Archive

Archive for March, 2011

ไมโครซอฟท์เปิดตัวผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์ระดับพรีเมี่ยม สุดยอดแห่งงานดีไซน์และเทคโนโลยี

March 13th, 2011 No comments

เพื่อตอบสนอ งไลฟ์สไตล์ที่ไม่หยุดนิ่ง ด้วย ล้ำหน้าด้วยสุดยอดเทคโนโลยีและการดีไซน์ที่เรียบหรู และ LifeCam Studio ที่ให้ภาพวีดีโอคมชัดกว่าเคย

บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว 2 สุดยอดนวัตกรรมเปี่ยมดีไซน์ที่พร้อมตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ในยุคดิจิตัลกับ Arc Touch Mouse และ LifeCam Studio ที่จะช่วยส่งเสริมประสบการณ์การใช้งานคอมพิวเตอร์ให้ดียิ่งขึ้นไปไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม

ชัชวาล จิตติกุลดิลก ผู้จัดการแผนก Retail Sales and Marketing (RSM) บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ไมโครซอฟท์ ฮาร์ดแวร์ ได้สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ ผสานกับดีไซน์ที่ลงตัวและนวัตกรรมที่เหนือชั้น มาเป็นเวลากว่า 28 ปีแล้ว และในวันนี้ เราได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะช่วยนำประสบการณ์การใช้งานคอมพิวเตอร์ที่ดีที่สุดมาให้แก่ผู้ใช้งานทุกคน ปัจจุบันไมโครซอฟท์มีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและน่าพอใจในกลุ่มผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์เมื่อเทียบเท่ากับผู้ผลิตรายอื่นๆ ในตลาด แม้ว่าจะมีภาวะการแข่งขันค่อนข้างสูง แต่เราก็จะยังคงมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เปี่ยมด้วยคุณภาพให้กับผู้บริโภคชาวไทยต่อไป”

Arc Touch Mouse ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ที่ต้องเดินทางอยู่เป็นประจำ โดยเป็นเมาส์ที่ได้รับการออกแบบให้สามารถเก็บในรูปทรงแบนราบได้ช่วยให้พกพาได้สะดวกยิ่งขึ้น และสามารถพับเมาส์เป็นทรงโค้งเมื่อต้องการใช้งาน ในปัจจุบัน ที่มีจำนวนผู้ใช้งานโน้ตบุ๊คมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็ต้องการความสะดวกสบายที่มากกว่าเดิม ดังนั้น Arc Touch Mouse จึงสามารถตอบโจทย์ดังกล่าวได้อย่างสมบูรณ์แบบ Arc Touch Mouse นับเป็นเมาส์ตัวแรกที่ประกอบไปด้วย Touch strip ซึ่งเป็นแถบเลื่อนแบบสัมผัสสำหรับควบคุมการใช้งาน เพียงเลื่อนนิ้วเบาๆ สำหรับการเลื่อนขึ้น-ลงแบบปกติ หรือสะบัดแถบสัมผัสเพื่อการเลื่อนขึ้น-ลงที่เร็วยิ่งขึ้น

“Arc Touch Mouse นับเป็นผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมี่ยมที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นไม่ซ้ำใคร และมาพร้อมกับประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยมของเทคโนโลยีบลูแทร็ค ช่วยให้ผู้ใช้บอกลาแผ่นรองเมาส์ไปได้เลย เพราะสามารถใช้งานได้บนพื้นผิวที่หลากหลายยิ่งขึ้น Arc Touch Mouse จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการพกพา โดยสามารถพกไว้ในกระเป๋าถือ หรือแม้แต่กระเป๋าเสื้อ หรือ กางเกงได้อย่างสะดวก โดยสามารถพับเมาส์ให้มีรูปทรงโค้งสำหรับการใช้งานได้อย่างง่ายดายในทันที การทำงานนอกสถานที่จึงไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป เมาส์จะปิดอัตโนมัติเมื่ออยู่ในรูปทรงแบนราบ และจะทำงานเมื่อพับเมาส์ในรูปทรงโค้ง Arc Touch Mouse ยังมีความทนทานสูง โดยได้รับการทดสอบประสิทธิภาพให้นำไปใช้งานได้เป็นระยะเวลาหลายปี อีกทั้งยังมีดีไซน์ที่สวยงาม ทันสมัย และดึงดูดความสนใจจากผู้คนรอบข้าง”

“สำหรับการเปิดตัว Arc Touch Mouse ในประเทศไทย เราได้สร้างสรรค์ไอคอนในรูปแบบของเก้าอี้ Arc Touch Mouse ขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งตั้งอยู่บริเวณลานหน้า Digital Gateway เพื่อตอกย้ำให้เห็นถึงดีไซน์อันโดดเด่นของผลิตภัณฑ์ชิ้นพรีเมี่ยมนี้ และส่งเสริมผลิตภัณฑ์ให้เป็นที่รู้จักแก่ผู้คนที่สัญจรไปมาในบริเวณสยามแสควร์มากยิ่งขึ้น เพราะมีรูปลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาการทางด้านดีไซน์ครั้งสำคัญของไมโครซอฟท์ที่เรียกได้ว่าสามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้คนในโลกยุคดิจิตัลที่ต้องเดินทางเป็นประจำได้อย่างดีเยี่ยม” ชัชวาล จิตติกุลดิลก กล่าวเสริม

New LifeCam Studio
นอกจากนี้ไมโครซอฟท์ยังได้สร้างมิติใหม่ให้กับเว็บแคมด้วยผลิตภัณฑ์ LifeCam Studio ที่ให้ภาพวีดีโอคมชัดพร้อมความละเอียด 1080 พิกเซล ที่สามารถทำงานร่วมกับ Windows Live® Messenger 2011 ได้อย่างสมบูรณ์แบบ อีกทั้งยังให้ภาพวีดีโอที่มีความคมชัดเป็นเลิศด้วยหน้าจอไวด์สกรีนแบบ 16:9 ที่ช่วยให้มองเห็นรายละเอียดได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น LifeCam Studio นับเป็นเว็บแคมที่มีความแม่นยำสูง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการร่วมแบ่งปันช่วงเวลาที่ดีๆและสำคัญๆกับเพื่อน หรือ ครอบครัว แม้จะอยู่ห่างกันคนละที่ก็ตาม

Lifecam Studio นับเป็นเว็บแคมตัวแรกของไมโครซอฟท์ที่มีความละเอียดสูงถึง 1080 พิกเซล ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีทรูคัลเลอร์ (TrueColor) โดยให้ภาพที่มีความละเอียดคมชัดและมีคุณภาพดีสำหรับการใช้งานวีดีโอคอลล์ เพราะสามารถรับแสงได้มากขึ้น ทำให้ได้คุณภาพวีดีโอที่ชัดกว่าเดิมไม่ว่าจะอยู่ในบริเวณที่มีแสงแบบใดก็ตาม ทั้งในบริเวณแสงจ้าขณะที่แสงแดดส่องจากหน้าต่าง หรือในบริเวณแสงน้อยด้วยแสงจากจอมอนิเตอร์ของคอมพิวเตอร์เท่านั้น นอกจากนี้ Lifecam Studio ยังมาพร้อมกับไมโครโฟนที่เป็น High-fidelity ซึ่งให้เสียงที่เป็นธรรมชาติและคมชัด กล้องสามารถโฟกัสอัตโนมัติ และมีขากล้องแบบ Tripod thread ที่ช่วยให้ผู้ใช้ได้ภาพที่สวยไม่ว่าจะในมุมใดก็ตาม เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายวิดีโอแบบต่อเนื่องเป็นเวลานาน

ราคาและการวางจำหน่าย
Arc Touch Mouse และ LifeCam Studio มีวางจำหน่ายตามร้านค้าทั่วไปแล้วในราคา 2,390 บาท และ 3,490 บาท ตามลำดับ ผู้สนใจยังสามารถหาซื้อได้ในงานคอมมาร์ท ระหว่างวันที่ 17 – 20 มีนาคม 2554 พร้อมเข้าร่วมกิจกรรมลุ้นประมูล Arc Touch Mouse ได้ทุกวันที่บริเวณเวทีกลางในงานคอมมาร์ทอีกด้วย

นอกจากนี้ ผู้ที่ซื้อผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์อื่นๆ ของไมโครซอฟท์ภายในงานคอมมาร์ทยังจะได้รับสิทธิพิเศษอีกมากมาย โดยลูกค้าที่ซื้อ ® Arc Mouse สามารถนำใบเสร็จมาแลกรับบัตรชมภาพยนตร์ฟรีจำนวน 2 ที่นั่ง ส่วนลูกค้าที่ซื้อผลิตภัณฑ์ Lifecam VX700 หรือ Wired Desktop 400 สามารถนำใบเสร็จมาแลกรับบัตรกำนัลจากร้าน Auntie Anne’s ได้เช่นเดียวกัน

ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของไมโครซอฟท์ ฮาร์ดแวร์ พร้อมรับประกัน 3 ปี ข้อมูลเพิ่มเติมของผลิตภัณฑ์ รวมทั้งผลิตภัณฑ์อื่นๆของไมโครซอฟท์ ฮาร์ดแวร์ สามารถศึกษาได้ที่ http://www.microsoft.com/hardware

View :1554

"เวสเทิร์น ดิจิตอล"ประกาศซื้อธุรกิจฮาร์ดไดรฟ์ของ "ฮิตาชิ โกลบอล สตอเรจ"

March 13th, 2011 No comments

การรวมตัวของสองยักษ์ใหญ่สะเทือนวงการฮาร์ดไดรฟ์ สร้างพอร์ตผลิตภัณฑ์และกลุ่มทรัพยากรในนวัตกรรมที่สำคัญ

เวสเทิร์น ดิจิตอล คอร์ป (WD) ผู้นำโซลูชั่นด้านการจัดเก็บข้อมูลแบบติดตั้งภายนอกที่มีชื่อเสียงระดับโลกประกาศว่า บริษัทได้บรรลุข้อตกลงเตรียมเข้าซื้อธุรกิจฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ของ ฮิตาชิ โกลบอล สตอเรจ เทคโนโลยีส์ (ฮิตาชิ จีเอสที) ซึ่งอยู่ในเครือของบริษัทฮิตาชิ จำกัด ด้วยมูลค่าประมาณ 4.3 พันล้านดอลลาร์ทั้งในรูปของเงินสดและมูลค่าหุ้น การรวมกิจการที่เสนอในครั้งนี้จะส่งผลให้เกิดบริษัทจัดเก็บข้อมูลที่เน้นให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นหลัก โดยมีขนาดในการปฏิบัติงานที่ใหญ่ เป็นแหล่งรวมของผู้มีความสามารถพิเศษทั่วโลกที่โดดเด่น และสายผลิตภัณฑ์ที่กว้างขวางที่สุดในอุตสาหกรรมที่ได้รับการสนับสนุนโดยกลุ่มเทคโนโลยีที่สมบูรณ์แบบ

ภายใต้ข้อกำหนดในข้อตกลง WD จะเข้าซื้อกิจการของฮิตาชิ จีเอสที โดยจะจ่ายเป็นเงินสดมูลค่า 3,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และจะจ่ายเป็นหุ้นสามัญของ WD อีก 25 ล้านหุ้นคิดเป็นมูลค่า 750 ล้านดอลลาร์ โดยยึดตามราคาหุ้นของ WD ที่ปิดที่ราคา 30.01 ดอลลาร์ ณ วันที่ 4 มีนาคม 2011 ส่วนทางฮิตาชิ จำกัดก็จะเป็นเจ้าของหุ้นที่ยังไม่ได้ชำระของ WD ประมาณ 10% หลังจากที่ออกหุ้นแล้ว และจะมีตัวแทนจากฝั่งของฮิตาชิสองท่านที่จะเข้าไปนั่งในกลุ่มคณะกรรมการของ WD ในวันที่ปิดการซื้อขาย ธุรกรรมครั้งนี้ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการของทั้งสองบริษัท และคาดว่าจะปิดการซื้อขายในช่วงระหว่างไตรมาสที่สามของปี 2011 นี้ ภายใต้เงื่อนไขการปิดการซื้อขายตามปกติ ซึ่งรวมทั้งการได้รับอนุมัติจากหน่วยงานผู้ควบคุมกฎ ซึ่ง WD มีแผนที่จะระดมทุนในการซื้อกิจการครั้งนี้โดยเป็นการรวมระหว่างเงินสดที่มีอยู่และหนี้สินทั้งสิ้นมูลค่าประมาณ 2,500 ล้านดอลาร์

WD คาดว่าการทำธุรกรรมในครั้งนี้จะเป็นการเพิ่มผลกำไรต่อหุ้นที่ไม่ได้คำนวณตามหลักการบัญชีทั่วไป (non-GAAP) ให้กับ WD ในทันที ทั้งนี้ ไม่รวมค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเข้าซื้อกิจการ ค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้างใหม่ และค่าใช้จ่ายตัดจ่ายทรัพย์สินที่จับต้องไม่ได้

บริษัทที่เกิดจากการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จะใช้ชื่อของเวสเทิร์น ดิจิตอล และจะยังคงมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมือง
เออร์วิน รัฐแคลิฟอร์เนีย มร. จอห์น คอยน์ จะยังคงดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ WD มร. ทิม ลีย์เดน ยังคงรั้งตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ ขณะที่ มร.วูลฟ์กัง นิกเคิล นั่งเก้าอี้ประธานเจ้าหน้าที่ทางการเงิน เหมือนเดิม และในวันสุดท้ายของการปิดการซื้อขายกิจการ มร. สตีฟ มิลลิแกน ประธานและซีอีโอของฮิตาชิ จีเอสที จะเข้ามามีบทบาทใน WD ในฐานะประธาน ซึ่งจะรายงานโดยตรงต่อจอห์น คอยน์

มร. จอห์น คอยน์ ประธานและซีอีโอของ WD กล่าวว่า “การเข้าซื้อกิจการของฮิตาชิ จีเอสทีในครั้งนี้นับเป็นโอกาสพิเศษที่ WD จะได้สร้างมูลค่าเพิ่มเติมให้กับลูกค้า ผู้ถือหุ้น พนักงาน ซัพพลายเออร์และชุมชนที่เราปฏิบัติงานอยู่ เราเชื่อว่าขั้นตอนนี้จะก่อให้เกิดผลประโยชน์ที่สำคัญมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการยกระดับความสามารถในการวิจัยและพัฒนา การสร้างสรรค์นวัตกรรม และการขยายพอร์ตโฟลิโอของผลิตภัณฑ์ที่สมบูรณ์ ความครอบคลุมและขนาดที่ใหญ่ขึ้นของตลาด ซึ่งจะเป็นการปรับปรุงโครงสร้างต้นทุนของเรา รวมถึงความสามารถในการแข่งขันในตลาดที่มีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ความเชี่ยวชาญและการสนับสนุนของพนักงานทั้งสองฝ่ายของเราคือข้อในการพิจารณาหลักๆ ที่เราใช้ในการประเมินโอกาสที่ดีครั้งนี้ เราจะอาศัยความสามารถในการผนวกรวมที่ผ่านการพิสูจน์แล้วของทั้งสองบริษัทเพื่อที่จะรับประกันถึงความพึงพอใจที่จะยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในหมู่ลูกค้าของเรา และเพื่อที่จะนำการรวมตัวในครั้งนี้ก้าวไปสู่การบรรลุผลสำเร็จ”

ด้านมร. สตีฟ มิลลิแกน ประธานและซีอีโอของฮิตาชิ จีเอสทีได้กล่าวว่า “โอกาสอันดีในครั้งนี้ถือเป็นการนำผู้นำในอุตสาหกรรมสองรายให้มาพบกัน ซึ่งต่างก็มีผลงานที่ผ่านมาที่โดดเด่นและเป็นที่ประจักษ์ และมีผลการดำเนินงานที่ดีกว่าในอุตสาหกรรม เมื่อร่วมมือกัน เราก็สามารถที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์และการบริการที่หลากหลายและน่าสนใจสำหรับลูกค้าทั่วโลกได้ ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลตัวใหม่ๆ จนถึงโซลิด
สเตทไดรฟ์สำหรับระดับองค์กร”

มร. ฮิโรอากิ นากานิชิ ประธานฮิตาชิ จำกัดได้แสดงความเห็นว่า “ในฐานะที่เป็นซีอีโอเก่าของฮิตาชิ จีเอสที ผมเชื่อมั่นมาโดยตลอดถึงโอกาสของฮิตาชิ จีเอสที ที่จะก้าวขึ้นเป็นบริษัทขนาดที่ใหญ่ขึ้นและมีความคล่องแคล่วมากกว่าเดิม นี่คือการรวมตัวในเชิงกลยุทธ์ของผู้นำอุตสาหกรรมสองราย ทั้งในแง่ของการเติบโตและความสามารถในการสร้างผลกำไร เป็นการเปิดโอกาสให้บริษัทแห่งใหม่นี้ในการเพิ่มมูลค่าให้กับลูกค้าและผู้ถือหุ้น และขยายเข้าสู่ตลาดใหม่ๆ นอกจากนี้แล้ว ยังนับเป็นเรื่องสำคัญสำหรับเราในการที่ WD ได้แบ่งปันค่านิยมทั่วไปร่วมกับฮิตาชิ จีเอสทีเพื่อสร้างบริษัทที่มีความเป็นสากลมากขึ้น ซึ่งอยู่ในสถานะที่ยิ่งใหญ่ที่จะกำหนดบทบาทได้ครอบคลุมมากขึ้นในอุตสาหกรรมการจัดเก็บข้อมูลที่กำลังเติบโตนี้”

ทั้งนี้ ที่ปรึกษาด้านการเงินพิเศษของ WD ในการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้คือ Bank of America Merrill Lynch ส่วนที่ปรึกษาด้านกฎหมายชั้นนำคือ O’Melveny & Myers LLP ขณะที่ Goldman, Sachs & Co ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาด้านการเงินให้กับฝ่ายของฮิตาชิ จำกัด และฮิตาชิ จีเอสที ส่วนที่ปรึกษาด้านกฎหมายคือ Morrison Foerster LLP และ Skadden, Arps, Slate, Meagher & Flom LLP & Affiliates ตามลำดับ

View :1427

ทรู จับมือ สสว. เดินหน้าโครงการ "พันธมิตรให้สิทธิประโยชน์สมาชิก สสว."

March 13th, 2011 No comments

ผสานเทคโนโลยีสื่อสารคอนเวอร์เจนซ์ เสริมศักยภาพผู้ประกอบการไทย เป็นปีที่ 2
พร้อมมอบสิทธิพิเศษในงาน “

นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ (ที่4 จากซ้าย) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความร่วมมือ สานต่อโครงการ “พันธมิตรให้สิทธิประโยชน์สมาชิก สสว.” ระหว่างสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) โดย นายยุทธศักดิ์ สุภสร (ที่4 จากขวา) ผู้อำนวยการ และ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น โดย นายอติรุฒม์ โตทวีแสนสุข (ที่3 จากขวา) กรรมการผู้จัดการสายงานคอนเวอร์เจนซ์ และกรรมการผู้จัดการกลุ่มลูกค้าธุรกิจ ในงาน “Thailand SME Expo 2011” ณ ฮอลล์ 2 อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี ซึ่ง กลุ่มทรู ได้รับความไว้วางใจต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ให้เป็นผู้สนับสนุนผู้ประกอบธุรกิจที่เป็นสมาชิก สสว. จำนวนกว่า 109,000 ราย โดยร่วมดำเนินการจัดกิจกรรมส่งเสริมความรู้ที่จะอำนวยสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ประกอบธุรกิจ พร้อมต่อยอดความคิด พัฒนาเข้าสู่เศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ และเติบโตอย่างยั่งยืน สำหรับผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดแพ็กเกจพิเศษต่างๆ ได้ที่ บูธทรู ในงานดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 10 – 13 มีนาคม 2554

ทั้งนี้ ทรู มีโซลูชั่นเพื่อธุรกิจ ให้เลือกหลากหลายแพ็กเกจตามขนาดความต้องการ เริ่มต้นเพียง 699 บาท/เดือน ทั้ง Starter Pack สำหรับผู้ที่เริ่มต้นธุรกิจ Smart Pack สำหรับธุรกิจที่ต้องการความคุ้มค่า และ Professional Pack สำหรับธุรกิจที่ต้องการรองรับการเติบโต ซึ่งแต่ละแพ็กเกจได้รวมบริการของทรู ทั้ง hi-speed Internet โทรศัพท์พื้นฐาน และหน้าร้านออนไลน์จาก www.weloveshopping.com ไว้อย่างครบวงจร

นอกจากนี้ ยังมีบริการทรูมูฟเพื่อธุรกิจ แพ็กเกจพิเศษเพียง 169 บาท/เดือน สำหรับสมาชิก สสว. ที่ต้องการเน้นการประหยัดค่าโทรและต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ตบนมือถือ โดยสามารถโทรหากันระหว่างสมาชิก และทรูมูฟหมายเลขอื่นๆ ในช่วงเวลาธุรกิจ รวมถึงหมายเลข 1301 ของสสว. พร้อมเล่นอินเทอร์เน็ตบนมือถือสูงสุด 40 ชั่วโมง/เดือน และอีกหลากหลายแพ็กเกจให้เลือกสรร

พิเศษยิ่งขึ้น ทรู มอบส่วนลด 50% ให้กับสมาชิก สสว. ที่เปิดใช้บริการหน้าร้านออนไลน์จาก www.weloveshopping.com ภายในงานอีกด้วย

สำหรับกลุ่มลูกค้าธุรกิจ สมาชิก สสว. สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์และแพ็กเกจของกลุ่มทรู โทร.02-900-9100 ตั้งแต่ วันจันทร์ – วันเสาร์ เวลา 08.30 – 17.30 น. หรือที่เว็บไซต์ www.trueforbusiness.com

View :1525

ฟูจิตสึจัดหนักโปรโมชั่นโน้ตบุ๊กคอมมาร์ต 2011

March 13th, 2011 No comments

นายโทโมกิ ทาคาฮาชิ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ฟูจิตสึ พีซี เอเชีย แปซิฟิก จำกัด เปิดเผยว่าภายในงานคอมมาร์ต ไทยแลนด์ 2011 ระหว่างวันที่ 17-20 มีนาคม 2554 นี้ ทางฟูจิตสึได้เตรียมโปรโมชั่นเด็ดไว้สำหรับบรรดาผู้ที่กำลังมองหาคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กประสิทธิภาพสูงคุณภาพเป็นเลิศ โดยทางฟูจิตสึได้จัดโปรโมชั่นโน้ตบุ๊กราคาพิเศษหลากหลายรุ่น พร้อมผ่อน 0% กับหลายสถาบันการเงินที่ร่วมรายการ โดยมีไฮไลท์เด่น 2 รุ่นคือ ฟูจิตสึไลฟ์บุ๊ก LH531UBK มาพร้อมกับโปรเซสเซอร์ใหม่ล่าสุดของอินเทลเจนเนอเรชั่น 2 Intel® Core™ i5-2410M หน้าจอ 14 นิ้ว แรม 2GB DDR3 1333MHz ฮาร์ดดิสก์ 500GB พร้อมรับประกัน 2 ปี ราคาพิเศษ 21,900 บาท(ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) จากราคาปกติ 25,900 บาท(ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) พร้อมผ่อน 0% นาน 10 เดือน และรับฟรี Carry Case จำนวนจำกัดเพียง 100 เครื่องต่อวันเท่านั้น และฟูจิตสึไลฟ์บุ๊ก LH530VI3 โปรเซสเซอร์ Intel® Core™ i3-380M หน้าจอ 14 นิ้ว การ์ดจอแยก ATI Radeon HD 5430 แรม 2GB DDR3 1066MHz ฮาร์ดดิสก์ 500GB พร้อมรับประกัน 2 ปี ราคาพิเศษ 14,900 บาท(ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) จากราคาปกติ 19,900 บาท(ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) พร้อมผ่อน 0% นาน 6 เดือน และรับฟรี Carry Case จำนวนจำกัดเพียง 300 เครื่องเท่านั้น สำหรับงานคอมมาร์ต ไทยแลนด์ 2011

ฟูจิตสึยึดมั่นที่จะส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัยสูงให้แก่ผู้บริโภคด้วยการปฏิบัติตามกฎของ European Union’s Restriction of Hazardous Substances directive (RoHS) ที่ฟูจิตสึนำมาใช้กับผลิตภัณฑ์ทุกชนิดของบริษัท นอกจากนี้ฟูจิตสึยังได้ตั้งข้อปฏิบัติที่เกินกว่ามาตรฐานที่ RoHs กำหนดไว้ เพื่อประโยชน์ของลูกค้าของฟูจิตสึอย่างแท้จริง และเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น ฟูจิตสึได้ปฏิบัติตามแนวคิดเรื่องเทคโนโลยีสีเขียวอย่างเคร่งครัด โดยการผลิตเครื่องที่ประหยัดพลังงาน ฟูจิตสึยังได้เข้าร่วมขบวนการต่อสู้เพื่อรักษ์โลกโดยการเป็นสมาชิกของ Climate Servers อีกด้วย
เพื่อเป็นการฉลองฟูจิตสึครบรอบ 75 ปี ในปีนี้ กับสโลแกนใหม่ “Shaping tomorrow with you” คือสัญญาที่ฟูจิตสึให้กับลูกค้าคนสำคัญ โดยมุ่งเน้นในการสร้างอนาคตเพื่อเติบโตไปพร้อมกับลูกค้าผ่านผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีที่สุด ฟูจิตสึเป็นผู้นำการให้บริการ ICT-based โซลูชั่นทางธุรกิจในระดับโลก โดยการเป็น “One Fujitsu” ซึ่งเป็นการรวมผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ของฟูจิตสึ คือ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก ซึ่งก็คือ โน้ตบุ๊ก LIFEBOOK และ ESPRIMO คอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะที่ประหยัดพลังงาน ดังปณิธานของฟูจิตสึที่จะสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่องในระดับสูงสุด

View :1426
Categories: Press/Release Tags: ,

เอชทีซีติดปีกยกระดับเทคโนโลยีเซอร์วิสรูปแบบใหม่ เปิดตัว htcsense.com

March 13th, 2011 No comments

ให้ผู้ใช้รีโมทสั่งการมือถืออย่างครบสูตรผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์

เอชทีซี (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดบริการ Sense.com บริการเสริมศักยภาพการใช้งานมือถือเอชทีซีผ่านระบบคลาวด์ นำร่องประเดิมด้วยรุ่น HTC Desire HD สมาร์ทโฟนรุ่นท็อป ตอบสนองไลฟ์สไตล์ผู้ใช้สมาร์ทโฟน ในการสำรองข้อมูลพร้อมใช้ไว้บนเว็บไซต์ได้อย่างรวดเร็ว พร้อมระบบ A-GPS และระบบดาวเทียม สามารถสั่งงาน และควบคุม และดูความเคลื่อนไหวของโทรศัพท์มือถือจากระยะไกลได้
นายณัฐวัชร์ วรนพกุล ผู้จัดการประจำประเทศไทย เอชทีซี (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า “บริการ ถูกออกแบบมาเพื่อให้สมาร์ทโฟนจากเอชทีซีเป็นอุปกรณ์การใช้งานที่รู้ใจ เสมือนเป็นอวัยวะหนึ่งของชีวิตอย่างแท้จริง นอกเหนือจากการควบคุมการใช้งานจากหน้าจอสัมผัสผ่าน HTC Sense วันนี้เรายังสามารถควบคุมการทำงานบางส่วนของโทรศัพท์มือถือผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ จากระบบนำวิถีการควบคุมระยะไกลในรูปแบบออนไลน์คลาวด์คอมพิวติ้ง เช่น กรณีลืมเครื่องไว้ที่ไหนสักที่หนึ่ง สามารถสั่งงานให้ริงโทนดังได้ หรือเปลี่ยนจากระบบสั่นเป็นเสียง เพื่อให้เราได้รู้ได้ว่าเราลืมเครื่องไว้ที่ใด หรือหากโทรศัพท์มือถือหาย เราสามารถรู้จากแผนที่บนหน้าจอคอมฯได้เลยว่าขณะนี้โทรศัพท์มือถืออยู่พื้นที่ใด และเคลื่อนตัวไปทางไหน โดยเราสามารถส่งข้อความเช่นสถานที่ในการนัดให้ผู้เก็บได้เอาโทรศัพท์มือถือมาคืน หรือสามารถป้อนคำสั่งลบข้อมูลทั้งหมดในโทรศัพท์มือถือและการ์ดหน่วยความจำได้อีกด้วย”
นอกจากนี้ หากลืมโทรศัพท์มือถือไว้ที่บ้านเรายังสามารถสั่งให้โทรศัพท์มือถือโอนสายมายังเลขหมายอื่นได้อีกด้วย ตลอดจนสามารถเก็บข้อมูลของโทรศัพท์มือถือ เช่น การสำรองเลขหมายโทรศัพท์ และข้อความสำคัญๆ เช่นอวยพรวันเกิด เลขที่บัญชีธนาคาร ไว้บนเว็บไซต์ htcsense.com ในรูปแบบส่วนตัวพร้อมระบบซีเคียวริตี้เพื่อความปลอดภัยของข้อมูลคุณ เพื่อความสะดวกในการเรียกซิ้งค์ข้อมูลได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของโลกก็ตาม
ปัจจุบันเทคโนยีคลาวด์คอมพิวติ้งเข้ามายังชีวิตประจำวันเราโดยไม่รู้ตัว เช่น เฟสบุ๊ก ทวิตเตอร์ จีเมล ซึ่งข้อมูลต่างๆ ของเราถูกฝากไว้บนเซิฟเวอร์ที่เราไปใช้ หรือคราวด์ คอมพิวติ้ง เพื่อให้เราสามารถเรียกดู หรือใช้งานเมื่อไรก็ได้ ในทุกๆ ที่ที่มี มือถือ คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต ที่ความเร็วต่ำสุดอย่าง GPRS ดังนั้น htcsense.com ถือเป็นอีกบริการหนึ่งที่ทางเอชทีซีตั้งใช้ให้ผู้บริโภคได้ใช้งานผลิตภัณฑ์ของเอชทีซีได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รู้ใจ เข้าถึงความเป็น You และ sense ส่วนตัวของผู้ใช้ได้อย่างอิสระ

View :1246
Categories: Press/Release Tags:

ผู้ประกอบการไทยได้เฮ เมื่อ TARAD.com ส่งสินค้าไทยออกไปรุกฆาตตลาดโลก

March 13th, 2011 No comments

จากการร่วมมือกันของ , Rakuten group, กรมส่งเสริมการส่งออก และองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น ในวันที่ 11 มีนาคม พ.ศ.2554 ทำให้เกิดกิจกรรมที่เป็นผลประโยชน์ต่อธุรกิจ sme ในประเทศไทย ซึ่งได้จัดโครงการช่วยเหลือผู้ประกอบการ sme โดยมีจุดมุ่งหมาย ให้ผู้ประกอบการชาวไทยสามารถค้าขายได้กับทั่วโลก โดยเปิดพื้นที่บนเว็บไซต์  เพื่อให้ผู้ประกอบการได้เข้ามาเปิดร้านค้าออนไลน์โดยที่ทาง  จะคัดเลือกร้านค้าที่มีศักยภาพสูงพอที่จะทำการค้าขายกับต่างประเทศได้ โดยเฉพาะกับประเทศญี่ปุ่น ซึ่งร้านค้าที่ได้รับคัดเลือกจะได้รับสิทธิประโยนช์มากมายรวมไปถึงสัมนา work shop ฟรีเพื่อเตรียมความพร้อมในการส่งสินค้าออกสู่ต่างประเทศซึ่งผลที่จะได้รับตามมาคือการดึงเม็ดเงินกลับเข้าสู่ประเทศไทยในขณะเดียวกันก็สามารถเติบโตในตลาดโลกได้อย่างยั่งยืน โดยคุณ โทชิยะ มัตซึโอะ CEO ของบริษัท  ได้เปิดเผยว่า “ปัจจุบันธุรกิจ sme ต้องเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงจากต้นทุนการผลิตที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งภาระจะตกอยู่กับผู้ประกอบการ แต่ในขณะเดียวกันตัวเลขการส่งออกของธุรกิจ sme ในประเทศไทยมีการขยายตัวขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะการส่งออกไปประเทศญี่ปุ่นในช่วงที่ผ่านมาขยายตัวขึ้นถึง 19.2 % ดังนั้นเราจึงเล็งเห็นโอกาสที่จะช่วยเหลือให้ผู้ประกอบการsme ในประเทศไทยได้ขยายตลาดไปสู่ทั่วโลก ซึ่งที่ผ่านมาเราได้มีโครงการนำสินค้าจากญี่ปุ่นส่งมาขายที่เมืองไทยและประสบความสำเร็จในระดับที่น่าพึงพอใจ แต่ครั้งนี้เราจะนำสินค้าไทยส่งขายไปยังต่างประเทศทั่วโลกและเชื่อว่าการขยายตลาดสำหรับผู้ประกอบการ sme ในครั้งนี้จะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน ซึ่งจะผลักดันธุรกิจ sme ไทยให้ก้าวเข้าไปสู่ระดับโลกได้ในไม่ช้า เนื่องจากเรามีพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่าง องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น(JETRO) และ กรมส่งเสริมการส่งออก(DEP) ที่คอยสนับสนุน”
นอกจากนี้ TARAD.com ยังมีการจัดสัมนาฟรีในวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ.2554 ณ. โรงแรมเรอเมอร์ริเดียน เชียงใหม่ ตั้งแต่เวลา 9.00 น. -18.00 น. โดยเนื้อหาเกี่ยวกับแนวโน้มและผลประโยชน์ในธุรกิจ sme ในอนาคตเมื่อก้าวไปสู่ระดับโลก ซึ่งผู้ประกอบการ sme ท่านใดที่สนใจก็สามารถเข้าร่วมฟังสัมนาได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด        

View :1492
Categories: Press/Release Tags:

ก.ไอซีที ประกาศผลรางวัลการประกวดผลงานวิจัย “ICT Award 2010”

March 10th, 2011 No comments

นายวรพัฒน์ ทิวถนอม รองปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประกาศผลรางวัลการประกวดผลงานวิจัย “ ” ว่า กระทรวงฯ ได้ดำเนินกิจกรรมส่งเสริมงานวิจัยและพัฒนาเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้อุตสาหกรรม ICT ไทย ระยะที่ 2 หรือ โครงการ “ ” ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2553 ที่ผ่านมา จนสามารถคัดเลือกผลงานวิจัยที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายจำนวน 20 ผลงาน และได้จัดกิจกรรมการนำเสนอผลงานวิจัยที่ได้รับการคัดเลือกโดยเจ้าของผลงานต่อคณะกรรมการประเมินผลงานวิจัยไปเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2554

“คณะกรรมการประเมินผลงานได้ทำการพิจารณาคัดเลือกผลงานวิจัยเพื่อรับรางวัลที่ 1 , 2 , 3 และรางวัลชมเชยเรียบร้อยแล้ว ซึ่งผลงานที่ชนะการประกวดผลงานวิจัย “ICT Award 2010 ” ในครั้งนี้ จะได้รับทั้งเงินรางวัลและเกียรติบัตร โดยรางวัลที่ 1 ได้รับเงินรางวัล จำนวน 30,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร แบ่งเป็นประเภทฮาร์ดแวร์ 1 รางวัล คือ ผลงานเครื่องตรวจบัตรเครดิตด้วยหลักการประมวลผลภาพหลายความยาวคลื่น ส่วนประเภทซอฟต์แวร์ 1 รางวัล คือ ผลงานซอฟต์แวร์ช่วยวางแผนการผ่าตัดรากฟันเทียม สำหรับรางวัลที่ 2 ได้รับเงินรางวัล จำนวน 20,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร แบ่งเป็นประเภทฮาร์ดแวร์ 1 รางวัล คือ ผลงานชื่อ Development of Compact Microstrip Antennas Using Metamaterials และประเภทซอฟต์แวร์ 1 รางวัล คือ ผลงานชื่อ ซอฟต์แวร์ Web Application ระบบบริหารจัดการงานบำรุงรักษาเครื่องจักรแบบทวีผลสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม

รางวัลที่ 3 เงินรางวัล จำนวน 10,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร แบ่งเป็นประเภทฮาร์ดแวร์ 2 รางวัล คือ ผลงานชื่อ โครงการการออกแบบและพัฒนาสายอากาศ Radio Frequency Identification (RFID) สำหรับระบบการลงทะเบียนสัตว์ และผลงานชื่อ การสร้างสัญญาณอลวนด้วยแบบจำลองอนุพันธ์ของความเร่งที่มีอันดับชนิดแยกลำดับส่วน โดยใช้ความไม่เป็นเชิงเส้นของไฮเพอร์โบลิกแทนเจนต์ ส่วนประเภทซอฟต์แวร์ 1 รางวัล คือ ผลงานชื่อ ระบบจัดการข้อมูลส่วนบุคคลโดยใช้เสียงพูดบนโทรศัพท์เคลื่อนที่ ( VAPO) และรางวัลชมเชยจำนวน 9 รางวัล แบ่งเป็นประเภทฮาร์ดแวร์ 3 รางวัล และประเภทซอฟต์แวร์ 6 รางวัลจะได้รับเป็นเกียรติบัตร” นายวรพัฒน์ กล่าว

ด้าน นายไชยยันต์ พึ่งเกียรติไพโรจน์ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า กระบวนการคัดเลือกผลงานวิจัยครั้งนี้แบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอน คือ 1.การประชาสัมพันธ์เชิญชวนร่วมส่งผลงานวิจัยและรวบรวมผลงานวิจัย ซึ่งแบ่งงานวิจัยออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ โดยสามารถรวบรวมผลงานวิจัยได้จำนวน 202 ผลงาน 2.การคัดเลือกผลงานวิจัยโดยคณะกรรมการประเมินผลงานวิจัย ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญด้าน ICT จากภาคการศึกษา ภาครัฐ และเอกชน ซึ่งได้กลั่นกรองผลงานวิจัยเข้าสู่รอบสุดท้ายจำนวน 20 ผลงาน 3.การนำเสนอผลงานและการประกาศผล โดยนักวิจัยที่เข้าสู่รอบสุดท้ายจะต้องนำเสนอผลงานต่อคณะกรรมการประเมินผลงานวิจัยเพื่อตัดสิน

สำหรับโครงการ ICT Award 2010 นี้เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมงานวิจัยด้านการพัฒนากำลังคนที่มีคุณภาพ และก่อให้เกิดผลงานวิจัยที่สร้างสรรค์ ซึ่งนำไปสู่การสร้างรายได้และเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งนอกจากกิจกรรมการประกวดแล้ว กระทรวงฯ ยังได้ร่วมกับหน่วยงานภาคี อาทิ กระทรวงศึกษาธิการ สถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษา สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงการคลัง สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงแรงงาน สมาคมวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น ดำเนินกิจกรรมการฝึกอบรมทักษะ การศึกษาดูงาน การฝึกงาน การถ่ายทอดเทคโนโลยี การสนับสนุนชุมชนเครือข่าย เช่น Open Source Embedded Software เพื่อพัฒนากำลังคนด้าน ICT รวมทั้งบุคคลทั่วไปด้านการสร้างสรรค์ และผลิตงานอย่างมีวิจารณญาณอีกด้วย

View :1349
Categories: Press/Release Tags:

สาวกเอไอเอส ไอโฟน ดูข้อมูลตลาดการเงินทั่วโลก ฟรี !

March 10th, 2011 No comments

(9 มีนาคม 2554) เอไอเอสเอาใจลูกค้าคอหุ้น ด้วยแอพพลิเคชั่นพิเศษ “” บนเอไอเอส ไอโฟน ช่วยให้ผู้ใช้งานได้เกาะติดความเคลื่อนไหวของ ตลาดการเงินทั่วโลกได้ฟรี! มีให้เลือกดูทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ด้วยข้อมูลที่อัพเดทแบบเรียลไทม์ ทั้งจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ ตลาดหุ้น ต่างประเทศกว่า 160 ตลาดทั่วโลก รวมถึง ตลาดกองทุนรวม , ตลาดปริวรรตเงินตรา , ตลาดน้ำมันและโลหะมีค่า ฯลฯ อีกทั้งสามารถสร้าง Watch List ที่สนใจและ Portfolios ของตนเองได้ ถือเป็นแอพฯ ทางการเงินที่ครบเครื่องที่สุด ที่เหล่านักลงทุนและคนเล่นหุ้นไม่ควรพลาด โดย ลูกค้าเอไอเอส ผู้ใช้ไอโฟน ดาวน์โหลดแอพฯ ฟรี ! ได้แล้ววันนี้ ผ่านทาง App Store

View :1331
Categories: Press/Release Tags: ,

ปอศ.เผยทิศทางการป้องกันและปราบปราม คดีละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ ปี 54

March 10th, 2011 No comments

มุ่งเป้าไปที่โรงงานผลิตสินค้า ออกแบบ สถาปนิก และก่อสร้าง

กองบังคับการปราบปรามและการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ( ปอศ. ) เผยทิศทางการจับกุมองค์กรธุรกิจที่ละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ปี 2554 มุ่งเป้าไปที่ โรงงานผลิตสินค้า ธุรกิจด้านการออกแบบ ธุรกิจสถาปนิก และธุรกิจก่อสร้าง เนื่องจากสถิติที่ผ่านมา พบอุตสาหกรรมดังกล่าวมีอัตราการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์สูง

พ.ต.อ. ชัยณรงค์ เจริญไชยเนาว์ รองผู้บังคับการ กองบังคับการปราบปรามและการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ( บก. ปอศ. ) กล่าวว่า “ จากสถิติการตรวจค้นการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาพบว่า กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์สูงที่สุด ได้แก่ โรงงานผลิตสินค้า ธุรกิจด้านการออกแบบ ธุรกิจสถาปนิก และธุรกิจก่อสร้าง ดังจะเห็นได้จาก ในปี 2553 ปอศ.ได้ทำการสืบสวนสอบสวนและเข้าตรวจค้นโรงงานผลิตสินค้าเกือบ 50 แห่ง ที่ใช้ซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ในการดำเนินธุรกิจ คิดเป็นร้อยละ 38 ข องการตรวจค้นการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ทั้งหมด และยังมีบริษัทออกแบบและสถาปนิกเกือบ 40 แห่ง ที่ถูกตรวจค้นในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ เนื่องจากประเทศไทยมีโรงงานอุตสาหกรรมจำนวนมาก และยังขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์กันค่อนข้างมาก จึงทำให้เกิดการละเมิดลิขสิทธิ์กันอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุด กองบังคับการปราบปรามและการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ( ปอศ. ) เผยทิศทางการจับกุมองค์กรธุรกิจที่ละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ปี 2554 โดยมุ่งเป้าไปที่ โรงงานผลิตสินค้า ธุรกิจด้านการออกแบบ ธุรกิจสถาปนิก และธุรกิจก่อสร้าง เนื่องจากมีหลักฐานว่าเป็นอุตสาหกรรมมีการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์มากกว่าอุตสากรรมอื่นๆ ดังนั้น จึงขอให้ผู้ดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมดังกล่าวได้ดำเนินการตรวจสอบการใช้ซอฟต์แวร์ภายในองค์กร เพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้ละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ และในปีนี้รัฐบาลมีแผนที่จะผลักดันและบังคับใช้กฎหมายเพื่อคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาอันเป็นองค์ประกอบสำคัญยิ่งของเศรษฐกิจไทยอีกด้วย

โดยทาง ปอศ. หวังว่าการมุ่งเป้าไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมดังกล่าว จะช่วยลดอัตราการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ในประเทศไทยลงได้ ซึ่งถ้าประเทศไทยสามารถลดการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ลงได้เร็ว จะส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศไทยโตเร็วขึ้นอีกด้วย

สำหรับผู้ที่ต้องการแจ้งเบาะแสการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ ผ่านทางสายด่วนหมายเลขโทรศัพท์ 0-2714-1010 หรือผ่านทางเว็บไซต์ www.stop.in.th มีสิทธิ์ได้รับเงินรางวัลสูงสุดถึง 250,000 บาท ข้อมูลของผู้แจ้งจะถูกเก็บไว้เป็นความลับ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.stop.in.th

View :1450
Categories: Press/Release Tags:

หลักทรัพย์บัวหลวงปั้น App ใหม่ “ Bualuang iChannel ” เสิร์ฟทุกข้อมูลการลงทุนสู่ผู้ใช้ iPhone

March 10th, 2011 No comments

หลักทรัพย์บัวหลวงเปิดตัว “ ” แอพพลิเคชั่นที่พร้อมเสิร์ฟทุกข้อมูลข่าวสารด้านการลงทุนสู่มือผู้ใช้ iPhone ให้ไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหวการลงทุนแบบทุกที่ทุกเวลา ประเดิมช่วงแรกโหลดผ่าน App Store ใช้งานได้ฟรี

นายบรรณรงค์ พิชญากร กรรมการผู้จัดการ กิจการค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าจากกระแสความนิยมการใช้งานแอพพลิเคชั่นบน iPhone ที่ขยายตัวอย่างมากในปัจจุบันและความต้องการของนักลงทุนที่ต้องการเข้าถึงข้อมูลอย่างรวดเร็ว หลักทรัพย์บัวหลวงจึงได้พัฒนาแอพพลิเคชั่น “ Bualuang iChannel ” ที่สามารถใช้งานบน iPhone , iPad และ iPod Touch ได้ เพื่อเป็นช่องทางให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงทุกข้อมูลข่าวสารเรื่องการลงทุนจากหลักทรัพย์บัวหลวงได้สะดวกรวดเร็วทุกที่ทุกเวลา

“จากข้อมูลเชิงสถิติพบว่านักลงทุนที่ซื้อขายหุ้นผ่านโทรศัพท์มือถือ 90% ทำรายการบน iPhone และด้วยความต้องการข้อมูลการลงทุนที่รวดเร็วของนักลงทุน Bualuang iChannel จึงได้รับการพัฒนาเพื่อเป็นศูนย์กลางข้อมูลการลงทุนครบวงจรสำหรับนักลงทุน โดยเน้นฟังก์ชั่นการนำเสนอข้อมูลที่ใช้งานง่าย สะดวก ไม่ซับซ้อน เป็นประโยชน์และตรงกับการใช้งานจริงของนักลงทุนให้มากที่สุด” นายบรรณรงค์ กล่าว

ด้วยฟีเจอร์หลักของ Bualuang iChannel นักลงทุนสามารถรับชม Research live briefing ได้ทั้งภาพและเสียง รวมถึงสามารถดูกราฟราคาหุ้นที่แสดงบนหน้าจอนักวิเคราะห์ไปพร้อมๆ กับฟังคำแนะนำซึ่งจะช่วยให้นักลงทุนมีความเข้าใจมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถเลือกรับชมวิดีโอย้อนหลังได้อีกด้วย ซึ่งจะตอบโจทย์กลุ่มผู้ใช้ 3G และ wifi ส่วนผู้ใช้งานที่ผ่านระบบ Edge/GPRS ก็สามารถเลือกรับฟังเสียงอย่างเดียวได้เช่นกัน

Bualuang iChannel ยังเป็นศูนย์กลางข้อมูลบทวิเคราะห์ที่หลากหลาย ทั้งบทวิเคราะห์ภาวะการลงทุน การวิเคราะห์พื้นฐานหุ้นรายตัว และการวิเคราะห์เชิงเทคนิคจากหลักทรัพย์บัวหลวง ซึ่งผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงข้อมูลล่าสุดได้ตลอดเวลา

ยิ่งไปกว่านั้น Bualuang iChannel ยังมีฟังก์ชั่นข่าวที่อัพเดทตลอดเวลาทั้งข่าวตลาดหลักทรัพย์ฯ และข่าวจาก InfoQuest ที่สามารถตั้ง Breaking news alert เลือกหลักทรัพย์ที่สนใจเพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของหลักทรัพย์นั้น นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชั่น Ccorporate action calendar ซึ่งจะรายงานความเคลื่อนไหวของบริษัทจดทะเบียนที่แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ เช่น การประกาศจ่ายปันผล และการขึ้นเครื่องหมายต่างๆ เป็นต้น

“ในช่วงแรกของการเปิดตัว Bualuang iChannel หลักทรัพย์บัวหลวงเปิดให้ผู้สนใจดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นนี้จาก App store ฟรี ดังนั้นผู้ที่ไม่เคยลงทุนก็สามารถสัมผัสประสบการณ์ เรียนรู้พร้อมกับซึมซับบรรยากาศการลงทุนโดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีค่าใช้จ่ายแต่ อย่างใด” นายบรรณรงค์ กล่าวตอนท้าย

View :2353
Categories: Press/Release Tags: