Archive

Archive for January, 2011

แอร์เอเชียเปิด Fly-Thru ต่อเที่ยวบิน สะดวกสบาย เช็คอินง่ายเพียงครั้งเดียวที่ต้นทาง

January 17th, 2011 No comments

แอร์เอเชียพัฒนานวตกรรมการให้บริการ เปิด อำนวยความสะดวกผู้โดยสารของสายการบินที่ต้องเดินทางเชื่อมเที่ยวบินติดต่อ กัน สามารถฝากสัมภาระและผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองเพียงครั้งเดียวจากต้นทางสู่ สนามบินปลายทางได้ทันที ประหยัดเวลาเพียง เผื่อเวลาสำหรับเที่ยวบินต่อเนื่องอย่างน้อย 90 นาที

บริการ Fly-Thru ให้ บริการสำหรับผู้โดยสารของสายการบินแอร์เอเชีย (ตามเส้นทางที่กำหนด) และต้องเชื่อมต่อการเดินทางกับสายการบินแอร์เอเชีย เอ็กซ์ (ทุกเส้นทาง) โดยสามารถต่อเที่ยวบินได้ที่อาคารผู้โดยสาร LCCT กัวลาลัมเปอร์ ทั้งนี้เที่ยวบินที่จะเดินทางต่อไปต้องมีระยะเวลาสำหรับการต่อเที่ยวบินตั้งแต่ 90 นาที – 6 ชั่วโมง

. นอกจากนี้บริการ Fly-Thru ยังช่วยให้ผู้โดยสารสามารถต่อเครื่องสู่จุดหมายได้โดยไม่ต้องผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง และไม่ต้องขอ Transit Visa (วีซ่าเดินทางผ่านเข้ามา) ของประเทศมาเลเซีย เมื่อผู้โดยสารเดินทางถึงมาเลเซีย สามารถเดินทางไปที่อาคารสำหรับผู้โดยสารต่อเครื่อง ( Transit Hall ) ซึ่งจะเชื่อมต่อตรงไปยังอาคารผู้โดยสารขาออก ทั้งนี้บริการนี้ยังทำให้ผู้โดยสารไม่ต้องนำสัมภาระไปเช็คอินอีกครั้ง เมื่อต่อเครื่องไปสู่ประเทศปลายทาง

นายทัศพล แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า บริการ Fly-Thru เป็นผลจากความพยายามอย่างต่อเนื่องของกลุ่มสายการบินแอร์ เอเชียที่จะปรับปรุงบริการให้ผู้โดยสารสะดวกสบายมากขึ้นเมื่อเดินทางกับสาย การบินราคาประหยัดอย่างเรา

“ ความคิดสร้างสรรค์และความมุ่งมั่นจะผลักดันให้แอร์เอเชีย ก้าวหน้าต่อไป แต่เราก็ยังไม่หยุดค้นหานวตกรรมที่ทำให้การเดินทางโดยเครื่องบินง่ายขึ้น และทำให้ผู้โดยสารทุกท่านสัมผัสกับบริการที่ดียิ่งขึ้น ”

ทั้งนี้ผู้โดยสารที่ไม่ต้องการใช้บริการนี้ ยังสามารถเลือกใช้บริการเดินทางแบบจุดต่อจุด ( point-to-point travel ) ได้เช่นเดิม โดยผู้โดยสารจะไม่สามารถใช้บริการ Single Check-in ได้ จะต้องเช็คอินแยกกันระหว่างประเทศต้นทางและประเทศที่จะไปต่อ รวมทั้งไม่สามารถเช็คอินสัมภาระครั้งเดียวได้ ผู้โดยสารยังต้องผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองที่จุดตรวจในกัวลาลัมเปอร์ ก่อนจะไปยังประตูผู้โดยสารขาออกเพื่อต่อเที่ยวบินด้วย

สามารถดูรายละเอียดเส้นทางทั้งหมดที่ใช้บริการ Fly-Thru ได้ที่ airasia.com

วิธีการง่ายๆ ในการใช้บริการต่อเที่ยวบิน

เช็คอินล่วงหน้า

• เตรียมเอกสารยืนยันการเดินทางให้พร้อม ณ เคาน์เตอร์ของสายการบินฯ
• พร้อมแสดงเอกสารประกอบการเดินทางอย่างครบถ้วน

ขณะเช็คอิน

• คุณสามารรถฝากสัมภาระสู่ปลายทางได้ทันที
• คุณจะได้รับ เอกสารรับฝากสัมภาระ เพื่อใช้ในการตรวจสอบและยืนยัน ณ อาคาร LCCT กัวลาลัมเปอร์

เมื่อเดินทางถึงกัวลาลัมเปอร์

• ผ่านเข้าสู่ อาคารต่อผู้โดยสารต่อเที่ยวบิน ( สังเกตทางซ้ายมือก่อนถึงบันไดเลื่อน)
• ไม่ต้อง ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและขั้นตอนการขอรับสัมภาระคืนแต่อย่างใด

อาคารผู้โดยสารต่อเที่ยวบิน

• แสดง เอกสารรับฝากสัมภาระ เพื่อตรวจสอบและยืนยันสัมภาระ
• รับ บอร์ดดิ้งพาสเที่ยวบินต่อเนื่อง ซึ่งเจ้าหน้าที่ของเราจะดำเนินการเช็คอินไว้ให้แล้ว

อาคารผู้โดยสารขาออก

• เข้าสู่อาคารผู้โดยสารขาออกเพื่อ เดินทางต่อ สู่ปลายทางผ่านทางอาคารผู้โดยสารต่อเที่ยวบิน

View :1343
Categories: Press/Release Tags: ,

ไอบีเอ็มครองตำแหน่งสร้างสรรค์นวัตกรรมมากที่สุดในโลก จดสิทธิบัตรในสหรัฐฯ 18 ปีติดต่อกัน

January 17th, 2011 No comments

จากนักประดิษฐ์ได้รับสิทธิบัตรกว่า 5,000 รายการในปี 2553

ไอบีเอ็มได้รับสิทธิบัตรของสหรัฐฯ 5,896 รายการในช่วงปี 2553 ซึ่งนับเป็นปีที่ 18 ติดต่อกันที่ครองตำแหน่งบริษัทที่สร้างสรรค์นวัตกรรมมากที่สุดในโลก และเป็นบริษัทแรกที่ได้รับสิทธิบัตรของสหรัฐฯ มากถึง 5,000 รายการภายในระยะเวลาเพียงปีเดียว ทั้งนี้ในอดีตนักประดิษฐ์ของไอบีเอ็มต้องใช้เวลากว่า 50 ปีสำหรับการจดสิทธิบัตร 5,000 รายการแรก นับจากที่บริษัทก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2454

นางพรรณสิรี อมาตยกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “ไอบีเอ็มเป็นองค์กรระดับโลกที่ได้สร้างคุณค่านวัตกรรมทางด้านเทคโนโลยี ที่ช่วยพัฒนาการทำงานให้กับองค์กรธุรกิจต่างๆทั่วโลกมาอย่างยาวนานถึง 100 ปีแล้ว กับภารกิจสำคัญซึ่งมุ่งเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะที่เชื่อมโยงถึงกันอย่างทั่วถึง เพื่อให้ระบบที่หลากหลายทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างสรรค์โลกที่ฉลาดมากขึ้นภายใต้แนวคิด Smarter Planet สิทธิบัตรและผลงานประดิษฐ์คิดค้นเหล่านี้นับเป็นเครื่องยืนยันถึงความมุ่งมั่นของไอบีเอ็มและบุคลากรของบริษัทฯ ตลอดช่วงระยะเวลาหนึ่งศตวรรษที่ผ่านมา ในความเป็นผู้นำด้านสิทธิบัตร ความสำเร็จด้านงานประดิษฐ์คิดค้นของไอบีเอ็มเป็นผลมาจากความมุ่งมั่นทุ่มเทของบริษัทฯ ในการสำรวจ วิจัย และพัฒนาสิ่งใหม่ๆ อย่างไม่หยุดยั้ง โดยไอบีเอ็มใช้งบประมาณราว 6,000 ล้านดอลลาร์ต่อปีสำหรับงานวิจัยและพัฒนา”

ไอบีเอ็มได้คิดค้น วิจัยและพัฒนา งานประดิษฐ์ที่หลากหลายในช่วงปี 2553 โดยได้จดสิทธิบัตรจากนักประดิษฐ์กว่า 7,000 คนของไอบีเอ็มใน 46 รัฐของสหรัฐฯ และอีก 29 ประเทศ ซึ่งได้สร้างสรรค์ผลงานที่ทำให้บริษัททำลายสถิติการจดสิทธิบัตรสูงสุดในปี 2553 รวมทั้งบรรดานักประดิษฐ์ที่อยู่นอกสหรัฐฯ มีส่วนร่วมในผลงานที่ได้รับการจดสิทธิบัตรกว่า 22% ของบริษัทฯ และนับเป็นสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น 27% ของนักประดิษฐ์ในต่างประเทศในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ปีนี้เป็นวาระครบรอบ 100 ปีของไอบีเอ็ม และนับตั้งแต่ที่ไอบีเอ็มได้รับสิทธิบัตรใบแรกเมื่อปี 2454 สำหรับบัตรเจาะรูที่ใช้ในการบันทึกคำสั่งควบคุม เรื่อยมาจนถึงสิทธิบัตรที่นักประดิษฐ์ของบริษัทฯ ได้รับในปี 2553 สำหรับระบบวิเคราะห์ข้อมูล, เทคโนโลยีซอฟต์แวร์และการประมวลผลหลัก, ระบบ Smart Utilities, ระบบจราจร และระบบสาธารณสุข บริษัทฯ ยังคงดำเนินกลยุทธ์ที่เหมาะสมและรอบด้านในเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งก่อให้เกิดเป็นโซลูชั่นที่รองรับการใช้งานจริง และทำให้ระบบต่างๆ รวมถึงกระบวนการ และโครงสร้างพื้นฐานมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น ทั้งยังปรับปรุงขีดความสามารถในการผลิต และเพิ่มความรวดเร็วฉับไวในการตอบสนอง

ตัวอย่างสิ่งประดิษฐ์สำคัญๆ ที่น่าสนใจของไอบีเอ็มซึ่งได้รับการจดสิทธิบัตรในช่วงปี 2553 ได้แก่:
• สิทธิบัตรสหรัฐฯ เลขที่ 7,761,440: วิธีการระบบ และผลิตภัณฑ์โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำหรับการสังเคราะห์ข้อมูลการวินิจฉัยในฐานข้อมูลทางการแพทย์ – สิ่งประดิษฐ์ที่ได้รับการจดสิทธิบัตรนี้จะช่วยปรับปรุงการวิเคราะห์ข้อมูลทางการแพทย์ เพื่อรองรับระบบสาธารณสุขแบบอัจฉริยะ สิทธิบัตรเลขที่ 7,761,440 ออกให้แก่ โทนี่ โช, โรเบิร์ต ฟรีดแลนเดอร์, ริชาร์ด เฮนเนสซี และอันวาร์ คาห์น คณะนักประดิษฐ์ของไอบีเอ็ม
• สิทธิบัตรสหรัฐฯ เลขที่ 7,760,112: ระบบและวิธีการที่อาศัยระบบสื่อสารไร้สายระยะใกล้เพื่อแจ้งเตือนผู้ขับขี่เกี่ยวกับสภาพการจราจรที่ผิดปกติ – สิ่งประดิษฐ์นี้คาดการณ์สภาพการจราจรโดยอาศัยข้อมูลที่รับส่งผ่านระบบสื่อสารไร้สายระยะใกล้ระหว่างรถยนต์แต่ละคน สิทธิบัตรเลขที่ 7,760,112 ออกให้แก่ เฟรเดอริค โบชอท และเจอราร์ด มาร์มิเกอร์ คณะนักประดิษฐ์ของไอบีเอ็ม
• สิทธิบัตรสหรัฐฯ เลขที่ 7,693,663: ระบบและวิธีการตรวจหาแผ่นดินไหวและสึนามิ และอินเทอร์เฟซสำหรับระบบเตือนภัย – สิทธิบัตรนี้อธิบายถึงเทคนิคที่ใช้ในการเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลจากเซ็นเซอร์บนฮาร์ดไดรฟ์ในคอมพิวเตอร์ เพื่อดำเนินการวิเคราะห์อย่างถูกต้องแม่นยำเกี่ยวกับการเคลื่อนตัวของเปลือกโลก เช่น ภายหลังการเกิดแผ่นดินไหว โดยข้อมูลวิเคราะห์ที่ได้จะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพในการรับมือกับเหตุฉุกเฉินหลังจากที่เกิดภัยธรรมชาติ สิทธิบัตรเลขที่ 7,693,663 ออกให้แก่นักประดิษฐ์ของไอบีเอ็ม โรเบิร์ต ฟรีดแลนเดอร์ และเจมส์ เครเมอร์
• สิทธิบัตรสหรัฐฯ เลขที่ 7,790,495: อุปกรณ์ออปโตอิเล็กทรอนิกส์ (Optoelectronic) ที่ประกอบด้วยเครื่องตรวจจับแสงที่ใช้ธาต์เจอร์เมเนียม – สิ่งประดิษฐ์นี้รองรับเทคโนโลยีชิป CMOS Integrated Silicon Nanophotonics ที่ไอบีเอ็มได้เปิดตัวเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2553 ที่ผ่านมา โดยจะมีการผนวกรวมอุปกรณ์ไฟฟ้าและอุปกรณ์แสงไว้บนซิลิคอนชิ้นเดียวกัน เพื่อให้ชิปคอมพิวเตอร์สามารถสื่อสารกันโดยใช้พัลส์ของแสง (แทนการใช้สัญญาณไฟฟ้า) และนับเป็นผลงานการพัฒนาต่อยอดจากงานวิจัยกว่า 10 ปีของห้องปฏิบัติการทั่วโลกของไอบีเอ็ม สิทธิบัตรเลขที่ 7,790,495 มอบให้แก่นักประดิษฐ์ของไอบีเอ็ม โซโลมอน อัสเซฟา, วอลเตอร์ เบเดลล์, ยูริ วลาซอฟ และเฟิงเนียน เซีย
จำนวนสิทธิบัตรทั้งหมดของไอบีเอ็มในปี 2553 มีมากกว่าฮิวเลตต์-แพคการ์ดถึง 4 เท่า และเกินกว่าสิทธิบัตรที่ไมโครซอฟท์, ฮิวเลตต์-แพคการ์ด, ออราเคิล, อีเอ็มซี และกูเกิลได้รับรวมกัน
บริษัทที่ได้รับสิทธิบัตรสหรัฐฯ มากที่สุดในปี 2553*
1 ไอบีเอ็ม 5,896
2 ซัมซุง 4,551
3 ไมโครซอฟท์ 3,094
4 แคนนอน 2,552
5 พานาโซนิค 2,482
6 โตชิบา 2,246
7 โซนี่ 2,150
8 อินเทล 1,653
9 แอลจี อิเล็กทรอนิกส์ 1,490
10 เอชพี 1,480
ข้อมูลจาก IFI CLAIMS Patent Services
ข้อมูลเพิ่มเติมมีอยู่ที่: http://www..com/research
หมายเหตุสำหรับสื่อมวลชน:สามารถรับชมและดาวน์โหลดวิดีโอและภาพข่าวสิทธิบัตรของไอบีเอ็มได้จาก http://www.thenewsmarket.com/ibm โดยวิดีโอมีให้เลือกทั้งแบบ HD, ความละเอียดมาตรฐาน และแบบสตรีมมิ่ง [สามารถลงทะเบียนผ่านทางออนไลน์]

View :1331
Categories: Press/Release Tags:

แสนสิริ เปิดตัว “ Sansiri Social Commerce" มอบประสบการณ์ใหม่ด้านที่อยู่อาศัยบนโลกดิจิตอล

January 17th, 2011 No comments

สมัชชา พรหมศิริ (กลาง) ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดองค์กร บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ผนึกความร่วมมือครั้งใหญ่กับเอ็นโซโก้ ผู้นำการตลาดด้านโซเชียล คอมเมิร์ซในประเทศไทย โดยมี ทอม ศรีวรกุล (ที่ 2 จากขวา) กรรมการผู้จัดการและผู้ก่อตั้ง บริษัท เอ็นโซโก้ จำกัด ร่วมเปิดตัวแคมเปญ “ Instant living with Sansiri ” ผ่านการตลาดแบบ Online Social Commerce รูปแบบใหม่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย ภายใต้กิจกรรม “ยิ่งคลิ๊ก .. มูลค่ายิ่งเพิ่ม” ในเว็บไซต์บ้านพร้อมอยู่จากแสนสิริ www.sansiri.com/instantliving ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกภายในงานเช่นเดียวกัน โดยมีกูรูด้านดิจิตอลและโซเชียลเน็ตเวิร์คชั้นนำมาร่วมพูดคุยและอัพเดทเทรนด์การทำตลาดในรูปแบบใหม่บนเครือข่ายสังคมออนไลน์ ณ ร้าน KOI สุขุมวิท 20 เมื่อเร็วๆ นี้

จากภาพ (ซ้ายไปขวา) คุณจักรพงษ์ คงมาลัย (mr.#morninggreentea กูรูทวิตเตอร์ชื่อดังที่ทวีตข้อมูลการตลาดดิจิตอลแบบเชิงลึกทุกเช้า) , คุณภาวุธ พงษ์วิทยาภานุ (ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ Tarad.com ) , คุณอรนุช เลิศสุวรรณกิจ ( @mimee นักเขียนและบล็อกเกอร์ด้าน Social Media และ Mobile Marketing ชื่อดัง) , คุณสมัชชา พรหมศิริ (ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดองค์กร บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)) , คุณสิทธิโชค นพชินบุตร ( หัวหน้าฝ่ายการตลาดทางโทรศัพท์มือถือ , Telecommunication Business ) , คุณทอม ศรีวรกุล (กรรมการผู้จัดการและผู้ก่อตั้ง บริษัท เอ็นโซโก้ จำกัด) , มร.ทิวา ยอร์ค (Director, Platforms. Omnicom Media Group ผู้คร่ำหวอดในวงการอินเทอร์เน็ตและดิจิตอลของเมืองไทย ผู้ก่อตั้ง Web Wednesday Thailand )

View :1587

ทรูมูฟ เปิดตัวแบล็กเบอร์รี่ โบลด์ 9780 ใหม่ล่าสุด ในไทย

January 17th, 2011 No comments

ทรูมูฟ ผู้นำบริการแบล็กเบอร์รี่ในไทย ประกาศเปิดตัวแบล็กเบอร์รี่ โบลด์ 9780 สุดยอดสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดจากตระกูลแบล็กเบอร์รี่ โบลด์ ในรูปลักษณ์โดดเด่น ทำงานร่วมกับระบบปฏิบัติการแบล็คเบอร์รี่ 6 ตอบรับการสื่อสารล้ำสมัยพร้อมฟีเจอร์มัลติมีเดียครบวงจร เป็นเจ้าของแบล็กเบอร์รี่ โบลด์ 9780 จากทรูมูฟ ได้ตั้งแต่วันนี้

เป็นสมาร์ทโฟนที่กะทัดรัดและทันสมัย ผสมผสานฟีเจอร์อันหลากหลายอย่างลงตัว ประสิทธิภาพการทำงานและรูปลักษณ์ สามารถรองรับเครือข่าย 3จี ทั่วโลก และเทคโนโลยี Wi-Fi มีระบบจีพีเอสในตัวสำหรับรองรับการทำงานร่วมกับแอพลิเคชั่นระบุตำแหน่ง และระบบระบุตำแหน่งจีพี เอสลงไปในภาพ (geo-tagging) กล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล มีระบบโฟกัสอัตโนมัติต่อเนื่อง โหมดภาพทิวทัศน์ ระบบป้องกันภาพสั่นไหว มีแฟลชในตัว และระบบบันทึกวิดีโอ พร้อมมีแฟลชเมมโมรีภายในตัว 512 MB บวกกับสล็อทการ์ด เมมโมรีที่รองรับการใช้การ์ดความจุสูงสุด 32 GB จากระบบจัดเก็บข้อมูลเพิ่มมากขึ้น

ระบบปฏิบัติการแบล็กเบอร์รี่ 6 คือระบบปฏิบัติการใหม่ที่รวบรวมฟีเจอร์ที่คุ้นเคยและน่าเชื่อถือ โดยแสดงความโดดเด่นของแบรนด์แบล็กเบอร์รี่ พร้อมนำเสนอประสบการณ์ใหม่ที่เข้าถึงง่ายและน่าสนใจ ล้ำสมัยง่ายต่อการใช้งาน นอกจากนี้ยังผนวกเข้ากับเบราว์เซอร์ตระกูล WebKit ใหม่ที่สามารถเปิดดูภาพหน้าเว็บ HTML ได้รวดเร็ว สวยงาม และสามารถเข้าสู่เมนูการใช้งานต่างๆ ได้อย่างคล่องตัว โดยใช้ออปติคอลแทร็กแพ็ด บนสมาร์ทโฟน มีระบบเรียกดูเว็บแบบแท็ป ช่วยให้ใช้งานเว็บไซต์ต่างๆ ได้หลายเว็บในเวลาเดียวกัน และคุณสมบัติพิเศษในการซูมข้อความที่สามารถปรับองค์ประกอบสำคัญของหน้าเว็บหรือข้อความด้วยระบบการจัดตัวอักษรให้พอดีกับหน้าจอ (auto-wrap)

ยิ่งไปกว่านั้น ระบบปฏิบัติการแบล็กเบอร์รี่ 6 ยังเปี่ยมไปด้วยฟีเจอร์ที่เพิ่มความสามารถในด้านการรับส่งข้อความ ระบบการจัดการและติดตามสังคมออนไลน์ และเทคโนโลยี RSS feeds ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการติดต่อสื่อสาร ตลอดจนสามารถทำงานร่วมกับโปรแกรม BlackBerry Messenger (BBM) Facebook Twitter MySpace และ แอพพลิเคชั่นในการรับส่งข้อความอื่นๆ บนแบล็กเบอร์รี่ โบลด์ 9780 นอกจากนี้ ระบบปฏิบัติการแบล็กเบอร์รี่ 6 ยังมอบประสบการณ์ด้านมัลติมีเดียด้วยแอพพลิเคชั่น YouTube พร้อมด้วยแอพพลิเคชั่นหมวดเพลงและรูปภาพ มีระบบค้นหาที่ช่วยให้สามารถค้นหาคอนเทนต์ที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว และขยายไปสู่การค้นหาผ่านอินเทอร์เน็ตและแอพพลิเคชั่นอื่นๆ จาก BlackBerry App World ได้อีกด้วย

ทรูมูฟเตรียมวางจำหน่ายแบล็กเบอร์รี่ โบลด์ 9780 ตั้งแต่วันนี้ ในราคา 16,729 บาท (ไม่รวมVAT) มีให้เลือก ทั้งสีขาวและสีดำ ลูกค้าสามารถสัมผัสประสบการณ์สื่อสารผ่านเครือข่ายทรูมูฟ 3G* และ Wi-Fi กับแพ็กเกจ สุดคุ้ม BlackBerry Super Chat ที่มีให้เลือกทั้งแบบเติมเงินและแบบรายเดือน ตามความต้องการในการใช้งาน ได้แก่ แพกเกจ “แชต 1” แชร์ทุกเรื่องราวกับเพื่อนๆ ผ่าน Facebook และ แชตผ่าน BBM ไม่อั้น หรือแพกเกจ “แชต 2” ใช้อีเมล์และแชตผ่าน BBM ไม่อั้น ด้วยค่าบริการ เพียงเดือนละ199 บาท สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแบล็กเบอร์รี่ โบลด์ 9780 สามารถเข้าไปดูได้ที่www.truemove.com/blackberry หรือ www.blackberry.com/bold

*บริการ 3G (บนมือถือหรืออุปกรณ์สื่อสารที่รองรับคลื่นความถี่ 850 เมกะเฮิร์ตซ์) เป็นส่วนหนึ่งในการปรับปรุงและพัฒนาโครงข่ายในบางพื้นที่ เพื่อให้บริการของทรูมูฟดีขึ้น

View :1856

เอชพีร่วมพัฒนามาตรฐาน IEEE ใหม่

January 16th, 2011 No comments

เผยโฉมอุปกรณ์สวิตช์ HP E-Series ประหยัดไฟรุ่นแรกที่มีคุณสมบัติตรงตามมาตรฐาน IEEE ใหม่ เร่งให้การใช้งานของลูกค้าเร็วขึ้น

เอชพีขึ้นแท่นผู้นำด้านไอทีรายแรกที่ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติตรงตามมาตรฐาน IEEE ใหม่ ซึ่งเป็นมาตรฐานที่เอชพีร่วมคิดค้นและพัฒนาขึ้นมา เพื่อออกแบบอุปกรณ์ไอทีที่ประหยัดไฟและช่วยลดต้นทุนในการดำเนินงานให้กับลูกค้า
มาตรฐาน IEEE () ใหม่ ส่งผลให้อุปกรณ์ไอทีกินไฟน้อยลง โดยปรับการใช้ไฟให้เป็นไปตามสภาพการทำงานจริงของระบบการสัญจรของข้อมูลบน เครือข่ายระหว่างอุปกรณ์สวิตช์และอุปกรณ์เครือข่ายอื่นๆ แบบเรียลไทม์โดยอัตโนมัติ
อุปกรณ์สวิตช์ HP E-Series zl modules ใหม่เป็นอุปกรณ์สวิตช์รุ่นแรกที่มีคุณสมบัติตรงตามมาตรฐาน IEEE ใหม่ โดยจะปรับเข้าสู่โหมด “sleep” เพื่อหยุดพักการทำงานโดยอัตโนมัติเมื่อไม่มีการรับส่งข้อมูลบนเครือข่าย เอชพีมุ่งเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ไอทีให้มีคุณภาพตรงตามมาตรฐาน IEEE เพื่อให้อุปกรณ์สวิตซ์และอุปกรณ์ปลายทางอื่นๆ ใช้ไฟลดลง ส่งผลให้ลูกค้ามีต้นทุนในการเป็นเจ้าของลดลงถึงร้อยละ 51 (1)
ในช่วงเวลาที่มีการทำงานน้อย ผลิตภัณฑ์ที่สนับสนุนและรองรับมาตรฐาน IEEE จะปรับเข้าสู่โหมด “sleep” ซึ่งใช้ไฟน้อยกว่าโหมดการทำงานปกติ และเมื่อมีการสัญจรของข้อมูลอีกครั้ง อุปกรณ์เครือข่ายจะกลับมาทำงานตามปกติโดยทันที ดังนั้น อุปกรณ์สวิตช์รุ่นใหม่ของเอชพีจึงประหยัดไฟมากกว่าอุปกรณ์สวิตช์รุ่นเก่าๆ ซึ่งกินไฟมากและไม่สอดคล้องกับสภาพการสัญจรของข้อมูลที่เกิดขึ้นจริง
เอชพี ผู้นำด้านการพัฒนามาตรฐานอุตสาหกรรมสำหรับอุปกรณ์เครือข่าย
เนื่องจากการทำงานของระบบเครือข่ายส่วนใหญ่เป็นกิจกรรมที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและฉับพลัน ดังนั้น อุปกรณ์เครือข่ายจึงเป็นแพลทฟอร์มที่จำเป็นต้องมีกรอบการทำงานตามมาตรฐาน IEEE ที่ควบคุมการใช้พลังงานให้สอดคล้องกับการสัญจรของข้อมูลบนระบบเครือข่าย
ในอนาคต มาตรฐานประหยัดพลังงาน IEEE จะนำมาใช้กับอุปกรณ์ไอทีหลากหลายประเภท อาทิ เครื่องเซิร์ฟเวอร์ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค และอุปกรณ์เชื่อมต่อแบบไร้สาย ช่วยให้อุปกรณ์ดังกล่าวกินไฟน้อยลง และส่งผลให้องค์กรต่างๆ มีต้นทุนทางด้านไอทีลดลง
เอชพีเป็นผู้บุกเบิกรวบรวมกลุ่มงานและเวทีแสดงความคิดเห็นด้านไอทีจำนวนหลายร้อยแห่งเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาโซลูชั่นด้านเครือข่าย HP Networking ให้มีความยืดหยุ่นและสามารถทำงานร่วมกันได้ ส่งผลให้ลูกค้าได้รับความคุ้มค่าในการทำธุรกิจมากขึ้นด้วยการลงทุนด้านระบบโครงสร้างพื้นฐานไอทีใหม่ๆ แทนการใช้โซลูชั่นลิขสิทธิ์เพียงอย่างเดียว
เอชพีสนับสนุนนักวิจัยชั้นนำในอุตสาหกรรมไอที
วิทยาลัยวิทยาศาสตร์ทางทะเลและภูมิอากาศ (College of Oceanic and Atmospheric Sciences) ในสังกัดของมหาวิทยาลัยโอเรกอน สเตท คือหนึ่งในสถาบันวิจัยภูมิศาสตร์ทางทะเลชั้นนำแห่งสหรัฐอเมริกา โดยคณาจารย์ของสถาบันเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการค้นคว้าและวิจัยทางวิทยาศาสตร์และโครงการศึกษาทางด้านทะเลและอากาศ ภายใต้เครือข่ายการทำงานที่สนับสนุนนวัตกรรมทางเทคโนโลยีอันล้ำสมัยที่ทำให้ระบบเครือข่ายมีสมรรถนะและประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มขึ้น และใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
มร. ชัค เซียร์ส ผู้จัดการด้านการประมวลผลการวิจัยด้วยคอมพิวเตอร์ วิทยาลัยวิทยาศาสตร์ทางทะเลและภูมิอากาศในสังกัดของมหาวิทยาลัยโอเรกอน สเตท กล่าวว่า “ผลิตภัณฑ์อีเธอร์เน็ตสวิตช์ใหม่ของเอชพีทำให้เราสามารถจัดเก็บข้อมูลและประมวลผลข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และมีค่าไฟลดลง ทั้งนี้ ด้วยโมดูลผลิตภัณฑ์ใหม่ของเอชพี ทำให้ระบบเครือข่ายของวิทยาลัยมีการทำงานที่สะดวกและคล่องตัวยิ่งขึ้นและมีแบนด์วิธเพิ่มขึ้น สามารถรองรับการทำงานของนักวิจัยได้ดียิ่งขึ้น โดยใช้พื้นที่ในการติดตั้งน้อยลง และกินไฟลดลง”
อุปกรณ์เครือข่าย คือ องค์ประกอบสำคัญของระบบโครงสร้างพื้นฐานแบบผนวก หรือ HP Converged Infrastructure ที่สนับสนุนการทำงานแบบ Instant-On Enterprise ช่วยให้โลกสามารถเชื่อมโยงกันบนระบบเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง โดยระบบ Instant-On Enterprise จะนำเทคโนโลยีมาใช้ในทุกกิจกรรมที่ทำเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า พนักงาน พันธมิตร และผู้บริโภคอย่างรวดเร็วและทันที
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชั่นด้านเครือข่าย HP Networking สามารถเข้าไปดูได้ที่ www.hp.com/go/networking

View :1430

ก.ไอซีที เดินหน้าเสริมศักยภาพเจ้าหน้าที่ด้วยการจัดอบรมกฎหมายธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์

January 16th, 2011 No comments

นายวรพัฒน์ ทิวถนอม รองปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิด “การฝึกอบรมและกิจกรรมศึกษาดูงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานตาม กฎหมาย ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์สำหรับเจ้าหน้าที่สำนักงานปลัดกระทรวง เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร” ว่า จากการดำเนินงานที่ผ่านมาพบว่า บุคลากรหลักที่ปฏิบัติงานด้านธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ และบุคลากรสนับสนุนที่ปฏิบัติงานกับหน่วยงานต่างๆ ยังขาดความรู้ ความเข้าใจในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ส่งผลให้การขับเคลื่อนงานด้านธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ไม่อาจสนองตอบ ต่อความต้องการของหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่าที่ ควร ประกอบกับคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ได้เสนอแนะว่า ควรสร้างความเข้มแข็งให้กับฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการธุรกรรมทาง อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งก็คือสำนักธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ สำนักงานปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เพื่อให้สามารถนำข้อเสนอแนะของคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ไปสู่การ ปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ดัง นั้น เพื่อเป็นการผลักดันและขับเคลื่อนงานด้านธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ให้เป็นไป อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น กระทรวงฯ จึงได้จัดการฝึกอบรมเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานตามกฎหมายว่าด้วยธุรกรรม ทางอิเล็กทรอนิกส์ สำหรับเจ้าหน้าที่สำนักงานปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ภายใต้โครงการส่งเสริมประสิทธิภาพการปฏิบัติงานตามกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ขึ้น

“การ ฝึกอบรมเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานฯ ครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทาง อิเล็กทรอนิกส์และการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามกฎหมายให้แก่เจ้าหน้าที่สำนัก งานปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร รวมทั้งเพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับเจ้าหน้าที่สำนักธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ใน การปฏิบัติงานฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์และคณะ อนุกรรมการชุดต่างๆ ตามกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งกระทรวงฯ หวังว่าการฝึกอบรมนี้จะทำให้บุคลากรของกระทรวงฯ มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ สามารถปฏิบัติงานตามกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ที่กำหนดได้อย่าง มีประสิทธิภาพ และฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์มีศักยภาพเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้สามารถขับเคลื่อนภารกิจของคณะกรรมการธุรกรรมทาง อิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น” นายวรพัฒน์ กล่าว

สำหรับ การฝึกอบรมนี้จะมีการจัดทำหลักสูตรเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานตามกฎหมาย ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์สำหรับเจ้าหน้าที่สำนักงานปลัดกระทรวง เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาบุคลากรที่ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับธุรก รรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจะมีเนื้อหาเกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์และกฎหมาย ลำดับรอง การรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร การบริหารจัดการความเสี่ยงด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร การตรวจประเมินระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร แนวทางนโยบายและแนวปฏิบัติในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของระบบสารสนเทศของ หน่วยงานรัฐ และแนวทางการจัดทำหรือแปลงเอกสารให้อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์

View :1278

จามจุรีเกมส์ไฮเทค ใช้ Social Network Phone ของ SPRiiiNG จัดแข่งขัน

January 15th, 2011 No comments

กระแสการใช้ จากโทรศัพท์มือถือกลายเป็นเรื่องใหม่และเปลี่ยนแปลงการสื่อสารของโลกปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง นักธุรกิจแชทกันผ่านเครือข่ายตกลงธุรกิจระหว่างกัน วัยรุ่นแชร์ไฟล์ หรือรูปภาพขึ้น Facebook เว็บไซต์หาเพื่อนชื่อดังเพื่อให้กลุ่มเพื่อนตัวเองรู้ว่าไปทำอะไรมา โดยที่เพื่อนทั้งหลายก็มาพูดคุยสนุกสนานกันได้ต่อแม้จะอยู่ที่ไหนในโลกก็ตาม ฯลฯ โลกของการสื่อสารยุคใหม่หมุนเปลี่ยนอย่างรวดเร็วจริงๆ

นอกจากชีวิตทั่วไปจะถูกกระแสการเปลี่ยนแปลงโหมกระหน่ำแล้ว โลกของกีฬาก็ได้ปรับตัวและนำ Social Network มารับใช้อย่างเต็มตัว ถ้าจะบอกว่า หรือกีฬามหาวิทยาลัยครั้งที่ 38 ที่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นเจ้าภาพ ในวันที่ 15-22 มกราคมนี้ คือมิติใหม่ของการแข่งขันกีฬาที่มี Social Network เข้ามาเป็นเครื่องมือสื่อสารหลัก และเป็นครั้งแรกทั้งของไทยและของโลก คงจะไม่ดูเกินเลยไป

จุฬาฯ ขอเปิดซิงเจ้าแรกของโลก

ใช้ Social Network สื่อสาร

หากย้อนกลับไปที่การแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยที่จุฬาลงกรณ์เป็นเจ้าภาพเมื่อหลายปีก่อน ที่แห่งนี้เคยเป็นจุดกำเนิดของการนำเพจเจอร์ ที่เป็นระบบส่งข้อความสั้นผ่านระบบรวมจากศูนย์กลาง มาเป็นจุดกระจายข่าวสารไปยังเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่หลังจากที่ระบบสื่อสารด้วยเพจเจอร์สิ้นยุคไปด้วยการแทนที่ของโทรศัพท์มือถือ เครื่องมือสื่อสารที่เป็นหลักกลับยังเป็นเครื่องวอล์คกี้ทอล์คกี้ที่มีข้อจำกัดมากมายแต่ยังคงจุดเด่นที่ความมีเสถียรภาพในการสื่อสารแบบกลุ่มนั่นเอง

มาถึงยุคปัจจุบัน Social Network ที่รวบรวมการนำเทคโนโลยีต่างๆ มากมายมาประยุกต์ใช้ ได้ทำให้การสื่อสารของคนไม่มีข้อจำกัดอีกต่อไป ขอเพียงมีอินเทอร์เน็ตเป็นพื้นฐานรองรับ โปรแกรมแอพพลิเคชันมากมายจะทำให้ผู้ที่ใช้ไร้พรมแดนไร้ข้อจำกัด สิ่งเดียวที่กลายเป็นปัญหาใหญ่ในปัจจุบันคือ เครื่องมือที่พกพา Social Network ไปกับตัว

ในบรรดาเครื่องมือทั้งหมด สิ่งที่พบเห็นกันมากที่สุดก็คือ โทรศัพท์มือถือ โดยเฉพาะโทรศัพท์มือยุคใหม่ที่เรียกว่า Smart Phone เพราะโทรศัพท์จำพวกนี้มีระบบปฏิบัติการที่เอื้อต่อการสื่อสารยุคใหม่ ทั้งระบบโทรศัพท์ ระบบแชร์ไฟล์ภาพ เสียง วิดีโอ ฯลฯ ระบบ Chat และอื่นๆ แต่โทรศัพท์แต่ละรุ่นแต่ละแบบก็มีความโดดเด่นที่แตกต่างกันไป กลายเป็นจุดขายที่ผู้ซื้อสามารถเลือกใช้ตามความต้องการได้

แต่สำหรับการนำมาใช้ในการจัดการแข่งขันกีฬา โดยเฉพาะกีฬาระดับประเทศ การแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยต้องถือว่าขนาดของการแข่งขันนั้นไม่ได้เล็กแต่อย่างใดเลย เพราะมีตัวแทนการแข่งขันจากมหาวิทยาลัยทั่วประเทศเข้าร่วม มีสถานที่และสนามแข่งจำนวนมากที่ต้องสื่อสารระหว่างกัน

โจทย์ใหญ่ของระบบการสื่อสารในการแข่งขันกีฬาแบบเดิมๆ ที่เกิดขึ้นคือ ระบบที่สามารถทำได้คือ การรายงานจากจุดต่างๆ จากหนึ่งจุดเข้าไปที่ศูนย์กลาง และศูนย์กลางจัดการแก้ไขปัญหาต่างๆ ด้วยการสื่อสารต่อจุดไปยังจุดที่เกี่ยวข้อง โดยที่จุดอื่นๆ จะไม่สามารถรับทราบ หรือเรียนรู้การแก้ไขปัญหาเหล่านั้นได้เลย

แม้กระทั่งการสื่อสารผ่านระบบวอล์คกี้ทอล์คกี้ ที่แม้จะพยายามจะทลายกำแพงปัญหานี้ แต่ทั้งข้อจำกัดจากการสื่อสารด้วยเสียงเพียงอย่างเดียว และข้อจำกัดทางด้านคลื่นที่สั้นทำให้ระยะทางการสื่อสารมีข้อจำกัด ทำให้กำแพงของปัญหาถูกแก้ไขได้แค่เพียงบางส่วนเท่านั้น

ใช้ Social Network ทลายกำแพง

ตอบโจทย์การสื่อสารทุกรูปแบบ

หากบอกว่าโจทย์เหล่านี้มือถือยุคใหม่อย่าง SPRiiiNG ได้เข้ามาแก้ไขปัญหาให้แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ก็เป็นคำกล่าวที่ไม่เกินเลยแต่อย่างใด

บริษัท สปริง เทเลคอม ผู้ผลิตแพลตฟอร์ม SPRiiiNG ที่โดดเด่นในด้านการ Chat โดยมีโทรศัพท์มือถือ SPRiiiNG รุ่น Smile ซึ่งเป็น The Social Network Phone ตัวจริงของโลกตัวแรกได้เริ่มเปิดตลาดในเมืองไทยตั้งแต่วันที่ 24 มกราคมนี้ ได้กระโดดเข้ามาสนับสนุนการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยครั้งที่ 38 หรือจามจุรีเกมส์ โดยมุ่งมั่นว่าสิ่งที่สนับสนุนครั้งนี้จะเป็นการเปลี่ยนโฉมหน้าการสื่อสารในการแข่งขันกีฬา และในชีวิตประจำวันของคนไทยต่อไป

สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นก็คือ จะมีอาสาสมัครจากนิสิตจุฬาฯ กว่า 100 ชีวิต ห้อยคอด้วยโทรศัพท์มือถือ SPRiiiNG พร้อมซิลิโคนใสสีชมพู แสดงความเป็นจุฬาได้อย่างชัดเจน และทั้งหมดจะสื่อสารกันผ่านระบบ SPRiiiNG ที่จะทำให้การแข่งขันครั้งนี้ราบรื่นที่สุด

ทันทีที่เกิดเหตุการณ์ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ อาสาสมัครสามารถเข้าสู่ระบบ Chat ของ SPRiiiNG พูดคุยกับทั้งศูนย์กลางและสื่อสารกันเองจากบุคคลสู่บุคคล หรือบุคคลสู่กลุ่มได้ หรือเป็นระบบ Many to Many หาใช่ระบบ One to One หรือ One to Many อีกต่อไป

ตัวอย่างการรายงาน เช่น การรายงานผลการแข่งขัน ซึ่งเป็นเรื่องพื้นฐานที่สุด อาสาสมัครที่อยู่สนามหนึ่ง เมื่อทราบผลการแข่งขันก็กดผลสกอร์ที่เกิดขึ้นส่งเข้าไปในกลุ่ม ทั้งศูนย์กลางและเจ้าหน้าที่ทุกคนสามารถทราบผลสกอร์ดังกล่าวโดยทันที หรือการรายงานสภาพการจราจรภายในศูนย์แข่งขันกีฬา จะทำให้เจ้าหน้าที่สามารถรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ได้ ทันท่วงที

นอกจากการพิมพ์แบบ Chat แล้ว โทรศัพท์มือถือของ SPRiiiNG ยังทำให้อาสาสมัครสามารถส่งไฟล์เสียงผ่านเครือข่าย ส่งรูปเหตุการณ์ทั้งสำคัญทั้งภายในและภายนอกสนามเข้าสู่ศูนย์กลางและภายในกลุ่มอาสาสมัครด้วยกันเองได้ รวมถึงไฟล์ภาพเคลื่อนไหวอย่างวิดีโอ ตัวอย่างเช่น อาสาสมัครอาจพบตั๋วผีเกิดขึ้นจากสนามแข่งขันบางแห่ง ก็สามารถส่งรูปของตั๋วผีดังกล่าวเป็นตัวอย่างให้อาสาสมัครคนอื่นได้รับทราบเพื่อระวังป้องกันต่อไปได้

ระบบโทรศัพท์ SPRiiiNG ที่ใช้ในการแข่งขันจามจุรีเกมส์ครั้งนี้ ยังเน้นการใช้ Social Network อย่างเต็มรูปแบบ จากการที่อุปกรณ์ภายในเครื่องมี GPS ติดตั้งอยู่ในตัว เชื่อมต่อกับระบบแผนที่ของ Google ผ่านระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 2.1 ที่มาพร้อมกับตัวเครื่อง ทำให้การใช้งานมีความทันสมัยอย่างมาก เพราะนอกจากระบบศูนย์กลางจะสามารถเห็นตำแหน่งของทุกเครื่องจากหน้าจอแล้ว อาสาสมัครทุกคนก็มีข้อมูลนี้อยู่เช่นกัน ดังนั้นการสื่อสารเพื่อบอกกล่าวและจัดการปัญหาในจุดที่อาสาสมัครนั้นๆ ประจำอยู่จะทำได้ง่ายต่อการจัดการ และการวางแผนทั้งระบบอีกด้วย


SPRiiiNG ลดค่าใช้จ่ายจามจุรีเกมส์

พร้อมเปิดแคมเปญแรกเครื่องที่ 6 ราคา 1 บาท

สิ่งที่โทรศัพท์มือถือ Social Network ตัวจริงเชื้อสายไทยอย่าง SPRiiiNG รายนี้ได้ทำให้เห็นแล้วอย่างหนึ่งก็คือ การจัดการกับระบบ Chat เป็นกลุ่มที่มีมากกว่า 100 คน ที่เคยถือเป็นข้อจำกัดของระบบ Chat ของต่างชาติจะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป และรูปแบบการ Chat ที่เอื้อต่อคนไทย ใช้งานง่ายโดยสามารถเรียนรู้การใช้งานภายในครึ่งชั่วโมง (สำหรับคนที่ไม่เคยใช้งานระบบ Chat ในโทรศัพท์มือถือมาก่อน)

ที่สำคัญคือการลดค่าใช้จ่ายจากการใช้ระบบเสียงผ่านการโทรศัพท์ไร้สายตามปกติ มาเป็นระบบ Data หรือการส่งผ่านข้อมูลผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตแทน เพราะหากใช้ระบบโทรศัพท์ปกติจะเสียค่าใช้จ่ายในการสื่อสารจำนวนมากตามมา ซึ่งเมื่อหันมาใช้ SPRiiiNG เป็นระบบสื่อสารโดยมีแพคเกจเฉพาะที่ทำไว้กับผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถืออยู่แล้ว ก็จะทำให้ค่าใช้จ่ายด้านการสื่อสารลดลงกว่า 80%

ในการแข่งขันจามจุรีเกมส์ครั้งนี้ SPRiiiNG ได้จับมือกับ TRUE ในการให้บริการระบบ EDGE และ 3G ผ่านมือถือของ SPRiiiNG โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย อย่างไรก็ตามผู้ใช้งาน SPRiiiNG โดยทั่วไปสามารถเข้าสู่ระบบ SPRiiiNG ด้วยแพคเกจอินเทอร์เน็ตกับผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือทั่วไปในราคาไม่ถึง 120 ต่อเดือน

ยิ่งไปกว่านั้นจากกระแสอินเทอร์เน็ตที่กล่าวถึงโทรศัพท์มือถือ SPRiiiNG อย่างร้อนแรง และมีความต้องการเป็นเจ้าของก่อนการเปิดตัวจำหน่ายจริงในปลายเดือนมกราคมนี้ ผู้ที่สนใจทุกท่านสามารถซื้อมือถือ SPRiiiNG รุ่น Smile ในราคา 5,990 บาท จากราคา 6,850 บาท และหากซื้อพร้อมกันจำนวน 5 เครื่อง สามารถซื้อเครื่องที่ 6 ได้ในราคา 1 บาท โดยจำกัดช่วงโปรโมชั่นนี้ถึงวันที่ 22 มกราคม ซึ่งเป็นวันที่การแข่งขันจามจุรีเกมส์จบสิ้นลง โดยสามารถหาซื้อได้ที่บูทของ SPRiiiNG ด้านข้างของสนามฟุตบอลจุฬาฯ หรือสนามจุ๊บ

View :1432

ทรูมูฟ แนะนำบริการใหม่ “Call Me Back” แจ้งให้โทรกลับ เมื่อโทรออกไม่ได้

January 13th, 2011 No comments

เพิ่มความอุ่นใจให้ลูกค้าทรูมูฟ ไม่พลาดทุกการติดต่อ ใช้บริการได้ฟรี ตั้งแต่วันนี้

ทรูมูฟ เปิดตัวบริการใหม่ “” เพิ่มความสะดวกให้ลูกค้า ทรูมูฟอุ่นใจ ไม่พลาดการติดต่อแม้ไม่สามารถโทรออกได้ เนื่องจากไม่ได้เติมเงิน หรือยังไม่สะดวกไปชำระค่าบริการรายเดือน ใช้บริการง่ายๆ เพียงกด *911* ตามด้วยหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ปลายทาง 10 หลัก # แล้วโทรออก โดยระบบจะส่ง SMS แจ้งให้หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ปลายทางโทรกลับมาหากับบริการ “” แจ้งให้โทรกลับ เมื่อโทรออกไม่ได้ โดยลูกค้าสามารถใช้บริการนี้ได้ฟรี! สูงสุดถึง 30 ครั้งต่อรอบบิล (เดือน) เริ่มตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป

ทั้งนี้ การใช้บริการ Call me back ลูกค้าแบบเติมเงินจะต้องมีสถานะปกติหรือสถานะที่ถูกระงับการโทรออก โดยมีค่าโทรคงเหลือน้อยกว่า 5 บาท และจะต้องเปิดใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทรูมูฟในระบบเติมเงินมาแล้วไม่น้อยกว่า 30 วัน และสำหรับลูกค้าแบบรายเดือนจะต้องมีสถานะที่ถูกระงับการโทรออกเท่านั้นจึงจะสามารถใช้บริการนี้ได้

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ทรูช็อป,ทรู พาร์ทเนอร์,ทรูมูฟ แคร์ โทร.1331 หรือ www.truemove.com

View :2824
Categories: Press/Release Tags: ,

เวอร์เท็กซ์ สแตนดาร์ดรุกตลาดการสื่อสารเมืองไทย

January 13th, 2011 No comments

เปิดตัวผลิตภัณฑ์วิทยุสื่อสาร 2 ทางแบบผสมผสาน ตอบสนองความต้องการ
ทั้งภาคอุตสาหกรรมและนักวิทยุสื่อสารสมัครเล่น

ผู้นำด้านระบบวิทยุสื่อสารแบบ 2 ทางและอุปกรณ์สื่อสารจากประเทศญี่ปุ่น เผยแผนการขยายธุรกิจสู่ประเทศไทย เปิดตัวพอร์ทโฟลิโอวิทยุสื่อสารสำหรับการใช้งานเพื่อการพาณิชย์และอุตสาหกรรม

การเปิดตัวผลิตภัณฑ์และบริการของเวอร์เท็กซ์ สแตนดาร์ดในประเทศไทยครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนขยายการเติบโต เพื่อสร้างความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นในการดำเนินธุรกิจในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก

มร. สตีเฟ่น ริทชี่ ผู้อำนวยการด้านการจัดจำหน่ายประจำภาคพื้นเอเชีย แปซิฟิก บริษัท เวอร์เท็กซ์ สแตนดาร์ด กล่าวว่า “การขยายการดำเนินงานของเวอร์เท็กซ์ สแตนดาร์ดสู่ภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิกและประเทศไทยครั้งนี้นับเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของบริษัท ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมเนื่องจากเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้อยู่ในภาวะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง เวอร์เท็กซ์ สแตนดาร์ดเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในวงการอุตสาหกรรมวิทยุและการสื่อสาร โดยมีปณิธานมุ่งสร้างความแตกต่างและโดดเด่นให้แก่ลูกค้าด้วยผลิตภัณฑ์วิทยุสื่อสารแบบ 2 ทางที่มีเสถียรภาพในดีไซน์ล้ำสมัย และมาพร้อมกับสุดยอดฟีทเจอร์การทำงานที่เหนือชั้น เพื่อให้ธุรกิจต่างๆ มีผลตอบแทนการลงทุนอย่างคุ้มค่ายิ่งขึ้น ทั้งนี้การแต่งตั้งไทยคอม เน็ตเวิร์คเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ แสดงถึงความตั้งใจจริงในการสร้างพันธมิตรที่น่าเชื่อถือในประเทศไทย ซึ่งจะช่วยขยายการเติบโตของเวอร์เท็กซ์ สแตนดาร์ดได้อย่างแข็งแกร่ง ในตลาดองค์กรธุรกิจของไทย”

พอร์ทโฟลิโอผลิตภัณฑ์และบริการของเวอร์เท็กซ์ สแตนดาร์ดสนับสนุนเทคโนโลยีล้ำสมัย และเพิ่มความคุ้มค่าให้แก่ลูกค้าด้วยโซลูชั่นใหม่ๆ พร้อมทั้งอุปกรณ์เสริมต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าเลือกใช้งานได้ตามความเหมาะสม ได้แก่
- วิทยุสื่อสารทางน้ำเพื่อการพาณิชย์
- วิทยุสื่อสารแบบแอร์แบนด์
- วิทยุสื่อสารสมัครเล่น
- อุปกรณ์เสริมและอุปกรณ์ต่อพ่วง

สำหรับในประเทศไทย เวอร์เท็กซ์ สแตนดาร์ดนำเสนอผลิตภัณฑ์วิทยุสื่อสารแบบเคลื่อนที่ขนาดกะทัดรัด สามารถพกพาไปได้ทุกที่ออกวางจำหน่ายในตลาดหลากหลายรุ่น ได้แก่ VX-151, VX-2100/2200, VX-410/420, VX-820, FM-9012, FH-915, FH-912, และรุ่นใหม่ล่าสุด VX231 ที่จะเปิดตัวเร็วๆ นี้ โดยทุกรุ่นมีตัวเครื่องแบบ die-cast ซึ่งเกิดจากการฉีดสารพลาสติกเข้าไปในแม่พิมพ์ จึงทำให้มีความแข็งแรงและทนทาน เหมาะกับการการใช้ติดต่อสื่อสารในวงการพาณิชย์และอุตสาหกรรม

นางสาวอภิรดี วรชาครียนันท์ ผู้จัดการอาวุโส บริษัท ไทยคอม เน็ทเวิร์ค จำกัด กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดี เป็นอย่างยิ่งที่ได้จับมือเป็นพันธมิตรกับเวอร์เท็กซ์ สแตนดาร์ดครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่อีกครั้งของเราในฐานะที่เป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารชั้นนำของไทยที่ได้มีโอกาสร่วมมือกับเวอร์เท็กซ์ สแตนดาร์ด ซึ่งเป็นแบรนด์ชั้นนำระดับโลก เรามั่นใจว่าด้วยความรู้ความชำนาญทางด้านเทคโนโลยีอย่างลึกซึ้งของเรา เสริมทัพด้วยการมีเครือข่ายทางธุรกิจอย่างแข็งแกร่งจะช่วยขับเคลื่อนให้เวอร์เท็กซ์ สแตนดาร์ดมีการเติบโตอย่างรวดเร็วและแข็งแกร่งในตลาดไทยต่อไป”

สำหรับผลิตภัณฑ์วิทยุสื่อสารของเวอร์เท็กซ์ สแตนดาร์ด รองรับช่องสัญญาณวิทยุความถี่ได้ตั้งแต่ 16 – 501 ช่อง โดยมีฟีทเจอร์โดดเด่นต่างๆ อาทิ บริการส่งข้อความเพจจิ้งรายบุคคลและแบบกลุ่มพร้อมเทคโนโลยี DTMF ANI ที่ติดตั้งมาพร้อมกับตัวเครื่องเพื่อให้เลือกใช้เพจจิ้งได้ตามต้องการ ระบบสแกนภาพความเร็วสูงพร้อมอุปกรณ์เสริมการสแกนภาพหลากหลายประเภทให้เลือกใช้งานได้ตามต้องการ และระบบเสียงกำลังสูง ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดังอึกทึก

นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์วิทยุสื่อสารเวอร์เท็กซ์ สแตนดาร์ดยังติดตั้งเทคโนโลยี ARTS™: Auto_range Transpond System ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นการทำงานอย่างอัจฉริยะที่ทำให้พนักงานสามารถติดต่อประสานงานกันได้อย่างต่อเนื่องแม้ในขณะที่อยู่นอกพ้นสัญญาณการสื่อสาร ทั้งยังมีแบตเตอรี่ที่มีอายุการใช้งานได้ยาวนานเนื่องจากมีโหมดประหยัดพลังงาน ทำให้ประหยัดไฟและใช้พลังงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพที่สุด

การจัดจำหน่าย
ผลิตภัณฑ์วิทยุสื่อสารเวอร์เท็กซ์ สแตนดาร์ดมีวางจำหน่ายแล้วผ่านดีลเลอร์ชั้นนำในกรุงเทพฯ ในหลากหลายรุ่น ได้แก่ วิทยุสื่อสารเคลื่อนที่ภาคพื้นดิน รุ่น FH9012 VX151, VX820, VX4100 VX4200 และ VX2100/2200 สำหรับวิทยุสื่อสารสมัครเล่น ได้แก่ รุ่น FH9012 และ 912 ทั้งนี้ เวอร์เท็กซ์ สแตนดาร์ดเตรียมนำผลิตภัณฑ์วิทยุสื่อสารทุกรุ่นออกวางจำหน่ายในตลาดไทยในเร็วๆ นี้

View :1470

คิงส์ตันเปิดตัวยูเอสบี ไดรฟ์รุ่น “กระต่ายนำโชค” ผลิตจำนวนจำกัด เหมาะให้เป็นของขวัญรับปีเถาะ

January 13th, 2011 No comments

ตามจักรราศีของจีน กระต่ายเป็นราศีที่สี่ในจักรราศีทั้ง 12 ที่เป็นสัญลักษณ์ของแต่ละปีในปฏิทินจีน ปีกระต่ายหรือปีเถาะเป็นปีที่สงบเงียบและยิ้มต้อนรับหลังจากปีเสือผ่านพ้นไป และน่าจะเป็นปีที่มีความสมบูรณ์ปานกลางพร้อมกับการก้าวย่างแบบค่อยเป็นค่อยไป ดังนั้นเพื่อนำส่งความสงบสุขและความโชคดีของปีกระต่ายสู่ทุกๆ ท่าน คิงส์ตัน ดิจิตอล อิงค์ บริษัทในเครือแฟลชเมมโมรี่ของคิงส์ตัน เทคโนโลยี คอมพานี อิงค์ ผู้ผลิตหน่วยความจำรายใหญ่ที่สุดของโลก วันนี้ประกาศเปิดตัวยูเอสบีไดรฟ์รุ่น “กระต่ายนำโชค” แบบลิมิเต็ด เอดิชั่น (หมายเลขชิ้นส่วนสินค้า: DTCNY11/4GB) มาพร้อมความจุ 4GB

ยูเอสบีไดรฟ์รุ่นกระต่ายนำโชคผลิตในจำนวนจำกัดและจัดจำหน่ายเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกเท่านั้น เป็นอีกหนึ่งรุ่นในตระกูล ยูเอสบีไดรฟ์รุ่นสัญลักษณ์จักรราศีทั้ง 12 ราศีของคิงส์ตัน และคาดว่าจะได้รับความนิยมอีกหนึ่งคอลเล็กชั่นสำหรับปีนี้

ยูเอสบีไดรฟ์รุ่นกระต่ายนำโชคมาพร้อม SecureTraveler และวิดีโอคำอวยพรให้โหลดฟรี นอกจากไดรฟ์รุ่นกระต่ายนำโชคจะนำพาความสุขสงบและความโชคดีมาสู่ผู้ใช้งานแล้ว ไดรฟ์รุ่นพิเศษนี้ยังช่วยให้ผู้ใช้ทั้งแบบโฮมยูสและด้านธุรกิจมั่นใจต่อระบบรักษาความปลอดภัยที่ถูกปกป้องด้วยการเข้าระหัสและการตั้งโซนส่วนตัว รวมทั้งความสะดวกสบายในการใช้งาน

ยูเอสบีไดรฟ์รุ่นกระต่ายนำโชคของคิงส์ตันพร้อมวางตลาดให้คุณได้เป็นเจ้าของในช่วงเทศกาลตรุษจีน หากต้องการสะสมยูเอสบีไดรฟ์ตระกูล DataTraveler ในซีรีส์จักรราศีจีนของคิงส์ตัน ไดรฟ์รุ่นกระต่ายนำโชคเป็นอีกหนึ่งคอลเล็กชั่นที่คุณไม่ควรพลาด

มร. นาธาน ซู ผู้อำนวยการฝ่ายขายผลิตภัณฑ์แฟลชเมมโมรี่ ประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกของคิงส์ตันกล่าวว่า “ยูเอสบีไดรฟ์ในซีรีส์จักรราศีจีนของคิงส์ตันแบบลิมิเต็ด เอดิชั่นเป็นผลิตภัณฑ์แฟลชไดรฟ์ที่ได้รับความนิยมมาก นับตั้งแต่เราได้เปิดตัวยูเอสบีไดรฟ์จักรราศีรุ่นแรกเมื่อปี 2008 และเพื่อสนองความต้องการที่ล้นหลามดังกล่าว คิงส์ตันจึงตัดสินใจนำเสนอยูเอสบีไดรฟ์รุ่น “กระต่ายนำโชค” สำหรับปีเถาะ นอกจากนี้ยังมีวิดีโอให้คุณได้โหลดฟรี มีสาวน้อยทรงเสน่ห์สามคนร่วมอวยพรให้ทุกท่านประสบแต่ความโชคดีตลอดทั้งปี”

เช่นเดียวกับแฟลชไดรฟ์ตระกูล DataTraveler ของคิงส์ตัน ยูเอสบีไดรฟ์รุ่นกระต่ายนำโชค
มาพร้อมการรับประกันนานถึง 5 ปี รวมถึงการให้ความช่วยเหลือด้านเทคนิคฟรี สนใจต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเข้าเยี่ยมชมที่เว็บไซต์ www..com/thailand

คุณลักษณะและข้อมูลจำเพาะของยูเอสบีไดรฟ์รุ่นกระต่ายนำโชค
หมายเลขชิ้นส่วนสินค้า: DTCNY11/4GB
• ความจุ*: 4GB
• ขนาด: 55.22 x30.53 x 13.9 มม.
• อุณหภูมิขณะใช้งาน: 32°F ถึง 140° F (0°C ถึง 60° C)
• อุณหภูมิการจัดเก็บ: -4°C ถึง 185°F (-20°C ถึง 85° C)
• การรับประกัน: รับประกันนาน 5 ปีเต็ม
• ระบบที่เข้ากันได้ : Windows® 7, Window Vista®, Windows XP, Mac OS X v.10.5.x+, Linux v 2.6.x+
* ตัวเลขที่แสดงเป็นเพียงความจุใช้สำหรับการฟอร์แมตและฟังก์ชั่นบางอย่างเท่านั้น ไม่ได้หมายถึงพื้นที่ที่สามารถเก็บข้อมูลได้จริง ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถศึกษาได้จากคู่มือแฟลชเมมโมรี่ของคิงส์ตันที่ Kingston.com/Flash_Memory_Guide

เบอร์ฮอตไลน์ของคิงส์ตัน บริการโทรฟรี หมายเลข 001800-861-0018 : ศูนย์บริการจำนวน 23 สาขาทั่วประเทศ ได้แก่ : ซินเน็คฯ สำนักงานใหญ่ ศูนย์บริการพันธ์ทิพย์พลาซ่า ศูนย์บริการเซียร์รังสิต ศูนย์บริการซีคอนสแควร์ ศูนย์บริการ IT Mall Fortune Town ศูนย์บริการลพบุรี ศูนย์บริการนครปฐม ศูนย์บริการระยอง ศูนย์บริการชลบุรี ศูนย์บริการเชียงราย ศูนย์บริการเชียงใหม่ ศูนย์บริการพิษณุโลก ศูนย์บริการนครสวรรค์ ศูนย์บริการโคราช ศูนย์บริการขอนแก่น ศูนย์บริการอุบลราชธานี ศูนย์บริการอุดรธานี ศูนย์บริการสกลนคร ศูนย์บริการประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน) ศูนย์บริการสุราษฎร์ธานี ศูนย์บริการหาดใหญ่ (สงขลา) ศูนย์บริการนครศรีธรรมราช และ ศูนย์บริการภูเก็ต
ข้อมูลเพิ่มเติมด้านสนับสนุนทางเทคนิค แวะชมเว็บไซต์ http://www.kingston.com/thailand/support/default.asp.

View :1397
Categories: Press/Release Tags: ,