการขายที่เชื่อถือได้ให้กับผู้บริโภคต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง”

คิงส์ตันนำเสนอผลิตภัณฑ์โมดูลหน่วยความจำหลากหลายซีรีส์ไม่ว่าจะเป็น ValueRAM, HyperX, System-Specific และ Server Memory โดยผลิตภัณฑ์โมดูลหน่วยความจำทุกชนิดของคิงส์ตันรังสรรค์ขึ้นจากวัตถุดิบคุณภาพเยี่ยม ผ่านการทดสอบ 100% พร้อมรับประกันตลอดอายุการใช้งานและบริการสนับสนุนด้านเทคนิคฟรี

รับชมวิดีโอสัมภาษณ์ได้ที่ … http://www.youtube.com/watch?v=OkE5Hg_P9xc&feature=youtu.be

View :1967

“เครดิตบูโร แจ้งความเข้าใจที่ถูกต้องเรื่อง ผู้ประกอบอาชีพอิสระ พ่อค้า-แม่ขายสามารถตรวจเครดิตบูโรของตัวเองได้ผ่าน Bureau Express ”

March 16th, 2012 No comments

นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท จำกัด (เครดิตบูโร) เปิดเผยว่า จากข่าวเรื่องที่มีความเข้าใจผิดว่า เครดิตบูโรจะเข้าไปตรวจเครดิตกลุ่มแม่ค้าในตลาดย่านจตุจักรนั้น เป็นเรื่องที่คลาดเคลื่อน ไม่ถูกต้องกับความเป็นจริง เรื่องที่ถูกต้องคือ เครดิตบูโรจะไปตั้งศูนย์ให้บริการคล้ายๆ กับศูนย์รับแลกเปลี่ยนเงินต่างประทศในย่านจตุจักร นอกเหนือจากที่มีศูนย์ให้บริการที่ BTS ศาลาแดง และนวนครแล้ว เพราะบรรดาพ่อค้า-แม่ขายต้องการความสะดวกและได้แจ้งแก่เครดิตบูโรมาโดยตลอด “มันเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนกับวัตถุประสงค์หลักของเครดิตบูโรที่อยากให้ใครๆ ก็สามารถเข้าถึงข้อมูลเครดิต หรือ เครดิตบูโรของตนเองได้ มีความสะดวกรวดเร็วสอดคล้องกับการดำเนินชีวิตของเขาเหล่านั้น โดยเฉพาะกลุ่มคนอาชีพอิสระ นักธุรกิจค้าขายและคนเมืองที่ชอบใช้ชีวิตมาเดินตลาดในช่วงสุดสัปดาห์ การเห็นข้อมูลประวัติของตนเอง จะได้แก้ความเชื่อผิดๆ เรื่องติดเครดิตบูโร ติดแบล็กลิสต์ และตัวเครดิตบูโรเองจะได้ถือโอกาสนี้ชี้แจงข้อมูลที่ถูกต้อง” นอกจากนี้การตรวจเครดิตบูโรของตนเองยังเป็นการป้องกันการทุจริต การฉ้อฉลอีกด้วยเพราะอาจมีใครเอาสำเนาเอกสารสำคัญของของตนเองไปสมัครบัตรเครดิตหรือขอสินเชื่อโดยที่เจ้าตัวไม่ทราบเรื่อง เครดิตบูโรจึงวางแผนขยายช่องทางการตรวจเครดิตบูโรใหม่ล่าสุด ณ ศูนย์การค้าอินสแควร์ ในทำเลใกล้ตลาดนัดจตุจักร  เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับบุคคลที่ประกอบอาชีพอิสระ ทำธุรกิจค้าขาย รวมถึงประชาชนทั่วไปที่ชอบจับจ่ายใช้สอยในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ (เสาร์-อาทิตย์) ตามรูปแบบวิถีชีวิตของคนเมือง กำหนดเปิด ‘ศูนย์บริการตรวจเครดิตบูโร’ หรือ ‘Bureau Express’ ณ ศูนย์การค้าอินสแควร์ ราวไตรมาส 3 ของปี 2555

นายสุรพล กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “เจ้าของสถานที่ได้เล็งเห็นความสำคัญของการเข้าถึงข้อมูลตนเองเพื่อรักษาประวัติทางการเงินให้ดีมีเครดิต จึงได้เสนอพื้นที่เล็กๆ คล้ายกับหน่วยให้บริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Exchange Center) ของสถาบันการเงิน โดยพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในบริเวณเดียวกันกับธนาคารและสถาบันการเงิน”

View :1261

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปรับโฉมเว็บไซต์ www.set.or.th และ www.settrade.com ตอบโจทย์ผู้ลงทุนทุกระดับ

March 13th, 2012 No comments

ปรับโฉมเว็บไซต์ในกลุ่มตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้ลงทุนทุกระดับทั้งมือโปรและมือใหม่ เน้นการเป็นศูนย์กลางข้อมูลด้านการเงินการลงทุนที่ครบถ้วนทุกตลาด และเข้าถึงได้ง่าย โดยเพิ่มเมนูสำหรับผู้เริ่มต้นลงทุนด้วยข้อมูลความรู้เพื่อการลงทุน และฟังก์ชั่นการค้นหาข้อมูลที่ง่ายและสะดวกขึ้น เริ่มแล้วที่ www.set.or.th และเริ่มเผยแพร่ผ่าน www.settrade.com พร้อมเปิดตัวโมบายไซต์ สำหรับผู้ใช้งานผ่านโทรศัพท์มือถือภายในเดือนเมษายนนี้

ดร.ภากร ปีตธวัชชัย รองผู้จัดการ สายงานการตลาด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากไลฟ์สไตล์ของประชาชนและผู้ลงทุนในปัจจุบันที่นิยมค้นหาข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลด้านการเงินการลงทุนจากแหล่งข้อมูลออนไลน์เพิ่มมากขึ้น ดูได้จากข้อมูลการใช้งานของผู้เข้าชมเว็บไซต์ของกลุ่มตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่เพิ่มมากขึ้นทุกปี โดยในปี 2554 มีจำนวนผู้เข้าชม www.set.or.th มากถึง 8,407,312 Unique IP หรือเพิ่มขึ้น 24.68 % จากปี 2553 ที่มีจำนวน 6,742,723 Unique IP และ มีจำนวนผู้เข้าชม www.settrade.com มากถึง 13,555,235 Unique IP ในปี 2554 หรือเพิ่มขึ้น 25.47 % จากปี 2553 ที่มีจำนวน 10,802,979 Unique IP ตลาดหลักทรัพย์ฯ ตระหนักถึงความสำคัญของข้อมูลข่าวสารด้านเศรษฐกิจและการลงทุนที่จะช่วยให้ผู้ลงทุนและผู้สนใจลงทุนสามารถเข้าถึงตลาดทุนได้ง่ายขึ้น จึงได้พัฒนาเว็บไซต์ในกลุ่มตลาดหลักทรัพย์ฯ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถตอบโจทย์บุคคลทุกกลุ่มที่สนใจเรื่องการเงินการลงทุน ซึ่งสอดรับกับแผนงานด้านการขยายฐานผู้ลงทุนของตลาดหลักทรัพย์ฯ

“สำหรับเว็บไซต์ www.set.or.th เป็นเว็บไซต์เผยแพร่ข้อมูลอย่างเป็นทางการของตลาดหลักทรัพย์ฯ และเป็นศูนย์รวมข้อมูลของตลาดทุน ทั้ง ตลาดหลักทรัพย์ฯ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ตลาดตราสารหนี้ และตลาดอนุพันธ์ โดยมีการเผยแพร่ข้อมูลพื้นฐานที่สำคัญ อาทิ กฎเกณฑ์และการกำกับดูแล วิธีการซื้อขายหลักทรัพย์ สินค้าเพื่อการลงทุน ข้อมูลบริษัทสมาชิก ข้อมูลหลักทรัพย์ ข้อมูลการซื้อขาย และสถิติสำคัญต่าง ๆ โดยเว็บไซต์โฉมใหม่ได้มีการเพิ่มฟังก์ชั่นเพื่อให้ผู้ลงทุนมือใหม่สามารถเข้ามาทำความรู้จักเรื่องลงทุนและค้นหาข้อมูลง่ายและสะดวกขึ้น ไม่ว่าจะเป็นส่วนเริ่มต้นการลงทุน ส่วน Video Center ที่นำเสนอเทปบันทึกสัมมนาที่น่าสนใจหลากหลายหัวข้อ รวมถึงการปรับรูปแบบเพื่อให้สามารถดูข้อมูลต่างๆ ได้ง่ายขึ้น ซึ่งเว็บไซต์ www.set.or.th โฉมใหม่นี้ได้เริ่มเผยแพร่แล้วตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา”

“นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังทำการปรับโฉมเว็บไซต์ www.settrade.com ซึ่งเป็นศูนย์กลางข้อมูลตลาดทุนที่สำคัญสำหรับผู้ลงทุนครบทุกตลาด นำเสนอข้อมูลราคาซื้อขายล่าสุดของแต่ละตลาด และยังเป็นแหล่งรวมข้อมูลบทวิเคราะห์และบทวิจัย ประกอบกับข้อมูลปัจจัยพื้นฐานต่าง ๆ รวมถึงเป็นศูนย์กลางข้อมูลเศรษฐกิจด้วย ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกแล้วกว่า 310,000 ราย และเป็นเว็บไซต์ที่ได้รับรางวัลผู้ใช้งานสูงสุดอันดับที่ 1 ในหมวด การเงิน การลงทุนติดต่อกัน 8 ปี (ตั้งแต่ปี 2546 – 2553 จากการจัดอันดับของ Truehits.net) โดยในการปรับโฉมใหม่นี้ ได้มีการแบ่งโซนสำหรับผู้ลงทุนหน้าใหม่โดยเฉพาะเพื่อให้ง่ายกับการหาข้อมูลครั้งแรก ทำให้ผู้สนใจลงทุนสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลด้านการลงทุนง่ายขึ้น สอดคล้องกับแผนของตลาดหลักทรัพย์ฯ ในเรื่องการขยายฐานผู้ลงทุน การเพิ่ม Video Center รวมถึงปรับรูปแบบการแสดงข้อมูลให้ค้นหาง่ายและสะดวกขึ้นโดยยังคงเน้นรูปแบบสวยงามสบายตา

นอกจากเว็บไซต์แล้วยังเตรียมเปิดตัวโมบายไซต์ m.settrade.com เพื่อเข้าใช้งานเว็บไซต์ www.settrade.com ผ่านโทรศัพท์มือถือ สมาร์ทโฟนประเภทต่างๆ ที่ใช้ระบบปฏิบัติการไม่ว่าจะเป็น iOS , Android หรือ Windows Mobile ก็สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในรูปแบบที่เหมาะสม เข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเข้าสู่ระบบซื้อขาย ดูข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน ข่าวและบทวิเคราะห์ ปฏิทินหลักทรัพย์ และ Video Center ผ่านโมบายไซต์ เพียงเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ โดยเว็บไซต์ และ โมบายไซต์โฉมใหม่จะเริ่มเผยแพร่ภายในเดือนเมษายนนี้” ดร.ภากร กล่าว

View :1454