Archive

Archive for the ‘Technology’ Category

กลุ่มทรู เร่งช่วยเหลือและดูแลลูกค้าให้ใช้งานสื่อสารทุกบริการต่อเนื่อง พร้อมประกาศมาตรการบรรเทาทุกข์ลูกค้าช่วงวิกฤติอย่างเต็มที่

November 2nd, 2011 No comments

กลุ่มทรู เร่งบรรเทาทุกข์ลูกค้าผู้ใช้บริการทั้งกลุ่มที่กำลังประสบปัญหาวิกฤตน้ำท่วมในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อให้ลูกค้าได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ยืนยันดูแลเครือข่ายและบริการเต็มที่ให้ลูกค้าใช้งานสื่อสารได้ต่อเนื่อง พร้อมประกาศขยายเวลาชำระค่าบริการรายเดือนแก่ลูกค้าในกลุ่มทั้งทรูมูฟ ทรูมูฟ เอช และฮัทช์ ทรูออนไลน์ทั้งโทรศัพท์บ้าน และอัลตร้าไฮสปีดอินเทอร์เน็ต ตลอดจน เคเบิ้ลทีวี-ทรูวิชั่นส์ รวมทั้งกระจายตั้งจุดให้บริการช่วยเหลือเร่งด่วนในพื้นที่ประสบภัย ให้ประชาชนโทรฟรีทุกเครือข่าย ใช้อินเทอร์เน็ตฟรี และติดตามข่าวสารจากทรูวิชั่นส์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า กลุ่มทรูยืนยันความพร้อมที่จะดูแลรักษาเครือข่ายการให้บริการสื่อสารภายในกลุ่ม เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้บริการได้เต็มประสิทธิภาพทั่วทุกพื้นที่ที่ประสบภัยน้ำท่วม รวมทั้งการจัดเตรียมเจ้าหน้าที่เร่งแก้ปัญหา เพื่อให้ใช้งานได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด รวมทั้งออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าภายในกลุ่มทรู ทั้งทรูออนไลน์ ทรูมูฟ และทรูวิชั่นส์ โดยลูกค้าที่อยู่ในพื้นที่ภัยพิบัติสามารถโทรแจ้งความประสงค์ขอระงับสัญญาณชั่วคราวได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ซึ่งบริษัทจะดำเนินการระงับสัญญาณชั่วคราวให้ทันที นอกจากนี้ เพื่อลดความกังวลและให้ลูกค้ายังสามารถใช้งานติดต่อสื่อสารได้อย่างต่อเนื่อง ผู้ใช้บริการในกลุ่มทรูในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม ได้รับการยืดเวลาการชำระค่าบริการต่อไปจนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ รวมทั้งสามารถแจ้งความจำนงขอผ่อนชำระค่าบริการรายเดือนในรอบเดือนตุลาคมได้ สำหรับโครงข่ายที่ได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำท่วมทำให้ระบบเสียหาย บริษัทจะปรับลดค่าบริการตามสัดส่วนของระยะเวลาที่ไม่สามารถให้บริการได้ กรณีที่อุปกรณ์โมเด็ม เร้าท์เตอร์ หรือกล่องรับสัญญาณเช่าชำรุด หรือเสียหายอันเนื่องมาจากภัยน้ำท่วม บริษัทจะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มความสามารถ หรือดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์ใหม่ทดแทน โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ซึ่งลูกค้าสามารถแจ้งปัญหาที่คอลเซ็นเตอร์กลุ่มทรู ตลอด 24 ชั่วโมง

นายศุภชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า กลุ่มทรูยังเดินหน้าร่วมบรรเทาความเดือดร้อนทั้งแก่ลูกค้าและประชาชนทั่วไปที่ประสบภัยน้ำท่วม รวมทั้งกระจายเปิดจุดบริการช่วยเหลือเร่งด่วน ให้โทรฟรีทุกเครือข่าย ใช้อินเทอร์เน็ตฟรี และเติมเงินให้ลูกค้าทรูมูฟฟรีพร้อมเติมวันใช้งาน 60 วัน รวมทั้งติดตั้งทรูวิชั่นส์ให้ติดตามข่าวสารตลอด 24 ชั่วโมง ในพื้นที่ประสบภัยและศูนย์พักพิงชั่วคราวต่างๆ อาทิ ศูนย์ธรรมศาสตร์รังสิต, ศูนย์ดอนเมือง, ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ แจ้งวัฒนะ, ศูนย์ราชมงคลคลอง 6, ศูนย์ป้องกันต่อสู้อากาศยานวังน้อย, วัดญาณสังวราราม วรมหาวิหาร ชลบุรี, วิทยาลัยพละและการกีฬา ชลบุรี, กระทรวงพลังงาน ตึก Energy Complex (ศปภ.), มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, ศูนย์พักพิงชั่วคราว จ. ลพบุรี, อยุธยา สระบุรี และค่ายอดิศร รวมทั้งยังอำนวยความสะดวกจัดเตรียม Wi-Fi hotspots ให้ใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงไร้สาย โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายแก่ผู้อาศัยในพื้นที่ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต สนามบินดอนเมือง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี และสนามกีฬาแห่งชาติศุภชลาศัย

ทั้งนี้ ทรูมูฟช่วยเหลือลูกค้า โดยเติมเงินให้ลูกค้าผู้ประสบภัยแล้วกว่า 7 แสนราย มูลค่ากว่า 18 ล้านบาท พร้อมเพิ่มวันใช้งานแก่ลูกค้ากว่า 3 ล้านราย รวมทั้งสนับสนุนการติดตั้งจุดบริการทรูวิชั่นส์แล้วกว่า 10 จุดในพื้นที่ประสบภัยและศูนย์พักพิงชั่วคราว มูลค่ากว่า 1,000,000 บาท

อนึ่ง ลูกค้าทรูออนไลน์ สามารถแจ้งปัญหาที่โทร 1686 หรือ www. trueonline.com ตลอด 24 ชั่วโมง ลูกค้าทรูมูฟ สามารถแจ้งปัญหาที่ทรูมูฟแคร์ 1331 หรือ www. .com ตลอด 24 ชั่วโมง ลูกค้าทรูวิชั่นส์ สามารถแจ้งปัญหาที่โทร 02-725-2525 เวลา 08.00-22.00 น.

View :1470

ไอบีเอ็มเปิดตัวโซลูชั่นใหม่ สมาร์ทเตอร์ คอมเมิร์ซ ช่วยยกระดับความสำเร็จธุรกิจในยุคดิจิตอล

October 28th, 2011 No comments

ผู้นำอุตสาหกรรมทั่วโลกต่างยกนิ้วให้กับโซลูชั่นไอบีเอ็ม ที่ช่วยตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ง่ายอย่างใจคิด

ไอบีเอ็มเปิดตัวโซลูชั่น (Smarter Commerce) โซลูชั่นสำหรับประยุกต์ใช้ในการดำเนินธุรกิจและพัฒนาขีดความสามารถทางการแข่งขัน ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ ให้ตอบสนองต่อความต้องการที่หลากหลายและเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังช่วยดึงดูดและเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ในยุคดิจิตอลได้อีกด้วย พร้อมเผยรายชื่อลูกค้าชั้นนำในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ จากทั่วโลก ที่ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นจากการนำโซลูชั่น Smarter Commerce ของไอบีเอ็มมาใช้ ในระหว่างการประชุมสุดยอด Smarter Commerce Global Summit ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรก ณ เมืองซานดิเอโก

ปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทุกธุรกิจอุตสาหกรรมต่างมุ่งเน้นในการให้ความสำคัญกับความต้องการของลูกค้า โซลูชั่น Smarter Commerce ของไอบีเอ็มจึงได้ออกแบบมาโดยมุ่งเน้นในการช่วยเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจแก่บริษัทต่างๆ ด้วยการปรับปรุงประสิทธิภาพในการทำการตลาด การจัดจำหน่ายสินค้าและบริการ และการรักษาฐานลูกค้า โดยเฉพาะในยุคที่ลูกค้า หรือผู้บริโภค นิยมใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ ใช้โทรศัพท์ และอุปกรณ์เคลื่อนที่อย่างแพร่หลาย รวมถึงการซื้อสินค้าทางออนไลน์ จากผลการสำรวจพบว่า มีผู้บริโภคถึง 64 เปอร์เซ็นต์ที่ตัดสินใจซื้อสินค้าครั้งแรกโดยอ้างอิงประสบการณ์จากโลกดิจิตอล ด้วยเหตุนี้บริษัทต่างๆ จึงจำเป็นต้องสามารถตรวจสอบและเข้าถึงพฤติกรรมการใช้สื่อออนไลน์ของผู้บริโภค เพื่อนำมาใช้ปรับแต่งกลยุทธ์ด้านการตลาด การขาย การบริการ และระบบซัพพลายเชนให้สอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป

นางเจษฎา ไกรสิงขร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจซอฟต์แวร์ บริษัท ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “ไอบีเอ็มมีบทบาทสำคัญในการกำหนดและชี้นำทิศทางตลาดยุคใหม่นี้ ซึ่งคาดว่าภายในปี 2558 การเติบโตของตลาดในส่วนของซอฟต์แวร์จะมีมูลค่าสูงถึง 20,000 ล้านดอลลาร์ โดยเป็นผลมาจากความต้องการขององค์กรต่างๆ ที่พยายามมองหาลู่ทางในการสร้างระบบอัตโนมัติสำหรับการตลาด การขาย และการส่งมอบสินค้า เพื่อสนับสนุนแนวทางการค้าที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลางในการซื้อขายสินค้าและบริการ โดยซอฟต์แวร์โซลูชั่นใหม่นี้เป็นการผนวกรวมเทคโนโลยีซอฟต์แวร์ที่มีความโดดเด่นอย่าง Unica, Coremetrics และ Sterling Commerce ร่วมกับการวิจัยและพัฒนาของไอบีเอ็มที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้สามารถติดต่อกับซัพพลายเออร์และทำธุรกรรมด้านการค้ากับบริษัทคู่ค้าได้เองอย่างชาญฉลาดและมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงความสามารถในการทำความเข้าใจข้อมูลทางธุรกิจในเชิงลึกเพื่อนำมาใช้ปรับปรุงและส่งเสริมการตลาดและการขายของบริษัท พร้อมทั้งการเชื่อมโยงช่องทางการติดต่อในทั้งระบบออนไลน์ แบบเคลื่อนที่ และเครือข่ายสังคมออนไลน์ไปสู่หน้าร้านจริงได้เป็นอย่างดี”

ตัวอย่างลูกค้าที่ประสบความสำเร็จจากการใช้โซลูชั่น Smarter Commerce

คาร์ฟูร์ (Carrefour) ห้างค้าปลีกชั้นนำของยุโรป ได้นำระบบวางแผนการซื้อสินค้าและระบบสั่งซื้อสินค้าในสต็อกมาใช้ เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลจากจุดชำระเงินไปยังโปรแกรมคูปองบัตรสมาชิกของลูกค้า นอกจากนี้ ห้างคาร์ฟูร์ยังได้นำเทคโนโลยีของไอบีเอ็มมาใช้ เพื่อเก็บข้อมูลคู่ค้าของบริษัทกว่า 3,500 ราย ที่ทำการติดต่อซื้อขายกับคาร์ฟูร์มากถึง 3,000 ครั้งต่อเดือน ด้วยวิธีนี้เองที่ช่วยคาร์ฟูร์ให้สามารถเพิ่มความพึงพอใจแก่ลูกค้าได้ และยังช่วยให้ซัพพลายเออร์ส่งมอบสินค้าที่สดใหม่และมีคุณภาพมาที่ห้างคาร์ฟูร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นประจำทุกวันด้วยการใช้เทคโนโลยีด้านการตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยระบบวิเคราะห์ข้อมูลของไอบีเอ็มสำหรับ Smarter Commerce ลูกค้าจึงสามารถยกระดับความสำเร็จทางธุรกิจได้อย่างเหนือชั้น:

L’Occitane en Provence มีอัตราการซื้อสินค้าเพิ่มขึ้น 17 เท่า และมียอดขายต่ออีเมลแต่ละฉบับเพิ่มขึ้น 25 เท่า ด้วยการใช้ Coremetrics LIVEmail เพื่อสร้างข้อความอีเมลที่ตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น

Citrix ปรับปรุงการลงทุนด้านการตลาดและลดต้นทุนแปรสภาพได้เกือบ 80 เปอร์เซ็นต์ ด้วย Unica NetInsight

wehkamp.nl ผู้ค้าปลีกออนไลน์ชั้นนำของเนเธอร์แลนด์ สามารถเพิ่มผลตอบแทนได้มากขึ้น 15 เท่าจากการลงทุนในโฆษณาออนไลน์ที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย โดยอาศัย Coremetrics Ad Target นอกจากนี้ยังใช้ระบบวิเคราะห์ข้อมูล Coremetrics Web และ Unica Campaign เพื่อทำตลาดการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ให้แก่ลูกค้ารายเดิม ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูยอดขายที่สูญเสียไปก่อนหน้านี้ รวมถึงลูกค้าที่บริษัทเกือบจะสูญเสียไปด้วย ในขั้นตอนของการขายในระบบ Smarter Commerce องค์กรธุรกิจจะสามารถปิดธุรกรรมได้อย่างปลอดภัยและประหยัดค่าใช้จ่าย และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างลงตัว
Staples บริษัทผู้จำหน่ายเครื่องใช้สำนักงานรายใหญ่ที่สุดในโลก ปรับปรุงอัตราการซื้อสินค้าออนไลน์ได้มากกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ โดยอาศัยเทคโนโลยีของไอบีเอ็ม

XO Communications ผู้ให้บริการสื่อสาร เรียนรู้ที่จะปรับปรุงการรักษาฐานลูกค้าและปรับเปลี่ยนไปสู่การดำเนินงานในรูปแบบใหม่อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพในขั้นตอนของบริการในระบบ Smarter Commerce สามารถลดจำนวนลูกค้าที่เปลี่ยนไปใช้บริการของบริษัทอื่น ซึ่งเป็นปัญหาท้าทายที่สำคัญในธุรกิจโทรคมนาคม ได้ถึง 18 เปอร์เซ็นต์ต่อปี

View :1591

ไอดีซีระบุตลาดจีนและอินเดียช่วยกระตุ้นให้ยอดขายพีซีในเอเชียแปซิฟิกให้เติบโต 2 หลักในไตรมาสที่ 3 ปีนี้

October 25th, 2011 No comments

ผลการวิจัยเบื้องต้นของไอดีซีชี้ให้เห็นว่าตลาดเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลหรือพีซีในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (ยกเว้นญี่ปุ่น) ในไตรมาสที่ 3 ของปี้นี้ได้เติบโตขึ้น 6% จากไตรมาสที่ 2 และขยายตัวถึง 13% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยมียอดจำหน่ายทั้งหมดกว่า 31.9 ล้านเครื่อง ซึ่งถือว่าเติบโตเกินกว่าที่ไอดีซีคาดการณ์ไว้ 2%

ผู้บริโภคในประเทศจีนได้หันกลับมาจับจ่ายซื้อสินค้าพีซีอีกครั้งหลังจากที่กระแสของมีเดีย แท็บเล็ทได้เริ่มอ่อนตัวลง ในขณะเดียวกันภาคธุรกิจเองก็มีการลงทุนซื้อพีซีมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกเหนือ จากนี้ตลาดอินเดียเองก็ขยายตัวขึ้น อันเนื่องมาจากการที่อุปสงค์ในฝั่งของผู้บริโภคนั้นได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากที่ซบเซามาตลอดในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าการลงทุนของภาคเอกชนจะอยู่ในระดับต่ำอันเป็นผลมาจากความกังวลในเรื่องของวิกฤตเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาและกลุ่มประเทศยุโรปตะวันตกก็ตาม

นายไบรอัน มา รองประธานฝ่ายงานวิจัยตลาดอุปกรณ์ต่อพ่วงประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกของไอดีซีเผยว่า “ถึงแม้ว่าจะเป็นการดีที่เราได้เห็นยักษ์ใหญ่อย่างอินเดียและจีนช่วยขับเคลื่อนตลาดในภูมิภาค แต่บทบาทของประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ เช่นประเทศไทยก็เริ่มเพิ่มความสำคัญมากขึ้นเช่นกัน ถึงแม้ ว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจจะยังคงไม่แน่นอน แต่การบริโภคก็ยังถือว่าคงตัวอยู่ในระดับสูง ซึ่งถ้าหากผลกระทบจากน้ำท่วมในประเทศไทยนั้นไม่ได้ขยายตัวเป็นวงกว้าง ไอดีซีเชื่อว่าภาพรวมของตลาดทั้งภูมิภาคน่าจะดีกว่าที่ไอดีซีได้คาดการณ์ไว้ ซึ่งก็คือโตเกินกว่า 12% นั่นเอง”

เลอโนโวยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดในประเทศจีน และยังคงขับเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำทั้งในตลาดประเทศจีนและตลาดโลก ขณะเดียวกันอัสซุสที่สามารถแก้ไขปัญหาเรื่องของสินค้าคงคลังได้สำเร็จก็ทำผลงานได้ดีในประเทศจีนทั้งในเมืองใหญ่และจังหวัดต่างๆ และถึงแม้ ว่าผลงานของเดลล์จะทรงตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 แต่ผู้ผลิตรายนี้ก็ยังคงลงทุนต่อเนื่องในการขยายส่วนแบ่งตลาดในประเทศจีน และรักษาส่วนแบ่งตลาดที่มากที่สุดในประเทศอินเดียได้สำเร็จ

View :1577

แคนนอนเปิดตัว eMaintenance บริการเลขาส่วนตัวออนไลน์

October 20th, 2011 No comments

จัดการทุกปัญหาเครื่องถ่ายเอกสารด้วยบริการข้ามโลก พร้อมบริการซ่อมบำรุงถึงที่ทันใจผ่านระบบเตือนอัตโนมัติ

เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) ผู้นำในตลาดอุปกรณ์เครื่องใช้สำนักงาน สำหรับธุรกิจ SME และองค์กรขนาดใหญ่ของประเทศไทย สร้างความแตกต่างในการให้บริการเครื่องถ่ายเอกสาร นำเสนอบริการรูปแบบใหม่สำหรับลูกค้าผู้ใช้เครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชั่นของแคนนอน ภายใต้บริการชื่อ eMaintenanceที่จะให้บริการเหมือนเลขาส่วนตัว ในการแจ้งเตือนข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับผู้ใช้เครื่องถ่ายเอกสาร และช่วยให้การสื่อสารเป็นไปอย่างอิสระไร้ขีดจำกัด เพื่อให้การบริหารงานเอกสารจำนวนมากมีประสิทธิภาพ และข้อมูลได้รับการป้องกันให้มีความปลอดภัยสูงสุด

ร้อยเอกสุนทร ปัณฑรมงคลผู้อำนวยการอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป ส่วนงานบิสซิเนส อิมเมจจิ้ง โซลูชั่น กรุ๊ป บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวถึงบริการใหม่ล่าสุดของแคนนอนว่า “ เป็นคอปเซ็ปต์ใหม่ในการให้บริการลูกค้าจากแคนนอน โดยให้บริการผ่านระบบ RDS (Remote Diagnostic System) ซึ่งเป็นระบบจัดการและตรวจสอบการทำงานของเครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชั่นแต่ละเครื่องของแคนนอนจากทางไกลโดยศูนย์บริการลูกค้าที่ญี่ปุ่น ด้วยบริการที่สามารถควบคุมและตรวจสอบการทำงานทั้งหมดของเครื่องได้ผ่านทางอินเทอร์เน็ตตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อเกิดเหตุขัดข้องกับตัวเครื่องถ่ายเอกสารทางศูนย์จะได้รับการแจ้งเตือนอัตโนมัติ จึงทำให้สามารถแก้ปัญหาหรือเรียกฝ่ายซ่อมบำรุงเข้ามาจัดการได้ในทันที โดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องยุ่งยาก นอกจากนี้บริการ ยังช่วยตรวจเช็คการใช้งานเครื่องรวมถึงปริมาณหมึกที่เหลือภายในเครื่อง พร้อมส่งรายงานให้กับผู้ใช้ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาในการทำงาน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้ได้สูงสุด”

ทั้งนี้บริการ eMaintenanceประกอบด้วยบริการหลัก 3 บริการ ได้แก่

eMeter Reading บริการตรวจสอบปริมาณการใช้งานของเครื่องอัตโนมัติ ผ่านทางระบบอินเทอร์เน็ต ช่วยให้คุณสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในการบริหารเอกสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ

eToner Service บริการตรวจสอบการใช้งานหมึกและปริมาณหมึกคงเหลือในสต็อกและในเครื่องแบบอัตโนมัติผ่านอินเทอร์เน็ต ผู้ใช้จึงไม่ต้องกังวลเรื่องพื้นที่ในการจัดเก็บสต็อกหมึกและปัญหาหมึกหมดอีกต่อไป

eProactive Support บริการนี้เป็นบริการตรวจสอบการทำงานและสถานะของเครื่อง รวมไปถึงอะไหล่ชิ้นส่วนต่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่าเครื่องอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานเต็มร้อย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่อง เนื่องจากมีการตรวจสอบอยู่ตลอดเวลา

บริการeMaintenance จากแคนนอน เป็นบริการเหนือระดับที่มุ่งสร้างความแตกต่างในการให้บริการ เพื่อช่วยให้กลุ่มลูกค้าผู้ใช้เครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชั่นของแคนนอนทั่วโลกได้รับสิทธิประโยชน์ที่เหนือกว่า ทั้งในแง่การประหยัดเวลาในการทำงาน ลดต้นทุนการผลิต และร่วมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
บริการ e-Maintenanceของแคนนอนได้ให้บริการแล้ว สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.canon.co.thหรือที่เบอร์ 02 – 344-9888

View :1602

หัวเว่ยจับมือเวลเทคกรุ๊ปเดินหน้าลุยตลาดดีไวซ์ไทย การันตีคุณภาพคับแก้วเทียบชั้นแบรนด์ระดับโลก

October 20th, 2011 No comments

หัวเว่ยได้ฤกษ์เดินหน้าลุยทำตลาดดีไวซ์ในไทย ล่าสุดแต่งตั้งเวลเทคกรุ๊ปตัวแทนจำหน่ายสินค้าไอทีระดับแนวหน้าของไทยกระจายสินค้าส่งดีลเลอร์ชั้นนำทั่วประเทศมั่นใจคุณภาพระดับโลกแถมราคาจับต้องได้ ฟันธง…..ตลาดไทยตอบรับคาดกลางปีชื่อติดตลาด

นายถู หมิง ผู้อำนวยการ ฝ่ายธุรกิจดีไวซ์ (Device Business) บริษัท เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2554 ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงให้ บริษัท จำกัด(WTG) เป็นตัวแทนจัดจำหน่าย หัวเว่ยสมาร์ทดีไวซ์ในประเทศไทย(Huawei Smart Device Distributor) โดย ถือเป็นผู้แทนจำหน่ายที่มีประสบการณ์ด้านการจัดจำหน่ายสินค้าไอทีมากว่า 25 ปี และเป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าไอทีอันดับแนวหน้าของไทย

อย่างไรก็ดีสาเหตุที่หัวเว่ยเข้ามาทำตลาดดีไวซ์ในประเทศไทยครั้งนี้เนื่องจากเล็งเห็นว่าตลาดดีไวซ์ไทยเป็นตลาดที่มีความสำคัญและมีการเติบโตอยู่อย่างต่อเนื่อง หลังจากหัวเว่ยเข้ามาทำตลาดอุปกรณ์โครงข่ายโทรคมนาคมในประเทศไทยมากว่า 10 ปี

ทั้งนี้หัวเว่ยพร้อมที่จะรับฟังความต้องการของผู้บริโภคชาวไทย เพื่อพัฒนาและนำเสนอสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตคุณภาพสูง รวมทั้งแอพพลิเคชั่นใหม่ให้ตรงกับความต้องการของตลาดภายใต้สโลแกน “ Let’s Simply Share”

นายสุวิทย์ ชัยกิจพัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวลเทคกรุ๊ป จำกัด ( WTG) เปิดเผยว่า บริษัทฯมีเชื่อมั่นในแบรนด์ของหัวเว่ย เนื่องจากเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมที่อยู่เบื้องหลังผู้ประกอบการโทรคมนาคมระดับโลก โดยเครือข่ายโทรคมนาคมในโลก 1 ใน 3 เป็นอุปกรณ์ที่ผลิตจากหัวเว่ย ปีที่ผ่านมาหัวเว่ยรายได้ถึง 10 ล้านล้านเหรียญฯ และปัจจุบันหัวเว่ยได้ก้าวสู่ผู้ผลิตดีไวซ์อันดับ 5 ของโลก ซึ่งเป็นหลักประกันคุณภาพและความน่าเชื่อถือในระดับสากลของหัวเว่ย

อย่างไรก็ดีเบื้องต้น เวลเทคกรุ๊ปจะเป็นตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่แบรนด์หัวเว่ยนำร่องจำนวน 3 รุ่น คือGAGA, IDEOS X3 และ IDEOS X5 ซึ่งเป็นระบบปฎิบัติการแอนดรอยด์ 2.3 และราคาจับต้องได้ทั้งหมด พร้อมทั้งแท็บเลต 1 รุ่น

ทั้งนี้เวลเทคกรุ๊ปจะกระจายดีไวซ์แบรนด์หัวเว่ยทั้ง 4 รุ่นไปยังดีลเลอร์จำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่และไอที ในสังกัดทั่วประเทศจำนวนกว่า 1,700 แห่ง ประกอบด้วย ดีลเลอร์โทรศัพท์เคลื่อนที่ชั้นนำอาทิ เจมาร์ท ทีจี บิสเทล และดีเลอร์ไอทีชั้นนำ อาทิ บานาน่า และ คอมเซเว่น เป็นต้น ปัจจุบัน WTG มียอดขายสินค้าแบรนด์ต่างๆประมาณ 2-3 หมื่นเครื่องต่อเดือน

“เรามั่นใจว่าสินค้าแบรนด์หัวเว่ยจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เพียงแต่ช่วงเริ่มต้นจะต้องให้ผู้บริโภค และดีลเลอร์ได้สัมผัสสินค้าเพื่อสร้างความเชื่อมั่นกับแบรนด์ แต่เชื่อใช้ระยะเวลาไม่นานนักเพราะสินค้าในแบรนด์หัวเว่ย มีคุณภาพ การใช้งานเสถียร และอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบทำจากวัสดุคุณภาพสูง ที่สำคัญราคายังสามารถจับต้องได้ เพราะกำหนดราคาตามกำลังซื้อของคนไทย”นายสุวิทย์กล่าว

นายสุวิทย์กล่าวต่อว่าแม้ปัจจุบันตลาดดีไวซ์ในไทยจะมีการแข่งขันสูงแต่กับมีผู้ผลิตอุปกรณ์ดีไวซ์เพียงไม่กี่รายในตลาด ซึ่งหัวเว่ยมีโอกาสที่จะขยับมาอยู่อันดับแถวหน้าได้ไม่ยากเพราะมีความโดดเด่นด้านคุณภาพและยังสามารถควบคุมราคาได้เป็นอย่างดีเพราะมีต้นทุนในการผลิตต่ำกว่าผู้ประกอบการรายอื่นซึ่งส่วนใหญ่ผลิตและใช้ชิ้นส่วนของหัวเว่ยด้วยเช่นกัน ฉะนั้นเชื่อได้ว่ากลางปีหน้าชื่อเสียงของหัวเว่ยดีไวซ์จะเป็นที่รู้จักอย่างแน่นอน

View :1587

ESRI จับมือ Globetech และกระทรวงคมนาคม ดันระบบตรวจสอบน้ำท่วมด้วยตัวเองผ่านเว็ปไซต์ ARC GIS

October 20th, 2011 No comments

บริษัท อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำในการให้บริการระบบภูมิสารสนเทศ (GIS) หนึ่งในกลุ่มบริษัทซีดีจี ออกระบบรายงานสถานการณ์น้ำท่วมบนเว็บไซต์ http://203.150.230.27/FloodMap/index.html ให้บริการประชาชนตรวจสอบพื้นที่น้ำท่วมด้วยตัวเอง โดยเชื่อมต่อข้อมูลจากกระทรวงคมนาคมและข้อมูลจาก GISTDA โดยตรงและรายงาน ผ่านเว็บไซต์ http://www.mot.go.th/ แบบวันต่อวัน ซึ่งระบบสามารถระบุตำแหน่ง จุดอพยพ, จุดจอดรถ, เส้นทางที่น้ำท่วม, เส้นทางแนะนำ, แนวป้องกันน้ำท่วมและ พื้นที่น้ำท่วม เพื่อรับมือและวิเคราะห์สถานการณ์ล่วงหน้าได้อย่างทันท่วงที

วิธีการใช้งานเบื้องต้น
• กล่อง “บริการข้อมูล” ด้านซ้ายมือ เลือก เปิด-ปิด เพื่อแสดงผลข้อมูลบนแผนที่ได้ตามต้องการ
• กล่อง “Social Media” ด้านซ้ายมือ สามารถเลือกติดตามได้ทั้ง YouTube, Twitter, Flickr
• แถบย่อ-ขยายแผนที่ ข้างขวามือของกล่องบริการข้อมูล คลิกลูกศรด้านบน = ขยาย คลิกลูกศรด้านล่าง = ย่อ
• กล่อง “สัญลักษณ์” ด้านขวามือ อธิบายสัญลักษณ์ต่างๆ ที่แสดงบนแผนที่
• เลือกดูแผนที่ลายเส้น คลิก “NOSTRA”, เลือกดูแผนที่ดาวเทียม คลิก “Bing”

หมายเหตุ : ระยะเวลาการอัพเดทข้อมูลขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการข้อมูลนั้นๆ โดย user สามารถดูวันที่ของข้อมูลได้โดยการชี้ cursor ไปที่ตัวเลือกข้อมูล ทั้งนี้ ทาง ESRI (Thailand) ติดตามอัพเดทข้อมูลบนเว็บในทุกวัน
ตัวอย่าง

วิธีใช้เว็บบริการข้อมูลสถานการณ์น้ำท่วมในการดูเส้นทางแนะนำ ให้เลือกที่ช่องว่างหน้าตัวเลือก “เส้นทางแนะนำจากกระทรวงคมนาคม” ในกล่องบริการข้อมูล
วิธีใช้เว็บบริการข้อมูลสถานการณ์น้ำท่วมในการดูเส้นทางที่รถผ่านได้-ไม่ได้ ให้เลือกที่ช่องว่างหน้าตัวเลือก “เส้นทางที่น้ำท่วมจากกระทรวงคมนาคม” ในกล่องบริการข้อมูล

วิธีใช้เว็บบริการข้อมูลสถานการณ์น้ำท่วมในการดูจุดจอดรถในกทม. และแนวกั้นน้ำ ให้เลือกที่ช่องว่างหน้าตัวเลือก “แนวป้องกันน้ำท่วม” และ “จุดจอดรถตามประกาศจากบก.จร.” ในกล่องบริการข้อมูล

View :3128

แอลจี ผนึก ไมโครซอฟท์ และ พริซึ่ม โซลูชั่นส์ นำเสนอ LG Network Monitor U Series

October 18th, 2011 No comments

มร.ชาร์ลส วู (กลาง) ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ไอที บริษัท อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด และ นายสุเทพ เตมานุวัตร์ (ขวา) ผู้จัดการอาวุโส โปรแกรมด้านการศึกษา บริษัท (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมด้วยนายภาคภูมิ สุกัญจนศิริ (ซ้าย) ผู้จัดการทั่วไป บริษัท จำกัด ร่วมถ่ายภาพในงานสัมมนาให้ความรู้แก่ตัวแทนจำหน่ายเกี่ยวกับ ที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows MultiPoint Server 2011

บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท พริซึ่ม โซลูชั่นส์ จำกัด นำเสนอ LG Network Monitor U Series โซลูชั่นเชื่อมต่อเครือข่ายมอนิเตอร์กับคอมพิวเตอร์หลักผ่านสายยูเอสบีได้อย่างสะดวก และมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows MultiPoint Server 2011 พร้อมทั้งจัดสัมมนาให้ความรู้แก่ตัวแทนจำหน่ายของพริซึ่ม โซลูชั่นส์ ทั่วประเทศ

LG Network Monitor U Series เป็นโซลูชั่นเชื่อมต่อเครือข่ายมอนิเตอร์กับคอมพิวเตอร์หลักผ่านสายยูเอสบี โดยคอมพิวเตอร์หลัก 1 เครื่องสามารถรองรับการใช้งานมอนิเตอร์ได้อย่างอิสระสูงสุดถึง 20 จอ จึงช่วยประหยัดเวลาในการวางระบบเมื่อเทียบกับการใช้งานคอมพิวเตอร์ 1 คนต่อ 1 เครื่องแบบเดิม และช่วยลดค่าใช้จ่ายในการติดตั้งและบำรุงรักษาฮาร์ดแวร์ได้ถึง 40% รวมทั้งช่วยประหยัดพลังงานได้มากกว่า 70%

มร.ชาร์ลส วู ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ไอที บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “แอลจีได้ศึกษาถึงความต้องการของภาคธุรกิจในปัจจุบัน จึงทราบว่าลูกค้าต้องการคอมพิวเตอร์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และลดค่าใช้จ่ายได้ในเวลาเดียวกัน เราจึงพัฒนา LG Network Monitor U Series ซึ่งเป็นโซลูชั่นที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านฮาร์ดแวร์ การติดตั้ง และการดูแลรักษา รวมทั้งช่วยประหยัดพลังงาน นอกจากนี้ยังมอบความสะดวกสบายด้วยการเชื่อมต่อผ่านสายยูเอสบี พร้อมด้วยระบบปฏิบัติการ Windows MultiPoint Server 2011 ซึ่งแอลจีเชื่อมั่นว่าจะได้การตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มลูกค้าองค์กรทั่วประเทศ”

LG Network Monitor U Series ยังมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows MultiPoint Server 2011 ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่ออกแบบมาสำหรับการใช้งานคอมพิวเตอร์หลักกับหลายเครื่องลูกข่ายโดยเฉพาะ จึงให้เสถียรภาพสูงสุด และรองรับการใช้งานพื้นฐานอย่างครบถ้วน ทั้งการพิมพ์เอกสาร การดูหนังฟังเพลง เล่นอินเทอร์เน็ต และมีระบบบริหารจัดการจากส่วนกลางที่มีประสิทธิภาพ อาทิ การล็อกอินเพื่อตรวจสอบการใช้งานของเครื่องลูกข่าย การรับส่งไฟล์หรือข้อความระหว่างฮาร์ดแวร์ในเครือข่าย และการแก้ไขปัญหาจากระยะไกล ที่สำคัญยังสามารถติดตั้งและบริหารจัดการได้ง่ายโดยไม่จำเป็นต้องมีการฝึกอบรมเพิ่มเติม

นายสุเทพ เตมานุวัตร์ ผู้จัดการอาวุโส โปรแกรมด้านการศึกษา บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ในฐานะผู้นำทางด้านเทคโนโลยีซอฟต์แวร์และโซลูชั่น ไมโครซอฟท์มุ่งทำงานร่วมกับพันธมิตร ในการส่งเสริมให้ธุรกิจและภาคการศึกษาสามารถบรรลุเป้าหมายของตนด้วยเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพ ระบบปฏิบัติการ Windows MultiPoint Server 2011 มีแนวคิดพื้นฐานคือการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์หลักกับหลายเครื่องลูกข่าย จึงใช้งานร่วมกับ LG Network Monitor U Series ได้อย่างสมบูรณ์แบบ นอกจากนี้ผู้ใช้ส่วนใหญ่ยังมีความคุ้นเคยกับแพลทฟอร์มวินโดวส์อยู่แล้ว จึงไม่ต้องมีการฝึกอบรมเพิ่มเติม อีกทั้งยังตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างหลากหลาย เหมาะสำหรับองค์กรต่างๆ ทั้งเอสเอ็มอี ห้องสมุด ห้องประชุม โรงพยาบาล หน่วยงานราชการ และสถานศึกษา”

นายภาคภูมิ สุกัญจนศิริ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท พริซึ่ม โซลูชั่นส์ จำกัด กล่าวว่า “พริซึ่ม โซลูชั่นส์ เป็นผู้แทนจำหน่ายที่มีศักยภาพด้านการบริการอย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และการแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งมีเครือข่ายร้านค้าครอบคลุมทั่วประเทศ เรายินดีที่แอลจีให้ความไว้วางใจในความเชี่ยวชาญของพริซึ่ม โซลูชั่นส์ และมั่นใจว่าด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำจากแอลจีและไมโครซอฟท์ รวมทั้งช่องทางการจัดจำหน่ายและบริการระดับมืออาชีพของพริซึ่ม โซลูชั่นส์ จะเสริมความพร้อมในการนำเสนอ LG Network Monitor สู่กลุ่มลูกค้าองค์กรทั่วประเทศได้อย่างเต็มที่”

View :1476

ก.ไอซีที เดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่ออำนวยความสะดวกให้คนพิการ

October 13th, 2011 No comments

นายธานีรัตน์ ศิริปะชะนะ รองปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงานสัมมนาระดมความคิดเห็น (Focus Group) ครั้งที่ 3 เกี่ยวกับกฎกระทรวงตามมาตรา 20 (6) แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ.2550 ภายใต้โครงการพัฒนา ICTและเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการทุกประเภท ว่า กระทรวงฯ ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมให้ประชาชนทุกภาคส่วนในสังคมได้รับการส่งเสริมและพัฒนาความรู้ด้านไอซีที และมีโอกาสเข้าถึงไอซีทีอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มคนพิการที่อาจจะขาดโอกาสและความสะดวกในการเข้าถึงข้อมูลที่มีอยู่รอบตัวในปัจจุบัน

“กระทรวงฯ ได้ดำเนินการตามนโยบายยุทธศาสตร์ของรัฐบาลที่ส่งเสริมและสนับสนุนให้คนพิการทุกประเภทสามารถเข้าถึง หรือขอใช้บริการทั้งด้านอุปกรณ์ หรือสื่อต่างๆ ที่จะสามารถยกระดับคุณภาพการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการจัดทำโครงการพัฒนา ICT และเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการทุกประเภทขึ้น เพื่อดำเนินการศึกษา สำรวจ และรวบรวมข้อมูลความต้องการทางด้านการบริการ หรือข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งข้อมูลความต้องการของคนพิการแต่ละประเภท เพื่อนำมาใช้ในการกำหนดกรอบแนวทางเชิงนโยบายและข้อเสนอแนะทางด้านกิจกรรม และวิธีการปฏิบัติของกระทรวงฯ ที่จะนำไปใช้ในการให้บริการและสนับสนุนการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของคนพิการทุกประเภทได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม” นายธานีรัตน์ กล่าว

ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินโครงการฯ เป็นไปตามเป้าหมายดังกล่าว กระทรวงฯ จึงได้จัดการประชุมเพื่อระดมความคิดเห็นจากบุคคลที่เกี่ยวข้องด้านคนพิการขึ้น จำนวน 10 ครั้ง เพื่อให้เป็นแนวทางในการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเพื่อให้คนพิการเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากข้อมูลข่าวสาร การสื่อสาร บริการโทรคมนาคม เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการสื่อสารสำหรับคนพิการทุกประเภท ตลอดจนบริการสื่อสาธารณะ ตามกฎกระทรวงมาตรา 20(6) แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ.2550 โดยการเชิญหน่วยงานองค์กรด้านคนพิการทางการเคลื่อนไหว หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องมาระดมความคิดเห็น แลกเปลี่ยนข้อมูล ความรู้ ความต้องการต่างๆ รวมถึงเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารผลการดำเนินโครงการฯ ให้แก่ผู้เข้าร่วมสัมมนา ทั้งนี้ เพื่อให้ได้แนวทางเชิงนโยบายที่มีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับความต้องการของผู้รับบริการอย่างแท้จริง

“กระทรวงฯ เชื่อมั่นว่า กลุ่มคนพิการเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่มีความรู้ความสามารถและมีศักยภาพที่จะพัฒนาสังคมและประเทศชาติให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างยั่งยืน หากได้รับการส่งเสริม และสนับสนุนทั้งในด้านความสะดวก และเครื่องมือหรืออุปกรณ์เฉพาะทางที่จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงข้อมูลและความรู้ด้านไอซีทีสำหรับคนพิการทุกประเภทอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม เช่นเดียวกับประชาชนทุกภาคส่วนในสังคม ที่ได้รับการส่งเสริมและพัฒนาความรู้ รวมทั้งสร้างโอกาสในการเข้าถึงไอซีทีจากกระทรวงฯ อย่างต่อเนื่องตลอดมา” นายธานีรัตน์ กล่าว

View :1581

กระทรวงวิทย์ฯ เปิดให้บริการข้อมูลจราจรและสภาพน้ำท่วมผ่านโทรศัพท์และโมบายแอพฯ อัตโนมัติ 24 ชั่วโมง ผ่านระบบ TVIS

October 7th, 2011 No comments


กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดย ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ หรือเนคเทค จัดทำระบบให้บริการข้อมูลข่าวสารด้านการจราจรและสถานการณ์น้ำท่วมอัตโนมัติ ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านระบบที่ชื่อ TVIS:

โดยขณะนี้เปิดให้บริการใน 2 รูปแบบ คือ 1. โทรศัพท์เข้ามาตรวจสอบข้อมูลโดยตรงได้ที่ 02-565-7007 หรือ 2.การบริการข้อมูลข่าวสารผ่านโทรศัพท์มือถือ Smart Phone ที่มีระบบปฏิบัติการ Android 2.1 ขึ้นไป สามารถ Download App ได้ที่ Android Market https://market.android.com/details?id=hlt.tvis หรือ Search ใน Android Market ว่า TVIS

Traffic Voice Information Service : 02-565-7007 เป็นระบบรายงานสภาพจราจรด้วยเสียงพูดแบบอัตโนมัติ ผู้ใช้สามารถค้นหาข้อมูลได้ด้วยเสียงโดยการพูดชื่อถนนที่ต้องการ ระบบจะทำงานโดยอาศัยเทคโนโลยีรู้จำเสียงพูดภาษาไทย สำหรับข้อมูลสภาพการจราจรจะดึงมาจากแหล่งข้อมูลต่างๆ บน Internet แบบ Real-time นอกจากนี้ยังสามารถดึงภาพจากกล้อง CCTV เพื่อดูสภาพจราจรในบริเวณใกล้เคียงได้อีกด้วย ปัจจุบันเปิดให้บริการเฉพาะข้อมูลสภาพการจราจรในเขตกรุงเทพมหานคร

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ (HLT)

View :1519

Jawbone เปิดตัว Jawbone ERA

October 4th, 2011 No comments

ผู้นำด้านการริเริ่มสร้างนวัตกรรมและบริการสำหรับอุปกรณ์พกพาส่วนบุคคล เผยโฉม โดยหูฟังบลูทูธ นี้ให้เสียงที่คมชัดประสิทธิภาพสูงระดับไฮเดฟฟินิชั่นเพื่อการใช้งานที่เยี่ยมยอด และสุดยอดเทคโนโลยีควบคุมหูฟังด้วยการเคลื่อนไหวที่ไม่เคยมีที่ไหนมาก่อน อีกทั้งล้ำสมัยด้วยแพล็ตฟอร์มการตั้งค่าและอัพเกรดหูฟังจากคอมพิวเตอร์ให้เกิดการใช้งานที่มีคุณภาพสูงสุด

Hosain Rahman ประธานเจ้าหน้าที่บริหารระดับสูงและผู้ก่อตั้ง Jawbone กล่าวว่า เราจะยกระดับอุปกรณ์ที่มีดีไซน์ที่สวยงามเข้าสู่อีกระดับหนึ่งของเทคโนโลยี เราได้สร้างความสมบูรณ์แบบของประสบการณ์ทางด้านเสียงแบบสำหรับทั้งไมโครโฟนและลำโพง ซึ่งจะทำให้คุณต้องหลงใหลกับการใช้งานในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการคุยโทรศัพท์ หรือฟังเพลงโปรดซึ่ง นอกเหนือจาก HD audio แล้ว เราได้ผสมผสานกันระหว่างเซนเซอร์การเคลื่อนไหวและความเฉลียวฉลาดของระบบปฏิบัติการ ทำให้เกิดการควบคุมและสั่งงานหูฟังในรูปแบบใหม่ที่น่ามหัศจรรย์ ด้วยแค่การเขย่า หรือแตะหูฟังตัวหูฟังเท่านั้น นับเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นที่เราได้เป็นคนนำนวัตกรรมนี้ สำหรับผู้ใช้ของเราเป็นเจ้าแรก

Jawbone ERA มาพร้อมเสียงระดับไฮเดฟฟินิชั่น
Jawbone ERA มอบคุณภาพเสียงที่สูงใกล้เคียงกับธรรมชาติของเสียงมนุษย์ และไม่มีดีเลย์ ลำโพงแบบไวด์แบนที่มีขนาดใหญ่ขึ้นถึง 25% ทำให้สามารถรองรับระบบเสียงไฮเดฟฟินิชั่นทั้งขณะคุยโทรศัพท์ ฟังเพลง ดูหนัง และเล่นเกมส์

อีกทั้ง ด้วยคุณสมบัติพิเศษอันเป็นตำนานของเทคโนโลยีการตัดเสียงรบกวน น๊อยส์แอสแซสซิน (NoiseAssassin) 3.0 ที่ใช้กันในทางการทหาร ช่วยกำจัดเสียงรบกวนได้ทุกที่ ไม่ว่าจะอยู่ในร้านอาหาร ร้านเกมส์ หรือแม้กระทั่งข้างถนน นอกจากนั้น ERA ยังสามารถจับเสียงรบกวนที่อยู่รอบด้าน และปรับระดับเสียงของลำโพงให้ดังหรือเบาตามสภาพแวดล้อมนั้นๆ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานได้ยินเสียงจากโทรศัพท์ได้อย่างชัดเจน ทำให้ทั้งสองฝั่งสายได้ยินเสียงที่คมชัดสูงสุด

Jawbone ERA: เป็นต้นแบบการควบคุมแบบใหม่ของหูฟังบลูทูธด้วยระบบวัดความเครื่องไหวและเทคโนโลยี MotionX™
Jawbone คือบริษัทแรกใช้เซ็นเซอร์ต่างๆ เพื่อเพิ่มสมรรถนะให้กับโสตสัมผัส และล่าสุดเพิ่มเซ็นเซอร์ที่มีความแม่นยำในการจับการเคลื่อนไหว Jawbone ร่วมกับ Fullpower-MotionX ผู้นำด้านโมชั่นเทคโนโลยี เพื่อผลิตหูฟังรุ่นแรกที่มีเซ็นเซอร์วัดการเคลื่อนไหว ซึ่งจะงานร่วมกับแพลตฟอร์ม MotionX™ ซึ่งเป็นสิทธบัตรเดียวของ Fullpower-MotionX

รามาน (Rahman) กล่าวต่อว่า ในยุคต่อไปของอุปกรณ์เทคโนโลยี อุปกรณ์เหล่านี้จะต้องปรับให้เข้ากับวิถีชีวิตของเรา โดย โดยสุดยอดเทคโนโลยีนั้นจะต้องสามารถกำจัดความไม่คล่องตัวออกไป นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เราเลือกที่จะใช้แพลตฟอร์มเทคโนโลยีของ Fullpower-MotionX ซึ่งมีความแม่นยำและสามารถตอบสนองความต้องการอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

Jawbone ERA สามารถอ่านการเคลื่อนไหวอย่างเป็นธรรมชาติเมื่อเราใช้งานตัวหูฟัง เพียงผู้ใช้เขย่าหูฟัง 4 ครั้ง (ShakeShake®) ก็สามารถเข้าสู่โหมดการจับคู่ได้อย่างง่ายดาย หรือจะรับและวางสายโทรศัพท์ด้วยการแตะหรือสัมผัสที่ตัว Era เบาๆ 2ครั้ง (TapTap®) หรือเขย่า 2 ครั้ง (ShakeShake®) และนี่เป็นเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น โดย Jawbone มีแผนในการออกมีสินค้าใหม่ที่จะใช้นวัตกรรมอันลำสมัยนี้ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงใน โดยการร่วมมือกับ Fullpower-MotionX อีกด้วย

ฟิลิปป์ คาน ซีอีโอ บริษัท Fullpower (Philippe Kahn, Fullpower CEO) อธิบายว่า Jawbone นั้นมีความมุ่งมั่นในการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ โดยไม่จำกัดขอบเขต ซึ่งเหมือนกับ MotionX ทำให้เราเป็นพันมิตรที่เข้ากันได้อย่างดี โดย MotionX ที่อยู่ใน Jawbone ERA ทำให้ผู้ใช้ได้สัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษ นับว่าเป็นก้าวแรกในกลยุทธ์ของนวัตกรรมที่จะก้าวไปอย่างไม่หยุดยั้งในปีต่อๆไป

Jawbone ERA: ระบบประมวลผลอย่างเต็มพิกัด แอพพลิเคชั่นที่เหนือกว่าด้วยเสียงบอกชื่อผู้โทรเข้า
หูฟัง Jawbone ERA เหมือนคอมพิวเตอร์ขนาดจิ๋วบนหู ครบครันด้วยการออกแบบหน่วยประมวลผลที่หลากหลายและ หน่วยความจำขนาดเล็ก ซึ่งจะช่วยรองรับการใช้งานของหูฟังที่จะพัฒนาให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต ปัจจุบันผู้ใช้มีความได้เปรียบของความหลากหลายของการใช้งานหูฟัง ERA ซึ่งรวมถึง Caller ID ที่ใช้เสียงที่เป็นธรรมชาติบอกชื่อผู้ จากผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของ Jawbone Jawbone ERA เป็นหูฟังตัวแรกที่สามารถอัพเดทผ่านทางแพลตฟอร์มของ MyTALK เพื่อจะสร้างความเชื่อมั่นกับผู้ใช้ว่า ตัวหูฟัง ERA นั้น จะมีความฉลาดขึ้น ตามกาลเวลา
Jawbone ERA ได้ถูกดีไซน์อย่างพิถีพิถัน ถึง4 แบบ ตั้งแต่ Shadowbox(สีดำ) Smokescreen(สีดำเหลือบชมพู) Midnight(สีดำลายแดง) และ Silver Lining(สีขาวลายเงิน) โดยมีบริษัท W Gadget เป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการรายแรกและรายเดียวในประเทศไทย ในราคา 4,390 บาทและวางจำหน่ายในร้าน iStudio Jaymart PowerBuy TG True Coffee Shop เดอะเบส (มาบุญครอง) และโทรศัพท์ชั้นนำทั่วไป สามารถติดตามข่าวสารได้ที่ Facebook.com/jawbone หรือ Follow Twitter: @Jawbone หรือดูวิดีโอเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ได้ที่ YouTube.com/AliphJawbone และติดต่อเพื่อสั่งสินค้าได้ที่ +662-272-5828

ชุดหูฟังของ Jawbone คือชิ้นแรกและหนึ่งเดียวเท่านั้นที่มาพร้อมเทคโนโลยี THOUGHTS ที่ให้บริการ Free Voice Communication Service เพื่อประโยชน์และผลิตภาพ

เทคโนโลยี THOUGHTS ของ Jawbone คือแอพพลิเคชั่นฟรีบนไอโฟนสำหรับหูฟัง ซึ่งเป็นตัวแรกและตัวเดียวที่สามารถส่งข้อความเสียงถึงเพื่อนและกลุ่มโดยไม่ต้องพิมพ์หรือโทรศัพท์ นับว่าเป็นผลผลิตใหม่และมีประโยชน์สำหรับหูฟังที่รวบรวมความเร็วในการพิมพ์ การร่วมมือของอีเมล์ และความพิเศษของโทนเสียงรวมอยู่ในหนึ่งเดียว สามารถพบเทคโนโลยี THOUGHTS ได้ในผลิตภัณฑ์ Jawbone ทาง iPhone App Store

View :1824