ITBiz | lekasina.com

กรุงเทพฯ 12 พฤษภาคม 2554 – ทรูมูฟ ผู้นำเข้า iPhone อย่างเป็นทางการรายแรกในไทย
ขอบคุณลูกค้าที่ไว้วางใจใช้บริการ TrueMove iPhone ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา และเพื่อฉลองการก้าวสู่ปีที่ 4 ในการจำหน่าย iPhone ให้ผู้สนใจเป็นเจ้าของได้ง่ายๆ เริ่มต้นเพียงเดือนละ 1,690 บาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ด้วยโปรโมชั่นพิเศษ ผ่อน 0% นาน 10 เดือน ผ่านบัตรเครดิต 5 ธนาคาร ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกสิกรไทย และซิตี้แบงก์ เมื่อซื้อ iPhone (ทุกรุ่น ทุกสี) พร้อมสมัครแพ็กเกจ iPhone แบบรายเดือนแพ็กเกจใดก็ได้ หรือเลือกผ่อนจ่าย 18 เดือน ผ่านบัตรกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ ทั้งซื้อเครื่องเปล่า หรือซื้อพร้อมแพ็กเกจ เริ่มต้นเพียงเดือนละ 1,072 บาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) หาซื้อได้ที่ร้านทรูช็อป ทั่วประเทศ และร้าน iStudio สาขาที่ร่วมรายการ ตั้งแต่วันนี้ – 31 พฤษภาคม 2554 พิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อ iPhone พร้อมสมัครแพ็กเกจ รับฟรีเสื้อยืดสุดเก๋ (limited edition) เป็นของที่ระลึก

นายปพนธ์ รัตนชัยกานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ และรองหัวหน้ากลุ่มคณะผู้บริหารด้านการพาณิชย์ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “ทรูมูฟ ผู้ให้บริการรายแรกในประเทศไทย ที่ได้รับการแต่งตั้งจาก Apple ให้เป็นผู้จำหน่าย iPhone อย่างเป็นทางการ ขอขอบคุณลูกค้าที่ไว้วางใจต่อเนื่องตลอด 3 ปี และเพื่อฉลองการก้าวสู่ปีที่ 4 ในการขาย iPhone ทรูมูฟให้ลูกค้าเป็นเจ้าของได้ง่ายๆ ด้วยโปรโมชั่น ผ่อน 0% นาน 10 เดือน และ ผ่อน 0% นาน 6 เดือน ผ่านบัตรเครดิต 5 ธนาคาร เมื่อซื้อ iPhone (ทุกรุ่น ทุกสี) พร้อมสมัครแพ็กเกจ iPhone แบบรายเดือนแพ็กเกจใดก็ได้ หรือเลือกผ่อนจ่าย 18 เดือน ผ่านบัตรกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ ได้ทั้งแบบซื้อเครื่องเปล่า หรือซื้อเครื่องพร้อมแพ็กเกจ พิเศษสุดสำหรับลูกค้าที่ซื้อ iPhone พร้อมสมัครแพ็กเกจ รับเสื้อยืดดีไซน์เก๋ (limited edition) ฟรี! มั่นใจว่า ศักยภาพเครือข่ายคอนเวอร์เจนซ์ที่สมบูรณ์ที่สุดทั้ง 3G* / WiFi / EDGE และ GPRS เพียงรายเดียวในไทย รวมทั้งความโดดเด่นด้านบริการหลังการขาย iPhone ของทรูมูฟที่ลูกค้าให้คะแนนความพึงพอใจสูงเป็นอันดับหนึ่งของโลก จะเติมเต็มและมอบประสบการณ์การใช้งาน iPhone ได้เต็มประสิทธิภาพเหนือใคร”

บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย หรือไอเน็ต ผู้เชี่ยวชาญการให้บริการและที่ปรึกษาด้านไอที ที่ได้รับการยอมรับจากหน่วยงานรัฐบาล องค์กรเอกชนและบริษัทต่างๆมานานกว่า 16 ปี ล่าสุดไอเน็ตได้รับความไว้วางใจจากกองการศึกษา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการเป็นผู้จัดทำระบบรับสมัครบุคคลากรผ่านระบบอินเทอร์เน็ตในปีนี้

คุณภาสพรรณี มหายศ ผู้อำนวยการกลุ่มงานธุรกิจ เปิดเผยว่า “ไอเน็ตจัดเป็นผู้บุกเบิก ริเริ่มการพัฒนาระบบรับสมัครบุคคลากรผ่านระบบอินเทอร์เน็ต หรือ Online Recruitment และเรายังเป็นผู้ให้บริการระบบ Online Recruitment รายแรกของประเทศ ในปัจจุบันเรามีลูกค้าที่มอบความ ไว้วางใจให้ไอเน็ตดูแลระบบรับสมัครมากกว่า 70 หน่วยงานและลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มหน่วยงานราชการ ซึ่งในแต่ละปี ไอเน็ตสามารถรองรับผู้สมัครได้มากกว่าหลายล้านคนทั่วประเทศ

ล่าสุดไอเน็ตได้รับความไว้วางใจ จากกองการศึกษา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการจัดทำระบบรับสมัครบุคคลทั่วไปเข้ารับราชการตำรวจชั้นประทวน ที่มีขึ้นระหว่างวันที่ 27 เมษ ายน – 23 พฤษภาคม 2554 นี้ (www.policeadmission.com) และไอเน็ตยังเป็นผู้ดูแลบริหารจัดการระบบ การออกแบบหน้าเว็บไซต์ อัพเดทข้อความ เนื้อหาการรับสมัครการประกาศผลการสมัครบนเว็บไซต์ รวมถึงพัฒนาแอพพลิเคชั่นต่างๆ และเป็นที่ปรึกษาให้กับลูกค้าทุกขั้นตอน ซึ่งเราได้ออกแบบระบบ ให้สอดคล้องกับระบบการทำงานของลูกค้า เพื่อให้เกิดการทำงานที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงประหยัด งบประมาณในการลงทุนและบุคลากร”

“ จากประสบการณ์กว่า 16 ปี ในการบริหารเครือข่ายขนาดใหญ่ของประเทศ และให้บริการด้านดาต้าเซนเตอร์ (IDC) ขององค์กรชั้นนำ อาทิ สถาบันทางการเงิน , หน่วยงานราชการ และองค์กรธุรกิจ ทำให้ ไอเน็ตมีความพร้อมด้านบุคลลากรที่มีความเชี่ยวชาญ และเครื่องมือที่ให้ความมั่นใจถึงความเสถียรของระบบ Infrastructure และคลัง Server ว่ามีประสิทธิภาพการทำงาน พร้อมด้วยทีมเทคนิค ผู้เชี่ยวชาญที่คอยดูแลระบบของลูกค้าในช่วงการรับสมัครตลอด 24 ชั่วโมง และเรายังจัดเตรียมสำรองระบบ หากเกิดกรณีที่ระบบเกิดขัดข้อง เพื่อรับประกันว่าขั้นตอนการสมัครจะสามารถดำเนินไปอย่างราบรื่นตลอดโครงการ อย่างไม่มีสะดุด” คุณภาสพรรณีกล่าวเสริม

เบลดและเซิร์ฟเวอร์รุ่นใหม่รองรับแอพพลิเคชั่น
ที่ใช้ทรัพยากรมากที่สุดในโลก
 
 

ไอบีเอ็ม เปิดตัวระบบ POWER7® ซึ่งได้รับการปรับแต่งสำหรับเวิร์กโหลด รวมทั้งปรับปรุงประสิทธิภาพ Power 750 เป็นเซิร์ฟเวอร์รุ่นเดียวกันกับที่ใช้ในระบบวัตสัน (Watson) ซึ่งชนะการแข่งขันตอบปัญหาในเกมโชว์ Jeopardy! ด้วยสมรรถนะการประมวลผลที่เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด เบลด Power รุ่นใหม่ และเซิร์ฟเวอร์ Power รุ่นอัพเกรด ได้รับการพัฒนาเพื่อรองรับการจัดการแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ ที่ใช้ทรัพยากรระบบมากที่สุดในโลก เช่น แอพพลิเคชั่นที่ใช้ในการจัดการด้านการแพทย์ บริการด้านการเงิน การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ และอื่นๆ อีกมากมาย ความต้องการที่เฉพาะเจาะจงของแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ เหล่านี้จำเป็นต้องอาศัยการประมวลผลทรานแซคชั่นและข้อมูลจำนวนมหาศาลพร้อมๆ กัน ควบคู่ไปกับการวิเคราะห์ข้อมูลดังกล่าวในแบบเรียลไทม์ POWER7 จะช่วยให้ลูกค้าสามารถทำเวอร์ช่วลไลซ์และผนวกรวมเซิร์ฟเวอร์ได้ในระดับที่สูงมาก ซึ่งจะปรับปรุงระดับราคาต่อประสิทธิภาพ ประหยัดพลังงาน และลดขนาดพื้นที่ตั้งวางในดาต้าเซ็นเตอร์

นายธนพงษ์ อิทธิสกุลชัย รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายธุรกิจคอมพิวเตอร์ บริษัท ไอบีเอ็มประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “ผลการวิจัยตลาดแสดงให้เห็นว่ามีลูกค้าจำนวนมากขึ้นที่เลือกใช้ IBM Power Systems.TM เพื่อรองรับการดำเนินธุรกิจ  ข้อมูลจากไอดีซีชี้ว่า ไอบีเอ็มสามารถขยายความเป็นผู้นำในเซิร์ฟเวอร์ UNIX® ในช่วงไตรมาสที่สี่ของปี 2553 โดยครองส่วนแบ่งตลาดทางด้านรายได้สูงถึง 53.9 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มขึ้น 5.9 เปอร์เซ็นต์ และสูงกว่าคู่แข่งอันดับที่ 2 มากกว่า 30 เปอร์เซ็นต์
 
กลยุทธ์ของเราให้ผลตอบแทนอย่างคุ้มค่า เพราะมีลูกค้าหันมาใช้ Power Systems กันมากขึ้น การเปิดตัวระบบ Power รุ่นใหม่ในวันนี้แสดงให้เห็นถึงการลงทุนอย่างต่อเนื่องของไอบีเอ็มในการพัฒนาเซิร์ฟเวอร์ที่ปรับแต่งเป็นพิเศษสำหรับเวิร์กโหลด  เพียงสองเดือนหลังจากที่เราสาธิตการทำงานของระบบ Watson ซึ่งเป็นแนวโน้มถึงอนาคตของระบบประมวลผล พร้อมความสามารถที่ก้าวล้ำด้านการวิเคราะห์ข้อมูลและการเรียนรู้ นั่นแสดงว่าเพียงในระยะเวลาอันสั้นไอบีเอ็มก็สามารถพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบ Power ตอบโจทย์แนวโน้มความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว”
 
 

 
ผลิตภัณฑ์ Power Systems รุ่นใหม่ได้แก่:
 
* IBM BladeCenter® PS703 รุ่น 16 คอร์ แบบ single-wide และ IBM BladeCenter PS704 รุ่น 32 คอร์ แบบ double-wide ซึ่งช่วยให้ลูกค้ามีทางเลือกใหม่นอกเหนือจากการติดตั้งเครื่องจำนวนมากไว้บนแร็ค  ทั้งนี้ รุ่น PS704 มีประสิทธิภาพสูงกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ด้วยจำนวนคอร์ที่เพิ่มขึ้นสองเท่า แต่ใช้พื้นที่ตั้งวางและระดับพลังงานเท่ากับเบลด POWER7 รุ่นก่อนหน้า เบลด POWER7 รุ่นใหม่สนับสนุนการผนวกรวมเซิร์ฟเวอร์จำนวนมากโดยประหยัดพลังงานได้มากกว่า
* IBM Power 750 Express รุ่นใหม่ ซึ่งเป็นระบบเดียวกันกับที่ใช้ขับเคลื่อน Watson ได้รับการปรับแต่งเป็นพิเศษสำหรับงานวิเคราะห์ข้อมูลที่ท้าทายมากที่สุด โดย Power 750 ได้รับการอัพเกรดด้วยออปชั่นมากมาย รวมถึงโปรเซสเซอร์ POWER7 ที่ให้สมรรถนะการทำงานสูงกว่า 3 เท่าเมื่อเทียบกับเซิร์ฟเวอร์ 32 คอร์ เช่น เซิร์ฟเวอร์ SPARC T3-2 ของออราเคิล และสูงกว่า 2 เท่าเมื่อเทียบกับ Integrity BL890c i2 ของเอชพี
* ส่วน IBM Power 755 รุ่นใหม่ ซึ่งเป็นคลัสเตอร์โหนดประมวลผลแบบประสิทธิภาพสูงที่ประกอบด้วยคอร์ POWER7 จำนวน 32 คอร์ และโปรเซสเซอร์ที่รวดเร็วกว่า
 
นอกจากนี้ ไอบีเอ็มยังได้เปิดตัวอุปกรณ์ Systems Director Management Console ที่ช่วยให้ผู้ดูแลระบบดาต้าเซ็นเตอร์สามารถควบคุมทั้งเซิร์ฟเวอร์และเบลด Power โดยใช้อินเทอร์เฟซแบบครบวงจรสำหรับการจัดการทรัพยากรระบบแบบฟิสิคอลและเวอร์ช่วลไลซ์
พร้อมกันนี้ ไอบีเอ็มได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่ม Intelligent Cluster ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มประมวลผลประสิทธิภาพสูง ประหยัดพลังงาน รวมถึงแพลตฟอร์ม BladeCenter หรือ iDataPlex ผลิตภัณฑ์ใหม่เหล่านี้ช่วยให้ลูกค้ากลุ่มต่างๆ เช่น สถาบันการเงิน และบริษัทสำรวจแหล่งพลังงาน สามารถสร้างระบบ HPC ที่ช่วยลดค่าไฟฟ้าและค่าใช้จ่ายในการระบายความร้อนได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์  ผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่ม Intelligent Cluster ได้แก่
 
* แพลตฟอร์มใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยโปรเซสเซอร์รุ่นล่าสุด Intel Xeon E7
* โซลูชั่น 10Gb Ethernet ใหม่ที่สามารถปรับปรุงประสิทธิภาพของเวิร์กโหลด HPC โดยลดความล่าช้าของระบบได้ถึง 11 เท่า
* โซลูชั่น InfiniBand ใหม่สำหรับ Intelligent Cluster ซึ่งประกอบด้วยอีเธอร์เน็ตเกตเวย์แบบในตัว จึงไม่จำเป็นต้องใช้สวิตช์อีเธอร์เน็ตแยกต่างหากเพื่อปรับปรุงเวิร์กโหลดต่างๆ เช่น การซื้อขายหลักทรัพย์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
 
Watson เป็นระบบของไอบีเอ็มที่ร่วมตอบปัญหาในเกมโชว์ Jeopardy! และสามารถเอาชนะแชมเปี้ยน Jeopardy! ได้สำเร็จ  ระบบดังกล่าวถูกสร้างขึ้นโดยใช้ Power Systems ของไอบีเอ็ม  Watson นับเป็นพัฒนาการก้าวสำคัญในการเปลี่ยนแปลงมุมมองเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ จากเดิมที่มองว่าคอมพิวเตอร์เป็น “เครื่องคำนวณ” แต่จากนี้เป็นต้นไป คอมพิวเตอร์จะเป็น “อุปกรณ์ที่สามารถเรียนรู้ได้”  คณะนักวิทยาศาสตร์ของไอบีเอ็มได้สร้างระบบ Watson โดยใช้เทคโนโลยี IBM POWER7 ภายใต้ความพยายามในการสร้างสรรค์ระบบประมวลผลรุ่นอนาคต  ด้วยการเปิดตัวระบบ Watson นับเป็นครั้งแรกที่ระบบคอมพิวเตอร์สามารถวิเคราะห์ภาษามนุษย์และความซับซ้อนอื่นๆ ทางภาษา ซึ่งคนเราสามารถเข้าใจได้เป็นอย่างดี แต่คอมพิวเตอร์รุ่นเก่าไม่สามารถเข้าใจภาษาดังกล่าวได้
 
ในโลกธุรกิจ Power Systems ของไอบีเอ็มประกอบด้วยเทคโนโลยีขั้นสุดยอดที่สามารถรองรับแอพพลิเคชั่นและบริการใหม่ๆ ได้อย่างกว้างขวาง  นอกจากนั้น ระบบดังกล่าวยังช่วยให้ลูกค้าสามารถจัดการแอพพลิเคชั่นและบริการที่มีอยู่ในปัจจุบันโดยเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่า ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำทางด้านเวอร์ช่วลไลเซชั่น การประหยัดพลังงาน การใช้หน่วยความจำอย่างมีประสิทธิภาพ และระดับราคา ประสิทธิภาพที่เหนือกว่า

ดีแทคเตรียมเปิดตัวแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตสำหรับ iPad 2 รุ่น Wi-Fi + 3G ในประเทศไทยเร็ว ๆ นี้ iPad 2 คืออุปกรณ์ดิจิตอลมหัศจรรย์จาก Apple สำหรับใช้บราวซ์เว็บ อ่านและส่งอีเมล์ ดูรูปถ่าย ชมวีดิโอ ฟังเพลง เล่นเกม อ่านหนังสือผ่านอีบุ๊ค และอื่น ๆ iPad 2 ได้รับการปรับปรุงจาก iPad รุ่นเดิมโดยมีความบางกว่า น้ำหนักเบากว่า และทำงานรวดเร็วกว่า โดยที่แบตเตอรี่ยังคงมีอายุการใช้งานได้ถึง 10 ชั่วโมงเหมือนเดิม ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ iPad 2 ได้ที่ www.apple.com/ipad

หลังจากประสบความสำเร็จในการเป็นแบรนด์แรกของโลกที่นำเสนอเทคโนโลยี Dual Core ล่าสุด LG Optimus 2X ได้รับการรับรองจาก กินเนสบุ๊ค เวิลด์ เรคคอร์ด ให้เป็นมือถือรุ่นแรกของโลกที่มาพร้อมหน่วยประมวลผล Dual Core จึงให้ประสิทธิภาพด้านความเร็ว การท่องเว็บ และมัลติมีเดียเพื่อความบันเทิงที่เหนือกว่ามือถือ Single Core โดยเปิดตัวเป็นครั้งแรกที่ประเทศเกาหลี ในเดือนมกราคม 2554 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีระดับโลกของแอลจีได้เป็นอย่างดี

LG Optimus 2X ใช้ชิพ Tegra 2 ความเร็ว 1GHz ซึ่งพัฒนาโดยผู้นำด้านเทคโนโลยีการประมวลผลและกราฟฟิกอย่าง NVIDIA จึงมั่นใจได้ในสมรรถนะด้านภาพและเสียงที่ทรงพลัง ผู้ใช้จะสัมผัสได้ถึงประสิทธิภาพที่เหนือกว่ามือถือ Single Core อย่างเห็นได้ชัด ทั้งการท่องเว็บที่รวดเร็วยิ่งขึ้น การเล่นเกม 3 มิติโดยภาพไม่กระตุก และการตอบสนองของจอสัมผัส รวมทั้งการใช้งานแอพพลิเคชั่น และ Multitasking ได้อย่างราบรื่น

แอลจียังออกแบบให้ LG Optimus 2X สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ดิจิตอลอื่นๆ ผ่านพอร์ท HDMI หรือ DLNA เพื่อแสดงผลบนหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น เช่น ทีวี และจอมอนิเตอร์ ได้อย่างสะดวก อีกทั้งยังรองรับการถ่ายทำและเล่นวีดีโอความละเอียดสูงระดับ Full HD (1080p) จึงสามารถรับชมคอนเทนต์ HD และ Flash ในเว็บไซต์ต่างๆ ได้เทียบเท่าเครื่องพีซี

นอกจากนี้ LG Optimus 2X ยังมาพร้อมอุปกรณ์จับทิศทาง Gyro Sensor เต็มรูปแบบ จึงสามารถเล่นเกมบนมือถือผ่านทีวีได้เสมือนเครื่องคอนโซลวิดีโอเกม และมีคุณสมบัติอื่นๆ อย่างครบครัน ทั้งกล้องหน้า 1.3 ล้านพิกเซล, กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช, จอภาพ IPS LCD ความละเอียดสูง, ระบบเสียงเซอร์ราวน์ 7.1, ช่องเสียบสาย microUSB และแบตเตอรี่ 1500mAH

LG Optimus 2X วางจำหน่ายแล้วในราคา 20,900 บาท พร้อมสายเคเบิล Micro HDMI สำหรับเชื่อมต่อทีวี และการ์ดความจำภายนอก 8GB ข้อมูลเพิ่มเติมเข้าชมได้ที่ www.lg.com/th หรือติดต่อศูนย์บริการข้อมูลแอลจี โทร 02-878-5757 หรือหมายเลขโทรฟรี 1-800-545454

คุณสมบัติ
• จอสัมผัส WVGA ขนาด 4 นิ้ว
• หน่วยความจำ 8GB และรองรับ microSD ภายนอกได้สูงสุด 32GB
• แบตเตอรี่ 1,500 mAH
• กล้องหลัง 8 ล้าน พิกเซล พร้อมแฟลช
• กล้องหน้า 1.3 ล้าน พิกเซล
• รองรับการเชื่อมต่อ HDMI พอร์ท
• บันทึกและแสดงผลระดับ Full HD 1080p MPEG-4/H.264
• มาพร้อมแอพพลิเคชั่น Google Voice Search, Google Voice Action, Google Goggles, Google Shopper, Google Maps

Significant investments in network coverage and infrastructure, high-speed connectivity, and reduced prices for the most popular broadband services will keep market competitive and thereby, innovative. Harnessing the potential of converged services will give the $9.16 billion broadband services market in Latin America a huge push into the next level and guarantee return on investment (ROI).

New analysis from Frost & Sullivan (http://www.ipcommunications.frost.com), Latin American Broadband Services Markets 2010, finds that the market earned revenues of $7.7 billion in 2009 and estimates this to reach $19.3 billion in 2015, mainly driven by the expansion in network coverage and the increase in competition.

Following considerable price reductions, Mexico emerged as a country with one of the lowest broadband prices in the world. Consequently, it had the largest percentage rise in household penetration in the region – from 21.8 percent in 2008 to 28.0 percent in 2009. This competitive environment will set the stage for strong sales promotions and bundled offerings, which, in turn, will increase the uptake of broadband service.

The majority of the broadband accesses in Latin America, such as asymmetric digital subscriber line (ADSL) connections and telcos, are constantly deploying networks to amplify coverage and increase service quality.

“Fiber networks and government subsidies to stimulate broadband penetration in low-income segments will attract more participants to the market,” says Frost & Sullivan Industry Manager José Roberto Mavignier. “As broadband services markets in Latin America are expected to grow faster than other telecom services such as fixed and mobile telephony, operators are channeling investments toward network expansion and new technologies, opening a new stage in the competition.”

However, due to the poor PC penetration among the low-income groups and the challenges in demonstrating an ROI from broadband infrastructure, service providers are heavily dependent on the government to stimulate the adoption of Internet-enabled equipment such as PCs and notebooks. They will be seeking lower taxes for broadband services and subsidies to build network infrastructure and extend broadband coverage to remote locations.

“Investments in network capacity and new technologies enable broadband operators to offset the lack of government incentives to some extent, and provide novel and converged services that help to retain high-income clients,” notes Mavignier.

Nevertheless, investments in fiber networks and a broader range of plans are fostering an environment where participants are hard pressed to generate substantial revenues and introduce services. In such a scenario, market consolidations to enable the provision of integrated services are becoming the order of the day. A case in point is the merger of America Movil’s regional operations with its fixed unit Telmex, as well as Telefonica with its mobile operation, Movistar.

Telecoms service provider revenues grew by four per cent in 2010 to reach $1.85 trillion, driven by strong growth in the mobile market in the BRIC (Brazil, Russia, India and China) economies, according to new figures from Ovum.

The independent telecoms analyst looked closely at the 2010 financial performance of telecoms carriers across the globe for a new report*, with reassuring results. The four per cent growth represents a notable improvement from 2009, when revenues fell by four per cent.
Meanwhile average profitability showed positive signs, as measured by metrics such as operating cash flow and net profit margins, EBITDA (earnings before interest, taxes depreciation and amortisation) and net debt.

Matt Walker, Ovum principal analyst and author of the report, commented: “It’s too early to break out the champagne just yet, but within the context of a slowly improving global economy, the telecoms sector is returning to sustainable growth.”

In terms of the opportunity for vendors, although service provider capex declined by three per cent in 2010, this was an improvement from the nine per cent capex decline in 2009. Significantly, in the fourth quarter of 2010, carrier capex rose two per cent when compared to the fourth quarter of 2009.

This modest year-on-year (YoY) service provider capex increase was the first such growth since the fourth quarter of 2008 – the year the financial crisis hit – and is another sign that recovery in the telecoms sector is on track. The Asia-Pacific region excluding China & India had the second best regional capex growth in 2010, versus 2009, up 4.4%; India’s 39% drop was the poorest result. Ovum is optimistic on India’s pick up in 2011–12. China, on the other hand, fell by 19%, dropping capital intensity down to 26.6%, the lowest since 2006.

Walker commented: “The late pick-up of global capex in 2010 drove the full-year results. There is usually a fourth quarter budget flush, but 2010 was stronger than 2009, when most carriers remained jittery. Vendors who have faced several quarters of lean times are certainly happy to see the capex tap turned on again.”

Most of the big vendors enjoyed healthy top-line YoY growth for the fourth quarter of 2010. The best performing of the larger vendors included ZTE and Juniper, with 40 per cent and 26 per cent YoY revenue growth respectively. Alcatel-Lucent and Ericsson also did well with YoY growth of 13 per cent and 11 per cent respectively. Meanwhile, Nokia Siemens Networks’ (NSN) revenues in the fourth quarter of 2010 grew by 0.5 per cent to hit $5.4 billion, NSN’s first positive YoY revenue growth since the third quarter of 2008.

บริษัท ซันโย (ไทยแลนด์) จำกัด ขอแนะนำนวัตกรรมใหม่ล่าสุดแบตเตอรี่ ”เอเนลูป” รุ่นประกายเพชร 8 สีสัน ได้แก่ ม่วง ชมพู ส้ม เหลือง เขียวอ่อน ฟ้า เทา และดำ ย้ำความสำเร็จผู้นำเทคโนโลยีแบตเตอรี่ชาร์จตัวจริง

นายพศณัฐ ทองเจือ รองผู้จัดการทั่วไปบริษัท ซันโย (ไทยแลนด์) จำกัด ยืนยันความสำเร็จผู้นำตลาดทั้งด้านคุณภาพและการออกแบบแบตเตอรี่ “เอเนลูป” โดยล่าสุด ขอแนะนำแบตเตอรี่ “เอเนลูป” รุ่นประกายเพชร (Glitter) แวววาวระยิบระยับ มีให้เลือกถึง 8 สีสันด้วยกัน ได้แก่ ม่วง ชมพู ส้ม เหลือง เขียวอ่อน ฟ้า เทา และดำ

“ด้วยคุณสมบัติพิเศษของแบตเตอรี่ “เอเนลูป” ที่สามารถใช้งานได้ทันทีในครั้งแรก ทนทานกับทุกสภาวะอากาศ แม้ในสภาพอากาศหนาวเย็น อุณหภูมิต่ำถึง -20 องศาเซลเซียส อีกทั้งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพราะสามารถชาร์จซ้ำได้ถึง 1,500 ครั้ง นำไปรีไซเคิลได้เมื่อหมดอายุการใช้งาน ตลอดจนคงความเสถียรของพลังงานไฟฟ้ายาวนานถึง 3 ปี แม้ไม่ได้ใช้งาน”

“เราต้องการสร้างการเรียนรู้ ควบคู่ไปกับการปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคจากที่เคยใช้แบตเตอรี่แบบ “ใช้แล้วทิ้ง” มาสู่ “ไลฟ์สไตล์แห่งการรีไซเคิลและรียูส” เพื่อแสดงจุดยืนธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง” นายพศณัฐกล่าว

พบกับแบตเตอรี่ ”เอเนลูป” รุ่นประกายเพชร 8 สี ได้แล้ววันนี้ ณ ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายและห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ บริษัท ซันโย (ไทยแลนด์) จำกัด โทรศัพท์ 02-308-6900 (ในเวลาทำการ)

Specification

Product Description Eight color AA size Nickel-Metal Hydride Rechargeable Battery Pack
Product Name eneloop glitter
Product Number 8HR3UTG2
Nominal Voltage 1.2 V
Rating Capacity (Min.)*3 1900 mAh
Dimensions 14.35mm (diameter) x 50.4mm (height)
Battery Weight Approx. 27g/unit

หลังจากนวัตกรรมเปลี่ยนโลกอย่าง iPad ถูกเปิดตัว และประสบความสำเร็จอย่างงดงามไปแล้วทั่วโลก ปีนี้แอปเปิ้ลได้สร้างปรากฏการณ์อีกครั้งด้วยการเปิดจำหน่าย iPad2 แทบเล็ตที่จะมาเป็นผู้นำเทรนด์แห่งปี 2011 ครั้งแรกในเมืองไทย

iPad2 มาพร้อมกับคุณสมบัติใหม่สุดเร้าใจ ทั้งเบากว่า บางกว่า เร็วกว่าเดิม ใช้งานแบตเตอรี่ได้ถึง 10 ชั่วโมง ดีไซน์ใหม่ที่มีให้เลือกทั้งสีขาว และดำ ที่สำคัญมาพร้อมกล้องหน้าและหลัง ให้โทรคุยแบบเห็นหน้ากับ FaceTime HD ได้เต็มๆ รวมถึง Smart Cover ดีไซน์ล้ำที่ออกแบบมาให้ใช้คู่กันได้อย่างชาญฉลาด โดยสนนราคาของ iPad 2 นั้นถูกกำหนดมาให้เท่ากับ iPad รุ่นก่อน คือรุ่น Wi-Fi ความจุ 16GB, 32GB, และ 64GB อยู่ที่ 15,900, 18,900, และ 21,900 บาท ตามลำดับ สำหรับรุ่น Wi-Fi+3G ความจุ 16GB, 32GB และ 64GB ราคา 19,900 บาท, 22,900 บาท และ 25,900 บาท ตามลำดับ iPad 2 พร้อมให้คุณเป็นเจ้าของแล้ววันนี้ที่ iStudio, U-Store, Apple Shop ใน Power Buy, Power Mall, และ Banana IT ทุกสาขา
หากเจาะลึกลงไปในรายละเอียดของ iPad2 ก็จะพบว่ามันถูกออกแบบให้ผู้ใช้ได้เพลิดเพลินกับแทบเล็ตแห่งปี 2011 นี้ โดยที่ไม่อยากวางลงเลย ด้วยความบางกว่า 33 เปอร์เซนต์และเบากว่าเดิมถึง 15 เปอร์เซนต์ iPad2 จึงมีความหนาเพียงแค่ 0.5 นิ้ว หนักแค่ 1.5 ปอนด์ ทำให้ถือสบายขึ้น ให้คุณทำทุกๆ อย่างได้อย่างเป็นธรรมชาติ และคล่องตัวในทุกการใช้งาน ทั้งเล่นเว็บ, เช็คเมล์, ดูวิดีโอ, ฟังเพลง, อ่านหนังสือ และใช้งานแอพพลิเคชั่นอื่นๆ กว่า 140,000 ตัวที่เลือกดาวโหลดน์ได้จากใน AppStore รวมถึงชิปประมวลผล Dual-core A5 ที่ทำให้ iPad2 สามารถทำทุกๆ อย่างได้มากเป็นสองเท่า จนรู้สึกได้ถึงความเร็วเมื่อเล่นเว็บ, ดูวิดีโอ, โทรศัพท์แบบเห็นหน้าผ่าน FaceTime, ใช้งานแอพพลิเคชั่นต่างๆ และการใช้ Multitasking ที่ราบรื่นกว่า นอกจากนี้ iPad 2 ยังถูกพัฒนาแบตเตอรี่ให้สามารถใช้งานได้นานถึง 10 ชั่วโมง ทำให้ใช้งานได้ตลอดเที่ยวบินยาวๆ หรือดูวิดีโอได้ทั้งคืนได้ เนื่องจาก iPad2 ใช้ iOS ที่ประหยัดพลังงานสูงสุด และใน iPad2 รุ่นล่าสุดนี้ คุณสามารถคุยแบบเห็นหน้ากับเพื่อนๆและสนุกกับ FaceTime ได้แบบเต็มๆ เพราะ iPad2 เพิ่มกล้องสองตัวทั้งด้านหน้าและหลัง ที่สามารถสร้างประสบการณ์สุดยอด ในการถ่ายวิดีโอหรือถ่ายหนังเรื่องเด่นของคุณเอง พร้อมการถ่ายภาพ snapshot กับ Photo Booth ก็เป็นไปได้บน iPad 2 รุ่นนี้ ที่มาพร้อมกับกล้องหลังแบบ High Definition (HD)และด้วยคุณสมบัติ ทั้งหมดนี้ เป็นเหตุผลว่าทำไม ปี 2011 นี้จะเป็นปีของนวัตกรรมเปลี่ยนโลกอย่าง iPad 2

บรรยากาศการเปิดตัว iPad2 ในไทยที่ iStudio Siam Discovery และ Power Buy Central Chidlom May 6, 2011

สนนราคา iPad2 อยู่ที่
iPad2 Wifi
16 G = 15900 Baht
32 G = 18900 Baht
64 G = 21900 Baht
……………………….
iPad2 Wifi + 3G
16 G = 19900 Baht
32 G = 22900 Baht
64 G = 25900 Baht