Archive

Archive for the ‘3G’ Category

ดีแทคเปิดตัวแอร์การ์ดที่ความเร็วสูงสุด 42Mbps

December 6th, 2011 No comments


พร้อมข้อเสนอแพ็กเกจให้ลูกค้าใช้ เล่นได้ไม่จำกัดฟรี 1 เดือน

ดีแทคเปิดตัวแอร์การ์ดรุ่นใหม่พร้อมแพ็กเก็จการใช้งานฟรี เพื่อรองรับการใช้งาน เร็วที่สุดของเมืองไทย dtac 3G speedy 42 Mbps รองรับการดาวน์โหลดข้อมูลได้สูงสุดถึง 42Mbps พร้อมนำเสนอแอร์การ์ด ที่มาพร้อมแพ็กเก็จการใช้งานฟรีที่ให้ความคุ้มค่าอีก 2 รุ่น dtac 3G speedy 21Mbps และ dtac 3G speedy 7.2Mbps ให้เป็นทางเลือกกับลูกค้า โดยจะเริ่มทยอยวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคมนี้ที่สำนักงานบริการลูกค้า ดีแทคเซ็นเตอร์และร้านค้าอุปกรณ์ไอทีทั่วประเทศ

ดีแทคแอร์การ์ดใหม่ล่าสุดทั้ง 3 รุ่น จัดโปรโมชั่นพิเศษ โดยในกล่องจะประกอบด้วย aircard ที่มาพร้อมซิมแบบรายเดือน หรือแบบเติมเงิน และแพ็กเกจแบบคิดตามการใช้งานจริงที่ให้ลูกค้าได้ใช้งาน dtac 3G ไม่จำกัดฟรี 1 เดือนแรก หรือหากลูกค้าเลือกแพ็กเก็จที่คิดตามชั่วโมง ก็จะมีชั่วโมงให้ใช้ฟรี 50 ชั่วโมงต่อเดือน เป็นเวลา 2 เดือน ในช่วงแรก โดยแอร์การ์ดแต่ละรุ่นมีจุดเด่นที่แตกต่างกันเหมาะสำหรับการใช้งานที่หลากหลายของลูกค้า

dtac aircard 3G speedy 42 Mbps เป็นแอร์การ์ดที่มาพร้อมกับแพ็กเกจรายแรกของเมืองไทยที่สามารถรองรับการดาวน์โหลดข้อมูลสูงสุดถึง 42Mbps ซึ่งเป็นความเร็วสูงสุดในเมืองไทยขณะนี้ พร้อม Google Chrome ที่จะช่วยให้ลูกค้าเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเร็ว ง่ายและปลอดภัยยิ่งขึ้น

dtac aircard 3G speedy 21 Mbps พิเศษด้วยฟังก์ชั่น Fast-Link ที่ช่วยทำให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้เร็วและง่ายมากยิ่งขึ้น ลูกค้าสามารถใช้งานได้สะดวกเพียงเสียบแอร์การ์ดเข้ากับคอมพิวเตอร์ ระบบจะเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตให้อัตโนมัติ ทำให้ลูกค้าสามารถเข้าเล่นเน็ตผ่านบราวซ์เซอร์ได้ทันที โดยไม่ต้องลงโปรแกรมหรือกดปุ่มใดๆ

dtac aircard 3G speedy 7.2 Mbps แอร์การ์ดรุ่นยอดนิยม ใช้งานง่าย ราคาคุ้มค่าที่สุดในตลาด

ลูกค้าสามารถสอบถามข้อมูลดีแทคแอร์การ์ดและแพ็กเกจเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานบริการลูกค้าดีแทค ดีแทคเซ็นเตอร์ และร้านจำหน่ายอุปกรณ์ไอทีทั่วประเทศ หรือสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.dtac.co.th หรือ โทร1678 ดีแทค คอลล์เซ็นเตอร์

View :2544
Categories: 3G, Internet, Press/Release Tags: , ,

“ทรูมูฟ เอช” เปิดตัว “iSIM” ออนไลน์ไร้สายด้วย 3G+

November 3rd, 2011 No comments

ตอกย้ำผู้นำบริการ และผู้ให้บริการที่ตอบสนอง ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่รองรับการใช้งาน Convergence device อย่างแท้จริง เปิดตัว ซิมใหม่สำหรับคนเล่นเน็ต ให้อิสระออนไลน์แบบไร้สายได้แรงกว่าด้วยเครือข่าย + เร็วสูงสุด 42 Mbps ครอบคลุมพื้นที่มากที่สุด ทั่วกรุงเทพฯ และอีก 16 จังหวัดทั่วไทย

เลือกซื้อแพ็กเกจท่องเน็ตไร้สายแบบออนไลน์ถึง 3 แพ็กเกจได้ทุกที่ทุกเวลา ผ่าน www.truemove-h.com/iSIM ครั้งแรกของวงการโมบายล์อินเทอร์เน็ตที่ให้วันใช้งานนานถึง 6 เดือนทุกแพ็กเกจ เปิดใช้ซิมวันนี้ รับฟรี 150 MB ทันที ขาเน็ตตัวจริงหาซื้อ iSIM ได้แล้ววันนี้ที่ร้านทรูช็อป ทรูสเตชั่น และร้านค้าตัวแทนจำหน่าย เพียง 169 บาทเท่านั้น พร้อมนำเงินรายได้จากการจำหน่าย iSIM ตั้งแต่วันนี้ – 30 ธันวาคม 2554 ซิมละ 20 บาท ร่วมบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมผ่านมูลนิธิราชประชานุเคราะห์

นายสุภกิจ วรรธนะดิษฐ์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการพาณิชย์ บริษัท เรียล มูฟ จำกัด กล่าวว่า “ทรูมูฟ เอช เปิดตัว iSIM ซิมใหม่สำหรับคนท่องเน็ตโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นนวัตกรรมล่าสุดที่เพิ่มความสะดวกให้ลูกค้าบริหารจัดการการใช้งานอินเทอร์เน็ตทั้งหมดของ iSIM ผ่าน www.truemove-h.com/iSIM ได้ง่ายๆ แบบออนไลน์ เช่น การเช็คยอดอินเทอร์เน็ตคงเหลือ การสั่งซื้อแพ็กเกจเสริมเน็ต สามารถทำได้ทุกที่ ทุกเวลา เหมาะกับลูกค้าที่ใช้งานแท็ปเล็ต แอร์การ์ด Mi-Fi หรืออุปกรณ์สื่อสารต่างๆ ที่รองรับ3G บนคลื่นความถี่ 850 MHz โดยทรูมูฟ เอช ออกแบบ iSIM จากประสบการณ์และความเข้าใจการใช้งานของลูกค้าที่ใช้ Convergence device ผนวกจุดเด่นที่เหนือกว่าด้วยเครือข่าย 3G+ เร็วสูงสุด 42 Mbps และครอบคลุมพื้นที่ให้บริการมากที่สุด ทั่วกรุงเทพฯ และอีก 16 จังหวัดทั่วไทย* ได้แก่ ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ อยุธยา นครปฐม สมุทรสาคร ชลบุรี เชียงใหม่ นครราชสีมา อุดรธานี สงขลา สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต นครศรีธรรมราช และกระบี่ นอกจากนี้ iSIM ยังเป็นซิมเล่นเน็ตซิมแรกที่ให้วันใช้งานนานถึง 6 เดือน ช่วยให้ลูกค้าไม่ต้องกังวลหรือรีบเร่งใช้เน็ตให้หมดภายในเดือนที่เปิดใช้งาน และเพิ่มความคุ้มค่ายิ่งขึ้นด้วยการคิดค่าบริการตามปริมาณการใช้งานจริงเป็นเมกะไบท์ (MB) และเพื่อฉลองการเปิดตัวครั้งนี้ ลูกค้าที่เปิดใช้ iSIM ตั้งแต่วันนี้ – 31 มกราคม 2555 ราคาเพียง 169 บาท รับฟรี 150 MB ทันที! มั่นใจว่า iSIM จะเพิ่มอิสระในการเข้าถึงข้อมูลและความบันเทิงอย่างไร้ขีดจำกัด แบบ FREEYOU และจะเป็นซิมคู่กายของนักท่องเน็ตแบบไร้สายได้อย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้น ทรูมูฟ เอช จะนำเงินรายได้จากการจำหน่าย iSIM ตั้งแต่วันนี้ – 30 ธันวาคม 2554 ซิมละ 20 บาท ร่วมบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมผ่านมูลนิธิ
ราชประชานุเคราะห์ต่อไป”

ลูกค้าที่สนใจเปิดใช้ iSIM จากทรูมูฟ เอช ได้แล้ววันนี้ ที่ทรูช็อป ทรูสเตชั่น และตัวแทนจำหน่ายในกรุงเทพฯ และอีก 16 จังหวัด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้า โทร 1331 หรือ www.truemove-h.com

View :2077

เอไอเอสดูแลเครือข่ายภาคกลางตอนบนกลับมาให้บริการได้ตามปกติแล้ว

November 3rd, 2011 No comments

พร้อมเดินหน้าเปิด 900 เพิ่มเขตปริมณฑล ช่วยคนค้นหาข้อมูลบนโลกออนไลน์

3 พฤศจิกายน 2554: นายวิเชียร เมฆตระการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า “เครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ของเอไอเอสในบริเวณภาคกลางตอนบน อาทิ นครสวรรค์, อุทัยธานี, ลพบุรี , สระบุรี ที่เคยได้รับผลกระทบจากการงดจ่ายกระแสไฟฟ้าจากการไฟฟ้าฯ ในช่วงวิกฤติอุทกภัยในช่วงที่ผ่านมานั้น ขณะนี้เครือข่ายทั้งหมดสามารถกลับมาให้บริการได้ 100% แล้ว หลังจากระดับน้ำเริ่มลดและมีการจ่ายกระแสไฟฟ้าตามปกติ เครือข่ายเอไอเอสจึงพร้อมให้บริการได้ทันที”

“สำหรับ จ.อยุธยา, ปทุมธานี และนนทบุรี ซึ่งยังมีน้ำท่วมขังอยู่นั้น ในพื้นที่สำคัญ เช่น ตัวเมือง หรือ ในนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นนิคมโรจนะ, ไฮเทค, บางปะอินหรือ แฟ็คทอรี่แลนด์ ทีมวิศวกรได้ใช้เครื่องปั่นไฟและพยายามทุกวิถีทางที่จะทำให้เครือข่ายยังคงให้บริการได้ตลอดช่วงวิกฤติอุทกภัยที่ผ่านมา เพื่อตอบสนองความต้องการฟื้นฟูภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมในพื้นที่ดังกล่าว อย่างไรก็ตามมีเพียงสถานีฐาน ราว 10% เท่านั้นที่ยังคงไม่สามารถให้บริการได้ เนื่องจากการงดจ่ายไฟฟ้า”

ส่วนชุมสายของเอไอเอสในพื้นที่อุทกภัย ไม่ว่าจะเป็น รังสิต, แจ้งวัฒนะ และ ทวีวัฒนานั้น ขณะนี้ยังคงปลอดภัย และสามารถให้บริการได้อย่างไม่ติดขัด โดยมีทีมวิศวกรเฝ้าระวังอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนเครือข่ายในกรุงเทพมหานครที่กำลังเริ่มได้รับผลกระทบจากอุทกภัยก็มีปัญหาน้อยมาก เนื่องจากส่วนใหญ่อยู่บนตัวอาคาร

“นอกจากนี้เพื่อให้สามารถรองรับความต้องการใช้งาน Data อันจะช่วยให้ประชาชน หรือ อาสาสมัคร สามารถสื่อสารขอความช่วยเหลือ, แจ้งข่าว รวมถึงค้นหาข้อมูลผ่านทาง Social Media ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว เอไอเอสจึงได้ขยายเครือข่าย 3G 900 เพิ่มเติมในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยติดตั้งเพิ่มเติมอีก 763 แห่ง รวมกับที่เคยเปิดให้บริการก่อนหน้านี้เป็น 1,286 แห่ง ครอบคลุม 64 เขต จากเดิม 29 เขต”

“ผมขอยืนยันความมั่นใจให้แก่ลูกค้าและประชาชนอีกครั้งว่า เครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ของเอไอเอส จะยังคงพร้อมเป็นช่องทางในการส่งต่อความช่วยเหลือ ติดต่อสื่อสารได้อย่างต่อเนื่อง แน่นอน” นายวิเชียรกล่าว

View :2483
Categories: 3G, Press/Release, Telecom Tags:

เอไอเอส 3G ขยายพื้นที่ให้บริการเพิ่มเติมแล้ว ที่เชียงราย ขอนแก่น นครปฐม และพัทยา

October 3rd, 2011 No comments

นายปรัธนา ลีลพนัง ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานบริการเสริม บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส เปิดเผยความคืบหน้าอีกขั้นของการขยายโครงข่าย เอไอเอส ว่า “หลังจากที่เอไอเอสได้ประกาศเปิดตัวเครือข่าย บนคลื่น 900 MHz ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยเริ่มต้นจากพื้นที่กรุงเทพและอีก 7 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพ, เชียงใหม่ ,ชลบุรี, หาดใหญ่-สงขลา, ภูเก็ต, ชะอำ-หัวหิน-ปราณบุรี และนครราชสีมา นั้น ขณะนี้ได้ขยายพื้นที่ไปที่ จ.เชียงราย ,จ.ขอนแก่น , จ.นครปฐม และ พัทยาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และภายในเดือนนี้จะเพิ่มพื้นที่การให้บริการในส่วนปริมณฑล คือ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ โดยปัจจุบันมีลูกค้ามีลูกค้าใช้บริการเครือข่าย แล้วถึงกว่า 890,000 ราย ทั้งนี้คาดว่า ณ สิ้นปีจะมีปริมาณลูกค้าที่เข้าใช้งานเพิ่มขึ้นถึง 1,000,000 ราย”

ลูกค้าสามารถเข้าใช้งาน 3G ได้โดยอัตโนมัติ หากมีเครื่องรองรับ 3G 900 (ที่ความเร็วสูงสุด 384kbps) พร้อมสามารถเลือกสมัครใช้เพคเก็จ 3G (ที่ความเร็วสูงสุด) ซึ่งเหมาะกับความต้องการได้ทันทีทั้ง GSM advanced และ One2Call! ผ่าน *300.

View :1368

ธนาคารไทยพาณิชย์และธนาคารกรุงไทยลงนามสัญญาสนับสนุนเงินทุน48,940 ล้านบาทกลุ่มทรู

September 7th, 2011 No comments

ลงนามสัญญาสินเชื่อร่วมกับกลุ่มธนาคารพาณิชย์ โดยมี จำกัด (มหาชน) และ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ให้เงินกู้หลัก ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) และ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย เป็นผู้ให้เงินกู้ร่วมจำนวนวงเงินรวมทั้งสิ้น 48,940 ล้านบาท โดยเงินจำนวนดังกล่าวจะนำไปใช้ลงทุนในการขยายธุรกิจสื่อสารไร้สายกลุ่มทรู และชำระคืนหนี้สินเดิมบางส่วน รวมทั้งใช้เป็นเงินลงทุนหมุนเวียนในการขยายธุรกิจเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มทรู

นางกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารรู้สึกเป็นเกียรติเป็นอย่างยิ่งที่กลุ่มทรูให้ความไว้วางใจธนาคารอย่างต่อเนื่อง ธนาคารพร้อมให้การสนับสนุนกลุ่มทรูตามยุทธศาสตร์ระยะยาวของกลุ่มในการเป็นผู้นำด้าน Convergence การสนับสนุนธุรกรรมในครั้งนี้ถือเป็นการให้บริการแบบครบวงจร โดยธนาคารเริ่มจากการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินของกลุ่มธุรกิจไร้สาย (wireless) ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาจัดโครงสร้างทางธุรกิจและทางการเงินที่เหมาะสมเพี่อช่วยให้กลุ่มทรูสามารถแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด รวมไปถึงเป็น Lead Arranger ร่วมกับ ธนาคารกรุงไทย ในการจัดหาแหล่งเงินทุนในระยะยาวเพื่อสนับสนุนการลงทุนเพื่อการให้บริการด้าน

ซึ่งการลงทุนสนับสนุนด้านการเงินจำนวน 48,940 ล้านบาทแก่กลุ่มทรูในครั้งนี้ จะเสริมศักยภาพให้กลุ่มทรูสามารถเดินหน้าให้บริการ 3G ระบบ HSPA อย่างมีประสิทธิภาพครอบคลุมทั่วประเทศ เป็นการยกระดับพัฒนาไปสู่บรอดแบนด์ไร้สายอย่างเต็มรูปแบบในประเทศไทย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค และเป็นประโยชน์แก่กลุ่มทรูซึ่งเน้นยุทธศาสตร์ด้าน convergence มาโดยตลอด พร้อมกันนี้ธนาคารขอขอบคุณธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) และ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยที่เป็นพันธมิตรในการให้เงินกู้ร่วมกับธนาคารในครั้งนี้

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ธนาคารเดินหน้าให้การสนับสนุนสินเชื่อกับทุกภาคส่วน และมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ให้การสนับสนุนวงเงินสินเชื่อแก่กลุ่มทรู ซึ่งมียุทธศาสตร์ระยะยาวที่ชัดเจนในการเป็นผู้นำด้าน Convergence การลงทุนในครั้งนี้มีส่วนสำคัญในการพัฒนาและเพิ่มศักยภาพธุรกิจสื่อสารไร้สายและบริการ 3G ในประเทศไทยให้ก้าวหน้าครอบคลุมเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สามารถสนองตอบความต้องการของประชาชน ผู้บริโภคในการสื่อสาร และเข้าถึงแหล่งความรู้ ข้อมูลข่าวสารได้อย่างรวดเร็ว ไร้พรมแดน และเกิดประโยชน์สูงสุด

นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหารกลุ่มทรู บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า กลุ่มทรู ขอขอบคุณกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ทั้งธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) รวมทั้งผู้ให้เงินกู้ร่วมคือธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) และธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ที่ให้ความวางใจสนับสนุนทางการเงินกับกลุ่มทรู รวมทั้งเชื่อมั่นในศักยภาพการดำเนินธุรกิจของบริษัทเอกชนไทย ตลอดจนพร้อมร่วมผลักดันธุรกิจโทรคมนาคมไทยให้ก้าวทันโลก โดยมีมูลค่าเงินสนับสนุนครั้งนี้รวมทั้งสิ้น 48,940 ล้านบาท เป็นสินเชื่อระยะยาวอายุไม่เกิน 10 ปี และเป็นสินเชื่อเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียน โดยบางส่วนจะนำไปชำระคืนหนี้สินเดิม ยิ่งไปกว่านั้น ยังเป็นโอกาสสำคัญในการขยายการลงทุนธุรกิจสื่อสารไร้สายของกลุ่ม เพิ่มศักยภาพโครงข่ายและขีดความสามารถการเข้าถึงให้ครอบคลุมเต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สร้างประโยชน์สูงสุดให้ประชาชนชาวไทยทั่วประเทศ สามารถเข้าถึงความรู้ข้อมูล ข่าวสาร ได้ทัดเทียมกัน

View :1482

กลุ่มทรู เผยโฉมแบรนด์ “ทรูมูฟ เอช” ใช้บริการ 3G+ ทั่วกรุงเทพฯ และอีก 16 จังหวัดทั่วไทย

August 31st, 2011 No comments

เผยโฉมแบรนด์ “” มอบชีวิตอิสระทุกที่ทุกเวลา ตอบสนองไลฟ์สไตล์ล้ำยุคไร้ขีดจำกัด ด้วยพลังการสื่อสารไร้สายสมบูรณ์แบบ เทคโนโลยีและบริการสุดล้ำเหนือใคร ตอกย้ำผู้นำบริการ ตัวจริง บนเครือข่ายไร้สายใหม่ + ที่แรงกว่า เร็วกว่า และครอบคลุมพื้นที่มากที่สุด ให้ความเร็วสูงสุดถึง 42 Mbps และ Wi-Fi ความเร็วสูงสุด 8 Mbps** ครอบคลุม 100,000 จุด*** เติมพลังอุปกรณ์สื่อสารเพิ่มประสิทธิภาพให้ใช้งานได้แบบสุดๆ สนุกกับคอนเทนต์โดนใจและแอพพลิเคชั่นอินเทรนด์ มั่นใจกับบริการหลังการขายโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ และแพ็กเกจเลือกได้หลากหลายตอบโจทย์ทุกรูปแบบการใช้งาน ทั้งโทรเป็นหลัก เล่นเน็ตเป็นหลักโทร+เล่นเน็ต ตลอดจนแพ็กเกจเสริม พร้อมแพ็กเกจพิเศษสำหรับสมาร์ทโฟนทุกแพลตฟอร์ม และแท็บเล็ตอีกมากมาย ร่วมสัมผัสอิสรภาพการสื่อสารไร้สายในสไตล์ของตัวเองได้แล้ววันนี้ ทั่วกรุงเทพฯ และอีก 16 จังหวัดทั่วไทย

นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มบมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า หลังจากที่ เรียล มูฟ ผู้ขายต่อบริการ (รีเซลเลอร์) 3G+ ของ CAT ภายใต้แบรนด์ “ทรูมูฟ เอช” เปิดให้บริการตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา วันนี้ “ทรูมูฟ เอช” พร้อมเปิดตัวแบรนด์อย่างเป็นทางการ ตอกย้ำผู้นำบริการ 3G ตัวจริง บนเครือข่ายไร้สายใหม่ 3G+ ที่แรงกว่า เร็วกว่า และครอบคลุมพื้นที่มากที่สุด ซึ่งเป็นก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทยสู่ยุคบรอดแบนด์ไร้สายเต็มรูปแบบอย่างเป็นรูปธรรม เปลี่ยนการใช้ชีวิตประจำวันให้มีสีสัน อิสระเต็มที่ทั้งเรียน เล่น และทำงาน พร้อมสัมผัสอิสรภาพการสื่อสารไร้สายในสไตล์ของตัวเอง สอดรับกับยุทธศาสตร์คอนเวอร์เจนซ์ของกลุ่มทรู ที่มุ่งเติมเต็มไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคชาวไทยให้สามารถติดต่อสื่อสารได้ทุกที่ทุกเวลาอย่างไร้ขีดจำกัด ด้วยเครือข่ายคอนเวอร์เจนซ์ทั้ง 3G+ และ Wi-Fi เต็มอิ่มกับคอนเทนต์และแอพพลิเคชั่นหลากหลาย ที่จะเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิตของคนไทยไปสู่ความเป็นคอนเวอร์เจนซ์ไลฟ์สไตล์สมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง

ทรูมูฟ เอช แบรนด์ใหม่จากกลุ่มทรู สะท้อนอิสรภาพการสื่อสารไร้สายบนเครือข่ายใหม่ ให้ติดต่อสื่อสารได้รวดเร็วทันใจยิ่งกว่า สามารถเข้าถึงทุกข้อมูลและความบันเทิงอย่างไร้ขีดจำกัด สนุกกับการแบ่งปันประสบการณ์ร่วมกันและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ด้วยบริการอันชาญฉลาดเหนือกว่า (Highly Intelligent) ของทรูมูฟ เอช ที่จะมอบชีวิตอิสระ FREEYOU ตรงใจไลฟ์สไตล์ลูกค้า

§ อิสระ…ให้ได้ทุกที่ – Free Your World ด้วย Hyper hi-speed network ให้ติดต่อสื่อสารบนเครือข่ายใหม่ 3G+ ที่แรงกว่า เร็วกว่า ด้วยความเร็วสูงสุด 42 Mbps และครอบคลุมพื้นที่มากที่สุด ทั่วกรุงเทพฯ และอีก 16 จังหวัดทั่วไทย ได้แก่ ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ อยุธยา นครปฐม สมุทรสาคร ชลบุรี ขอนแก่น นครราชสีมา อุดรธานี เชียงใหม่ สงขลา สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต นครศรีธรรมราช และกระบี่ พร้อมเครือข่าย Wi-Fi ความเร็วสูงสุด 8 Mbps ครอบคลุม 100,000 จุด

§ อิสระ…ให้กับทุกไลฟ์สไตล์ – Free Your Style ด้วย High variety of devices เลือกสนุกกับ gadget โดนใจทุกรูปแบบ ทั้งสมาร์ทโฟนหลากหลายแพลตฟอร์ม อาทิ iPhone, iPad, Samsung และ Android Phone และอุปกรณ์สื่อสารอื่นๆ อาทิ และ Mi-Fi เล่นได้เต็มประสิทธิภาพบนเครือข่าย 3G+ และ Wi-Fi

§ อิสระ…ให้สนุกกับแอพพลิเคชั่นโดนใจ – Free Your Desires ด้วย Hip content and application สนุกไม่อั้นกับคอนเทนต์และแอพพลิเคชั่นที่คัดสรรมาโดยเฉพาะ อาทิ เลือกชมช่องรายการโปรดจากทรูวิชั่นส์ได้ถึง 14 ช่อง บน iPhone และ iPad โดยสามารถเลือกชมได้แบบสดๆ ดูรายการย้อนหลัง หรือคลิปรายการ ไฮไลต์ต่างๆ เช่น พรีเมียร์ลีก พร้อมสัมผัสแอพพลิเคชั่นใหม่ล่าสุดทั้ง Thailand GPS by NAVFONE ระบบนำทางและแผนที่ประเทศไทยบนมือถือที่ช่วยนำทางไปได้ทุกหนทุกแห่ง, TrueMove H iService ตรวจสอบข้อมูลต่างๆ เช่น เลขหมายที่ใช้งาน วันที่เปิดใช้บริการ โปรโมชั่น ยอดเงินค้างชำระ การใช้งานดาต้าคงเหลือ หรือ ซื้อแพ็กเกจบริการต่างๆ ได้ทันทีบนมือถือ และ TrueMusic HD ศูนย์รวมเพลงฮิตทั้งไทยและเทศกว่า 400,000 เพลง เลือกฟัง ดูมิวสิกวิดีโอ และเนื้อเพลงได้ตามสไตล์ที่ชื่นชอบ และยังสามารถแชร์ให้เพื่อนผ่าน facebook และ twitter ได้ง่ายๆ และแอพพลิเคชั่นอื่นๆ อีกมากมาย

§ อิสระ…ให้สบายกับบริการหลังการขาย – Free Yourself ด้วย Human services บริการสำหรับลูกค้าคนพิเศษ โดยบุคลากรผู้เชี่ยวชาญที่ใส่ใจและรอบรู้ทุกบริการ ทั้ง IT Friends กว่า 300 คนที่คอยให้คำแนะนำด้านเทคนิคและการใช้งาน รวมถึงศูนย์บริการลูกค้า โทร 1331, ทรูช็อป, ทรูพาร์ตเนอร์ และตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ

§ อิสระ…ให้เป็นพิเศษกับหลากหลายแพ็กเกจ – Free Your Mind ด้วย High value offering ตรงใจ สบายกระเป๋ากับแพ็กเกจค่าบริการหลากหลายเลือกได้ทุกสไตล์การใช้งาน ทั้งโทรเป็นหลัก (Free to Talk) เล่นเน็ตเป็นหลัก (Free to Surf) และโทร+เล่นเน็ตไม่อั้น (Free to Surf & Talk) รวมทั้งแพ็กเกจเสริม (Free to Topping) ให้เลือกซื้อเพิ่มได้ตามความต้องการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นค่าโทร, SMS, MMS, 3G+, Wi-Fi หรือซื้อแอพพลิเคชั่น ตลอดจนแพ็กเกจพิเศษสำหรับ iPhone, สมาร์ทโฟนทุกแพลตฟอร์ม และแท็บเล็ต

“ทรูมูฟ เอช เป็นก้าวสำคัญของกลุ่มทรู เพื่อมอบประสบการณ์สื่อสารไร้สายสมบูรณ์แบบ ที่ให้อิสระ “FREEYOU” ไร้ขีดจำกัด พร้อมสัมผัสอิสรภาพการสื่อสารไร้สายในสไตล์ของตัวเอง ด้วยบริการบนเครือข่ายไร้สาย 3G+ ความเร็วสูงสุด 42 Mbps และ Wi-Fi ความเร็วสูงสุด 8 Mbps ซึ่งจะเพิ่มศักยภาพการใช้งานทั้งชีวิตประจำวันและการทำงานได้อย่างเต็มที่ ยิ่งไปกว่านั้น ยังเปิดโลกที่ให้อิสระ “FREEYOU” ในการเข้าถึงข้อมูลสาระบันเทิงกับ คอนเทนต์หลากหลาย พร้อมแอพพลิเคชั่นตรงใจ ให้คนไทยได้แบ่งปันประสบการณ์ และสร้างสรรค์สิ่งดีๆ เพื่อความสุขร่วมกัน” นายศุภชัย กล่าวสรุป

* การให้บริการ 3G+ ขึ้นอยู่กับพื้นที่การให้บริการ และอุปกรณ์ที่รองรับ

** ความเร็วในการใช้บริการ 3G+ และ Wi-Fi ขึ้นอยู่กับปริมาณผู้ใช้งาน ณ จุดที่ใช้งานและอุปกรณ์ที่รองรับ

*** บริการ Wi-Fi 100,000 จุดทั้งในและต่างประเทศ ภายในกันยายน 2554

View :2020

กสิกรไทยให้ลูกค้า i-KooL เล่นเน็ต 3G ฟรีได้ 3เท่า เพียงเติม data ผ่าน K-Mobile Banking PLUS

August 19th, 2011 No comments

นายอาจ วิเชียรเจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย ร่วมกับ นายสุรช ล่ำซำ กรรมการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) มอบสิทธิพิเศษให้ลูกค้าที่เติมเงิน Data Real (SIM Data) ราคา 100 บาท ผ่าน (บริการธนาคารทางโทรศัพท์มือถือกสิกรไทย) รับเน็ต 3G เพิ่ม 3 เท่า จาก 250 MB เป็น 750 MB และเติม Data 100 บาท ครบ 3 ครั้ง รับบัตรกำนัล Big C มูลค่า 100 บาท ตั้งแต่วันนี้ – 15 ก.ย. 54 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ K-Contact Center 0 2888 8888 กด 03

View :2913

3G พลิกโฉมการสื่อสารไร้สายของไทย คนกรุงกว่าร้อยละ 89 มีแผนใช้งานในอนาคต

August 15th, 2011 No comments

โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย

ปัจจุบัน การสื่อสารโทรคมนาคมได้เข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในชีวิตประจำวันของผู้คนยุคใหม่ นอกเหนือจากการสื่อสารในรูปแบบเสียงแล้ว การสื่อสารในยุคปัจจุบันได้เปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคการสื่อสารที่เน้นข้อมูลในหลากหลายรูปแบบ ซึ่งมีทั้งภาพและเสียงหรือที่เรียกกันว่ามัลติมีเดียมากยิ่งขึ้น ปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญอย่างหนึ่งในการตอบสนองความต้องการในการสื่อสารของยุคนี้ คือ ความเร็วในการรับและส่งผ่านข้อมูล ซึ่งเป็นที่มาของเทคโนโลยีการสื่อสารข้อมูลความเร็วสูงในยุคที่ 3 หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า (Third Generation)

ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เอกชนรายหลักได้มีการเปิดทดสอบให้บริการ 3G บนคลื่นความถี่เดิม (HSPA) มาตั้งแต่ปี 2552 โดยจำกัดขอบเขตในบางพื้นที่ของกรุงเทพฯ ปริมณฑล และหัวเมืองใหญ่ ทำให้ผู้บริโภคบางส่วนเกิดความคุ้นเคยและได้ทดลองใช้งานบริการ 3G มาก่อนหน้านี้ ในขณะที่การเปิดประมูลใบอนุญาตให้บริการ 3G บนคลื่นความถี่ 2.1GHz จะต้องรอการจัดตั้งคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ซึ่งคาดว่าอย่างเร็วที่สุดน่าจะจัดตั้งได้ในช่วงปลายไตรมาส 3 ของปี 2554 และการประมูลน่าจะถูกจัดขึ้นได้ในช่วงกลางปี 2555 เป็นอย่างเร็ว อย่างไรก็ดี ผู้ให้บริการเอกชนรายหลักได้เริ่มทยอยเปิดตัวให้บริการ 3G เชิงพาณิชย์บนคลื่นความถี่เดิมในช่วงครึ่งหลังของปี 2554 นี้ ซึ่งนับได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนแปลงสำคัญที่จะพลิกโฉมการสื่อสารโทรคมนาคมของไทยให้เข้าสู่ยุคการสื่อสารข้อมูลความเร็วสูง

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้ทำการสำรวจในหัวข้อพฤติกรรมการใช้งานบริการ 3G ของผู้บริโภคในเขตกรุงเทพฯ โดยมีจำนวนกลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 629 ชุด เพื่อศึกษาความต้องการการใช้งานบริการ 3G และบริการเสริมด้านข้อมูลต่างๆบนอุปกรณ์เคลื่อนที่

 ผลสำรวจความต้องการใช้บริการ 3G…คนกรุงมีแผนใช้ 3G ในอนาคตสูงถึงร้อยละ 89.5

การเปิดทดสอบให้บริการ 3G บนคลื่นความถี่เดิมตั้งแต่ปี 2552 นับได้ว่ามีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างความคุ้นเคยในหมู่ผู้บริโภคในการใช้งานบริการ 3G นอกจากนี้ ยังมีส่วนสำคัญในการให้ข้อมูลเพื่อเป็นแนวทางในการวางแผน และกำหนดยุทธวิธีการทำตลาดในช่วงระยะถัดไปที่จะมีการทยอยเปิดให้บริการ 3G เชิงพาณิชย์ในช่วงครึ่งหลังของปี 2554 ไม่ว่าจะเป็นด้านการพัฒนาบริการเสริมด้านข้อมูล หรือแม้แต่การพัฒนาโมบายล์แอพพลิเคชั่นใหม่ๆที่ต้องอาศัยการสื่อสารความเร็วสูง จากการสำรวจของศูนย์วิจัยกสิกรไทยเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้งานบริการ 3G ในระยะที่ผ่านมา พบประเด็นต่างๆ ดังนี้

 คนกรุงเทพฯกำลังใช้งานบริการ 3G อยู่ร้อยละ 36.6 ส่วนผู้ที่ยังไม่ได้ใช้งานที่มีแผนจะใช้งานในอนาคตมีถึงร้อยละ 89.5

จากการสอบถามถึงการใช้งานบริการ 3G ของผู้บริโภคในเขตกรุงเทพฯ พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามราวร้อยละ 36.6 กำลังใช้งานบริการ 3G อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งนับได้ว่าเป็นสัดส่วนที่ไม่น้อย ในช่วงที่การเปิดให้บริการ 3G เชิงพาณิชย์เพิ่งจะอยู่ในระยะเริ่มต้น อย่างไรก็ดี ผู้ตอบแบบสอบถามราวร้อยละ 54.4 ให้ข้อมูลว่ายังไม่เคยใช้งานบริการ 3G มาก่อน โดยมีเหตุผลหลัก คือ โทรศัพท์เคลื่อนที่ของตนไม่รองรับระบบ 3G คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 53.5 ซึ่งผู้ตอบแบบสอบถามในกลุ่มที่ให้เหตุผลดังกล่าวมีแผนที่จะใช้งานบริการ 3G ในอนาคตสูงถึงร้อยละ 85.2 แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่ผู้บริโภคในกลุ่มดังกล่าวจะเปลี่ยนโทรศัพท์เคลื่อนที่ใหม่เพื่อให้สามารถใช้งาน 3G ได้

นอกจากนี้ ผู้ตอบแบบสอบถามยังให้เหตุผลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสาเหตุที่ยังไม่เคยใช้งานบริการ 3G อีกว่า พื้นที่ให้บริการ 3G ยังไม่ครอบคลุม คิดเป็นสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 52.3 สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ เนื่องจาก การเปิดให้บริการ 3G ในช่วงก่อนหน้านี้ ยังคงเป็นลักษณะการทดสอบให้บริการ ซึ่งจำกัดอยู่เฉพาะบางพื้นที่ของกรุงเทพฯ ปริมณฑล และหัวเมืองใหญ่เท่านั้น อย่างไรก็ดี ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายหลักมีแผนที่จะเปิดให้บริการ 3G ครอบคลุมเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล และหัวเมืองใหญ่ ภายในสิ้นปี 2554 นี้ และจะครอบคลุมทั่วประเทศภายใน 3 ปี ทำให้ข้อจำกัดเกี่ยวกับพื้นที่ให้บริการ 3G มีแนวโน้มลดลงในอนาคต

จากผลการสำรวจยังพบอีกว่า โดยภาพรวมแล้ว ผู้ตอบแบบสอบถามที่ยังไม่เคยใช้บริการ 3G มีแผนที่จะใช้บริการในอนาคตสูงถึงร้อยละ 89.5 ของผู้ที่ยังไม่ได้ใช้บริการในปัจจุบัน สะท้อนถึงโอกาสทางการตลาดอันสำคัญสำหรับผู้ให้บริการโครงข่าย 3G รวมไปถึงผู้ให้บริการเสริมด้านคอนเทนต์ และนักพัฒนาโมบายล์แอพพลิเคชั่น ที่จะพัฒนาบริการหรือแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ ที่ต้องอาศัยการสื่อสารความเร็วสูง

 ร้อยละ 80 ของผู้ใช้งานบริการ 3G ในปัจจุบัน ใช้บริการ 3G ผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่

ปัจจุบัน การเชื่อมต่อเพื่อใช้งานบริการ 3G สามารถกระทำผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้หลากหลาย ได้แก่ โทรศัพท์เคลื่อนที่ เน็ตบุ๊ค แท็บเล็ต และโน๊ตบุ๊คผ่านแอร์การ์ด 3G จากผลการสำรวจของศูนย์วิจัยกสิกรไทย พบว่า ผู้บริโภคในเขตกรุงเทพฯราวร้อยละ 80 ใช้บริการ 3G ผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ และมีสัดส่วนการใช้บริการผ่านสมาร์ทโฟนสูงถึงร้อยละ 84.8 ของผู้ใช้บริการ 3G ผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ แสดงให้เห็นถึงความพร้อมของผู้บริโภคในการถือครองสมาร์ทโฟน ซึ่งเป็นอุปกรณ์สื่อสารที่มีสมรรถนะสูง และสามารถใช้งานได้หลากหลายวัตถุประสงค์ผ่านทางโมบายล์แอพพลิเคชั่น ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการรองรับการพัฒนาบริการเสริมทางด้านข้อมูลใหม่ๆในอนาคตมากยิ่งขึ้น

ในขณะเดียวกัน อุปกรณ์เคลื่อนที่ประเภทแท็บเล็ต ซึ่งมีสัดส่วนผู้ใช้งานบริการ 3G ผ่านอุปกรณ์ดังกล่าวถึงร้อยละ 13.0 ก็เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่น่าจับตามองเช่นกัน เนื่องจาก ฟังก์ชั่นการทำงานที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับสมาร์ทโฟน แต่ด้วยความเร็วในการประมวลผลข้อมูลที่สูงกว่า ขนาดของหน้าจอแสดงผลที่ใหญ่ และสามารถใช้งานแอพพลิเคชั่นที่ถูกพัฒนาสำหรับสมาร์ทโฟนได้ ประกอบกับผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ไอซีทีในไทยเริ่มเข้ามาทำตลาดอย่างจริงจังตั้งแต่ช่วงปลายปี 2553 ทำให้ผู้บริโภคเริ่มให้ความสนใจใช้งานแท็บเล็ตในวงกว้างมากยิ่งขึ้น

 ผลสำรวจบริการด้านข้อมูล…คนกรุงต้องการช่องทางสื่อสารรูปแบบใหม่ที่เน้นมัลติมีเดีย

ปัจจุบัน ผู้บริโภคมีแนวโน้มใช้งานบริการด้านข้อมูล (Non-Voice) เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2553 บริการด้านข้อมูลมีมูลค่ากว่า 2.6 หมื่นล้านบาท ขยายตัวราวร้อยละ 24.4 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 17.2 ของมูลค่ารวมบริการด้านเสียงและข้อมูล ในขณะที่ปี 2554 บริการด้านข้อมูลมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยได้แรงสนับสนุนจากการทยอยเปิดตัวการให้บริการ 3G เชิงพาณิชย์ของผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายหลักในช่วงครึ่งหลังของปี 2554 ประกอบกับการเติบโตของตลาดสมาร์ทโฟนที่กำลังอยู่ในกระแสความนิยม ซึ่งจะมีส่วนผลักดันการใช้งานบริการด้านข้อมูลให้เพิ่มสูงยิ่งขึ้น โดยในปี 2554 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า บริการด้านข้อมูลจะมีมูลค่าราว 3.3 ถึง 3.5 หมื่นล้านบาท ขยายตัวราวร้อยละ 27.0 ถึง 34.6 คิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 20.8 ของตลาดบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่โดยรวม

จากผลสำรวจของศูนย์วิจัยกสิกรไทยเกี่ยวกับพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคในเขตกรุงเทพฯต่อบริการด้านข้อมูลบนระบบ 3G พบว่า บริการที่มีผู้ต้องการใช้ผ่านระบบ 3G มากที่สุด ได้แก่ เครือข่ายสังคมออนไลน์ (ร้อยละ 71.6) รองลงมาคือ ชมทีวีออนไลน์ (ร้อยละ 64.7) บริโภคข่าวสาร (ร้อยละ 59.3) และฟังเพลงออนไลน์ (ร้อยละ 54.7) สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของผู้บริโภคในการใช้งานเครือข่าย 3G เพื่อเป็นช่องทางการสื่อสารรูปแบบใหม่ในการส่งผ่านข้อมูลปริมาณมาก ทั้งในรูปแบบข้อความ ภาพและเสียง ทั้งนี้ เพื่อการอัพเดทข้อมูลกิจกรรมที่ตนทำอยู่ให้แก่เครือข่ายเพื่อนฝูง หรือเพื่อสร้างความบันเทิงส่วนตัว รวมไปถึงการบริโภคข่าวสารในรูปแบบมัลติมีเดีย ซึ่งบริการกลุ่มนี้ค่อนข้างเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคในวงกว้างได้ทุกเพศทุกวัย ขณะที่บริการที่ค่อนข้างมีวัตถุประสงค์ในการใช้ที่เฉพาะเจาะจง อย่างเช่น ธนาคารบนมือถือ การซื้อสินค้าออนไลน์ เป็นต้น จะมีผู้สนใจในสัดส่วนที่น้อยกว่า

เมื่อพิจารณาความต้องการใช้งานบริการด้านข้อมูลบนระบบ 3G แยกตามช่วงอายุ อาจกล่าวโดยสรุปได้ว่า กลุ่มคนรุ่นใหม่ในช่วงอายุ 15 ถึง 29 ปี มีความต้องการใช้บริการด้านข้อมูลบนระบบ 3G ที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายสังคมออนไลน์ และบริการเพื่อความบันเทิงต่างๆ ในสัดส่วนที่สูงกว่ากลุ่มช่วงอายุอื่น นอกจากนี้ ยังเป็นที่น่าสังเกตว่า กลุ่มคนรุ่นใหม่ก็มีความสนใจบริการด้านข่าวสารเช่นกัน ถึงแม้ว่าจะเป็นสัดส่วนที่ต่ำกว่ากลุ่มช่วงอายุอื่น แต่ก็มีสัดส่วนที่สูงถึงร้อยละ 56.1

สำหรับกลุ่มที่มีอายุอยู่ในช่วง 30 ถึง 44 ปี ให้ความสนใจกับบริการด้านข้อมูลทุกประเภท และมีสัดส่วนปานกลางเมื่อเทียบกับผู้ตอบแบบสอบถามในช่วงอายุอื่น ยกเว้น บริการที่เกี่ยวกับการจับจ่ายซื้อสินค้าหรือบริการ ซึ่งกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถามในช่วงอายุดังกล่าวมีผู้ให้ความสนใจสูงกว่าผู้ตอบแบบสอบถามในช่วงอายุอื่น สำหรับกลุ่มผู้มีอายุมากกว่า 44 ปี ให้ความสนใจใช้บริการเกี่ยวกับข้อมูลข่าวสาร และธนาคารบนมือถือในสัดส่วนที่สูงกว่ากลุ่มช่วงอายุอื่น และไม่ค่อยให้ความสนใจในการจับจ่ายซื้อสินค้าหรือบริการมากนัก

 ผลสำรวจบริการด้านความบันเทิงออนไลน์…คนกรุงต้องการบริการที่มีคอนเทนต์หลากหลาย

ปัจจุบัน การบริโภคดิจิทัลคอนเทนต์บนอุปกรณ์เคลื่อนที่นั้น มักจะเป็นไปเพื่อความสนุกสนานบันเทิงใจ ไม่ว่าจะเป็นการชมทีวี ฟังเพลง หรือเล่นเกม โดยบริการเหล่านี้รวมเรียกว่า โมบายล์เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ (Mobile Entertainment) สำหรับประเทศไทย ในอดีตที่ผ่านมา บริการดังกล่าวมักมีข้อจำกัดจากความเร็วของโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ซึ่งอยู่ระหว่าง 80 ถึง 200 กิโลบิตต่อวินาที ทำให้คุณภาพการให้บริการไม่ค่อยเป็นที่พอใจของผู้บริโภค อย่างไรก็ดี การทยอยเปิดให้บริการ 3G ในช่วงครึ่งหลังของปี ย่อมเป็นปัจจัยสำคัญที่จะพลิกโฉมการให้บริการโมบายล์เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ให้มีทั้งคุณภาพและความหลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเกิดบริการด้านข้อมูลที่เกี่ยวกับความบันเทิงแบบออนไลน์ โดยผู้บริโภคสามารถชมทีวี ฟังเพลง หรือเล่นเกม ในขณะที่เชื่อมต่อการใช้บริการได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องรอการดาวน์โหลดเนื้อหามาเก็บไว้ที่อุปกรณ์เคลื่อนที่ก่อน จึงจะสามารถบริโภคเนื้อหาดังกล่าวได้

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้ทำการสำรวจความต้องการของผู้บริโภคต่อลักษณะเนื้อหาและการชำระเงินในการใช้บริการความบันเทิงแบบออนไลน์บนระบบ 3G โดยมีประเด็นสำคัญ ดังนี้

 ผู้บริโภคสนใจชมภาพยนตร์มากที่สุด และอยากจะจ่ายรายเดือนเพื่อชมหนึ่งช่องรายการไม่อั้น

บริการทีวีออนไลน์เป็นบริการลักษณะมัลติมีเดียซึ่งมีทั้งภาพเคลื่อนไหวและเสียง ข้อจำกัดที่สำคัญอย่างหนึ่งของการให้บริการดังกล่าว คือ ขนาดของข้อมูลมักจะใหญ่ ทำให้ความเร็วของโครงข่ายเป็นปัจจัยสำคัญที่จะกำหนดถึงคุณภาพของการให้บริการ โดยความเร็วขั้นต่ำที่พอจะเปิดให้บริการแบบออนไลน์ คือ 64 ถึง 80 กิโลบิตต่อวินาที จึงทำให้มีผู้ให้บริการบางรายเปิดให้บริการดังกล่าวบนโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ในปัจจุบัน อย่างไรก็ดี ค่าใช้จ่ายที่สูงเกินไปจากการที่ต้องรับส่งข้อมูลจำนวนมาก เมื่อเทียบกับอรรถรสของการชมที่ได้รับ ทำให้บริการดังกล่าวได้รับความนิยมไม่ค่อยสูงนัก ทั้งนี้ การเปิดให้บริการ 3G จะมีส่วนช่วยผลักดันให้คุณภาพของการให้บริการดีขึ้น รวมไปถึงค่าใช้จ่ายในการรับส่งข้อมูลที่ลดลง ซึ่งจะมีส่วนผลักดันให้บริการดังกล่าวขยายตัวยิ่งขึ้น

จากผลการสำรวจเกี่ยวกับรายการทีวีออนไลน์ที่ผู้บริโภคมีความต้องการชม พบว่า มีผู้ต้องการชมรายการภาพยนตร์มากที่สุด คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 78.6 รองลงมาคือ รายการข่าวและมิวสิกวีดีโอ ซึ่งมีสัดส่วนใกล้เคียงกันที่ราวร้อยละ 52 และเมื่อสอบถามถึงรูปแบบการชำระค่าชมรายการที่ต้องการจะเลือกชำระ พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ราวร้อยละ 50 เลือกที่จะชำระแบบรายเดือนเพื่อชมหนึ่งช่องรายการแบบไม่อั้น ในขณะที่การจ่ายรายเดือนเพื่อชมหลายช่องรายการตามที่กำหนดไว้แบบไม่อั้น ซึ่งมักจะมีค่าใช้จ่ายรายเดือนสูงกว่านั้น กลับมีสัดส่วนที่ต่ำที่สุดคือร้อยละ 22.2 สะท้อนถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่อยากจะเลือกชมทีวีเฉพาะประเภทรายการที่ตนโปรดปรานจริงๆ และพร้อมที่จะจ่ายเฉพาะช่องรายการที่ชอบ เพื่อสามารถรับชมได้แบบไม่จำกัดในรอบเดือนนั้น

 ผู้บริโภคราวร้อยละ 30.5 ชอบเลือกเพลงจากค่ายใดก็ได้และซื้อเฉพาะเพลงที่ตนชอบ

ธุรกิจเพลงดิจิทัลบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ของไทยนั้นยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น สืบเนื่องจาก ความเร็วของโครงข่ายสื่อสารไร้สายยังอยู่ในระดับที่ไม่สูงนัก ทำให้ธุรกิจเพลงดังกล่าวถูกจำกัดอยู่แต่เพลงที่ได้รับการตัดต่อความยาวประมาณ 30 ถึง 60 วินาที เพื่อนำมาใช้เป็นเพลงในบริการเสียงรอสาย หรือติดตั้งเป็นเพลงเสียงเรียกเข้าบนโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือถ้าเป็นเพลงฉบับเต็มก็จำเป็นต้องดาวน์โหลดมาไว้ที่อุปกรณ์เคลื่อนที่ของตนก่อนแล้วฟังแบบออฟไลน์ สำหรับธุรกิจบริการฟังเพลงออนไลน์ ซึ่งผู้บริโภคสามารถเลือกฟังเพลงและเก็บเพลงไว้บนอินเทอร์เน็ตได้นั้น ยังคงถูกจำกัดอยู่แต่บนอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงบนโครงข่ายโทรศัพท์พื้นฐานเป็นหลัก อย่างไรก็ดี การเปิดให้บริการ 3G จะเป็นปัจจัยสำคัญในการผลักดันให้เกิดบริการดังกล่าวได้

จากผลการสำรวจของศูนย์วิจัยกสิกรไทยเกี่ยวกับลักษณะการชำระค่าบริการฟังเพลงออนไลน์ที่ผู้บริโภคต้องการ พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมีความต้องการชำระเป็นรายเพลงและเลือกเพลงจากค่ายใดก็ได้ เป็นสัดส่วนมากที่สุดคิดเป็นร้อยละ 30.5 สะท้อนถึงพฤติกรรมผู้บริโภคในการฟังเพลงที่มักจะเลือกเฉพาะเพลงที่ชอบจริงๆ จากความหลากหลายที่นำเสนอโดยค่ายต่างๆ โดยไม่อยากจะชำระแบบรายเดือน ซึ่งโดยรวมแล้วอาจมีค่าใช้จ่ายโดยเปรียบเทียบที่สูงกว่า ถ้าจำนวนเพลงที่ตนชื่นชอบมีไม่มากนัก

 ผู้บริโภคส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับเนื้อหาและราคาของเกมออนไลน์มากกว่าแหล่งพัฒนาเกม

ลักษณะของรูปแบบธุรกิจเกมบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ที่ใช้กันมากที่สุดในปัจจุบัน คือ การขายเกมโดยให้ผู้บริโภคดาวน์โหลดเกมที่ต้องการมาไว้ที่อุปกรณ์คลื่อนที่ก่อนแล้วเล่นแบบออฟไลน์ ไม่ได้เล่นกันแบบออนไลน์เหมือนเกมออนไลน์บนเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีขนาดเกมที่ใหญ่และซับซ้อนกว่า ทั้งนี้ เนื่องจากข้อจำกัดด้านความเร็วของโครงข่ายสื่อสารไร้สาย อย่างไรก็ดี ข้อจำกัดดังกล่าวน่าจะหมดไปเมื่อมีการเปิดให้บริการ 3G

จากการสอบถามถึงปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อเกมออนไลน์บนระบบ 3G พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมากกว่าร้อยละ 58 ต้องการเกมออนไลน์ที่เล่นง่ายและสนุก ประกอบกับราคาที่ไม่แพงจนเกินไปนัก ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า ปัจจัยเกี่ยวกับแหล่งที่มาของเกม ได้แก่ ต้องเป็นเกมต่างประเทศมีผู้ตอบเพียงร้อยละ 7.8 และชื่อเสียงบริษัทเกมมีผู้ตอบเพียงร้อยละ 13.0 ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับเนื้อหา และราคาเป็นสำคัญ โดยให้ความสำคัญกับแหล่งที่มาเป็นลำดับรองลงมา

บทสรุป
การเริ่มทยอยเปิดให้บริการ 3G บนคลื่นความถี่เดิมของผู้ให้บริการเอกชนรายหลักในช่วงครึ่งหลังของปี 2554 มีส่วนสำคัญในการเปลี่ยนโฉมหน้าการสื่อสารไร้สายของไทยให้เข้าสู่ยุคการสื่อสารข้อมูลความเร็วสูง และเป็นแรงผลักดันอันสำคัญต่อการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคการบริการด้านข้อมูลในหลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเกิดบริการด้านข้อมูลที่เกี่ยวกับความบันเทิงแบบออนไลน์ โดยผู้บริโภคสามารถชมทีวี ฟังเพลง หรือเล่นเกม ในขณะที่เชื่อมต่อการใช้บริการได้ทันที

จากผลการสำรวจของศูนย์วิจัยกสิกรไทยต่อผู้บริโภคในเขตกรุงเทพฯเกี่ยวกับการใช้บริการ 3G ซึ่งผู้ให้บริการเอกชนรายหลักได้เปิดทดสอบการให้บริการมาตั้งแต่ปี 2552 พบว่า ในเขตกรุงเทพฯมีผู้ที่กำลังใช้บริการ 3G อยู่ราวร้อยละ 36.6 ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า ผู้ใช้บริการ 3G ในปัจจุบันส่วนใหญ่ราวร้อยละ 80 ใช้งานผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ ส่วนที่เหลือเป็นการใช้งานผ่านคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค เน็ตบุ๊ค และแท็บเล็ต ในขณะที่ผู้ที่ยังไม่เคยใช้งานเลยมีอยู่ราวร้อยละ 54.4 อย่างไรก็ดี กลุ่มผู้ที่ยังไม่ได้ใช้งาน 3G ในปัจจุบันราวร้อยละ 89.5 มีแผนที่จะใช้งานในอนาคต สะท้อนถึงโอกาสทางการตลาดอันสำคัญสำหรับผู้ให้บริการโครงข่าย 3G และเครื่องลูกข่าย/ตัวเครื่อง รวมถึงผู้ให้บริการด้านคอนเทนต์ และนักพัฒนาโมบายล์แอพพลิเคชั่น ที่จะพัฒนาบริการเสริมหรือแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ ที่ต้องอาศัยการสื่อสารความเร็วสูง

ความต้องการใช้งานบริการ 3G ของผู้บริโภคที่อยู่ในระดับสูงดังกล่าว ประกอบกับกระแสการเติบโตของตลาดสมาร์ทโฟนจะมีส่วนผลักดันให้บริการด้านข้อมูลมีการขยายตัวเพิ่มมากยิ่งขึ้น โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ในปี 2554 บริการด้านข้อมูลจะมีมูลค่าราว 3.3 ถึง 3.5 หมื่นล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 27.0 ถึง 34.6 คิดเป็นสัดส่วนราว 20.8 ของมูลค่ารวมบริการด้านเสียงและข้อมูล

จากผลการสำรวจเกี่ยวกับความต้องการใช้งานบริการเสริมด้านข้อมูลบนระบบ 3G พบว่า บริการที่มีผู้ต้องการใช้ผ่านระบบ 3G มากที่สุด ได้แก่ บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์ ชมทีวีออนไลน์ บริโภคข่าวสาร และฟังเพลงออนไลน์ สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการช่องทางการสื่อสารแบบใหม่ของผู้บริโภค ที่สามารถส่งผ่านข้อมูลในปริมาณมาก ทั้งในรูปแบบข้อความ ภาพและเสียง โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริการที่อยู่ในลักษณะความบันเทิงแบบออนไลน์ ที่ผู้บริโภคสามารถเชื่อมต่อการใช้บริการได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องรอการดาวน์โหลดเนื้อหามาเก็บไว้ที่อุปกรณ์เคลื่อนที่ก่อนจึงจะสามารถบริโภคเนื้อหาดังกล่าวได้

ความสนใจดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงโอกาสทางธุรกิจของบริการด้านความบันเทิงแบบออนไลน์ หรือโมบายล์เอ็นเตอร์เทนเม้นท์บนระบบ 3G ในอนาคต ซึ่งจากแบบสอบถาม พบว่า ผู้ที่ต้องการใช้บริการทีวีออนไลน์ มีความต้องการชมรายการภาพยนตร์มากที่สุด รองลงมาเป็น ข่าว มิวสิกวีดีโอ ละคร เป็นต้น และส่วนใหญ่อยากใช้บริการแบบรายเดือน โดยสามารถชมเฉพาะช่องประเภทรายการที่ตนโปรดปรานได้แบบไม่อั้น ซึ่งแตกต่างจากบริการฟังเพลงออนไลน์ ที่ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ต้องการความหลากหลายของเพลง โดยสามารถเลือกได้จากหลายๆค่าย และต้องการซื้อเฉพาะเพลงที่ตนชอบจริงๆ ในขณะที่บริการเกมออนไลน์นั้น ผู้ตอบแบบสอบถามมีความต้องการเกมที่เล่นง่ายและสนุก ประกอบกับราคาที่ไม่แพงเกินไปนัก

จากแนวโน้มพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ต้องการความบันเทิงรูปแบบใหม่ ซึ่งสามารถสร้างความบันเทิงแบบพกพาได้ทุกที่ทุกเวลา และยังพร้อมที่จะจ่ายค่าบริการ เพื่อสามารถเลือกคอนเทนต์ที่ตนชื่นชอบได้จากคลังคอนเทนต์ที่มีความหลากหลาย สะท้อนให้เห็นถึงโอกาสทางธุรกิจของผู้ให้บริการคอนเทนต์ที่จะเข้ามาพัฒนาบริการด้านความบันเทิงบนช่องทางการสื่อสารรูปแบบใหม่ ที่มีศักยภาพในการเติบโตและมีโอกาสจะเข้ามาแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดบางส่วนจากช่องทางให้บริการความบันเทิงแบบดั้งเดิมได้ในอนาคต ขณะเดียวกัน พฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีแนวโน้มหันมาใช้เวลากับอุปกรณ์เคลื่อนที่มากขึ้น และฐานผู้ใช้ที่สามารถเข้าถึงเครือข่ายสื่อสาร (Coverage) ที่มีโอกาสขยายออกไปกว้างขึ้นในอนาคต อาจเป็นทิศทางที่ธุรกิจต่างๆต้องหันกลับมาพิจารณากลยุทธ์ทางการตลาด และโอกาสทางธุรกิจผ่านช่องทางอุปกรณ์เคลื่อนที่มากขึ้น

——————————————
Disclaimer
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงปรับปรุงข้อมูลได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณของตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็นหรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

View :2326

ลูกค้าดีแทคได้อัพเกรดใช้บริการ dtac 3G ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม เริ่ม 16 สิงหาคมนี้

August 15th, 2011 No comments


บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) เปิดให้ลูกค้าดีแทคได้ใช้บริการ บนคลื่น 850 เมกะเฮิร์ตซ์ ในพื้นที่ให้บริการตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม 2554 นี้ มั่นใจ ช่วยให้การใช้งานดาต้าบนดีแทคอินเทอร์เน็ตเร็วและราบรื่น จากจุดเริ่มต้นในวันเปิดบริการนี้ตั้งเป้าหมายจะพัฒนาบริการให้ดียิ่งขึ้นและครอบคลุมยิ่งขึ้นเพื่อเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายดาต้าที่ดีที่สุด พนักงานทุกฝ่ายร่วมใจ พร้อมจัดแคมเปญที่ใหญ่ที่สุดของปี

นายจอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) กล่าวว่า “บริการ คือส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของเราในการมอบนวัตกรรมโซลูชั่นและบริการที่เป็นประโยชน์ต่อชีวิตของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง โดยบริการนี้เป็นการเสริมสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้าดีแทคปัจจุบันซึ่งสมัครใช้บริการแพ็กเกจดาต้าอยู่แล้ว โดยไม่มีการเก็บค่าบริการเพิ่มเติม เราเชื่อมั่นว่าบริการ dtac บนคลื่น 850 เมกะเฮิร์ตซ์ จะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งแก่ผู้บริโภค อุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทยและประเทศไทยโดยรวม ทั้งยังเป็นผลดีต่อ บมจ. กสท โทรคมนาคม เนื่องจากการให้บริการ บนคลื่น 850 เมกะเฮิร์ตซ์ นี้ทำอยู่ภายใต้สัญญาสัมปทานปัจจุบัน”

“การอัพเกรดบริการ dtac 3G บนคลื่น 850 เมกะเฮิร์ตซ์ นับเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทย เราเชื่อมั่นว่าการจัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ และการเปิดประมูลใบอนุญาต 3จี บนคลื่น 2.1 กิกะเฮิรตซ์ จะสามารถยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทยให้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้ เราพร้อมที่จะทำงานร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และ กสทช. เพื่อทำให้บรรลุเป้าหมายนั้น” นายอับดุลลาห์กล่าว

นายปกรณ์ พรรณเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายผลิตภัณฑ์ บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) กล่าวว่า ดีแทคมั่นใจว่าการเปิดให้บริการ dtac 3G ในวันที่ 16 สิงหาคมนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาบริการให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่องเพื่อให้บริการที่ครอบคลุมต่อไป ลูกค้าดีแทคทุกหมายเลขมีสิทธิ์ใช้บริการ dtac 3G ได้ในพื้นที่ให้บริการของเราในเขตกรุงเทพมหานคร เพียงมีมือถือหรืออุปกรณ์ที่รองรับ 3G บนคลื่น 850 เมกะเฮิร์ตซ์ และใช้งานในพื้นที่ให้บริการ โดยสามารถใช้บริการได้เหมือนการใช้งานดาต้าที่เคยใช้อยู่ด้วยความเร็วสูงและคุณภาพสัญญาณดีกว่าเดิม ไม่ต้องเสียค่าบริการเพิ่มจากเดิมแต่อย่างใด เรามั่นใจว่าบริการ dtac 3G มีจุดเด่นในด้านความเร็ว (speed) สูงที่สุดเนื่องจากดีแทคมีช่องสัญญาณแบนด์วิธขนาดใหญ่มากถึง 10 เมกะเฮิร์ตซ์ รองรับการใช้งานได้มากกว่า โดยระบบของเราออกแบบมาให้สามารถรองรับความเร็วสูงสุดในการดาวน์โหลดข้อมูลถึง 42 เมกะบิตต่อวินาที และมีความเร็วในการอัพโหลดข้อมูลระดับเมกะบิตต่อวินาที จากการทดสอบระบบด้วยทีมพนักงานของเราเองและผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกในช่วงที่ผ่านมาทำให้เรามั่นใจที่จะให้บริการลูกค้าอย่างเต็มรูปแบบและจะเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีและคุณภาพของบริการให้ดียิ่งๆ ขึ้นต่อไป

“dtac 3G คือแคมเปญที่ใหญ่ที่สุดของดีแทคในรอบปี เป็นความรับผิดชอบและความร่วมมือของทุกหน่วยงานในบริษัทรวมทั้งพนักงานทุกคนที่ร่วมใจกันทำงานและให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพื่อให้บริการที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า” นายปกรณ์กล่าวปิดท้าย

ปัจจุบัน ดีแทคลงทุนเพื่อปรับปรุงเครือข่ายสู่ระบบ 3G ครอบคลุมสถานีฐาน (Cell Site) ทั้งหมด 1,220 แห่งและมีแผนการที่จะลงทุนเพื่อครอบคลุม 40 จังหวัดด้วยสถานีฐานทั้งหมด 2,000 สถานี ภายในปี 2555

ลูกค้าดีแทคสามารถตรวจสอบพื้นที่บริการ รายละเอียดอื่นๆ รวมทั้งอุปกรณ์หรือมือถือรุ่นที่รองรับ 3G และการตั้งค่ามือถือได้ที่ www.dtac.co.th/3G ลูกค้าดีแทคปัจจุบันที่ใช้แพ็กเกจอินเทอร์เน็ตแบบไม่จำกัด (Unlimited) สามารถใช้ dtac 3G ได้ทันที สำหรับลูกค้าที่ใช้งานแพ็กเกจอื่นๆ สามารถกด *3000# และกดโทรออก (ไม่คิดค่าบริการ) เพื่อใช้บริการ dtac 3G ได้ ระบบจะอัพเกรดจาก EDGE เป็น 3G อัตโนมัติเมื่อใช้งานในพื้นที่ให้บริการ โดยลูกค้าชำระค่าบริการดาต้าปกติตามแพ็กเกจเดิมที่เลือกไว้ ไม่มีค่าบริการใช้งานเพิ่ม
ในเวลาเดียวกันนี้ ดีแทคยังได้เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา ชุด “ห่วงใย” ที่แสดงให้เห็นถึงด้านดีของเทคโนโลยีกับชีวิต ตามแนวความคิด “ที่สุดของเทคโนโลยีคือการเชื่อมต่อความรู้สึกถึงกันอย่างราบรื่น” พร้อมจัดแคมเปญสำหรับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ลูกค้าสามารถติดตามพบกับแคมเปญใหญ่ของ dtac 3G พร้อมทั้งกิจกรรมร่วมสนุกมากมายในเร็ว ๆ นี้

View :3252

ทรูมูฟ เอช เชิญลูกค้าฮัทช์แบบรายเดือนรับเครื่องซัมซุงฟรี*!

August 10th, 2011 No comments

พร้อมโปรโมชั่นรายเดือนคุ้มเหมือนเดิม ตั้งแต่ 18 สิงหาคม – 31 ธันวาคม 2554
ลูกค้าฮัทช์แบบเติมเงิน เริ่มรับสิทธิ์ตั้งแต่ 15 ธันวาคม 2554 – 31 มีนาคม 2555
ต้อนรับสู่ประสบการณ์ใหม่ที่เหนือกว่าด้วยเครือข่าย +

เรียล มูฟ ผู้ขายต่อบริการ (รีเซลเลอร์) 3G+** ของ CAT ภายใต้แบรนด์ “” เสนอสิทธิพิเศษต้อนรับลูกค้าฮัทช์ที่สมัครเปลี่ยนมาใช้บริการทรูมูฟ เอช อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ 25 เมษายน 2554 ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าใช้บริการมากกว่า 100,000 รายแล้ว ล่าสุด เชิญลูกค้าฮัทช์แบบรายเดือนมากกว่า 300,000 ราย รับเครื่อง “ซัมซุง Caspi” ฟรี*! จากราคาปกติ 1,990 บาท หรือเลือกซื้อ “ซัมซุง กาแล็คซี่ มินิ” ราคาปกติ 4,990 บาท รับส่วนลดค่าเครื่องทันที 2,000 บาท เมื่อสมัครโปรโมชั่นรายเดือนคุ้มเหมือนเดิม สนใจติดต่อได้ที่ร้านทรูช็อป ทั่วกรุงเทพฯ และร้านฮัทช์ ทุกสาขา ตั้งแต่ 18 สิงหาคม – 31 ธันวาคม 2554

สำหรับลูกค้าฮัทช์แบบเติมเงินมากกว่า 400,000 ราย สามารถเริ่มรับเครื่องใหม่ได้ตั้งแต่ 15 ธันวาคม 2554 – 31 มีนาคม 2555 เพียงเปิดใช้บริการและเติมเงินทรูมูฟ เอช มูลค่า 1,500 บาท พร้อมรับโปรโมชั่นคุ้มเหมือนเดิม ทั้งนี้ ทรูมูฟ เอช ยืนยันความตั้งใจที่จะดูแลลูกค้าฮัทช์ พร้อมนำสู่ประสบการณ์ใหม่ที่เหนือกว่ากับเครือข่ายใหม่ไฮสปีดไร้สาย 3G+ ความเร็วสูงสุด 21 Mbps อย่างต่อเนื่อง

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ฮัทช์ คอล เซ็นเตอร์ โทร 1128 หรือ 02-288-8882, ศูนย์บริการลูกค้าทรูมูฟ เอช โทร 1331, www.hutch.co.th , www.truemove-h.com

View :2144