Archive

Archive for the ‘Press/Release’ Category

แอลจี เปิดตัวสมาร์ทโฟน LG Optimus Sol และ Optimus Hub

November 10th, 2011 No comments

บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด นำเสนอสมาร์ทโฟน 2 รุ่นใหม่ในตระกูลออพติมัส ที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ เวอร์ชั่น 2.3 ได้แก่ ดีไซน์หรู เพรียวบาง พร้อมประสิทธิภาพที่เหนือชั้น และ ที่มาพร้อมเทคโนโลยีไร้สาย แชร์ไฟล์ได้อย่างสะดวก และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น

นายสมศักดิ์ อธิศัยตระกูล หัวหน้ากลุ่มผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือ บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “แอลจีให้ความสำคัญกับการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในทุกไลฟ์สไตล์ ก่อนหน้านี้เราได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนหลากรุ่นสำหรับผู้ใช้ในระดับพรีเมี่ยมและกลุ่มคนรุ่นใหม่ ในวันนี้เราเติมเต็มความต้องการของผู้ใช้ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนระดับกลาง ซึ่งมาพร้อมเทคโนโลยีที่ ยอดเยี่ยมในราคาคุ้มค่า แอลจีจึงนำเสนอ LG Optimus Sol ที่โดดเด่นเหนือสมาร์ทโฟนในระดับเดียวกัน ด้วยดีไซน์หรู เพรียวบาง พร้อมหน่วยประมวลผลอันเหนือชั้น และ LG Optimus Hub สมาร์ทโฟนที่ก้าวล้ำด้วยเทคโนโลยีไร้สาย สามารถเชื่อมต่อและส่งถ่ายข้อมูลไร้สายได้โดยไม่ต้องผ่านเราท์เตอร์ ซึ่งเราเชื่อมั่นว่าด้วยจุดแข็งดังกล่าวจะทำให้สมาร์ทโฟนทั้ง 2 รุ่นได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี”

LG Optimus Sol

LG Optimus Sol


LG Optimus Sol มาพร้อมดีไซน์หรูล้ำด้วยรูปทรงเพรียวบางเพียง 9.8 มม. แต่ให้ผิวสัมผัสที่หนักแน่นและจับกระชับมือ ผู้ใช้จะได้รับประสบการณ์ท่องเว็บและแอพพลิเคชั่นที่รวดเร็วด้วยหน่วยประมวลผล 1 GHz และยังรองรับ Flash 10.1 เพื่อการรับชมมัลติมีเดียอย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมหน้าจอ 3.8 นิ้วความละเอียดระดับ WVGA ซึ่งใช้เทคโนโลยี Ultra AMOLED ที่ให้สีสันสว่างสดใส และช่วยลดแสงสะท้อน

LG Optimus Sol มีระบบจัดการพลังงานแบบ idle-based ที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะจัดลำดับการประมวลผลโปรแกรมต่างๆ ตามความสำคัญ จึงใช้งานแบตเตอรี่ได้นานขึ้นสูงสูด 30% และมีโหมด Dark UI ที่จะปรับพื้นหลังของเมนูต่างๆ ให้เป็นสีดำ ซึ่งใช้พลังงานน้อยกว่าพื้นสีขาวแบบเดิม จึงช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ นอกจากนี้ยังมาพร้อมกล้อง 5 ล้านพิกเซลที่ปรับชัตเตอร์และโฟกัสอัตโนมัติ รวมทั้งถ่ายภาพช็อตต่อช็อตได้อย่างรวดเร็ว ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์มัลติมีเดียอื่นๆ ผ่าน DLNA และ Wi-Fi Direct ได้โดยตรงจากไอคอนบนหน้าจอ

LG Optimus Hub

LG Optimus Hub


LG Optimus Hub มาพร้อมหน้าจอ 3.5 นิ้วความละเอียดระดับ HVGA ที่ให้ความสว่างถึง 550 nit เหนือกว่าสมาร์ทโฟนในระดับเดียวกัน จึงให้รายละเอียดของภาพที่คมชัดแม้ใช้งานกลางแจ้ง และสามารถแชร์คอนเทนต์ อาทิ เพลง ภาพยนตร์ และภาพถ่ายได้อย่างสะดวกด้วยฟีเจอร์เชื่อมต่อที่หลากหลาย ทั้ง Wi-Fi Cast ที่แชร์คอนเทนต์แบบไร้สายกับมือถืออื่นๆ ได้รวดเร็วกว่าการใช้งานบลูทูธถึง 10 เท่า และฟีเจอร์ Smart Share UI สำหรับแชร์คอนเทนต์แบบ DLNA กับมือถือและทีวี รวมทั้งฟีเจอร์ On-screen Phone ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่สามารถป้อนข้อมูลไปยังมือถือผ่านคอมพิวเตอร์

LG Optimus Hub ยังเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานแบตเตอรี่ด้วยระบบจัดการพลังงานแบบ idle-based ซึ่งยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ได้นานขึ้น 30% นอกจากนี้ยังมีหน้าจอที่ตอบสนองการสัมผัสได้ดียิ่งขึ้น จึงประมวลผลคำสั่งต่างๆ เช่น การพิมพ์ข้อความ และการเล่นเกม ได้อย่างรวดเร็ว

LG Optimus Sol วางจำหน่ายในราคา 10,900 บาท และ LG Optimus Hub ในราคา 7,990 บาท (แถมการ์ดความจำ 2GB ทั้งสองรุ่น) ข้อมูลเพิ่มเติมเข้าชมได้ที่ www.lg.com/th หรือติดต่อศูนย์บริการแอลจี โทร 02-878-5757 หรือหมายเลขโทรฟรี 1-800-545454

คุณสมบัติ
หน่วยความจำภายใน 2GB และรองรับการ์ดความจำภายนอกสูงสุด 32GB
แบตเตอรี่ 1,500mAh / Li-Ion
LG Optimus Sol
รองรับ 3G ความถี่ 900/2100 HSDPA 7.2 Mbps
จอสัมผัส OLED ขนาด 3.8 นิ้ว ความละเอียด WVGA
กล้องหลัง 5 ล้านพิกเซล ออโต้โฟกัส, กล้องหน้า VGA
รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 3.0 High speed, USB 2.0 High speed, WiFi, A-GPS
รองรับไฟล์เสียง MP3/AMR/AAC/AAC+/WAV/AC3
รองรับไฟล์วีดีโอ MPEG-4/ H.263/ H.264/DivX/XviD
LG Optimus Hub
รองรับ 3G ความถี่ 900/2100 HSDPA 3.6 Mbps
จอสัมผัส TFT ขนาด 3.5 นิ้ว ความละเอียด HVGA
กล้องหลัง 5 ล้านพิกเซล ออโต้โฟกัส
รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 3.0, USB 2.0 High speed, WiFi, A-GPS
รองรับไฟล์เสียง MP3/AMR/AAC/(e)AAC+/WAV
รองรับไฟล์วีดีโอ MPEG-4/ H.264/ H.263

View :1777

ไอบีเอ็มเปิดตัวเซิร์ฟเวอร์รุ่นใหม่ IBM System x3100 M4

November 9th, 2011 No comments

ไอบีเอ็มเปิดตัวเซิร์ฟเวอร์รุ่นใหม่ล่าสุด IBM System x 3100 M4 Express ที่มาพร้อมขุมพลัง Intel Xeon processor E3-1200 Series ด้วยศักยภาพเต็มเปี่ยม เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ในราคาที่คุ้มค่าเท่ากับเซิร์ฟเวอร์ในระดับเริ่มต้น

นายธนพงษ์ อิทธิสกุลชัย รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจคอมพิวเตอร์ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “ไอบีเอ็มได้เปิดตัวเซิร์ฟเวอร์รุ่นใหม่ และ IBM System x3250 M4 Express มาเป็นพิเศษเหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ที่ต้องการเซิร์ฟเวอร์ที่ให้ประสิทธิภาพสูงในราคาที่คุ้มค่า คุ้มราคา ด้วยคุณสมบัติเด่นที่ตอบสนองความต้องการใช้งานที่มีเสถียรภาพสูงสามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมงใน 7 วัน เพิ่มประสิทธิภาพให้กับธุรกิจที่กำลังขยายการเติบโต และที่สำคัญเป็นการออกแบบมาตอบโจทย์ธุรกิจขนาดเล็ก ด้วยแนวคิดจากการผลิตเซิร์ฟเวอร์ในระดับ high-end ที่เป็นโซลูชั่นสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ อันทรงประสิทธิภาพ

IBM System x3100 M4 Express เป็นเซิร์ฟเวอร์ในตระกูล IBM x86 tower ที่มีขนาดเล็ก 1-socket system ที่มาพร้อมขุมพลังเทคโนโลยีล่าสุด Intel Xeon processor E3-1200 series, ที่ให้ประสิทธิภาพมากขึ้นถึง 30% สามารถทำงานปริมาณมากเช่น ไฟล์และงานพิมพ์ การให้บริการทางด้านเว็บไซต์ สำหรับธุรกิจขนาดเล็กที่ต้องการโครงสร้าง และการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์เสมือนในกลุ่มเล็กๆ

ความคุ้มค่าของเซิร์ฟเวอร์ IBM System x 3100 M4 Express ที่ธุรกิจจะได้รับประโยชน์เต็มๆ คือ
• ใช้งานง่าย ช่วยบริหารจัดการงานได้ในระดับดีเยี่ยม
• ประสิทธิภาพเหนือชั้น เมื่อเทียบกับเซิร์ฟเวอร์ราคาเดียวกัน
• มีขนาดเล็กประหยัดพื้นที่ สามารถใช้งานได้อย่างยืดหยุ่น

IBM System x 3100 M4 Express เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ที่กำลังมองหาเซิร์ฟเวอร์ที่ให้คุณภาพ พร้อมทั้งความประหยัดคุ้มค่าคุ้มราคา ในราคาพิเศษสุดเพียง 19,300 บาท สนใจติดต่อตัวแทนจำหน่ายไอบีเอ็ม หรือ www.bestibmdeal.comith

ไอบีเอ็มยังคงมุ่งมั่นในการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆออกมาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อนำเทคโนโลยีใหม่ๆนั้นมาช่วยพัฒนาและปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น ทั้งผลิตภัณฑ์ทางด้านฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์และบริการให้คำปรึกษาการดำเนินธุรกิจ ที่เป็นพื้นฐานทางด้านเทคโนโลยี ให้กับกลุ่มองค์กรธุรกิจและภาครัฐ

View :1454

UIH งัดแผน BCM สู้ภัยน้ำท่วม

November 9th, 2011 No comments

และกลุ่มเบญจจินดา โฮลดิ้ง พร้อมบริษัทในกลุ่มงัดแผนสำรองฉุกเฉินใช้ยามวิกฤตการณ์น้ำบุกกรุงฯ สวมหมวก 2 ใบ ทั้งพื้นที่ตั้งอยู่ในเขตภัยพิบัติ และเป็น Network Service Provider ให้บริการลูกค้าที่ประสบภัย

จากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ ตั้งแต่ภาคเหนือตอนล่าง ไล่เรียงลงมากระทั่งน้ำเข้าถึงกรุงเทพมหานคร ครอบคลุมพื้นที่เกือบทั้งหมด รวมถึงบริเวณพื้นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ บริษัท ยูไนเต็ด อินฟอร์เมชั่น ไฮเวย์ จำกัด (UIH) แต่ก็มิได้ทำให้ UIH นิ่งนอนใจ ประกาศมาตรการความพร้อมในการรับมือกับปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้น บริษัทฯ คำนึงถึงการเป็น Network Service Provider (NSP) จึงได้เตรียมความพร้อมในสถานการณ์น้ำท่วม โดยได้ดำเนินการดังต่อไปนี้

1. ย้ายพื้นที่ชุมสาย (Node) ที่กระจายอยู่พื้นที่เขตภัยพิบัติ และพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดอุทกภัย อีกทั้งเคลื่อนย้ายตำแหน่งการวางอุปกรณ์ให้อยู่บนที่สูง รวมถึงเตรียมเครื่องสำรองไฟและเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าสำหรับ Node หลัก เพื่อให้สามารถทำงานได้ตามปกติ ในกรณีที่ระบบไฟฟ้าไม่สามารถใช้งานได้

2. ทีมงานฝ่ายขาย เตรียมพร้อม Standby เพื่อช่วยเหลือลูกค้าที่ต้องการคำปรึกษาในการย้ายสำนักงานใหญ่ ไปยัง DR site เพื่อดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง UIH จะช่วยวิเคราะห์เส้นทางที่เหมาะสม เพิ่มความเร็วในการใช้งาน Network หรือ Internet ให้เหมาะกับสถานการณ์ รวมทั้งให้คำปรึกษาบริการต่างๆ ที่น่าจะสามารถช่วยให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างต่อเนื่อง อาทิ Co-location, VDO Conference, VoIP หรืออื่นๆ

และเพื่อให้การดำเนินการที่กล่าวไปข้างต้นราบรื่น จึงได้นำแผน Business Continuity Management (BCM) มารองรับ เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถปฏิบัติงานได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีมาตรการดังนี้

1. ภายในพื้นที่สำนักงานใหญ่ ณ อาคารเบญจจินดา ซึ่งเป็นพื้นที่ในการให้บริการหลักของบริษัทฯ รวมถึง ศูนย์ Network Operation Center บริษัทฯ ได้เตรียมความพร้อมดังนี้
- ระบบการจ่ายกระแสไฟฟ้าด้วยเครื่อง Generator ได้จัดสำรองไว้เพื่อให้บริการได้ 2 ชุด โดยสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง ในกรณีที่พื้นที่ดังกล่าวถูกตัดกระแสไฟฟ้า ท่านลูกค้ายังคงมั่นใจได้ด้วยเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าระบบน้ำมันที่ได้ทำการสำรองไว้อย่างเพียงพอ พร้อมเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่เพื่อสูบน้ำออกจากพื้นที่โดยเร็วเพื่อปกป้องพื้นที่ส่วนสำคัญเอาไว้ให้ได้มากที่สุด
- ทีมงาน UIH ทั้งฝ่ายบริการลูกค้า ฝ่าย Network Management Center ฝ่าย Provisioning รวมถึงฝ่าย Product Development พร้อมให้บริการและให้คำปรึกษาเพื่อช่วยเหลือท่านลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง

2. ในกรณีสถานการณ์ฉุกเฉินและไม่สามารถใช้สำนักงานใหญ่ในการดำเนินการได้ บริษัทฯ ได้เตรียมความพร้อมในการทำงานของระบบ Network Operation Center ไว้ที่ Disaster Recovery Site (DR site) โดยมีระบบไฟฟ้าสำรอง พร้อมด้วยเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าที่รองรับกรณีระบบไฟฟ้าไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ พร้อมทีมงานทุกฝ่ายยินดีในการให้บริการลูกค้าอย่างเต็มความสามารถ ณ สำนักงานย่อยชั่วคราวที่ได้จัดเตรียมไว้ และพนักงานที่เกี่ยวข้องที่มีหน้าที่รับผิดชอบในแต่ละส่วนงานจะไปประจำการในสถานที่ดังกล่าว

3. กรณีที่สำนักงานใหญ่ และ DR site ดังกล่าวข้างต้นเกิดผลกระทบและไม่สามารถเข้าดำเนินการได้ บริษัทฯ จะแต่งตั้งศูนย์บริการของ UIH ซึ่งกระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทยรวม 24 ศูนย์ ขึ้นเป็นสำนักงานชั่วคราว โดยพิจารณาจากความเหมาะสมในแต่ละสถานการณ์

โดยทั้งหมดนี้ ก็เพื่อให้ธุรกิจของลูกค้าทุกรายสามารถดำเนินการได้อย่างราบรื่นต่อเนื่องเป็นไปอย่างปกติ สามารถให้บริการได้อย่างไม่สะดุด

ทั้งนี้ UIH ขอขอบคุณลูกค้า พันธมิตร ที่แสดงความเป็นห่วงในสถานการณ์ดังกล่าว และให้กำลังใจทีมงาน UIH เสมอมา และขอแสดงความห่วงใยไปยังลูกค้า พันธมิตร ทุกราย

View :1495

ก.ไอซีที จับมือ จุฬาฯ และนักพัฒนาซอฟต์แวร์ไทย พัฒนาระบบ Thai Crisis Planner & Reporter ตรวจสอบสถานการณ์น้ำแทรกซึมผ่านเมือง

November 9th, 2011 No comments


นาวาอากาศเอก อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ของประเทศไทยในปีนี้ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ได้รับมอบหมายให้จัดทำระบบบริหารจัดการภัยพิบัติ ระบบตรวจสอบพื้นที่น้ำท่วม และระบบศูนย์รวมข้อมูลอุทกภัยไทย เพื่อให้บริการการใช้ข้อมูลเชิงพื้นที่พื้นฐานบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยที่ผ่านมากระทรวงฯ ได้มีการจัดทำข้อมูลพื้นฐานด้านภูมิสารสนเทศ (Geographic Information : GI) ผ่านโครงการประยุกต์ใช้ประโยชน์จากดาวเทียมอเนกประสงค์ขนาดเล็ก (SMMS) และโครงการจัดทำข้อมูลเชิงพื้นที่ภาพถ่าย มาตราส่วน 1 : 4,000 เพื่อส่งเสริมให้หน่วยงานภาครัฐมีการประยุกต์ใช้งานระบบบริการแผนที่กลาง (Web Map Portal / GI Portal) ซึ่งได้รับความร่วมมือจาก บ. ทีโอที จำกัด (มหาชน) ในการสนับสนุนระบบให้บริการภูมิสารสนเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการนำข้อมูลพื้นฐานด้านภูมิสารสนเทศมาใช้งานเพื่อรองรับการบริการข้อมูลของหน่วยงานภาครัฐ ดังนั้น กระทรวงฯ จึงได้ร่วมมือกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในการนำข้อมูลพื้นฐานด้านภูมิสารสนเทศ (Geographic Information : GI) มาใช้แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างระบบ Thai Crisis Planner & Reporter กับระบบบูรณาการข้อมูลของกระทรวงฯ

สำหรับระบบ Thai Crisis นี้ เป็นระบบที่เหล่าคณาจารย์จากภาควิชาวิศวกรรมแหล่งน้ำ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้แก่ รองศาสตราจารย์ ดร.สุจริต คูณธนกุลวงศ์ หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมแหล่งน้ำและหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการวิจัยระบบการจัดการแหล่งน้ำ รองศาสตราจารย์ชัยยุทธ สุขศรี และอาจารย์ ดร. อนุรักษ์ ศรีอริยวัฒน์ ร่วมด้วยรองศาสตราจารย์ ดร.ไพศาล สันติธรรมนนท์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สรรเพชญ ชื้อนิธิไพศาล อาจารย์จากภาควิชาวิศวกรรมสำรวจ คณะวิศวกรรมศาสตร์ และ อาจารย์สุภาพร โพธิ์แก้ว ภาควิชาการสื่อสารมวลชน จากคณะนิเทศศาสตร์ ได้ร่วมกันพัฒนาต่อเนื่องมาจาก ระบบ Flood_REST เพื่อใช้เป็น “เครื่องมือช่วยประเมินความเสี่ยงภัยน้ำท่วมด้วยตนเอง” ซึ่งหลังการเปิดตัวระบบ Flood_REST ปรากฏว่า มีผู้ให้ความสนใจและนำระบบไปใช้งานเพื่อประเมินความเสี่ยงภัยน้ำท่วมเป็นจำนวนมาก จึงได้มีการพัฒนาระบบใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานให้ดียิ่งขึ้น

“ผลของความร่วมมือและบูรณาการในครั้งนี้ จะทำให้มีระบบ Crisis Planner ที่สามารถสนับสนุนการบริหารจัดการวิกฤตสำหรับประชาชนได้กว้างขวางขึ้น ประชาชนจะมีเครื่องมือช่วยประเมินความเสี่ยงภัยน้ำท่วมที่ออกแบบสำหรับผู้วางแผนเตรียมรับมือน้ำท่วม ไปจนถึงการฟื้นฟูกู้วิกฤต ประชาชน ผู้ประกอบการ และส่วนราชการ สามารถใช้ในการประเมินกายภาพ วิเคราะห์ปัญหาน้ำท่วม และวางแผนการกู้และฟื้นฟูบ้านเรือน สถานประกอบการ พื้นที่อุตสาหกรรมในภาพกว้างได้

ส่วน Crisis Reporter จะเป็นเครื่องมือในการติดตามสถานการณ์น้ำท่วม ด้วยการตรวจจับภาวการณ์ขึ้น – ลงของน้ำท่วมโดยอาศัยการรายงานจากเครือข่ายสังคม ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการเฝ้าระวังการแพร่ขยายวงของน้ำท่วมที่กำลังแทรกซึมสู่กรุงเทพมหานครในขณะนี้ อีกทั้งใช้ติดตามการลดลงของระดับน้ำเพื่อกลับเข้าไปฟื้นฟูหรือเข้าอยู่อาศัยต่อไป” น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว

สำหรับเว็บไซต์และเครือข่ายสังคมต่างๆ สามารถเข้าเป็นพันธมิตรกับ “Thai Crisis” ได้ โดยการส่งเสริมให้สมาชิกเข้ามารายงานสถานการณ์น้ำ เรียกดูข้อมูลสรุป และนำข้อมูลไปใช้ในการวางแผนรับมือวิกฤตการณ์ที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงการวางแผนฟื้นฟูอีกด้วย โดยเว็บไซต์ หรือเครือข่ายสังคมที่มีอยู่แล้ว จะสามารถเชื่อมต่อและนำเข้ามูลเพื่อบูรณาการกับระบบที่มีอยู่เดิม รวมทั้งเรียกใช้ข้อมูลที่สาธารณชนได้บันทึกเข้ามาในระบบ Thai Crisis และนำไปวิเคราะห์วิจัยได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ของสังคมโดยรวม ซึ่งขณะนี้ได้มีพันธมิตรที่ให้ความสนใจในระบบ Thai Crisis แล้ว คือ Longdo Map, Thai Flood และ Flood Helps โดยจะนำข้อมูลไปผนวกรวมกับการบริการข้อมูลที่มีอยู่ เพื่อเป็นช่องทางให้ประชาชนและสังคมได้เข้าถึงข้อมูลสถานการณ์น้ำท่วมได้สะดวกมากยิ่งขึ้น

View :1377

โซนี่ อีริคสัน เปิดตัว Sony Ericsson Xperia active สมาร์ทโฟนกันน้ำได้

November 9th, 2011 No comments

บริษัท โซนี่ อีริคสัน โมบายล์ คอมมิวนิเคชั่น (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว Sony Ericsson Xperia active สมาร์ทโฟนกันน้ำได้ สามารถใช้งานได้ในขณะที่นิ้วเปียก ด้วยตัวเครื่องขนาดเล็ก กะทัดรัด มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 2.3 เวอร์ชั่นล่าสุดและหน้าจอแสดงผลแบบ Mobile BRAVIA® Engine ที่ให้ภาพคมชัดสีสันสดใสเสมือนจริง พิเศษ…ด้วยระบบตรวจอัตราการเต้นของหัวใจที่หน้าจอและรองรับการวัดชีพจรกับเทคโนโลยี ANT+ เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกายเป็นอย่างยิ่ง พร้อมให้คุณสนุกไปกับความบันเทิงที่หลากหลายด้วยหน้าจอทัชสกรีนขนาด 3 นิ้ว รวมถึงฟังก์ชั่นการถ่ายภาพด้วยกล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมออโต้โฟกัส สามารถบันทึกภาพเคลื่อนไหวได้แบบ 30 เฟรมต่อวินาที อีกทั้งสามารถชมไฟล์ วีดีโอ Youtube ด้วยความละเอียด ระดับ HD ผ่านมือถือและอัพโหลดไฟล์ผ่านมือถือได้อย่างทันท่วงที ผ่าน 3G 900/2100 MHz ความเร็ว 7.2 Mbps รวมถึงรองรับเครื่องเล่น MP3 และ วิทยุ FM และ Bluetooth เวอร์ชั่น 2.1 รวมถึงให้คุณท่องโลก Social Network Facebook ผ่าน Facebook inside Xperia ที่มาพร้อมกับตัวเครื่อง พร้อมการ์ดหน่วยความจำ 1 GB และสามารถเพิ่มได้สูงสุดถึง 32 GB โดย Sony Ericsson Xperia active วางจำหน่ายแล้วในราคาเพียง 9,990 บาท ตัวเครื่องมีสีดำ และยังแถม Live view เพิ่มให้อีกด้วย มูลค่า 2,990 บาท โดยผู้สนใจสามารถหาซื้อได้แล้ววันนี้ที่ตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์มือถือโซนี่อีริคสันทั่วประเทศ ร้าน Power Buy , ร้าน TG Phone และ ร้าน Jay Mart หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมผ่านทาง www.facebook.com/sethailand

View :1666

ประกาศความเข้าใจเรื่อง “กางเกงแก้ว” ที่ถูกต้อง ในส่วนของ สวทช.

November 8th, 2011 No comments
View :1313

แวลลูฯ ลงพื้นที่อุทกภัยมอบอาหารปรุงสำเร็จ 1,000 ชุด ช่วยเหลือผู้ประสบภัยจังหวัดปทุมธานี

November 8th, 2011 No comments


7 พฤศจิกายน 2554 – เมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา คุณณรงค์ อิงค์ธเนศ ประธานบริหาร บริษัทเดอะแวลลูซิสเตมส์ จำกัด พร้อมด้วยสมาชิกในครอบครัว และพนักงานของบริษัท ได้เดินทางโดยรถทหารไปยังตำบลเชียงรากใหญ่ อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี ซึ่งเป็นพื้นที่ประสบอุทกภัยมาเป็นเวลานานกว่า 1 เดือนแล้ว เพื่อนำอาหารปรุงสำเร็จพร้อมรับประทานจำนวน 1,000 ชุด ไปมอบให้แก่ประชาชนที่เดือดร้อน โดยได้รับความอนุเคราะห์จากพล ต. ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข เจ้ากรมยุทธการทหารบก กรุณาให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกในการลงพื้นที่
อนึ่ง สำหรับการจัดกิจกรรมครั้งนี้ นับเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นต่อเนื่องจากโครงการ “แวลลูฯ รวมน้ำใจ ช่วยภัยน้ำท่วม” ซึ่งก่อนหน้านี้ ทางบริษัทได้ร่วมบริจาคเงินจำนวน 500,000 บาทและน้ำดื่มจำนวน 10,000 ขวดให้แก่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ท่าอากาศยานดอนเมือง อีกทั้งยังได้มอบอาหารปรุงสำเร็จพร้อมรับประทานจำนวน 2,000 กล่อง พร้อมน้ำดื่ม 360 ขวดให้แก่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย กองทัพภาคที่ 3 ด้วย

View :1555

เอไอเอส สนับสนุนบัตรเติมเงินเป็นแรงใจให้กำลังพลกองทัพบก

November 8th, 2011 No comments


นายวิเชียร เมฆตระการ ประธานเจ้าหน้าที่บริการ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส (ที่ 3 จากซ้าย) มอบบัตรเติมเงิน วัน-ทู-คอล! มูลค่า 200,000 บาท แก่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ที่ 3 จากขวา) เพื่อสนับสนุนค่าโทรให้แก่กำลังพลของกองทัพบกที่ออกปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย

View :2671
Categories: Press/Release Tags:

ทรูออนไลน์ ร่วมบรรเทาทุกข์ลูกค้าช่วงวิกฤติน้ำท่วม ขยายเวลาชำระค่าบริการ หรือแจ้งขอระงับสัญญาณชั่วคราวกรณีอพยพได้ทันที

November 8th, 2011 No comments

ยืนยันดูแลเครือข่ายและบริการเต็มที่ให้ ลูกค้าใช้งานสื่อสารได้ต่อเนื่อง เพื่อบรรเทาทุกข์ผู้ใช้บริการที่กำลังประสบปัญหาวิกฤตน้ำท่วมในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ประกาศขยายเวลาชำระค่าบริการรายเดือนหรือ แจ้งขอระงับสัญญาณชั่วคราวกรณีอพยพ แก่ลูกค้า อัลตร้าไฮสปีดอินเทอร์เน็ต
จากทรูออนไลน์ ที่ www.trueonline.com หรือ โทร 1686 พร้อมสำรวจและเตรียมความพร้อมชุมสายหลักบริเวณที่ถูกน้ำท่วม ตลอดจนเปิดอินเทอร์เน็ตฟรีในพื้นที่ประสบภัยและศูนย์พักพิงตลอด 24 ชั่วโมง และสำหรับผู้ใช้บริการโทรศัพท์พื้นฐานซึ่งประสบอุทกภัย และมีความประสงค์จะไม่ใช้บริการเป็นการชั่วคราว สามารถติดต่อเพื่อขอยกเว้นค่าบำรุงรักษาคู่สายโทรศัพท์ได้ที่โทร 0-2900-9000

นายวิเชาวน์ รักพงษ์ไพโรจน์ กรรมการผู้จัดการ ทรูออนไลน์ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่นกล่าวว่า ทรูออนไลน์ร่วมบรรเทาความเดือดร้อนให้กับลูกค้าและประชาชนทั่วไปที่ประสบภัยน้ำท่วม ด้วย 5 มาตรการเร่งด่วน สำหรับ บริการอัลตร้าไฮสปีดอินเทอร์เน็ต ดังนี้
1. บริษัทยืดเวลาการชำระค่าบริการต่อไปจนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ เพื่อลดความกังวลและให้ลูกค้ายังสามารถใช้งานติดต่อสื่อสารได้อย่างต่อเนื่อง
2. ลูกค้าที่อยู่ในพื้นที่ภัยพิบัติสามารถแจ้งความประสงค์ขอระงับสัญญาณชั่วคราวได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ที่ www.trueonline.com หรือ โทร 1686 (ในระบบ
อัตโนมัติ) โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
3. ลูกค้าสามารถแจ้งความจำนงขอผ่อนชำระค่าบริการรายเดือนในรอบเดือนตุลาคมได้
4. บริษัทจะปรับลดค่าบริการตามสัดส่วนของระยะเวลาที่ไม่สามารถให้บริการได้สำหรับโครงข่ายที่ได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำท่วม
5. กรณีที่อุปกรณ์โมเด็ม และเร้าท์เตอร์เช่า ชำรุด หรือเสียหายอันเนื่องมาจากภัยน้ำท่วม บริษัทจะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มความสามารถ หรือดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์ใหม่ทดแทน โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ

สำหรับผู้ใช้บริการโทรศัพท์พื้นฐานซึ่งประสบอุทกภัย และมีความประสงค์จะไม่ใช้บริการเป็นการชั่วคราว สามารถติดต่อเพื่อขอยกเว้นค่าบำรุงรักษาคู่สายโทรศัพท์
ได้ที่โทร 0-2900-9000

ทั้งนี้ ทรูออนไลน์ เดินหน้าสำรวจชุมสายหลักบริเวณพื้นที่ประสบภัย ติดตั้งแผงกันน้ำ และอุดช่องเคเบิ้ลเข้าชุมสาย เพิ่มระบบเตือนภัย ปั๊มน้ำอัตโนมัติ พร้อม
สำรองแบตเตอรี่กรณีถูกตัดไฟ ตลอดจนเตรียมเรือประมาณ 10 ลำ เพื่อจัดส่งแบตเตอรี่ทุก 3 วัน สำหรับพื้นที่ที่น้ำท่วมสูงมากจะใช้เครื่องสูบน้ำออก โดยมี
พนักงานเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อยืนยันความมั่นใจในโครงข่ายบริการของทรูออนไลน์ ที่สามารถรองรับการใช้งานของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ยิ่งไปกว่านั้น ยังอำนวยความสะดวกให้ใช้อินเทอร์เน็ตฟรีบริเวณพื้นที่ประสบภัยและศูนย์พักพิงชั่วคราวต่างๆ โดยติดตั้ง Wi-Fi hotspots ให้ใช้งานอินเทอร์เน็ต
ความเร็วสูงไร้สาย โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายแก่ผู้อาศัยในพื้นที่ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต สนามบินดอนเมือง มหาวิทยาลัย
เทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี และสนามกีฬาแห่งชาติศุภชลาศัย

ลูกค้าทรูออนไลน์ ที่ประประสบภัยน้ำท่วม สามารถแจ้งปัญหาที่ www.trueonline.com หรือ โทร 1686 (ในระบบอัตโนมัติ)

View :1619

AIT ไตรมาส 3 โกยรายได้ 1,296 ล้านบาท

November 8th, 2011 No comments

ตุนงานในมือกว่า 3,500 ล้านบาท กระจายทั้งภาครัฐ-เอกชน

โตไม่หยุด ไตรมาส 3 โกยรายได้กว่า 1,296.05 ล้านบาท รวม 9 เดือนมีรายได้ 3,442.85 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิเติบโตในทิศทางเดียวกัน เผยมีงานในมือที่รอรับรู้อีกกว่า 3,500 ล้านบาท กระจายทั้งภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และเอกชน

นายศิริพงษ์ อุ่นทรพันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท จำกัด (มหาชน) หรือ AIT เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2554 (กรกฎาคม-กันยายน 2554) มีอัตราการเติบโตเป็นที่น่าพอใจ โดยงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทฯ มีรายได้รวม 1,296.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 282.61 ล้านบาท คิดเป็น 27.89% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และมีกำไรสุทธิ 127.97 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 73.03 ล้านบาท คิดเป็น 132.93% จากระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน

ส่วนผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนแรกของปี 2554 (มกราคม-กันยายน 2554) งบเฉพาะกิจการของบริษัทฯ มีรายได้ 3,442.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 724.49 ล้านบาท คิดเป็น 26.65% จากปีก่อน ซึ่งมีรายได้รวม 2,718.35 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 308.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 70.19 ล้านบาท หรือ 29.47% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 238.14 ล้านบาท

“ไตรมาส 3 ปีนี้ ผลประกอบการของบริษัทฯ ถือว่าโดดเด่นมากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนๆ เนื่องจากเป็นช่วงที่มีการส่งมอบงานหลายงานเป็นจำนวนมาก และเราก็ยังคงรักษาอัตรากำไรในระดับที่เหมาะสม ทำให้อัตรากำไรสุทธิไตรมาสนี้เติบโตขึ้นอย่างโดดเด่นอยู่ที่ 9.87% ในขณะเดียวกัน AIT ทำรายได้ 9 เดือนแรก 3,442.85 ล้านบาท บวกกับ ณ สิ้นไตรมาส 3 งานในมือที่มีอยู่กว่า 3,500 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้ส่วนหนึ่งในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ก็ทำให้มั่นใจว่าเราจะสามารถทำผลงานปี 2554 นี้ได้ตามเป้าหมาย 5,000 ล้านบาทที่วางไว้” นายศิริพงษ์ กล่าว

ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ AIT กล่าวด้วยว่า รายได้หลักของบริษัทฯ ที่มาจากกลุ่มลูกค้าภาครัฐและรัฐวิสาหกิจยังคงเป็นจุดแข็งของบริษัทฯ เนื่องจากภาครัฐยังคงมีการขยายเครือข่ายระบบสารสนเทศเพื่อรองรับกับการให้บริการแก่ประชาชนมากขึ้น ซึ่งบริษัทฯ มีความแข็งแกร่งและความเชี่ยวชาญในการวางระบบงาน มีพันธมิตรที่แข็งแกร่ง และมีความมั่นคงด้านฐานะการเงิน ทำให้ได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้าให้เข้าไปดำเนินงานติดตั้งระบบต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ส่วนลูกค้าที่เหลือเป็นกลุ่มของสถาบันการเงิน การศึกษา และภาคเอกชน ซึ่งลูกค้าในกลุ่มหลังนี้ AIT ก็จะทำงานเชิงรุกอยู่ตลอดเวลาเพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้าให้หลากหลายมากขึ้นเช่นกัน

View :1293