Archive

Archive for March, 2011

The Future of Social Media in Journalism

March 9th, 2011 No comments
Categories: Press/Release Tags:

ทรูมันนี่ จับมือ กรมการขนส่งทางบก เพิ่มความสะดวกผู้ใช้รถทั่วไทย ให้ชำระภาษีรถประจำปี ผ่านทุกช่องทางของทรูมันนี่ สะดวก ปลอดภัย ทุกที่ทุกเวลา

March 8th, 2011 No comments

บริษัท ทรู มันนี่ จำกัด โดย นายปิยชาติ รัตน์ประสาทพร ผู้จัดการทั่วไป (ขวา) และกรมการขนส่งทางบก โดย นายเทียนโชติ จงพีร์เพียร (ซ้าย) อธิบดี ร่วมเปิดบริการรับชำระภาษีรถยนต์ประจำปี ผ่านบริการรับชำระแบบครบวงจรของทรูมันนี่ เพิ่มช่องทางใหม่ๆ อำนวยความสะดวก ให้ง่าย ปลอดภัย ใกล้ตัวยิ่งขึ้น โดยผู้ใช้รถยนต์ทั่วประเทศ สามารถชำระภาษีรถยนต์ประจำปีด้วยตัวเองผ่านบริการทรูมันนี่บนมือถือทรูมูฟ หรือผ่านจุดรับชำระทรูมันนี่ เอ็กซ์เพรส กว่า 8,000 จุดทั่วประเทศ อาทิ ในร้านซีพี เฟรชมาร์ท ร้าน 108 ช็อป ร้านเน็ตในเครือไอแฟมิลี่ พลัสร้านสมาร์ทโพสต์ ร้านทรูพาร์ทเนอร์ และร้านค้าทั่วไปที่มีสัญลักษณ์ เอ็กซ์เพรส หรือตัวแทนรับชำระมิตรแท้ประกันภัย ค่าธรรมเนียม 20 บาท/รายการ และสามารถชำระได้ในวงเงินสูงสุดไม่เกิน 30,000 บาท ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

ทั้งนี้ ลูกค้าจะต้องทำการลงทะเบียน ผ่าน www.dlte-serv.in.th/dltWeb/ ก่อนทำการชำระ โดยมีขั้นตอนการชำระภาษีรถประจำปี ผ่านบริการทรูมันนี่บนมือถือทรูมูฟ ดังนี้ เข้าสู่เมนูทรูมันนี่ > เลือก Payment > เลือก Bill > เลือก Other Bill > ใส่รหัสผ่านส่วนตัว (จำนวน 4 หลัก) > ใส่รหัสผู้ให้บริการ “DLT” > ใส่เลขใบแจ้งชำระภาษี (จำนวน 9 หลัก) ใน Ref.1 > ใส่หมายเลขอ้างอิง 2 (จำนวน 9 หลัก) ใน Ref.2 > ใส่จำนวนเงินที่ต้องการชำระ > เลือก Bank Account > ยืนยันการชำระเงิน

ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ทรูมันนี่ คอลล์ เซ็นเตอร์ 1331 กด 6 และกรมการขนส่งทางบก โทร 0-2271-8712 ภายในเวลาราชการ หรือสนใจสมัครใช้บริการทรูมันนี่ ดูรายละเอียดที่เว็บไซต์ www.truemoney.co.th

View :1834

ซิงกา (Zynga) จับมือ มอล(MOL) เปิดตัวจำหน่ายซิงกาเกมการ์ด (Zynga Game Cards)ใน 6 ประเทศ

March 8th, 2011 No comments

มอล แอ็คเซสพอร์ทัล เบอร์ฮาด ( AccessPortal Berhad หรือ ) และ ซิงกา อิงค์ ( Inc.) ประกาศเปิดตัวซิงกาเกมการ์ด () ในเอเชีย เพื่อช่วยให้ผู้เล่นเกมซื้อไอเทม หรือ สินค้าเสมือนจริงในเกมต่างๆ ของซิงกาได้อย่างสะดวกสบาย ซิงกาเกมการ์ดสามารถหาซื้อได้ที่จุดชำระเงินมากกว่า 500,000 สาขาใน 6 ประเทศเอเชีย ได้แก่ มาเลเซีย อินเดีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และไทย

มอล ผู้ให้บริการชำระเงินชั้นนำสำหรับเกมออนไลน์ โลกเสมือนจริง และเครือข่ายสังคมออนไลน์ จับมือเป็นพันธมิตรกับซิงกา เพื่อจำหน่ายซิงกาเกมการ์ดเป็นครั้งแรกในหลายประเทศในเอเชีย

ซิงกา ซึ่งมีชื่อเสียงไปทั่วโลกในฐานะเจ้าของเกมยอดนิยมอย่าง CityVille, FarmVille, Mafia Wars และ Poker มุ่งมั่นที่จะทำให้ผู้เล่นได้รับความสนุกสนานมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการเปิดตัวเกมการ์ดจะช่วยให้นักเล่นเกมในประเทศเหล่านี้มีทางเลือกมากขึ้น ซิงกาเกมการ์ดมีจำหน่ายในมูลค่าย่อย ซึ่งช่วยให้ผู้เล่นมีทางเลือกมากขึ้นว่าจะใช้จ่ายมากน้อยแค่ไหนในการซื้อไอเทมในเกมดังๆ ของซิงกา การประกาศเปิดตัวเกมการ์ดครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่มีการเปิดตัวเกม CityVille ในอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นเกมภาษาอินโดนีเซียเกมแรกของบริษัท นับเป็นการตอกย้ำถึงความทุ่มเทของบริษัทในภูมิภาคเอเชีย

กาเนช คูมาร์ บังกาห์ (Ganesh Kumar Bangah) ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของมอล กล่าวว่า “มอลมุ่งมั่นจัดหาโซลูชั่นการชำระเงินที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับเว็บไซต์สังคมออนไลน์ ซึ่งรวมถึงชุมชนเกมออนไลน์ ซิงกาให้บริการเกมที่หลากหลายและมีคุณภาพสูงแก่สมาชิกที่มีจำนวนมหาศาล เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เป็นพันธมิตรกับซิงกา เครือข่ายของเราช่วยสร้างรายได้ให้กับซิงกา ทั้งยังช่วยยกระดับการมีส่วนร่วมและประสบการณ์การเล่นเกมให้กับแฟนเกมของซิงกาด้วย”
มอลจำหน่ายซิงกาเกมการ์ดใน 6 ประเทศ ในช่องทางต่างๆ อาทิ

– เครือข่ายร้านค้าปลีกชื่อดังอย่าง 7-Eleven ในสิงคโปร์และมาเลเซีย และร้าน Comic Connections ในสิงคโปร์
– อินเทอร์เน็ตคาเฟ่ในเครือมอล อาทิ Sify Cybercafes ในอินเดีย, Netopia Internet Cafes ในฟิลิปปินส์ และร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่สมาชิก FunLoader ในไทย
– จุดชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ ช่องทางออนไลน์ ธนาคาร และบริษัทโทรศัพท์ที่เป็นพันธมิตร อาทิ Maybank2u ในมาเลเซีย, GXCredits ในสิงคโปร์ และ Gudang Voucher ในอินโดนีเซีย เอ็มเปย์ บัตรเงินสด วัน-ทู-คอล! และเพย์สบาย ในประเทศไทย

การเป็นพันธมิตรกันในครั้งนี้ตอกย้ำถึงความนิยมในเกมออนไลน์ที่เพิ่มมากขึ้นในเอเชีย รายงานการศึกษาครั้งใหม่จากเอบีไอ รีเสิร์ช (ABI Research) ระบุว่า เอเชียจะเป็นกำลังสำคัญที่ผลักดันยอดขายเกมออนไลน์ในตลาดโลกให้พุ่งขึ้นเป็นกว่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2555
ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของการเป็นพันธมิตรในครั้งนี้ มอลจะวางจำหน่ายซิงกาเกมการ์ด ในราคา 2 ดอลลาร์สหรัฐ 5 ดอลลาร์สหรัฐ และ 10 ดอลลาร์สหรัฐ โดยลูกค้าของมอลสามารถแลกเปลี่ยนเงินเสมือนจริงที่มีอยู่เดิมไปเป็นซิงกาเกมการ์ดได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

ลูกค้าในเอเชียสามารถแลกเงินจากซิงกาเกมการ์ดได้แล้ววันนี้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้าชมได้ที่ http://www.mol.com/zynga

ภาพโลโก้บริษัท ผู้บริหาร และซิงกาเกมการ์ดแบบความละเอียดสูง สามารถดาวน์โหลดได้ที่ http://www.flickr.com/molpr

เกี่ยวกับมอล แอ็คเซสพอร์ทัล เบอร์ฮาด
มอล แอ็คเซสพอร์ทัล เบอร์ฮาด (MOL) เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการชำระเงินชั้นนำของเอเชีย มอล รองรับการทำธุรกรรมมากกว่า 60 ล้านครั้งด้วยปริมาณการชำระเงินกว่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี บริษัทพัฒนาเครือข่ายจุดชำระเงินกว่า 540,000 สาขาในกว่า 75 ประเทศทั่วโลก นอกจากนั้น บริษัทยังมีการออนไลน์เชื่อมกับธนาคาร 88 แห่งใน 9 ประเทศทั่วโลก มอลมีสำนักงานใหญ่ในประเทศมาเลเซียและมีสำนักงานสาขาทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้าชมได้ที่ http://www.mol.com

เกี่ยวกับซิงกา อิงค์
ซิงกา อิงค์ เป็นผู้พัฒนาเกมบนเครือข่ายสังคมรายใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีจำนวนผู้เล่นเกม CityVille, FarmVille, FrontierVille, Mafia Wars, Zynga Poker, Cafe World, และ Treasure Isle รวมมากกว่า 250 ล้านคนต่อเดือน เกมของซิงกา อิงค์ สามารถเล่นได้บนแพลตฟอร์มที่หลากหลาย ทั้งเฟซบุ๊ก (Facebook) มายสเปซ (MySpace) ยาฮู (Yahoo) ไอแพด (iPad) และไอโฟน (iPhone) ผู้เล่นเกมของซิงกาผ่านทางเว็บไซต์ Zynga.org สามารถระดมทุนได้กว่า 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับโครงการด้านสังคมทั่วโลก ทั้งนี้ ซิงกา อิงค์ มีสำนักงานใหญ่ในซานฟรานซิสโก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้าชมได้ที่ http://www.zynga.com หรือ http://www.zynga.org

View :1245
Categories: Press/Release Tags: , ,

TMA จับมือ 3 พันธมิตรภาครัฐจัดงานและมอบรางวัล “ Thailand ICT Excellence Awards 2010 ”

March 8th, 2011 No comments

– สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย ร่วมกับศูนย์เทคโนโลยีอิเลกทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) เขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทย (Software Park Thailand) และวิทยาลัยนวัตกรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (CITU) เตรียมจัดงาน ในวันที่ 23 มีนาคม 2554 นี้ ตั้งแต่เวลา 08.30 -17.30 น. ณ ห้องคริสตัล ฮอลล์ โรงแรมพลาซ่า แอทธินี กรุงเทพฯ

ภายในงานจะมีการจัดงานสัมมนาทางวิชาการทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และการพัฒนาระบบซอฟต์แวร์ไทย และพิธีประกาศรางวัล Thailand ICT Excellence Awards 2010 ให้กับองค์กรที่ได้รับการคัดเลือกจำนวน 6 ประเภทรางวัล ได้แก่ โครงการพัฒนากระบวนการหลักภายใน (Core Process Improvement Projects) , โครงการการขับเคลื่อนธุรกิจ (Business Enabler Projects) , โครงการจัดการความรู้ (Knowledge Management Projects) , โครงการนวัตกรรม (Innovation Projects) , โครงการประยุกต์ใช้ซอฟต์แวร์ไทย (Thai Software Adoption Projects) และโครงการเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (ICT for Sustainable Development Projects) สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 02-319-7675-8 # 146

View :1368

ทรู โชว์ศักยภาพสื่อสารคอนเวอร์เจนซ์ สนับสนุนงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 32

March 8th, 2011 No comments

บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น โดย นายประวิทย์ ศรีอนุวัติพงศ์ ผู้จัดการทั่วไป Regional Management BMA1 (ขวา) และบริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด โดย ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา (กลาง) ประธานบริหาร และประธานจัดงาน, นายจาตุรนต์ โกมลมิศร์ (ซ้าย) รองประธานกรรมการบริหารอาวุโส และรองประธานจัดงาน ร่วมแถลงข่าวจัดงานมหกรรมยานยนต์ บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 32 ซึ่งกลุ่มทรู ยังคงได้รับความไว้วางใจให้รับผิดชอบศูนย์บริการสื่อมวลชน และห้องรับรอง VIP อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 ทั้งบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงจากทรูออนไลน์, อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงไร้สาย, บริการฟรีโทรทางไกลต่างประเทศ รหัส 006, บริการอัพเดทข่าวสารทั่วโลกตลอดงานจากทรูวิชั่นส์, และมอบฟรี hi-speed Net SIM จากทรูมูฟ 3G* ให้นักข่าวสัมผัสประสบการณ์ 3G* ความเร็วสูงสุด 7.2 Mbps มั่นใจสามารถรองรับสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศ กว่า 1,100 คน ที่จะมาร่วมงาน ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี ในวันที่ 25 มีนาคม – 5 เมษายนนี้

นายประวิทย์ ศรีอนุวัติพงศ์ ผู้จัดการทั่วไป True Regional Management BMA1 บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า เพื่อให้สอดคล้องแนวคิดของงาน “Discovery A new Innovation – เปิดโลกยนตรกรรมสู่อนาคต” ของงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 32 กลุ่มทรู ผู้นำเทคโนโลยีสื่อสารครบวงจร คัดสรรบริการคอนเวอร์เจนซ์ภายในกลุ่ม อำนวยความสะดวกสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศ รวมกว่า 1,100 คน ทั่วโลก ในศูนย์บริการสื่อมวลชน อาทิ อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงจากทรูออนไลน์ ความเร็วสูงสุด 50 – 100 Mbps, Wi-Fi, รวมถึงโทรทางไกลฟรีทั้งในและต่างประเทศ รหัส 006, บริการอัพเดทข้อมูลข่าวสารทั้งในและต่างประเทศกับทรูวิชั่นส์, พร้อมมอบประสบการณ์ 3G* ความเร็วสูงสุด 7.2 Mbps ซึ่งเร็วกว่าปกติถึง 30 เท่า ผ่าน hi-speed Net SIM จากทรูมูฟ 3G* ฟรี โดยแบ่งศูนย์บริการสื่อมวลชนออกเป็น 2 ห้อง คือห้องจูปิเตอร์15 สำหรับรับรองสื่อมวลชนต่างประเทศ และห้องจูปิเตอร์16 สำหรับรับรองสื่อมวลชนในประเทศตลอดงาน ยิ่งไปกว่านั้น ทรู ยังได้รับความไว้วางใจให้ติดตั้งสัญญาณ 3G* ให้ผู้เข้าชมงานได้สนุกกับการท่องเน็ตความเร็วสูงทั่วทั้งงาน

ทั้งนี้ กลุ่มทรู ยังนำนวัตกรรมสินค้าและบริการ ตอกย้ำความเป็นผู้นำชีวิตคอนเวอร์เจนซ์ ร่วมโชว์และจำหน่ายด้วย อาทิ แพ็กเกจคอนเวอร์เจนซ์, แพ็กเกจพิเศษจากทรูออนไลน์ ทั้ง Ultra hi-speed Internet และ hi-speed Internet, รวมถึง hi-speed Net SIM จากทรูมูฟ 3G* แบบรายเดือน/เติมเงิน, และแพ็กเกจสุดคุ้มจากทรูวิชั่นส์ พิเศษเฉพาะในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 32 นี้เท่านั้น ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บูธทรู ฮอลล์ 1 อาคารชาเลนเจอร์ ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม – 5 เมษายนนี้

* บริการ 3G (บนคลื่นความถี่ 850MHz) เป็นส่วนหนึ่งในการปรับปรุงและพัฒนาโครงข่ายในบางพื้นที่ เพื่อให้บริการของทรูมูฟดีขึ้น ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล พัทยา ชลบุรี เชียงใหม่ ภูเก็ต

View :1560

กฎหมายโทรคมนาคมถูกละเมิดเพียบ

March 8th, 2011 No comments

กฎหมายโทรคมนาคมยังถูกละเมิดอีกเพียบ ล่าสุดพบสิทธิในการระงับบริการชั่วคราวก็ไม่เป็นจริง ผอ.สบท.ระบุทางออกต้องลงทุนด้านเทคโนโลยีตรวจสอบคุณภาพบริการ และสร้างช่องทางให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วม
นายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา ผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม () เปิดเผยว่า ตามประกาศ กทช. เรื่อง มาตรฐานสัญญาให้บริการโทรคมนาคม พ.ศ. 2549 ข้อ 25 ให้ความคุ้มครองผู้บริโภคในการระงับใช้บริการชั่วคราวได้ โดยแจ้งให้บริษัททราบล่วงหน้า 3 วัน โดยบริษัทจะกำหนดระยะเวลาขั้นต่ำสุดหรือสูงสุดที่ยินยอมให้ระงับการใช้บริการชั่วคราว ที่สำคัญคือ บริษัทไม่มีสิทธิเรียกเก็บค่าใช้จ่าย ในกรณีที่ผู้บริโภคขอระงับบริการชั่วคราว เมื่อครบกำหนดการขอระงับใช้บริการ บริษัทต้องเปิดบริการให้ผู้บริโภคทันทีโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
สิทธิในการระงับบริการชั่วคราว จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้บริโภค ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องระงับบริการชั่วคราว เช่น เดินทางไปต่างประเทศ หรือมีเหตุจำเป็นที่ทำให้ไม่สามารถใช้บริการได้ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง โดยทำให้สามารถเก็บเลขหมายของตนเองไว้ได้โดยไม่จำเป็นต้องยกเลิกบริการ
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบข้อมูลของ สบท. พบว่า ในทางปฏิบัติ มีเพียงผู้ให้บริการรายเดียวที่เปิดให้ผู้บริโภคสามารถระงับบริการชั่วคราวได้ 2 ปี โดยไม่คิดค่าบริการ 30 วันแรก หลังจากนั้นคิดค่ารักษาเลขหมายเดือนละ 60 บาท ขณะที่ผู้ให้บริการที่เหลือไม่ได้ให้สิทธิผู้บริโภคในการระงับบริการชั่วคราวตามกฎหมาย หากมีการระงับบริการชั่วคราวต้องจ่ายค่าบริการตามปกติ หรือสมัครใช้โปรโมชั่นที่ราคาต่ำสุด หรือ บางรายที่เป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์บ้านและมีบริการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตด้วย ให้สิทธิในการระงับบริการชั่วคราวโทรศัพท์บ้านได้ แต่ต้องจ่ายค่ารักษาคู่สายโทรศัพท์ และกรณีสมัครใช้บริการอินเทอร์เน็ตไว้ด้วย ไม่สามารถระงับการใช้บริการชั่วคราวได้ ต้องยกเลิกบริการเท่านั้น อีกทั้งหากระงับบริการชั่วคราวโทรศัพท์บ้านจะไม่สามารถโทรออกหรือรับสายได้ ทำให้สัญญาณอินเทอร์เน็ตถูกตัดไปโดยอัตโนมัติ หากไม่ยกเลิกบริการ ก็จะต้องจ่ายค่าบริการรายเดือนให้กับการใช้บริการอินเทอร์เน็ตต่อไป
ผอ.สบท. กล่าวต่อไปว่า โดยข้อเท็จจริงผู้ให้บริการจะยึดผลกำไรเป็นหลักไม่ใช่กฎหมายเป็นหลัก ดังนั้นในแง่ของการปฏิบัติตามกฎหมายโทรคมนาคมจึงพบว่า มีหลายประเด็นที่ผู้ให้บริการไม่ได้ปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น ที่ชัดเจนก็คือ ระบบเติมเงินต้องไม่มีการกำหนดวันหมดอายุ หรือ การต้องส่งอัตราค่าบริการให้ กทช. ดูก่อน 30 วัน แต่ส่วนใหญ่ก็ออกโฆษณาไปก่อนจึงส่งมาให้ตรวจสอบ เป็นต้น หากฝ่ายกำกับดูแลไม่มีศักยภาพในการติดตาม ก็จะเป็นเหมือนเขียนกฎหมายให้เป็นกระดาษ ดังนั้นจึงต้องมีการพัฒนาระบบติดตามตรวจสอบว่าผู้ให้บริการปฏิบัติตามกฎหมายหรือไม่
“ตามกฎหมายผู้ให้บริการจะต้องรายงานเรื่องร้องเรียนทุก 6 เดือน ซึ่งผลจากการรายงานพบว่า เรื่องร้องเรียนทั้งปีจากลูกค้า 10 กว่าล้านราย มีผู้ร้องเรียนแค่ 100 กว่าราย ดังนั้นจึงต้องมีการพัฒนาระบบตรวจสอบการรายงานด้วย ตัวช่วยที่จะทำให้กฎหมายเป็นจริงมากขึ้นก็คือ การลงทุนด้านเทคโนโลยีเพื่อติดตามคุณภาพการให้บริการของผู้ประกอบการ เช่น มีการบล็อกสัญญาณปิดกั้นสัญญาณหรือไม่ โทรเข้าโทรออกสำเร็จหรือไม่ ประการที่สองคือ ต้องให้ผู้ใช้บริการมีส่วนร่วมในการติดตามตรวจสอบ โดยเปิดช่องทางให้เขาแจ้งเหตุว่ามีการฝ่าฝืนกฎหมาย เพื่อให้ฝ่ายที่ถือกฎหมายดำเนินการต่อไป” นายประวิทย์กล่าว
ผอ.สบท.กล่าวต่อไปว่า กฎหมายด้านโทรคมนาคม เป็นกฎหมายที่มีโทษทางปกครองเท่านั้น ต่างจากกฎหมายของ สคบ. เช่น ถ้า สคบ. แจ้งให้เข้าร่วมประชุม หรือมีหนังสือเชิญ หรือแจ้งให้ต้องส่งเอกสาร ถ้าฝ่าฝืนถือเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าพนักงานมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มีโทษทางอาญา บริษัทก็จะถือปฏิบัติ แต่ตามกฎหมายโทรคมนาคมมีความผิดแค่ทางปกครอง บริษัทก็จะให้ความเคารพน้อยกว่า
“ ทางออกจึงต้องมีการสร้างความร่วมมือกับผู้ประกอบการด้วย คือ ให้ผู้ประกอบการตรวจสอบกันเอง และสร้างศักยภาพให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมในการตรวจสอบได้ ผู้บริโภคมีข้อมูลเพียงพอในการเลิกใช้หรือยกเลิกบริการได้ โดยให้มีการเผยแพร่ข้อมูลเพื่อให้เกิดพลังกดดัน และผู้บังคับใช้กฎหมายต้องเอาจริงเอาจังมากกว่านี้ จึงถือว่าถ้าไม่มีการแจ้งเหตุแสดงว่าไม่มีการทำผิดกฎหมายคงไม่ถูก เพราะบางครั้งการทำผิดกฎหมายเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา เป็นความผิดซึ่งหน้า ไม่ต้องรอหมายจับก็จับได้เลย” ผอ.สบท. กล่าว

View :1555

โมโตโรล่า โซลูชั่นส์ ปรับกลยุทธ์ กระชับความสัมพันธ์พันธมิตรคู่ค้าในเอเชีย แปซิฟิก มุ่งสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งร่วมกัน

March 8th, 2011 No comments

พร้อมแลกเปลี่ยนแผนธุรกิจเพื่อสร้างผลประโยชน์และขับเคลื่อนตลาดไปด้วยกัน

บริษัท (ชื่อในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก: MSI) ซึ่งแยกตัวมาจากโมโตโรล่าเมื่อต้นปี 2553 ประกาศกลยุทธ์สร้างการเติบโต หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญคือ การแบ่งสรรทรัพยากรกับพันธมิตรคู่ค้า เพื่อยกระดับความสัมพันธ์ ตลอดจนเพิ่มความแข็งแกร่ง และสร้างผลประโยชน์ที่ดียิ่งขึ้นร่วมกัน เพื่อให้โมโตโรล่า โซลูชั่นส์และพันธมิตรทั้งระบบมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งยิ่งขึ้นและมีขีดความสามารถในการทำกำไรมากขึ้น

โมโตโรล่า โซลูชั่นส์จะจัดงานประชุมเพื่อแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ในการขับเคลื่อนธุรกิจ โอกาสทางการค้า และแผนธุรกิจให้กับพันธมิตรคู่ค้าร่วม 2,000 ราย ประกอบด้วย นักพัฒนาแอพพลิเคชั่น ผู้ให้บริการระบบ และตัวแทนจำหน่ายซอฟต์แวร์ในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก ได้แก่ กลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินเดีย จีน เกาหลี ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และไทย

ทั้งนี้ งานประชุมพันธมิตรคู่ค้าดังกล่าวจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Seize the Moment. Begin. Believe. Become” เพื่อตอกย้ำความตั้งใจจริงของโมโตโรล่าที่มุ่งสนับสนุนให้พันธมิตรคู่ค้า เข้ามามีส่วนร่วมในทุกขั้นตอนของการวางแผนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ รวมทั้งแบ่งปันผลประโยชน์ร่วมกันในการสร้างความเติบโตในตลาดกลุ่มใหม่ๆ ทั้งนี้ โมโตโรล่า โซลูชั่นส์ จะเปิดตัวโปรแกรม PartnerEmpower TM ให้กับคู่ค้าในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิกภายในปีนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างรายได้และการเติบโตในช่องทางใหม่ๆ และสร้างชุมชนระดับเวิลด์คลาสให้แก่คู่ค้าและตัวแทนจำหน่ายของโมโตโรล่า โซลูชั่นส์

รายละเอียดของข้อเสนอใหม่ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจรูปแบบใหม่ให้กับพันธมิตรคู่ค้า ได้แก่
- โปรแกรม PartnerEmpower™ : โปรแกรมเดียวที่ผนวกรวมโซลูชั่นต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน ออกแบบเพื่อรองรับและสร้างความแข็งแกร่งในการทำธุรกิจพร้อมสร้างแต้มต่อในการแข่งขันให้กับพันธมิตรคู่ค้า อาทิ โซลูชั่นวิทยุสื่อสาร โซลูชั่นเครือข่ายไร้สาย โซลูชั่นการสื่อสารเคลื่อนที่สำหรับองค์กร เป็นต้น เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าระอับองค์กรและภาครัฐ
- จากการปรับกลยุทธ์ของโมโตโรล่า โซลูชั่นส์ ที่มุ่งเน้นเจาะตลาดเฉพาะทางในแต่ละเซกเมนต์มากยิ่งขึ้น ส่งผลให้พันธมิตรมีโอกาสในการทำธุรกิจรูปแบบใหม่ๆ ที่หลากหลายพร้อมเติบโตไปด้วยกันกับโมโตโรล่า โดยมุ่งเน้นเจาะตลาดองค์กรที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก อาทิ กลุ่มธุรกิจค้าปลีก กลุ่มผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อสุขภาพ กลุ่มซัพพลายเชน อุตสาหกรรมการผลิต การศึกษา การคมนาคมขนส่งและโลจิสติกส์ โรงพยาบาล และการรักษาความปลอดภัยสาธารณะ เป็นต้น
- ด้วยโปรแกรม PartnerEmpower’s™ ส่งผลให้พันธมิตรคู่ค้าสามารถสร้างจุดเด่นด้วยความเชี่ยวชาญที่โดดเด่นและแตกต่าง ช่วยเพิ่มรายได้ ตลอดจนมีผลตอบแทนการลงทุนที่คุ้มค่าสูงสุดจากการสร้างความชำนาญในเทคโนโลยีและตลาดของโมโตโรล่า โซลูชั่นส์ พันธมิตรคู่ค้าจะมีลู่ทางใหม่ๆ ในการเพิ่มรายได้จากการเข้าถึงพอร์ทโฟลิโอผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายและครอบคลุมมากที่สุด โปรแกรมการฝึกอบรมและการรับรอง การขยายผลประโยชน์ทั้งทางด้านเทคนิคการขายและการตลาด เพื่อสามารถให้บริการแก่ลูกค้าของโมโตโรล่าได้ดียิ่งขึ้น

สิทธิประโยชน์ต่างๆ สำหรับพันธมิตรคู่ค้าของโมโตโรล่า โซลูชั่นส์ ได้แก่
- มีความแตกต่างและได้รับการยอมรับด้วยความเชี่ยวชาญเฉพาะทางในตลาดและเทคโนโลยี นอกจากนี้ยังมีแหล่งข้อมูลเพื่อยกระดับความชำนาญในอนาคต
- มอบผลประโยชน์ที่ครบถ้วนเพื่อเพิ่มความสามารถให้กับพันธมิตรคู่ค้า ส่งผลให้สามารถทำตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ปิดการขายได้และพัฒนาโซลูชั่นส์ที่ประสบความสำเร็จได้มากขึ้น ผลประโยชน์ที่ได้รับจะมากยิ่งขึ้นมื่อพันธมิตรคู่ค้าก้าวขึ้นสู่ระดับที่สูงขึ้นในโปรแกรมนี้
- ขยายพอร์โฟลิโอผลิตภัณฑ์ที่สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นผู้นำอย่างยาวนานของโมโตโรล่า โซลูชั่นส์ ทั้งในตลาดเอ็นเทอร์ไพรส์ ระบบเครือข่ายไร้สาย และวิทยุสื่อสาร
- เชื่อมต่อกับอีโคซิสเต็มระดับชั้นนำทั่วโลก รวบรวมพันธมิตรคู่ค้าที่จะช่วยเติมเต็มความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบวงจร
- มีกรอบการทำงานเดียวสำหรับคู่ค้าของโมโตโรล่า โซลูชั่นส์ เสริมด้วยความแข็งแกร่งของแบรนด์โมโตโรล่า
- โมโตโรล่า โซลูชั่นส์ มีพันธมิตรคู่ค้ากว่า 2,500 รายในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก และกว่า 25,000 รายทั่วโลก

มร. เปย์ เทค โม รองประธานด้านองค์กร บริษัท โมโตโรล่า โซลูชั่นส์ ประจำภาคพื้นเอเชีย แปซิฟิก กล่าวถึงการเปิดตำนานความสำเร็จบทใหม่ในงานประชุมประจำปีที่จัดขึ้นสำหรับพันธมิตรคู่ค้าจากประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย ไทย อินโดนีเซีย เวียดนาม บังคลาเทศ อินเดีย ฯลฯ ว่า “รูปแบบการทำธุรกิจของโมโตโรล่า โซลูชั่นส์ เป็นแบบ B2B และเราจะยังคงมุ่งสร้างความแข็งแกร่งให้กับลูกค้าของเราทั้งลูกค้าองค์กรและภาครัฐ ทั้งนี้ จากการแยกตัวเป็นอิสระจากบริษัทแม่ ทำให้โมโตโรล่า โซลูชั่นส์ สามารถจัดสรรงบการลงทุนในธุรกิจที่เราให้ความสำคัญได้อย่างเต็มที่ และเป็นองค์กรที่มีความคล่องตัวและเป็นอิสระมากยิ่งขึ้นในอนาคต เราจะปรับกลยุทธ์และเป้าหมายในการทำงานที่จะช่วยขับเคลื่อนแบรนด์ใหม่ของเรา ภายใต้วิสัยทัศน์มุ่งสร้างสรรค์นวัตกรรมและเชื่อมโยงลูกค้าของเราให้ก้าวทันความเคลื่อนไหวต่างๆ ได้อย่างทันท่วงที”

และเสริมว่า “เราเข้าใจดีถึงความสำคัญของสิ่งที่ลูกค้าคำนึงถึง และเราตระหนักว่าเราไม่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบถ้วน หากไม่ได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรคู่ค้าที่มีค่าของเรา ที่ผ่านมานั้นเราได้ทำงานร่วมกับคู่ค้าของเราอย่างราบรื่นและจะเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งให้กับคอมมูนิตี้พันธมิตรคู่ค้า และอีโคซิสเต็มให้ช่วยกันผลักดันธุรกิจของเราให้ประสบความสำเร็จยิ่งขึ้น”

โปรแกรมนี้ตั้งใจที่จะช่วยให้คู่ค้าของเราสร้างความแตกต่างได้ด้วยรูปแบบการทำธุรกิจ ความสามารถทางด้านเทคโนโลยี และความเชี่ยวชาญเฉพาะทางในตลาดนั้นๆ เพื่อนำเสนอโซลูชั่นที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้า อย่างไรก็ตามการมีพันธมิตรใหม่ๆ การสนับสนุนทางด้านการพัฒนาโซลูชั่นการจัดการกระบวนการและระบบการทำงานให้ง่ายขึ้น เพื่อลดต้นทุนในการทำธุรกิจนี้เป็นเพียงแค่สิทธิประโยชน์บางส่วนที่โมโตโรล่า โซลูชั่นส์มอบให้กับพันธมิตรคู่ค้าเท่านั้น

“ในปี 2556 พนักงานกว่า 35% จะมีการทำงานแบบเคลื่อนที่ ส่งผลให้โซลูชั่นแบบเคลื่อนที่ทวีความสำคัญและจำเป็นมากยิ่งขึ้น ซึ่งโมโตโรล่า โซลูชั่นส์มีความพร้อมที่จะให้บริการ และทำงานร่วมกับพันธมิตรคู่ค้าของเรา สร้างสรรค์โซลูชั่นการทำงานแบบเคลื่อนที่สำหรับองค์กร และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุดที่สุด” มร. เปย์ กล่าวทิ้งท้าย

View :1317

ควอลคอมม์พัฒนาชิปเซ็ทตระกูลสแนปดราก้อน (Snapdragon) ใหม่และล้ำยุคแห่งอุตสาหกรรมไอที

March 8th, 2011 No comments

อินคอร์ปอเรทเต็ด เปิดตัวสถาปัตยกรรมเครื่องประมวลผลขนาดจิ๋วใหม่ เพื่อรองรับการทำงานของชิปเซ็ท Snapdragon รุ่นใหม่ ทั้งนี้ ชิปเซ็ท Snapdragon ดังกล่าวมีความเร็วสูงถึง 2.5 GHz ต่อ 1 คอร์ และมีสมรรถนะเพิ่มขึ้นถึง 150% ทั้งยังประหยัดไฟ 65% เมื่อเทียบกับซีพียูคอร์รุ่น ARM ที่ใช้ในปัจจุบัน ซิปเซ็ท Snapdragon มีให้บริการหลากหลายรุ่นทั้งรุ่นซิงเกิล-คอร์หรือคอร์เดี่ยว ดูอัล-คอร์หรือคอร์คู่ และควอด-คอร์หรือ 4 คอร์ รวมถึงหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) อาเดรโน® (Adreno®) ใหม่ที่มาพร้อมกับคอร์แบบ 3D 4 ตัว และโมเด็ม LTE หลากหลายโหมดแบบครบวงจร

ซอฟท์แวร์บนชิปเซ็ท Snapdragon ใช้เทคโนโลยีแบบนาโนมิเตอร์สามารถทำงานเข้ากันได้อย่างดีเยี่ยมกับซีพียูและจีพียูใหม่ที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานไร้สายและกินไฟน้อยสุด นอกจากนี้ จีพียูอาเดรโนใหม่ล่าสุดยังถือเป็นส่วนหนึ่งของชิปเซ็ทตระกูล Snapdragon ส่งผลให้นักพัฒนาสามารถนำเทคโนโลยีจีพียูอาเดรโนมาใช้สร้างสรรค์เกมและการใช้งานบนอุปกรณ์สื่อสารทุกประเภทได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ชิป MSM8930 แบบคอร์เดี่ยว คือ ชิปเดี่ยวชนิดแรกของโลกที่มาพร้อมกับโมเด็ม LTE แบบครบวงจร ที่ออกแบบเพื่อนำเทคโนโลยี LTE ไปใช้ในเครื่องสมาร์โฟนสำหรับตลาดโลก ทั้งยังสนับสนุนจีพียูอาเดรโน 305 ซึ่งมีสมรรถนะเหนือกว่าจีพียูอาเดรโนารุ่นเดิมถึง 6 เท่า

ชิป MSM8960 แบบดูอัล-คอร์หรือคอร์คู่ คือ ชิปคอร์คู่ชนิดแรกของโลก โดยมาพร้อมกับโมเด็ม 3G/LTE
มัลติโหมดแบบครบวงจร ตอบสนองการทำงานแบบ multitasking ของเครื่องแท็ปเล็ตและสมาร์ทโฟน

ชิป APQ8064 แบบ 4 คอร์ ได้รับการออกแบบให้ตอบโจทย์ความต้องการอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และบันเทิงที่มีสมรรถนะการทำงานสูงขึ้นและประหยัดไฟ

นอกจากนี้ ชิป APQ8064 ยังมีฟีทเจอร์เด่นๆ อีกหลากหลายประเภทรองรับการทำงานของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และบันเทิงแบบเคลื่อนที่ต่างๆ ทั้งยังรองรับหน่วยความจำของเครื่องพีซีและ LP DDR ระบบอินเทอร์เฟซอนุกรมและ PCIe ตลอดจนสนับสนุนยูเอสบีพอร์ตหลากหลายตัว โดยทำงานเชื่อมต่อกับโมเด็มและโมดูล 3จี และ LTE MDM™ ของควอลคอมม์อย่างไร้ข้อจำกัด
ทั้งนี้ ควอลคอมม์คาดว่า จะสามารถนำตัวอย่างของชิป MSM8960 ออกทดสอบในตลาดในไตรมาส 2 ของปี 2554 และชิป MSM8930 และ APQ8064 ออกทดสอบในตลาดในต้นปี 2555

View :1466

เดลล์ เผยแผนปี 54 ประกาศปรับโครงสร้างพร้อมรุกทั้ง “คอร์ปอเรต และ คอนซูเมอร์”

March 8th, 2011 No comments

แกร่งด้วยสินค้าตอบโจทย์ทุกความต้องการ พร้อมพัฒนาสู่ผู้ให้บริการด้านไอทีโซลูชั่นอย่างเต็มตัว เสริมศักยภาพบริการหลังการขาย ตอกย้ำผู้นำด้านโซเชียลเน็ตเวิร์ค

เดลล์เปิดฉากปี 54 วางหมากพร้อมก้าวสู่การเป็นผู้ให้บริการด้านไอทีโซลูชั่นอย่างเต็มตัว หลังพิสูจน์ความสำเร็จจนสามารถครองใจคนไทยได้ในเวลาอันรวดเร็ว

นาย อโณทัย เวทยากร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดลล์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เมื่อปีที่ผ่านมา เดลล์ ได้มีการปรับโครงสร้างการทำงานจากเดิมในแบบกระจายศูนย์ มาสู่การรวมศูนย์ โดยรวมทั้งกลุ่มคอนซูเมอร์ เอสเอ็มอี และคอร์ปอเรต เข้าไว้ด้วยกันเพื่อความเป็นเอกภาพในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งเปรียบเสมือนการปรับโฉมสู่บ้านใหม่ “New Home” ของ เดลล์ โดยการรวมศูนย์การบริหารจะทำให้ เดลล์ มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ทำให้นโยบายมีความชัดเจน และมีความคล่องตัวในการทำตลาดมากขึ้น เพิ่มศักยภาพในระบบสั่งการ ตลอดจนสามารถจัดการทรัพยากรในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ในปี 54 บริษัทฯ สามารถรุกตลาดและสร้างสรรค์แคมเปญร่วมกันระหว่างกลุ่มคอร์ปอเรตกับคอน ซูเมอร์ได้มากขึ้น โดยจะยังชูกลยุทธ์ Consumer Centric หรือ การให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ไว้ดังเดิม เพื่อตอบโจทย์ ความต้องการของลูกค้า เพื่อให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เป็นหลักปรัชญาที่เดลล์ใช้ในการบริหารมาโดยตลอด

“การ ปรับโครงสร้างเมื่อปีที่ผ่านมา ทำให้ เดลล์ ทั่วโลกสามารถสร้างยอดขายในไตรมาส 3 ให้เติบโตขึ้นประมาณ 19% ซึ่งเป็นอัตราที่ค่อนข้างสูงสำหรับอุตสาหกรรมไอที สิ่งที่เกิดขึ้น เป็นการยืนยันว่าเดลล์เดินมาถูกทาง ตั้งแต่การทรานส์ฟอร์มบิสซิเนสเป็น “นิว เดลล์” ที่ประกาศเมื่อ 4 ปีก่อน ตั้งแต่ที่ “ไมเคิล เดลล์” กลับมาบริหาร อีกครั้ง โดยเปลี่ยนโมเดลธุรกิจ จากพีซีคอมพานี เป็นไอทีโซลูชั่นโพรไวเดอร์ ทำให้กำไร ไม่ได้มาจากพีซีเป็นหลัก แต่มาจากซอฟต์แวร์และเซอร์วิสต่างๆ ธุรกิจเดลล์จึงไม่ใช่แค่การขายฮาร์ดแวร์ แต่เป็นการขายทั้งโซลูชั่น ซึ่งการรวมศูนย์การบริหารในประเทศ ก็ทำให้ตอบโจทย์มากขึ้นเช่นกัน” นายอโณทัย เวทยากร กล่าว

สำหรับ เมืองไทย ข้อมูลจากไอดีซี ไตรมาส 3 เดลล์มีการเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 80% โตสวนกระแส ไม่ว่าปีนี้จะมีเหตุการณ์หลายอย่าง โดยที่ตลาดคอนซูเมอร์มีอัตราการเติบโตมากที่สุดกว่า 200% ทำให้ตอนนี้เรามีรายได้จากตลาดผู้บริโภคเป็นสัดส่วน 35% หลังจากที่บุกคอนซูเมอร์มา 3 ปี ขณะที่ตลาด คอร์ปอเรตอยู่ที่ประมาณ 65% หากมองในแง่จำนวนยูนิตที่ขายได้ มาร์เก็ตแชร์ของ เดลล์ จะอยู่ใน 1 ใน 3 แบรนด์ผู้นำตลาดในตลาดประเทศไทย แต่หากมองในแง่รายได้ เดลล์ อยู่ที่อันดับ 2 ณ ปัจจุบัน “ในปี 2554 เดลล์ ให้ความสำคัญแก่ 2 ส่วนหลัก ประกอบด้วย 1. Data Center ดาต้าเซ็นเตอร์ โดยเน้นใน 2 เรื่อง คือ Cloud Service คลาวด์ เซอร์วิส เนื่องจากสามารถช่วยลดการลงทุน ด้านเทคโนโลยีของลูกค้าโดยทำทั้งฮาร์ดแวร์, ซอฟต์แวร์ และอินทิเกรต โซลูชั่นของคลาวด์ เทคโนโลยี และเรื่องที่ 2 คือ Storage สตอเรจ ซึ่ง 3 ปีที่ผ่านมา เดลล์ ซื้อกิจการเฉลี่ย 8 กิจการต่อปี ซึ่งส่วนมากเป็นองค์กรที่ทำเรื่องเทคโนโลยีสตอเรจทั้งสิ้น โดยวิถีของ เดลล์ ไม่นิยมให้ลูกค้าเป็นฝ่ายเปลี่ยน แต่เราพยายามพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้ของเก่าและของใหม่ให้ทำ งานร่วมกันได้ อีกส่วนที่เดลล์ให้ความสำคัญมากคือ 2. Mobility โมบิลิตี้ การขยายไลน์ในตลาดแท็บเลตและสมาร์ทโฟน ที่ผ่านมาได้เปิดตัวแท็บเลตเดลล์ สตรีต ขนาด 5” อย่างเป็นทางการในงานโมบายไทยแลนด์โมบายเอ็กซ์โป 2011 ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับแบบเกินคาด และยิ่งเพิ่มกระแสนิยมอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ทำให้ เดลล์ วางแผนที่จะตั้งทีมการตลาดในส่วน โมบิลิตี้ อย่างจริงจัง เพื่อร่วมมือกับผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในเมืองไทยสร้างสีสันด้านการ ตลาดให้ร้อนแรงยิ่งขึ้น” นายอโณทัย เวทยากร กล่าว

เกี่ยว กับเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจของ เดลล์ ในประเทศไทยนั้น นายอโณทัย เวทยากร กล่าวอย่างเชื่อมั่นว่า “เดลล์ ต้องการก้าวสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำในทุกตลาดที่เราเข้าร่วม จากตลาดลูกค้าองค์กร ในส่วนของพีซี/ โน้ตบุ๊กเดลล์เป็นอันดับหนึ่งอยู่แล้ว ก้าวต่อไปคือผลักดันตลาดคอนซูเมอร์ให้ขึ้นมาเป็นเบอร์ 1 เนื่องจากคอนซูเมอร์เป็นตลาดใหญ่ จากนั้นก็จะขยายเข้าสู่ตลาดแท็บเลตและสมาร์ทโฟนเพื่อเป็นการต่อยอดตลาดคอน ซูเมอร์ในอนาคตอันใกล้ นอกจากนี้ การเป็นผู้นำในโลกออนไลน์ ถือเป็นอีกยุทธศาสตร์หลัก ในปี 2554 ซึ่ง ไม่ใช่แค่การขายของออนไลน์ แต่เป็นการทำตัวให้เป็นมิตรที่ดีกับผู้บริโภคผ่านสื่อออนไลน์ จำพวกเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ปัจจุบัน พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปใช้อินเทอร์เน็ตเป็นประจำ ดังนั้น ในยุคใหม่ เราต้องเป็นออนไลน์คอมพานี ซึ่งปัจจุบัน เดลล์มีสมาชิกเฟซบุ๊กประมาณ 30,000 ราย ซึ่งเราได้สร้างสรรค์กิจกรรมบนโลกออนไลน์มากขึ้น ในขณะเดียวกันก็ไม่ทิ้งในส่วนออฟไลน์ ทั้งสองส่วนยัง ต้องอินทิเกรตกัน เพื่อให้ลูกค้าที่เห็นจากสื่อทีวี สิ่งพิมพ์แล้ว แอ็กเซสเข้าไปในโลกออนไลน์ ปัจจุบัน เดลล์ใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กเป็นช่องทางสื่อสารและรับฟีดแบ็กจากลูกค้าไป พร้อมๆ กัน เป็นการสื่อสารสองทางกับลูกค้าแบบเรียลไทม์ มากกว่าแค่การไปโพสต์ปัญหา ทิ้งไว้ในเว็บบอร์ด แล้วรอให้ทีมงานตอบ ซึ่งล่าสุด เดลล์ได้เปิด “โซเชียล มีเดีย ลิสเทนนิ่ง คอมมานด์ เซ็นเตอร์” เป็นศูนย์บัญชาการด้านออนไลน์ เพื่อมอนิเตอร์ข้อมูลทุกอย่างที่มีคนพูดถึงแบรนด์เดลล์ในอินเทอร์เน็ต ทั้งเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอื่นๆ แบบเรียลไทม์ โดยศูนย์ตั้งอยู่ที่สหรัฐอเมริกา ปัจจุบัน สามารถรองรับการใช้งานได้มากถึง 11 ภาษา”

ด้าน มุมมองต่อภาพรวมธุรกิจไอทีเมืองไทยในปี 54 นั้น นายอโณทัย เวทยากร กล่าวแสดงความเห็นในส่วนนี้ว่า “จากการวิเคราะห์ของ ไอดีซี พบว่า ในปีนี้ทิศทางของตลาดเทคโนโลยีสารสนเทศและโทรคมนาคม (ไอซีที) ของไทยจะถูกกำหนดโดยความก้าวหน้าของโซเชียลมีเดีย การเติบโตที่มีอัตราสูงขึ้นของสมาร์ทโฟน และการเพิ่มขึ้นของอุปสงค์ต่อการให้บริการดาต้าทั้งในการสื่อสารแบบมีสายและ ไร้สาย ซึ่งเป็นแนวทางที่ เดลล์ ได้ให้ความสำคัญและนำไปพัฒนาแผนการดำเนินธุรกิจอย่างสอดคล้องแล้วเช่นกัน”

View :1428
Categories: Press/Release Tags:

“ คิงส์ตัน ” เอาใจ เกมส์เมอร์ ส่ง “ ไฮเปอร์ เอ็กซ์ ทีวัน แบ็ค ” ลงตลาด

March 8th, 2011 No comments

บริษัท คิงส์ตัน เทคโนโลยี ประเทศไทย ผู้ผลิตและพัฒนาหน่วยความจำรายใหญ่ของโลก ส่งเทคโนโลยีหน่วยความจำ “ ไฮเปอร์ เอ็กซ์ ทีวัน แบ็ค ” ( ) DDR3 ชุดหน่วยความจำแบบ Triple-Channel ที่ออกแบบขึ้นสำหรับรองรับชิปเซ็ต Intel Core i7-990X และมาเธอร์บอร์ดระบบ X58 โดยเฉพาะ

แอน ไบ ผู้อำนวยการฝ่ายขายหน่วยความจำ DRAM ประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกของคิงส์ตัน กล่าวว่า “ ไฮเปอร์ เอ็กซ์ ทีวัน แบ็ค ” (HyperX T1 Black DDR3) เป็นชุดหน่วยความจำแบบ Triple-Channel ตัวล่าสุดของคิงส์ตันที่เพิ่มประสิทธิภาพของการรับส่งข้อมูล เหมาะสำหรับมาเธอร์บอร์ดระบบ X58 เพื่ออรรถรสของการเล่นเกมอย่าง GIGABYTE G1-Killer เป็นอย่างยิ่ง ”

ด้าน ทิม แฮนด์ลีย์ รองผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดมาเธอร์บอร์ดแห่งกิกะไบต์เทคโนโลยี กล่าวว่า “ ภายหลังจากการเปิดตัวมาเธอร์บอร์ดเพื่อการเล่นเกมรุ่น GIGABYTE G1-Killer ทางกิกะไบต์รู้สึกตื่นเต้นกับการเปิดตัวหน่วยความจำ HyperX T1 Black ของคิงส์ตันเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากว่า หน่วยความจำดังกล่าวมีทั้งโทนสีและกลุ่มเป้าหมายใกล้เคียงกับกิกะไบต์ ทางเราจึงหวังจะได้เห็นบรรดาคอเกมใช้หน่วยความจำ Black T1 เป็นส่วนประกอบของมาเธอร์บอร์ด GIGABYTE G1-Killer ด้วยเช่นกัน ”

HyperX T1 Black 1600MHz DDR3 ชุดหน่วยความจำแบบ Triple-Channel มีให้เลือกทั้งขนาด 24GB 12GB และ 6GB รับประกันตลอดอายุการใช้งาน พร้อมให้ บริการ ข้อมูล ด้านเทคนิคฟรี วางจำหน่ายแล้ว ณ ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของคิงส์ตัน สนใจ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของคิงส์ตัน www..com/thailand

ข้อมูลผลิตภัณฑ์

Kingston HyperX T1 Black DDR3 1600MHz Specifications

Part Number

Capacity and Features

KHX1600C9D3T1BK6/24GX

24GB 1600MHz DDR3 Non-ECC CL9 DIMM (Kit of 6) XMP T1 Series CL9-9-9-27

KHX1600C9D3T1BK3/12GX

12GB 1600MHz DDR3 Non-ECC CL9 DIMM (Kit of 3) XMP T1 Black Series CL9-9-9-27

KHX1600C9D3T1BK3/6GX

6GB 1600MHz DDR3 Non-ECC CL9 DIMM (Kit of 3) XMP T1 Black Series CL9-9-9-2 7

View :1452