Archive

Archive for September, 2011

งานประชุมวิชาการและนิทรรศการประจำปี (NECTEC-ACE 2011) ภายใตัหัวข้อ IT in Thailand: NECTEC “25 Years and Beyond”

September 9th, 2011 No comments

เนื่องในโอกาสครบรอบวันคล้ายวันสถาปนา ๒๕ ปี ของศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ หรือเนคเทค จึงได้จัดงานประชุมวิชาการและนิทรรศการประจำปี ) ภายใตัหัวข้อ IT in Thailand: NECTEC “25 Years and Beyond” ในระหว่างวันที่ ๑๔-๑๖ กันยายน ๒๕๕๔ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมการประชุมวิชาการและนิทรรศการ ได้รับทราบความก้าวหน้าจากการเสนอผลงานการวิจัยและพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ในสาขาต่างๆ ตลอดจนเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์ระหว่างนักวิชาการในภาค รัฐ และเอกชน ตลอดจนบุคลากรทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจากทั่วประเทศ จะได้แลกเปลี่ยนความ เห็นและประสบการณ์กับนักวิจัยที่มีชื่อเสียงในระดับชาติและนานาชาติ

ภายในงาน ยังมีการจัดนิทรรศการ การบรรยาย การสัมมนาเชิงปฏิบัติการ และ การจัดประชุมวิขาการที่น่าสนใจอีกหลายหัวข้อ อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศในอนาคต

ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) ประกาศความพร้อมจัดงานครั้งยิ่งใหญ่ โชว์ศักยภาพผลงานวิจัยเทคโนโลยีล่าสุดเพื่อต่อยอดสู่อนาคต ในงานประชุมวิชาการและนิทรรศการของเนคเทคเนื่องในโอกาสครบรอบ ๒๕ ปี หรือ NECTEC-ACE 2011 ภายใต้หัวข้อ IT in Thailand: NECTEC “25 Years and Beyond” โดยจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑๔-๑๖ กันยายน ๒๕๕๔ ณ ห้องบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว

จุดเด่นของงานในครั้งนี้ ประกอบไปด้วย การจัดแสดงนิทรรศการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และผลงานวิจัยของเนคเทคที่ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรจำนวนมาก อาทิ Smart Health, Smart Farm, Digitize Thailand, และ Smart Service ตลอดจนการประชุมวิขาการ การสัมมนา และสัมมนาเชิงปฏิบัติการในหัวข้อต่างๆ อาทิ อนาคตของอินเทอร์เน็ตและบทบาทในการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของประชาชน (Internet of the Things: The Future of Internet) เป็นต้น

“ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ หรือเนคเทค เป็นองค์กรที่มุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนาเพื่อตอบสนองปัญหาเร่งด่วนของประเทศและสร้างองค์ความรู้เพื่อเป็นฐานการพัฒนาเทคโนโลยีของประเทศในระยะยาว สนับสนุนและส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาบุคลากรในระดับต่างๆ และโครงสร้างพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เป็นพื้นฐานอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าเพิ่มสูง

โดยในปี ๒๕๕๔ นี้เป็นปีที่เนคเทคก่อตั้งมาครบ ๒๕ ปีแล้ว เนคเทคจึงได้กำหนดจัดงานประชุมวิชาการและนิทรรศการขึ้น เพื่อให้ผู้เข้าร่วมการงานได้มีโอกาสรับทราบความก้าวหน้าจากการเสนอผลงานการวิจัย พัฒนาทางด้านอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ในสาขาต่างๆ เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนระดมความคิดเห็นและประสบการณ์ ระหว่างนักวิชาการในภาครัฐและเอกชนอันจะนำไปสู่แนวทางการวิจัย และเปิดโอกาสให้บุคลากรทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจากทั่วประเทศได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์กับนักวิจัย ที่มีชื่อเสียงในระดับชาติและนานาชาติ ซึ่งเนคเทคได้รับเกียรติอย่างสูงจากท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี มาเป็นประธานเปิดงานและกล่าวปาฐกถาพิเศษในโอกาสนี้ด้วย.” ดร.พันธ์ศักดิ์ ศิริรัชตพงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีอีเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ กล่าว

สำหรับกิจกรรมสัมมนาและการบรรยาย มีหัวข้อที่น่าสนใจอาทิ รูปแบบใหม่ในการปฏิวัติการบริการสาธารณสุขของประเทศไทย และตัวอย่างความสำเร็จของ e-Health ที่ส่งตรงถึงผู้บริโภค, การปรับตัวของประเทศเกษตรกรรมในยุคของเศรษฐกิจฐานบริการด้วย Service Research Innovation, และการจัดการพลังงานด้วยโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ ตลอดจนการแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากผู้เชี่ยวชาญชั้นนำระดับนานาชาติในการก้าวเข้าสู่โลกดิจิทัลและการดำรงรักษาเอกลักษณ์ไทยในศตวรรษที่ ๒๑ และงานเสวนาต่างๆ อีกมากมาย

นอกจากนี้ ยังมีนิทรรศการที่น่าสนใจ อาทิ นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ ๘๔ พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช โครงการไอทีตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ผลงานการวิจัยพัฒนาทั้งด้านนโยบาย เทคโนโลยี และการต่อยอดงานบริการเชิงธุรกิจของเนคเทค ตั้งแต่ยุคเริ่มก่อตั้งจนถึงปัจจุบัน รวมถึงแสดงผลงานของหน่วยงานพันธมิตร ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและสถาบันการศึกษาต่างๆ ที่พร้อมนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ๆ อีกด้วย

“นอกเหนือจากหัวข้องานประชุมวิชาการที่เข้มข้นและนิทรรศการที่แสดงถึงเส้นทางการวิจัยและพัฒนาของเนคเทคที่มีมาตลอดระยะเวลา ๒๕ แล้ว ไฮไลน์สำคัญงานก็ยังมีการเปิดตัว NECTEC Mobile Application จำนวน ๓๐ผลงาน ซึ่งเป็นการนำเอาองค์ความรู้ของนักวิจัยเนคเทคมาพัฒนาเป็น Application เพื่อให้สังคมไทยนำไปใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ” ดร.กว้าน สีตะธนี รองผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีอีเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ กล่าว

ผู้ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมภายในงาน สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.nectec.or.th หรือสอบถามข้อมูลได้ที่ NECTEC Call Center โทร. ๐๒-๕๒๔๙๒๐๐

View :2063
Categories: Seminar Tags:

ก.ไอซีที ระดมความคิดเห็นสร้างบริการภาครัฐยุคใหม่บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง

September 9th, 2011 No comments

นาวาอากาศเอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนา หัวข้อ “ทางเลือกรูปแบบธุรกิจโทรคมนาคม” ว่า เป็นโครงการที่มีเป้าหมายในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยเร่งรัดการขยายและยกระดับโครงข่ายสื่อสารความเร็วสูงให้ครอบคลุมและเพียงพอต่อการใช้บริการ และให้บริการด้วยคุณภาพที่เป็นมาตรฐาน ส่งเสริมการแข่งขันที่เท่าเทียมและเป็นธรรม รวมทั้งประชาชนสามารถเข้าถึงบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงด้วยราคาที่เหมาะสม เพื่อสนับสนุนการพัฒนาประเทศไปสู่สังคมแห่งความรู้ ภูมิปัญญา นวัตกรรม และความคิดสร้างสรรค์ รวมทั้งช่วยลดความเหลื่อมล้ำระหว่างสังคมเมืองและชนบท สนับสนุนการเข้าถึงข้อมูลและข่าวสาร ยกระดับคุณภาพการศึกษาเพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการพัฒนาทรัพยากรบุคคลของประเทศ ตลอดจนลดการลงทุน ที่ซ้ำซ้อนและเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศในระยะยาว

เพื่อให้การดำเนินโครงการ SMART THAILAND บรรลุเป้าหมายที่ต้องการขยายโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงให้ครอบคลุมประชากรร้อยละ 80 ใน ปี พ.ศ. 2558 และให้ครอบคลุมประชากรร้อยละ 95 ในปี พ.ศ.2563 ด้วยอัตราค่าบริการที่เหมาะสม และส่งเสริมให้ผู้ประกอบการโทรคมนาคมภาคเอกชนสามารถใช้โครงข่ายร่วมกันอย่างเต็มประสิทธิภาพและเป็นธรรม รวมทั้งภาครัฐดำเนินการลงทุนโครงข่ายในส่วนที่ไม่คุ้มค่ากับการลงทุนและจัดหาบริการภาครัฐเพื่อให้บริการประชาชนอย่างทั่วถึง จึงจำเป็นต้องมีการจัดตั้งหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบในการขับเคลื่อนนโยบาย SMART THAILAND ให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้

“ในหลายๆ ประเทศ เช่น ประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย หรือ ออสเตรเลีย ที่ให้ความสำคัญการพัฒนาโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และได้มีการผลักดันนโยบายบรอดแบนด์เป็นวาระแห่งชาติเช่นเดียวกับประเทศไทย ก็ได้มีการจัดตั้งหน่วยงานในลักษณะดังกล่าวขึ้น โดยเรียกว่า National Broadband Network Company หรือ NBNCo ดังนั้น กระทรวงฯ จึงได้จัดการประชุมสัมมนา Smart Thailand หัวข้อ “ทางเลือกรูปแบบธุรกิจโทรคมนาคม” ครั้งนี้ขึ้น เพื่อนำเสนอทางเลือกในการจัดตั้งและรูปแบบการดำเนินงานของหน่วยงานที่มีหน้าที่ขับเคลื่อนนโยบาย SMART THAILAND ในด้านการขยายโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงให้ครอบคลุมทั่วประเทศ พร้อมทั้งรับฟังความคิดเห็นเพื่อนำมาประกอบการพิจารณาจัดทำแผนแม่บทของการพัฒนาโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ให้บรรลุเป้าหมายในการที่จะให้ประเทศไทยเป็น SMART THAILAND” น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว

การสัมมนาฯ ครั้งนี้ ได้มีการเชิญผู้บริหาร นักวิชาการ ผู้ทรงคุณวุฒิ จากหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน เข้าร่วมในการสัมมนากว่า 100 คน เพื่อรับทราบถึงแนวทางในการพัฒนาโครงข่ายและจัดตั้งหน่วยงานที่ดูแลโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในต่างประเทศ โดยกระทรวงฯ จะมีการนำเสนอแนวทางในการขยายโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงของประเทศไทย และทางเลือกในการจัดตั้งหน่วยงานที่จะขึ้นมาดูแลโครงข่ายฯ เพื่อสร้างความเข้าใจต่อแนวทางในการดำเนินโครงการฯ พร้อมกันนี้ ยังเปิดโอกาสให้มีการแสดงความคิดเห็นและร่วมอภิปรายแนวคิดดังกล่าว เพื่อนำไปพัฒนาแผนแม่บทในการพัฒนาโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงของประเทศไทยด้วย

“ในการดำเนินโครงการ SMART THAILAND นี้ กระทรวงฯ ได้มุ่งเน้นไปที่การขยายโครงข่ายเคเบิลใยแก้วนำแสงไปให้ถึงในทุกตำบลของประเทศไทยที่ปัจจุบันยังไม่มีโครงข่ายเข้าถึง เพื่อให้ชุมชน ภาคธุรกิจ และหน่วยงานราชการสามารถใช้บริการอินเทอร์เน็ตได้อย่างทั่วถึง ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวนั้นจำเป็นอย่างยิ่งจะต้องอาศัยความร่วมมือจากทั้งผู้ให้บริการโทรคมนาคมที่เป็นเจ้าของโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง หน่วยงานภาครัฐที่เป็นผู้ใช้งาน และองค์กรภาครัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกำหนดนโยบายและการกำกับดูแล จึงจะสามารถทำให้โครงการฯ นี้ ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ได้” น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว

View :1567

ทรู 006 เดินสายเชิญลูกค้าทดลองใช้ฟรี

September 9th, 2011 No comments

พิสูจน์คุณภาพบริการโทรทางไกลต่างประเทศระดับพรีเมี่ยม ได้แล้ววันนี้ โทรถึงกันทั่วโลก คมชัด ประหยัดจริง เริ่มต้นเพียงนาทีละ 3 บาท

เดินสายเชิญชวนลูกค้าทรูมูฟ ทรูมูฟ เอช และโทรศัพท์บ้านทรูทดลองใช้บริการทรู 006 บริการโทรทางไกลต่างประเทศคุณภาพพรีเมี่ยม ทดลองโทรฟรีได้ทั่วโลก! ตั้งเป้าเจาะกลุ่มลูกค้าธุรกิจ, เจ้าของกิจการ และลูกค้าทั่วไปที่มีความจำเป็นในการติดต่อสื่อสารกับต่างประเทศทั้งเรื่องธุรกิจและเรื่องส่วนตัว โดยจัดบูธให้ทดลองใช้บริการ 006 ฟรี ในย่านคอมมูนิตี้ มอลล์ และงาน SME Expo สามารถสัมผัสคุณภาพระดับมาตรฐานสากล ด้วยเทคโนโลยี Time Division Multiplexing (TDM) โทรทั่วโลกเสียงคมชัด ต่อติดง่าย สายไม่หลุด ไม่ดีเลย์ พิสูจน์คุณภาพ ด้วยตัวเองได้แล้ว ดังนี้

· วันที่ 10 -11 กันยายน เจ อเวนิว ทองหล่อ

· วันที่ 17 -18 กันยายน เดอะ เซอร์เคิล ราชพฤกษ์

· วันที่ 22 -25 กันยายน งาน SME Thailand (บูธ H11)

· วันที่ 1 – 2 ตุลาคม เดอะ คริสตัลพาร์ค ลาดพร้าว

ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมา ทรู 006 ประสบความสำเร็จอย่างงดงามในการออกเดินสายให้ลูกค้าได้ทดลองใช้บริการฟรีในย่านออฟฟิศทั่วกรุง โดยมีการทดลองใช้งานมากกว่า 1,000 ครั้ง โดยประเทศที่นิยมโทรไปได้แก่ ญี่ปุ่น จีน ฮ่องกง อเมริกา และอังกฤษ ซึ่งผู้ที่ได้ทดลองใช้พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ต่อติดเร็ว และเสียงคมชัด

ลูกค้าทรูมูฟ ทรูมูฟ เอช และโทรศัพท์บ้านทรู โทรต่างประเทศทั้งเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ เพียงกด 006 ก็ติดต่อถึงกันทั่วโลกได้เต็มที่กับโปรโมชั่นค่าโทรทางไกลสุดคุ้ม ประหยัดจริง เริ่มต้นเพียงนาทีละ 3 บาท ตลอด 24 ชั่วโมง สู่ปลายทางยอดนิยม เช่น อเมริกา แคนาดา จีน ฮ่องกง สิงคโปร์ บรูไน กวม อลาสกา และฮาวาย รวมทั้งค่าโทรสุดคุ้มอีกกว่า 230 ปลายทางทั่วโลก สอบถามอัตราค่าโทรได้ง่ายๆ ผ่านมือถือทรูมูฟ ฟรี! แค่กด *006* รหัสประเทศ# แล้วโทรออก

ลูกค้าที่สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ทรู คอลเซ็นเตอร์ 02 900 9000 กด 006, ทรูมูฟ แคร์ 1331, www.true006.com, และร้านทรูช็อป ทั่วประเทศ

View :1814
Categories: Press/Release Tags:

แอลจี เปิดตัวมือถือ LG Cookie Series ใหม่ แชร์ความสนุกถึงกันได้ไม่มีเอาท์ ดีไซน์สวยสมาร์ท พร้อมฟังก์ชั่น 2 ซิม

September 7th, 2011 No comments

บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวมือถือ สองรุ่นล่าสุด ทัชโฟน LG Cookie Duo และมือถือ LG Cookie Tweet พร้อมแป้นพิมพ์ Qwerty ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ คนรุ่นใหม่ที่ไม่ขาดสีสันและความสดใส ด้วยฟังก์ชั่น 2 ซิม พร้อมมัลติมีเดียและโซเชียลเน็ตเวิร์คครบครัน

LG Cookie Series สองรุ่นล่าสุด นับเป็นการต่อยอดความสำเร็จของมือถือในตระกูล LG Cookie ซึ่งเปิดตัวในตลาดไทยก่อนหน้านี้ โดยทั้ง 2 รุ่นยังคงเอกลักษณ์ในด้านดีไซน์ พร้อมคุณสมบัติด้านมัลติมีเดียและโซเชียลเน็ตเวิร์คเพื่อคนรุ่นใหม่ ในขณะเดียวกันก็เพิ่มฟังก์ชั่น 2 ซิมและฟีเจอร์ที่สมาร์ทไม่เหมือนใคร เพื่อตอบโจทย์การใช้งานได้ดียิ่งขึ้น

มือถือ LG Cookie Duo และ LG Cookie Tweet ให้คุณไม่พลาดทุกการติดต่อด้วยการรองรับ 2 ซิมการ์ดในเครื่องเดียว พร้อมระบบ Dual SIM Standby ที่รอรับสายได้พร้อมกัน และสลับการโทรออก ส่งเอสเอ็มเอส พร้อมเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตระหว่าง 2 ซิมได้ง่ายๆ ทั้งสองรุ่นยังรองรับ Wi-Fi ให้ท่องเว็บและดาวน์โหลดข้อมูลได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

LG Cookie Duo

รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้รวดเร็วยิ่งขึ้นด้วยบราวเซอร์ LG Webkit (Phontom 2.0) ใหม่ พร้อมโปรแกรม LG OSP ที่สามารถใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆ บนมือถือผ่านคอมพิวเตอร์ อาทิ การพิมพ์ข้อความ แชท และการถ่ายโอนเพลงและรูปภาพ นอกจากนี้ ยังมีอินเทอร์เฟซที่ออกแบบมาสำหรับโซเชียลเน็ตเวิร์คโดยเฉพาะ ทั้งเฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์ และ MSN และยังรองรับระบบพุชเมล์เพื่อทุกการติดต่อสำคัญ LG Cookie Duo มาพร้อมมัลติมีเดียด้วยจอสัมผัสขนาด 2.8 นิ้ว กล้อง 2 ล้านพิกเซล วิทยุเอฟเอ็ม เครื่องเล่น MP3 และยูทูบที่มาพร้อมตัวเครื่อง มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีแดง เงิน และดำ

LG Cookie Tweet

รองรับการใช้งานสังคมออนไลน์ได้อย่างเต็มที่ด้วยแป้นพิมพ์ Qwerty พร้อมระบบสั่นเตือนเมื่อปลายทางกดรับสาย และมีไฟ LED กระพริบเตือนหากมีสายที่ไม่ได้รับ หรือมีข้อความและอีเมล์ใหม่ LG Cookie Tweet ยังมาพร้อมแป้นพิมพ์ที่ช่วยผ่อนแรงในการกด และรูปทรงที่จับถนัดมือยิ่งขึ้น พร้อมคีย์ลัดเพื่อเข้าถึงฟีเจอร์ต่างๆ อาทิ การเช็คอีเมล์ เปิดเครื่องเล่น MP3 หรือเข้าสู่เฟซบุ๊คได้ทันที

มือถือ LG Cookie Series มีจำหน่ายแล้ววันนี้ LG Cookie Duo ราคา 2,790 บาท (แถมการ์ดความจำ 2GB) และ LG Cookie Tweet ราคา 2,990 บาท (แถมการ์ดความจำ 2GB) ข้อมูลเพิ่มเติมเข้าชมได้ที่ www.lg.com/th หรือติดต่อศูนย์บริการแอลจี โทร 02-878-5757 หรือหมายเลขโทรฟรี 1-800-545454

View :1910

ไอบีเอ็มเผยผลสำรวจ 3,000 ซีไอโอทั่วโลกเผยบทบาทที่เปลี่ยนไปของซีไอโอยุค2011 ชี้แนวโน้มบิสสิเนสอินเทลลิเจนซ์ โซลูชันสำหรับอุปกรณ์พกพา และคลาวด์คอมพิวติ้งมาแรง

September 7th, 2011 No comments

ไอบีเอ็มเผยผลการสำรวจความคิดเห็นของประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสารสนเทศ (ซีไอโอ)ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปีซึ่งชี้ให้เห็นวิสัยทัศน์ของซีไอโอทั่วโลกที่ใกล้เคียงกับวิสัยทัศน์ของซีอีโออย่างมีนัยสำคัญเป็นครั้งแรก บทบาทของซีไอโอและเทคโนโลยีในปัจจุบันทวีความสำคัญมากขึ้นอย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนในฐานะผู้สร้างนวัตกรรมและความสำเร็จทางธุรกิจให้แก่องค์กร ผลการสำรวจยังเผย “4 พันธกิจของซีไอโอ” หรือบทบาทหน้าที่ที่แตกต่างกันในสี่รูปแบบของซีไอโอยุคปัจจุบันซึ่งขึ้นอยู่กับจุดมุ่งหมายทางธุรกิจขององค์กร พร้อมชี้แนวโน้มเทคโนโลยีที่ซีไอโอทั่วโลกให้ความสำคัญ

นางพรรณสิรี อมาตยกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “ปัจจุบันผู้บริหารซีไอโอไม่ได้ถูกมองว่าเป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเท่านั้น แต่กลับทวีความสำคัญยิ่งขึ้นในฐานะคู่คิดและพันธมิตรขององค์กรสำหรับการขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน ไอทีไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องมือที่ใช้รองรับธุรกิจอีกต่อไป หากแต่เป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการเสริมสร้างความได้เปรียบด้านการแข่งขันและเป็นสิ่งที่ผสานรวมอยู่ในทุกแง่มุมขององค์กร จากผลสำรวจนี้ ซีไอโอที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคือซีไอโอที่สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเพื่อการสนองเป้าหมายทางธุรกิจขององค์กรได้อย่างตรงจุดมากที่สุด

“เป้าหมายของผลสำรวจของไอบีเอ็มที่รวมเอาความคิดเห็นของซีไอโอกว่า 3,000 คนทั่วโลก และซีไอโอจากบริษัทชั้นนำถึง 40 คนในประเทศไทยครั้งนี้ คือการช่วยให้ซีไอโอตระหนักรู้และมุ่งเน้นบทบาทของตนให้สอดคล้องกับเป้าหมายขององค์กร อันจะช่วยเสริมสร้างขีดความสามารถให้กับผู้บริหารซีไอโอทั่วโลก และช่วยให้องค์กรธุรกิจได้รับประโยชน์สูงสุดจากเทคโนโลยี” นางพรรณสิรีกล่าว

ปัจจุบัน ผู้บริหารระดับซีอีโอและซีไอโอให้ความสำคัญใน 3 ประเด็นหลักที่ตรงกันในการบริหารองค์กร นั่นคือ การเสริมสร้างความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับลูกค้า การพัฒนาทักษะของบุคลากร และการกลั่นกรองข้อมูลเชิงลึกจากข้อมูลทางธุรกิจที่มีอยู่ ส่วนในเชิงเทคโนโลยี ผลการศึกษาของไอบีเอ็มบ่งชี้ถึงเทคโนโลยีที่ซีไอโอให้ความสำคัญ ดังนี้

บิสซิเนสอินเทลลิเจนซ์ (Business Intelligence) และระบบวิเคราะห์ข้อมูล (Analytics)
4 ใน 5 ของซีไอโอทั่วโลก รวมถึงซีไอโอ 86 เปอร์เซ็นต์ในภูมิภาคอาเซียน มองว่าระบบบิสซิเนสอินเทลลิเจนซ์ (Business Intelligence) และระบบวิเคราะห์ข้อมูล (Analytics) มีความสำคัญสูงสุดสำหรับองค์กรธุรกิจในปัจจุบัน เนื่องจากองค์กรต้องรับมือกับข้อมูลที่เพิ่มขึ้นจำนวนมหาศาล

เทคโนโลยีคลาวด์คอมพิวติ้ง ()

เทคโนโลยีคลาวด์คอมพิวติ้งมีความสำคัญเพิ่มขึ้นเหนือภารกิจอื่นๆ ของซีไอโอ โดยซีไอโอถึง 57 เปอร์เซ็นต์ในภูมิภาคอาเซียน พร้อมที่จะปรับใช้คลาวด์คอมพิวติ้งในช่วง 5 ปีข้างหน้า เพื่อขยายธุรกิจให้เติบโตและเสริมสร้างความได้เปรียบด้านการแข่งขัน ซึ่งมากกว่าเกือบ 2 เท่าเมื่อเทียบกับผลการศึกษาของเมื่อ 2 ปีที่แล้ว

โซลูชันสำหรับอุปกรณ์พกพา (Mobility Solutions)
ซีไอโอให้ความสนใจเพิ่มมากขึ้นต่อโซลูชันสำหรับอุปกรณ์พกพา (Mobility Solutions) เพื่อก้าวให้ทันตลาดปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากอุปกรณ์พกพามีจำนวนเพิ่มขึ้นและมีฟังก์ชั่นการทำงานที่ดีขึ้น อีกทั้งจำนวนโมบายล์แอพพลิเคชั่นที่สนับสนุนการดำเนินธุรกิจและโอกาสใหม่ๆ ในตลาดก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นผู้บริหารซีไอโอเกือบ 3 ใน 4 รวมทั้ง 68% ของซีไอโอในภูมิภาคอาเซียน จึงมองว่าโซลูชันสำหรับอุปกรณ์พกพา เป็นเครื่องมือสำคัญที่จะพลิกเกมธุรกิจให้กับองค์กรได้อย่างแท้จริง

นอกเหนือจากนี้ ผลการสำรวจของไอบีเอ็มยังเปิดเผยถึงบทบาทหน้าที่ของซีไอโอในปัจจุบัน หรือ “4 พันธกิจของซีไอโอ” ซึ่งมีอยู่ทั้งหมดสี่กลุ่ม แต่ละกลุ่มแตกต่างกันออกไปตามความมุ่งหวังทางธุรกิจของแต่ละองค์กร พันธกิจที่แตกต่างกันของซีไอโอมิได้เป็นเครื่องชี้วัดผลกำไร ความก้าวหน้าหรือความสำเร็จขององค์กร ในทางกลับกัน เป้าหมายและความจำเป็นทางธุรกิจเป็นเครื่องกำหนดพันธกิจที่แตกต่างของซีไอโอ

พันธกิจของซีไอโอ แบ่งออกเป็น 4 ประเภท คือ
พันธกิจเพิ่มประสิทธิผล (Leverage) คือพันธกิจหลักของซีไอโอในองค์กรที่มองว่าบทบาทของไอทีคือการเพิ่มความคล่องตัวในระบบการปฎิบัติงานและเพิ่มประสิทธิภาพขององค์กร

พันธกิจเพิ่มขยาย (Expand) คือพันธกิจหลักของซีไอโอในองค์กรที่มองว่า บทบาทของไอทีคือการการปรับปรุงการจัดการระบบงานธุรกิจอย่างครบวงจรและเพิ่มการประสานงานภายในองค์กร องค์กรมุ่งหวังให้ใช้ไอทีเพื่อ re-engineer องค์กร ทำให้องค์กรทำงานได้เร็วขึ้น คล่องตัวสูงขึ้น และพร้อมที่จะเปลี่ยนข้อมูลที่มีอยู่เป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับองค์กร

พันธกิจการปฏิรูป (Transform) คือพันธกิจหลักของซีไอโอในองค์กรที่มองว่าบทบาทของไอทีคือการนำไอทีโซลูชันเช่น CRM มาตอบโจทย์และเพิ่มคุณค่าให้กับธุรกิจนั้นๆ ด้วยการเสริมสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าและคู่ค้า

พันธกิจผู้บุกเบิก (Pioneer)
คือพันธกิจหลักของซีไอโอในองค์กรที่มองว่าบทบาทของไอทีมีความสำคัญในการสร้างนวัตกรรมให้กับผลิตภัณฑ์ ช่องทางการตลาด รวมถึงรูปแบบของธุรกิจเพื่อเพิ่มคุณค่าให้กับองค์กร

จากผลการสำรวจ บริษัทที่มีผลประกอบการที่โดดเด่น คือบริษัทที่มีทีมผู้บริหารซีไอโอที่มุ่งเน้นพันธกิจทางด้านไอทีที่สอดคล้องกับธุรกิจ โดยองค์กรจะต้องระบุและสื่อสารอย่างชัดเจนเกี่ยวกับหน้าที่หรือ “พันธกิจ” ของผู้บริหารซีไอโอและทีมงาน ซึ่งพันธกิจที่แตกต่างกันตามความต้องการทางธุรกิจของแต่ละองค์กรนี้ สามารถใช้เป็นกลไกหลักสำหรับการพิจจารณาลงทุนด้านไอที การลงทุนด้านการพัฒนาทักษะที่บุคคลากรฝ่ายไอทีจำเป็นต้องแสวงหาและพัฒนาเพิ่มเติม

เกี่ยวกับผลการศึกษาซีไอโอประจำปี 2011

ผลการศึกษาซีไอโอประจำปี 2011 เป็นส่วนหนึ่งของผลการศึกษาเกี่ยวกับผู้บริหารระดับสูงของไอบีเอ็ม ( C-Suite Study Series) ซึ่งได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่โดยสถาบันเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจของไอบีเอ็ม ( Institute for Business Value) ผลการศึกษาซีไอโอทั่วโลก ) ประจำปี 2011 ของไอบีเอ็มเป็นผลการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้รับจากการสัมภาษณ์แบบตัวต่อตัวสำหรับผู้บริหารซีไอโอจากองค์กรทุกขนาดใน 71 ประเทศ และ 18 กลุ่มอุตสาหกรรม ภายใต้ชื่อ “The Essential CIO” โดยข้อมูลที่พบเน้นย้ำถึงบทบาทที่สำคัญมากขึ้นของซีไอโอในฐานะผู้นำด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรมและการเติบโตให้กับธุรกิจ ผลการศึกษาดังกล่าวตีพิมพ์เผยแพร่เนื่องในโอกาสครบรอบ 100 ปีของไอบีเอ็ม โดยบริษัทฯ เคยมีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้องค์กรต่างๆ เล็งเห็นถึงความจำเป็นของตำแหน่งซีไอโอในช่วงทศวรรษ 1950 และ 1960 ซึ่งเป็นยุคเริ่มแรกของเทคโนโลยีระบบประมวลผลในเชิงธุรกิจ และยกระดับตำแหน่งดังกล่าวในช่วงหลายทศวรรษต่อมาเพื่อให้ซีไอโอมีบทบาทสำคัญในการประชุมของผู้บริหารระดับสูง

View :1514

ทรูไอดีซี ผนึก ซอฟต์แวร์พาร์ค ประกาศผลโครงการ “ทรู คลาวด์ วินเนอร์”

September 7th, 2011 No comments

ทรูไอดีซี ร่วมกับ ซอฟต์แวร์พาร์ค ประกาศผลโครงการ “” ซึ่งจัดขึ้นเพื่อส่งเสริมการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ทำงานบนระบบคลาวด์ คอมพิวติ้งให้หลากหลายมากขึ้น เฟ้นหานักพัฒนาซอฟต์แวร์บนคลาวด์ คอมพิวติ้งรายแรกในไทย เดินหน้าเพิ่มศักยภาพนักพัฒนาซอฟต์แวร์ไทยเติบโตสู่ตลาดโลก ปั้นซอฟต์แวร์สู่ธุรกิจคลาวด์ คอมพิวติ้งอย่างเป็นรูปธรรม

นายเจนวิทย์ คราประยูร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ทรู อินเทอร์เน็ต ดาต้า เซ็นเตอร์ จำกัด กล่าวว่า “ทรูไอดีซี ยินดีกับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ได้รับคัดเลือกในโครงการ ทรู คลาวด์ วินเนอร์ ซึ่งทุกผลงานแสดงศักยภาพของนักพัฒนาซอฟต์แวร์ไทยที่มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถออกแบบซอฟต์แวร์ที่เป็นประโยชน์และนำไปใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยโครงการนี้ เป็นการต่อยอดความร่วมมือระหว่างทรูไอดีซีและซอฟต์แวร์พาร์ค เพื่อสนับสนุนนักพัฒนาซอฟต์แวร์ไทย ให้มีการพัฒนาซอฟต์แวร์ในรูปแบบ Software as a Service (SaaS) บนเทคโนโลยีคลาวด์ คอมพิวติ้ง อีกทั้งยังส่งเสริมและผลักดันให้ธุรกิจซอฟต์แวร์ของไทยสามารถแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพในตลาดไอทียุคใหม่ ที่เทคโนโลยีคลาวด์ คอมพิวติ้งมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง”

รองศาสตราจารย์ ดร.ธนชาติ นุ่มนนท์ ผู้อำนวยการเขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทย กล่าวว่า “ความร่วมมือกับทรูไอดีซีในโครงการ ทรู คลาวด์ วินเนอร์ เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้มีการรวมตัวกันของผู้ให้บริการคลาวด์ทุกภาคส่วน ทั้งผู้ให้บริการคลาวด์ ผู้ประกอบการด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์ และนักพัฒนาซอฟต์แวร์ไทย และยังเป็นการกระตุ้นให้อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทยตระหนักถึงการพัฒนาซอฟต์แวร์บนเทคโนโลยีคลาวด์ เพื่อสนับสนุนให้เกิดบริการบนเทคโนโลยีคลาวด์อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งซอฟต์แวร์พาร์คทำหน้าที่หลักในการเป็นสื่อกลางให้ความรู้ แนวคิดเกี่ยวกับเทคโนโลยีคลาวด์ โดยเป็นสื่อกลางระหว่างผู้เชี่ยวชาญทุกด้านที่เกี่ยวข้อง ที่สำคัญ ซอฟต์แวร์ที่เข้าร่วมโครงการนี้ ต้องมีการออกแบบการดำเนินธุรกิจตามแนวทางของคลาวด์ คอมพิวติ้งอย่างแท้จริง จึงมีส่วนสำคัญในการผลักดันให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์ไทยปรับเปลี่ยนการพัฒนาซอฟต์แวร์ในรูปแบบเดิม มาพัฒนาบนคลาวด์เทคโนโลยี และเพิ่มศักยภาพให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้”

โครงการทรู คลาวด์ วินเนอร์ มีนักพัฒนาซอฟต์แวร์ส่งผลงานเข้าร่วมโครงการกว่า 30 ราย โดยคณะกรรมการตัดสินประกอบด้วยตัวแทนผู้เชี่ยวชาญจากทรูไอดีซีและซอฟต์แวร์พาร์ค กำหนดหลักเกณฑ์การตัดสินผลงานจากเงื่อนไขที่ต้องตรงกับรูปแบบของ SaaS อย่างแท้จริง อาทิ ต้องสามารถทำงานผ่านระบบอินเทอร์เน็ต โดยใช้งานผ่านเว็บเบราเซอร์หลากหลายแพลตฟอร์ม ผู้ใช้บริการต้องสามารถบริหาร จัดการ ตรวจสอบโปรแกรมเฉพาะในส่วนที่ตนเองเลือกใช้บริการได้ ผู้ให้บริการต้องสามารถปรับปรุงเวอร์ชั่นซอฟต์แวร์ได้โดยที่ผู้ใช้บริการไม่ต้องดำเนินการใดๆ และโปรแกรมต้องสามารถคิดค่าบริการตามการใช้งานจริงได้ (On Demand) สามารถคิดค่าบริการเป็นรายวันหรือรายเดือนได้ โดยไม่ต้องมีข้อผูกมัดใดๆ และผู้ใช้บริการไม่จำเป็นต้องลงทุนหรือจัดซื้ออุปกรณ์เอง โดยประกาศผลงานที่ผ่านหลักเกณฑ์และได้รับรางวัลดังนี้

รางวัลชนะเลิศ :

ซอฟต์แวร์ ERP Modules Working on SaaS Model

พัฒนาโดย บริษัท Absolute Management Solutions Co., Ltd.

ซอฟต์แวร์ ERP Modules Working on SaaS Model เป็นระบบบริหารธุรกิจภายในองค์กร มีบริการฟังก์ชั่นการทำงานของประเภทธุรกิจซื้อมาขายมา คือระบบบริหาร Stock ,Inventory, Procument, Retail, Whosales และ Finance ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.absolute.co.th

รางวัลรองชนะเลิศ 3 รางวัล

· ซอฟต์แวร์ iFakeproof (CRM on Demand) พัฒนาโดย บริษัท Open Enterprise Systems Co.,Ltd

ซอฟต์แวร์ iFakeproof (CRM on Demand) เป็นระบบตรวจสอบการปลอมแปลงสินค้า ที่สร้างขึ้นเพื่อให้เจ้าของสินค้านำรหัส iFakeProof ที่สร้างขึ้นจากการเข้ารหัสความปลอดภัยไปติดอยู่บนสินค้าของตนเอง เพื่อผู้บริโภคสามารถตรวจสอบได้ในขณะที่ซื้อสินค้าว่าเป็นสินค้าแท้จากเจ้าของผลิตภัณฑ์หรือไม่ ผ่าน SMS ,อินเทอร์เน็ต และ ผ่านอินเทอร์เน็ต เบราเซอร์บนเครื่องคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟน เป็นต้น โดยรหัสดังกล่าวจะไม่ซ้ำกันเลยในแต่ละกล่อง/ชิ้น ไม่มีการเก็บรหัสดังกล่าวในฐานข้อมูลและใช้ตรวจสอบได้เพียงครั้งเดียว สามารถป้องกันการปลอมแปลงตัวรหัส ซึ่งทำให้ป้องกันการแอบอ้างชื่อสินค้าไปปลอมแปลงและสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภคในการใช้สินค้า ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ifakeproof.com

· ซอฟต์แวร์ ICON Customer Relationship Management (ICON CRM) พัฒนาโดย บริษัท Trinity Solution Provider Co., Ltd.

ICON CRM เป็นระบบบริหารจัดการลูกค้าสัมพันธ์ ซึ่งจะช่วยสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้า เรียนรู้ความต้องการที่แตกต่างกันของลูกค้า และตอบสนองความต้องการของลูกค้าด้วยสินค้า หรือบริการที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละคน ICON CRM ยังรองรับการสร้างโปรโมชั่นหรือแคมเปญ โดยสามารถกำหนดการส่งเสริมการขาย และกลยุทธ์ทางการตลาดไปยังกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสมได้ผ่านช่องทาง ทั้งทางอีเมล์, SMS หรือจดหมาย (Label) รวมถึงการติดตามการขายของพนักงานขายและกิจกรรมต่างๆที่เกิดขึ้นระหว่างพนักงานขายกับลูกค้า และรองรับการติดตามในเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นภายหลังการขายอาทิ การบริการหลังการขาย การบันทึกนัดหมายแจ้งเตือนการบริการ และคำแนะนำติชมต่างๆ เป็นต้น ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.iconcrm.com

· ซอฟต์แวร์ Vtiger CRM Cloud พัฒนาโดย บริษัท Infotronics Co.,Ltd.

ระบบบริหารลูกค้าสัมพันธ์ Customer Relationship Management ควบคุมกระบวนการตั้งแต่ทำการตลาด, การขาย บริการลูกค้าหลังการขาย (life circle) จนกระทั่งปิดการขาย จัดโปรโมชั่น สามารถใช้งานบนโทรศัพท์เคลื่อนที่ , iPad และ ได้ โดยระบบนี้จะช่วยให้ธุรกิจทุกขนาดสามารถดูแลลูกค้าได้มากขึ้น ลดความผิดพลาดของพนักงานขาย ลดเวลาในการขาย ได้เงินเร็วขึ้น ทั้งยังใช้งานง่ายในรูปแบบของแอพพลิเคชั่นที่ทำงานบน หรือ ได้อย่างลงตัว ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ecitcrm.com

จากภาพ: รศ.ดร.ธนชาติ นุ่มนนท์ (กลาง) ผู้อำนวยการเขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทย และ นายเจนวิทย์ คราประยูร (ที่ 3 จากขวา) ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ทรู อินเทอร์เน็ต ดาต้า เซ็นเตอร์ จำกัด มอบประกาศนียบัตรและรางวัล iPad 2 แก่นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ (ที่ 3 จากซ้าย) กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอ๊บโซลูท เมเนจเม้นท์ โซลูชั่น จำกัด ผู้ชนะเลิศการประกวดโครงการทรู คลาวด์ วินเนอร์ และมอบประกาศนียบัตรแก่ผู้ได้รับรางวัลรองชนะเลิศทั้ง 3 รางวัล

ทั้งนี้ ผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศในโครงการทรู คลาวด์ วินเนอร์ จะได้รับรางวัล iPad และผู้ได้รับรางวัลทุกรายจะได้รับการขยายอายุบัญชีการใช้บริการทรู คลาวด์ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มอีก 6 เดือน (สิ้นสุด 31 มกราคม 2555) การให้คำปรึกษาด้านเทคนิคและด้านสินค้าและบริการ รวมถึงความช่วยเหลือพิเศษด้าน Infrastructure as a Services (IaaS) และการสนับสนุนการขาย SaaS ของลูกค้าบนบริการทรูคลาวด์

สำหรับผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ที่สนใจพัฒนาซอฟต์แวร์บนเทคโนโลยีคลาวด์ คอมพิวติ้ง หรือต้องการทดลองใช้บริการทรูคลาวด์ ทรูไอดีซีจัดโปรโมชั่นพิเศษให้ทดลองใช้บริการฟรีเป็นเวลา 1 เดือน ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร 02 699 1400 หรือ อีเมล์ cloud@trueidc.co.th

View :1783

ธนาคารไทยพาณิชย์และธนาคารกรุงไทยลงนามสัญญาสนับสนุนเงินทุน48,940 ล้านบาทกลุ่มทรู

September 7th, 2011 No comments

ลงนามสัญญาสินเชื่อร่วมกับกลุ่มธนาคารพาณิชย์ โดยมี จำกัด (มหาชน) และ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ให้เงินกู้หลัก ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) และ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย เป็นผู้ให้เงินกู้ร่วมจำนวนวงเงินรวมทั้งสิ้น 48,940 ล้านบาท โดยเงินจำนวนดังกล่าวจะนำไปใช้ลงทุนในการขยายธุรกิจสื่อสารไร้สายกลุ่มทรู และชำระคืนหนี้สินเดิมบางส่วน รวมทั้งใช้เป็นเงินลงทุนหมุนเวียนในการขยายธุรกิจเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มทรู

นางกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารรู้สึกเป็นเกียรติเป็นอย่างยิ่งที่กลุ่มทรูให้ความไว้วางใจธนาคารอย่างต่อเนื่อง ธนาคารพร้อมให้การสนับสนุนกลุ่มทรูตามยุทธศาสตร์ระยะยาวของกลุ่มในการเป็นผู้นำด้าน Convergence การสนับสนุนธุรกรรมในครั้งนี้ถือเป็นการให้บริการแบบครบวงจร โดยธนาคารเริ่มจากการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินของกลุ่มธุรกิจไร้สาย (wireless) ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาจัดโครงสร้างทางธุรกิจและทางการเงินที่เหมาะสมเพี่อช่วยให้กลุ่มทรูสามารถแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด รวมไปถึงเป็น Lead Arranger ร่วมกับ ธนาคารกรุงไทย ในการจัดหาแหล่งเงินทุนในระยะยาวเพื่อสนับสนุนการลงทุนเพื่อการให้บริการด้าน 3G

ซึ่งการลงทุนสนับสนุนด้านการเงินจำนวน 48,940 ล้านบาทแก่กลุ่มทรูในครั้งนี้ จะเสริมศักยภาพให้กลุ่มทรูสามารถเดินหน้าให้บริการ 3G ระบบ HSPA อย่างมีประสิทธิภาพครอบคลุมทั่วประเทศ เป็นการยกระดับพัฒนาไปสู่บรอดแบนด์ไร้สายอย่างเต็มรูปแบบในประเทศไทย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค และเป็นประโยชน์แก่กลุ่มทรูซึ่งเน้นยุทธศาสตร์ด้าน convergence มาโดยตลอด พร้อมกันนี้ธนาคารขอขอบคุณธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) และ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยที่เป็นพันธมิตรในการให้เงินกู้ร่วมกับธนาคารในครั้งนี้

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ธนาคารเดินหน้าให้การสนับสนุนสินเชื่อกับทุกภาคส่วน และมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ให้การสนับสนุนวงเงินสินเชื่อแก่กลุ่มทรู ซึ่งมียุทธศาสตร์ระยะยาวที่ชัดเจนในการเป็นผู้นำด้าน Convergence การลงทุนในครั้งนี้มีส่วนสำคัญในการพัฒนาและเพิ่มศักยภาพธุรกิจสื่อสารไร้สายและบริการ 3G ในประเทศไทยให้ก้าวหน้าครอบคลุมเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สามารถสนองตอบความต้องการของประชาชน ผู้บริโภคในการสื่อสาร และเข้าถึงแหล่งความรู้ ข้อมูลข่าวสารได้อย่างรวดเร็ว ไร้พรมแดน และเกิดประโยชน์สูงสุด

นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหารกลุ่มทรู บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า กลุ่มทรู ขอขอบคุณกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ทั้งธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) รวมทั้งผู้ให้เงินกู้ร่วมคือธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) และธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ที่ให้ความวางใจสนับสนุนทางการเงินกับกลุ่มทรู รวมทั้งเชื่อมั่นในศักยภาพการดำเนินธุรกิจของบริษัทเอกชนไทย ตลอดจนพร้อมร่วมผลักดันธุรกิจโทรคมนาคมไทยให้ก้าวทันโลก โดยมีมูลค่าเงินสนับสนุนครั้งนี้รวมทั้งสิ้น 48,940 ล้านบาท เป็นสินเชื่อระยะยาวอายุไม่เกิน 10 ปี และเป็นสินเชื่อเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียน โดยบางส่วนจะนำไปชำระคืนหนี้สินเดิม ยิ่งไปกว่านั้น ยังเป็นโอกาสสำคัญในการขยายการลงทุนธุรกิจสื่อสารไร้สายของกลุ่ม เพิ่มศักยภาพโครงข่ายและขีดความสามารถการเข้าถึงให้ครอบคลุมเต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สร้างประโยชน์สูงสุดให้ประชาชนชาวไทยทั่วประเทศ สามารถเข้าถึงความรู้ข้อมูล ข่าวสาร ได้ทัดเทียมกัน

View :1482

ดีแทคส่งแพ็กเกจใหม่ยกแผงเอาใจสาวกสมาร์ทโฟน พร้อมลดค่าบริการสูงสุด 1,200 บาท และแคชแบ็ค 15% เมื่อซื้อเครื่องใหม่

September 7th, 2011 No comments

ดีแทคต่อยอดความแรงจากงาน Expo ส่งแพ็กเกจเพิ่มความคุ้มค่ารองรับการใช้งาน 3G เพื่อลูกค้าอย่างเหมาะสมกับการใช้งานสมาร์ทโฟนแต่ละรุ่น แต่ละไลฟ์สไตล์ เพื่อเชื่อมต่อออนไลน์ทั้งการใช้งาน download และ upload ข้อมูลในปริมาณมาก และการใช้งานโทรคุ้มค่า พร้อมข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าเลือกซื้อสมาร์ทโฟนรองรับ 3G 850 MHz ได้รับเงินคืนสูงสุดถึง 15% จากบัตรเครดิตชั้นนำที่ร่วมรายการ และเลือกสุดคุ้มผ่อน 0% นาน 10 เดือน หรือ ผ่อนดอกเบี้ย 0.69% นาน 20 เดือน พร้อมรับส่วนลดค่าบริการสูงสุด 1,200 บาท หมดเขต 31 ตุลาคมนี้เท่านั้น ที่ดีแทคเซ็นเตอร์และสำนักงานบริการลูกค้าดีแทค ทั่วประเทศ

นายปกรณ์ พรรณเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายผลิตภัณฑ์ บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) กล่าวว่า จากงาน dtac 3G Expo ที่ผ่านมาได้เล็งเห็นถึงความต้องการใช้งาน dtac 3G ของลูกค้าที่มากขึ้น และอัตราการใช้งานดาต้าบนเครือข่ายดีแทคทั่วประเทศได้เติบโตขึ้นมาก โดยเฉพาะการใช้งานดาต้าบนเครือข่ายดีแทคในพื้นที่ให้บริการ dtac 3G และการเข้าสู่สังคมออนไลน์ต่างๆ ผ่านสมาร์ทโฟนพุ่งสูงมาก ดีแทคจึงได้นำแพ็กเกจมาปรับใหม่เพื่อเอาใจผู้ใช้งานสมาร์ทโฟน ที่มีอย่างหลากหลาย

“แพ็กเกจสมาร์ทโฟนใหม่ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ มีทั้งแบบใช้เน็ตไม่จำกัดรองรับ , และสมาร์ทโฟนทั่วไป คือ Smartphone 699, Smartphone 899, Smartphone 1199 หรือแบบคิดตามเมกะไบต์ที่ใช้งาน Smartphone 399 ใช้ 3G/EDGE ได้ 200 MB/เดือน เป็นต้น และยังมีแพ็กอื่นๆ ที่รองรับสมาร์ทโฟนและทุกการใช้งานที่เหมาะสมกับลูกค้าอีกมากมาย พร้อมทั้งยังได้รับส่วนลดค่าบริการสูงสุด 1,200 บาท เมื่อซื้อสมาร์ทโฟนใหม่อีกด้วย” นายปกรณ์ กล่าว

นอกจากนี้ เพื่อตอบสนองลูกค้าที่ต้องการสมาร์ทโฟน 3G 850MHz ยังมอบข้อเสนอสุดพิเศษโดยดีแทคร่วมมือกับบัตรเครดิตชั้นนำ 10 บัตร อาทิ บัตรเครดิตกรุงศรี, โฮมโปรวีซ่า, เซ็นทรัล เครดิตคาร์ด, โรบินสันวีซ่า คาร์ด, บัตรกรุงศรี เฟิร์สช้อยส์, กสิกรไทย, เคทีซี, แสตนดาร์ดชาร์เตอร์ด, ไทยพาณิชย์ และยูโอบี มอบข้อเสนอพิเศษให้ลูกค้ารับเงินคืนสูงสุด 15% เมื่อซื้อสมาร์ทโฟน 3G พร้อมแพ็กเกจสมาร์ทโฟนที่ร่วมรายการ โดยสมาร์ทโฟนรุ่นยอดนิยมที่ดีแทคนำมาร่วมรายการในครั้งนี้มีทั้ง iPhone, Samsung, HTC, Blackberry และ Nokia ลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าจะชำระเต็มจำนวน หรือผ่อนดอกเบี้ยอัตรา 0% นาน 10 เดือน รวมทั้งยังสามารถเลือกผ่อนเบาๆ ในอัตราดอกเบี้ย 0.69% นาน 20 เดือน ผู้สนใจสอบถามข้อเสนอพิเศษ เงื่อนไขและรายละเอียดอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ 1678 ดีแทคคอลล์เซ็นเตอร์ และ www.dtac.co.th พร้อมทั้งที่ดีแทคเซ็นเตอร์ และสำนักงานบริการลูกค้าดีแทคทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 ต.ค. 2554 เท่านั้น

View :1849

ก.ไอซีที จับมือภาคเอกชนส่งเสริมเทคโนโลยี Cloud Computing

September 5th, 2011 No comments

นางจีราวรรณ บุญเพิ่ม ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงานสัมมนาเชิงวิชาการ หัวข้อ “Digital Economy and Scorecard” ว่า ความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและมีบทบาทสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจในโลกยุคดิจิทัล ได้ทำให้รัฐบาลของแต่ละประเทศรวมถึงประเทศไทยตื่นตัว และเตรียมความพร้อมในหลายๆ ด้าน เพื่อใช้ความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีมาสนับสนุนและเสริมสร้างศักยภาพในการแข่งขันทางเศรษฐกิจให้กับประเทศไทยในเวทีโลกยุคดิจิทัล

โดยเทคโนโลยี Cloud Computing จัดเป็นความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีที่กระทรวงฯ ได้ให้ความสำคัญในระยะเวลาที่ผ่านมา และได้วางแผน ส่งเสริม สนับสนุน รวมทั้งประสานงานกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมความพร้อมในเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน ความพร้อมในเรื่องบุคลากร ตลอดจนความพร้อมในเรื่องนโยบายและกฎหมาย โดยกระทรวงฯ ได้ร่วมกับกลุ่มพันธมิตรธุรกิจซอฟต์แวร์ (บีเอสเอ) จัดงานสัมมนา “Digital Economy and Cloud Computing Scorecard” สำหรับผู้บริหารระดับสูง และเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารขึ้น เพื่อนำเสนอผลการศึกษาเปรียบเทียบเรื่องกรอบนโยบายและกฎหมายของประเทศในกลุ่มเอเชียและแปซิฟิกทั้งหมด 14 ประเทศ ซึ่งมีเนื้อหาประกอบด้วยการใช้เทคโนโลยี Cloud Computing ความมั่นคงปลอดภัยทางเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล โดยจะประเมินความพร้อมของกรอบนโยบายและกฎหมายของประเทศต่างๆ เหล่านี้ภายใต้สิ่งแวดล้อมใหม่ ที่เรียกว่า เศรษฐกิจในโลกยุคดิจิทัล

“งานสัมมนาครั้งนี้ ถือเป็นการเปิดตัวผลการศึกษาสิ่งแวดล้อมทางด้านนโยบายและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจในยุคดิจิทัล (Digital Economy) ของ 14 ประเทศในกลุ่มเอเชีย-แปซิฟิกขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อให้ผู้บริหาร ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของกระทรวงฯ สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) และกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมทั้งนักกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาที่เข้าร่วมสัมมนาได้รับทราบ โดยผลการศึกษานี้เน้นในเรื่องความพร้อมสำหรับการรองรับเทคโนโลยี Cloud Computing รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้เข้าร่วมสัมมนาทุกคนจะสามารถนำกลับไปพิจารณาให้เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนากรอบนโยบายและกฎหมายในส่วนงานได้

เพราะแม้ว่าประเทศไทยจะมีจุดแข็งอย่างชัดเจนในกรอบนโยบายและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี Cloud Computing แต่ก็ยังจำเป็นต้องพิจารณาโอกาสที่จะพัฒนากรอบนโยบายและกฎหมายที่มีอยู่ เพื่อให้ประเทศไทยได้ชื่อว่ามีความพร้อมที่สุดประเทศหนึ่งในภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิค และให้ทุกภาคส่วนได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จากความก้าวหน้าของเทคโนโลยี Cloud Computing ” นางจีราวรรณ กล่าว

View :1549

โซนี่ อีริคสัน เปิดตัว Sony Ericsson Xperia mini

September 5th, 2011 No comments


บริษัท โซนี่ อีริคสัน โมบายล์ คอมมิวนิเคชั่น (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว สมาร์ทโฟนสำหรับผู้รักการถ่ายวีดีโอระดับ HD เครื่องเล็กที่สุดในโลก ที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 2.3 เวอร์ชั่นล่าสุดและหน้าจอแสดงผลแบบ Mobile BRAVIA® Engine ที่ให้ภาพคมชัดสีสันสดใสเสมือนจริง พร้อมให้คุณสนุกไปกับความบันเทิงที่หลากหลายด้วยหน้าจอทัชสกรีนขนาด 3 นิ้ว รวมถึงฟังก์ชั่นการถ่ายภาพด้วยกล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมออโต้โฟกัส และไฟ LED รองรับการถ่ายภาพเคลื่อนไหวในระดับ HD 720p อีกทั้งชมไฟล์ วีดีโอ Youtube ด้วยความละเอียด ระดับ HD ผ่านมือถือและอัพโหลดไฟล์ผ่านมือถือได้อย่างทันท่วงที ผ่าน 3G 900/2100 MHz ความเร็ว 7.2 Mbps รวมถึงรองรับเครื่องเล่น MP3 และ วิทยุ FM ตัวเครื่อง WIFI Bluetooth และ A-GPS รวมถึงให้คุณท่องโลก Social Network Facebook ผ่าน Facebook inside Xperia ที่มาพร้อมกับตัวเครื่อง พร้อมการ์ดหน่วยความจำ 2 GB และสามารถเพิ่มได้สูงสุดถึง 32 GB โดย วางจำหน่ายแล้วในราคาเพียง 7,490 บาท ตัวเครื่องมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีขาว และ สีดำ และยังแถมฝาหลังสีน้ำเงินเพิ่มให้อีกด้วย โดยผู้สนใจสามารถหาซื้อได้แล้ววันนี้ที่ตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์มือถือโซนี่อีริคสันทั่วประเทศ ร้าน ซินเน็ค , ร้าน TG Phone และ ร้าน Jay Mart หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมผ่านทาง www.facebook.com/sethailand

View :1692