ITBiz | lekasina.com

ทุ่มงบมูลค่ากว่า1 .2 ล้านบาท เข้าร่วมรายการ ประกวดสาว Classmate50

“ซันโย” ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าและสินค้าไอทีชั้นนำ เผยแผนตลาด 4 เดือนสุดท้ายปี 2553ทุ่มงบประมาณมูลค่า 1.2 ล้านบาท รุกกิจกรรมผ่านสื่อออนไลน์เต็มรูปแบบ ขยายฐานผู้บริโภคกล้องวิดีโอตระกูลแซคติ เจาะกลุ่มวัยรุ่นหญิง ล่าสุด จัดประกวดเรียลลิตี้เกมส์โชว์ออนไลน์ www.classmate50.com เฟ้นสุดยอดสาวผู้สามารถพิชิตภารกิจ คว้าคะแนนโหวตสูงสุด มั่นใจได้รับความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายเป็นจำนวนมาก

นายสุพจน์ วิรัตน์โยสินทร์ รองผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซันโย (ไทยแลนด์) จำกัด จำกัด เปิดเผยว่า “ในช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปีนี้ บริษัทฯ มุ่งทำกิจกรรมการตลาดผ่านสื่อดิจิตอลหรือเว็บไซต์ให้มากขึ้น เนื่องจากเล็งเห็นว่ากระแสของสื่อประเภทดิจิตอลกำลังมาแรง เป็นที่นิยม และมีศักยภาพสูงในบ้านเราในขณะนี้ หรือที่จะได้ยินคนเรียกกันว่า สังคมออนไลน์ หรือ โซชวล เน็ตเวิร์ค (Social Network) สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้รวดเร็วและทั่วถึง ตัวอย่างเช่น เฟสบุ๊ก (Facebook) ทวิสเตอร์ (Twitter) มายสเปซ (Myspace) และ ไฮ-ไฟว์ (Hi5) เป็นต้น และกลุ่มคนเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของกล้องวิดีโอตระกูลแซคติ (Xacti) เช่นกัน”

“ประเดิมที่บริษัทฯ เพิ่มช่องทางในการรับรู้ข่าวสารและโฆษณาสำหรับผู้คนบนเครือข่ายชุมชนออนไลน์ โดยนำระบบ QR Code (Quick Response Code) มาใช้ เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลสินค้าของซันโยได้รวดเร็วและสะดวกยิ่งขึ้น ผ่านโทรศัพท์มือถือหรือสมาร์ทโฟน ที่ติดตั้งโปรแกรมซอฟต์แวร์รองรับแอพพลิเคชั่นดังกล่าว โดยอาศัยกล้องถ่ายรูปจากโทรศัพท์มือถือในการสแกนรหัสเพื่อเชื่อมต่อกับหน้าเว็บไซต์บริษัทโดยตรง”

“และล่าสุดบริษัทฯ จัดงบประมาณมูลค่า 1.2 ล้านบาท ให้การสนับสนุนบริษัทอิกไนท์ เอเชีย จำกัด (iGnite Asia) ผู้นำด้านเอนเตอร์เทนเมนท์บนโลกเน็ตเวิร์ค จัดการประกวด Classmate 50 Social Network Game Show ปรากฎการณ์ครั้งแรกในประเทศไทย กับเรียลลิตี้เกมโชว์รูปแบบใหม่ผ่านโลกไซเบอร์ ซึ่งเกาะติดชีวิต 50 สาว พร้อมกับติดตามภารกิจ Homework 50 ข้อ 50 คลิป เพื่อคัดเลือก 10 สุดยอดไอดอลที่มีโอกาสเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าในอนาคต เพียงแค่คลิ๊กเข้าชมและโหวตที่เว็บไซต์ www.classmate50.com”

“บริษัทฯ คาดว่ากิจกรรมนี้จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี พร้อมช่วยขยายฐานกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของซันโยให้มีการรับรู้ที่กว้างขึ้น รวมทั้งสร้างความเข้าใจในฟังก์ชั่นการใช้งานของกล้องวิดีโอตระกูลแซคติที่เข้าได้อย่างลงตัวกับทุกไลฟ์สไตล์ ด้วยตัวเครื่องที่มีสีสันสดใส พกพาง่าย ให้คุณภาพความคมชัดระดับไฮเดฟฟินิชั่น (Full HD)” นายสุพจน์กล่าว

สำหรับการประกวด Classmate 50 Social Network Game Show จะเริ่มประกวดกันตั้งแต่ เดือนกันยายน 2553 ถึง เดือนมกราคม 2554 ตลอดระยะเวลาปฏิบัติภารกิจทั้งสิ้น 5 เดือน ผู้สนใจสามารถติดตามข่าวสารข้อมูลได้ที่ http://www.classmate50.com และ http://www.sanyo.co.th

จากการจัดอันดับบ. เอกชนที่โตเร็วที่สุด 5000 อันดับโดย Inc. Magazine
เทียบข้อมูลรายได้ต่อเนื่อง 3 ปีของบริษัทที่มีฐานในสหรัฐฯ

Kingston Technology Company, Inc ผู้พัฒนาและผลิตเมโมรี่รายใหญ่ของโลก ประกาศวันนี้ว่า Kingston ได้รับการจัดอันดับให้เป็นบริษัทเอกชนที่มีรายได้รวมสูงสุดเป็นอันดับที่ 6 จากการจัดอันดับบริษัทเอกชนในสหรัฐอเมริกาที่มีอัตราการเติบโตเร็วที่สุดประจำปี 2553 โดยนิตยสาร Inc. ทั้งนี้ คิงส์ตันปิดยอดรายได้ประจำปี 2552 ที่ตัวเลข 4.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งสูงที่สุดเป็นอันดับสองในประวัติศาสตร์ของบริษัท สำหรับการจัดอันดับท็อปเท็นบริษัทที่มีรายได้สูงสุดเป็นปลีกย่อยของการจัดอันดับบริษัทเอกชนที่เติบโตเร็วที่สุด 5000 รายชื่อ โดยใช้ข้อมูลด้านรายได้เปรียบเทียบตั้งแต่ปี 2549 ถึง 2552

“คิงส์ตันรู้สึกซาบซึ้งที่สามารถติดอันดับใน Inc. 5000 อีกครั้ง เดวิด (ซัน) กับผมยินดีเป็นอย่างยิ่งต่อการที่
Inc. ยังคงเผยแพร่การจัดอันดับดังกล่าว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการสนับสนุนของพวกเขาที่มีต่อบริษัทเอกชนและความมุ่งมั่นต่อจิตวิญญาณของผู้ประกอบการ ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับสภาพแวดล้อมที่ยากลำบาก และสภาพการแข่งขันเฉกเช่นทุกวันนี้” มร. จอห์น ตู ผู้ร่วมก่อตั้งคิงส์ตันกล่าว

“เราโชคดีที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามหลังจากภาวะชะลอตัวในอุตสาหกรรมหน่วยความจำ และสภาพโดยทั่วไปของเศรษฐกิจในช่วงปีสองปีที่ผ่านมา ทั้งนี้เพื่อให้เราเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงเศรษฐกิจที่อ่อนแอ คิงส์ตันจะต้องให้ความสำคัญอย่างมากต่อขบวนการปรับปรุง ซึ่งมันเป็นวิธีการเดียวเท่านั้น” มร. เดวิด ซัน ผู้ร่วมก่อตั้งคิงส์ตันกล่าวเสริม

นอกจากนี้ Kingston ยังติดอันดับที่ 20 ของกลุ่มบริษัทที่มีอัตราการเติบโตด้านรายได้สุทธิในช่วงสามปีตั้งแต่2549-2552 ในช่วงเวลานั้น รายได้ของ Kingston ขยายตัวร้อยละ 12 เป็นรายได้เพิ่มขึ้นจาก 3.7 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2549 มาเป็น 4.1 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2552

“บรรดาผู้นำของบริษัทในลิสต์ Inc. 5000 ของปีนี้ประสบความสำเร็จในการหาวิธีขยายธุรกิจของตนในช่วงภาวะถดถอยอันยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ (Great Depression) สำหรับการจัดอันดับ Inc. 5000 ประจำปีนี้ ทำให้เราเห็นกลุ่มผู้ประกอบการที่มีความแข็งแกร่งดีเยี่ยม” Bob LaPointe ประธานของ Inc. กล่าว

ในปี 2535 คิงส์ตันสามารถครองอันดับ 1 ในฐานะบริษัทเอกชนที่เติบโตเร็วที่สุดโดยนิตยสาร Inc. จากยอดรายได้ของปีก่อนมากกว่า 140 ล้านเหรียญสหรัฐและมียอดพนักงานรวม 130 คน ในปี 2550 นิตยสาร Inc. ยังได้มอบรางวัลอันทรงเกียรติ “Distinguished Alumni Goldhirsh Award” ให้แก่จอห์น ตู และเดวิด ซัน สองผู้ร่วมก่อตั้งคิงส์ตัน ซึ่งเป็นรางวัลสำหรับความเป็นผู้นำ ผู้แนะแนวทางและการปฏิบัติที่ก่อให้เกิดศูนย์รวมแห่งจิตวิญญาณผู้ประกอบการในสหรัฐอเมริกา อันเป็นหัวใจหลักตามแนวคิด Bernie Goldhirsh ผู้ก่อนตั้ง Inc.

บริษัทที่มีรายได้รวมสูงที่สุด 10 อันดับ จาก Inc. 5000
10
อันดับแรก อันดับที่
จาก 5000 รายชื่อ บริษัท ที่ตั้ง ภาคอุตสาหกรรม รายได้ปี 2552
1 อันดับที่ 4,512 HCA Nashville, TN สุขภาพ 30.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ
2 อันดับที่ 4,929 7-Eleven Dallas, TX สินค้าอุปโภคบริโภค & บริการ 15.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ
3 อันดับที่ 4,932 Toys “R” Us Wayne, NJ ค้าปลีก 13.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ
4 อันดับที่ 4,819 Univar Redmond, WA ผลิตภัณฑ์ด้านธุรกิจ& บริการ 7.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ
5 อันดับที่ 3,247 Booz Allen Hamilton McLean, VA ผลิตภัณฑ์ด้านธุรกิจ& บริการ 5.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ
6 อันดับที่ 4,708 Kingston Technology Fountain Valley, CA คอมพิวเตอร์ ฮาร์ดแวร์ 4.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ
7 อันดับที่ 3,626 Mansfield Oil Gainesville, GA พลังงาน 2.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ
8 อันดับที่ 3,294 LPL Investment Holdings Boston, MA บริการด้านการเงิน 2.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ
9 อันดับที่ 1,018 Vizio Irvine, CA สินค้าอุปโภคบริโภค & บริการ 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ
10 อันดับที่ 4,288 AMC Entertainment Kansas City, MO สื่อ 2.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ
แหล่งที่มาข้อมูล: Inc.5000, 24 สิงหาคม 2553

ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Inc. 5000 แวะที่ www.inc.com/inc5000/2010/index.html
หรือเยี่ยมชม www.kingston.com/thailand สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

หากต้องการพูดคุยเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์นี้ที่บล็อกของ Kingston กรุณาเยี่ยมชมได้ที่ www.kingston-blog.com เชิญสัมผัสการผจญภัย “The Adventures of Rex” ได้ที่เวบไซต์ www.theadventuresofrex.com หากต้องการข้อมูลเกี่ยวกับ Kingston ที่อัพเดตล่าสุด แวะที่ http://twitter.com/KingstonFEPR
หากต้องการร่วมเล่นเกม “Challenge Your Memory” กรุณาเยี่ยมชม www.kingston-blog.com/challenge_your_memory/th/
หากต้องการร่วมเล่นเกม “Search for Genuine Kingston” กรุณาเยี่ยมชม http://anti-counterfeit.kingston-blog.com/th_index.jsp
หากต้องการตรวจสอบว่าผลิตภัณฑ์ของคุณเป็นของแท้หรือไม่ Kingston นำเสนอเว็บไซต์สำหรับตรวจสอบผลิตภัณฑ์ทางออนไลน์ที่ http://www.kingston.com/thailand/verify/default.asp

พิธีปิดค่ายพิราบดิจิทัล ครั้งที่ 8 จัด โดย ชมรมนักข่าวสายเทคโนโลยีสารสนเทศ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ร่วมกับ ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ(เนคเทค/สวทช.) ณ บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จ.ปทุมธานี (วันที่ 20-22 สิงหาคม 2553 )

ชมรมนักข่าวสายไอที (ITPC: Information Technology Press Club) จัด ฝีกอบรมนักศึกษาสาขานิเทศศาสตร์/วารสารศาสตร์ ชั้นปีที่ 3 และ 4 ภาย ใต้ชื่อ โครงการ “พิราบดิจิทัล” โดยได้รับการตอบรับจากมหาวิทยาลัยทั้งรัฐบาลและ เอกชนทั่วประเทศในการส่งนักศึกษาเข้าร่วมกิจกรรมเต็มจำนวนที่ กำหนดไว้ทุกปี แสดงให้เห็นถึงความต้องการของตลาดการศึกษาในการพัฒนาเยาวชน ให้มีความสามารถเฉพาะด้านมากขึ้น และนับเป็นความสำเร็จของชมรมฯ ในการผลักดันการผลิตนักข่าวสายไอทีรุ่นใหม่ได้มากขึ้น

เสริมแกร่งเทคโนโลยี และทีมงาน พร้อมเดินเกมส์รุกตลาด “Cloud Computing”

ฟูจิตสึตั้งธงปี 2553 มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทั่วโลกให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ภายใต้ธีม “One Fujitsu” วางแผนดึงศักยภาพทีมงานผนึกกำลังขยายฐานธุรกิจสู่ลูกค้าทุกระดับและทุกที่ทั่วโลก ทั้งเดินหน้าเปิดเกมส์รุก “Cloud Computing” เชื่อถึงวันนี้…เทคโนโลยีและตลาดพร้อมเปิดรับโลกของ “Cloud”

นายมาซากิ คาจิยามา ประธานบริษัท ฟูจิตสึ ซีสเต็ม บีสซีเนส (ประเทศไทย) จำกัด เผยตัวเลขผลประกอบการของฟูจิตสึทั่วโลกตามปีงบประมาณ 2552 (เมษายน 2552 ถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2553) มียอดขายรวม 50,317 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.6 ล้านล้านบาท มีผลกำไรสุทธิโตกว่า 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 32,000 ล้านบาท โดยสามารถจ่ายเงินปันผลต่อหุ้นได้มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ถึงเท่าตัว ขณะที่ในประเทศไทยยังสามารถรักษาตัวเลขผลประกอบได้เทียบเคียงปี 2551 คือ ประมาณ 2,200 ล้านบาท แม้ต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากหลายประการ ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการวางแผนกลยุทธ์หลักสำคัญ ได้แก่ การปรับโครงสร้างและสายงานการดำเนินธุรกิจให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น, การเน้นสร้างผลกำไรในกลุ่มที่เป็นธุรกิจหลัก (Core Business) ขององค์กร และการพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ ๆ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า

“สำหรับเป้าหมายธุรกิจในปี 2553 จะเน้นการขับเคลื่อนองค์กรฟูจิตสึทั้งในระดับประเทศ และภูมิภาค เพื่อมุ่งสู่ความเป็นองค์กรระดับโลก (Global Company) ตลอดจนพัฒนาบริการทางธุรกิจใหม่ ๆ (Create new businesses services) ในการตอบรับความต้องการของตลาด รวมทั้งเติบโตเคียงคู่ไปกับลูกค้าร่วมสร้างความสำเร็จทางธุรกิจทั้งในปัจจุบันและอนาคต ภายใต้พันธสัญญาใหม่ “shaping tomorrow with you” โดยยึดหลักการทำงานร่วมกับลูกค้าอย่างใกล้ชิด ศึกษาทำความเข้าใจธุรกิจของลูกค้าและแก้ปัญหาอย่างตรงจุด การรับฟังมุมมองลูกค้าเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน หรือพัฒนาบริการทางธุรกิจ เพื่อให้ลูกค้าเกิดความไว้วางใจฟูจิตสึในฐานะพันธมิตรทางธุรกิจ”

สำหรับกลยุทธ์หลักสำคัญในการผลักดันองค์กรสู่ความเป็น Globalization นายมาซากิ กล่าวว่า ฟูจิตสึจะเน้นความสำคัญในเรื่องความร่วมมือระหว่างทีมงานและพันธมิตรธุรกิจในการนำเสนอเทคโนโลยี โซลูชัน หรือบริการคุณภาพที่เป็นมาตรฐานเดียวกันไปสู่ลูกค้าทุกภูมิภาคทั่วโลก (Unified Approach) ภายใต้การแลกเปลี่ยนข้อมูล ประสบการณ์ความเชี่ยวชาญเฉพาะในแต่ละประเทศ, การเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์และกลยุทธ์ธุรกิจที่เป็นทิศทางเดียวกัน ภายใต้ธีม “One Fujitsu” ในการเข้าถึงความต้องการของลูกค้าทั่วโลก ขณะเดียวกัน ต้องสามารถตอบสนองความต้องการที่แตกต่างในแต่ละประเทศ (Think global, act local), การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งในตัวผลิตภัณฑ์และบริการที่มีอยู่ ตลอดจนการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้าไปอย่างกว้างขวาง หรือรุกเข้าไปในตลาดที่มีศักยภาพให้ในการเติบโตอย่างจริงจังมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ฟูจิตสึยังเน้นการสนับสนุนให้ทุกภูมิภาคต้องมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันในลักษณะของการสร้างสังคมความรู้ (Human-centric intelligent society) ผ่านการสั่งสมประสบการณ์ที่มีคุณค่า ซึ่งฟูจิตสึได้รับจากการทำงานร่วมกับลูกค้า คู่ค้าทางธุรกิจ หรือระหว่างพนักงานด้วยกัน เพื่อนำไปสู่การสร้างสิ่งใหม่ ๆ ที่เป็นประโยชน์กับลูกค้า และเป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วทั้งภูมิภาคและทั่วโลก

“สำหรับประเทศไทยได้รับเอาทิศทางการดำเนินธุรกิจมาปรับใช้ โดยทางฟูจิตสึมีการวางแผนที่จะขยายฐานลูกค้าในประเทศไทยจากเดิมซึ่งเน้นกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมที่เป็นบริษัทญี่ปุ่นโดยส่วนใหญ่ ไปยังกลุ่มลูกค้าอื่น ๆ ที่มีศักยภาพสูง ทั้งกลุ่มลูกค้าที่เป็น Key Account ใหญ่ เช่น กลุ่มโทรคมนาคม, ธนาคาร, ธุรกิจสุขภาพ, ราชการ และตลาดบริการอื่น ๆ ควบคู่ไปกับลูกค้าในธุรกิจขนาดกลาง (Mid-market) ให้มากยิ่งขึ้น, การเพิ่มความแข็งแกร่งในการทำตลาดด้านเทคโนโลยีทางด้านเวอร์ชวลไลเซชัน และกรีนไอทีอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดการใช้พลังงาน และการจับมือร่วมกับคู่ค้าในการนำเสนอโซลูชันใหม่ ๆ ให้กับลูกค้า ซึ่งรวมถึงการผลักดันในเรื่องของ Cloud Computing” นายคาจิยามา กล่าว

นายมาซายูกิ คูนิมารุ ผู้บริหารสายงานบริการด้านแอพพลิเคชัน ประจำภูมิภาคอาเซียน, ฟูจิตสึ เอเซีย กล่าวถึงการพัฒนาธุรกิจใหม่ว่า ฟูจิตสึมีการกำหนดทิศทางและการจัดสรรงบวิจัยพัฒนาโซลูชันใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่องทุกปี เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจให้กับลูกค้า โดยในปี 2553 นี้ ฟูจิตสึได้เน้นความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับพาร์ทเนอร์ด้านไอทีชั้นนำมากขึ้นในการนำเสนอโซลูชันที่หลากหลาย และขยายไปในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น การพัฒนาโซลูชันเพื่อรองรับธุรกิจการสื่อสารโทรคมนาคม หรือ Telco, ความร่วมมือกับ SAP, Salesforce.com ในการนำเสนอโซลูชันทางด้าน ERP, CRM โดยเฉพาะการผลักดันในเรื่องของ Cloud Computing เพื่อครอบคลุมการให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ ได้แก่ อินฟราสตรัคเจอร์ (Infrastructure as a Service), แอพพลิเคชั่น (Application as a Service), การบริหารกระบวนการทางธุรกิจ (Activity as a Service) และการจัดการข้อมูล (Content as a Service) ซึ่งในปีนี้ ฟูจิตสึได้วางแผนจัดสรรงบพัฒนาธุรกิจด้าน Cloud Computing ไว้สูงถึง 1,100 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมากกว่าปีที่แล้วถึง 54%

“สิ่งที่ทำให้ฟูจิตสึแตกต่างจากผู้ให้บริการไอทีรายอื่น ๆ คือ การที่เราดึงทรัพยากรและศักยภาพของทีมงานทั่วโลก และจากภูมิภาคต่าง ๆ มาร่วมกันใช้ให้เกิดประโยชน์กับลูกค้าในแต่ละประเทศ นอกจากนี้ เรามีการจัดสรรงบประมาณด้านวิจัยพัฒนาถึง 5.3%, มีการฝึกอบรมพนักงานให้มีความชำนาญการอย่างต่อเนื่องในธุรกิจปัจจุบัน และอนาคต เช่น การตั้งเป้าการอบรมเรื่อง Cloud ให้ได้ถึง 5,000 คน ในปี 2555 เป็นต้น สำหรับเฉพาะกลุ่มประเทศในแถบอาเซียนรวมทั้งประเทศไทย เรามีบุคลากรในทุกสายงานนับรวมกว่า 2,500 คน มีทีมพัฒนาแอพพลิเคชัน กว่า 400 คน ที่พร้อมรองรับการให้บริการลูกค้า ซึ่งกว่า 150 คน เป็นทีมที่พร้อมให้บริการในประเทศไทย” นายคูนิมารุ กล่าวในที่สุด

ซิป้าและเอทีซีไอประกาสผลผู้ชนะเลิศ Thailand ICT Awards 2010 จำนวน 16 ผลงาน พร้อมผลักดันซอฟต์แวร์ไทยออกสู่ตลาดโลกให้เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่พัฒนาเศรษฐกิจประเทศ

หลังจากผ่านช่วงเวลาส่งผลงานชิ้นเยี่ยม เพื่อผลักดันเทคโนโลยีสารสนเทศของประเทศ โครงการ Thailand ICT Awards 2010 หรือ TICTA 2010 ได้ประกาศผลประกาศผลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับการประกวดในครั้งนี้มีผลงานที่ได้รับรางว้ลชนะเลิศรวม 16 ผลงาน และรองชนะเลิศ 27 ผลงาน จากการแข่งขันทั้งหมด 17 ประเภท ผู้ชนะเลิศได้รับเงินรางวัล จำนวน 100,000 บาท และรองชนะเลิศได้รับเงินรางวัลจำนวน 30,000 บาท

การจัดการแข่งขัน TICTA 2010 ในครั้งนี้ นับว่าซิป้าและเอทีซีไอได้รับผลการตอบรับเป็นอย่างดี ซึ่งในปีนี้ ผู้เข้าร่วมส่งผลงานเข้าประกวดส่วนใหญ่จะมาจากกลุ่มบริษัท ในส่วนของประเภทการแข่งขันด้านการเกษตรที่เพิ่มเข้ามาใหม่ นับว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับภาคการเกษตร เนื่องจากมีผู้ที่สนใจส่งผลงานเข้าประกวดเป็นจำนวนมาก ในส่วนนี้ทางคณะกรรมการได้พยายามเฟ้นหาผลงานที่สามารถต่อยอด นำมาใช้จริงได้มากที่สุด

สำหรับผู้โชค ซิป้าและเอทีซีไอ ได้เตรียมต่อยอดสู่ระดับนานาชาติ ด้วยการส่งผลงานที่ชนะเลิศประกวดต่อระดับเอเชียแปซิฟิก หรือ APICTA Awards 2010 ระหว่างวันที่ 12 – 16 ตุลาคม ที่ประเทศมาเลเซีย เพื่อผลักดันเทคโนโลยีสารสนเทศของประเทศให้ก้าวไกลได้ต่อไป ซิป้าเตรียมเงินรางวัลเพื่อเป็นขวัญ กำลังใจสำหรับผู้ชนะเลิศ APICTA Awards 2010 มูลค่าวกว่า250,000 บาท และรองชนะเลิศ มูลค่า 150,000 บาท เพื่อส่งเสริมกิจกรรมอันเป็นประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองในอนาคต

Application & Infrastructure Tools
Sensor Service GRID (SSG) Geomove Co.,Ltd. Winner
KASAMA MOBI Thaichana Sales & Services Co.,Ltd. Runner Up
Longdo TrafPro Metamedia Technology Co.,Ltd. Runner Up

Communications Applications
InfoCentrix Multi-Touchpoint 4.0 Computer Telephony Asia Co.,Ltd. Winner
Network Management Planning System Iconcepts Co.,Ltd. Runner Up
Jigsaw Ready Intranet Synerry Corporation (Thailand) Co.,Ltd. Runner Up

หมวด e-Inclusion & e-Community Applications ไม่มีบริษัทใดได้รับรางวัล

E-Learning Applications
Mixed Reality Learning Media LarnGear Technology Co.,Ltd. Winner
Mathbright System Mathbright Runner Up
English Fantasy Informatix Plus Co.,Ltd. Runner Up

E-Government Applications
iQNewsClip ThaiQuest Limited Winner
Talent Management Solution Puumsoft Co.,Ltd. Runner Up
Infopro 3D ERP System Infopro Business Solution Co.,Ltd. Runner Up

E-Finance Applications
Active Hire Purchase System KP Soft Co.,Ltd. Winner
@LAS (Land Access System) Spatial Dimension Solution Co.,Ltd. Runner Up

E-Health Applications
iPP (ไอ พี พี ) Phuket Software Factory Co.,Ltd. Winner
HOSxP Data Center Bangkok Medical Software Co.,Ltd. Runner Up
Healthcare Builder Siamcontents Team Runner Up

E-Logistics & Supply Chain Applications
ระบบบริหารทีมขายอัตโนมัติ (iSFA) ICE Solution Ltd. Winner
AdaPos MobileTM Ada Soft Co.,Ltd. Runner Up
Supply Chain Optimization Freewill FX Runner Up

Industrial Applications
Active Dealer Management System KP Soft Co.,Ltd. Winner
GILS : Giant System Design Intergrated Logistics Support Web Applications Giant System Design Co.,Ltd. Runner Up
Human Resource Collaboration Human Consulting Co.,Ltd.(Power Vision Group) Runner Up
INW Online Advance Intelligence Modernity Co.,Ltd. Runner Up
Island Escape Cyberplanet Interactive Plc. & Flipinvert Co.,Ltd. Runner Up

Media & Entertainment Applications
Netsync 3D Projection Display Xtreme Plus Co.,Ltd. Winner

Research & Development
ThaiQuest eEdition ThaiQuest Limited Winner
Artificial BudDy U Love (ABDUL) National Electronics and Computer Technology Center (NECTEC) Runner Up

Secondary Students
Destine Strategy Rayongwittayakom School Winner
Open 3D Virtual Space Studio Navamintrachinutit Triamudomsuksanomklao School Runner Up
ระบบเว็บไซต์โรงเรียนสำเร็จรูป School web maker Potisarn Pittayakorn School Runner Up

Security Applications
Network Monitoring and Alarming system Bluebox Technology Co.,Ltd. Winner
GPSafe East Innovation Co.,Ltd. Runner Up

Start-up Company
Shoppening 2 3 Perspective Co.,Ltd. Winner
RealEstate SaleKit on iPad Fire One One Runner Up
CUFaceSDK Chulalongkorn University Runner Up
Dj T4ngMoO!~ ดีเจแตงโม แตงโมพันธุ์ไทย หัวใจนักดนตรี Prince of Songkhla University Runner Up

Tourism & Hospitality Applications
SmartMango Fire One One Winner
WiKalenda.com 2 3 Perspective Co.,Ltd. Runner Up

Tertiary Students
Subtitle Mate Chulalongkorn University Winner

Agriculture Applications
Neotrace NEO Invention Ltd. Winner
“OpsSmart” FXA Company Ltd. Runner Up
SoftPro®Agronomy and Farmer Control (AFS) Soft Product Co.,Ltd. Runner Up

ทางเลือกใหม่ของประสิทธิภาพ ที่เน้นความทนทาน มาตรฐานเดียวกับทางทหาร (Military Standard)

อัสซุสมาเธอร์บอร์ด รุ่น SABERTOOTH X58 หนึ่งใน TUF Series พร้อมรองรับชิพเซ็ตล่าสุดจาก Intel รวมถึง Core i7-980X โดดเด่นด้านประสิทธิภาพและความทนทานระดับเดียวกับเซิร์ฟเวอร์และบอร์ดของคอมพิวเตอร์เมนเฟรม เพื่ออายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น เหมาะสำหรับการใช้งานหนักอย่างแท้จริง

SABERTOOTH X58 สามารถรองรับการใช้งานติดต่อกันได้ยาวนานกว่า 12 ชั่วโมง ด้วยวัสดุระบายความร้อนที่ช่วยขจัดปัญหาด้านอุณหภูมิ จากเทคโนโลยี CeraM!X Heatsink Coating ซึ่งเป็นเทคนิคพิเศษเฉพาะของอัสซุส ด้วยวิธีการใช้เซรามิคเคลือบส่วนประกอบสำคัญต่างๆ ของเมนบอร์ด เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำให้การระบายความร้อนได้ดีกว่าเมนบอร์ดทั่วไป

นอกจากนี้ โช้ค ตัวเก็บประจุ และ MOSFET ยังผ่านการทดสอบเพื่อความทนทาน ซึ่งเป็นมาตราฐานเดียวกับอุปกรณ์ที่ใช้ทางทหาร (Military Standard) โดยไม่เพียงรองรับการใช้งานและทนความร้อนได้เป็นเวลานานเท่านั้น แต่ยังทนทั้งความชื้นและสถาวะอุณหภูมิล้อมรอบได้มากกว่ามาเธอร์บอร์ดทั่วไปอีกด้วย

มาเธอร์บอร์ด SABERTOOTH X58 ยังมาพร้อมฟีเจอร์ USB 3.0 และ SATA 6GB/s ซึ่งเป็นนวัตกรรมล่าสุดเพื่อการถ่ายโอนข้อมูลความเร็วสูง ที่รอให้คุณมาร่วมทดสอบประสิทธิภาพและความทนทานของสุดยอดขุนพลมาเธอร์บอร์ดพันธุ์อึด ได้แล้ววันนี้ ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายอัสซุสทั่วประเทศ

นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิด เผยว่า หลังจากที่กระทรวงไอซีทีและสำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อร่วมกันจัดทำร่างนโยบาย บรอดแบนด์แห่งชาตินำเสนอแก่คณะกรรมการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแห่ง ชาติ (กทสช.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ให้พิจารณากำหนดเป็นนโยบายบรอดแบนด์แห่งชาติไปเมื่อวันที่ 21กรกฎาคม 2553 ที่ผ่านมา ดังนั้น เพื่อให้แผนการพัฒนาบรอดแบนด์ของประเทศเป็นไปอย่างมีทิศทางที่ชัดเจน มีความเป็นเอกภาพสอดคล้องกับเป้าหมายของการพัฒนาประเทศ และสามารถรองรับความต้องการของทุกภาคส่วนได้อย่างเหมาะสม กระทรวงฯ จึงได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการจัดทำนโยบายบรอดแบนด์แห่งชาติขึ้น โดยมีปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเป็นประธาน และมีผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ และภาคเอกชนร่วมเป็นกรรมการ

นอก จากนี้ยังได้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการภายใต้คณะกรรมการดังกล่าวขึ้นอีก 4 คณะ คือ คณะอนุกรรมการด้านการจัดทำนโยบายและการกำกับดูแลคณะอนุกรรมการด้านความต้อง การบรอดแบนด์ของผู้บริโภค คณะอนุกรรมการด้านผู้ให้บริการโครงข่ายและบริการ และคณะอนุกรรมการด้านการสื่อสารประชาสัมพันธ์ เพื่อให้การดำเนินงานด้านการจัดทำนโยบายบรอดแบนด์แห่งชาติเป็นไปอย่างมี ประสิทธิภาพ ตลอดจนมีการเสนอแผนงานในการจัดทำนโยบายบรอดแบนด์แห่งชาติที่สำคัญและจำเป็น ต่อการพัฒนาประเทศ

สำหรับ คณะอนุกรรมการทั้ง 4คณะจะมีอำนาจหน้าที่ต่างๆ กัน โดยคณะอนุกรรมการด้านการจัดทำนโยบายและการกำกับดูแล จะทำหน้าที่ศึกษา วิเคราะห์สถานภาพการพัฒนาบรอดแบนด์ของไทยในปัจจุบัน ทั้งปัจจัยการขับเคลื่อน ปัญหาอุปสรรค ต่างๆ รวมถึงศึกษา วิเคราะห์แนวทางการพัฒนานโยบายและการกำกับดูแลในประเทศต่างๆ เพื่อนำมาจัดทำเป็นนโยบายและ แนวทางการพัฒนาบรอดแบนด์ของไทย ส่วนคณะอนุกรรมการด้านความต้องการบรอดแบนด์ของผู้บริโภค จะทำหน้าที่ศึกษา วิเคราะห์ ประโยชน์จากบรอดแบนด์ เพื่อกำหนดประเภท รูปแบบการใช้งานที่มีความสำคัญและก่อให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจ สังคม รวมทั้งจัดทำแนวทางกระตุ้นการใช้งานบรอดแบนด์ของประเทศ โดยกำหนดเป็นโครงการนำร่องเพื่อผลักดันการประยุกต์ใช้งานบรอดแบนด์ของภาครัฐ อย่างเป็นรูปธรรม

ขณะ เดียวกันคณะอนุกรรมการด้านผู้ให้บริการโครงข่ายและบริการ จะทำหน้าที่ศึกษา วิเคราะห์สถานภาพการลงทุน อุปกรณ์โครงข่าย และโครงสร้างพื้นฐานทางด้านบรอดแบนด์ของประเทศไทย รวมทั้งวิเคราะห์ปัญหาอุปสรรคในการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดังกล่าว และจัดทำแบบจำลองการลงทุน พร้อมข้อเสนอแนะ รวมถึงแนวทางการลงทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศด้านบรอดแบนด์ของ ประเทศไทย สำหรับคณะอนุกรรมการด้านการสื่อสารประชาสัมพันธ์ จะทำหน้าที่วางแผนประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนและภาคธุรกิจตระหนักถึง ประโยชน์ของบรอดแบนด์ รวมทั้งทำความเข้าใจกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มที่เกี่ยวข้อง ถึงความสำคัญของบรอดแบนด์ และนโยบายรวมถึงแนวทางการพัฒนาบรอดแบนด์ของประเทศไทย

“การ สนับสนุนให้ประชาชนได้มีโอกาสเข้าถึงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารอย่าง ทั่วถึงในราคาที่เป็นธรรมผ่านเครือข่ายสื่อสารความเร็วสูงหรือบรอดแบนด์นั้น เป็นนโยบายที่กระทรวงไอซีที จะพยายามเร่งส่งเสริม และผลักดันให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว จึงได้ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ในทุกภาคส่วนให้เข้าร่วมดำเนินงานในคณะกรรมการฯ และคณะอนุกรรมการ ทั้ง 4คณะ เนื่องจากกระทรวงฯ เล็งเห็นว่าการพัฒนาบรอดแบนด์นั้นถือเป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านโทร คมนาคมของประเทศ ที่ช่วยเสริมสร้างศักยภาพของภาคธุรกิจ การค้า และอุตสาหกรรม รวมทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการของภาครัฐต่อประชาชนได้อย่างมี ศักยภาพ” นายจุติ กล่าว

2 สิงหาคม 2553 – บริษัท รับทราบจากข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ว่าคณะอนุกรรมาธิการเพื่อการศึกษาระเบียบ คำสั่งและกฎหมายที่เกี่ยวข้องด้านการสื่อสาร สารสนเทศและโทรคมนาคมฯ ได้จัดทำรายงานเรื่องการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคน ต่างด้าวของบริษัทและได้แถลงข่าวพาดพิงถึงสถานะของบริษัทฯ

บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) ขอชี้แจงว่าโดยข้อเท็จจริงแล้ว คณะอนุกรรมาธิการฯ มิได้มีอำนาจหน้าที่ ในการตัดสินเรื่องใดๆ ที่เกี่ยวกับพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวหรือการประมูล 3G อีก ทั้งโดยข้อเท็จจริงแล้ว การประกอบธุรกิจของบริษัทก็เป็นไปโดยสอดคล้องกับพระราชบัญญัติการประกอบ ธุรกิจของคนต่างด้าวทุกประการ ซึ่งในเรื่องนี้กระทรวงพาณิชย์ซึ่งเป็นองค์กรเดียวเท่านั้นที่เป็นผู้มี อำนาจหน้าที่ตามกฎหมายในการดำเนินการตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคน ต่างด้าวก็ได้ให้คำรับรองมาโดยตลอดอยู่แล้ว

อย่างไรก็ดี บริษัทจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดที่สุดโดยจะถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญและจะถือว่าการกล่าวหาบริษัทเช่นนี้เป็นเรื่องร้ายแรง โดยบริษัทจะพิจารณาดำเนินมาตรการต่างๆทางกฎหมายต่อไป

อนึ่ง เนื่องจากในระยะนี้ บริษัทยังอยู่ในช่วงที่กทช.ห้ามมิให้ผู้ประกอบการเปิดเผยข้อมูลต่างๆอัน เกี่ยวเนื่องกับการประมูล ดังนั้นจึงเป็นการยากที่บริษัทจะสามารถระงับข่าวลือต่างๆเช่นนี้ได้ทันท่วง ที บริษัทจึงใคร่ขอให้กทช.ได้โปรดเข้ามาให้ความกระจ่างในเรื่องกระบวนการตรวจ สอบคุณสมบัติผู้เข้าประมูล 3G เพราะกทช.เป็นองค์กรเหมาะสมที่สุดที่จะขจัดความพยายามต่างๆที่จะขัดขวางกระบวนการประมูล 3G.

นายธานีรัตน์ ศิริปะชะนะ รองปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยหลังเป็นประธานเปิดการประชุมชี้แจงเพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการขับเคลื่อนหน่วยงานที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ (Critical Infrastructure) ของประเทศ ว่า สืบเนื่องจาก คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ (ร่าง) พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยวิธีการแบบปลอดภัยในการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ภาย ใต้พระราชบัญญัติว่าด้วย ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔ เมื่อวันที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๕๓ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยและประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมาย โดย (ร่าง) พระราชกฤษฎีกาดังกล่าวได้กำหนดให้มีการจัดลำดับวิธีการแบบปลอดภัยไว้ 3 ระดับ คือ ระดับเคร่งครัด ระดับกลาง และระดับพื้นฐาน พร้อมทั้งกำหนดให้ใช้วิธีการแบบปลอดภัยทั้ง 3 ระดับสำหรับการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงหรือ ความสงบเรียบร้อยของประเทศ หรือต่อสาธารณชน และธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ของหน่วยงานหรือองค์กร หรือส่วนงานของหน่วยงานหรือองค์กรที่ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของประเทศ

นอก จากนี้ ด้วยเหตุการณ์ความไม่สงบต่างๆ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน และผลกระทบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ทำให้เห็นว่าหลายหน่วยงานยังขาดความพร้อมต่อการรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น สถานที่ทำงานสำรอง ระบบสำรอง และสิ่งสนับสนุนต่างๆ ที่จำเป็น ซึ่งหากเกิดวิกฤตการณ์ขึ้นอาจส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อชีวิต ทรัพย์สิน และระบบเศรษฐกิจของประเทศได้

“ดัง นั้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้หน่วยงานต่างๆ ตระหนักถึงความสำคัญของการดำเนินงานที่สอดคล้องกับข้อกำหนดของ (ร่าง) พระราชกฤษฎีกาฯ และกระตุ้นให้หน่วยงานเห็นความสำคัญของการเตรียมพร้อมต่อการรับมือกับ สถานการณ์ฉุกเฉินในรูปแบบต่างๆ เช่น ภัยธรรมชาติ การก่อการร้ายและการก่อวินาศกรรมต่างๆ และเกิดการบริหารจัดการอย่างมีบูรณาการและมีเอกภาพ สำนักธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ สำนักงานปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ จึงได้ร่วมกับคณะอนุกรรมการความมั่นคงปลอดภัย ภายใต้คณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ จัดการประชุมชี้แจงเพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการขับเคลื่อนกลุ่มหน่วยงานที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของประเทศ (Critical Infrastructure) ขึ้น โดย มีวัตถุประสงค์เพื่อให้หน่วยงานต่างๆ ได้ทบทวนบทบาทหน้าที่ขององค์กรในฐานะที่เป็นหน่วยงานโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ ของประเทศ และผลักดันให้มีการจัดกลุ่มหน่วยงานดังกล่าวอย่างจริงจัง รวมถึงให้มีการวางแนวทางการจัดตั้งหน่วยงานที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการ ประสานงานด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง

โดย ได้เชิญหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่มีความสำคัญและจำเป็นต่อโครงสร้างพื้น ฐานของประเทศ ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก รวมทั้งองค์กรภาครัฐและภาคเอกชนที่จะได้รับประโยชน์จากการจัดกลุ่มโครงสร้าง พื้นฐานของประเทศ ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายรอง มาร่วมรับฟังการอภิปราย ให้ความรู้ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อให้หน่วยงานต่างๆ เหล่านั้นสามารถปฏิบัติตาม (ร่าง) พระราชกฤษฎีกาดังกล่าวได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม” นายธานีรัตน์ กล่าว

สำหรับการประชุมชี้แจงฯ นี้จะจัดทั้งหมด 5 วัน โดยวันแรกจัดขึ้นในวันที่ 2 กันยายน 2553 เพื่อชี้แจงความเข้าใจในภาพรวม ส่วนการประชุมวันที่ 2 – 5 จะจัดขึ้นในวันที่ 9 / 15 / 23 และ 28 กันยายน 2553 เพื่อประชุมกลุ่มย่อยสำหรับหน่วยงานที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของประเทศ จำนวน 8 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มเกษตรกรรม อาหาร น้ำ ยา และสาธารณสุข 2.กลุ่มไฟฟ้า พลังงานอุตสาหกรรม และทรัพยากร ธรรมชาติ 3.กลุ่มความมั่นคงของประเทศ 4.กลุ่มความสงบสุขของสังคม 5.กลุ่มสื่อสาร โทรคมนาคม ขนส่ง และสื่อสารมวลชน 6.กลุ่มข้อมูลสารสนเทศ และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ 7.กลุ่มการเงิน การคลัง การธนาคาร การประกันภัย และหลักทรัพย์ 8.กลุ่มองค์กรภาครัฐ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล

โนเกียท้าเซียนเกมส์ร่วมชิงชัยเพื่อเป็นเจ้าแห่งเกมส์กับ 5 เกมส์สุดมันส์บนมือถือโนเกียในแคมเปญ Masters of Games ลุ้นชิงรางวัลโทรศัพท์มือถือโนเกีย XpressMusic สุดฮิปทุกสัปดาห์ ตั้งแต่วันนี้จนถึง20 กันยายน ศกนี้

เซียนเกมส์สามารถเลือกประลอง 5 เกมส์สุดมันส์จาก Breakdesign ได้แก่ Ninjani Touch: The Emperors Revenge แปลงกายเป็นนินจาเพื่อชิงเจ้าหญิงออกมาให้ได้! 10 PM เกมส์หลอนที่คุณต้องเล่นหลัง 4 ทุ่มเท่านั้น! Monsterilla สนุกกับสีสันของเหล่าสัตว์ประหลาด That Roach Game: South Africa แก้แค้นเหล่าแมลงสาบที่คอยไต่ยั้วเยี้ยในบ้าน กับบรรยากาศจากดินแดนอินเทรนด์อาฟริกาใต้ และ Horseface ฝึกประสาทการรับรู้กับพระเอกหน้าเหมือนม้า และคู่หูหมาฟันยื่น โดยสามารถดาวน์โหลดได้ฟรีจาก Ovi Store ซึ่งสามารถสนุกสุดมันส์บนมือถือโนเกียหลากหลายรุ่น ได้แก่ Nokia N97, Nokia N97 mini, Nokia 5230, Nokia 5233, Nokia 5530 XpressMusic, Nokia 5800 XpressMusic, Nokia X6 และ Nokia C6

สำหรับกติกาการตัดสินนั้นแบ่งเป็น 2 ประเภทด้วยกัน ได้แก่ ผู้ชนะที่ได้คะแนนมากที่สุดในแต่ละเกมส์จะได้รับรางวัลเป็นโทรศัพท์มือถือ Nokia 5530 XpressMusic หลังสิ้นสุดกิจกรรม และผู้ส่งคะแนนบ่อยครั้งที่สุดในแต่ละสัปดาห์ จะได้รับรางวัลเป็นโทรศัพท์มือถือ Nokia 5130 XpressMusic 1 เครื่อง ต่อ 1 สัปดาห์

เซียนเกมส์สามารถดาวน์โหลดเกมส์บนมือถือโนเกียได้ฟรีที่ Ovi Store รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่ www.nokia.co.th/play